ท่าทีของแมนดี้ทำให้นอร์ตันหงุดหงิดเขาได้รับคำยกย่องและทุกคนเชื่อฟังเขามาเสมอ ตระกูลเยตส์จากอมเริกาเป็นเหมือนราชาของรัฐเท็กซัสเมื่อไหร่ที่พวกเขาทำธุรกิจในต่างประเทศ จะทำอะไรกับตระกูลเยตส์อย่าประมาทและอวดดีเพราะพวกเขามีพวกอยู่ในอเมริกาคอยสนับสนุนนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าปฏิเสธเขา นั่นทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขายกยิ้มเยาะ “แมนดี้ มีบางสิ่งที่คุณไม่สามารถกำหนดและควบคุมได้ด้วยคำพูดตัดสินใจของคุณเพียงอย่างเดียว!“ตอนนี้เธอมีเลือดตระกูลเยตส์อยู่ครึ่งหนึ่ง เธอก็เป็นแค่คนรับใช้ในสายตาของเรา!”“คนรับใช้มีสิทธิ์ขัดคำสั่งของเจ้านายงั้นเหรอ?!”แมนดี้มีสีหน้าไม่เข้าใจ เธอถามว่านอร์ตันออกไปว่า “มิสเตอร์นอร์ตัน ในสังคมสมัยใหม่และโลกศิวิไลซ์แบบนี้ ทัศนคติของคุณยังติดอยู่ในยุคศักดินาอีกงั้นเหรอ?”“เจ้านาย? คนรับใช้? นี่มุกตลกหรือเปล่าคะ?”“หุ้นของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์เป็นของขวัญจากคนที่มีอำนาจ แม้ว่าฉันอยากจะโอนหุ้นให้ ฉันคงทำได้แค่โอนคืนให้กับคนที่มีอำนาจคนนั้นเท่านั้น ไม่ใช่ตระกูลเยตส์แน่นอน!”นอร์ตันหรี่ตาลงเหมือนหมาป่า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการแววตาอันเยือกเย็น“เอาล่ะ นี่เป็นครั้
เมื่อเห็นว่าแมนดี้ยังคงดื้อรั้น ทุกคนในตระกูลเยตส์รู้สึกตื่นเต้นและพึงพอใจนั่นเป็นเพราะว่ายิ่งแมนดี้ดื้อรั้นมากเท่าไหร่ สถานการณ์ของเธอก็จะยิ่งแย่ลงมากเท่านั้น!ในขณะนั้นพวกตระกูลเยตส์ก็อดไม่ได้ที่เติมเชื้อไฟ“มิสเตอร์นอร์ตัน แมนดี้มักไม่เคยให้ความเคารพผู้อาวุโสกว่า ตระกูลเยตส์ในบัควู้ดก็ยังไม่เว้น เธอจะไม่สนใจด้วยซ้ำหรอกว่าจะเป็นคุณ ตระกูลเยตส์ที่น่าเคารพนับถือจากอเมริกา!”“ใช่! คนอย่างเธอต้องได้บทเรียน!”“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับคนอย่างเธออีกต่อไปแล้ว จัดการเธอจนใบหน้าสวย ๆ ของเธอเสียโฉมให้เธอหวาดกลัว!”ทุกคนในตระกูลเยตส์ทำท่าทางและพูดอย่างไร้ความปราณีเหมือนพวกอันธพาลถ้าไม่ใช่เพราะนอร์ตันยืนอยู่ตรงนี้ พวกเขาคงเข้าไปจัดการให้ตายคามือไปแล้วนอร์ตันยกมือขวาขึ้นเพื่อสั่งพวกตระกูลเยตส์ให้หยุดพูดจากนั้นสายตาที่เย็นชาของเขาจับจ้องไปที่แมนดี้ ความโกรธอัดแน่นผ่านน้ำเสียงอันเยือกเย็นของเขา“แมนดี้ ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอยินดีที่จะโอนหุ้นของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ไปยังตระกูลเยตส์หรือเปล่า?!”แมนดี้มีความเข้มข็งและหนักแน่นในคำพูดของเธอ เธอกัดฟันพูดออกไป “ไม่!”“พวกเขาไม่ได้
น้ำลายสอ!นอร์ตันเลียริมฝีปากของเขาด้วยลิ้นพลางจ้องมองไปที่รอบเอวที่เพรียวบางของแมนดี้สำหรับเขาแล้วแมนดี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคืออาหารชั้นเลิศถ้าได้ลิ้มลองคงอร่อยถูกปากเขารู้สึกตื่นเต้นมากถ้าเขาเริ่มจากเอวของเธอนอร์ตันตื่นเต้นมากจนแทบจะทนรอไม่ไหว จินตนาการไปถึงแมนดี้ดิ้นบนพื้นและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดเมื่อมองดูท่าทางของนอร์ตัน แมนดี้ก็หลับตาลงอย่างสิ้นหวังเธอไม่คิดว่าจะมีใครสามารถช่วยเธอได้ตู้ม!ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้จู่ ๆ ก็มีคนมาเตะประตูบ้านของตระกูลเยตส์ประตูยักษ์ถูกทุบลงกับพื้นจนเกิดเสียงดังทุกคนในที่นั่นอดไม่ได้ที่จะหันไปตามต้นเสียงทุกคนเริ่มสั่นเทา นอร์ตันขมวดคิ้วเข้าหากัน มีคนขัดจังหวะเขาในจังหวะที่เขากำลังจะเพลิดเพลินกับแมนดี้ตรงหน้า มันทำให้เขาไม่พอใจผ่านไปครู่หนึ่งร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นและค่อย ๆ เดินเข้ามา บรรยากาศรอบ ๆ ดูอึมครึมแม้ว่าเขาจะสวมแค่เสื้อผ้าธรรมดา ๆ“อะไรนะ? ฮาร์วีย์ ยอร์กงั้นเหรอ?!”เบ็นพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะปรากฏตัวในเวลาแบบนี้ถ้าพูดตามเหตุผล ลูกเขยกาฝากอย่างเขาควรจะต้องตัวสั่นกลัวมันจะสมเหตุสมผลมากกว่
นอร์ตันตัวสั่นเมื่อได้สบสายตาอันเย็นชาของฮาร์วีย์แต่เขากลับแสดงท่าทีโกรธและตะโกนออกไปนว่า “จัดการมันซะ!”ตามคำสั่งของนอร์ตัน พวกบอดี้การ์ดผมสีบลอนด์ดวงตาสีฟ้าสี่คนที่กำลังจับแมนดี้ไว้เดินพุ่งตรงไปที่ฮาร์วีย์ยืนอยู่พวกเขาบิดคอ หักข้อนิ้วจนได้ยินเสียงกระดูก“ที่รัก หลับตาลงหน่อยสิ ผมจะจัดการกับเรื่องนี้เอง”ฮาร์วีย์บอกแมนดี้ให้หลับตาลงเพราะกลัวว่าเธอจะตกใจ“ฮ่า!”บอดี้การ์ดแสยะยิ้ม พร้อมปล่อยหมัดใส่ใบหน้าของฮาร์วีย์ทันทีแต่ฮาร์วีย์ไม่แม้แต่ขยับแม้แต่ปลายนิ้ว เขายกมือขวาขึ้น คว้าหมัดของคู่ต่อสู้แล้วเหวี่ยงลงกับพื้นจนพวกบอดี้การ์ดนอนดิ้นอยู่บนพื้นจากนั้นฮาร์วีย์ก็เหยียบลงบนใบหน้าของพวกมันและกระทืบบดขยี้จนจำหน้าไม่ได้พวกบอดี้การ์ดที่เหลืออีกสามคนเกิดอาการกลัวจนฉายชัดบนใบหน้า แต่ก็วิ่งเข้าใส่ฮาร์วีย์พร้อม ๆ กันฮาร์วีย์เตะพวกมันทีละคน จนพวกบอดี้การ์ดที่ดูมีพละกำลังทั้งสามคนล้มลงกับพื้นในทันที“อะไรกัน?!”“ลูกเขยอย่างแกเก่งในเรื่องการต่อสู้งั้นเหรอ?”ทุกคนในตระกูลเยตส์ซึ่งเดิมทีมีรอยยิ้มบนใบหน้าต่างก็ตกใจจนหน้าซีดฮาร์วีย์ทำได้อย่างไร?ไม่มีทางเป็นไปได้!แต่เมื่อนึกไปถึง
เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ทุกสายตากระตุกสั่นไหวระริกและถอยห่างออกไปโดยไม่รู้ตัวไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อห้ามฮาร์วีย์ผัวะ!ฮาร์วีย์ยังคงใช้ไม้เท้าฟาดเข้าที่ร่างของนอร์ตันเสื้อผ้าของนอร์ตันขาดวิ่น ทิ้งรอยคราบเลือดเห็นบาดแผลฉกรรจ์ที่มองเห็นกระดูกตามร่างกายของเขานอร์ตันตอนนี้ลงไปนอนเกลือกกลิ้งไปมาบนพื้นและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดผัวะ ผัวะ ผัวะ!ฮาร์วีย์ไม่คิดจะหยุด เขายังคงฟาดเข้าใส่ร่างของนอร์ตันอย่างต่อเนื่องจนเมื่อไม้เท้านั้นหัก เมื่อนั้นเองที่ฮาร์วีย์ยอมหยุดนอร์ตันที่นอนนี้นอนดิ้นอยู่บนพื้นไม่มีแรงแม้จะกรีดร้องเขาไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้ว สิ่งที่ยืนยันว่ายังหายใจก็คงเป็นร่างของเขาที่กระตุกอยู่เบา ๆ แม้ว่าตอนนี้เขาจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล มันก็ยากที่จะบอกว่าเขาจะได้รับการช่วยเหลืออย่างทันเวลา“ที่รัก กลับบ้านกันเถอะ”ฮาร์วีย์จับมือแมนดี้ที่กำลังหวาดกลัวและออกจากบ้านของตระกูลเยตส์ออกไปเขาไม่ได้พูดอะไรกับพวกตระกูลเยตส์เลยสักคำสำหรับพวกตระกูลเยตส์ ไม่มีใครที่จะกล้าเอ่ยคำใด และไม่คิดจะหยุดฮาร์วีย์ ทุกคนได้เพียงแค่ยืมมองตัวสั่นสะท้านตลอดเวลาคุณย่าเยตส์พูด
แววตาของคนในตระกูลเยตส์เต็มไปด้วยความเลื่อมใสเมื่อได้ยินคำพูดของเบ็นคุณย่าเยตส์ยังพูดอีกว่า “เบ็น จากที่เธอพูดหมายความว่านายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์จากอเมริกาสามารถกำจัดฮาร์วีย์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังคนจากภายนอกใช่ไหม?”“แน่นอนครับ นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์จากอเมริกาสามารถบดขยี้ฮาร์วีย์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้ทักษะต่อสู้ หรืออำนาจอะไร!”“ฮาร์วีย์จะต้องพังพินาศ ตราบใดที่นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์จากเมริกามาที่นี่!”“ฉันไม่เชื่อว่าแมนดี้จะยังกล้าที่จะดื้อรั้น ถ้าหมดฮาร์วีย์ไปสักคน และในที่สุดรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ก็ตกมาอยู่ในมือของตระกูลเยตส์!”พวกตระกูลเยตส์ต่างชำเลืองมองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาคนที่จะได้ประโยชน์ในที่สุดก็คือพวกเขา ตราบใดที่เรื่องนี้ได้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้วคุณย่าเยตส์ครุ่นคิดอยู่นานและพูดว่า “เบ็น มีวิธีไหนบ้างที่จะให้นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์จากเมริกามาโดยเร็ว? ฉันรอไม่ไหวแล้ว”“มีครับ!” เบนยิ้ม “ถ้านอร์ตันถูกทำร้ายหรือตาย ตระกูลเยตส์จากเมริกาจะไม่นิ่งนอนใจแน่!”พวกตระกูลเยตส์ต่างมองหน้ากันหลังจากได้ยินคำพูดของเ
เมื่อพิจารณาจากคำพูดนี้ ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่านายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์น่ากลัวแค่ไหนเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าอเมริกาเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศเสรีอัตราการถือครองอาวุธปืนสูงมากภายในประเทศนี้ ผู้คนทะเลาะกันทุกวี่ทุกวันจากปัญหาต่าง ๆนายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์สร้างชื่อเสียงมหาศาลให้กับตัวเอง ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะอธิบายได้ว่าเขาน่ากลัวเพียงใดเขาไม่ได้ชื่อเสียงนี้ด้วยความบังเอิญทั้งหมดนี้เป็นเพราะวิธีในการต่อสู้ของเขาว่ากันว่าแชมป์มวยสองคนของเท็กซัสไม่สามารถสู้ทักษะ “กด เปลี่ยน ปล่อย” และพ่ายแพ้ไปในที่สุดแต่ถึงอย่างนั้น นายใหญ่ลำดับที่สามของตระกูลเยตส์ก็ได้หยุดการขึ้นชกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาเพียงแค่ฝึกฝนตนเองมากกว่าที่จะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แน่นอนว่าอเมริกาไม่ต้องการให้เขาทำอะไรไปมากกว่านี้ นั่นเพราะพวกเขาแข็งแกร่งอยู่แล้วทั้งอำนาจและทรัพย์สมบัติเมื่อเห็นเขานั่งลง พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขารีบเดินเข้าไปและพูดว่า “นายใหญ่ที่สาม เครื่องบินส่วนตัวที่ไปยังประเทศ H พร้อมแล้ว เราสามารถออกเดินทางได้เลย”นายใหญ่คนนั้นเพียงยกชาขึ้นจิบและพูดอย่างไม่สนใจว่า “ฉันได้ยินมาว่
ตระกูลซาเวียร์ในเซ็นทรัลเพลนส์ รู้ดีว่าตระกูลเยตส์ในอเมริกามีอิทธิพลเป็นอย่างมากในอเมริกา ไม่เพียงแค่ทรัพย์สินที่มีอยู่กระจายไปทั่วโลก แต่สมาชิกในตระกูลยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนายใหญ่ทั้งสี่ของตระกูลเยตส์ในอเมริกามีตำแหน่งสำคัญในอเมริกาแม้ว่านายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์จะอยู่ในอันดับสุดท้ายในบรรดาสี่นายใหญ่ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปเป็นได้แม้ว่าอีวอนน์จะรู้ว่าท่านประธานของเธอเองก็มีอำนาจ แต่เธอก็ยังกังวล“นายใหญ่ที่สามจากตระกูลเยตส์เป็นคนที่เอาชนะแชมป์มวยเท็กซัสด้วยวิชากังฟูคนนั้นใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ ถามด้วยรอยยิ้มมีคลิปวิดีโอที่เป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ตเมื่อปีที่แล้วในวิดีโอชายชราเฒ่าที่กระฉับกระเฉงได้ขึ้นชกกับแชมป์มวยร่างใหญ่และจบลงด้วยกระอักออกมาเป็นเลือดในเวลานั้นฮาร์วีย์คิดว่ามันเป็นพละกำลังที่สุดยอดที่สุดเขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้พบกับคน ๆ นั้นอีวอนน์พูดอย่างเป็นกังวลว่า “ท่านประธาน คุณต้องไม่หลงกับกับข่าวในอินเทอร์เน็ต”“จากสิ่งที่ฉันเคยได้ยินมา กังฟูของนายใหญ่ท่านนี้เป็นเรื่องจริง ว่ากันว่าเขาฝึกฝนมาจากนักบวชเฒ่าตั้งแต่เขายังเด็ก”“มันแตกต่างกับกังฟู
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข