Share

บทที่ 117 หวนคืน

ณ ผืนป่าพิสดารท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนมีหนึ่งถ้ำโบราณลึกลับซ่อนตัวอยู่ยากจะสังเกตุได้โดยง่าย แม้บริเวณทางเข้าจะเป็นโพรงขนาดใหญ่ก็จริงทว่าเมื่อเข้ามาแล้วกลับไร้แสงสว่างใด ๆ ส่องผ่านได้ทั้งสิ้น ผนังถ้ำทั้งหมดล้วนเป็นสีดำสนิทราวกับถูกย้อมด้วยน้ำหมึกที่ไหลลงมาพาดผ่านเกิดเป็นริ้วคลื่นแปลกตา บนพื้นถ้ำมีหินงอกหินย้อยคละเคล้าไปกับเสียงน้ำหยดเป็นจังหวะ ให้ความรู้สึกราวกับเป็นเสียงคร่ำครวญของวิญญาณชั่วร้ายที่ถูกจองจำอย่างทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส ความหนาวเย็นยะเยือกที่แผ่ปกคลุมได้ก่อเกิดเป็นความรู้สึกประหลาดราวกับมีสายตาที่มองมาจากเงามืดคงไม่เกินจริงไปนัก

แสงไฟจากคบเพลิงได้เผยให้เห็นถึงภาพวาดโบราณที่ลบเลือนไปตามกาลเวลา ภาพเหล่านี้ปรากฏเป็นรูปร่างที่หลากหลาย บ้างก็เป็นภาพของมนุษย์โบราณที่สวมเครื่องประดับแปลกประหลาดสัญลักษณ์ที่ไม่รู้จัก บางภาพก็แสดงให้เห็นพิธีกรรมลึกลับบางอย่างที่ชวนให้รู้สึกขนลุก ยิ่งลึกลงไปเท่าใดความมืดมิดยิ่งทวีเพิ่มขึ้นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้าแม้จะมีแสงสว่างเล็กน้อยจากคบเพลิงตลอดเส้นทางเดินก็ตาม ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงส่วนของห้องโถงใหญ่ที่มีแท่นหินขนาดใหญ่นับสิบต้นต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 118 การปรุงโอสถของเทพโอสถบรรพกาลและเซียนโอสถทั้งเก้า

    วันเวลาในดินแดนพิภพแห่งนี้ได้หมุนเวียนไปตามวัฏจักร ตรงลานกว้างหน้าเรือนหลังสีขาวบริสุทธิ์ยามนี้ต่างตลบอบอวนไปด้วยกระแสพลังลมปราณฟ้าดินที่มีความเข้มข้นอย่างยิ่งยวด ภายใต้การชักนำกระแสพลังเหล่านี้อย่างเชี่ยวชาญนั้น ปรากฎเป็นหนึ่งสมบัติวิเศษที่มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับดอกบัววิเศษได้ห่อหุ้มวัตถุทรงกลมตรงด้านหน้ายิ่งทอแสงเปล่งประกายด้วยแสงสีเขียวประกายรุ้งที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายอหังการ หากสังเกตมองเข้าไปจะเห็นว่าแสงสีอันเกิดจากปราณธาตุทั้งสี่ต่างลอยวนเวียนอยู่ด้านในคล้ายกับกำลังเร่งดูดซับรักษาให้ได้มากที่สุด“รุ่นเยาว์ผู้นี้ช่างโชคดียิ่ง ใครจะคาดคิดว่าเทพโอสถบรรพกาลเสวี่ยจิงจะทุ่มเทรักษาด้วยพลังปราณต้นกำเนิดรวมไปถึงโอสถทิพย์ระดับตำนานที่มีฤทธิ์วิเศษเลิศล้ำจำนวนไม่ถ้วนถึงเพียงนี้ นับวันกลิ่นอายความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณยิ่งทวีความเหนือชั้นกว่าเขตขั้นเดิมของเขายิ่งนัก…” ห่าวหรานหรือเทพแห่งโชคชะตาบรรพกาลเอ่ยขึ้นขณะที่ยังคงจ้องมองไปยังเบื้องหน้า“กลิ่นอายของรุ่นเยาว์ผู้นี้มีความคล้ายคลึงกับเจ้าเด็กหน้าเหม็นผู้นั้นอยู่ไม่น้อย เสียดายที่อีกฝ่ายได้ไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากองค์เทียนจวินหลายปี หาก

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 119 โอสถหมื่นชีวันอนันต์มหรรณพ

    บรรดาเซียนโอสถทั้งเก้าต่างระดมเรียกเปลวเพลิงเฉพาะของตนออกมาช่วยหลอมสมุนไพรในครั้งนี้ ขณะที่สายตายังคงจับจ้องทัศนาไปยังเตาหลอมโอสถมหาปทุมมาจรัสดาราสวรรค์ตรงด้านหน้า ในหัวนั้นพยายามขบคิดอยู่ในใจว่าครั้งนี้ท่านอาจารย์กำลังหลอมสร้างปรุงโอสถชนิดใดกัน ด้วยจำนวนสมุนไพรระดับเซียน สมุนไพรระดับสวรรค์รวมไปถึงสมุนไพรระดับตำนานที่ถูกเรียกใช้อย่างมากมายในครั้งนี้นับว่าเป็นการปรุงโอสถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยพบเจอมาคงไม่เกินจริงไปนัก“โอสถที่ใช้พลังปราณจากเซียนโอสถในเขตขั้นมหาอัครพรหมยุทธ์วิญญาณหล่อหลอมสมุนไพร ด้วยจำนวนที่มากมายถึงเพียงนี้หรือว่าท่านอาจารย์กำลังจะปรุงโอสถ…” หนึ่งในเซียนโอสถเอ่ยขึ้นด้วยความตะลึงพรึงพรวด“โอสถหมื่นชีวันอนันต์มหรรณพ หนึ่งในโอสถระดับตำนานที่มีฤทธิ์อาณุภาพในการสร้างสุดยอดกายเนื้อและรวบรวมจิตวิญญาณ แม้ข้อจำกัดนั่นคือพรสวรรค์ของผู้ที่กลืนกินโอสถว่ามีมากน้อยเพียงใด แต่อย่างไรแล้วคุณสมบัติวิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ของสมุนไพรที่ถูกหลอมสร้างย่อมส่งผลให้ผู้นั้นเป็นสุดยอดฝีมือได้อย่างไม่ยากเลยทีเดียว...” เซียนโอสถที่นั่งอยู่ข้างกันเอ่ยเสริมขึ้น เมื่อนึกถึงบันทึกตำราโอสถของอาจารย์ที่ในค

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 120 ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง

    ณ ห้วงทะเลสี่มหาสมุทรพื้นที่โดยรอบล้วนเต็มไปด้วยผืนน้ำสีครามเข้มทอประกายระยิบระยับราวกับภาพวาดอันงดงามที่ยากจะพรรณนาได้ หน้าเรือนหลังสีขาวพิสุทธิ์มีสมบัติวิเศษระดับต้นกำเนิดที่ยามนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นดอกเบญจมาศสีขาวประกายรุ้งอันบริสุทธิ์ ยามเมื่อลมพัดผ่านกลีบดอกไม้ที่เบ่งบานก็จะพลิ้วไหวราวกับนางระบำอันอ่อนช้อยอีกทั้งยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมรัญจวนชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มสงบสุขราวกับอยู่ในสรวงสวรรค์ ใจกลางดอกเบญจมาศพิสุทธิ์ดอกนี้มีร่างกายของทารกเพศชายหน้าตาน่ารักน่าชังอยู่ผู้หนึ่ง แม้ภายนอกจะดูเป็นเพียงทารกในวัยไม่ถึงสองปีก็จริงทว่าหากพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว รากฐานพลังบ่มเพาะในเขตขั้นจักรพรรดิวิญญาณด้วยช่วงอายุเพียงเท่านี้ ทอดสายตาไปทั่วทั้งมหาพิภพยังไม่เคยปรากฎให้เห็นคงไม่เกินจริงไปนักเหล่าบรรดาเทพบรรพกาลทั้งสามและเซียนโอสถทั้งเก้าต่างเฝ้ารอคอยการตื่นขึ้นของเด็กน้อยผู้ที่ได้รับโอสถหมื่นชีวันอนันต์มหรรณพ หนึ่งในโอสถที่มีความวิเศษเหนือล้ำเป็นอันดับต้น ๆ ในมหาพิภพ มากไปกว่านั้นคล้ายกับว่าเปลวเพลิงสีทองประกายรุ้งนั่นได้ดูดซับจิตวิญญาณที่กระจัดกระจายให้หวนคืนกลับมาทีละส่วนได้ไม่น้อย ยิ่งร่างทารก

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 121 ชีวิตใหม่ของหนิงอ้าย

    วันเวลาผ่านพ้นไปได้นับสิบปีแล้วของมหาพิภพห้วงมิติพิสดาร ยามนี้หนิงอ้ายได้เติบโตใช้ชีวิตตามช่วงวัยสิบสองสิบสามปีอย่างสมบูรณ์เพียบพร้อมในทุกด้านเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้เขาไม่ต้องเร่งเร้าดูดซับพลังลมปราณเขาก็เป็นถึงราชทินนามเทวะวิญญาณ ด้วยความล้ำลึกของโอสถหมื่นชีวันอนันต์มหรรณพรวมไปถึงโอสถวิเศษอื่น ๆ มากมายที่ได้รับการบำรุงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งประสานเข้ากับเคล็ดวิชาสยบอัสนีเมฆาที่ได้รับยกระดับให้เป็นถึงบทเวทย์ระดับบรรพกาลแล้ว ไม่ว่าจะยามนอนหรือยามตื่น ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามร่างกายนี้ยังคงชักนำกระแสพลังลมปราณฟ้าดินโดยรอบไหลเวียนสู่มหาสมุทรทะเลลมปราณอย่างต่อเนื่อง สถานที่แห่งนี้ยังอบอวลไปด้วยกระแสพลังบริสุทธิ์ยิ่งยวดไม่รู้กี่ร้อยพันเท่า มากไปกว่านั้นสายเลือดแห่งเผ่าพันธุ์บรรพกาลทั้งสองได้ค่อย ๆ สอดประสานกันอย่างลงตัว จึงยิ่งส่งเสริมให้ศักยภาพในทุกด้านของหนิงอ้ายถูกกระตุ้นอย่างถึงขีดสุดและแน่นอนว่าความทรงจำเดิมทั้งหมดก็หวนคืนกลับมาแล้วเช่นกันย้อนกลับไปช่วงที่หนิงอ้ายได้รับความทรงจำเดิมทั้งหมด ยอมรับว่าเขานั้นไม่สามารถรับมือตั้งรับได้ทันอย่างแท้จริง ด้วยเพราะว่าครั้งนี้ถือว่าเป็นชี

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 122 ปะทะอสูรมัจฉาวารีพิษมรกต

    “ผลึกอัมพรอัคคีพิสุทธิ์ เป็นอีกหนึ่งแร่โลหะสำคัญที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างหลากหลายทั้งการหลอมสร้างปรุงโอสถหรือการสร้างศาตราวุธให้มีความแข็งแกร่ง สิ่งนี้ถูกซ่อนตัวอยู่ในหมู่เกาะพิศดารที่ตรงน่านน้ำด้านหน้าเป็นที่พำนักของเผ่าพันธ์มัจฉาวารีพิษมรกต สัตว์อสูรระดับมายาขั้นสูงย่างก้าวสัตว์อสูรระดับตำนาน ที่ถูกพลางสายตาด้วยมหาค่ายกลธรรมชาติที่มีพลังลึกล้ำสายหนึ่ง การจะพบเจอสถานที่แห่งนี้คงต้องรบกวนเจ้าเสียแล้วหนิงอ้าย...” ฟานหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะที่เรือเหาะลำนี้ได้เหินทะยานลัดฟ้าอยู่เหนือน่านฟ้าของทะเลมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล ระดับความเร็วนั้นกล่าวว่าเหนือชั้นสมกับเป็นสมบัติวิเศษระดับตำนานอย่างแท้จริง“ยามนี้ข้ายังไม่อาจเชี่ยวชาญในวิชามหาจักษุสวรรค์อนันตมายามากนัก หากม่านพลังธรรมชาตินั่นไม่มีความพิศดารมากเกินไป ข้าผสานใช้ไปกับจิตวิญญาณแล้วย่อมสามารถค้นพบตำแหน่งที่ตั้งได้ไม่ยาก อย่างไรสิ่งที่ควรกังวลนั่นคืออสูรมัจฉาวารีพิษมรกต เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับนี้ในพื้นที่ไม่คุ้นชินคงเป็นเรื่องที่อันตรายยิ่ง พวกเราต้องระวังให้มากนะขอรับ...” หนิงอ้ายตอบกลับไปด้วยความเคร่งเครียดไปไม่ต่างกัน เพรา

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 123 เผชิญบททดสอบ

    ท่ามกลางมหานทีอันสงัดเงียบ ฟานหลิงได้แผ่ซ่านกระแสพลังปราณเป็นม่านพลังกำจายออกรอบด้านด้วยความระวัง บังเกิดเป็นเพลิงสีขาวบริสุทธิ์ที่ประสานเข้ากับปราณธาตุเหมันต์อย่างลงตัวได้คลอบคลุมรอบบริเวณเอาไว้อย่างแข็งแกร่งยิ่ง ชายหนุ่มไม่รอช้าตวัดมือกลางอากาศตรงหน้าขีดเขียนเป็นอักขระโบราณชุดหนึ่งเพื่อเสริมม่านหลังนี้อีกชั้นที่แฝงไปด้วยพลังมายาแห่งจิ้งจอกเหมันต์เพื่ออำพรางพวกเขาทั้งสองจากสายตาของผู้ใดก็ตามในสถานที่แห่งนี้ตรงที่นั่งด้านข้างนั้นหนิงอ้ายได้นั่งดูดซับโอสถวิเศษและโคจรทั่วร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายให้ได้มากที่สุด ฟังว่าเกาะพิศดารแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยเผ่าพันธ์ของสัตว์อสูรที่มีความแปลกประหลาดที่แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย หนึ่งในนั้นย่อมเป็นอสูรมัจฉาวารีพิษมรกตที่พวกเขาพึ่งสังหารไปได้เมื่อครู่ ทว่ายังคงมีตนตนประหลาดพิสดารที่หลีกซ่อนเร้นอยู่ในสถานที่แห่งนี้อีกมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นการไม่สร้างความรำคานใจและก้าวล่วงล้ำเขตแดนพิเศษจึงเป็นสิ่งที่สมควรกระทำมากที่สุด และด้วยฤทธิ์ของโอสถทิพย์ระดับแปดที่มีความบริสุทธิ์ถึงสิบส่วนนั้นกล่าวว่าย่อมมากไปด้วยคุณวิเศษอย่างแท้จริง กระแสพลังในเม็ดโอสถ

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 124 ความสามารถที่เหนือล้ำ

    “การทดสอบครั้งนี้ข้าจะลดระดับพลังวิญญาณลงมาก็จริง แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะพ่ายแพ้กับเล่ห์กลของพวกเจ้ารุ่นเยาว์ทั้งสองได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ตัดแบ่งผลึกอัมพรอัคคีพิสุทธิ์นี้ไปเสีย ข้าอนุญาติ...” ไป๋เฉินถอนหายใจออกมาพร้อมกับเรียกคืนพลังปราณให้หวนคืนสู่ระดับสุดยอดอีกครั้งหากจะกล่าวโทษทั้งสองก็คงไม่ใช่ไปเสียทีเดียว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงหากต้องปะทะรับมือเข่นฆ่าสังหารในชีวิตจริงที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมมากมายที่สามารถพลิกเอาชนะฝ่ายศัตรูได้ ด้วยเพราะในสนามรบนั้นย่อมสามารถใช้ทุกวิถีทางในการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้ทั้งสิ้น สิ่งที่น่าชื่นชมนั่นคือเด็กหนุ่มทั้งสองด้วยช่วงวัยที่อายุน้อยปานนี้แต่สามารถนับมาปรับใช้ได้อย่างชาญฉลาดคล้ายกับว่าผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงจนเกิดเป็นประสบการณ์ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในที่สุด“ขอบคุณผู้อาวุโสไป๋เฉินที่ชี้แนะในครั้งนี้ขอรับ!!” หนิงอ้ายกับฟานหลิงประสานมือกล่าวขอบคุณก่อนจะปราดร่างไปยังเบื้องหน้าของก้อนโลหะรัศมีแสงสีประกายวาววับที่เป็นสมบัติวิเศษดังกล่าว กระแสพลังปราณฟ้าดินโดยรอบต่างถูกดูดกลืนจนเห็นได้ชัดในก้อนแร่ผลึกที่บรรจุขุมพลังยิ่งใหญ่อหังการยิ่งเคล

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 125 ออกเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์

    ก่อนหน้านี้การฝึกฝนบ่มเพาะพลังวิญญาณของหนิงอ้ายกล่าวได้ว่าแม้จะทุ่มเทเวลาไปกับการดูดซับปราณฟ้าดินแต่ก็นับว่ามีความก้าวหน้าได้ช้ากว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นเขาบรรลุถึงเขตขั้นราชทินนามเทวะวิญญาณก็จริง แต่ระดับความเร็วในการฝึกฝนนั้นกลับช้าลงในทุกเขตขั้นย่อย ด้วยเพราะการสอดประสานระหว่างสองสายเลือดเผ่าพันธุ์บรรพกาลในตัวที่คอยแบ่งพลังลมปราณที่ได้ดูดซับเข้ามาไปดูดกลืนราวกับเป็นหลุมดำที่ไร้ซึ่งจุดจบ แต่เมื่อได้รับอักขระกำกับสะกดข่มจากท่านอาจารย์แล้วทำให้ตอนนี้ร่างกายสามารถชักนำพลังลมปราณเข้าสู่ทะเลมหาสมุทรลมปราณได้รวดเร็วและมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า“ยามนี้ข้าเป็นราชทินนามราชันวิญญาณขั้นต้นอย่างสมบูรณ์แล้ว รากฐานบ่มเพาะได้เคี่ยวกรำไม่น้อยกว่าหนึ่งพันรอบ ศิษย์ต้องขอบคุณท่านอาจารย์มากขอรับ...” ใช้เวลาอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วยามให้หลังหนิงอ้ายก็ลืมตาขึ้นในที่สุด เห็นเสวี่ยจิงผู้เป็นอาจารย์นั่งอยู่ไม่ไกลมากนัก จึงไม่รอช้ามุ่งตรงยังทิศทางดังกล่าวก่อนจะยกมือประสานคำนับด้วยความเคารพยิ่ง“เป็นสิ่งที่อาจารย์พึงกระทำอยู่แล้ว รับไป!! สิ่งนี้คือม้วนตำราบันทึกศาสตร์แห่งการบัญชาการ อย่างที่เจ้าได้ศ

    Last Updated : 2025-03-06

Latest chapter

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   ( -จบเล่ม ปฐมบท 3.2- ) บทที่ 174 ความวุ่นวายที่สิ้นสุดลง

    ความกังวลแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของทุกคนขณะที่พวกเขาเฝ้าดูการเผชิญหน้ากับอสูรมารจางหมิ่นที่เทียบเท่ากับราชทินนามเทพสวรรค์วิญญาณขั้นสูง พวกเขารู้ดีว่าผู้อาวุโสหนุ่มผู้นี้เป็นราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณที่แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ แต่อย่างไรคู่ต่อสู้ของเขานั้นก็ทรงพลังอย่างหาที่เปรียบมิได้เช่นกัน ยามนี้จางหมิ่นในสภาพอสูรมารนั้นมีพละกำลังมหาศาลมีความเร็วที่เหลือเชื่อและความสามารถในการฟื้นฟูที่น่าทึ่งทั้งยังสามารถทนทานต่อการโจมตีได้อย่างไม่เพลี่ยงพล้ำ และการโจมตีของเขานั้นรุนแรงพอที่จะสังหารราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณที่อ่อนด้อยได้อย่างไม่ยากนักแม้จะต้องเผชิญกับอสูรมารที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับราชทินนามเทพสวรรค์วิญญาณขั้นสูงแต่หนิงอ้ายกลับไร้ซึ่งความหวาดหลัวแต่อย่างใด สิ่งนี้กลับชวนให้เขาหวนคิดไปถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแห่งการสังหารในครั้งนั้น แก่นแท้แห่งการต่อสู้ จิตสังหารที่ดิบเถือนบ้าคลั่งที่เคยสะกดไว้คล้ายกำลังถูกปลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องร้องขอกลิ่นอายอหังการที่แข็งแกร่งไม่ธรรมดาของราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณขั้นกลางที่มีรากฐานบ่มเพาะลึกล้ำชวนให้ผู้ที่เคยกังขาถึงความเป็นมาและความสามารถของผู

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 173 สมบัติเทพมารจุติ

    ท่ามกลางความมืดมิดแห่งอนธการที่ได้ปกคลุมทั่วทั้งสนามประลอง บริเวณโดยรอบต่างอัดแน่นไปด้วยความชั่วร้ายและความสิ้นหวัง ม่านพลังพิสดารสายนี้ส่องประกายสีดำม่วงเข้มประกายริ้วคลื่นแผ่กระจายทั้งยังก่อตัวเป็นกำแพงหนาที่ไม่อาจมองทะลุผ่านได้ มากไปกว่านั้นม่านพลังผืนนี้ยังดูดกลืนพลังปราณฟ้าดินโดยรอบเข้ามาเสริมแกร่งอีกด้วย แม้ว่าบรรดาผู้อาวุโสหลายคนจะพยายามโจมตีหรือใช้สมบัติวิเศษเข้าขัดขวางการทำงานแต่ก็ไร้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้"สมบัติเทพมารจุติอย่างนั้นรึ? เป็นไปได้อย่างไรกัน!!!" กุ้ยเจินหรือเจ้าตำหนักศาสตร์แห่งค่ายกลเอ่ยด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ไม่คิดว่าจางหมิ่นที่เป็นผู้ขายวิญญาณนั้นจะครอบครองสมบัติมารระดับสูงเช่นนี้ได้"มันคือสิ่งใดกันสมบัติเทพมารจุติที่เจ้าเอ่ยถึง..." รุ่ยเหอผู้เป็นรองเจ้าสำนักศึกษาและเจ้าตำหนักศาสตร์แห่งการต่อสู้เอ่ยถามด้วยความสงสัย"สมบัติเทพมารจุติเป็นที่เล่าขานกล่าวกันว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่เกิดจากการหลอมรวมพลังของเทพและมารเข้าด้วยกันจึงทำให้สมบัติวิเศษชิ้นนี้มีพลังอำนาจมหาศาลสามารถบันดาลสิ่งที่ปรารถนาได้ทุกประการ โดยเชื่อกันว่าเมื่อครั้งอดีตกาลมีมหาเทพเทพสองตนที่ทรงพลังยิ่ง

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 172 การปรากฎตัวของผู้ขายวิญญาณ

    คราแรกที่ลู่ซีได้ยินว่าศิษย์ใหม่นามว่าจางหมิ่นนั้นเอ่ยวาจาส่อเสียดหนิงอ้ายเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าหนิงอ้ายไม่ได้ปรากฎตัวในสำนักนับเป็นเวลาสิบปีแล้วจึงไม่มีผู้ใดคุ้นเคยหรือพบเห็นหน้ามาก่อน ยิ่งการกลับมาครั้งนี้รูปลักษณ์ของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งหนิงอ้ายยังเป็นผู้ร้องขอว่ายามนี้ควรปกปิดตัวตนของเขาไปเสียก่อน ด้วยเพราะไม่ล่วงรู้ว่าบรรดาศิษย์ใหม่ที่ผ่านการทดสอบในปีนี้ได้มีผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่เป็นสายข่าวของเผ่าพันธ์มารปีศาจที่ถูกส่งตัวมาหรือไม่ แม้ความลับนี้อาจจะเก็บไว้ได้ไม่นานแต่อย่างน้อยท่ามกลางการทดสอบฝีมือเพื่อคัดเลือกเข้าตำหนักนี้ย่อมสามารถสังเกตุอาการพิรุจผิดปกติจากที่ควรจะเป็นได้“ป้ายหยกชั่วคราวลำดับที่เจ็ด ข้าต้องการประลองกับผู้อาวุโสท่านนั้นขอรับ!!” เสียงของศิษย์ใหม่คนหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากบรรดาศิษย์สืบทอดและศิษย์หลักของตำหนักทั้งสี่ที่ยืนเรียงอยู่ด้านหน้าเพื่อรอเข้าทดสอบเป็นคู่ประลองกับเหล่าศิษย์ใหม่ แม้คำกล่าวนี้จะไม่ได้เอ่ยชื่อแต่ทุกคนในที่นี้ย่อมกระจ่างใจดีว่าถ้อยคำนี้เจาะจงถึงผู้ใด“กฎเกณฑ์เงื่อนไขในการทดสอบคัดเลือกเข้าสังกัดต

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 171 ผู้ท้าทายที่กล้าหาญ

    การทดสอบศิษย์ใหม่ในปีนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกฎเกณฑ์การทดสอบกล่าวว่าเป็นที่น่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย บรรดารุ่นเยาว์ชายหญิงเหล่านี้ต่างตั้งตารอที่จะได้ประลองกับศิษย์ผู้สืบทอดหรือศิษย์หลักของตำหนักทั้งสี่ด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม พวกเขารู้ดีว่าการประลองครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้แสดงความสามารถของตนเองและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขาคู่ควรที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสำนักศึกษาแห่งนี้ แม้ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของการทดสอบจะออกมายอดเยี่ยมมากเพียงใดแต่สิ่งหนึ่งที่คาดเดาได้นั่นคือการประลองครั้งนี้จะต้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความท้าทายอย่างแน่นอนศิษย์ใหม่ประจำปีการศึกษาจำนวนห้าคนแรกที่ต้องทำการประลองแสดงฝีมือนั้นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะยามที่ได้ยินเสียงเรียกหมายเลขของป้ายหยกที่พวกเขาถือครองอยู่ ด้วยเพราะไม่เตรียมใจว่าจะได้ลงทดสอบรวดเร็วถึงเพียงนี้ จากนั้นบรรดาสหายและผู้ที่อยู่ใกล้เคียงต่างได้เข้าไปอวยพรให้พวกเขาทำให้ดีที่สุด จากนั้นพวกเขาจึงได้ก้าวเท้ามุ่งตรงไปยังลานประลองที่มีศิษย์สืบทอดและศิษย์หลักทั้งสี่ที่ยืนเรียงเฝ้ารอคอยว่าพวกเขานั้นจะเลือกใครในการทดสอบความสามารถครั้งนี้แน่นอนว่าศิษย์

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 170 กฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

    หนิงอ้ายได้เล่าถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านไท่หลุนเมื่อสิบปีก่อนอย่างละเอียด ทุกคนในสำนักศึกษาต่างตั้งใจฟังด้วยความสนใจและตกใจไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเผ่าพันธุ์มารปีศาจได้วางแผนการชั่วร้ายเช่นนี้มานานหลายปีเช่นนี้ ยิ่งเมื่อหนิงอ้ายเล่าถึงแผนการลับของเผ่าพันธุ์มารปีศาจที่ได้ยินแม่ทัพมารเอ่ยถึงในครั้งนั้น บางเหตุการณ์ก็ตรงกับข้อมูลที่หน่วยสืบข่าวของสำนักศึกษาสืบค้นได้เจ้าสำนักและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างก็กังวลใจเป็นอย่างมาก พวกเขารู้ดีว่าหากเผ่าพันธุ์มารปีศาจประสบความสำเร็จในแผนการแล้ว โลกยุทธภพแห่งนี้คงจะต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตามทุกคนต่างชื่นชมในความกล้าหาญและความเสียสละของชายหนุ่มตรงหน้า เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ส่งผลให้หนิงอ้ายกลายเป็นวีรบุรุษและถูกเลื่อนระดับเป็นผู้อาวุโสสายในของสำนักศึกษาด้วยความเห็นชอบจากเจ้าสำนัก รองเจ้าสำนัก เจ้าตำหนักทั้งสี่รวมไปถึงบรรดาผู้อาวุโสต่าง ๆ ล้วนเห็นด้วยทั้งสิ้นจากนั้นหนิงอ้ายได้เล่าถึงเรื่องราวการหวนคืนกลับมามีกายเนื้อนี้อีกครั้งให้ทุกคนได้รับรู้แต่ก็ปกปิดบางส่วนที่เขาคิดว่าสมควร

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 169 ผู้ผ่านการทดสอบ

    ท่ามกลางหุบเขาน้อยใหญ่สูงเสียดฟ้าที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาและหิมะสีขาวบริสุทธิ์โปรยปรายอันเป็นลักษณะภูมิศาสตร์ที่โดดเด่นของสำนักศึกษาเหมันต์พันตะศักดิ์สิทธิ์ บรรดาอาคารสิ่งก่อสร้างในสำนักศึกษาต่างถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงรวมไปถึงพื้นที่โดยรอบต่างประดับประดาด้วยโคมไฟเวทย์หลากสีสันที่ส่องสว่างไสวให้ความรู้สึกอลังการเพื่อเป็นการต้อนรับเหล่าบรรดาผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์จากทั่วทุกสารทิศที่หลั่งไหลเข้ามาร่วมการทดสอบพร้อมกับความหวังและความฝันที่จะก้าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสำนักศึกษาอันทรงเกียรติแห่งนี้ซุ้มประตูสำนักที่ถูกสร้างขึ้นจากแร่ผลึกอัมพรสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอันเป็นวัสดุสินแร่หายากในยุทธภพนี้ได้ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงได้เปิดออกกว้างเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนที่หลังจากนี้ย่อมกลายเป็นส่วนหนึ่งเดียวกันโดยมีผู้อาวุโสและศิษย์รุ่นพี่ที่ยืนคอยต้อนรับด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น เมื่อการทดสอบสิ้นสุดลงบรรดาศิษย์ใหม่ที่พึ่งผ่านการทดสอบต่างก้าวเดินเข้ามาด้วยความตื่นเต้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความประหม่าหลังจากบรรดาผู้ผ่านการทดสอบทั้งหมดได้เข้ามาโดยพร้อมเพรียงแล้ว บริเวณลานกว้างหน้าสำนักศึกษายามนี้ต่างคลาคล่ำไปด้วยผู้ฝึกต

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 168 เดินทางกลับสำนักศึกษา

    มหาพิภพพิสดารแห่งนี้ประกอบไปด้วยสามพิภพ สี่มหาสมุทร แปดมหาทวีป โดยที่สามพิภพนั้นจะแบ่งเป็นดินแดนพิภพระดับสูง ดินแดนพิภพระดับกลางและพิภพระดับล่าง โดยมีสี่ทะเลมหาสมุทรตั้งอยู่ 4 ทิศล้อมรอบที่เชื่อว่าเป็นที่พักพิงของเทพบรรพกาลสูงสุดทั้งสาม และแปดมหาทวีปที่ได้มีการแบ่งการปกครองตามทิศทั้งแปดของดินแดนพิภพระดับกลาง ด้วยเพราะต่างมีผู้ปกครองดินแดนอันเป็นตัวตนที่ไม่ธรรมดาสามัญทั้งสิ้น ดังนั้นการเดินทางข้ามผ่านแต่ละเขตดินแดนจึงจำเป็นต้องมีเงื่อนไขกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันไปสำหรับการเดินทางข้ามเขตแดนทั้งสามพิภพโดยเฉพาะดินแดนพิภพระดับสูงและดินแดนพิภพระดับกลางนั้น เงื่อนไขสำคัญคือผู้ฝึกตนที่บ่มเพาะพลังปราณในดินแดนพิภพระดับกลาง หากไม่สามารถเลื่อนระดับเป็นราชทินนามอัครพรหมยุทธ์วิญญาณหรือครอบครองพลังวิญญาณในระดับที่101ได้ย่อมไม่อาจก้าวล้ำมายังดินแดนพิภพระดับสูงนี้ได้ด้วยขีดจำกัดของกายเนื้อที่ไม่สามารถรองรับพลังปราณฟ้าดินบริสุทธิ์เข้มข้นที่ไหลเวียนหล่อเลี้ยงทั่วทั้งมหาพิภพ เพราะหากไร้ซึ่งความแข็งแกร่งของสายโลหิตและพลังปราณที่ล้ำลึกที่เพียงพอ ไม่กี่ชั่วลมหายใจร่างกายและจิตวิญญาณย่อมถูกบดขยี้ไปสิ้นแต่ในทางก

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 167 การเลื่อนระดับที่เหนือล้ำ

    ไม่น่าเชื่อว่าเพียงหนึ่งราตรีที่ผ่านพ้น สำนักหมาป่าทมิฬจะถูกฆ่าล้างสำนักจนไม่เหลือแม้แต่ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว การจู่โจมโดยไม่อาจตั้งตัวนั้นได้ส่งผลให้เหล่าสมาชิกในสำนักต้องสังเวยชีวิตอย่างน่าสลดใจ สิ่งนี้กล่าวว่าได้สร้างความตื่นตะลึงแก่กลุ่มอิทธิพลมืดในยุทธภพอยู่ไม่น้อย แม้ว่าสำนักหมาป่าทมิฬจะเป็นสำนักที่พึ่งก่อตั้งได้ไม่กี่สิบปีแต่ก็มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านความโหดเหี้ยมและไร้ความปรานี การล่มสลายของสำนักในครั้งนี้จึงกลายเป็นปริศนาที่ยากจะคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นสิ่งที่น่าตื่นตะลึงนั่นคืออดีตผู้ก่อตั้งสำนักนั้นเป็นถึงราชทินนามเทพสวรรค์วิญญาณที่มีรากฐานบ่มเพาะไม่ธรรมดาสามัญรวมไปถึงเจ้าสำนักคนปัจจุบันนั้นก็เป็นราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณขั้นสูงที่มากไปด้วยความสามารถไม่อ่อนด้อยแม้จะขึ้นชื่อในเรื่องของความวิปริตมากกว่าก็ตาม ไม่นับรวมถึงบรรดาผู้อาวุโสที่ล้วนต่างเป็นราชทินนามระดับสูงที่ไม่อาจดูแคลนได้ทั้งสถานที่ตั้งยังรายล้อมไปด้วยมหาค่ายกลเขตแดนธรรมชาติที่ใช่ว่าจะสามารถบุกฝ่าทะลวงไปได้โดยง่าย ข่าวการกวาดล้างสำนักหมาป่าทมิฬได้แพร่สะพัดออกไปราวกับไฟลามทุ่ง ไม่รู้ว่าทางสำนักได้ไปรับภารกิจหรือได้ล

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 166 ความร่วมมือ

    ท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดและเศษซากร่างไร้วิญญาณของศัตรูที่พ่ายแพ้ หนิงอ้ายเรียกใช้พลังปราณตวัดเอาแหวนมิติและสมบัติวิเศษประจำตัวของผู้ตกตายทั้งหมดย้ายเข้ามาในแหวนมิติของตนอย่างไรสิ่งเหล่านี้ย่อมสามารถทำประโยชน์ได้อยู่ไม่น้อย ในใจเขาไม่นึกรังเกียจเลยเพียงนิด การเข่นฆ่าสังหารแล้วช่วงชิงสิ่งของของผู้ที่ตกตายไปนั้นเป็นสิ่งที่พบเจอได้ทั่วไปในยุทธภพจากนั้นหนิงอ้ายได้ระดมเรียกเปลวเพลิงบริสุทธิ์จากปราณทิวาธาตุเข้าแผดเผาเศษซากชิ้นเนื้อรวมไปถึงจิตวิญญาณของบรรดานักฆ่าเหล่านี้ให้สูญสลายโดยไม่อาจหวนคืนในวัฏจักรสังขารได้อีก จากเศษเสี้ยวความทรงจำที่เขาสัมผัสได้นั้นคนกลุ่มนี้หาใช่เป็นคนดีแต่อย่างใด ตลอดช่วงอายุที่ผ่านมาก็ล้วนแต่กระทำต่ำช้า สังหารผู้บริสุทธิ์มาไม่น้อย เพียงเท่านี้ย่อมไม่อาจชดเชยได้เสียด้วยซ้ำไม่ถึงครึ่งเค่อให้หลัง ห้วงมิติที่ถูกผนึกไว้เมื่อไร้ซึ่งผู้บัญชาการยามนี้ม่านพลังประหลาดดังกล่าวจึงได้ซ่านสลายไปในที่สุด เผยให้เห็นหมู่เมฆาที่ล่องลอยประดับเหนือท้องฟ้า เสียงแมลงน้อยใหญ่ดังขึ้นทั่วทั้งผืนป่าโดยรอบขับขานบรรเลงสอดประสานเป็นท่วงทำนองเสนาะหู แสงไฟเวทย์จากอาคารบ้านเรือน เสียงโหวกเหวกโวยวาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status