ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับเถวะ ฉันเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกันกับหมวย ส่วนเถวะเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกันกับต่อ ที่นั่งโต๊ะอยู่ด้านหลังของฉันนั่นเอง
" สวัสดีจ๊ะ หมวย " ฉันเอ่ยทักทายหมวยเพื่อนสาว สาวอวบอิ่ม ขาว ตาตี๋ที่น่ารักน่าหยิก ^^ " สวัสดีจ๊ะ เจ้าหญิง " หมวยเอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม หมวย เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันมาตั้งแต่ ม.4 หมวยจะแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ที่ตอนนี้คนอื่นๆมองฉันเหมือนเป็นตัวน่าแขยะแขยงไปหมด ส่วนหมวยจะเป็นเพื่อนที่น่ารักและเข้าใจฉันเสมอ เพราะทางบ้านของหมวยเองก็มีฐานะไม่ต่างจากฉันมากเท่าไหร่นักก็เลยพอจะเข้าอกเข้าใจคนหัวอกเดียวกันเป็นอย่างดี แตกต่างจากเถวะที่บ้านเป็นตระกูลผู้ดีแต่เขายังมาเกือกกลั้วอยู่เป็นเพื่อนกับฉันมาตั้งแต่ที่ฉันอยู่ ม.1 ส่วน ต่อ เป็นเพื่อนชายของเถวะ หล่อ คม เข้ม ผิวสีแทน ซึ่งลุคดูแตกต่างจากเถวะ แต่นิสัยดันเหมือนกันสุดขั้ว ต่อที่ฐานะทางบ้านดีพอๆกันกับเถวะ ฉัน หมวย เถวะ และต่อ ก็เลยเป็นเพื่อนเล่น เพื่อนเรียนกันมาตลอด และจะเป็นพวกเพื่อนทั้ง 3 คนของฉันเสมอที่คอยปกป้องและดูแลฉันมาตลอด " เจ้าหญิงเลือกคณะที่ตัวเองอยากเข้าเรียนหรือยัง เทอมหน้าพวกเราก็ขึ้น ม.6 แล้วนะ " ฉันที่กำลังนั่งลงข้างๆหมวย ก็โดนหมวยถามเรื่องเรียนขึ้นมาทันที " คนเก่งเกรด 4 อย่างเจ้าหญิงก็ต้องเรียนหมออยู่แล้วสิใช่ป่ะ " ต่อที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังตรงข้ามกับหมวยพูดขึ้น " เสือกนะมึง " เถวะตบหัวต่ออย่างแรง " เรายังไม่รู้เลยว่าเราชอบอะไร " ฉันตอบกลับเพื่อนๆไป ฉันไม่รู้ตัวเองจริงๆว่าชอบอะไร ฉันมีหน้าที่เรียนหนังสือฉันก็แค่ตั้งใจเรียน เพราะฉันยังเด็กยังไม่ค่อยคิดถึงอนาคตมากเท่าไหร่ อีกอย่างตอนนี้ฐานะของฉันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ถ้าตอนที่ฉันขึ้นมหาวิทยาลัยซึ่งเรียนอยู่ปี 1 ฉันก็ยังไม่หมดหน้าที่เพื่อใช้หนี้ขัดดอกให้คุณบทร้าย ฉันก็คงจะขึ้นปี 2 นู้นแหล่ะถึงจะได้เป็นอิสระจากเขาสักที " แล้วตอนนี้เจ้าหญิงเป็นยังไงบ้าง เอ่อ...เรื่องนั้นน่ะ " หมวยถามฉันขึ้นมาอย่างเป็นห่วง เรื่องที่ถามก็คงไม่พ้นเรื่องที่พ่อเลี้ยงส่งฉันไปขัดดอกให้กับมาเฟียที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมที่สุดและมีอำนาจมากที่สุดในตอนนี้แล้วแหล่ะ " ตอนนี้ยังไม่มีอะไรหรอก คุณบทร้ายให้ฉันอยู่บ้านหลังเล็กคนเดียวข้างๆเพ้นเฮ้าท์ของเขานั่นแหล่ะ " ฉันตอบกลับเพื่อนๆไป เพราะกลัวเพื่อนๆจะเป็นห่วง " แล้วคุณบทร้ายใช้งานเจ้าหญิงหนักหรือเปล่า ไหนดูซิ " หมวยยกแขนฉันขึ้นสำรวจร่างกายของฉันทันทีที่ถามจบ " ตอนนี้เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณบทร้ายบอกว่าถ้าเขาอยากเรียกใช้ เดี๋ยวเขาเรียกเอง " ฉันตอบกลับหมวยไป หลังเลิกเรียน ฉันเดินออกมายืนรอขึ้นรถเมล์ที่หน้าโรงเรียนเหมือนที่เคยทำอยู่ทุกครั้ง ส่วนเถวะจะว่างแค่ตอนเช้าซึ่งเขาจะมายืนรอรับฉันที่ป้ายรถเมล์ทุกวัน ส่วนตอนหลังเลิกเรียนเถวะมีซ้อมเตะฟุตบอลทุกวันก็เลยไม่ว่างมาส่ง แต่ถ้าวันไหนไม่มีซ้อมเถวะก็จะเดินมาส่งฉันและยืนรอเป็นเพื่อนฉันจนรถเมล์จะมา ก่อนที่เถวะจะขับรถบิ๊กไบค์ของเขากลับบ้านเองทุกๆวัน ฉันที่ยืนรอรถเมล์อยู่พักหนึ่งรถเมล์ก็มาจอดที่ป้ายหน้าโรงเรียน เวลาผ่านไปประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงป้ายรถเมล์ปลายทาง เพราะเวลาเลิกเรียนประมาณ 16.00 น. รถจะติดหนักมาก บางวันรถติด 2 ชั่วโมงก็คงจะยังไม่ถึง ตอนนี้เป็นเวลา 17.30 น. ฉันที่กำลังเดินไปหน้ารั้วประตูเพ้นเฮ้าท์ของคุณบทร้าย จู่ๆรถตู้คันสีดำของเขาขับมาหยุดจอดตรงหน้าฉันก่อนจะถึงที่รั้วประตูหน้าเพ้นเฮ้าท์ " ขึ้นรถ " หลังจากที่ประตูรถได้เปิดออกเองอัตโนมัติ คนที่อยู่บนรถตู้ก็สั่งให้ฉันขึ้นไปบนรถทันที " สวัสดีค่ะ " ฉันขึ้นไปนั่งข้างๆคุณบทร้ายพร้อมกับยกมือไหว้เขาทันที พอฉันขึ้นไปบนรถตู้ก็พบว่ารถตู้ได้เลี้ยวและขับออกไปตรงทางเดิมที่ฉันเดินมา " คุณบทร้ายจะไปไหนเหรอคะ " ฉันถามเขาอย่างสงสัย " นั่งอยู่เงียบๆเฉยๆไม่ได้หรือไงไม่ต้องถามมาก " เขาหันหน้ามามองฉันอย่างไม่พอใจนัก " ขอโทษค่ะ แต่หนูต้องทำการบ้านด้วยนะคะกลับดึกมากไม่ได้ พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนอีกนะคะ " ฉันที่ห่วงเรื่องการเรียนเป็นชีวิตจิตใจพูดบอกเขาไปจนหมด " อืม " เขาตอบกลับมาสั้นๆ แล้วหลับตาลงอย่างดูเหนื่อยล้า ฉันที่เห็นเขาดูท่าทางจะเหนื่อยก็เลยหยิบขนมปังในกระเป๋าออกมา " คุณบทร้ายคะ " ฉันเรียกเขาเบาๆอีกครั้ง " อะไรของเธออีก " เขาตอบกลับฉันมาด้วยความหงุดหงิดแต่ตาของเขาก็ยังปิดอยู่อย่างนั้น" ท่าทางดูเหมือนคุณจะเหนื่อย กินขนมปังหน่อยไหมคะ " ฉันที่หยิบขนมปังออกมาจากกระเป๋านักเรียนและได้ยื่นมันไปให้เขาทันทีเขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับหันหน้ามาทางฉันเล็กน้อย" ไม่กิน! " เขาตอบกลับฉันแต่มือของเขาดันหยิบขนมปังในมือของฉันออกและโยนมันเอาไปไว้เบาะด้านหลังรถทันทีและก็หันกลับไปนั่งและเอาหัวพิงเบาะและหลับตาลงต่ออย่างไม่ได้สนใจอะไรฉันนัก" ไม่กินก็ไม่ต้องกันซี่ โยนของหนูทิ้งทำไม " ฉันบ่นพึมพำของฉันเบาๆอยู่คนเดียวหลังจากที่รถขับมาได้เกือบหนึ่งชั่วโมง ก็มาจอดที่โรงจอดรถแห่งหนึ่งซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน" ถึงแล้วครับท่าน " ลูกน้องที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าคนขับหันหน้ามาบอกคุณบทร้าย" อืม " เขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับตอบกลับไปสั้นๆ หลังจากที่พวกเขาได้ยินคำตอบของผู้เป็นนายแล้วเขาก็ลงจากรถตู้ทันทีฉันที่เดินตามหลังของคุณบทร้ายมาก็พบว่าสถานที่ที่ฉันมาเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่ พร้อมกับเขาที่เดินเข้ามาที่ห้องห้องหนึ่งซึ่งคล้ายๆเหมือนกับเป็นโต๊ะอาหาร ฉันที่เดินตามเขาเข้าไปพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเขา ซึ่งเขานั่งอยู่หัวโต๊ะอาหาร" เรามาทำอะไรกันเหรอคะ " ฉันหันหน้าไปถามเขาอย่างสงสัย" กินข้าว " เขา
พอถึงโรงเรียนเจ้าหญิงก็เดินเข้าไปในโรงเรียนตามปกติ พร้อมกับเถวะที่มายืนรอรับเจ้าหญิงหน้าป้ายรถเมล์อย่างเช่นทุกครั้ง" ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ " เถวะหันหน้าไปชวนเพื่อนสาวที่สนิทสุดๆของตัวเอง" เรากินมาแล้ว " เจ้าหญิงตอบกลับเถวะไปพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ารัก จนทำให้รอยยิ้มที่เจ้าหญิงยิ้มส่งมาให้เถวะ ทำให้เถวะหัวใจหล่นวูบทันที แอบรักเพื่อนสนิทตัวเองมันเป็นแบบนี้นี่เอง เถวะได้แต่คิดในใจ" แต่เราหิวนี่น๊าาา " เถวะพูดพลางลูบท้องของเขาไปมา" งั้นเจ้าหญิงพาเถวะไปกินที่โรงอาหารนะ " เจ้าหญิงบอกกับเพื่อนชายที่สนิทที่สุดของเขาทันที เพื่อนรักทั้งสองคนเดินไปที่โรงอาหาร เจ้าหญิงก็นั่งรอเถวะกินข้าวพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่คุณบทร้ายซื้อให้ออกมากดเล่น" เจ้าหญิงเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่เหรอ " เถวะถามเจ้าหญิง เพราะปกติเจ้าหญิงจะไม่เปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยๆ และเจ้าหญิงก็คงไม่ซื้อโทรศัพท์ที่ราคาแพงเกือบแสนแบบนี้" คุณบทร้ายซื้อให้เจ้าหญิงไว้โทรหาเขาตอนฉุกเฉิน คุณบทร้ายบอกว่าราคาไม่แพงมากนัก " เจ้าหญิงที่แสนไร้เดียงสาตอบกลับเถวะไป" เปลี่ยนเบอร์โทรด้วยเหรอ เมื่อคืนเราโทรหาเจ้าหญิงไม่ติดเลย เราว่าจะถามเรื่องการบ้าน
1 เดือนต่อมาในทุกๆ วันศุกร์ของคาบโฮมรูมเจ้าหญิงกับเถวะก็จะแอบออกไปพบแม่ของเธอที่ร้านอาหารตามสั่งทุกวันตามปกติ และคุณบทร้ายก็ไม่ได้รับรู้ถึงการกระทำของเด็กน้อยของเขาเลย เพราะเขาไว้ใจเธอและคิดว่าเธอก็คงเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งที่ไม่กล้าต่อกรอะไรกับเขามากนักเขาก็เลยไม่ได้สั่งให้คนไปเฝ้าตามติดและคอยดูเธอเอาไว้ แค่ให้เฝ้ารอรับเธอที่หน้าประตูโรงเรียนในทุกๆ วันวันนี้เป็นวันสอบไฟนอลเพื่อจะจบปีการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เจ้าหญิงกับเพื่อนๆ ของเขาอีก 3 คนตั้งใจเรียนและพากันติวหนังสืออย่างหนักเพื่อการสอบในครั้งนี้" เป็นยังไงบ้าง ทำได้ไหมเจ้าหญิง " พอทุกคนเดินออกจากห้องสอบหมวยเพื่อนสาวคนเดียวของเจ้าหญิงก็ถามขึ้น" พอได้จ๊ะ ^^ " เจ้าหญิงตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้มสดใสเฉียดเช่นทุกครั้ง" ระดับเจ้าหญิงไม่มีคำว่าไม่ได้อยู่แล้ว " เถวะพูดขึ้นมาบ้าง" งั้นไปกินข้าวกันไหมเจ้าหญิง ฉลองสอบเสร็จ " หมวยเอ่ยถามเจ้าหญิง พร้อมกับเพื่อนๆทุกคนก็เดินอยู่ถึงกับหยุดนิ่งยืนรอคำตอบของเจ้าหญิง เพราะทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเจ้าหญิงไปที่ไหนไม่ค่อยได้ถ้าคุณบทร้ายไม่ได้อนุญาต " เอ่อ...คือ " เจ้าหญิงอ้ำๆอึ้งๆ ใจหนึ่งก็อยากจะไ
หลังจากที่วางสายคุณบทร้ายไปแล้ว เจ้าหญิงก็เดินกลับมาหาเพื่อนๆด้วยท่าทางหน้าสลดลง เจ้าหญิงทำหน้าทำตาเหมือนคุณบทร้ายไม่อนุญาตให้ไปเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆ เจ้าหญิงคิดจะแกล้งเพื่อนของเธอเล่นสักหน่อย ^^" เป็นไงบ้างเจ้าหญิง " ต่อถามเจ้าหญิงขึ้นมาทันทีหลังจากที่เจ้าหญิงได้เดินเข้ามาหาเพื่อนๆแล้ว พร้อมกับที่เพื่อนๆทุกคนจ้องมองหน้าเจ้าหญิงเพื่อรอเอาคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ" ไม่เป็นไรนะเจ้าหญิง " หมวยยื่นมือของเธอมากุมมือของเจ้าหญิงไว้ เพราะเห็นสีหน้าท่าทางของเจ้าหญิงเพื่อนของเธอแบบนี้แล้ว คุณบทร้ายไม่น่าจะอนุญาตให้ไปเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับพวกเธอเป็นแน่" ถ้าเจ้าหญิงไม่ไปเราก็ไม่มีอารมณ์จะไปหรอก " เถวะพูดขึ้นพลางยกมือขึ้นกอดอกอย่างไม่พอใจนัก เพราะถ้าไปที่ไหนแล้วไม่มีเจ้าหญิงไปด้วยเถวะก็ไม่อยากจะไปมากนักหรอก " เอ่อ...คุณบทร้าย " เจ้าหญิงทำท่าทางอ้ำๆอึ้งๆ เพื่อแกล้งเพื่อนของเธอเล่นต่อไป" คุณบทร้าย อนุญาต!! " เจ้าหญิงร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกับกระโดดโลดเต้นและปรบมืออย่างดีอกดีใจ " เจ้าหญิงแกล้งพวกเราเหรอ นี่แหนะ! " หมวยพูดขึ้นพลางยื่นมือไปจี้เอวของเจ้าหญิงเพื่อลงโทษฐานที่โกหกพวกเธอ " ฮ่าๆๆๆ อย่าจี
เพนท์เฮ้าน์หลังจากที่เจ้าหญิงได้เลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเจ้าหญิงก็บอกให้พี่อัคคีขับรถไปส่งเพื่อนๆของเธอที่บ้านกันทีละคน พร้อมกับขับรถไปส่งเถวะที่หน้าโรงเรียนอีกครั้ง ก็เพราะว่าเถวะขับรถส่วนตัวไปโรงเรียนทุกวัน เถวะเลยต้องกลับเข้าไปเอารถที่จอดเอาไว้แถวๆด้านหน้าของโรงเรียนพอเจ้าหญิงมาถึงบ้านหลังเล็กสีขาว เจ้าหญิงก็อาบน้ำชำระร่างกายของตัวเอง และในการกระทำของเธอทุกๆฝีก้าวก็อยู่ในสายตาของคนที่ชื่อบทร้ายตลอดเวลา เขาเห็นแม้กระทั่งเจ้าหญิงเดินเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้มที่สดใส เพราะเธอได้ออกไปสนุกกับเพื่อนๆ และเขาเห็นแม้กระทั่งเจ้าหญิงเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ และเธอก็เดินกลับออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูสีขาวพันรอบอกตัวเดียว" อึก! " สัดส่วนโค้งเว้าของเธอที่ดูโตกว่าเด็กสาวทั่วๆไป ทำให้คนที่จดจ่ออยู่หน้าจอกล้องวงจรปิดถึงกับแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เจ้าหญิงอีกเพียง 1 เดือนเธอก็อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว เธอจะถึงกำหนดอายุเร็วหน่อยก็เพราะเธอดันเกิดต้นเดือนน่ะสิ วันทีี 1 เดือน 1 แต่เจ้าหญิงมีเพียงอายุแค่นี้ แต่สัดส่วนในร่างกายของเธอดันโตเร็วกว่าเด็กสาวปกติทั่วไป แม้ตัวเธอจะ
" คุณบทร้ายเรียกเจ้าหญิงเข้ามาเพื่อจะตีเจ้าหญิงใช่หรือเปล่าคะ " เจ้าหญิงที่นึกขึ้นได้แบบนั้นก็ถามเขากลับไปพร้อมกับก้มหน้าก้มตาลงอย่างหวาดระแวง" หึ! " ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆจากคุณบทร้าย นอกจากเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของเขา" ตามมา " เขาสั่งเธอเสียงเข้มพร้อมกับเดินหันหลังไปขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ทันที " อย่าให้ต้องเรียกเป็นครั้งที่สอง " หลังจากที่เขารู้ว่าเด็กน้อยยังไม่เดินตามหลังเขามา เขาก็สั่งเธอด้วยน้ำเสียงดุดันและจริงจังอีกครั้ง เพื่อเป็นการข่มขวัญให้เด็กน้อยกลัว และมันก็ได้ผล เจ้าหญิงที่มีร่างกายผอมบางรีบวิ่งแจ้นขึ้นไปบนบันไดตามแผ่นหลังแกร่งของเขาอย่างง่ายดาย" จะไปไหนเหรอคะ ห้องเชือดที่โดนทำโทษอยู่ข้างๆบ้านหลังใหญ่ไม่ใช่เหรอคะ " เจ้าหญิงที่เดินตามแผ่นหลังแกร่งเอ่ยถามเขาขึ้นอย่างนึกสงสัย" วันนี้เธอต้องมาทำหน้าที่เป็นเด็กขัดดอกให้ฉัน " เมื่อเดินถึงหน้าประตูห้องห้องหนึ่งเขาก็หยุดเดินและหันหน้ากลับมาพูดกับเจ้าหญิงอีกครั้ง" ทำหน้าที่ขัดดอกเหรอคะ ? " เจ้าหญิงเอียงคอเล็กน้อยอย่างนึกสงสัยว่าเขาจะให้เจ้าหญิงทำหน้าที่แบบไหนกันนะถึงได้พามาที่บ้านหลังใหญ่ที่เขาหวงนักหวงหนาแบบนี้การกระทำของเจ้
" คณะนิเทศศาสตร์ ? "เขาเลิกคิ้วถามเจ้าหญิงด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบที่แฝงไปด้วยแววตาดุดันอย่างไม่ชอบใจนักกับคณะที่เด็กสาวจะเลือกเรียนต่อ" คะ ? " เจ้าหญิงเอียงคอเล็กน้อยพร้อมกับมองจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแต่แฝงไปด้วยความดุดันในแววตาของเขาอย่างเห็นได้ชัด" ไปเลือกคณะที่เธออยากเรียนมาใหม่ คณะนี้ฉันไม่อนุญาตให้เธอเรียน " เขาเปล่งน้ำเสียงจริงจังบอกกับคนร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู" ทำไมเหรอคะ คณะนี้ไม่ดียังไงเหรอคะ " เจ้าหญิงเอ่ยถามเขาไปด้วยความสงสัย เพราะที่เธอได้ยินมาจากหมวยเพื่อนสาวของเธอ คณะนี้มันก็ไม่ได้ไม่ดีอะไรนี่น๊า แถมใช้ความสามารถในการแสดงของเธอหาเงินได้อีกตั้งเยอะแยะเลย แถมยังได้แต่งตัวสวยๆ มีคนชื่นชอบมากมายอีกด้วย" ไม่ต้องถาม ถ้าฉันไม่อนุญาตให้เรียนก็คือไม่อนุญาต " เขาบอกสาวน้อยร่างบางพร้อมกับยกขาขึ้นนั่งไขว้กัน พร้อมกับเอนตัวลงพิงพนักพิงโซฟาอย่างไม่ได้สนใจเจ้าหญิงที่ทำท่าทางงุนงงกับคำพูดของเขา" งั้นเดี๋ยวเจ้าหญิงขอกลับไปคิดก่อนนะคะว่าจะเรียนคณะอะไร " เจ้าหญิงตอบกลับเขาไปอย่างไร้เดียงสา เพราะตัวเธอเองก็ยังไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองจะเรียนคณ
" ตามมา " ร่างสูงผละมือเรียวเล็กของเจ้าหญิงออกจากท่อนเอ็นที่ใหญ่โตของเขาและเดินออกไปผ่านหน้าผ่านตาเจ้าหญิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ทันทีเจ้าหญิงลุกขึ้นยืนเต็มตัวพร้อมกับเดินตามร่างสูงที่ไร้อาพรในการปกปิดร่างกายเพื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำสุดหรูของเขาทันที" เปิดน้ำอุ่น ฉันจะเข้าไปแช่น้ำในอ่าง " เขาบอกเด็กสาวที่เดินตามมาพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางอ่างจากุชชี่สุดหรูเพื่อให้เธอทำตามคำสั่งที่เขาบอก" ได้ค่ะ " เจ้าหญิงตอบรับคำสั่งพร้อมกับเดินไปเปิดทำน้ำอุ่นตามที่คนเป็นเจ้านายสั่งทันที" เรียบร้อยแล้วค่ะ " เจ้าหญิงหันหน้ามาบอกเขาที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว" ... " เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ก้าวขาเรียนยาวที่ไร้ขนขาของเขาเดินเข้าไปในอ่างจากุชชี่ทันทีเจ้าหญิงที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรต่อไปบ้าง เพราะเธอไม่เคยอาบน้ำให้กับใครมาก่อนก็เลยถามเขาขึ้นมา" แล้วหนูต้องทำยังไงบ้างคะ " เธอเอ่ยถามเขาที่นอนแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างสบายใจเฉียบ" ถอดชุดนอนเธอออกสิ " เขาบอกพร้อมกับจ้องมองมาที่เรือนร่างของเธอด้วยสายตาที่ทำให้เด็กสาวถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันที" หนูแค่จะอาบน้ำให้ หนูไม่ได้จะอาบน้ำด้วยนะคะ " เธอบอกเขาไปด้วยน้ำเสียงที่สั่
“ ขั้นตอนต่อไปเราจะตามหาประธานรุ่นกันนะคะ ประธานเอาจริงๆไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมากมายนักหรอกค่ะ เพราะรุ่นพี่จะสุ่มจับขึ้นมาด้านหน้าตรงนี้เอง ฮ่าๆๆๆ ” พี่นิดพูดไปขำไป คณะนิเทศศาสตร์แตกต่างไปจากที่คิดเอามากๆ รุ่นพี่ทุกคนใจดี ไม่เครียด เป็นกันเอง ชิวๆ แบบโคตรชิว เพราะหันไปมองรุ่นพี่แต่ละคนที่ยืนรายล้อมน้องๆอยู่ก็มีแต่รอยยิ้มให้กับน้องๆทุกคนเลย มันไม่แปลกไปใช่ไหม หรือมันปกติ “ รบกวนพี่เคประธานรุ่นปี3 กับพี่ใหม่ประธานรุ่นปี4 เดินสุ่มจับน้องมาสัก 4 คนหน่อยค่า เชิญค่าาา ” สิ้นคำสั่งจากพี่นิดประธานรุ่นปี2 พี่เคกับพี่ใหม่ก็เดินเลือกน้องๆมองดูและเดินไปเช็คดูในแต่ละแถวและจับสุ่มออกมา“ น้องคนนี้ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่เดินไปที่แถวของต่อกับเถวะ และพี่ใหม่ก็บอกให้ต่อลุกขึ้นไปยืนหน้าแถว ต่อทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย “ ดูเท่ห์ว่ะ :) ” ต่อพูดก่อนจะลุกขึ้นไปยืนด้านหน้าแถวของตัวเอง “ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคบอกเพื่อนผู้ชายที่ยกมือถามคำถามพี่ฝนก่อนหน้านี้ “ ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่จับเพื่อนผู้หญิงอีกคน“ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคจับเพื่อนผู้ชายอีกคนให้ลุกขึ้นเป็นคนสุดท้าย “ ตอนนี้เราได้ว่าที่ประธานรุ่นของคณะนิเทศศาสตร์ของพ
มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งวันนี้เป็นเปิดเรียนวันแรกของภาคการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ปี1 เทอม1 เจ้าหญิงที่กำลังจะก้าวขาลงจากรถตู้เธอก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คนที่ขับรถไปรับไผส่งเธอเป็นประจำในทุกๆวัน“ สวัสดีค่ะพี่อัคคี เจ้าหญิงไปเรียนก่อนนะคะ ” เจ้าหญิงยกมือไหว้อัคคีอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะอัคคีเปรียบดั่งเสมือนพี่ชายของเธอเลย เธออยู่กับเขาเธอรู้สึกอบอุ่น และรู้สึกถึงความเป็นพี่ชายจากตัวเขาเป็นอย่างมาก “ ครับ ตั้งใจเรียนนะครับ ” อัคคีหันไปยิ้มให้กับเด็กสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนเหมือนกัน เขารู้สึกรักและเอ็นดูเจ้าหญิงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลยก็ว่าได้ “ เป็นยังไงบ้าง ” บทร้ายที่ค้างสายอยู่ตลอดเวลากับอัคคีถามเขา“ ลงจากรถไปแล้วครับ ” บทร้ายวันนี้ติดประชุมด่วนเลยไปส่งเจ้าหญิงที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะค้างสายเพื่อเช็คเธอจากอัคคีตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเพื่อความปลอดภัย หรือหวงกันแน่ 😂“ อืม ” บทร้ายตอบและตัดสายโทรศัพท์ไปหลายปีก่อนหน้า“ พ่อครับ พ่ออย่าทิ้งผมไปเลยนะครับ ” อัคคีในวัยเพียงไม่กี่ขวบวิ่งไปกอดขาพ่อของเขาเอาไว้แน่น“ ออกไป! ไปซะ! ” พ่อของอัคคีไล่เขาด้วยน้ำเสียงแข
“ เกาะไว้แน่นๆนะคะ ” บทร้ายที่อุ้มเจ้าหญิงด้วยท่าลิงอุ้มแตงบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า เสียงแหบของเขามันดูเซ็กซี่จัง -////-“ อ๊ะ จะ เจ็บ ” เจ้าหญิงสะดุ้งโหยงเมื่อเธอรู้สึกถึงท่อนเอ็นแข็งๆที่มีขนาดใหญ่มากๆเข้ามาทิ่มแทงไปที่โพลงกลีบกุหลาบของเธอ “ อ๊าาาาาาาาา ” บทร้ายร้องครางออกมาด้วยความสุขสม แม้มันจะเข้าไปได้แค่ปลายหัวถอกของเขาเท่านั้น “ ฟิตจังค่ะ ที่รัก ” บทร้ายพูดพลางอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียว ดูเหมือนเขาไม่หนักเลย เขาอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียวอย่างง่ายดาย แต่แขนอีกข้างหนึ่งของเขากลับอ้อมแขนล้วงไปที่ใต้ระหว่างขาของเด็กสาว เขาจับท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานชายไทยถอดออกมาจากโพลงกลีบกุหลาบของเธอ พร้อมกับที่เขาจับท่อนเอ็นแข็งถูไปถูมาจนเริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมาเล็กน้อย“ แฉะ แล้วนะคะ ” “ ทนอีกนิดนะคะ เดี๋ยวก็มีความสุขแล้ว ” บทร้ายพูดพลางแอบยัดท่อนเอ็นใหญ่ของตัวเองเข้าไปในโพลงกลีบกุหลาบโดยที่เด็กสาวยังไม่ทันได้ตั้งตัว “ กรี๊ดดดด อ๊ายยยย ” เจ้าหญิงร้องออกมาเสียงหลงด้วยอาการที่เจ็บแสบไปรอบๆโพลงเล็กๆของเธอ มันเจ็บจัง TT“ อ๊าาา เสียววววสัสๆ ” บทร้ายเผลอพูดสบถคำหยาบออกมาอย่างสุขสมอา
เพนท์เฮ้าส์“ เจ้าหญิงขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวเจ้าหญิงจะไปหาที่บ้านหลังใหญ่ค่ะ ” เจ้าหญิงบอกกับบทร้ายก่อนที่เธอจะก้าวขาลงจากรถตู้“ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวพี่จะไปหาที่บ้านหลังเล็กเอง อยากเปลี่ยนบรรยากาศ :) ” บทร้ายยิ้มร้ายๆใส่เจ้าหญิง แววตาของเขาพร้อมที่จะตะครุบนางแมวน้อยยั่วสวาทตัวนี้จริงๆ แต่เขาก็ต้องอดใจรอไว้ก่อน เพราะต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันไปอาบน้ำตัวหอมๆ เพราะกลิ่นอาหารทะเลติดตามตัวเขาไปหมด “ ร้ายนะคะเนี่ยยยย ” เจ้าหญิงยิ้มหวานและก้าวขาเรียวเล็กของเธอลงจากรถตู้และเดินเข้าบ้านหลังเล็กสีขาวของเธอทันทีก็อก ก็อก ก็อก ตอนนี้เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าๆ เสียงเคาะประตูบานเล็กดังขึ้น เจ้าหญิงได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งแจ้นออกมาเปิดประตูให้เจ้าของเสียงเคาะประตูทันที เพราะจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากเขา...คุณบทร้าย “ มาแล้วค่าาาา ” เสียงใสเจียแจ้วดังมาแต่ไกล “ อ๊ะ! ” เจ้าหญิงที่พึ่งเปิดกลอนประตู เธอโดนบทร้ายกอดรัดแน่นและโผล่เข้าจูบปากเล็กอย่างหื่นกระหายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว“ อื้อๆ ” เจ้าหญิงทุบอกแกร่งอย่างแรงเพราะเธอหายใจไม่ออก คุณบทร้ายทำแบบนี้เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ “ ปะ ปิด ปาาาา ตู้ ”
2 วัน ผ่านไปร้านอาหารตามสั่งวันดีวันนี้บทร้าย เจ้าหญิง ธันวา นม กันต์ และอัคคีได้มาชิมอาหารฝีมือของแม่วันดี แม่ของเจ้าหญิงครั้งแรกตามที่บทร้ายบอกว่าจะพามา เขาอยากพาเธอมาอวดผลสอบผู้เป็นแม่ และให้เจ้าหญิงได้เจอแม่ก่อนเปิดเรียนมหาวิทยาลัย “ คุณแม่ขาาาาา ” เจ้าหญิงที่พึ่งก้าวขาลงจากรถตู้ เธอรีบวิ่งไปกระโดดกอดแม่ของเธอทันที เมื่อวันก่อนที่จะมาหาคุณแม่ เจ้าหญิงได้โทรบอกกับแม่ของเธอไว้ก่อนแล้วว่าเธอจะเข้ามาพร้อมกับคุณบทร้าย วันนี้วันดีเลยปิดร้านอาหารเพื่อต้อนรับลูกสาวของตัวเองและผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายของลูกสาวเป็นพิเศษวันนี้เจ้าหญิงใส่ชุดเดรสสั้นสีฟ้าอ่อน พร้อมกับใส่ที่่คาดผมผ้าสีฟ้า พายกระเป๋าใบสีขาว รองเท้าส้นสูงสีขาว ใส่สร้อยและต่างหู นาฬิกา เครื่องประดับเล็กน้อย แต่งตัวดั่งเจ้าหญิงเช่นเคย...“ ลูกสาวแม่โตเป็นสาวแล้ว ” วันดีกอดลูกสาวน้ำตาคลอ เธอคิดถึงลูกสาวคนดีของเธอมากๆ ก่อนที่จะมีเรื่องเกิดขึ้น เธอกับลูกสาวเจอหน้ากันทุกวัน เจ้าหญิงเป็นเด็กที่น่ารักมาก ช่วยเหลืองานบ้านของแม่ทุกๆอย่าง เธอทั้งเรียนหนัก ทั้งทำงานบ้าน ค้าขายช่วยแม่อย่างหนัก และแม่ของเธอไม่เคยได้ยินเด็กตัวเล็กๆแค่นี้
“ นมขาาา ” เจ้าหญิงยื่นหมู ไก่ เนื้อ ให้นม เพื่อให้นมหั่นเป็นชิ้นๆให้เธอ “ พี่อัคคีช่วยเจ้าหญิงจับหน่อยค่าาา ” เจ้าหญิงที่กำลังจะปูเสื่อลงพื้นที่หน้าบ้านบอกให้อัคคีช่วยจับอีกแรงตอนนี้เธอแต่งตัวด้วยกางเกงผ้าลื่นขาสั้นสีดำ เสื้อยืดตัวใหญ่ๆสีชมพู พร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนในการจัดเตรียมอาหารมื้อเย็นสุดพิเศษเธอค่อยๆยกหม้อต้มชาบูที่เธอพึ่งซื้อมาค่อยๆวางลงพื้นอย่างเบามือ และก็เดินไปยกหม้อใบที่สองออกมา เธอซื้อหม้อต้มชาบูกับหม้อปิ้งย่างมาอย่างละ 2 ใบ เผื่อมีคนอยากกินทั้งต้มและย่าง “ :) ” บทร้ายเดินไปยิ้มไปอย่างมีความสุข ส่วนธันวาก็มองหน้าเพื่อนสนิทจนจะเลี่ยนในความรัก ความรักที่ไม่รู้หัวใจตัวเอง...“ มาแล้วเหรอคะ :) ” เจ้าหญิงที่ตอนนี้ตัวเลอะเทอะไปหมดเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวาน จนทำให้ธันวาคล้อยตามไปกับสาวน้อยด้วย“ อุ้ย! คุณพาเพื่อนมาด้วยเหรอคะ เชิญค่ะๆ คุณ... ” เจ้าหญิงเอียงคอถามเล็กน้อย “ ธันวา เพื่อนสนิทคุณบทร้ายครับผม :) ” ธันวาแนะนำตัวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับเจ้าหญิง แถมเขายังยื่นมือจะไปจับมือน้อยๆทักทายเจ้าหญิงอีกด้วยแปะ แปะ แปะ เจ้าหญิงทั้งปัดและเช็ดมือที่สกปรกของตัวเองออก ก่อน
เพนท์เฮ้าส์หลังจากที่ธันวาฉุดกระชากลากถูให้บทร้ายกลับเพนท์เฮ้าส์เพื่อที่ตัวเองจะได้เจอกับเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ทุกคนพูดถึง พอเข้ามาในบ้านหลังใหญ่บทร้ายก็พาเขาไปที่ห้องอาหาร เพราะตอนนี้ก็เที่ยงวันแล้วก็เลยพามากินข้าวด้วยกันที่บ้านซะเลย นมกับแม่บ้านคนอื่นๆของบทร้ายก็เสิร์ฟน้ำกับอาหารวางไว้บนโต๊ะอาหารสีทองอร่ามอย่างเบามือตั้งแต่มีเจ้าหญิง บทร้ายยอมอนุญาตให้แม่บ้านหรือนมคนสนิท แม้กระทั่งกันต์เข้าบ้านได้ในโชนชั้นล่าง คือ ห้องอาหาร เพราะตอนนี้เขาได้เริ่มเปิดใจมากขึ้น และทำตัวปกติธรรมดาเหมือนคนทั่วไปมากขึ้น ตั้งแต่เขามีเธอ...เจ้าหญิงดิสนีย์ส่วนห้องทำงานของเขาจะอยู่ ชั้น 3 (กันต์บอดี้การ์ดคนสนิท สามารถขึ้นมาหาเขาที่ห้องทำงานได้แล้ว) ห้องรับแขกอยู่ชั้น 2 ซึ่งไม่เคยมีแขกมาบ้านเลย ไม่สิ เพราะเขาไม่เคยพาแขกมาบ้านเลยสักคน ยกเว้น...ธันวา ส่วนชั้น 4 จะเป็นห้องนอนห้องโล่งๆ 2-3 ห้องขนาดใหญ่ ที่ทำไปทำไมก็ไม่รู้ ส่วนชั้น 5 ก็จะเป็นห้องนอนของเขาเอง และในเพนท์เฮ้าส์จะมีลิฟต์ขึ้นลงได้อย่างสะดวกสบาย“ น้ำค่ะ นายท่าน ” นมรินน้ำใส่แก้วให้บทร้ายพร้อมกับรินน้ำใส่แก้วให้กับธันวาต่อ“ นม นม นม ” ธันวากวักมือเรีย
“ อื้อออ เสียงอะไรคะ ” “ ไม่มีอะไรค่ะ นอนต่อเถอะ รถบอดี้การ์ดเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ ไม่ร้ายแรงมาก ” บทร้ายตอบพลางลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ เขาภาวนาในใจอย่างหวั่นๆว่าอย่าให้เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเลย ดีที่ว่าตอนนี้รถของคนที่คิดจะทำร้ายเขายังตามหารถเขาไม่เจอ เพราะรถบอดี้การ์ดอีกคันของเขาล่อพวกมันไปอีกทางหนึ่ง“ อ่อออ ค่าาา ~~Zzzzz ” เด็กน้อยที่หมดเรี่ยวแรงก็หลับต่อ เพราะปกติเจ้าหญิงไม่เคยนอนเกินเที่ยงคืน บริษัท BRก็อก ก็อก ก็อกเสียงเคาะประตูจากด้านนอกห้องทำงานของบทร้ายดังขึ้น ก่อนที่ต้นเสียงเคาะประตูจะปรากฎตัวขึ้นมา“ สวัสดีเพื่อนรักกกกก ” ธันวาหรือธัน เพื่อนสนิทในวัยเด็กของบทร้าย ธันวาเป็นเพื่อนเรียนด้วยกันตั้งแต่สมัยประถม ฐานะทางบ้านของธันวาก็รวยพอๆกับเขา แต่ครอบครัวธันวาไม่ใช่มาเฟีย แต่เป็นครอบครัวตำรวจทหารคนในเครื่องแบบที่กระทำเรื่องผิดกฎหมาย และมีอำนาจมากที่สุดในประเทศนี้พอๆกับบทร้าย ครอบครัวของทั้งสองก็เกื้อหนุนกันเรื่อยมา เพราะพ่อของบทร้ายก็เป็นเพื่อนสนิทของพ่อธันวาเหมือนกัน และทั้งสองคนก็ได้จากโลกใบนี้ไปแล้วในสถานที่และเวลาพร้อมกันเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยที่ทั้งคู่ก็ยังจับตัวไม่ได้ว่า
ส่วนด้านหน้ารถตู้ คนขับรถจะเป็นอัคคีพี่ชายคนสนิทของเจ้าหญิง คนนั่งเบาะด้านซ้ายข้างคนขับก็จะเป็นพี่กันต์บอดี้การ์ดคนสนิทของคุณบทร้าย และจะมีรถบอดี้การ์ดอีก 3-4 คัน ที่ขับตามหลังมา มันทำให้เจ้าหญิงรู้สึกอึดอัด ไปเที่ยวไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ดตามไปด้วย ปกติเธอจะมีแค่พี่อัคคีที่คอยขับรถรับส่งเธอไปโรงเรียน “ ทำไมคุณต้องเอาบอดี้การ์ดมาเยอะแยะล่ะคะ เจ้าหญิงอึดอัดจัง ” เธอหันหลังไปมองรถที่ขับตามหลังมา 3-4 คัน แล้วเอ่ยถามคุณบทร้ายขึ้นอย่างอยากรู้คำตอบ“ หนูแต่งตัวชิวๆแบบนี้ดูน่ารักไปอีกแบบนะคะ ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเลย ” บทร้ายเฉไฉนแกล้งพูดเรื่องอื่น เพราะเขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้กับเด็กน้อยคนนี้ยังไงดีถ้าเขาบอกเธอว่ามีบอดี้การ์ดเยอะๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากศัตรูหรือคู่แข่งทางธุรกิจมันก็ดูจะน่ากลัวเกินไปสำหรับเจ้าหญิง ถ้าเธอรู้เช่นนั้น ต่อไปเธออาจจะไม่อยากไปไหนมาไหนกับเขาอีกแล้วก็ได้ สำเพ็ง“ ถึงแล้ววววว ” เจ้าหญิงกระโดดลงรถตู้โดยที่อัคคีเป็นคนเปิดประตูรถให้เฉียดเช่นทุกครั้งกึก กึก บทร้ายก้าวขาลงมาตามหลังเจ้าหญิงติดๆ เขามองไปรอบๆก็มีแต่สินค้าอะไรก็ไม่รู้ปัญญาอ่อนไปหมด กระเป๋าก็ของก็อปทั้งนั้น ค