ใบหน้าของคุณซัมเมอร์มืดมน เขามองไปที่เจน มันเป็นเรื่องยากที่จะเอาน้ำที่เขาเทออกมาคืน นับประสาอะไรกับคำพูดของเขาเมื่อเขาเห็นสีหน้าตกใจของเจนสีหน้าของเขาก็สงบลงเจนมองชายชราด้วยความตกใจบนใบหน้าของเธอ เธอไม่เข้าใจว่าพ่อฆ่าลูกสาวของตัวเองได้อย่างไร แม้โจเซฟก็จะไม่ทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมแบบนี้"คุณทำได้อย่างไร?" เธอตะโกน แม้ว่าจะไม่มีอะไรนอกจากความแค้นระหว่างเธอกับโรซาลีน เธอก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หลังจากพบว่าพ่อของเธอเป็นคนฆ่าเธอ นี่เป็นข่าวที่น่าตกใจอย่างยิ่ง"ทำไม?" เธอมองไปที่คุณซัมเมอร์ "ทำไม? ทำไมคุณถึงทำเช่นนี้? คุณไม่กลัวฟ้าผ่าหรือ”เธอไม่ได้แสวงหาความยุติธรรมสำหรับโรซาลีน เธอมีประสบการณ์ชีวิตของคนชั้นสูงและหลงระเริงกับชีวิตที่หรูหราก่อนที่เธอจะอายุ 20 ปีอย่างไรก็ตามหลังจากที่เธออายุ 20 ปีเธอก็ประสบกับนรกบนดิน เธอต่ำต้อยยิ่งกว่าสิ่งสกปรกเธอมีประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดีเธอคิดว่าจะไม่มีอะไรทำให้เธอตกใจอีกต่อไปหลังจากสิ่งที่เธอประสบ อย่างไรก็ตามชายคนนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอและบอกเธอโดยไม่สำนึกผิดว่าเขาฆ่าลูกสาวด้วยสองมือของเขาในขณะที่โทษว่าเธอเป็นคนทำ!เธอไม่ได้ต้องการความยุ
เธอเติบโตมากับปู่ของเธอในขณะที่เจสันชอบที่จะอยู่กับพ่อแม่ของเขาครั้งหนึ่งคุณปู่ของเธอพูดติดตลกและพูดว่า “ฉันจะมอบภารกิจให้เธอทั้งสองคน ใครก็ตามที่สามารถขโมยปากกาอันล้ำค่าของคุณลุงเทนเนอร์ไปจากเขาได้เขาหรือเธอจะเป็นผู้ชนะ ฉันจะให้ปี่เซียะหยกในห้องของฉันแก่ผู้ชนะ”ท้ายที่สุดเธอเป็นผู้ชนะ เมื่อเธอได้หยกปี่เซียะเธอก็มีความสุข เธอเคยเห็นปี่เซียะหยกมากมายตั้งแต่เธอเติบโตมาในครอบครัวแบบนั้น อย่างไรก็ตามปี่เซียะหยกของปู่ของเธอแตกต่างจากคนอื่น ๆ สีโปร่งแสงมาก เมื่อคนหนึ่งยื่นมันขึ้นมาโดยหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ก็จะดูเหมือนว่ามันโปร่งใส ผู้หญิงทุกคนชอบสิ่งที่เป็นประกายและเจนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเมื่อเจสันเห็นก็อยากจะแย่งมันไปจากเธอ เธอปฏิเสธและผลักไสเขา เธอไม่ได้ใช้แรงมากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะผลักเจสันลงไปที่พื้นคุณพอตเตอร์ผู้ดูแลของเจสันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและโกรธมาก เธอพูดกับเจนที่ยังเด็กว่า “เธอเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อแม่แน่นอน ไม่มีการสั่งสอน เธอยังผลักนายน้อยล้มลงกับพื้น”เธอตกใจมาก ‘ฉันไม่มีพ่อแม่เหรอ?’เธอถามคุณพอตเตอร์ว่า “ฉันมีแม่และพ่อ ทำไมคุณถึงบอกว่าฉันไม่มีพ่อแม่”คุณพอตเตอร์ถึงกับ
ความเลือดร้อนอาจทำให้หัวใจที่เย็นชาละลายได้เธอมองไปที่ฝ่ามือของเขาที่หยดไปด้วยเลือด จากนั้นเธอก็เลื่อนสายตาไปที่ใบหน้าของเขา เจนเห็นฌอนลังเล ความอบอุ่นในใจของเธอหายไปเขายังคงลังเล ในตอนท้ายของเรื่องนี้เขาก็ยังไม่เชื่อเธอเจนเม้มริมฝีปากด้วยความขมขื่นในขณะนี้อโลร่ากำลังปลดเชือกรอบมือของเจนด้วยใบหน้าซีดเซียวเมื่อเธอเห็นริมฝีปากซีดของอโลร่า เจนก็ช่วยเธอลุกขึ้นและพูดกับฌอนว่า "อโลร่ารับลูกเตะแทนฉัน เธอได้รับบาดเจ็บ ส่งเธอไปโรงพยาบาลกันเถอะ มือของคุณก็เจ็บเหมือนกัน”ส่วนคุณซัมเมอร์เธอไม่สนใจผู้ชายคนนั้นฌอนไม่คาดคิดว่าความลังเลในใจของเขาในตอนนี้ที่จะผลักดันผู้หญิงอ่อนไหวคนนี้ที่ถูกโลกทรมานออกไป เขาเห็นว่าใบหน้าของอโลร่ามืดลง เธอกำลังกุมท้อง เขายังได้ยินเจนบอกว่าเธอได้รับการเตะจากคุณซัมเมอร์ ฌอนผลักคุณซัมเมอร์ออกไปอย่างสุดกำลัง “เธอเดินได้ไหม?” เขาถามอโลร่าหน้าผากของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นอโลร่ากัดฟันแล้วพยักหน้า "ค่ะ บอส"ฌอนพยักหน้า “เจน ช่วยเธอที ฉันจะขับรถมาในอีกสักครู่” เขาโทรหาอูโน่และบอกที่ตั้งของโกดังแห่งนี้ "มาที่นี่" เขาเอาเชือกที่ใช้มัดเจนก่อนหน้านี้และมัดคุณซัมเมอร์
เจนที่ยังถือบัตรประจำตัวอยู่ก็เงียบลง"ไม่เป็นไร แสร้งทำเป็นว่าฉันไม่เคยพูดอะไรเลยแล้วกัน” อโลร่าพูดในขณะที่เจนส่ายหัวในทันทีเธอมองไปที่อโลร่า “ฉันไม่รู้” อโลร่าตกใจมาก เธอหมายถึงอะไร "ไม่รู้"ราวกับว่าเจนเข้าใจความตกใจของอโลร่าเจนส่ายหัวอีกครั้ง “ฉันไม่รู้จริง ๆ” คำถามนี้ยังคงมีความสำคัญหรือไม่ หลังจากที่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น? เธอโค้งงอมุมริมฝีปากของเธอ “อย่างไรก็ตาม ฉันรู้ว่าฉันเจ็บปวดตลอดเวลาเมื่ออยู่ข้าง ๆ เขา เมื่อฉันนอนข้าง ๆ เขาฉันนอนไม่หลับอยู่หลายคืน”อโลร่ามองเห็นอาการบวมบนตาของเจน“หลังจากเดินออกจากคุก ฉันก็อยากจะออกไปจากเมืองนี้ เมื่อฉันเห็นเขาอีกครั้งใน อีสต์ เอ็มเพอเรอร์ ฉันไม่กล้าที่จะรักคน ๆ นี้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่ฉันคิดคือการชำระหนี้ของฉัน "เธอหัวเราะเบา ๆ เธอไม่ต้องการบอกอโลร่าเกี่ยวกับลูก้าลูก้าคือความอบอุ่นและความปรารถนาสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในหัวใจของเธออโลร่าไม่เข้าใจว่าเจนหมายถึงอะไรจากการ "ชำระหนี้ของฉัน" พ่อบ้านซัมเมอร์ไม่ได้บอกเธอแล้วหรอ ว่าเขาคือคนที่ฆ่าโรซาลีน?แล้วเธอจะชำระหนี้อะไรอีก?อโลร่ารู้สึกงงงวย เธออยากที่จะถาม แต่เจนไม่อยากพูดอะไรม
ไมเคิลยิ้มเยาะ เขาดูเหมือนกำลังยั่วยุฌอนอย่างเปิดเผย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำเช่นนี้“พี่ชายหรอ? แม่ให้กำเนิดฉันออกมาคนเดียวเท่านั้น ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฌอนหัวเราะอย่างเย็นชา “ไมเคิล นายเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ใช่ไหม?”ถ้าไม่ คนของเขาจะมายืนที่ประตูเพื่อห้ามไม่ให้พวกเขาออกไปตอนที่พวกเขากำลังจะจากไปได้อย่างไร?“ฉันรู้ ว่าสุนัขตัวเก่าลักพาตัวคุณหนูดันน์ซึ่งทำให้เธอเสียชื่อเสียงไปแล้ว อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าฉันอยู่เบื้องหลังสิ่งนี้”“แล้ว นายรู้ไหมว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?”“นายอยากรู้ไหม?” ไมเคิลหัวเราะ “แน่นอน หลังจากที่คุณเอาชนะฉันนะ”ทั้งสองคนเริ่มการต่อสู้ หมัดของพวกเขาซัดกันไปมา ทั้งสองคนต่างก็ไม่ยอมกัน สำหรับฌอนการปรากฏตัวของไมเคิลเป็นเหมือนหนามในนิ้วของเขา มันจะไม่ฆ่าเขา แต่มันเจ็บปวดเมื่อเขาสัมผัสมันสำหรับไมเคิล ฌอนคือคนที่เขาอยากเอาชนะและเหยียบย่ำที่สุดในชีวิตนี้พวกเขาเป็นพี่น้องกัน พวกเขามีพ่อคนเดียวกัน แต่คนละแม่ อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นเหมือนศัตรู ไมเคิลไม่เต็มใจที่จะลาออกจากตำแหน่งนี้ เขามีสายเลือดของสจ๊วต แต่การได้รับการดูแลของเขามันก็
หลังจากฌอนไปโรงพยาบาลเขาก็เห็นอโลร่า แต่ไม่เห็นเจน เมื่อเขาเห็นอโลร่าในโรงพยาบาลเธอกำลังนอนหลับจากความอ่อนเพลียอูโน่เคาะประตูและอโลร่าก็ตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับของเธออย่างร่าเริง“ทำไมคุณอยู่คนเดียว? เจนอยู่ไหน?”อโลร่าไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย เมื่อเธอมองไปที่ใบหน้าที่เคร่งขรึมของฌอน “เจนบอกว่าเธอกระหายน้ำ เธอจึงไปซื้อน้ำ คุณไม่เห็นเธอหรอคะตอนที่คุณเข้ามาที่นี่?”เธอสามารถช่วยเจนหนีออกไปได้ แต่เธอไม่สามารถบอกให้ผู้ชายคนนี้รู้เรื่องนี้ได้ อโลร่ายังคงเป็น อโลร่า เธอยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อช่วยเจน เพราะความหมกมุ่นที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจของเธอมาตลอดหลายปีอย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายเพียงเพื่อช่วยคน ๆ เดียวอโลร่าจะไม่มีทางยอมรับมันต่อหน้าฌอนเธอเห็นว่าเจนตั้งใจจะออกไป แน่นอนว่าผู้หญิงโง่คนนั้นมีจิตใจที่แน่วแน่ที่จะจากไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันอาจนำไปสู่ความตายของเธอเองได้ฌอนขยี้ตา เปลือกตาขวาของเขากระตุกตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ เขาเริ่มตื่นตระหนกอย่างไม่มีเหตุผล"ไป ไปตามหาเธอ!”อูโน่และพวกพ้องเริ่มเคลื่อนไหว หลังจากที่พวกเขาได้รับคำสั่งจากฌอน พวกเขาค้นหาทุก ๆ
ฌอนร้องเรียก "อูโน่" อูโน่รีบดึงเงินสดกองหนึ่งออกมาทันทีเกือบห้าพันในทั้งหมด “นี่ครับ นี่เป็นคำขอบคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนายท่าน พวกเรารีบออกมา ดังนั้นตอนนี้เราไม่มีเงินสดมากนัก หวังว่าคุณจะไม่รังเกียจนะครับ”ในขณะที่เขาพูดอย่างนั้นเขาไม่สนใจความจริงที่ว่าคนขับรถรับจ้างตกตะลึงและมึนงงไปหมด อูโน่ยัดเงินใส่มือคนขับแท็กซี่แล้ววิ่งไล่ตามฌอนขึ้นรถในทันที“โทรถามว่าตอนนี้มีเที่ยวบินอื่นไปเซียะเหมินหรือไม่ ดูว่ารายการล่าสุดได้ออกบินไปแล้วหรือยัง”"ครับท่าน"หลังจากนั้นไม่นานอูโน่ก็ตอบว่า “นายท่านครับ เพิ่งออกไปครับ ตอนนี้เอาอย่างไรดีครับ?”“ถ้าจำไม่ผิดคุณชาร์ลส์จากหางโจวมีเครื่องบินส่วนตัวใช่ไหม?” หลังจากพูดแบบนั้นจบเขาก็โทรหา“คุณชาร์ลส์” ที่เขาเอ่ยถึงในทันที เขาเอ่ยขอยืมเครื่องบินเจ็ตของเขาผ่านทางโทรศัพท์ เหงื่อบาง ๆ ผุดออกมาบนหน้าผากของอโลร่า ฌอนหรี่ตา “คุณร้อนขนาดนั้นเลยเหรออโลร่า?”“ใช่ค่ะ นิดหน่อย ฉันไม่ค่อยชินกับสภาพอากาศในหางโจว” เธอตอบกลับด้วยท่าทางปกติ ฌอนจ้องมองอโลร่าเป็นเวลานานผ่านดวงตาที่คมเข้มของเขา แต่ในที่สุดเขาก็มองไปที่อื่นไม่มีใครรู้เลย ว่าตอนนี้หลังของอโลร่าเปียกโชกและ
เขามองไปที่อูโน่ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเขา “ทำไมคุณถึงเปลี่ยนเอกสาร? คุณอยู่ในภวังค์ความรักกับซัมเมอร์คนนั้นหรือเปล่า? แล้วบอกฉันทีเธออยู่ที่ไหน?”เธออยู่ที่ไหน? นั่นคือสิ่งที่เขาอยากรู้จริงๆ!“ผม…ผมไม่รู้จริง ๆ ว่านายหญิงอยู่ที่ไหน ผม…ผมยอมแพ้จริง ๆ ผมหานายหญิงทั่วเมืองแล้วแต่ก็ไม่พบเลย”"หยุดได้แล้ว!" ชายคนนั้นตะโกนออกมา ก่อนจะใช้นิ้วนวดคิ้วของตัวเอง “ฉันสนใจแค่เรื่องเดียวเท่านั้น คือเธออยู่ที่ไหน?" สำหรับอูโน่ ฌอนไม่ได้ด่าเขาเลยในตอนนี้ “บทบาทของคุณที่นี่เสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจากคุณอยู่กับฉันมานานมากแล้ว ไปได้แล้ว”“นายท่าน!” อูโน่ไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง “ท่านจะลงโทษผมวิธีใดก็ได้ ผมไม่สนวิธี! แต่อย่าไล่ฉผมออกนะครับ!”“ดอสส่งเขาออกไป” ฌอนนวดคิ้วของเขา และเขาดูอ่อนเพลียอย่างถึงขีดสุด เขาแทบไม่ได้นอน เขาไม่หลับในคืนผ่าน ๆ มานี้ และเขาไม่มีแรงที่จะจัดการกับอะไรก็ตามที่ไม่สำคัญในเวลานี้“นา…”“อูโน่ อย่าเอะอะตอนนี้!” ดอสเดินเข้ามาหาเขาและพูดว่า “อย่าทำให้นายท่านปวดหัวอีกต่อไป เขาพยายามค้นหาอย่างบ้าคลั่ง ตั้งแต่ท่านผู้หญิงจากไป ถ้าคุณต้องการอยู่เคียงข้างเจ้านายจริง ๆ ให้ช่วยเขาตาม
ฉันชื่อ ลูก้า สจ๊วต มันเป็นชื่อแปลก ๆ ใช่ไหม? แบบว่ามันเหมือนกับคำว่า ‘ดูสิ! สตูว์’คุณปู่ของฉันตั้งชื่อให้ฉัน ประสบการณ์หลายปีของฉันตอนเป็นเด็กบอกฉันว่าปู่ของฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ดีไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่นเลย แค่ดูชื่อที่เขาตั้งให้ฉันสิ เขามีชื่อที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับตั้งชื่อแปลก ๆ นี้ให้กับฉันอย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ฉันทักท้วงเรื่องนี้กับเขา เขามักจะบอกว่านั่นเป็นความผิดของพ่อฉัน ถ้าพ่อเป็นเด็กผู้หญิงนั่นจะเป็นชื่อของเขาแทนดูสิ คุณปู่เป็นคนที่ตั้งชื่อที่น่ากลัวนี้ให้ฉัน แต่เขายังคงโยนความผิดทั้งหมดให้พ่อของฉันอ้อ ลืมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการไปเลยปู่ของฉันชื่อ ฌอน สจ๊วตเขาค่อนข้างเป็นคนที่น่าทึ่งในวัยเยาว์ย่าของฉันชื่อ เจน ดันน์บางครั้งฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสองคนลงเอยด้วยกันได้อย่างไร พวกเขาเป็นคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะปู่กับย่าของฉันได้หย่าร้างกันก่อนที่พ่อของฉันจะเกิดเสียอีกหลังจากการหย่าร้างครั้งนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานกันใหม่นะพวกเขาน่าจะแยกทางกันไปอย่างสันติ แต่คุณปู่ก็ไร้ยางอายอย่างที่สุด เขาจึงคอยรบกวนคุณย่าของฉันตลอดเวลาเลยเท่าที่ฉันจำไ
ที่โรงพยาบาล ประตูวอร์ดถูกเปิดออกเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีเสียง ครั้งนี้ดอสไม่ได้แจ้งการมาถึงของแขกล่วงหน้าเมื่อเอลิออร์มาถึงอย่างรีบร้อน เขาก็เห็นผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร อโลร่าก็ดึงเขากลับออกไปที่ทางเดิน ประตูเปิดแล้วปิดลงอีกครั้งคนบนเตียงนอนตะแคง และกำลังหลับอยู่ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังฝันถึงอะไร แต่ใบหน้าที่ขมวดคิ้วลึกแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีความฝันที่น่าพอใจนักมือของเขาวางอยู่บนผ้าห่ม แหวนแต่งงานของเขายังคงอยู่บนนิ้วของเขาหญิงสาวเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้า ๆ ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าเตียงของเขาดวงตาของเธอสดใส และชัดเจน เธอจ้องมองแหวนบนนิ้วมือของเขาไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอจ้องไปที่แหวนเป็นเวลานานนาน จนเธอรู้สึกงุนงงหลังจากนั้นไม่นานดวงตาของชายคนนั้นก็เบิกโพลง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือคนในความฝันเขายิ้มหน้าซีดให้เธอ “โอ้ ฉันฝันไปอีกแล้วสินะ”ราวกับว่าเขากำลังคุยกับเพื่อนที่เขาไม่ได้เจอมานาน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และดีใจจนแทบจะเห็นได้ชัดผ่านการแสดงออกทางร่างกายของเขา "ดีแค่ไหน. คุณยังเต็มใจจะมาเยี่ยมฉันในความฝัน”หญิงสาวยืนอยู่ที่เตียงของเ
"เจน เอ๋อไห่ไม่ใช่สวรรค์หรือความสงบตามที่เธอพูดหรอก มันเป็นเพียงแค่การหลบหนีของเธอ" อโลร่ากล่าวอย่างเคร่งขรึมเธอไม่ควรพูดทั้งหมดนี้ แต่เธอเห็นบางสิ่งที่เจ้าตัวมองไม่เห็นบางทีภาพอาจจะดูชัดเจนขึ้นจากคนภายนอกที่เฝ้าดู หรือบางทีอาจจะไม่ถึงกระนั้นเธอก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจนกำลังลังเลเมื่อสามปีก่อนเธอเคยช่วยเจนหนี เพราะเธอต้องการให้เจนมีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริงนับตั้งแต่นั้นสามปีหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป เธอก็เติบโตขึ้นด้วยเป็นเพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่เพิ่งค้นพบทำให้เธอไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องนี้เช่นกันเธอคิดถูกหรือเปล่าที่ช่วยเจนหนีเมื่อสามปีก่อน มันอาจจะเป็นความผิดพลาดหรือเปล่านะ?เธอเริ่มคิดว่าเธอคิดผิดในตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ถูกผีเข้าเต็ม ๆ ไม่มีทางที่เธอจะหยุด และมองไปรอบ ๆ เพื่อดูผู้คน และข้อเท็จจริงตลอดสามปีที่ผ่านมาอโลร่าได้เห็นว่าฌอนไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย ทุกคนบอกให้เขาหยุด โดยบอกว่ามันไม่มีจุดหมายปลายทางเลย บางทีเจนอาจจะตายไปนานแล้วก็ได้ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเธอยังไม่ตายไป เหตุใดการค้นหาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเวลาถึงสามปีจึงไม่เกิดผลอะไรเลย?อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นปฏิเสธที่
"ที่นายมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อที่แค่จะคุยเรื่องของคุณปู่กับฉันหรือเปล่า?" ชายบนเตียงหัวเราะเบา ๆ ความไม่เชื่อเผยขึ้นในแววตาของเขาอย่างชัดเจน “ไมเคิล ลูเธอร์ ชายชราคนนั้นเขาไม่ห่วงว่าฉันจะเป็นหรือฉันจะตายหรอก เขายังมีหลานชายอีกคนที่จะสืบทอดบัลลังก์ของเขา”ไมเคิลหัวเราะอย่างแดกดัน“นายคิดว่าฉันจะกลับไปเป็นสจ๊วตจริง ๆ งั้นหรอ? สถานที่สกปรกแบบนั้น”“นายไม่ได้ต้องการ บริษัทสจ๊วตอุตสาหกรรม หรอกหรอ?” ฌอนกล่าวอย่างเย็นชา “ในกรณีนั้น ฉันกลัวว่านายจะต้องผิดหวัง”“สจ๊วตอุตสาหกรรมงั้นหรอ เฮอะ” ไมเคิลกวาดสายตามองไปยังฌอน ก่อนที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง“นั่นเป็นแหล่งเงินแหล่งทองชั้นดีเลย ดังนั้นฉันคิดว่าฉันต้องการมัน นายจะให้ฉันได้ไหมหล่ะ?”“ถ้าฉันไม่ให้ นายจะไม่บังคับเหรอ?”“ถ้านายเป็นคนถือมัน แน่นอน” ไมเคิลไม่พยายามปิดบังความทะเยอทะยานของเขา “แต่ถ้านายตายไป ฉันจะไม่เอามันมาจากเธอหรอก”ฌอนหรี่ตา “นายแน่ใจถึงความภักดีต่อความรู้สึกของนายที่มีต่อเธอไหม ฉันควรจะขอให้นายดูแลเธอก่อนที่ฉันจะตายหรือไม่?”“เฮ้อ ตัดเรื่องตลกออกไปก่อน นายกำลังจะตาย พวกนายทั้งสองไม่ได้หย่าร้างกันแล้วหรอ?“นั่นมันหมายค
ไมเคิล ลูเธอร์ เข้าสู่คฤหาสน์เก่าแก่ของสจ๊วต"คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างไม่ใช่เหรอ?"โดยไม่มีคำเตือนหรือบริบทใด ๆ เขาก็ตะโกนใส่ชายชราสจ๊วตที่กำลังจิบชาอย่างใจเย็นอยู่“คุณมาจากทางไหนกลับไปทางนั้นเลย…ถ้าจะมาเพื่อแสดงกิริยาความไม่เคารพต่อปู่ของคุณอย่างนี้?” ชายชราสจ๊วตวางถ้วยน้ำชาลง ใบหน้าอันแก่ชราของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างยากลำบาก“คุณเป็นคนวางแผนเรื่องพ่อบ้านซัมเมอร์เองไม่ใช่หรอ?“ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีทางกล้าทำหรอก จริงไหม?”"หมายความว่ายังไงหรอ? ฉันเป็นคนทำให้พ่อบ้านซัมเมอร์ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?""คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของเจน นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากที่จะรู้ความจริง เป็นคุรจริง ๆ ใช่ไหม?!" ไมเคิลยืนยันความคิดของตัวเองช่วงเวลาที่ชายชราสจ๊วตได้ยินชื่อของเจน การแสดงออกของเขาก็เคร่งขรึมลงในทันที “นี่หลานจะท้าปู่ของตัวเอง และแสดงกิริยาเช่นนี้ เพียงเพื่อเธอคนนั้นหรอ?”“นั่นคงหมายความว่า…คุณยอมรับมัน”ไมเคิลกำหมัดแน่น ทั้งตัวของเขานั้นสั่นสะท้านด้วยความโกรธ "เธอไปทำอะไรให้คุณปู่ขุ่นเคืองหรือ?""ทุก ๆ อย่าง ทุกอย่างที่เธอทำ มันทำให้ฉันขุ่นเคือง""เธอเป็นแค่เด
สามวันต่อมา บุคคลนั้นไม่ได้กลับเข้าบ้านอีกเลยเทรส และคัวโตรยืนอยู่ที่ประตูอย่างเงียบขรึมราวกับว่าพวกเขาทั้งสองคือรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์ที่อยู่อาศัยของเธอจากก่อนหน้านี้ได้ถูกไฟไหม้เสียหายไปบางส่วน เธอจึงกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์สจ๊วตก่อน ลึกเข้าไปภายในคฤหาสน์ เธอไม่ได้ยินเสียงนกหรือกลิ่นดอกไม้ใด ๆ เลย พ่อบ้านก็เป็นมืออาชีพมาก ๆ เขาจัดเตรียมทุกอย่างเพรียบพร้อมไว้สำหรับเธอนอกเหนือจากเทรสและคัวโตรแล้ว เธอก็ไม่ค่อยได้พบใครเลย เธอไม่ได้พูดคุยกับใครเลยไม่แม้แต่เทรส และคัวโดรก็ไม่ได้คุยกับเธอสำหรับพ่อบ้านประจำตระกูล เขามักจะทำตัวสุภาพกับเธอทุกครั้งที่พบกันตอนนี้หูของเธอมันไร้ประโยชน์จริง ๆ แล้วปากของเธอก็คงเป็นเพียงแค่เครื่องประดับบนใบหน้าเพียงเท่านั้นคนรับใช้บางคนที่นี่ก็ดูคุ้นเคย ในขณะที่บางคนก็คงจะมาใหม่เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มันไม่สำคัญหรอกไม่ว่าใครในบ้านนี้เมื่อพวกเขาพบเห็นเธอ พวกเขาก็จะโค้งตัวด้วยความเคารพก่อนจะเดินจากไปทำงานของตัวเองต่อเธอนั่งมองดูคนสวนกำลังทำสวนผ่านกระจกหน้าต่างแม้ว่าในฤดูนี้ใบไม้ และดอกไม้ต่าง ๆ ในสวนจะร่วงโรยไปจนหมดแทบไม่มีสีสันในสวนหลงเหลืออยู่เล
วันผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกของเจสันเขาเปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว คุณหญิงดันน์อยู่ดูแลข้าง ๆ เขา"อย่าประหม่าไปเลย เจสัน ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี" คุณหญิงดันน์ปลอบใจ ถึงกระนั้นลูกชายของเธอก็ยังคงเอาแต่เงียบขณะที่เธอจ้องไปที่หน้าของลูกชายของเธอ เธอก็เอาแต่ด่าเจนในใจ"ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่มีจิตใจดีคนนี้ที่บริจาคให้กับลูก นังเจน เด็กคนนั้นก็เกือบจะฆ่าลูกแล้ว"เจสันจ้องมองอย่างไม่พอใจ"คุณแม่ พอได้แล้ว!""หือ? ลูกเป็นอะไรไป?“แม่กำลังรู้สึกเสียใจกับลูกนะ จะมาตะโกนใส่แม่ทำไม?”“คุณแม่ อย่าพูดถึงเจนแบบนั้นนะ”“ทำไมจะทำไม่ได้? เธอไม่สนใจสมาชิกในครอบครัวของเธอเองเสียด้วยซ้ำ”คุณหญิงดันน์เกลียดลูกสาวคนนี้สุดหัวใจแม้ว่าจะได้รับการชี้แจงว่าเธอเข้าใจผิดว่าเจนไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง แต่คุณหญิงดันน์ก็ยังคงมีอคติกับลูกสาวคนนี้ของเธออยู่ดีหลังจากนั้นเธอก็เอาแต่เลี้ยงดูลูกชาย และคอยอยู่เคียงข้างเขามาตั้งแต่เขายังเด็ก มันจึงทำให้ลูกชายของเธอสนิทกับเธอส่วนนังเด็กคนนั้น ... เด็กเลว ๆ คนนั้น เธอกลับมาที่เมืองเอสนี้ในตอนนั้น ก็เพื่อที่จะยึดทรัพย์สินทั้งหมดของ ดันน์ กรุ๊ป ไปดันน์ กรุ
วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ชายคนนั้นมักจะทำอาหารทุกมื้อของเธอด้วยตัวของเขาเอง เมื่อเขาออกไปทำงานเขาจะพาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ข้าง ๆ ตัวเขาตลอด ทำให้เธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา พวกเขาจึงดูเหมือนคู่รักที่แสนหวาน และรักกันมากมีความอิจฉาริษยาในสายตาของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อพวกเขาเห็นเจนอยู่กับฌอนเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนในแวดวงต่างรู้ว่าทั้งสองมักจะตัวติดกันอยู่ตลอดเวลามีใครบางคนถอนหายใจออกมา ‘เจน ดันน์ จากตระกูลดันน์ ได้ครอบครองหัวใจชายคนนี้ในที่สุด หลังจากที่เธอไล่ตามฌอนในตอนนั้นเธอดูเป็นคนที่กล้าแสดงออกมาก 'คนทั่วไปต่างก็คิดว่า ในที่สุดเจนก็ได้รับในสิ่งที่เธอต้องการแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง“ฉันอยากเจอเขา”"ใคร?""... พี่ชายของฉัน"มีความสั่นไหวในดวงตาของชายคนนั้น ถึงกระนั้นเขาก็ยังรักษาภาพพจน์ของตัวเอง"คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเจสัน"เขาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆเจนบีบหมัดของเธอแน่น และหลังจากนั้นไม่นาน…"สภาพของเขาคงดูไม่ดีนัก ฉันจึงอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเอง""นี่ผมปฏิบัติต่อคุณไม่ดีพอหรือ?" ชายคนนั้นเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอกำลังพยายามที่จะหนีจากเขาไปอีกครั้ง “เจสัน
ในที่สุดเจนก็ตื่นฟื้นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมาห้องก็มืดสลัว เธอลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เธอไม่ได้ตกใจกับชายที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาภายใต้แสงไฟอันอบอุ่นในห้องนั่งเล่นนั้นในห้องนั่งเล่นระดับเสียงของทีวีนั้นมันถูกตั้งไว้ในระดับที่ต่ำที่สุด ราวกับว่าเขากังวลว่าเขาจะรบกวนเธอจากการพักผ่อน ถ้าหากเขาเปิดเสียงดังกว่านี้เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากทางเดิน ชายคนนั้นรีบหันไปมองทันทีพวกเขาทั้งสองสบตากันอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันดูราวกับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมานานมากแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจซึ่งกันและกันโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร พวกทั้งสองไม่ได้ทำลายความสงบสุขที่แปลกประหลาดนี้ทุกอย่างมันดูราวกับว่า ... พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เขาอุ่นโจ๊ก และวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์หญิงสาวเดินเข้าไปเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็นั่งทานอาหารดูเหมือนกับว่าที่นี่มันไม่เคยมี ความรัก – ความเกลียด พัวพันระหว่างทั้งสอง ไม่มีความทรงจำที่เจ็บปวดร่วมกันเกิดขึ้นทุกคนอาจจะคิดว่าบรรยากาศช่างเต็มไปด้วยค