แชร์

บทที่ 474

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 18:00:00
“แล้วนี่ไม่ใช่ลูกของคุณหรือไง?” เย่ซูเฟินถาม

เย่เหว่ยถิงมองเธออย่างเย็นชา “แม้แต่การแต่งงานฉันก็ไม่อยากแต่งด้วยซ้ำ แล้วฉันจะอยากมีลูกงั้นเหรอ?”

เย่ซูเฟินหน้าซีดเผือด “ฉันว่าแล้วว่าคุณต้องพูดแบบนี้ เย่เหว่ยถิง ทำไมฉันต้องแต่งงานกับคุณด้วย ตอนนี้ฉันเสียใจแล้วถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็ไม่อยากแต่งงานกับคุณ!”

เย่เหว่ยถิงก็พูดขึ้นอย่างไม่ปราณี “ตอนนั้นมันก็เป็นเพราะเล่ห์เหลี่ยมของเธอจนฉันต้องแต่งงานกับเธอไม่ใช่เหรอ คิดว่าฉันอยากแต่งกับเธอหรือไง? ”

หัวใจของเย่ซูเฟินกำลังจะระเบิด และดวงตาของเธอก็แดงก่ำ “ใช่ เป็นเพราะฉันใช้เล่ห์เหลี่ยม ดังนั้นคุณถึงแก้แค้นฉันแบบนี้!”

เขาอยู่ข้างนอกทั้งคืน และไม่กลับบ้านด้วยซ้ำ

นับตั้งแต่เธอแต่งงานกับเขา เขาไม่เคยคิดว่าที่นี่คือบ้านอีกต่อไป

เธอต่างจากหญิงม่ายตรงไหน?

“อย่าพูดว่าแก้แค้นเลย” สายตาของเย่เหว่ยถิงเย็นชา “ฉันไม่เคยเห็นเธอในสายตาด้วยซ้ำ!”

หัวใจของเย่ซูเฟินชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอพยายามไปเพื่ออะไรกัน?

เพื่อว่าสักวันหนึ่งเย่เหว่ยถิงจะเปลี่ยนใจอย่างนั้นเหรอ?

เปล่าเลย

เธอเพียงแค่ปล่อยวางไม่ได้ และเธอก็ไม่เต็มใจที่ปล่อยวางมันด้วย ลูกโตขนาดนี้แล้ว เ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 475

    ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่เหลืออะไรเลยไม่มีใครอยู่เคียงข้างเธอ…เวินหนี่กลับมาที่โรงพยาบาลในเวลานี้เย่จื่อฟื้นขึ้นมาแล้วแต่เธอดูเหนื่อยเล็กน้อยและนอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย“คุณอา” เวินหนี่ถือของมากมายเดินเข้าไปเย่จื่อหันศีรษะและมองไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “เวินหนี่เองเหรอ”“เป็นยังไงบ้างคะ? รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะ?” เวินหนี่ถาม “ถ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนต้องบอกหนูนะคะ”เย่จื่อมองไปที่เย่หนานโจวที่อยู่ด้านหลังเธออีกครั้ง เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ตรงที่มันควรเจ็บก็ยังเจ็บอยู่ แต่ยังทนได้ ไม่ต้องเป็นห่วงอีกสองสามวันก็หาย!”เวินหนี่ตอบกลับไป “ค่ะ”“หนานโจว” เย่จื่อมองไปที่เย่หนานโจว เธอยังคงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสุสาน “ฉันขอโทษที่พูดออกไปแบบนั้น อย่าเก็บไปใส่ใจเลย”แม้ว่าเธอจะโกรธเย่หนานโจวอยู่ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป และสำหรับเย่หนานโจว มันก็มีผลกระทบกับเขาในท้ายที่สุดเย่หนานโจวมองไปที่เย่จื่อด้วยสายตาที่ลึกล้ำและพูดอย่างเคร่งขรึม “มันผ่านไปแล้ว อย่าใส่ใจไปเลยครับ”เย่จื่อถอนหายใจด้วยสีหน้าโศกเศร้า “มันจะไม่เป็นการทำร้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 476

    "ตอนที่ฉันออกจากตระกูลเย่ ฉันไม่ได้เอาไปด้วย เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่ของฉันอีกแล้ว!"เย่หนานโจวเม้มริมฝีปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความคมกล้า ขณะที่มือกำหมัดแน่น“ไปกันเถอะ” ลู่เซินพูดกับเวินหนี่เวินหนี่เดินตามลู่เซินออกไปเย่หนานโจวมองตามแผ่นหลังของพวกเขา รักษาความนิ่งเงียบ ไม่ได้ห้ามไว้แต่ในแววตากลับเย็นยะเยือกเมื่อไปถึงชั้นใต้ดิน เวินหนี่พูดกับลู่เซินว่า “ฉันหาสาเหตุที่ทำให้ลู่ม่านเซิงหูหนวกได้แล้ว ตอนนี้ฉันอยากโทรสักสาย”ความคิดเห็นในโลกออนไลน์กำลังคุกรุ่น เธอต้องการใช้ช่วงเวลาที่กระแสกำลังแรงนี้เพื่อชี้แจงความจริง เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงให้เย่จื่อลู่เซินรีบเปิดประตูรถให้ “จะไปที่สถานีโทรทัศน์ใช่ไหม?”“ใช่ ฉันต้องกลับไปสักหน่อย”ลู่เซินจึงรีบขับรถพาเวินหนี่ไปยังสถานีโทรทัศน์ช่วงนี้เธอลาพักงานไปพอดี แถมเจียงเมิ่งเหยาซึ่งไม่ได้สัมภาษณ์เย่หนานโจวสำเร็จ ยังสร้างเรื่องทำลายข่าวของเธอ รวมถึงก่อความวุ่นวายในสถานีโทรทัศน์ ซึ่งทั้งหมดถูกบรรณาธิการเฉินรู้เข้าแล้ว บรรณาธิการจึงด่าเจียงเมิ่งเหยาชุดใหญ่ดังนั้นเจียงเมิ่งเหยาจึงกลายเป็นคนที่ทำงานไม่สำเร็จตามที่บรรณาธิการคาดหวังไว้ยิ่งไปกว่านั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 477

    เสี่ยวอิ่งรู้สึกอุ่นใจขึ้นเมื่อเห็นเวินหนี่ อย่างน้อยเธอก็ยังมีคนให้พึ่งพาได้บ้าง เวินหนี่รีบปลอบพร้อมกับตบหลังเธอเบา ๆ พอมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งมีข้อความที่เธอพิมพ์ไว้ยาวเป็นสิบกว่าหน้า ก็เอ่ยขึ้นว่า “พอแล้วล่ะ อย่าร้องเลย ครั้งนี้ฉันจะทำให้เธอได้มีโอกาสสู้กลับบ้าง”เสี่ยวอิ่งสะอื้นพลางถาม “จะมีอะไรให้ฉันได้เอาคืนจริง ๆ เหรอ ถ้าได้เอาคืนเจียงเมิ่งเหยาสักครั้ง ฉันจะรู้สึกสะใจสุด ๆ เลย!”หลังจากที่ถูกเจียงเมิ่งเหยากดขี่มาตลอด ถ้ามีโอกาสให้เจียงเมิ่งเหยาพลาดท่า เสี่ยวอิ่งจะไม่รอช้าที่จะขยี้ซ้ำ“สิ่งที่ฉันพูดถึง ก็คือเรื่องนี้แหละ”เสี่ยวอิ่งถึงกับตะลึง รีบเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยอย่างดีใจ “เวินหนี่ ฉันรู้แล้วว่าเธอต้องมาช่วยฉันแน่ ๆ พูดมาเลย เดี๋ยวฉันจัดการทันที!”เวินหนี่นั่งลงที่โต๊ะ เตรียมจะร่วมมือกับเสี่ยวอิ่งเพื่อแฉเรื่องของลู่ม่านเซิงขณะเดียวกัน เจียงเมิ่งเหยากำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังที่อยู่ของลู่ม่านเซิง ตอนนี้ลู่ม่านเซิงกลับไปพักที่บ้านแล้ว เธอพักอยู่ที่ว่างเจียงหยวนซึ่งเย่หนานโจวก็ไม่ได้ไปหาด้วย ลู่ม่านเซิงเองก็รู้สึกอ่อนล้าแม้จะไม่รู้ว่าในอนาคตจะพึ่งเย่หนานโจวได้หรือไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 478

    ลู่ม่านเซิงรีบลุกขึ้นด้วยสีหน้าซีดเผือด "อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไง!"“ฉันไม่ได้โกหกจริง ๆ มีคนโทรมาด่าจริง ๆ ค่ะ!” เสี่ยวหยวนพูดด้วยความตกใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอเรื่องแบบนี้ “แต่ละคำด่าฟังไม่ไหวเลยค่ะ พี่อย่าฟังเลยดีกว่า”ลู่ม่านเซิงถึงกับอึ้ง ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ "ใครจะเอาประวัติการรักษาฉันออกมาได้ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย!"เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดดูสถานการณ์ในโลกออนไลน์ และเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้…แต่พอเธอเห็นคอมเมนต์มากมายก็เริ่มไม่มั่นใจ ทุกข้อความพุ่งเป้ามาด่าทอเธอกล่าวหาว่าเธอเป็นผู้หญิงแสร้งทำตัวน่าสงสาร เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ใส่ร้ายคนอื่น กล่าวหาว่าชีวิตจริงก็แสดงละครเหมือนในบทบาทมีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่าเธอสร้างภาพให้ดูดี แต่ลับหลังกลับเป็นหญิงเจ้าเล่ห์!ลู่ม่านเซิงอยู่ในวงการมานานตั้งแต่เป็นนักร้อง เคยเจอคอมเมนต์เชิงลบบ้าง แต่ไม่เคยหนักเท่านี้ ตอนนั้นเธอมีชื่อเสียงพอสมควรและถึงกับต้องจ่ายเงินเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเองบ้าง แต่ตอนนี้กับการเป็นนักแสดงกระแสด้านลบกลับรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีกเธอเลื่อนดูแต่ละคอมเมนต์ ล้วนแต่เต็มไปด้วยถ้อยคำตำหนิทั้งสิ้น[หูหนวกเพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 479

    [น่าเชื่อถือ ฉันอยู่ห้องพักฟื้นข้าง ๆ เลย เห็นคน ๆ นั้นบาดเจ็บไปทั้งตัว สภาพหนักมากไม่รู้ไปเจออะไรมาบ้าง สรุปคือตอนนี้บาดเจ็บสาหัสไปเพราะคำพูดไม่กี่คำของลู่ม่านเซิง!][มันไม่ยุติธรรมเลย เพราะแค่เป็นคนดัง แค่คำพูดหรือสายตาคำเดียวก็สามารถพลิกความจริงได้ วันนี้ยังเข้าแค่โรงพยาบาล พรุ่งนี้จะไม่ถึงชีวิตเชียวเหรอ? กฎของวงการบันเทิงควรจะปรับได้แล้วนะ ศิลปินก็ควรต้องมีทั้งคุณธรรมและฝีมือ ถึงเวลาลงโทษให้หนักแล้วกับคนแบบนี้!][ลู่ม่านเซิง ออกไปจากวงการบันเทิงซะ!][เจียงเมิ่งเหยา เธอก็อย่าทำข่าวอีกเลย เธอกำลังหากินบนความเดือดร้อนของคนอื่น!]เจียงเมิ่งเหยาหน้าถอดสีทันที คาดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะกระทบตัวเองด้วย เธอนึกถึงคำพูดของเวินหนี่ที่เคยเตือนว่าให้รักษาภาพลักษณ์ของตัวเองไว้ ซึ่งเธอคิดขึ้นมาได้ทันทีและพูดออกไปว่า “หรือว่าจะเป็นเวินหนี่!”ส่วนลู่ม่านเซิงก็มองโทรศัพท์ที่ไม่หยุดดัง มือไม้สั่นไปหมดเพราะคอมเมนต์เหล่านั้นที่ทำให้เธอเสียขวัญสุด ๆ คำเหล่านั้นส่งผลต่อเส้นทางในวงการบันเทิงของเธอโดยตรง แน่นอนว่าเธอรู้สึกหวาดกลัวกับอนาคตติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง!เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ลู่ม่านเซิงมองเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 480

    ลู่ม่านเซิงคิดว่าใคร ๆ ก็คงไม่คิดว่าจะเป็นเธอในทันทีโลกของเธอก็กลับตาลปัตรขึ้นมาอีกครั้ง!เจียงเมิ่งเหยาเห็นลู่ม่านเซิงกำลังตื่นตระหนกจึงพูดขึ้นว่า “คุณลู่ เราสองคนตอนนี้เหมือนลงเรือลำเดียวกันแล้ว ต้องร่วมมือกันพลิกสถานการณ์ ไม่งั้นพวกเราจะเสียหายทั้งคู่นะคะ!”เมื่อรายงานข่าวไปแล้ว ทางเดียวคือดึงชื่อเสียงของลู่ม่านเซิงกลับคืนมาเท่านั้นหากจะเรียกความเชื่อมั่นของชาวเน็ตคืน ต้องพลิกไปพลิกมาให้ได้ลู่ม่านเซิงยังไม่อยากเชื่อ “พวกเธอออกไปก่อน ฉันต้องการสงบสติอารมณ์!”เจียงเมิ่งเหยาร้อนรนใจ พูดต่อว่า “เราต้องหาทางแก้ไขสิ! การสงบสติไม่ได้ช่วยอะไร เรื่องถูกแฉออกไปหมดแล้ว…งั้นให้คุณพลิกกลับและฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ใช้กฎหมายถ่วงเวลาได้...”ยังพูดไม่ทันจบ ลู่ม่านเซิงก็พูดขัดขึ้นว่า “เสี่ยวหยวน พาเธอออกไป ฉันต้องการความสงบ!”“คุณเจียง เชิญค่ะ เซิงเซิงต้องการพักสงบสติสักครู่!” ผู้ช่วยของเธอรีบมาเชิญตัวเจียงเมิ่งเหยาออกไปในทันทีเจียงเมิ่งเหยาแน่นอนว่าเป็นห่วงผลประโยชน์ของตัวเองเธอจะเสียความเชื่อมั่นจากชาวเน็ตไปไม่ได้เพียงแค่ลู่ม่านเซิงพลิกกลับมาโจมตีอีกฝ่าย แม้วันหน้าความจริงจะถูกเปิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 481

    เขาไม่ปิดบังอะไรและตอบออกมาอย่างตรงไปตรงมาลู่ม่านเซิงถึงกับอึ้ง "คุณทำแบบนี้ทำไม? คุณไม่รู้เหรอว่ามันจะส่งผลร้ายแรงแค่ไหน? ฉันบอกให้คุณจัดการเวินหนี่ ถ้าเธอตาย ก็จะช่วยชีวิตเราสองคนได้ แต่คุณกลับทำอะไรเนี่ย คุณกำลังโยนฉันลงหลุมไฟอยู่รู้ไหม! ทำไมถึงทำแบบนี้?"เย่หวูโหยวยิ้มบาง ๆ ปัดเศษขนมปังออกจากตัวที่นกพิราบกินหมดแล้ว “ระหว่างเรามันไม่ใช่การแลกเปลี่ยน คุณขอให้ผมช่วย แต่ก็ไม่ได้จ่ายเงิน และผมเองก็ไม่ได้เก็บค่าจ้าง เวินหนี่จ่ายเงินเพื่อขอซื้อข้อมูลของคุณ พอเป็นเรื่องเงิน ผมก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว”“เย่หวูโหยว!” ลู่ม่านเซิงขึ้นเสียงด้วยความโกรธ “ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ! เราต่างคนต่างอยู่ในเรือลำเดียวกัน!”เย่หวูโหยวหุบยิ้มลง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไร เพื่อชดเชย ผมจะช่วยรักษาการได้ยินให้คุณเอง”ลู่ม่านเซิงได้ยินแล้วก็หัวเราะเยาะออกมา “ฉันคิดว่าคุณเป็นคนแบบเดียวกับฉัน ฉันคิดว่าถ้าคุณช่วยฉันแล้ว คุณก็จะช่วยฉันตลอดไป แต่คุณกลับเอาข้อมูลของฉันไปขายให้เวินหนี่ คุณเป็นคนแบบนี้เองเหรอ? หรือมีอะไรบางอย่างที่คุณกับเวินหนี่มีร่วมกัน ที่ฉันไม่รู้?"เย่หวูโหยวยิ้มมุมปาก “บางเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 482

    ทำไมถึงรู้สึกเศร้าแบบนี้นะ?เวินหนี่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้“ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้ว?” เวินหนี่ถามขึ้นเสี่ยวอิ่งตอบว่า “สักครึ่งชั่วโมงได้ เวินหนี่ช่วงนี้คงจะเหนื่อยเกินไปสินะ แค่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะเดี๋ยวเดียวก็งีบหลับไปแล้ว”เวินหนี่คิดว่าอาจเป็นเพราะตั้งท้องอยู่ “เมื่อคืนฉันคงนอนไม่ค่อยดีล่ะมั้ง”เสี่ยวอิ่งมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง แต่เมื่อเห็นว่าเวินหนี่ไม่มีอะไร เธอก็โล่งใจขึ้นเยอะ จากนั้นก็เอ่ยถึงข่าวดีที่เธอรีบมาบอก “บทความที่เราลงไปได้รับความสนใจเยอะเลย ลองทายดูสิ ตอนนี้ยอดคนอ่านเกินล้านแล้วนะ!”“ตอนนี้คนในโลกออนไลน์กำลังรุมต่อว่าลู่ม่านเซิงกันใหญ่เลย แถมยังลามไปถึงเจียงเมิ่งเหยาด้วย เราทำสำเร็จแล้ว!” เสี่ยวอิ่งพูดพลางหัวเราะด้วยความดีใจ “ฉันนี่อยากเห็นหน้าตอนเจียงเมิ่งเหยาหงุดหงิดจะแย่แล้ว ดูซิว่ารอบนี้เธอจะทำยังไง หลังจากที่กระทบกับชื่อเสียงของซิงเหอแบบนี้ เธอต้องโดนลงโทษแน่!”เวินหนี่เองที่เป้าหมายยังคงอยู่ที่ลู่ม่านเซิงก็อดเตือนไม่ได้ว่า “การทำงานครั้งนี้ได้ผลดีอยู่ แต่อาจส่งผลกระทบต่อซิงเหอด้วย ทางหัวหน้าต้องสอบถามเรื่องนี้แน่ เราควรระวังกันหน่อยนะ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status