“คุณหนูหลี่ !” ฉีห้าวตงที่วิ่งเข้ามาดูนาง ถึงกับผงะกับสภาพของคนร้าย เหตุใดถึงได้สลบไปแล้วเล่า “คุณหนูหลี่ท่านเป็นอะไรหรือไม่” “ไม่เป็นไร พวกนี้เป็นโจรรึ” นางใช้ปลายเท้าเขี่ยที่ขาของโจรบนพื้นเบา ๆ “ขอรับเป็นพวกโจรภูเขาที่ชอบลงมาปล้นแขกของโรงเตี๊ยม” “ทำเลอันตรายเช่น
35 : ฝีมือเย็บเช่นนี้ จะรู้เรื่องยาเล็กน้อยได้อย่างไร หลี่เมิ่งเหยาบอกให้ฉีห้าวตงรออยู่ที่นี่ก่อน นางแค่เดินไปเอาของที่ชั้นสอง นางทำเพียงแค่เดินเข้าไปในห้อง แล้วกลับออกมาพร้อมกล่องยาในมือ ล้วนเป็นอุปกรณ์เย็บแผลในยุคโบราณ นางไม่สามารถทำคนเดียวได้ จึงให้อานเจิงฆ่าเชื้อ ด้วยสุรา
“ได้ขอรับ” “ข้าจะรออยู่ที่นี่แหละ เจ้ารีบไปรีบกลับ บอกความจริงนางให้รู้ หากนางยอมตามมาแต่โดยดีก็แล้วไป แต่หากนางดื้อดึงก็ลักพาตัวมาเลยเข้าใจไหม” “เข้าใจขอรับ” อานเจิงน้อมคำนับก่อนเดินออกจากห้องไป เขาให้คนติดตามไปเมืองฉางหนึ่งคน ทิ้งให้อยู่กับเจียงหยุนฟ่านอีกหนึ่งค
36 : ท่านจะมาล้วงความลับของจวนเสนาบดีหยวนหรือเจ้าคะ นายหญิงผู้เฒ่าลอบผ่อนลมหายใจเบา ๆ “นับว่าเหมาะสมแล้ว เหวินเซียวเจ้าคงโกรธย่าอย่างข้ามากสินะ” นางรู้ว่าตัวเองทำไม่ถูก ที่ปล่อยให้หลานชายออกไปอยู่ข้างนอก แม้นางไม่ได้ชื่นชอบหม่าหลินเฟย แต่กลับไม่ใช่กับหยวนเหวินเซียว นางค่อนข้า
“เหมยกุ้ยมานี่” ก่อนเข้านอนนางเรียกจงเหมยกุ้ยมาหา พร้อมยื่นพวงเงินให้นางไปหนึ่งก้วน “ให้บ่าวหรือเจ้าคะ” นางไม่เคยได้เงินมากมายถึงเพียงนี้ ทำตาโตขึ้นอย่างตกใจ “ไม่ได้ให้เปล่า ตอบคำถามที่ข้าอยากรู้มา” จงเหมยกุ้ยรู้สึกเงินร้อนมือรีบวางลงในทันที “ท่านจะมาล้วงความลับ ข
37 : ข้าไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องพิษ แต่ว่าข้าสัมผัสได้ว่ามันคือพิษ เรือนหนิงหวง หยวนเหวินเซียวได้พบหน้าบิดากับภรรยาเอก ที่เรือนของท่านปู่ เนื่องจากเมื่อวานพวกเขาออกไปร่วมงานเลี้ยง ของจวนแม่ทัพผู้หนึ่ง ครั้นกลับมาก็มืดค่ำเสียแล้ว หยวนซื่อเหลียนมองบุตรชายคนที่สามของตน
“เจ้าเอ่ยวาจายอกย้อนเช่นนี้ เชื่อถือได้หรือไม่ !” หมอหลวงกู่สะบัดแขนเสื้อใส่นาง หลี่เมิ่งเหยาหันไปทางนายหญิงผู้เฒ่า “ตามความเห็นของข้า ท่านเสนาบดีถูกวางยาพิษเจ้าค่ะ” นางเอ่ยออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ “ท่านแม่นางเป็นแค่เด็กสาวผู้หนึ่ง ไหนเลยจะมาสู้หมอหลวงกู่ได้” หยวนซื่อเหลียนหันไ
38 : ทำเช่นนั้นยาจะไม่ติดคอเอารึ.. “เหตุใดถึงได้ไร้มารยาทเช่นนี้” ลู่เฉิงเยี่ยนตำหนินางเบา ๆ แต่สายตากลับมองไปยังคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น “จริงอย่างที่เมิ่งเหยาเอ่ยมา การตัดสินใจเป็นของพวกท่าน ข้าพาคนมาแล้ว คนก็บอกแล้วว่าถูกวางยาพิษ ส่วนพวกท่านจะรักษาหรือไม่ ก็หารือกันเอาเองเถอะ
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว