“คุณปู่ เราคิดให้ดีสิ คุณปู่ไม่คิดว่าเธอจะมีความรู้สึกกับผมเลยเหรอ?”แซ็คทำหน้าให้ดูน่าเชื่อถือ แล้วทำไมเหตุผลของเขาต้องฟังดูน่าเชื่อถือล่ะ?ตระกูลซิมเมอร์มองหน้ากัน เขาให้คำอธิบายได้ดีทีเดียว สถานะของอีวอนน์เป็นอะไร? ผู้นำตระกูลหลาย ๆ คนจึงอยากพบเธอ แต่ก็ไม่มีโอกาส แต่เธอมาพบตระกูลซิมเมอร์ ดูเหมือนว่าไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากเธอชอบแซ็ค“คุณปู่ การที่เวนดี้ปฏิเสธการขอแต่งงานขอผมถือเป็นเรื่องที่ดี ลองคิดดูเวนดี้เป็นเพียงแค่ผู้จัดการตังเล็ก ๆ แล้วเธอจะทำอะไรได้มากกว่านี้?” แซ็คมองทะลุความจริงของความเป็นจริงทั้งหมด “อีวอนน์ ไม่สิ วอนนี่ของผมเป็นถึงเลขาของซีอีโอของยอร์กเอ็นเทอร์ไพรส์! มีข่าวลือว่าเธอเป็นซีอีโอลับด้วย คุณปู่ตระกูลซิมเมอร์กำลังจะร่ำรวยอย่างฉุดไม่อยู่!”ซีอีโอของยอร์กเอ็นเทอร์ไพรส์?เมื่อเขาพูดแแบนี้ตระกูลซิมเมอร์ที่อยู่ด้วยกันทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซีอีโอคนก่อนที่ให้เงินลงทุนคือเบลล์ ยอร์ก ซึ่งเป็นผู้หญิงเช่นกัน ซีอีโอหญิงถือเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นได้ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของผู้อาวุโสซิมเมอร์ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าสงบ เขาเคาะโต๊ะแล้วพ
เขาอยู่ในจุดสูงสุดในชีวิต เขาสามารถแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่เขาต้องการ ฮาร์วีย์ลูกเขยขี้แพ้คนนี้กล้าที่จะหัวเราะเยาะเขาได้อย่างไร? เขาไม่หยาบคายเกินไปหรือ?ทันใดนั้นทุกคนก็หันไปมองฮาร์วีย์ พวกเขาคิดว่าคงจะมีการปะทะกันเกิดขึ้นแน่นอน นั่นทำให้พวกเขาไม่อยากจะพลาดเหตุการณ์ตรงหน้านี้“ผมคงต้องขอโทษด้วย ผมไม่สามารถบังคับตัวเองไว้ได้” ฮาร์วีย์ปิดปากขณะพูด “บางคนก็มีจินตนาการที่เลิศล้ำมากจริง ๆ แซ็ค ผมคิดว่าคุณไม่ควรพยายามจีบเธอนะ ทำไมคุณไม่ลองพยายามเป็นลูกเขยของตระกูลซาเวียร์ดูล่ะ ดูว่าเธอจะต้องการให้คุณเป็นหรือเปล่า!”“กะ...แกเป็นแค่ลูกเขยที่ยังที่ไร้ประโยชน์กล้ามาดูถูกฉันได้ยังไง!” ท่าทีของแซ็คเปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะมีความต้องการทำตัวให้ดูเป็นลูกผู้ชาย แต่นั่นก็ทำได้แค่คิด แต่ภาพลักษณ์ก็พังทลายลง เขาไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไป เขาตะโกนใส่ฮาร์วีย์เสียงดังผู้อาวุโสซิมเมอร์เข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้านี้เช่นกัน สำหรับคนที่พึ่งพาผู้หญิงเพื่อให้ได้มาซึ่งการลงทุนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการแมงดา ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์ต้องการที่จะรักษาภาพพจน์ของตัวเองทุกคน พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาอยู่ในสังคมชนชั้นสูง ดัง
ความอยากรู้อยากเห็นของแมนดี้พุ่งปรี๊ด เธอไม่สามารถต้านทานตัวเองได้และถามว่า “ความสัมพันธ์ของคุณกับอีวอนน์ยังเหมือนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยหรือเปล่า? คุณทั้งคู่ไม่ใช่คู่รักกันใช่ไหม?”เมื่อเธอพูดแบบนี้แมนดี้รู้สึกว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างผิดปกติ เธอรู้ความสามารถของสามีที่ไร้ค่าของเธอ เขาจะมีแฟนเก่าที่สง่างามเหมือนอีวอนน์ได้อย่างไร?ฮาร์วีย์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ได้โปรดอย่าเพิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราไม่เคยอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้นมาก่อน” ดวงตาของลิเลียนเป็นประกายในทันที ราวกับว่าเธอจับฮาร์วีย์ได้คาหนังคาเขา เธออยากตำหนิเขา “นั่นไง เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง! ผู้ชายอย่างนายแอบซ่อนผู้หญิงไว้อย่างนายไม่ได้มีแค่ลูกสาวของฉัน! ฮาร์วีย์ ฉันจะบอกอะไรให้นะ! นายต้องหย่ากับลูกสาวของฉันทันที! เดี๋ยวนี้!”"แม่คะ!" แมนดี้จ้องไปที่ลิเลียน “ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง กลับไปคุยกันที่บ้านเถอะค่ะ”"ไม่มีทาง!"แซ็คพูดก่อนที่ลิเลียนจะพูดต่อ “ธุระของเรายังไม่จบ ฮาร์วีย์ โทรหาอีวอนน์และอธิบายความสัมพันธ์ของคุณให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นอย่าคิดที่จะออกจากที่นี้ได้”“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?” ฮาร์วีย์พูด
หลังจากเดินออกจากคฤหาสน์ ฮาร์วีย์ก็กดโทรออกอีกครั้ง คราวนี้ปลายสายรับสายเร็วมาก อีวอนน์ ซาเวียร์ตอบด้วยน้ำเสียงอยากขอโทษ “มิสเตอร์ยอร์ก ตอนนี้ฉันอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดินโทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณ”“ไม่เป็นไร คุณมารับผมเดี๋ยวนี้เลยได้ไหม” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น คืนนี้เขาไม่มีที่ไหนให้ไปเลย มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเขาไปนอนที่ห้องทำงานแทน“ฮะ? ได้ค่ะ คุณอยู่ไหนคะมิสเตอร์ยอร์ก? ฉันจะไปที่นั่นทันที” อีวอนน์ตกตะลึงไปชั่วขณะแต่เธอก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วฮาร์วีย์บอกที่อยู่ให้กับเธอก่อนที่จะวางสาย ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที เฟอร์รารีสีแดงก็มาจอดที่ด้านข้างของฮาร์วีย์และหน้าต่างรถก็ลดลง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อีวอนน์เปลี่ยนชุดเป็นสวมเสื้อหนังและกระโปรงสั้น เธอมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างเขินอายและพูดว่า “มิสเตอร์ยอร์ก ฉันรีบขับรถออกมาทันทีที่คุณโทรหาฉัน ฉันเลยไม่สามารถเปลี่ยนชุดได้ทันเวลา”“ไม่เป็นไร ผมรบกวนเวลาส่วนตัวของคุณหรือเปล่า?” ฮาร์วีย์ถาม“ไม่ ไม่เลย มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะให้บริการคุณตลอด 24 ชั่วโมงค่ะมิสเตอร์ยอร์ก” อีวอนน์รีบลงจากรถและเดินไปฝั่งที่นั่งผู้โดยสารก่อนจะช่วยเปิดประตูให้ฮาร์วีย์ฮา
ไวแอตต์ที่อยู่ข้างหลังเธอได้เดินไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณผู้หญิงคนนี้ดูไม่คุ้นเลย คุณอาจจะเพิ่งมาถึงเมืองนิอัมมี่เมื่อไม่นานมานี้ ผมจะพูดเตือนคุณอย่างไรดี? มีบางคนในนิอัมมี่ที่ชอบเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว คุณต้องระวังอย่ายุ่งกับพวกเขา พวกเขาน่าขยะแขยงมาก หากคุณต้องการอะไร ผมสามารถพาคุณไปเดินรอบ ๆ แหล่งช้อปปิ้งของเราได้ ผมเป็นผู้จัดการของร้านอาหารนอร์ทแลนด์และผมคุ้นเคยกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดี”เห็นได้ชัดว่าไวแอตต์สนใจในความงดงามของอีวอนน์ซึ่งเป็นคนที่ขับรถเฟอร์รารีด้วยเช่นกัน ดูเหมือนเธอจะมีความโดดเด่น ถ้าเขาสามารถจับเธอได้ เขาจะเป็นเจ้าของทั้งความงามและความมั่งคั่งไหมนะ?ในตอนแรกฮาร์วีย์ไม่ต้องการพูดกับพวกเขา แต่สองคนนั้นน่ารำคาญเกินไป เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองไวแอตต์แล้วพูดว่า “เฮ้ จอห์นสัน พนักงานบริกรร้านอาหารอย่างคุณเลิกโอ้อวดในสิ่งที่คุณไม่มีได้ไหม? ทำไมคนของผมจะต้องมาเกี่ยวข้องกับคุณ?”ใบหน้าของไวแอตต์มืดมนลง เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะมีความกล้าที่จะยอกย้อนเขา เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ คุณกำลังแสร้งทำเป็นว่าเป็นลูกเขยที่แสนดีหรือเปล่า? คุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญที
อีวอนน์ เบื่อเกินไปที่จะมองเซซิเลีย แต่แล้วเธอกลับจ้องไปที่ไวแอตต์ อย่างเย็นชาและพูดว่า “ใครจะสนถ้าฉันจะตบคุณ? เป็นแค่พนักงานเสิร์ฟของร้านอาหารที่คุยโวอยู่ตรงหน้าฉัน? ปากของคุณสกปรกพอ ๆ กับห้องน้ำ ฉันจะตบใครถ้าไม่ใช่คุณ?”ในตอนนี้ อีวอนน์กลับมามีอารมณ์ใจเย็นขึ้นตามปกติแล้ว เพียงแค่แวบเดียวทำให้เธอมองและพูดหนึ่งประโยคกับไวแอตต์ความตะลึงของฝูงชนลดลงด้วยความหวาดกลัว“บ้าเอ้ย อารมณ์ของสาวสวยคนนี้ร้อนแรง!”“เธอเป็นเทพธิดาของผม ผมชอบบุคลิกนี้มากที่สุด!”“คนปกติไม่คู่ควรกับผู้หญิงอย่างเธอ คนอย่างเราทำได้แค่ฝันถึงมัน!”พวกเขาหลายคนเริ่มนินทา แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดออกมาเสียงดัง เห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวว่าอีวอนน์จะตบถ้าเธอได้ยินและพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์โต้แย้งเมื่อไม่มีใครสังเกตเห็น อีวอนน์ก็แอบเหลือบไปมองฮาร์วีย์ ที่ยืนพิงรถเฟอร์รารี เธอรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อเห็นมุมปากของฮาร์วีย์โค้งขึ้นและยกยิ้มอย่างน่าชื่นชม“ไอ้บ้าสารเลว ใครจะสนใจถ้าฉันไปซื้อของกับเพื่อน? ระฆังปากแตกมักจะไม่สามารถส่งเสียงได้ดี! ถ้าฉันได้ยินอีกหนึ่งคำจากคุณ ฉันจะฉีกปากของคุณ!” อีวอนน์ยังคงตำหนิต่อไปไวแอตต์เอามือป
“สาวน้อย คุณไม่ได้ยินที่ผมพูดเหรอ? เวลาปกติผมจะใช้เวลาสนุกกับคุณ แต่วันนี้ผมอารมณ์ไม่ดี... ” เซนเหล่ตา เขามองเห็นร่างกายที่ร้อนผ่าวของอีวอนน์ และใบหน้าที่ไร้ที่ติ แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าเธอดูคุ้นเคย แต่เขาก็ไม่สนใจเรื่องนี้มากนักไวแอตต์ที่อยู่ข้างหลังเขาหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเขา เซนก็เหล่ตาและมองไปที่ร่างที่ที่พิงอยู่ข้างรถไม่ไกล เขาหัวเราะอย่างน่าสยดสยองและพูดว่า “ไวแอตต์ คุณจะจัดการกับไอ้สารเลวนั่นอย่างไร?”ไวแอตต์ยังคงเห็นท่าทางเฉยเมยของฮาร์วีย์ ความโกรธพุ่งพล่านในใจเขาทันที เขาจ้องไปที่ฮาร์วีย์และพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเราเป็นคนที่มีอารยธรรม วันนี้เป็นแบบไม่ป่าเถื่อนละกัน แค่ปล่อยให้เขาคุกเข่าคร่ำครวญสักสองสามครั้ง แล้วเรียกผมว่านายท่านอีกสักสองสามครั้งก็พอ!”“เฮ้ ไอ้สารเลว นายได้ยินไหม? คุกเข่าลงไม่งั้น…” เซนแสดงท่าทางด้วยมืออีกข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นก็หยิบกระบองออกมาจากเอวของพวกเขา แต่ละคนมีใบหน้าที่อึมครึม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ล้วนอยู่ภายใต้การปกครองของเขา เนื่องจากเรื่องของฮาร์วีย์ในช่วงบ่ายเขาจึงเปลี่ยนท
สวบ!การเตะนั้นกระทบลงบนหน้าของเซนเต็ม ๆ มันเป็นการเตะที่สวยงามและทุกคนก็ตื่นตากับมันเซนถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศทันที เขาหมุนตัวไปกลางอากาศสองสามรอบก่อนที่จะตกลงไปในแปลงดอกไม้ริมถนนเมื่อได้เห็นฉากนี้ทุกคนก็ตะลึง แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นก็ยังตกตะลึงไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงหอบติด ๆ กัน“หญิงสาวสวยคนนี้ยอดเยี่ยมมาก!”“ดูจากทักษะของเธอ อย่างน้อยเธอก็ต้องเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์เทควันโด ใช่ไหม?”หลังจากตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นก็พุ่งเข้ามาหาเธอทีละคนอย่างดุเดือด พวกเขาไม่มีทางเลือกในขณะที่เจ้านายของพวกเขาถูกทุบตี พวกเขาไม่อาจยืนอยู่ที่นั่นและเฝ้าดูได้อีกต่อไป"หยุดนะ! ทุกคนหยุด!” เซนคายฟันที่หักออกมา แต่เขาก็กลัวแทบตายเมื่ออีวอนน์เปิดปากของเธอในที่สุด เขาก็จำผู้หญิงที่คุ้นเคยและสวยงามคนนี้ได้! เลขาฯท่านประธานของบริษัทยอร์ค! เธอเป็นคนใหญ่คนโตที่เขามักจะประจบประแจงในบางโอกาส!เอาชนะเธองั้นเหรอ? นี่มันเรื่องตลกระดับนานาชาติอะไรกัน? เขาต้องการที่จะฆ่าตัวเองอยู่หรือเปล่า?วินาทีต่อมา เขาสะดุดขณะพยายามลุกขึ้นยืนและรีบเดินไปที่ด้านข
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข