"ภรรยาของคุณ ภรรยาของคุณครับ ... " ไวแอตต์พูดพร้อมกับกัดฟันแน่น"เด็กดี!” ฮาร์วีย์ย่อตัวลงครึ่งหนึ่งแล้วตบแก้มของไวแอตต์เบา ๆ “ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าคุณสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการเป็นผู้ชายถูกเลี้ยงดูด้วยหญิง การคุกเข่าลงต่อหน้าคนชั่วร้ายอย่างผม คุณจะตกต่ำยิ่งกว่าคนชั่วร้ายซะอีก!”หลังจากจบประโยคฮาร์วีย์ขี้เกียจเกินกว่าจะยุ่งวุ่นวายกับไวแอตต์ เขาหันกลับมาและเดินจากไป เขายังต้องไปซื้อโทรศัพท์มือถือเขาจะเสียเวลาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?อีวอนน์จ้องมองลูอิสอย่างดุเดือดและเดินตามฮาร์วีย์ไปอย่างรวดเร็วโดยไม่พูดอะไรอีก“ดึงเจ้าเด็กนี่ออกไป หักขามันแล้วโยนมันตรงทางเข้าโรงพยาบาล!” ลูอิสร้องเสียงหลงและเซจนสะดุดเท้า“ ไม่! อย่า!” ไวแอตต์คร่ำครวญสำหรับเซซิเลียไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน ทำไมเธอถึงไม่ได้ต้องอยู่รอบ ๆ ไวแอตต์ในตอนนี้?***ครู่ต่อมาที่ทางเข้าโรงพยาบาล ร่างที่ขาหักถูกโยนออกมาจากรถตู้ ไวแอตต์ยกแขนขึ้นและมองไปที่ท้องฟ้าด้วยท่าทางน่ากลัว “ฮาร์วีย์! อย่าคิดว่ามีเพียงแกเท่านั้นที่รู้วิธีให้ผู้หญิงปรนเปรอ! ฉันก็รู้! ฉันอยากเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดและฉันอยากให้แกต้องอยู่กับความกลัวไ
อีวอนน์ตามเขามาจากด้านหลังพร้อมกับมองใบหน้าของเธออย่างเป็นห่วง เธอเป็นคนสวยและเพียงแค่เดินตามหลังฮาร์วีย์ในตอนนี้เธอก็ดึงดูดสายตาของทุกคน“ท่านคะ มันเป็นความรับผิดชอบของดิฉัน จากนี้ฉันจะดูแลลูกน้องให้ดีที่สุด” อีวอนน์สังเกตเห็นว่าฮาร์วีย์เอาแต่จดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ของเขาดังนั้นเธอจึงสามารถพูดกับเขาจากด้านหลังได้เท่านั้นในขณะที่ก้มหัวเล็กน้อย"งั้นเหรอ?" ฮาร์วีย์พูดอย่างเมินเฉย “นี่ไม่ใช่ครั้งแรก”อีวอนน์เกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความสิ้นหวัง เธอกล่าวว่า “ท่านคะ ยกโทษให้ดิฉันในครั้งนี้ด้วย ท่านให้ชีวิตที่ดิฉันมีในตอนนี้และดิฉันภักดีต่อท่านมาตลอด ดิฉันขอร้องขอให้ท่านให้โอกาสดิฉันอีกครั้ง ได้โปรด"ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมย “ที่จริง ผมไม่เคยตำหนิคุณ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคุณทำงานให้กับตระกูลยอร์กอย่างดี ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณเช่นกันที่จะสร้างรากฐานสำหรับ บริษัทนี้แทนฉัน อย่างไรก็ตามคุณไม่ได้เอาใจลูกน้องของคุณมากเกินไปหน่อยหรือ?”“ท่านคะ ดิฉันสัญญาว่าจะไม่มีครั้งที่สองอีก” อีวอนน์พูดเบา ๆ“จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เราจะไม่มีเวลามากพอมาดูแลเรื่องที่ไม่สำคัญนี้” ฮาร์วีย์ยิ้มและเปลี่ยนเรื่อ
พนักงานขายเดินไปหาพวกเขาทันที หลังจากที่เขาเห็นฮาร์วีย์ เขาก็พูดด้วยความลังเลว่า “คุณผู้ชายคะ รุ่นนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของร้านเรา ราคาสองพันไม่ใช่สองร้อย และเราจำเป็นต้องได้ไปรับของจากร้านอื่น แน่ใจหรือว่าคุณต้องการมัน?" เขาไม่สามารถตำหนิพนักงานขายได้ที่มีความลังเลใจเช่นนี้เนื่องจากโทรศัพท์รุ่นนี้มีจำนวนจำกัด อย่างไรก็ตามโทรศัพท์รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างมากและเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนชนชั้นสูง คนเงินเดือนธรรมดาไม่มีทางมีเงินถึงถึงสองพันดอลลาร์ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะสามารถเป็นเจ้าของโทรศัพท์รุ่นนี้ ในเวลานั้นฮาร์วีย์สวมเสื้อผ้าที่ได้มาจากร้านขายของริมทางและเขาดูไม่มีเงิน เขาดูไม่เหมือนคนที่สามารถควักเงินหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ออกจากกระเป๋าได้ฮาร์วีย์พูดไม่ออก ดูเหมือนว่าเขาจะต้องมีเสื้อผ้าที่ดูดีกว่านี้อีวอนน์ระเบิดเสียงหัวเราะ เธอแทบไม่มีโอกาสได้เห็นฮาร์วีย์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้ฮาร์วีย์ยิ้มใและส่ายหัว อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่า “ไม่เป็นไร จัดการเอาโทรศัพท์มาให้ผม อ้อ ผมไม่แน่ใจว่าซิมการ์ดของผมสามารถใช้กับโทรศัพท์เครื่องนั้นได้หรือเปล่า”ในขณะที่เข
เวสตันตะลึงไปชั่วขณะเช่นกันมันคืออะไร? เธอหมายความว่าอย่างไรกับคำว่า "สตาร์รี่ คลาวน์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มีรสนิยมที่ดี"?เธอควรหยิบนามบัตรของเขา ตื่นเต้นกับคำเชิญของเขาอย่างที่เขาวางแผนไว้ ไม่ใช่หรือ? ในโลกของผู้ใหญ่ ศิลปะแห่งการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมาอย่างไรก็ตามทุกสิ่งที่เธอทำล้วนคือคำตอบมาจากการกระทำของเธอ? เธอดูถูกเขาหรือเปล่า? หรือเป็นเพราะผู้ชายหน้าตาไม่ดีข้างๆเขา?ในตอนนี้เวสตันก็จ้องมองฮาร์วีย์อย่างจริงจัง ต่อมาเขายิ้มอย่างอ่อนโยน “คุณผู้หญิงเป็นเพราะผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ คุณทำให้คุณไม่กล้าตอบรับคำเชิญของผมหรือเปล่า? คุณต้องคิดให้ดีนี่คืออนาคตของคุณและคุณจะมีโอกาสแบบนี้เพียงครั้งเดียวในชีวิตของคุณ ถ้าคุณพลาดคุณจะต้องกลับไปร้องห่มร้องไห้”เมื่ออีวอนน์ยุ่งอยู่กับการลองคุณสมบัติใหม่ของโทรศัพท์ให้กับฮาร์วีย์ เวสตันที่อยู่ข้าง ๆ เธอก็แอบฟังเธอ ตอนนั้นเธอรู้สึกรำคาญมาก เธออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอพูดว่า “คุณไม่ต้องทำตัวน่ารำคาญเหมือนแมลงวันได้ไหม? คุณคิดว่าคุณสามารถเข้าถึงฉันด้วยตำแหน่ง 'ผู้จัดการทั่วไปของสตาร์รี่ คลาวน์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์'
"โอ้พระเจ้า! เขาเป็นคนร่ำรวยที่มีนิสัยชอบเก็บตัวใช่ไหม?”“เขาไม่ได้ลังเลที่จะรูดบัตรด้วยซ้ำ น่าทึ่งที่สุด!"“เขาเป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรบ้างนะ?”เมื่อเห็นฮาร์วีย์แสดงออกอย่างเปิดเผย เหล่าไทยมุงก็ตกตะลึงอีกครั้งในบรรดาไทยมุงเวสตันเป็นคนที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด ทันทีที่ฮาร์วีย์ดึงบัตรออกมา เขาก็อ้าปากค้างอย่างตกใจเช่นกัน“บัตรเอเม็กแบล็กการ์ด!”เมื่อคำอุทานของเขาความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งร้านฝูงชนอาจไม่เคยเห็นบัตรเอเม็กแบล็กการ์ด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนผู้ถือบัตรเอเม็กแบล็กการ์ดได้จะต้องมีเงินสดอย่างน้อยสองสามร้อยล้านในบัญชีธนาคารของเขา เงินสดนะ ไม่ใช่แค่ทรัพย์สิน! แม้จะเป็นขาใหญ่อย่างเวสตัน แต่เขาก็มีเงินสดในมือเพียงไม่กี่แสน เงินสดไม่กี่ร้อยล้านหน้าตาเป็นอย่างไรกัน?สำหรับบัตรแบบนั้น ในเมืองนิอัมมี่มีไม่เกินห้าใบเท่านั้น!แม้แต่พนักงานขายยังตกใจ ในวันนี้เขาจะได้พบกับมหาเศรษฐีตัวจริงใช่ไหม?โดยไม่ทันตั้งตัว มีคนพูดถึงคำอธิบายสิ่งตรงหน้าที่เป็นไปได้ “เป็น…เป็นไปได้ไหมที่มันเป็นแค่บัตรที่เขาได้สั่งซื้อจากออนไลน์?”เมื่อเขาพูดอย่างนั้นทุกคนในร้าน
"ที่รัก ผมสังเกตว่าคุณชอบโทรศัพท์เครื่องนั้นมาก แล้วถ้าผมจะซื้อให้คุณล่ะ" เวสตันคว้าโอกาสที่จะเข้าใกล้อีวอนน์ เขายื่นบัตรธนาคารของเขาให้โดยไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธ “รูดบัตรของฉัน!”“ไอ้หนูยาจก นายรู้จักไหมว่าบัตรสีเงินคืออะไร? ฉันแนะนำให้นายใช้ความพยายามมากขึ้นในครั้งต่อไปถ้าคุณจะพยายามโออ้วดอีกครั้ง” เวสตันมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างหยิ่งผยอง “ใครอีกมากมายคงจะยังเชื่อคุณถ้าคุณใช้บัตรสีเงิน แต่เป็นบัตรเอเม็กนี่เหรอ? บ้าที่สุด!”"ว้าว! นั่นคือบัตรสีเงิน ฉันได้ยินมาว่าคุณต้องมีเงินมากกว่าร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ในบัญชีธนาคารของคุณเพื่อที่จะได้มันมา!”“มิสเตอร์แจ็คแมนร่ำรวยกว่า! และเขาช่างเป็นคนที่ถ่อมตัวมาก!”“การเปรียบเทียบทั้งสองเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ!”“ ... ”ฮาร์วีย์กำลังจะโกรธถึงขีดสุด เขามีเงินเกือบหนึ่งหมื่นห้าพันล้านในบัญชี แต่ถูกคนที่มีเงินเพียงเกือบล้านมาหักหน้า เขาถึงกับพูดไม่ออกปัญหาคือเขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมต้องเป็นตัวเองอีวอนน์ไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับเวสตัน แต่เธอหยิบบัตรธนาคารของเธอออกจากกระเป๋าเงินและส่งมันให้กับพนักงานขาย เธอบอกว่า “รูดบัตรฉัน และก็อยากได้ทั้งสองเครื่อง”
"มิสเตอร์ยอร์กเกิดอะไรขึ้น?” อีวอนน์สับสนจนต้องถามฮาร์วีย์ในรถเฟอร์รารีของพวกเขา“ให้ดิฉันโทรสอบถามเรื่องนี้นะคะ”ฮาร์วีย์ตกตะลึงเมื่อได้รับคำตอบเมื่อเขาได้รับคำตอบ “ธนาคารแจ้งให้ทราบว่าวงเงินการใช้จ่ายเริ่มต้นสำหรับบัตรของผมคือเจ็ดแสนห้าหมื่นดอลลาร์ต่อเดือน ผมเพิ่งถอนเงินสดเจ็ดแสนห้าหมื่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกินโควต้าของผม ถ้าผมต้องการเพิ่มวงเงินผมต้องไปที่ธนาคารและลงนามในข้อตกลง”“บ้าที่สุด…”อีวอนน์ไม่สามารถกลั้นเรื่องขบขันนี้ได้ เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้จริง ๆ ฮาร์วีย์พูดไม่ออกเช่นกันกับความจริงที่ว่าเรื่องโง่ ๆ เช่นนี้อาจเกิดขึ้นกับเขาได้ ดูเหมือนว่าเขาจำเป็นต้องไปที่ธนาคารไม่เช่นนั้นเขาจะมีปัญหากับการใช้จ่ายในประจำวัน"โทรศัพท์เครื่องนี้ คุณคิดซะว่าเป็นเป็นของขวัญจากฉันก็แล้วกันนะคะ" อีวอนน์ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เงินจำนวนนี้ไม่ได้มีความหมายกับเธอมากนัก“เอาล่ะ ผมจะซื้ออย่างอื่นให้คุณก็แล้วกัน” ฮาร์วีย์ไม่ได้ปฏิเสธเธอ “ตอนนี้คุณไปส่งผมที่บริษัทได้ไหม? ผมคงต้องอยู่ที่นั่นสักคืน”"ฮะ?" อีวอนน์ซึ่งเพิ่งสตาร์ทรถเฟอร์รารีถึงกับต้องเหยียบเบรกกะทันหัน เธอหันมาหาเขาด้
เขาไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย อีวอนน์อาจดูแข็งแกร่ง แต่จากสิ่งที่ฮาร์วีย์รับรู้คือเธอไม่เคยมีแฟนมาก่อนในสถานการณ์เช่นนี้เขาจะไม่แปลกใจเลยถ้าเธอจะแทงเขาด้วยมีดในตอนที่เธอกลับมามีสติอีกครั้ง ...อีวอนน์เริ่มพูดติดอ่าง “ท่าน…ท่านคะ…กอดฉันเสร็จหรือยัง?”“โอ้!” ฮาร์วีย์ปล่อยเธอทันที เขาเองก็ไม่ได้สังเกตว่าเขากำลังกอดเธออยู่โดยไม่รู้ตัวฮาร์วีย์ดูอึดอัดและเขาทำได้เพียงปล่อยเธอไป อีวอนน์ผุดลุกขึ้นในทันที แต่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเท่านั้นที่แสดงออกมาบนใบหน้าของเธอทั้งคู่รู้สึกได้แค่ว่าสถานการณ์มันน่าอึดอัดเกินไป แม้แต่คนไร้ยางอายอย่างฮาร์วีย์ก็ไม่สามารถแบกรับความอึดอัดจากสถานการณ์ทั้งหมดนี้ได้อีวอนน์รู้สึกอับอายมาก เธอพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่า…คุณแต่งงานมาสามปีแล้ว”ฮาร์วีย์ตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้น “อย่าพูดถึงเรื่องนี้ ผมขอยืมห้องรับแขกของคุณคืนนี้แล้วกัน พรุ่งนี้คุณจะช่วยจัดห้องนอนในออฟฟิศของผมให้หน่อย ผมไม่เป็นไรตราบใดที่ยังมีที่ให้อาบน้ำและซุกหัวนอน”“ได้ค่ะ ดิฉันจะจัดการให้เอง” แม้ว่าอีวอนน์จะยังรู้สึกเขินอาย แต่เธอก็ช่วยฮาร์วีย์จัดห้องพักให้เรียบร้อย เมื่อ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข