ซูซี่พูดอะไรไม่ออก เธอรู้สึกอึดอัดใจ แต่เธอไม่สามารถสู้กับเจนได้เจนกล่าวต่อว่า “ฉันไม่เคยเป็นหนี้อะไรเธอเลยตั้งแต่แรก เธอคิดว่าฉันต้องการที่จะอ้อนวอนแทนเธอมากขนาดนั้นเลยหรอ?”ในสายตาของซูซี่ เจนก่อนหน้านี้เป็นคนขี้กลัวและเป็นคนขี้ขลาด อย่างไรก็ตามคนขี้ขลาดก็ไม่ได้แปลว่าจะขี้ขลาดเสมอไป และคนขี้กลัวก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะอ่อนแอซูซี่มีอคติกับเจนอยู่แล้ว จากนั้นเธอก็ไม่ชอบเจนเพราะเรื่องของคุณชายไฮด์ ถ้าเจนเป็นอโลร่าหรือผู้หญิงที่โดดเด่นคนอื่น ๆ ความหึงหวงของซูซี่ก็จะกลายเป็นความอิจฉาแทนมีเพียงเส้นบาง ๆ ระหว่างความหึงหวงและความอิจฉาเธอเก่งกว่าเจนในทุก ๆ ด้านแล้วทำไมคุณชายไฮด์ถึงมองเห็นแต่เจนเท่านั้น ไม่ใช่เธอ?เจนเป็นเพียงคนไร้ความสามารถที่จะทำทุกอย่างเพื่อเงิน ในทางกลับกันซูซี่ยังคงบริสุทธิ์ ทำไม คุณชายไฮด์ ถึงมีแต่เจนในหัวใจ?ถ้าคน ๆ นี้ไม่ใช่เจน แต่เป็นผู้หญิงพราวเสน่ห์คนอื่น ... ถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ก็จะแตกต่างออกไปเจนเป็นแค่คนธรรมดา ๆอย่างไรก็ตามเจนไม่ใช่ผู้หญิงที่โง่เขลาอย่างที่ซูซี่คิดว่าเธอเป็น ในความเป็นจริงเจนรู้และเข้าใจทุก อย่างเป็นอย่างดีซูซี่
“นี่ค่ะ อโลร่า”อโลร่าตกใจไปชั่วขณะ เมื่อเธอมองไปที่กองเงินสดบนโต๊ะ ในหัวของเธอนั้นว่างเปล่าไปสักพัก ก่อนที่เธอจะเริ่มพูด “เธอได้สิ่งนี้มาจากไหน?”คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของเธอคือ ‘ใครจ้างงานหรือจัดตารางงานให้เจน?’เจนไม่ได้คิดอะไรมาก เธอบอกกับอโลร่าว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากที่เธอได้ยินเช่นนั้นคิ้วของอโลร่าก็ขมวดเข้าหากันแน่นในทันที"นั่นก็คือเขา?" เธอมองไปที่เจน “เจนฉันไม่ได้บอกเธอหรอกหรอ ว่าอย่าเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นมากเกินไป?”“เขาให้เงินฉันค่ะ”‘เขาให้เงินฉัน’ ถ้าคนไม่รู้จักเธอ หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้พวกเขาคงคิดว่าเจนเป็นพวกผู้หญิงขุดทองในช่วงเวลาสั้น ๆ อโลร่าก็ถึงกับพูดไม่ออกเจนยืนอยู่ที่มุมห้องราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน อย่างไรก็ตามอโลร่ารู้ดีว่าเด็กหญิงที่ทำตัวไม่มีตัวตนนี้นั้นเธอช่างดื้อรั้นมาก“เจนมาที่นี่” อโลร่ามองไปที่เจน เธอรู้สึกว่าควรให้คำแนะนำแก่เจนบ้าง เธอวางมือลงบนไหล่ของเจนแล้วดึงเจนเข้ามา“ฟังฉันนะ อย่าติดต่อกับผู้ชายคนนั้นอีก แม้ว่าฉันจะไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตมากนัก แต่ฉันก็เคยเห็นผู้ชายหลากหลายประเภทใน อีสต์ เอ็มเพอเรอร์”“เจนโปรดสัญญา
เจนถูกไฮด์ดึงให้เดินตามเขาไป เสียงของตลาดกลางคืนที่วุ่นวายดังขึ้นในหูของเธอ นอกจากนี้ยังมีเสียงของพ่อค้าหาบเร่ต่าง ๆ ที่พยายามดึงดูดความสนใจของลูกค้า ไฮด์จับมือของเธอ เธอไม่คุ้นเคยกับการถูกจับมือขณะเดิน อย่างไรก็ตาม มันเหมือนกับว่าคน ๆ นี้มีความแน่วแน่อยู่ในตัวเขา เธอตั้งใจจะซ่อนตัวจากเขาถึงสองสามครั้ง แต่เขาก็ยังยิ้มและคว้ามือเธอไว้ กลิ่นอาหารหลากหลายประเภทจากแผงขายของลอยหอมยั่วยวนเตะเข้าจมูกของพวกเขาในขณะที่พวกเขาเดินไปรอบ ๆ ตลาดกลางคืนนั้นด้วยกันเจนเดินอย่างเชื่องช้า แต่ไฮด์ก็ไม่ได้เร่งเธอเธอเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่จับมือเธอเดินอยู่ตรงหน้า ร่างสูงเพรียวนั้น… ไฮด์ไม่ได้ขอให้เธอเดินเร็วขึ้น เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าชายคนนี้ไม่ได้พูดอะไรเธอก็เริ่มเดินช้าลงตลาดกลางคืนมีคนเยอะมาก วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์จึงมีผู้คนมาที่นี่เยอะ มีคู่รักมากมายอยู่รายล้อมรอบ ๆ ตัวของพวกเขาในฝูงชนมากมายชายหนุ่มรูปหล่อกำลังจับมือของผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ๆ พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ท่ามกลางฝูงชนคู่นี้ช่างโดดเด่นกว่าใคร ๆ เจนต้องการหลีกเลี่ยงการจ้องมองของผู้คนที่มองมาที่คู่ของเธอ เธอเกลียดสิ่งนี้‘
ชายคนนี้ราวกับว่าเขาเป็นลูกรักของพระเจ้า เขาถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตงดงาม จนแม้แต่มือของเขาก็ดูเป็นงานศิลปะที่สวยงามเจนเบิกตากว้างมองฌอนที่ยืนอยู่ปลายเตียง นิ้วเรียวยาวของเขากำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออกเธอถอยออกไปอย่างเร่งรีบจนหลังกระแทกกับหัวเตียง ดวงตาที่แคบยาวของชายคนนั้นช่างเย็นชา เขามองลงไปที่เธอในขณะที่นิ้วของเขาปลดกระดุมออกด้วยความรีบร้อน ไม่ว่าเธอจะถอยห่างแค่ไหนชายที่อยู่ที่ปลายเตียงก็ยังคงแสดงสีหน้าเย็นชา เขาไม่ได้ใส่ใจกับการกระทำของเธอเธอมองไปที่ประตูห้องนอนที่เปิดอยู่โดยไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและลงจากเตียงวิ่งไปที่ประตูโชคไม่ดีที่เมื่อเท้าของเธอแตะพื้นเธอก็ถูกจับได้อีกครั้งฌอนยืนอยู่ที่ปลายเตียง และจับไหล่ของเธอด้วยมือข้างเดียว เขากดเธอลงกับฟูก เขากำลังควบคุมเธอ และจับเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่งเพื่อไม่ให้เธอลุกขึ้น ราวกับว่าเธอคือเชลยของเขา มืออีกข้างของเขาเกี่ยวเข็มขัดของเขาออก และเขากำลังปลดกระดุมกางเกงการหายใจของเจนเริ่มผิดปกติ ดวงตาของเธอเริ่มดูมึนงง เธออ้าปากของเธอสองสามครั้งในขณะที่ตัวสั่น แต่เธอไม่สามารถพูดอะไรได้การหายใจของเธอผิดจังหวะ และเธอ
เมื่อเจนตื่นขึ้น ดวงตาของเธอแดงก่ำ ชั่วขณะหนึ่ง สมองของเธอไม่ทำงาน แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็จำได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเธอลุกขึ้นนั่งด้วยเสียงดังตุ๊บเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ ชายคนนั้นก็ไม่อยู่แล้วเธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อความเจ็บปวดแล่นผ่านหัวใจของเธอ เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอก็รับรู้ว่าเธอนอนเปลือยทั้งคืน เธอเย้ยหยันตัวเอง เธอมั่นใจขนาดไหนที่นอนหลับสนิทข้างผู้ชายคนนั้น?เธอยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองเธออนุญาติให้ตัวเองนอนกับใครก็ได้ยกเว้นฌอน สจ๊วต!เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธออัดแน่นไปด้วยความทุกข์ แม้ว่าจะต้องถูกขังในคุกและใช้เวลาทั้งคืนข้างห้องน้ำ เธอก็จะไม่และไม่สามารถนอนหลับข้าง ๆ ฌอนได้เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร? เธอจะนอนนิ่ง ๆ ข้างๆผู้ชายคนนั้นได้ยังไง?ผู้ชายคนนั้นคือฌอน สจ๊วต!เสียงตบหน้าของเธอคมชัดและชัดเจน ยิ่งรู้สึกผิดหวังมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งตบตัวเองหนักขึ้นเท่านั้นเจนนั่งลงบนเตียง ผมของเธอยุ่งเหยิงหลังจากการตบตัวเองหลายครั้ง เธอมีอาการปวดตื้อในดวงตาของเธอซึ่งมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา เธอเงยหน้าขึ้นช้าๆและใส่เสื้อผ้าของเธออย่างไรก็ตาม กระด
เจนรู้ว่าเธอเสียสติไปแล้วตอนนี้ เธอดูน่าทึ่งต่อหน้าฌอน เธอดูน่าทึ่งยิ่งกว่าเมื่อสามปีก่อน อย่างไรก็ตามเธอไม่รู้เรื่องนี้"ว่าไง?"เธอไม่กลัวที่จะสูญเสียอะไรเพราะเธอไม่มีอะไรจะเสียแล้ว“ฉันต้องการ…” ฌอนพูดในขณะที่รู้สึกมึนงงเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็หยุดพูดการแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปและเขาก็มองไปที่ผู้หญิงคนนั้น “เธอให้อะไรฉันได้บ้าง?”เขาเป็นคนมีเหตุผลและเย็นชาเสมอ เขาเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด เขายอมให้ผู้หญิงมาขัดขวางความคิดของเขาได้อย่างไร?คำพูดของปู่ยังก้องอยู่ในหูของเขา เขากล่าวว่า “เมื่อมีคนสามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์และการเลือกของคุณเมื่อมีคนเหล่านั้นอย่าลังเลใจ กำจัดมันซะ”เจนถูกทำลาย ‘ลูก้า ลูก้า ฉันยังคงไร้ประโยชน์'"ทำไม? คุณชายสจ๊วต ฉันไม่มีประโยชน์สำหรับคุณ ได้โปรดให้ฉันพักและปล่อยฉันไป มันก็เหมือนกับปล่อยสัตว์ไป มันเป็นอะไรที่ง่าย และสะดวกมาก ทำไมคุณถึงไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?”เธอพร่ำต่อว่า “ฉันติดคุกสามปี ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว มีอะไรสำคัญที่ยังเก็บฉันไว้อยู่ตรงนี้?”ฌอนหัวเราะเบา ๆ “เจนสามปีมากแล้วหรอ? เธอกำลังเปรียบเทียบสามปีกับชีวิตของคน ๆ หนึ่งหรอ? ฉันต้องการเก็บเธอไว้เพื่อท
กลางดึกคืนหนึ่งเจนเดินคนเดียวในย่านที่อยู่อาศัยของเธอ เธอขึ้นไปชั้นสองและสังเกตว่าไฟที่ทางเดินไม่ทำงานเธอมองไปรอบ ๆ และคิดว่ามีเพียงไฟบนชั้นนี้เท่านั้นที่ไม่ทำงานเธอจึงเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างระมัดระวัง เมื่อเธอไปถึงชั้นสาม ไฟตรงนั้นก็ใช้การไม่ได้เช่นกันเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและใช้ไฟบนโทรศัพท์เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับเส้นทางของเธอ เธอเดินกลับบ้านอย่างช้าๆในที่สุดเธอก็มาถึงทางเข้าห้องของเธอ เจนสั่น "คุณคาลเลน ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี้?”“ฉันรอคุณมานานมากแล้ว”“ ... ” เธอถามเขาว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่และไม่ใช่ว่าอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว“เกิดอะไรขึ้น” เจนหยิบกุญแจไว้ในมือ แต่เธอไม่ได้ไขประตูต่อหน้าคาลเลน เธอยังคงรู้สึกต่อต้าน คาลเลนเข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำตัวแบบนั้น มีความตื่นเต้นในดวงตาของเขาความรู้สึกของการครอบครองเหยื่อที่ป้องกันตัวนั้นน่าทึ่งมาก"ฉันหิว""อา?"“ฉันบอกว่า” คาลเลนลูบท้องของเขา “นานแล้วที่ฉันยังไม่ได้กินข้าว ฉันหิว"ทำไมเขาถึงมาที่นี่ถ้าเขาหิว?เจนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้สึกสับสน “ถ้าอย่างนั้นคุณควรไปทานอาหารเย็น”"ถูกของคุณ นั่นคือเหตุผลที่ฉันมาที่น
เมื่อเช็คของเจน ปรากฏต่อหน้าอโลร่าอีกครั้งเธอก็มองไปที่เจนและเอาเช็คไป “คุณควรรู้ว่าคาลเลนไม่ใช่คนใสซื่อบริสุทธิ์”"ใช่"อโลร่ายักคิ้ว “ถ้าคุณรู้ทำไมคุณถึงยอมรับเงินของเขา”เจนไม่ได้พูดอะไรอโลร่าไม่ได้พูดถึงมันอีก ไม่มีใครรู้มากกว่าเธอว่าเจนต้องการเงินจำนวนมหาศาล“เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว” อโลร่าเตือนความจำ“ฉันยังคงต้องลองพยายาม”“คุณอยากลองทำอะไร? เจนยอมแพ้เถอะ”“ไม่”“เธอเกลียดคุณสจ๊วตขนาดนั้นเลยเหรอ ”ที่จริงแล้วอโลร่าอยากจะบอกว่า คุณสจ๊วตไม่ได้ปฏิบัติต่อเธอเลวร้ายขนาดนั้น ตอนที่เธอป่วยเขาหามเธอไปโรงพยาบาลด้วยซ้ำ เมื่อเธอยืนยันที่จะทำงานในขณะที่เธอป่วย เขาจ้างแพทย์ส่วนตัวมาตรวจสุขภาพเธอหลังจากที่เธอเป็นลม เขาไม่อนุญาตให้ฉันบอกเธอทั้งหมดนี้'อโลร่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจนกับฌอน เธอได้เห็นฉากเหล่านั้นเท่านั้น ดังนั้นในความคิดของเธอ เธอคิดว่าไม่จำเป็นที่เจนจะต้องกลัวคุณสจ๊วตเจนไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร ความสัมพันธ์ของเธอกับฌอนนั้นไม่ง่ายเลย“บอกฉัน ว่าเธอกำลังจะทำอะไร? เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์ ฉันคำนวณให้เธอแล้ว เธอไม่มีเงินแม้แต่ล้านเดียว ขอถามหน่อยเถอะว่า
ฉันชื่อ ลูก้า สจ๊วต มันเป็นชื่อแปลก ๆ ใช่ไหม? แบบว่ามันเหมือนกับคำว่า ‘ดูสิ! สตูว์’คุณปู่ของฉันตั้งชื่อให้ฉัน ประสบการณ์หลายปีของฉันตอนเป็นเด็กบอกฉันว่าปู่ของฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ดีไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่นเลย แค่ดูชื่อที่เขาตั้งให้ฉันสิ เขามีชื่อที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับตั้งชื่อแปลก ๆ นี้ให้กับฉันอย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ฉันทักท้วงเรื่องนี้กับเขา เขามักจะบอกว่านั่นเป็นความผิดของพ่อฉัน ถ้าพ่อเป็นเด็กผู้หญิงนั่นจะเป็นชื่อของเขาแทนดูสิ คุณปู่เป็นคนที่ตั้งชื่อที่น่ากลัวนี้ให้ฉัน แต่เขายังคงโยนความผิดทั้งหมดให้พ่อของฉันอ้อ ลืมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการไปเลยปู่ของฉันชื่อ ฌอน สจ๊วตเขาค่อนข้างเป็นคนที่น่าทึ่งในวัยเยาว์ย่าของฉันชื่อ เจน ดันน์บางครั้งฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสองคนลงเอยด้วยกันได้อย่างไร พวกเขาเป็นคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะปู่กับย่าของฉันได้หย่าร้างกันก่อนที่พ่อของฉันจะเกิดเสียอีกหลังจากการหย่าร้างครั้งนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานกันใหม่นะพวกเขาน่าจะแยกทางกันไปอย่างสันติ แต่คุณปู่ก็ไร้ยางอายอย่างที่สุด เขาจึงคอยรบกวนคุณย่าของฉันตลอดเวลาเลยเท่าที่ฉันจำไ
ที่โรงพยาบาล ประตูวอร์ดถูกเปิดออกเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีเสียง ครั้งนี้ดอสไม่ได้แจ้งการมาถึงของแขกล่วงหน้าเมื่อเอลิออร์มาถึงอย่างรีบร้อน เขาก็เห็นผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร อโลร่าก็ดึงเขากลับออกไปที่ทางเดิน ประตูเปิดแล้วปิดลงอีกครั้งคนบนเตียงนอนตะแคง และกำลังหลับอยู่ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังฝันถึงอะไร แต่ใบหน้าที่ขมวดคิ้วลึกแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีความฝันที่น่าพอใจนักมือของเขาวางอยู่บนผ้าห่ม แหวนแต่งงานของเขายังคงอยู่บนนิ้วของเขาหญิงสาวเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้า ๆ ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าเตียงของเขาดวงตาของเธอสดใส และชัดเจน เธอจ้องมองแหวนบนนิ้วมือของเขาไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอจ้องไปที่แหวนเป็นเวลานานนาน จนเธอรู้สึกงุนงงหลังจากนั้นไม่นานดวงตาของชายคนนั้นก็เบิกโพลง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือคนในความฝันเขายิ้มหน้าซีดให้เธอ “โอ้ ฉันฝันไปอีกแล้วสินะ”ราวกับว่าเขากำลังคุยกับเพื่อนที่เขาไม่ได้เจอมานาน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และดีใจจนแทบจะเห็นได้ชัดผ่านการแสดงออกทางร่างกายของเขา "ดีแค่ไหน. คุณยังเต็มใจจะมาเยี่ยมฉันในความฝัน”หญิงสาวยืนอยู่ที่เตียงของเ
"เจน เอ๋อไห่ไม่ใช่สวรรค์หรือความสงบตามที่เธอพูดหรอก มันเป็นเพียงแค่การหลบหนีของเธอ" อโลร่ากล่าวอย่างเคร่งขรึมเธอไม่ควรพูดทั้งหมดนี้ แต่เธอเห็นบางสิ่งที่เจ้าตัวมองไม่เห็นบางทีภาพอาจจะดูชัดเจนขึ้นจากคนภายนอกที่เฝ้าดู หรือบางทีอาจจะไม่ถึงกระนั้นเธอก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจนกำลังลังเลเมื่อสามปีก่อนเธอเคยช่วยเจนหนี เพราะเธอต้องการให้เจนมีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริงนับตั้งแต่นั้นสามปีหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป เธอก็เติบโตขึ้นด้วยเป็นเพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่เพิ่งค้นพบทำให้เธอไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องนี้เช่นกันเธอคิดถูกหรือเปล่าที่ช่วยเจนหนีเมื่อสามปีก่อน มันอาจจะเป็นความผิดพลาดหรือเปล่านะ?เธอเริ่มคิดว่าเธอคิดผิดในตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ถูกผีเข้าเต็ม ๆ ไม่มีทางที่เธอจะหยุด และมองไปรอบ ๆ เพื่อดูผู้คน และข้อเท็จจริงตลอดสามปีที่ผ่านมาอโลร่าได้เห็นว่าฌอนไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย ทุกคนบอกให้เขาหยุด โดยบอกว่ามันไม่มีจุดหมายปลายทางเลย บางทีเจนอาจจะตายไปนานแล้วก็ได้ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเธอยังไม่ตายไป เหตุใดการค้นหาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเวลาถึงสามปีจึงไม่เกิดผลอะไรเลย?อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นปฏิเสธที่
"ที่นายมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อที่แค่จะคุยเรื่องของคุณปู่กับฉันหรือเปล่า?" ชายบนเตียงหัวเราะเบา ๆ ความไม่เชื่อเผยขึ้นในแววตาของเขาอย่างชัดเจน “ไมเคิล ลูเธอร์ ชายชราคนนั้นเขาไม่ห่วงว่าฉันจะเป็นหรือฉันจะตายหรอก เขายังมีหลานชายอีกคนที่จะสืบทอดบัลลังก์ของเขา”ไมเคิลหัวเราะอย่างแดกดัน“นายคิดว่าฉันจะกลับไปเป็นสจ๊วตจริง ๆ งั้นหรอ? สถานที่สกปรกแบบนั้น”“นายไม่ได้ต้องการ บริษัทสจ๊วตอุตสาหกรรม หรอกหรอ?” ฌอนกล่าวอย่างเย็นชา “ในกรณีนั้น ฉันกลัวว่านายจะต้องผิดหวัง”“สจ๊วตอุตสาหกรรมงั้นหรอ เฮอะ” ไมเคิลกวาดสายตามองไปยังฌอน ก่อนที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง“นั่นเป็นแหล่งเงินแหล่งทองชั้นดีเลย ดังนั้นฉันคิดว่าฉันต้องการมัน นายจะให้ฉันได้ไหมหล่ะ?”“ถ้าฉันไม่ให้ นายจะไม่บังคับเหรอ?”“ถ้านายเป็นคนถือมัน แน่นอน” ไมเคิลไม่พยายามปิดบังความทะเยอทะยานของเขา “แต่ถ้านายตายไป ฉันจะไม่เอามันมาจากเธอหรอก”ฌอนหรี่ตา “นายแน่ใจถึงความภักดีต่อความรู้สึกของนายที่มีต่อเธอไหม ฉันควรจะขอให้นายดูแลเธอก่อนที่ฉันจะตายหรือไม่?”“เฮ้อ ตัดเรื่องตลกออกไปก่อน นายกำลังจะตาย พวกนายทั้งสองไม่ได้หย่าร้างกันแล้วหรอ?“นั่นมันหมายค
ไมเคิล ลูเธอร์ เข้าสู่คฤหาสน์เก่าแก่ของสจ๊วต"คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างไม่ใช่เหรอ?"โดยไม่มีคำเตือนหรือบริบทใด ๆ เขาก็ตะโกนใส่ชายชราสจ๊วตที่กำลังจิบชาอย่างใจเย็นอยู่“คุณมาจากทางไหนกลับไปทางนั้นเลย…ถ้าจะมาเพื่อแสดงกิริยาความไม่เคารพต่อปู่ของคุณอย่างนี้?” ชายชราสจ๊วตวางถ้วยน้ำชาลง ใบหน้าอันแก่ชราของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างยากลำบาก“คุณเป็นคนวางแผนเรื่องพ่อบ้านซัมเมอร์เองไม่ใช่หรอ?“ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีทางกล้าทำหรอก จริงไหม?”"หมายความว่ายังไงหรอ? ฉันเป็นคนทำให้พ่อบ้านซัมเมอร์ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?""คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของเจน นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากที่จะรู้ความจริง เป็นคุรจริง ๆ ใช่ไหม?!" ไมเคิลยืนยันความคิดของตัวเองช่วงเวลาที่ชายชราสจ๊วตได้ยินชื่อของเจน การแสดงออกของเขาก็เคร่งขรึมลงในทันที “นี่หลานจะท้าปู่ของตัวเอง และแสดงกิริยาเช่นนี้ เพียงเพื่อเธอคนนั้นหรอ?”“นั่นคงหมายความว่า…คุณยอมรับมัน”ไมเคิลกำหมัดแน่น ทั้งตัวของเขานั้นสั่นสะท้านด้วยความโกรธ "เธอไปทำอะไรให้คุณปู่ขุ่นเคืองหรือ?""ทุก ๆ อย่าง ทุกอย่างที่เธอทำ มันทำให้ฉันขุ่นเคือง""เธอเป็นแค่เด
สามวันต่อมา บุคคลนั้นไม่ได้กลับเข้าบ้านอีกเลยเทรส และคัวโตรยืนอยู่ที่ประตูอย่างเงียบขรึมราวกับว่าพวกเขาทั้งสองคือรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์ที่อยู่อาศัยของเธอจากก่อนหน้านี้ได้ถูกไฟไหม้เสียหายไปบางส่วน เธอจึงกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์สจ๊วตก่อน ลึกเข้าไปภายในคฤหาสน์ เธอไม่ได้ยินเสียงนกหรือกลิ่นดอกไม้ใด ๆ เลย พ่อบ้านก็เป็นมืออาชีพมาก ๆ เขาจัดเตรียมทุกอย่างเพรียบพร้อมไว้สำหรับเธอนอกเหนือจากเทรสและคัวโตรแล้ว เธอก็ไม่ค่อยได้พบใครเลย เธอไม่ได้พูดคุยกับใครเลยไม่แม้แต่เทรส และคัวโดรก็ไม่ได้คุยกับเธอสำหรับพ่อบ้านประจำตระกูล เขามักจะทำตัวสุภาพกับเธอทุกครั้งที่พบกันตอนนี้หูของเธอมันไร้ประโยชน์จริง ๆ แล้วปากของเธอก็คงเป็นเพียงแค่เครื่องประดับบนใบหน้าเพียงเท่านั้นคนรับใช้บางคนที่นี่ก็ดูคุ้นเคย ในขณะที่บางคนก็คงจะมาใหม่เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มันไม่สำคัญหรอกไม่ว่าใครในบ้านนี้เมื่อพวกเขาพบเห็นเธอ พวกเขาก็จะโค้งตัวด้วยความเคารพก่อนจะเดินจากไปทำงานของตัวเองต่อเธอนั่งมองดูคนสวนกำลังทำสวนผ่านกระจกหน้าต่างแม้ว่าในฤดูนี้ใบไม้ และดอกไม้ต่าง ๆ ในสวนจะร่วงโรยไปจนหมดแทบไม่มีสีสันในสวนหลงเหลืออยู่เล
วันผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกของเจสันเขาเปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว คุณหญิงดันน์อยู่ดูแลข้าง ๆ เขา"อย่าประหม่าไปเลย เจสัน ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี" คุณหญิงดันน์ปลอบใจ ถึงกระนั้นลูกชายของเธอก็ยังคงเอาแต่เงียบขณะที่เธอจ้องไปที่หน้าของลูกชายของเธอ เธอก็เอาแต่ด่าเจนในใจ"ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่มีจิตใจดีคนนี้ที่บริจาคให้กับลูก นังเจน เด็กคนนั้นก็เกือบจะฆ่าลูกแล้ว"เจสันจ้องมองอย่างไม่พอใจ"คุณแม่ พอได้แล้ว!""หือ? ลูกเป็นอะไรไป?“แม่กำลังรู้สึกเสียใจกับลูกนะ จะมาตะโกนใส่แม่ทำไม?”“คุณแม่ อย่าพูดถึงเจนแบบนั้นนะ”“ทำไมจะทำไม่ได้? เธอไม่สนใจสมาชิกในครอบครัวของเธอเองเสียด้วยซ้ำ”คุณหญิงดันน์เกลียดลูกสาวคนนี้สุดหัวใจแม้ว่าจะได้รับการชี้แจงว่าเธอเข้าใจผิดว่าเจนไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง แต่คุณหญิงดันน์ก็ยังคงมีอคติกับลูกสาวคนนี้ของเธออยู่ดีหลังจากนั้นเธอก็เอาแต่เลี้ยงดูลูกชาย และคอยอยู่เคียงข้างเขามาตั้งแต่เขายังเด็ก มันจึงทำให้ลูกชายของเธอสนิทกับเธอส่วนนังเด็กคนนั้น ... เด็กเลว ๆ คนนั้น เธอกลับมาที่เมืองเอสนี้ในตอนนั้น ก็เพื่อที่จะยึดทรัพย์สินทั้งหมดของ ดันน์ กรุ๊ป ไปดันน์ กรุ
วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ชายคนนั้นมักจะทำอาหารทุกมื้อของเธอด้วยตัวของเขาเอง เมื่อเขาออกไปทำงานเขาจะพาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ข้าง ๆ ตัวเขาตลอด ทำให้เธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา พวกเขาจึงดูเหมือนคู่รักที่แสนหวาน และรักกันมากมีความอิจฉาริษยาในสายตาของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อพวกเขาเห็นเจนอยู่กับฌอนเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนในแวดวงต่างรู้ว่าทั้งสองมักจะตัวติดกันอยู่ตลอดเวลามีใครบางคนถอนหายใจออกมา ‘เจน ดันน์ จากตระกูลดันน์ ได้ครอบครองหัวใจชายคนนี้ในที่สุด หลังจากที่เธอไล่ตามฌอนในตอนนั้นเธอดูเป็นคนที่กล้าแสดงออกมาก 'คนทั่วไปต่างก็คิดว่า ในที่สุดเจนก็ได้รับในสิ่งที่เธอต้องการแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง“ฉันอยากเจอเขา”"ใคร?""... พี่ชายของฉัน"มีความสั่นไหวในดวงตาของชายคนนั้น ถึงกระนั้นเขาก็ยังรักษาภาพพจน์ของตัวเอง"คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเจสัน"เขาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆเจนบีบหมัดของเธอแน่น และหลังจากนั้นไม่นาน…"สภาพของเขาคงดูไม่ดีนัก ฉันจึงอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเอง""นี่ผมปฏิบัติต่อคุณไม่ดีพอหรือ?" ชายคนนั้นเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอกำลังพยายามที่จะหนีจากเขาไปอีกครั้ง “เจสัน
ในที่สุดเจนก็ตื่นฟื้นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมาห้องก็มืดสลัว เธอลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เธอไม่ได้ตกใจกับชายที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาภายใต้แสงไฟอันอบอุ่นในห้องนั่งเล่นนั้นในห้องนั่งเล่นระดับเสียงของทีวีนั้นมันถูกตั้งไว้ในระดับที่ต่ำที่สุด ราวกับว่าเขากังวลว่าเขาจะรบกวนเธอจากการพักผ่อน ถ้าหากเขาเปิดเสียงดังกว่านี้เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากทางเดิน ชายคนนั้นรีบหันไปมองทันทีพวกเขาทั้งสองสบตากันอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันดูราวกับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมานานมากแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจซึ่งกันและกันโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร พวกทั้งสองไม่ได้ทำลายความสงบสุขที่แปลกประหลาดนี้ทุกอย่างมันดูราวกับว่า ... พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เขาอุ่นโจ๊ก และวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์หญิงสาวเดินเข้าไปเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็นั่งทานอาหารดูเหมือนกับว่าที่นี่มันไม่เคยมี ความรัก – ความเกลียด พัวพันระหว่างทั้งสอง ไม่มีความทรงจำที่เจ็บปวดร่วมกันเกิดขึ้นทุกคนอาจจะคิดว่าบรรยากาศช่างเต็มไปด้วยค