คาเลนและวินส์ตันต่างก็ตกใจทั้งคู่ จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่เมเดลีนซึ่งยังคงใจเย็นด้วยความงุนงง“คุณอย่าทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกเลยนะ เอวลีน ตอนนี้เรากำลังอยู่ในศาลนะ” ดูเหมือนว่าไรอันกำลังเกลี้ยกล่อมเธอด้วยท่าทีอ่อนโยนและใจดีเมเดลีนเองก็แสร้งยิ้มอย่างซึ้งใจ “ไรอัน ฉันทำต่อไปไม่ไหวแล้ว และคุณก็ไม่ต้องทนทำมันเช่นกันนะคะ”“...” ไรอันตกตะลึง ในขณะที่มองใบหน้าเย่อหยิ่งของเมเดลีน เขาแปลกใจและสับสนกับการกระทำของเธอที่ไม่เข้ากับคืนนั้นที่เธอเมามายจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแสดงอย่างนั้นหรือ?ด้านที่เปราะบางและความโศกเศร้าของเธอในคืนนั้นเป็นเพียงสิ่งจอมปลอมเท่านั้นใช่ไหม?“ไรอัน ฉันรู้ว่าคุณคงจะบอกว่าฉันปลอมแปลงหลักฐานเพื่อเจเรมี่ แต่คำโกหกก็คือคำโกหกอยู่วันยังค่ำ ยังไงการโกหกก็ไม่มีทางชนะความจริงได้หรอกนะ”ไรอันมองเธอออย่างสิ้นหวัง จากนั้นก็เห็นเธอก้มลงไปหยิบกระเป๋าจากด้านข้างของเคนรูม่านตาเขาหดลงขณะมองไปยังกระเป๋าที่เมเดลีนหยิบขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อเมื่อเห็นใบหน้าที่ตกใจของไรอัน เมเดลีนก็ถือกระเป๋าไปยังจุดให้การของพยาน ก่อนจะเปิดกระเป๋าและหยิบชุดสูทออกมาต่อหน้าไรอัน“
ผู้หญิงในวิดีโอพันผ้าเช็ดตัวรอบร่างและกำลังยืนอยู่หน้าชายร่างสูงสง่างามคนหนึ่งไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไร จากนั้นผู้ชายก็หยิบปืนที่เก็บเสียงออกมายิงผู้หญิงคนนั้นที่น่องทันทีเธอล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ร่างบางพิงอยู่กับกำแพงจากนั้นเขาก็ยิงเธออีกครั้งที่ตรงไหล่ แล้วมาหยุดที่จุดสุดท้ายคือกลางหัวใจของเธอภาพเหตุการณ์นั้นชัดเจนทว่าด้วยระยะห่างของอาคาร ใบหน้าของทั้งสองจึงไม่ชัดเจนนัก ทว่าจากรูปร่างและเสื้อผ้าก็สามารถระบุได้ว่าชายในชุดสูทสีดำคือไรอัน ส่วนผู้หญิงคือลาน่า“โอ้พระเจ้า!”“นั่นไรอัน โจนส์ นี่!”“ไม่นึกเลยว่าไรอันจะเป็นฆาตกรตัวจริง!”“เขาฆ่าคนจริง ๆ แล้วยังกล้าโทษเจเรมี่อีกงั้นเหรอ?”“เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว!”ผู้คนในห้องพิจารณาคดีต่างก็ตะลึง และแน่นอนว่าความคิดเห็นในโลกออนไลน์ก็คลั่งตามไปด้วยจากนั้นเมเดลีนก็เปิดวิดิโออีกอัน “แม้ว่าคุณจะใช้ชื่อของฉันหลอกให้เจเรมี่เข้าไปในห้องนั้น แต่จะบอกให้นะว่าก่อนที่เจเรมี่จะเข้าไปในโรงแรม เขาได้ทิ้งหลักฐานไว้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเองแล้ว”“...”“ถึงกล้องในโรงแรมจะบังเอิญไม่ทำงานพร้อมกัน แต่ที่จริงแล้วเขาได้เริ
จะมีพยานได้ยังไง?ในตอนที่เขากำลังคิดว่าเมเดลีนพยายามทำให้เขาสับสนมึนงงโดยเจตนา สายตาก็ปรายไปเห็นใครบางคนจู่ ๆ ก็เข้ามาทางประตูด้านข้างชายผู้นั้นนั่งอยู่บนรถเข็นและแม้ว่าสภาพจิตใจจะไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่!ไรอันมองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เขายิงเพื่อฆ่าให้ตายในคืนนั้น แต่กลับยังอยู่ในสภาพปลอดภัยดี“คุณคงคิดไม่ถึงสินะ? ว่าผมยังไม่ตาย” แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บ แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยพลัง“เสียงที่คุณมอนต์โกเมอรีเปิดเมื่อสักครู่นี้เป็นของจริง เพราะในตอนนั้นผมเป็นคนบันทึกมันไว้ด้วยปากกาอัดเสียงเอง” เจ้าหน้าที่ตำรวจจ้องไปที่ไรอันแล้วเอ่ยอย่างแน่วแน่“ศาลที่เคารพและทุกคน ณ ที่นี้ ในนามของตำรวจที่รับใช้ประชาชน ผมขอสาบานว่าไรอัน โจนส์ คือฆาตกรตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังการตายของลาน่า จอห์นสัน ในคืนนั้นเขาพยายามจะฆ่าผม และโยนความผิดทั้งหมดให้คุณเจเรมี่ วิทแมนอีกครั้ง ไรอัน โจนส์คือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้! สิ่งที่คุณมอนต์โกเมอรีพูดทั้งหมดเป็นความจริง”“ไรอัน โจนส์! แกนี่เองที่เป็นคนฆ่าลาน่าแล้วโยนความผิดให้เจเรมี่! แกชั่วร้ายมาก!” คาเลนลุกขึ้นตะโกนแล้วชี้หน้าไรอันด้วยความโกรธแ
เมื่อมองไปยังดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของเจเรมี่ ไรอันก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปในตอนนี้ได้งั้นเหรอ?”เมื่อเปรียบเทียบกับความกังวลใจของเจเรมี่แล้ว เมเดลีนกลับสงบมากกว่า “ไรอัน คุณเองก็เป็นตัวแทนของอินเตอร์โพลเหมือนกัน คุณควรรู้ว่านะ ว่าจะต้องถูกลงโทษทางกฎหมายหากคุณก่ออาชญากรรม”ดวงตาของไรอันมีความชื่นชมเล็ก ๆ เมื่อเห็นว่าเมเดลีนไม่กลัวอะไรเลย“ผมรู้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงปล่อยคุณไปในตอนนี้ไม่ได้” เขาแสยะยิ้ม ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าที่สง่างามและหล่อเหลาของเขาที่เคยอ่อนโยนราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิกลับหายไปจนหมดสิ้น และตอนนี้ก็เหลือไว้เพียงความชั่วร้ายบนรอยยิ้มนั้นไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนอีกเพราะจากพฤติกรรมของไรอัน ทุกคนก็ได้เห็นความจริงอย่างชัดเจนแล้วเขาก่อคดีฆาตกรรมและโยนความผิดให้เจเรมี่ แต่สุดท้ายความชั่วร้ายก็ไม่อาจเอาชนะความยุติธรรมได้ หน้ากากอันสง่างามและอ่อนโยนของเขาถูกเมเดลีนฉีกออกเป็นชิ้น ๆ และตอนนี้ก็เหลือไว้เพียงออร่าแห่งความมืดมนและชั่วร้ายเหมือนซาตานที่ออกมาในยามค่ำคืน“เจเรมี่ ถ้าไม่อยากให้เปิดอะไรขึ้นกับเธอ อย่าทำอะไรวู่วามจะดีที่สุด” ไรอันขู่ด้วยชีวิตข
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเมเดลีน ไรอันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “ผมคงประเมินคุณต่ำไปสินะ เอวลีน”ดูเหมือนเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ และมีความสุขปรากฎในรอยยิ้ม“ผมคิดถูก คุณเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับผมที่สุดแล้ว”“ฉันไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด ไรอัน ที่คุณแพ้เพราะคุณหยิ่งยโสเกินไปต่างหาก”เมเดลีนโจมตีและเริ่มอธิบายในรายละเอียด“ฉันรู้ว่ามีกล้องในห้องทำงานของคุณ และคุณก็ต้องเห็นตอนที่ฉันเข้าไปเพื่อพยายามเปิดตู้เซฟ ฉันก็เลยจงใจบอกคุณว่าฉันต้องการขโมยยาถอนพิษออกมา”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของไรอันเปลี่ยนไปเล็กน้อยย้อนกลับไปตอนนั้นเขาคิดว่าเมเดลีนจริงใจต่อเขา แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเพียงละครที่แสดงตบตาให้เขาเชื่อใจเธอเท่านั้น!“ไรอัน มันไม่มีผู้อาศัยที่ตึกตรงข้ามโรงแรมเกลนเดลหรอกนะ ไม่มีใครจับภาพเหตุการณ์ตอนคุณฆ่าลาน่าในกล้องวงจรปิดได้”“...”สิ่งที่เมเดลีนพูดออกมาทำให้ไรอันตกใจอย่างมากเขาหักพวงมาลัยตรงสี่แยกอย่างกะทันหัน ก่อนจะไปหยุดรถตรงทุ่งหญ้าโล่ง ๆ แห่งหนึ่ง“คุณพูดอะไร? วิดีโอนั่นเป็นของปลอมงั้นเหรอ?” เขาถามในขณะจ้องเมเดลีนด้วยดวงตาที่แดงก่ำเมเดลีนเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอย่างไม่เก
เมื่อเห็นเจเรมี่ที่รีบพุ่งเข้ามา ไรอันก็เล็งปืนไปที่เมเดลีนทันที ก่อนจะแสยะยิ้มที่มีเลศนัยและดูชั่วร้ายออกมา“มากับผม”เขาพูดกับเมเดลีน ก่อนจะจูงมือเธอเดินไปที่ท่าเรือมีเรือยอชท์ลำเล็กจอดอยู่ตรงนั้น จากนั้นไรอันก็ผลักเธอขึ้นไปบนเรือแล้วสตาร์ทเครื่องทันทีเมเดลีนมองย้อนกลับไปก็เห็นเจเรมี่ที่สุดปลายท่าเรือ แต่ก็ทำได้เพียงแค่มองไรอันพาตัวเธอออกไป“ลินนี่” เขาดูกังวลเป็นอย่างมาก ขณะที่มองภาพที่เริ่มห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ เขาก็เปิดแอปบนโทรศัพท์เพื่อค้นหาตำแหน่งของเธอทันที ขณะมองจุดสีแดงเล็ก ๆ ที่เคลื่อนไหวบนหน้าจอ เขาก็รู้สึกได้ว่าหัวใจกำลังเต้นเร็วมากขึ้น‘ลินนี่ ผมจะพาคุณกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน‘ครอบครัวของเราจะต้องกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง’เนื่องจากไรอันพาตัวของเมเดลีนไปทางน้ำ เจเรมี่จึงไม่มีทางเลือกใดนอกจากถอยและกลับออกมาก่อนทันทีที่กลับมาที่คฤหาสน์วิทแมน เขาก็เห็นลิเลียนกำลังเป่าฟองสบู่อยู่ที่สนามหญ้าด้านหน้า ทำให้รู้สึกว่าหัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นมาบ้าง“ลิลลี่” เขาเรียกเบา ๆลิเลียนพึ่งเป่าฟองสบู่เสร็จเมื่อได้ยินเสียง ลิเลียนก็ตะลึงเธอหันร่างเล็ก ๆ มามองก่อ
“คุณจะพาฉันไปไหน” เมเดลีนหยุดฝีเท้า เธอไม่ต้องการเดินต่อไปกับเขาไรอันจึงหันมามอง “คุณมีทางเลือกอื่นนอกจากตามผมไปด้วยเหรอ?”“ไรอัน ถ้าคุณอยากหนีแล้วพาฉันไปด้วย ฉันจะกลายเป็นภาระของคุณนะ”ไรอันยิ้มเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้อย่างช้า ๆ “แล้วคิดว่าผมจะปล่อยคุณไป ถ้าพูดแบบนี้งั้นเหรอ? ถึงตอนนี้ผมจะไม่มีอะไร แต่อย่างน้อยผมก็มีคุณ”“...”“เจเรมี่ชนะแล้วยังไง? มันคงจะเจ็บปวดสำหรับเขามากกว่า หากต้องสิ่งที่ต้องเสียไปคือคุณ ไม่ใช่ชื่อเสียงและฐานะทางสังคมทั้งหมดที่เขามี” ไรอันตอบอย่างมั่นใจเป็นไปไม่ได้เลยที่เจเรมี่จะยอมทิ้งผู้หญิงคนนี้เพื่อชื่อเสียง ความมั่งคั่ง และครอบครัวของตัวเอง‘ก่อนหน้านี้เขาแกล้งทำเป็นเสียใจที่หลงรักเมเดลีน แต่ทั้งหมดเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น‘หึ‘ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะแสดงละครเก่งกันขนาดนี้’เขาจ้องเธอสักพักก่อนจะเดินต่อเมเดลีนไม่มีทางเลือกอื่น ไรอันโยนโทรศัพท์ของเธอลงทะเลไปแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เจเรมี่ค้นหาตำแหน่งของเธอเจอไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามจากนั้นฝนก็เริ่มตก และด้วยฝนที่มาพร้อมลมจากท้องทะเลทำให้บรรยากาศเริ่มหนาวเย็นเมเดลีนชำเลืองมองบาดแผ
เมเดลีนพยายามขัดขืนต่อสู้ แต่ดูเมือนว่าไรอันจะมีซาตานร้ายครอบงำอยู่ ดวงตาของเขาที่เป็นสีแดงจากการตากฝนมาเป็นเวลานานจ้องมองคนที่อยู่ข้างใต้อย่างน่ากลัวเขาฉีกเสื้อชีฟองสีขาวของเธอออกอย่างแรง ก่อนจะระดมจูบร่างบางโดยที่ไม่สนใจเลยว่าเธอกำลังต่อต้านแค่ไหนเมเดลีนรู้ได้เลยทันทีว่าตอนนี้ไรอันเสียสติไปแล้วจริง ๆ แต่เธอจะไม่มีวันยอมแพ้เมื่อเสียงฉีกเสื้อดังขึ้นอีกครั้ง แขนเสื้อของเมเดลีนก็ถูกฉีกออกไปเธอยกเท้าเพื่อจะเตะไรอันออกไป แต่แรงของเธอกลับเทียบไม่ได้เลยกับอีกฝ่ายเมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักตัวที่มากกว่าของไรอัน เมเดลีนก็รู้แล้วว่าหากเธอไม่สามารถสลัดเขาออกไปได้ เธออาจจะต้องโดนเขารังแกเข้าจริง ๆเมเดลีนรีบกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นมีดปอกผลไม้บนโต๊ะกาแฟ ร่างบางกัดฟันแน่นแล้วพยายามขยับตัวไปที่ริมโซฟาแต่เหมือนไรอันจะรู้ทันเขาจึงไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ทำอย่างที่ใจหวังเขาจับใบหน้าของเมเดลีนเอาไว้แน่นใบหน้าของเธอยังคงเปียกปอนไปด้วยฝน ทว่าถึงอย่างนั้นกลับยังคงดึงดูดให้เขาไม่อยากจะละสายตาไปไหนคิ้วและใบหน้าที่รับกันอย่างลงตัวกำลังสะท้อนให้เห็นในรูม่านตาของเขาราวกับภาพวาดแม้ว่าจะผ่านม
อดัมไม่ได้ให้เชอร์ลี่ย์เข้ามาด้วย ในขณะที่เขาพาทั้งเมเดลีนและเจเรมี่เข้ามาในห้องทำงานตัวเองห้องนั้นกว้างขวางและตกแต่งภายในอย่างหรูหรากว่าที่เห็นในโรงพยาบาล มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ดูค่อนข้างล้ำสมัยวางอยู่รอบ ๆเมเดลีนยืนอยู่ข้าง ๆ เฝ้าดูอดัมทำการทดสอบต่าง ๆ กับเจเรมี่ในที่สุดอดัมก็เก็บตัวอย่างเลือดจากเจเรมี่มาวางบนอุปกรณ์เพื่อทำการวินิจฉัยทันทีเธอรู้สึกกระวนกระวายใจในระหว่างที่รอถึงอย่างนั้นเธอก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าสีของตัวอย่างเลือดเจเรมี่ไม่ได้เข้มอย่างที่เคยเป็น ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่ดีประมาณสิบนาทีต่อมา ผลก็ออก“ทุกอย่างโอเคไหมอดัม?” เมเดลีนเอ่ยถาม“ไม่ต้องกังวลลินนี่ อาการผมจะดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน” เจเรมี่จับมือของเธอไว้แล้วปลอบโยน“ถ้าคุณอาการดีขึ้นมากแล้วทำไมวันนั้นคุณถึงทรุดลงกะทันหันแบบนั้นล่ะ?” เธอยังคงเอ่ยอย่างวิตกอดัมไม่ได้พูดอะไร เขาไล่สายตาผ่านรายงานวินิจฉัยสองครั้ง ก่อนจะมีแววตาเป็นประกาย ทว่าในไม่ช้าก็ต้องหายไป“ทุกอย่างดูดีทีเดียว ไม่มีอะไรผิดปกติ” อดัมพูดขณะที่มองเมเดลีน “ไม่ต้องกังวลมากไป เขากำลังค่อย ๆ ฟื้นตัวน่ะ”ได้ยินอย่างนั้นเมเดลีนก็ถอนหายใจโล่งอก
เมเดลีนเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันที่เห็นใครบางคนลงมาจากรถ “เชอร์ลี่ย์ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?”เชอร์ลี่ย์ยิ้มอย่างเป็นมิตร “ฉันบอกว่าจะกลับบ้านไม่ใช่เหรอคะ นี่บ้านฉันน่ะ”เมเดลีนชี้ไปที่วิลล่าขนาดเล็กข้างหน้า “นี่คือบ้านของคุณเหรอคะ?”“ค่ะ ที่นี่คือบ้านของฉัน” เชอร์ลี่ย์พยักหน้าอย่างมั่นใจ จากนั้นเธอก็เดินไปหาอดัมด้วยท่าทางจริงจัง “อดัม พี่สาวกลับบ้านทั้งทีทำไมดูไม่มีความสุขเลยล่ะ”ข้อมูลใหม่นั้นทำให้เมเดลีนรู้สึกงุนงง “เชอร์ลีย์ คุณเป็นพี่สาวของอดัมเหรอคะ?”“ค่ะ ฉันเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของเขา เรามีพ่อและแม่คนเดียวกัน” เชอร์ลี่ย์แตะไหล่ของอดัมเบา ๆ แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “อดัม ทำไมไม่แนะนำเพื่อนให้ฉันรู้จักเลยล่ะ?”อดัมได้ยินอย่างนั้นก็ฝืนยิ้มออกมาเบา ๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องแนะนำหรอก เพราะดูเหมือนทุกคนจะรู้จักกันอยู่แล้ว” เขาก้าวไปข้างหน้าราวกับว่าเขาจงใจหลีกเลี่ยงเชอร์ลี่ย์ “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”เชอร์ลี่ย์ยิ้มอย่างสดใส "ฉันไม่ได้อยู่บ้านมาหลายปี ฉันก็ควรจะได้ชื่นชมบ้านหลังนี้ที่เคยอยู่บ้างนะ”ขณะที่พูดเธอก็เดินนำเข้าไปในบ้านก่อนอดัมเชิญเมเดลีนและเจเรมี่เข้าไป “เข้ามาสิ”เมเดลีนพยักห
อดัมอึ้งไปครู่หนึ่ง “ว่าไงนะ? คุณกำลังพูดอะไร? คุณเป็นใคร? เอวลีนอยู่ไหน?”“จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ? คุณก็เหมือนพ่อแม่ของคุณนั่นแหละอดัม ไร้หัวใจและโหดร้าย” เชอร์ลี่ย์ล้อเลียนอย่างเย็นชาอดัมเงียบไปชั่วครู่ก่อนสุดท้ายเขาจะตอบสนองกลับมา“เธอเองเหรอ” ราวกับว่ามีบางอย่างมากระตุ้นภายในใจเขาตกตะลึงปนประหลาดใจ“ใช่ ฉันเอง” เชอร์ลี่ย์ตอบอดัมอย่างไม่ลังเล “เดี๋ยวเร็ว ๆ นี้เราก็คงได้พบกัน แม้ว่าฉันไม่คิดว่านายจะตั้งตารอฉันหรอกใช่ไหม?”อดัมเงียบไปก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “ทำไมเป็นเป็นเธอที่รับโทรศัพท์? เอวลีนอยู่ที่ไหน? เจเรมี่เป็นยังไงบ้าง?”คนฟังเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ฉันไม่ได้บอกหรอกเหรอ? ว่าเดี๋ยวเขาก็ตายแล้ว ภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็จะต้องใจสลายไปด้วยน่ะ”“พูดบ้าอะไรเนี่ย! เขาไม่มีทางตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตได้!” น้ำเสียงของอดัมเอ่ยออกมาด้วยความตื่นตระหนก “ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเล่นแบบนี้แน่!”อดัมรีบวางสายรอยยิ้มของเชอร์ลี่ย์กว้างขึ้นในขณะที่จ้องหน้าจอที่ค่อย ๆ หรี่แสงลงช้า ๆ“เป็นใครกันถึงมาห้ามไม่ให้ฉันเล่นน่ะอดัม? เป็นตัวแทนของคนสองคนนั้นที่ตายไปแล้วเมื่อหลายปีก่อนงั้นเหรอ? ฮึ”เธอเย้ยหยันแ
“เจเรมี่!”เมเดลีนพบว่าไม่สามารถทนรออยู่หน้าห้องน้ำได้อีกต่อไป เธอเปิดประตูแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ สิ่งที่เห็นคือเจเรมี่ที่มีสีหน้าโกรธเกรี้ยวและเย็นชา ขณะที่ร่างของเชอร์ลี่ย์ล้มลงข้างอ่างอาบน้ำเมเดลีนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็รีบเช็คก่อนว่าเจเรมี่เป็นอย่างไรบ้าง แต่ด้วยความมีมารยาทเธอจึงรีบเข้าไปหาและพยุงเชอร์ลี่ย์เธอเพิ่งเอื้อมมือออกไป แต่โดนเจเรมี่จับแขนไว้แน่น เขาจับไว้แรงมากจนเธอรู้สึกเจ็บ“อย่าไปแตะต้องตัวเธอ”เจเรมี่เอ่ยเสียงเย็นสุดขีด“เจเรมี่?” เมเดลีนมองแววตาที่เฉียบคมของเขา “คุณโอเคไหม เจเรมี่? เกิดอะไรขึ้น ทำไมเชอร์ลี่ย์…” “ไม่ต้องกังวลค่ะ คุณนายวิทแมน ฉันไม่เป็นไร” เชอร์ลี่ย์จับข้างอ่างขณะที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง เธอชำเลืองมองสายตาเย็นชาของเจเรมี่จากหางตาก่อนจะหันไปยิ้มให้เมเดลีน“เจเรมี่ไม่ต้องการให้คุณสัมผัสฉันเพราะฉันทำเข็มหักโดยไม่ตั้งใจน่ะค่ะ มันคงจะแย่ถ้าคุณได้รับบาดเจ็บเพราะความผิดพลาดที่ไม่เป็นมืออาชีพของฉัน”จากนั้นเมเดลีนก็เห็นเข็มเล็ก ๆ หักยื่นออกมาจากแขนของเชอร์ลี่ย์หญิงสาวดึงเข็มออกมาอย่างใจเย็นโดยที่คิ้วเรียวของเธอไม่แม้แต่จะขยับเข้าหากัน“เจเร
เธอสัมผัสแขนของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล เพราะอุณหภูมิจากร่างกายของเจเรมี่ไม่เพิ่มขึ้นเลย “อุณหภูมิร่างกายของเขาต่ำเพราะเขาแช่น้ำแข็งน่ะค่ะ” เสียงของเชอร์ลี่ย์ดังขึ้นจากด้านหลังเมื่อหันไปมองเมเดลีนก็เห็นเชอร์ลี่ย์ค่อย ๆ เดินเข้ามาพร้อมเข็มฉีดยาในมือของเธอ“คุณช่วยรอข้างนอกได้ไหมคะคุณนายวิทแมน? ฉันไม่ชอบให้ใครมาเฝ้าเวลาต้องรักษาคนไข้น่ะค่ะ”เมเดลีนเข้าใจและลุกขึ้น แต่เจเรมี่จับมือเธอไว้เสียก่อน“อย่าไปนะลินนี่”“ไม่เป็นไรเจเรมี่ ให้เชอร์ลี่ย์ฉีดยาให้คุณแล้วคุณจะไม่เป็นไร โอเคไหม?” เมเดลีนเอ่ยราวกับว่าเขาเป็นเด็ก ก่อนจะปล่อยมือ“ขอบคุณนะคะ เชอร์ลี่ย์”“ด้วยความยินดีค่ะ ฉันยินดีที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือค่ะ” เชอร์ลี่ย์ยิ้มเล็กน้อยเมเดลีนได้ยินอย่างนั้นก็ไม่คิดมากก่อนจะเดินออกไปเธอมองเจเรมี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดประตู เห็นแววของเขาเริ่มมีสีแดงจาง ๆเขากำลังมองเธออย่างอ้อนวอนจู่ ๆ เมเดลีนก็รู้สึกว่าอยากจะเข้าไปอยู่ข้าง ๆ เขา แต่เชอร์ลี่ย์ก็หันกลับมาตรวจสอบว่าเมเดลีนออกไปจากห้องน้ำหรือยังตอนนั้นเองที่เมเดลีนเห็นรูปร่างสมส่วนของเชอร์ลี่ย์ซึ่งเปียกโช
เมเดลีนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งขณะที่ชำเลืองไปมองประตูห้องน้ำที่ปิดแน่น“อีกนิดเดียวมันก็จะจบแล้วเจเรมี่ อดทนอีกนิด“คุณจะปลดปล่อยความเจ็บปวดได้เหมือนที่ผ่านมาไง“ฉันเป็นหมอของคุณ แต่ฉันก็เป็นเพื่อนคุณด้วย ฉันช่วยคุณได้ อา…”เมเดลีนได้ยินเสียงของเชอร์ลี่ย์ดังออกมาไม่หยุดจนกระทั่งเธอกระซิบด้วยน้ำเสียงลุ่มหลงเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเหตุการณ์ภายในห้องน้ำก็เงียบลงพนักงานมองไปที่ห้องน้ำด้วยสายตาแปลก ๆ ก่อนที่จะหันไปพูดกับเมเดลีน“ผมเอาน้ำแข็งไปไว้ในห้องน้ำหมดแล้วครับ คุณนายวิทแมน ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมติดต่อเราได้เลยนะครับ”แล้วเมเดลีนก็ได้สติกลับคืนมาสู่ความจริง “ขอบคุณค่ะ”“ด้วยความยินดีครับ” พนักงานยิ้มเล็กน้อยและจากไปเมเดลีนลากกระเป๋าเดินทางของเชอร์ลี่ย์ไปที่ห้องน้ำ เมื่อเอื้อมมือไปเปิดประตูก็พบว่าประตูถูกล็อคจากด้านใน“ฉันเอาของขึ้นมาให้แล้วนะคะ เจเรมี่เป็นยังไงบ้าง?” เมเดลีนถามในขณะที่ไม่มีเสียงตอบรับมาจากข้างใน“เชอร์ลี่ย์? เชอร์ลี่ย์? เจเรมี่! เจเรมี่!" เธอเริ่มตื่นตระหนก และไม่สามารถทนต่อความเงียบในขณะนี้ได้อีกต่อไปก๊อก ก๊อก ก๊อก เธอเคาะประตูซ้ำ ๆ จนข้อนิ้วเริ่มแดง“
เมเดลีนขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว ขณะที่ก้าวออกไปเธอก็เห็นใครบางคนที่คุ้นเคยอยู่ตรงทางเดิน“เชอร์ลี่ย์?” เมเดลีนเรียกออกมาอย่างลังเลผู้หญิงที่เดินห่างออกไปเล็กน้อยหยุดเดินแล้วหันมามอง “ใช่ ฉันเองค่ะ คุณนายวิทแมน” เชอร์ลี่ย์ยิ้มและอธิบาย “ฉันลืมของบางอย่างไว้ในห้อง ก็เลยกลับมาหยิบ”เมเดลีนวิ่งไปหาเชอร์ลี่ย์ ผู้หญิงคนนี้ไม่ต่างจากผู้ช่วยชีวิตของเธอในขณะนี้“พิษในร่างกายของเจเรมี่กำเริบกะทันหัน คุณเคยรักษาเขาใช่ไหมเชอร์ลี่ย์? คุณน่าจะช่วยเขาได้อีกครั้ง! ได้โปรดเถอะค่ะ ตอนนี้เขากำลังเจ็บปวดมาก!”ในตอนนั้นสีหน้าของเชอร์ลี่ย์ก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา “ตอนนี้เจเรมี่อยู่ที่ไหนคะ?”“ในห้องค่ะ!”“รีบพาฉันไปที่นั่นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!” เชอร์ลี่ย์รีบเดินตามเมเดลีนไปเมื่อเข้าไปในห้องเมเดลีนก็เห็นว่าเจเรมี่สามารถลุกขึ้นนั่งพิงกับเตียงได้แล้ว เธอจึงรีบวิ่งไปหาเขาทันที “คุณจะไม่เป็นไรเจเรมี่ เชอร์ลี่ย์บังเอิญกลับมาที่โรงแรมเพราะลืมของเอาไว้ เธอสามารถช่วยคุณได้แน่!”เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาคมกริบก็หรี่ลง และเมื่อเห็นเชอร์ลี่ย์เดิยเข้ามาหา เขาก็ขยับตัวออกอย่างรังเกียจเชอร์ลี่ย์เองก็เห็นความไม่พ
เมเดลีนวิ่งออกจากห้องน้ำและเห็นเจเรมี่นอนกองอยู่บนพื้นข้างเตียง“เจเรมี่!”เธอรีบวิ่งไปคุกเข่าลงข้าง ๆ เขาอย่างลนลาน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันราวกับว่าเขากำลังทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส หัวใจของเมเดลีนเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก“เกิดอะไรขึ้นน่ะเจเรมี่? ยาพิษออกฤทธิ์อีกแล้วใช่ไหม?”เธอดึงไหล่ของเจเรมี่เพื่อให้เขาพิงมาที่ตัวเธอหากทำได้เธอก็อยากจะพาเขาไปที่เตียง แต่เธอกลับไม่แข็งแรงพอ“เกิดอะไรขึ้น? อดัมบอกเองนี่ว่ามันจะเกิดขึ้นไม่บ่อย แล้วทำไมตอนนี้อาการของคุณกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว”เมเดลีนกระวนกระวายขณะที่น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ และหยดน้ำตาใส ๆ ของเธอก็ตกลงบนใบหน้าของเจเรมี่“ไม่ต้องกังวลลินนี่” เจเรมี่พูดผ่านความเจ็บปวด พลางเอื้อมมือไปลูบแก้มของเธอเบา ๆ “ผมชินกับความเจ็บปวดแล้ว มันจะเจ็บไม่นาน เดี๋ยวผมก็อาการดีขึ้น”เขาปลอบโยนในขณะที่คลี่ยิ้มเพื่อคลายความกังวลของอีกฝ่ายแต่ยิ่งเจเรมี่คำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของเธอมากเท่าไหร่ หัวใจของเมเดลีนก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น“อดัม ฉันจะโทรหาอดัม เขารู้ว่าต้องทำยังไง!” เมเดลีนรีบควานหาโทรศัพท์แล้วโทรหาอดัมทันทีแต่กลับไม่มีใครรับ
“สำหรับฉัน?” เมเดลีนรับของขวัญมาด้วยความสับสน ก่อนจะเห็นว่ามีข้อความติดมาด้วยในข้อความเขียนเอาไว้ว่า : [ฉันรีบไปหน่อยก็เลยไม่มีเวลาหาของขวัญสำหรับการเจอกันที่ดีกว่านี้ให้คุณ แต่หวังว่าคุณจะชอบสิ่งนี้นะคะ] ลงชื่อเชอร์ลี่ย์นี่เป็นของขวัญหลังจากพบกันครั้งแรกจากเชอร์ลี่ย์งั้นเหรอ?เมเดลีนรู้สึกประหลาดใจ “คุณมีข้อมูลติดต่อเชอร์ลี่ย์ไหมเจเรมี่? ฉันอยากจะขอบคุณเธอ”“ไม่” เจเรมี่ตอบห้วน ๆ “ไปกันเถอะ ส่วนอันนี้ก็ฝากพนักงานเอาไว้ที่นี่”“ทำแบบนั้นมันจะไม่ดูเสียมารยาทไปเหรอคะ?” เมเดลีนครุ่นคิดและตัดสินใจเอาของสิ่งนั้นกลับไปที่ห้องด้วยในที่สุด เจเรมี่ไม่พูดอะไรมากแล้วกลับไปที่ห้องพร้อมเมเดลีนระหว่างทางกลับเธอเปิดกล่องแล้วพบชุดอโรมาเทอราพีข้างในรูปร่างของขวดนั้นเป็นรูปงูดูแปลกตาเมเดลีนที่ไวต่อกลิ่นและเชี่ยวชาญด้านการผสมน้ำหอม เธอจึงลองดมดูแต่นอกจากกลิ่นปกติที่เคยดมแล้ว เธอสังเกตว่าสิ่งนี้มีกลิ่นบางอย่างที่เธอไม่เคยได้กลิ่นจากที่ไหนมาก่อนอยู่ด้วย“วางมันลงแล้วไปกันเถอะ ลินนี่ เดี๋ยวแผนวันนี้เราพังหมดนะ” น้ำเสียงราวกับว่าเจเรมี่กำลังเตือนเธอ เขาดูเกลียดของขวัญชิ้นนี้จริง ๆคำพูดของ