เมื่อจ้าวซีซีเห็นพ่อแม่บุญธรรมของเธอปรากฏตัว เธอก็รู้ว่าเธอคงออกไปไม่ได้สักระยะหนึ่งยังไงซะตอนนี้บริษัทเวนคืนได้ยืดเก็บบัตรธนาคารของป้าฉันไว้แล้ว ไม่ว่าพ่อแม่บุญธรรมจะก่อความวุ่นวายแค่ไหนมันก็จะไม่มีประโยชน์เธอส่งข้อความไลน์ให้กับฉินเฟิง [รุ่นพี่คะ ฉันบังเอิญพบกับพ่อแม่บุญธรรมของฉันค่ะ ฉันจะไปช้าหน่อยนะคะ]ในงานหมั้น ฉินเฟิงขมวดคิ้วหลังจากเห็นข้อความไลน์ เขารู้สึกเสมอว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวของจ้าวซีซีนั้นซับซ้อนเล็กน้อย โดยเฉพาะพ่อแม่บุญธรรมซึ่งจัดการได้ยากเป็นพิเศษหากจ้าวซีซีได้คบกับเขาในอนาคต เขาจะต้องให้เธอขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างพ่อแม่บุญธรรมของเธอ แล้วก็ยังมีป้าใหญ่อีก และเหลือแค่ความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ชายของเธอที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเท่านั้นก็พอแล้วเขาไม่อยากถูกพ่อแม่บุญธรรมแบบนั้นคอยมาดูดเลือดอยู่ตลอดเวลาฉินเฟิงยังคงตอบกลับไลน์อย่างมีน้ำใจ [ได้ รีบจัดการกับปัญหาก่อนเถอะ ผมกำลังรอคุณอยู่]ยังไงซะคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลินพูดเป็นพิเศษว่า เธอต้องการพบนักออกแบบของพิธีหมั้น เขาเองก็สัญญากับคุณหนูใหญ่แล้ว ถ้าจ้าวซีซีไม่มาเขาจะเสียหน้าขนาดไหน?ฉินเฟิงไปตรวจสอบรายละเ
“อืม งั้นก็ดี”หลินซีพูดอย่างเย็นชา หันหลังกลับแล้วจากไป ถ้าจ้าวซีซีไม่เข้าร่วมพิธีหมั้นในวันนี้ ความสุขของเธอคงจะลดน้อยลงไปมากมันบังเอิญว่าพี่ชายของเธอทุกคนจะมาปรากฏตัวในวันนี้ และเธออยากจะให้จ้าวซีซีรู้ว่าอะไรคือความต่างชั้นกัน!หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว หลินซีก็พูดกับผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆเธอ “ไปสืบมาที ทำไมจู่ๆ พี่ชายของฉันถึงได้ซื้อบริษัทอสังหาริมทรัพย์เล็กๆนั้นมา”ผู้ช่วยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “อาจเป็นเพียงเรื่องบังเอิญมั้งครับ คุณหลินมีแผนที่จะเปิดสาขาเร็วๆนี้ในเป่ยเฉิง และนี่ก็คงอยู่ในแผนงานอยู่แล้ว”หลินซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง และตระหนักว่ามันก็สมเหตุสมผลแต่เธอมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เธอก็ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ รู้สึกเหมือนว่ามันบังเอิญเกินไปผู้ช่วยแนะนำว่า “จริงๆแล้วนี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรานะครับ ยังไงซะ เงินค่าเวนคืนก็ยังมาไม่ถึง เลยสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง”หลินซีหัวเราะเยาะหลังจากได้ยินสิ่งนี้ “คุณพูดถูก ฉันจะปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่คุณไปจัดการก็แล้วกัน”เธอจะไม่มีวันปล่อยให้จ้าวซีซีใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เป็นการดีที่สุดสำหรับที่จะให้ค
หลินซีไม่ต้องการที่จะลงนามในเอกสารฉบับนี้เพราะในใจเธอ เธอถือว่าตัวเองเป็นลูกสาวของตระกูลหลินมานานแล้ว และตอนนี้เธอมีโอกาสได้หมั้นหมายกับฮั่วหานฮุยก็เพราะสถานะของเธอในฐานะลูกสาวของตระกูลหลินไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่อยากเสียไพ่ใบนี้ไปหลินตงเย่เม้มริมฝีปากบางของเขา “ไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าตามข้อตกลงเดิม ถึงเวลาที่จะต้องยุติมันแล้ว”หลินซีอยากจะพูดอย่างอื่น แต่ผู้ช่วยข้างนอกก็วิ่งเข้ามาแล้วพูดว่า “คุณหนู ตระกูลฮั่วมาถึงแล้ว”สีหน้าของหลินซีเปลี่ยนไป และเธอก็รีบส่งเอกสารให้ผู้ช่วยของเธออย่างรวดเร็ว เธอมองกลับไปที่หลินตงเย่ด้วยน้ำเสียงวิงวอน “พี่ใหญ่ เรารอจนกว่างานเลี้ยงหมั้นจะจบลงก่อน แล้วค่อยหารือกันได้ไหม? ”หลินตงเย่พยักหน้า “อืม แต่ว่านะ หลินซี เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วนอกจากเรื่องค่าตอบแทน ก็ไม่มีอะไรจะพูดคุยกันอีกแล้วนะ”มือของหลินซีซ่อนอยู่ในฝ่ามือของเธออย่างแน่นหนา ประโยคนี้หมายความว่า ไม่ว่าเธอจะทำยังไง เธอก็จะต้องลงนามในเอกสารนี้เพื่อยุติความสัมพันธ์ในการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมอย่างงั้นเหรอ?ทำไมกัน?เธอทุ่มเทให้กับตระกูลหลินมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำไมเธอถึงถูกไล่ออก
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย “ความสัมพันธ์ของคุณกับจ้าวซีซีคืออะไร?”“ฮึ ยังไม่ถึงตาที่คุณจะมาถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผมกับเธอ แต่โปรดจำไว้ว่าเธอไม่ใช่คนที่คุณจะแตะต้องได้ จงอยู่ห่างจากเธอซะ!”หลินเป่ยพูดตรงประเด็น มันจะดีกว่าสำหรับทั้งสองฝ่ายที่จะบอกกันอย่างชัดเจนบรรยากาศในห้องโถงตึงเครียดอยู่พักหนึ่งฮั่วหานฮุยดึงเนกไทของเขา “หมอหลินเข้ามายุ่งเกินไปแล้วนะครับ คุณยายบอกให้ผมดูแลเธอให้ดี ดังนั้นเรื่องของเธอจึงเป็นเรื่องของผม”เมื่อหลินตงเย่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป อารมณ์ของเขาแย่มาก เฮ้ เด็กชายคนนี้จากตระกูลฮั่วหมั้นหมายกับหลินซี หรือเขาต้องการที่จะเหยียบเรือสองแคมอย่างงั้นเหรอ?ฮั่วหานฮุยมีสีหน้าจริงจังและไม่ยอมแพ้ หลินตงเย่โกรธมากจนลุกขึ้นยืนและคว้าคอเสื้อของฮั่วหานฮุย “สายตาของคุณนี่มันอะไรกัน? เก็บเอาสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไปซะ ไม่งั้นวันนี้ฉันจะเตะขาสุนัขนี่ของคุณซะ!”ในเมื่อกล้าพูดต่อหน้าว่าอยากได้น้องสาว!ดวงตาของฮั่วหานฮุยดุร้ายและหยิ่ง “ไม่เก็บ”หลินเป่ยพูดอย่างเย็นชา “ฮั่วหานฮุย คุณคิดว่าคุณคู่ควรกับซีซีอย่างงั้นเหรอ? เดิมทีผมไม่ต้องการที่จะเห็นด้วยกับการผ่าตั
หลินตงเย่อารมณ์เสียมากจนเขาตะโกนใส่ฮั่วหานฮุย “สายตาของคุณนี่มันอะไรกัน?”ฮั่วหานฮุยไม่พูดอะไรสักคำ เขาหันหลังกลับและออกจากห้องโถงของคฤหาสน์ ย่างก้าวของเขายุ่งเหยิงและแลดูอึดอัดหลินเป่ยมองไปที่แผ่นหลังของฮั่วหานฮุย และรู้สึกอยู่เสมอว่าปฏิกิริยาของชายคนนี้แปลกมาก!มีอะไรที่ถูกมองข้ามไปอย่างงั้นเหรอ?ในเวลานี้หลินหนานมองไปที่หลินตงเย่ แล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ หลินซีโกหกอีกแล้ว”หลินเป่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมเองก็ไม่คิดว่าหลินซีจะกล้าพูดแบบนั้นกับฮั่วหานฮุย! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโกหกแบบหน้าด้านๆอย่างนี้! ”สามารถสรุปได้จากคำตอบของฮั่วหานฮุยเมื่อกี้ว่า หลินซีกำลังโกหกตระกูลฮั่วตอนนี้เขายังสงสัยด้วยซ้ำว่าฮั่วหานฮุยชอบหลินซีจริงๆหรือเปล่า?หลินตงเย่ลูบขมับของเขา “ฉันรู้ ก่อนที่ซีซีจะกลับมา ฉันจะแก้ไขปัญหาตัวตนของหลินซีให้เรียบร้อย ฉันจะไม่ยอมให้ซีซีต้องทนทุกข์ทรมานกับความอยุติธรรมใดๆแน่”หลินหนานกล่าวว่า “ซีซีเป็นผู้ออกแบบงานหมั้นครั้งนี้ เธอก็น่าจะมาที่นี่ในเร็วๆนี้ เราต้องหารือกันว่าจะอธิบายให้ซีซีเข้าใจได้อย่างไร”มุมปากของหลินเป่ยกระตุก “นี่เป็นเรื่องยากที่จะรับมือจริงๆ พี่ใหญ่ พี
“ว่ายังไงนะ? พี่หลินซี พี่ไม่กลัวว่านังสารเลว จ้าวซีซีนั่นจะทำงานแต่งพังเหรอ? ”หลินซียิ้มอย่างเย็นชา “เธอไม่กล้าหรอก เพราะเธอเป็นคนออกแบบฉากหมั้นในวันนี้เอง หากมีอะไรผิดพลาด งานของเธอก็จะจบลง และสตูดิโอก็เช่นกัน”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง พี่หลินซี ทำไมพี่ไม่ขอให้เธอเข้ามาช่วยถือชุดแต่งงานให้เลยล่ะ ให้นังนั่นเห็นชัดๆไปเลยว่าความต่างชั้นนั้นคืออะไร”ตอนนี้ฮั่วซานซานต้องการที่จะเหยียบจ้าวซีซีให้จมดินเนื่องจากจ้าวซีซีทำให้เธอขายหน้าจนไม่เหลืออะไรแล้วในตอนนี้ แม้ว่าตระกูลฮั่วจะมาชี้แจงในภายหลังว่าวิดีโอและภาพถ่ายทั้งหมดถูกทำขึ้นมาเอง แต่ทุกคนในแวดวงก็รู้ว่าเป็นเธอทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณจ้าวซีซี!มีรอยยิ้มบนริมฝีปากของหลินซี “เอาล่ะ พวกเราลงไปก่อน แล้วค่อยจัดการกันเองทีหลัง อย่าเพิ่งทำให้มันต้องส่งผลกระทบต่อการหมั้น”“พี่หลินซีไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดการจ้าวซีซี ผู้หญิงคนนั้นให้ดีๆอย่างแน่นอน รอดูการแสดงได้เลย”รอยยิ้มบนริมฝีปากของหลินซีลึกขึ้นเมื่อหลินซีลงไปที่ชั้นล่าง พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องโถงเลยอย่างงั้นเหรอ?น่าแปลก พวกพี่ๆกับหานฮุยอยู่ไหนกัน?คุณนายฮั่วยิ้ม และกล่าวว่า “หลินซ
หลังจากที่หลินซีได้ยินประโยคนี้แล้ว เธอก็ดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่เล็กน้อย "คุณป้าโทรไปถามแล้วค่ะ"ไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นมาในเวลานี้ คุณนายฮั่วกลับมา และพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่า "น่าแปลกจริงๆ โทรศัพท์มือถือของลูกชายป้าโทรไม่ติดเลย และก็ติดต่อผู้ช่วยของเขาไม่ได้ด้วย"ฮั่วซานชานโพล่งออกมาว่า "วันสำคัญขนาดนี้ พี่หานฮุยคงไม่หนีการแต่งงานหรอกนะคะ?"เมื่อหลินซีได้ยินคำว่า "หนีการแต่งงาน" เธอก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันทีหลินซีจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อจะโทรออก แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครรับสาย และความตื่นตระหนกก็ถาโถมเข้ามาทันที "เป็นไปไม่ได้ หานฮุยอยู่ที่นี่แล้ว เขาจะกลับคำพูดและจากไปได้อย่างไร? เขาต้องมีธุระอะไรเร่งด่วนอยู่แน่ๆ"คุณนายฮั่วก็ลำบากใจเล็กน้อยเช่นกัน เธอจึงรีบพูดคลี่คลายสถานการณ์ทันทีว่า "ป้าก็คิดว่าลูกชายของป้าจะต้องมีธุระเร่งด่วนอะไรแน่ๆ เพราะเมื่อกี้เขาก็มาพร้อมกับป้าแล้วนี่นา"ฮั่วซานชานตระหนักได้ว่าเธอพูดผิด จึงรีบพูดแก้ไขขึ้นมาทันทีว่า "ใช่ ใช่ ใช่ พี่ชายของฉันยุ่งจะตายไป จะต้องเป็นเพราะมีเรื่องอะไรบางอย่างทำให้ล่าช้าแน่ๆ งั้นเราก็รอ
"เธอบอกว่าได้พบกับพ่อแม่บุญธรรม และจะมาช้าหน่อยครับ""พ่อแม่บุญธรรม?"หลินเป่ยขมวดคิ้วแน่นเป็นปม พ่อแม่บุญธรรมคู่นั้นไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆเหรอ นี่ยังกับมาสร้างปัญหาให้ซีซีอีกแล้ว!ฉินเฟิงพูดอย่างหยิ่งเชิงว่า "คือว่าผมมีเรื่องอยากจะถามคุณต้องแต่เมื่อครู่นี้แล้วนะครับ"หลินเป่ยมองไปที่เขา "คุณอยากจะถามอะไร?""ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้มีความหมายอื่นเลยนะครับ ก็คือว่าผมได้พบกับพี่ชายของซีซีในงานหมั้นครั้งนี้ ผมรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อย พวกคุณกับคุณหนูใหญ่ตระกูลหลินเป็นญาติกันหรือครับ? แต่ผมไม่เคยได้ยินซีซีพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย"แต่เมื่อจ้าวซีซีและหลินซีเจอหน้ากันนั้น ท่าทางของพวกเธอก็ห่างกันมาก ไม่เหมือนญาติกันแต่อย่างใดเลยเมื่อหลินเป่ยได้ยินแบบนั้น เขาก็เลิกคิ้ว และแทบจะลืมเรื่องนี้ไปด้วยซ้ำ!เพราะเดิมทีเขาคิดว่าซีซีจะมาร่วมงานในวันนี้ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังตัวตนอีกต่อไปแต่หากซีซีไม่มาแล้วละก็ มันก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลยหลินเป่ยกระแอมไอ "อะแฮ่ม ถือว่าเป็นญาติกันไกลๆก็ได้มั้ง"ฉินเฟิงพยักหน้าแล้วพูดว่า "วันนี้เป็นงานหมั้นของคุณหนูใหญ่หลินที