ใบหน้าของคาร์สัน คลาวด์กลับมามีสีสันอีกครั้งหลังจากได้ยินคำพูดของคุณย่าเยตส์คัลลัมส่งยิ้มให้“คุณย่าเยตส์ พรุ่งนี้คุณมีแผนอะไรหรือเปล่า?”คุณย่าเยตส์ตอบว่า “พิธีผลัดเปลี่ยนกองกำลังพรุ่งนี้จะจัดขึ้นที่ห้องโถงของรัฐบาลเซาท์ไลท์ นอกจากเบลลามี่ เบลค ผู้บัญชาการสูงสุดคนใหม่แล้ว ออสการ์ อาร์สตรองและหัวหน้าผู้ฝึกสอนของเซาท์ไลท์จะเข้าร่วมในพิธีด้วยเช่นกัน”“พรุ่งนี้คีธจะจัดที่นั่งให้ทุกคน เมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่าพวกคุณจะได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนหรือไม่ก็ตามขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกคุณ”คำพูดนี้ทำให้คัลลัมและคาร์สันกระชุ่มกระชวยเบิกบานใจพวกเขารู้เรื่องคนในตำนานอย่างหัวหน้าผู้ฝึกสอนดีพวกเขาสอบถามข้อมูลจากคนในกองทัพเพื่อทำความเข้าใจสถานะของหัวหน้าผู้ฝึกสอนหากพวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อพบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอน ตระกูลร็อบบินส์ ตระกูลคลาวด์ และตระกูลเยตส์จะไม่ต้องพึ่งพาใครอีกต่อไป“ฮึ่ม! เมื่อถึงเวลานั้นพวกยอร์กและลีโอจะอยู่ใต้เท้าของพวกเรา!”พวกเขาแทบจะอดทนรอถึงวันพรุ่งนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว…ในคฤหาสน์อันเงียบสงบเบื้องหลังถภูเขาซิลเวอร์นิมบัสควินตันและสตีเฟ่นนั่งตั้งหน้าต
ช่วงเวลาเก้าโมงเช้าฮาร์วีย์สวมชุดที่ค่อนข้างเป็นทางการ แล้วปลุกแมนดี้กับคนอื่น ๆ“คุณพ่อคุณแม่ครับ แมนดี้ วันนี้สวมชุดที่ดูเป็นทางการนะครับ ผมจะพาไปพักผ่อน”แมนดี้และคนอื่น ๆ ต่างไม่เข้าใจ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ต้องไปทำงาน และไม่มีที่ ๆ จะให้ไปในเมื่อฮาร์วีย์พูดแบบนี้ พวกเขาก็เปลี่ยนเป็นชุดทางการและขึ้นรถโดยไม่ถามอะไรอีกฮาร์วีย์ขับรถไปยังเขตเมืองใหม่ของบัควู้ดแมนดี้ไม่ได้เอะใจอะไร เขตเมืองใหม่ของบัควู้ดเป็นพื้นที่ที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยเริ่มมีหน่วยงานภาครัฐเปิดบริการอยู่ที่นั่น และยังมีศูนย์การค้าหลายแห่งเธอคิดว่าฮาร์วีย์คงจะพาเธอไปช้อปปิ้งและพักผ่อนผ่านไปสักพักแมนดี้รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติเธอเห็นทหารพร้อมอาวุธปืนยืนประจำตามทางแยกต่าง ๆแถมยังมีรถหรูขับผ่านไปมา ทั้งยังมีรถบักกี้สนามรบสีเขียวขนาดใหญ่ทุกคนต่างขับรถไปในทิศทางเดียวกัน“หรือจะมีงานใหญ่?”แมนดี้สงสัยอยากรู้“ที่รัก เราจะไปไหนกัน?”ฮาร์วีย์ยิ้ม“ไปร่วมงาน ผมได้ยินมาว่าบุคคลสำคัญในบัควู้ดหลายท่านจะเข้าร่วมงานนี้ด้วย เราไปเดินเล่นและพักผ่อนกันที่นั่น บางทีคุณอาจจะได้เจอกับบุคคลสำคัญที่พอจะเป็นประโยช
“หืม? พวกเธอเองเหรอ? ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”ได้ยินเสียงหนึ่งที่ดูมีความประหลาดใจจากด้านข้างแมนดี้และครอบครัวของเธอหันไปมองและเห็นวพกตระกูลเยตส์กำลังเดินเข้ามาใกล้พวกเขาคีธไม่ได้อยู่ ณ ตรงนี้ด้วย แต่คนที่เป็นผู้นำในกลุ่มนั้นคือคุณย่าเยตส์นั่นเองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ผมสีน้ำตาล เธอคือ ฟีบี เยตส์เธอเรียนที่อเมริกาและเพิ่งกลับมาเมื่อสองวันก่อน พวกเยตส์ไปรับเธอทันทีหลังจากลงจากเครื่องบินในช่วงเช้าตรู่ฟีบีสวย ริมฝีปากบางและดวงตาทาด้วยโทนสีสโมคกี้ทำให้เธอดูเคร่งขรึมฟีบียิ้มและพูด“ใช่แมนดี้ ซิมเมอร์ใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าทั้งครอบครัวของเธอโดนคุณย่าเยตส์ไล่ออกไปแล้ว! กล้าดียังไงมาในที่แบบนี้?”“ที่นี่คือที่ที่พวกหมาจรจัดอย่างพวกเธอมาได้งั้นเหรอ?”พวกเยตส์ต่างพากันหัวเราะเยาะกับคำพูดของฟีบีมันเป็นความจริง ทำไมพวกหมาจรจัดถึงมาปรากฏตัวในงานแบบนี้?วันนี้เป็นพิธีผลัดเปลี่ยนกำลังพล คนที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาไม่ได้และตามสิ่งที่คีธบอกไว้ บัตรเชิญไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้รับข่าวลือยังแพร่กระขายออกมาว่าแม้แต่ตระกูลลีโอจากฮ่องกงก็ยังได้รับบัตรเชิญเพียงสามใบ
คัลลัม ร็อบบินส์มองไปที่ฮาร์วีย์ จากนั้นก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง“ผมอยากพบคุณมาตลอด ชื่อของคุณก้องอยู่ในหูของผมอยู่ตลอดเวลา!”อีกด้านหนึ่งคาร์สัน คลาวด์จ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความโกรธแววตาเยือกเย็นแขนขาของเอริค คลาวด์ แตกหักเป็นเสี่ยง ๆ แม้ว่าเขาจะไม่ตายแต่ตอนนี้เขายังอยู่ในอาการโคม่าและนั่นเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้เพียงว่าฮาร์วีย์จะต้องมีคนคอยหนุนหลังอยู่แน่นอน เพราะเขาสามารถหลบหนีออกไปได้และเขาคิดว่าคงเป็นใครไปไม่ได้นอก นอกเสียจากเจ้าชายยอร์กอย่างแน่นอนถ้าเป็นก่อนหน้านี้ คาร์สันอาจจะยังคงเกรงกลัวเจ้าชายยอร์ก แต่วันนี้แตกต่างออกไปด้วยการเตรียมการของคีธ พวกเขาจะได้พบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนถ้าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าผู้ฝึกสอน แล้วทำไมพวกเขาถึงจะยังต้องกลัวเจ้าชายยอร์ก?ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!คุณย่าเยตส์ยิ้มและพูดว่า “ท่านผู้เฒ่า! ดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะพาครอบครัวของเขามาร่วมพิธีผลัดเปลี่ยนกำลังด้วยเช่นกัน!”คัลลัมและคาร์สันอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้หลังจากฟังคุณยายเยตส์พูด“ลูกเขยกาฝากที่ถูกไล่ออกจากตระกูลยังมีสิทธิ์อะไรมางานแบบนี้?”“ฮึ่ม!”คัลลัมและคาร์สันหัว
หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ สีหน้าของไซม่อนก็หมดสิ้นหนทางกว่าเดิมตอนแรกเขาคิดว่าลูกเขยของเขาที่เป็นคนขับรถของเจ้าชายยอร์กคงจะได้โอกาสดี ๆ แต่เจ้านายของเขากลับไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมางานในวันนี้ ดูเหมือนว่าเจ้านายของฮาร์วีย์คงจะไม่สำคัญอีกต่อไป!ไซม่อนไม่อยากจะถามรายละเอียดเขาถอนหายใจ “ในฐานะคนขับรถ แกมีคงมีความสามารถ แต่ฉันรู้สึกได้ว่าผู้เฒ่าทั้งสามแทบรอไม่ไหวที่จะบีบคอแกให้ตาย!”“แกทำมันได้ยังไง? แกทำให้คนพวกนั้นขุ่นเคืองได้ยังไง คิดว่าเพราะตัวเองเป็นคนขับรถเจ้าชายยอร์กงั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดว่า “พ่อครับ พวกเขาก็เป็นแค่ขยะ ทำไมคุณพ่อถึงต้องสนใจพวกเขาด้วย พวกเขาจะต้องยอมมาคุกเข่าทันทีเมื่อได้พบกับเจ้าชายยอร์ก ผมรับรองได้เลยว่าพวกเขาเป็นได้แค่ขยะ”ไซม่อนคิดว่าครั้งนี้ฮาร์วีย์ไม่ได้โม้โอ้อวด เขาถอนหายใจ “ฉันหวังว่าเจ้าชายยอร์กจะมีความสามารถอย่างที่แกพูด ไม่อย่างนั้นเราคงเดือดร้อนแน่”ลิเลียนเพิ่งได้สติจากอาการตกใจ เธอเปลี่ยนเรื่องและถามว่า “ฮาร์วีย์ แกพาพวกเราเข้าไปข้างในได้ไหม? เข้าร่วมไอที่พวกเขาเรียกว่าพิธีเปลี่ยนกองกำลัง”แมนดี้มองฮาร์วีย์ด้วยความสงสัย เขาจะพาเข้าไ
ภายในบริเวณสนามแขกทุกคนนั่งอยู่ที่นั่นเชลดอน ซาเวียร์, ไคล์ ควินแลน, ออสการ์ อาร์มสตรอง และคนอื่น ๆ นั่งแถวหน้าข้าง ๆ เชลดอนคือคริส ลีโอ เจ้าชายแห่งตระกูลลีโอจากฮ่องกง ถัดมาคืออีวอนน์ ซาเวียร์ตามมาด้วยตระกูลชั้นหนึ่งอย่างตระกูลเยตส์ ตระกูลร็อบบินส์ และตระกูลคลาวด์ผู้บัญชาการสูงสุดของกระทรวงต่าง ๆ ในเซาท์ไลท์ก็มาด้วยผู้บัญชาการสูงสุดและรองผู้บัญชาการของบัควู้ดอย่างโยเอล เกรฮัมและเรน แจ็กสัน และคนอื่น ๆ ก็เข้าร่วมด้วยเจสซี เทตก็มาพร้อมกับใบหน้าที่บ่งบอกถึงความให้เกียรติอย่างสูงสุดคนเหล่านั้นต่างก็นั่งต่างลำดับเหลือเพียงหกที่นั่งที่ว่างอยู่ในแถวแรกทุกคนเข้าใจว่าที่ตรงนั้นเว้นไว้สำหรับใครก็เพื่อ ผู้บัญชาการเบลลามี่ เบลค ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเซาท์ไลท์ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ สี่ที่นั่งที่เหลือจะเป็นของหัวหน้าผู้ฝึกสอนและสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์คนเหล่านี้สามารถปลุกพลังอำนาจแห่งเซาท์ไลท์ได้ แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะปรากฏไปที่ใดก็ตามไม่ต้องพูดถึงบุคคลที่เป็นตำนานของกองทัพอย่างหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานที่กำลังจะมาที่นี่ในงานวันนี้ทุกคนต่างตื่นเต้นหัวหน้าผ
เบลลามี่ไม่ได้นั่งลงโดยทันที เขากลับยืนอยู่ที่ด้านข้างของทางเข้าเพื่อรอใครบางคนครู่ต่อมาบุคคลสำคัญสี่คนในชุดทหารเดินเข้ามาคนที่เดินนำเข้ามาคือ อีธาน ฮันท์ นักรบดาบยาว หัวหน้าของสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ ตามมาด้วย นักรบดาบวิเศษ นักรบดาบสั้น และนักรบดาบฟัลชิออนสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์อยู่ที่นี่แล้ว กล่นอายรัศมีที่น่ากลัวของพวกเขาแผ่กระจายไปทั่ว แม้แต่เบลลามี่ก็สู้มันไม่ได้แม้แต่คนอย่างเชลดอนก็ยังรู้สึกว่าอะดรีนาลีนของเขาสูบฉีดรวดเร็วเมื่อได้เห็นสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ทหารเซาท์ไลท์แนวหน้าที่ต่อสู้อย่างดุเดือดกับประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมาหลายปีอย่างไม่หยุดยั้งจึงกล่าวได้ว่าสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ผ่านการต่อสู้กับทหารหลายพันคนอย่างไรก็ตาม ในบรรดาสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ อีธาน ฮันท์ นักรบดาบยาวนั้นมีชื่อเสียงมากที่สุดเทพสงครามอีกสามคนนั่งอยู่ที่นี่แล้ว พวกเขาไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ก็ไม่ได้เข้าไปนั่งทันทีเช่นเดียวกัน พวกเขาเพียงพยักหน้าไปทางเบลลามี่แทน จากนั้นพวกเขาก็เข้าแถวสองแถวและยืนรอ
ในอีกทางหนึ่งคริสก้มหน้าลง แต่ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเขาหันไปมองใบหน้าที่สวยงามและมีเสน่ห์ของอีวอนน์ เขาจินตนาการถึงวันที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนร่วมเป็นพยานในงานแต่งงานของพวกเขา!นั่นคงจะเป็นช่วงเวลาที่งดงามที่สุดในชีวิตของเขาไม่เพียงแต่เขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้า แต่เขายังสามารถทำความรู้จักกับผู้สูงศักดิ์ที่มีสถานะสูงสุดในประเทศ H !ในเวลานี้ คริสรู้สึกว่าเขาก้าวมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว!***ตระกูลร็อบบินส์ และตระกูลคลาวด์ต่างตื่นเต้นไม่แพ้กันวันนี้พวกเขามีโอกาสที่จะได้พบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นการส่วนตัวตามข้อตกลงของคีธหากพวกเขาคว้าโอกาสนั้นนี้ได้ พวกเขาอยากจะติดตามหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อเป็นลูกน้องของเขาคัลลัมและไคล์ต่างก็ตื่นเต้นอบอวลไปด้วยความสุข พวกเขารอคอยช่วงเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อในที่สุดฮาร์วีย์ก็มาถึงที่นั่งที่เตรียมไว้สำหรับเขาโดยเฉพาะภายใต้การคุ้มกันของเทพสงครามทั้งสี่ไม่มีใครเห็นใบหน้าของเขาได้เลยทุกคนมองเห็นแต่แผ่นหลังของเขาเท่านั้นแต่ทุกคนก็เบิกบานใจเพียงแค่ได้เก็นแผ่นหลังของเขาใครบางคนจากตระกูลเยตส์ก็หัวเราะและกระซิบว่า “ทุกคน
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข