ฉันเงียบไม่ได้พูดแย้งอะไรกับคำที่พี่สิงห์พ่นออกมา เขาจะรู้ไหมว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเขาตรงนี้มันเจ็บแค่ไหน“อึก อึก อ้วก...” จู่ ๆ มันก็เหมือนมีอะไรมาจุกที่คอจนฉันต้องรีบลุกขึ้นวิ่งไปเข้าห้องน้ำ โดยที่ไม่ห่วงเลยว่าตัวเองจะโป๊อยู่ มือก็โดนมัดอยู่ฉันคิดแค่ว่าตอนนี้ฉันต้องไปถึงห้องน้ำให้เร็วที่สุด พอมาถึงห้องน้ำฉันก็โก่งคออ้วกเสียงดัง มันอยากจะอ้วกนะแต่แทบไม่มีอะไรออกมาเลย แถมยังปวดหัว มาก ๆ อีกด้วยตอนนี้“อึก อ้วก!!”ฉันอยากจะปลดเชือกที่มัดมือตัวเองออกจริง ๆ เลยมัดมือแบบนี้หน้าฉันจะทิ่มโถส้วมอยู่แล้ว“อ่ะ... ขะ เข้ามาทำไมออกไปก่อนค่ะ” ไม่รู้ว่าพี่สิงห์เดินตามเข้ามาในห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่สิงห์เอามือมาลูบหลังให้ฉันแต่ฉันขยับตัวหนีเขาพี่สิงห์พ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ เขาไม่พูดอะไรแต่กลับไม่ยอมออกไปจากห้องกลับยืนกอดอกเอาแต่มองฉันที่กำลังอ้วกอยู่พออ้วกเสร็จฉันลุกขึ้นยืนแต่ดันหน้ามืดจะล้ม โชคดีที่พี่สิงห์คว้ามือมาจับตัวฉันไว้ทัน“ห้ามมองนะ !!” ฉันรีบหันหลังให้พี่สิงห์ ถึงจะเคยโป๊ต่อหน้าถึงจะเคยมีอะไรกัน แต่ฉันก็อายเป็นนะแล้วก็ไม่ชอบเวลาโดนจ้องด้วย“เล่นตัวฉิบหาย” พี่สิงห์สบถออกมาเบา ๆม
ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรอผลตรวจอยู่ที่หน้าห้องตรวจโดยมีพี่สิงห์นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉันพยายามอธิษฐานขอให้ตัวเองไม่ท้อง มันไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับฉันเลยจริง ๆ ยังเรียนอยู่แล้วไหนพ่อของลูกก็คือคู่หมั้นของพี่สาวตัวเองอีก ถ้าท้องขึ้นมาจริง ๆ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะแย่แค่ไหน“ถะ ถ้าเกิดว่าพริ้งท้องจริง ๆ ...” ฉันถามพี่สิงห์ออกไป แต่แล้วฉันก็ต้องเงียบแล้วก็ก้มหน้าลงเพราะฉันไม่ควรไปเรียกร้องให้เขารับผิดชอบอะไรถึงฉันไม่อยากท้อง แต่ถ้าผลมันออกมาว่าฉันท้องจริง ๆ ฉันก็ต้องทำใจยอมรับแล้วก็จะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด... ด้วยตัวเองมันแย่มากจริง ๆ ความรู้สึกของฉันในตอนนี้“คิดว่าฉันจะปัดความรับผิดชอบ?” พี่สิงห์พูดขึ้น“มะ ไม่ค่ะ พี่สิงห์ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เพราะพี่สิงห์ต้องรับผิดชอบพี่มารี ไม่ใช่พริ้ง...”พี่สิงห์ไม่ตอบอะไร เขาพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ แบบหงุดหงิดกับคำพูดของฉันเอามาก ๆ มันก็ดีแล้วไม่ใช่รึไงที่ฉันต้องการแบบนี้“คุณพริ้งคะ ผลตรวจออกมาแล้วค่ะ” นางพยาบาลเดินมาบอกฉัน“อะ อ๋อ ค่ะ ๆ”ตึกตัก ตึกตัก พอได้ยินว่าผลตรวจออกมาแล้วใจของฉันมันก็เต้นรัวทันทีเมื่อสิ้นสุดคำพูดของนางพยาบาลพี่สิงห์ก็ลุกขึ้นพรวดแล้ว
# ภายในรถ“พี่สิงห์ทำไมต้องขับรถเร็วขนาดนี้ด้วยเบา ๆ กว่านี้หน่อยได้ไหมคะ”“เธอบอกว่ารีบไปเรียน ไม่ใช่หรือไงกัน?” พี่สิงห์หันหน้ามาถามฉัน“ใช่ค่ะ แต่ก็ยังพอมีเวลาไม่จำเป็นต้องขับรถเร็วขนาดนี้หนิ”“หึ!! รีบไปเรียนหรือรีบไปหาใครกันแน่”“แล้วแต่จะคิดเลยค่ะ”บรรยากาศภายในรถเงียบสนิทอีกครั้งหลังจากที่จบคำพูดของฉัน เราสองคนคงไม่มีทางคุยกันดี ๆ ได้แน่ แค่ฉันพูดอะไรขึ้นมานิดหน่อยพี่สิงห์ก็ตั้งท่าจะอารมณ์เสียใส่ฉันแล้ว“ดีใจไปเถอะ สักวันเดี๋ยวฉันจะทำให้เธอท้องจริง ๆ คอยดูแล้วกัน” พี่สิงห์พูดขึ้นทำลายความเงียบคำพูดของเขามันทำให้ฉันถึงกับต้องตาค้างเพราะไม่คิดว่าผู้ชายอย่างพี่สิงห์จะจงใจอยากทำให้ผู้หญิงคนไหนท้อง อีกทั้งเขามีลูกกับพี่มารีแล้วไงล่ะ“ทะ ทำไมถึงต้องทำแบบนั้นล่ะคะ”พี่สิงห์เลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไรตอบ ฉันเดาไม่ออกเลยจริง ๆ ว่ามันเป็นเพราะอะไร เพราะอะไรที่ทำให้พี่สิงห์คิดอยากจะทำให้ฉันท้อง# คอนโดพอมาถึงในห้องพี่สิงห์ก็ทิ้งตัวลงนอน เขานอนเล่นมือถืออย่างใจเย็นเลยตอนนี้“ทำไมไม่กลับไปสักที พริ้งบอกพี่สิงห์แล้วนะคะ ว่าพี่มารีรออยู่”“จะไล่อะไรนักหนาวะ !!” พี่สิงห์ลุกขึ้นพรวดจากที่นอน เข
เลิกเรียน... วันนี้ฉันกับสายธารเลิกเรียนค่ำหน่อย ระหว่างทางกลับคอนโดเราจอดรถแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวเอาไว้ไปกินที่ห้องด้วย “พริ้ง แกว่านั่นใช่คนไหม” สายธารชี้ให้ฉันดูตรงพุ่มไม้ข้าง ๆ กับรถที่จอดอยู่ ตอนนี้เราซื้อก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้วอยู่ในรถกำลังจะกลับคอนโดกัน “อื้อ ใช่จริง ๆ ด้วย” ฉันตาโตทันทีเมื่อเห็นร่างคนอยู่ตรงพุ่มไม้ คือไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย เขานอนหมดสติอยู่ “ตะ ตายไหมวะแก เราจะช่วยเขาดีไหม แต่ถ้าเขาตาย ไม่เอานะฉันกลัวผี” สายธารหน้าซีดเผือดเลยตอนนี้“ถ้าเขายังไม่ตายล่ะ แกฉันว่าเราลงไปช่วยเขาเถอะ”“เอางั้นเหรอ?”ฉันพยักหน้าตอบเพื่อน คือถ้าเราเห็นคนอยู่ในสภาพหมดสติแบบนี้เราก็ต้องช่วยสิ ไม่ว่าเขาจะเป็นหรือตาย ลองคิดในทางกลับกันถ้าคนนั้นคือเรา เราก็คงต้องการความช่วยเหลือเหมือนกัน ฉันกับสายธารเปิดประตูลงจากรถก่อนจะเกาะแขนกันก้าวขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ ร่างคน ๆ นั้น พอมองใกล้ ๆ ถึงรู้ว่าเป็นผู้ชาย แถมตามตัวมีแต่รอยแผลเต็มไปหมด เขาเป็นผู้ชายหน้าตาถือว่าหล่อมากเลยแหละขนาดแผลบนใบหน้ายังปิดบังความหล่อของเขาไม่ได้เลย“แกเขายังไม่ตาย” ฉันบอกสายธารเพราะเห็นว่าผู้ชายคนนี้ยังหายใจอยู่“รีบเอาเขาขึ้นรถก
ฉันเบิกตากว้างเมื่อหันไปมองทางต้นเสียงแล้วเจอกับพี่มารียืนมองมาทางฉันกับพี่สิงห์อยู่“มันไม่มีอะไรนะคะ พี่มารีอย่าคิดมากนะพี่สิงห์ คะ แค่มา... มาหาเพื่อนแล้วเราก็แค่บังเอิญเจอกัน” ฉันพูดมั่ว ๆ ออกไป ในตอนนี้ฉันรนไปหมด พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย ใจของฉันมันเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก“ระ เหรอ มาหาเพื่อนงั้นเหรอคะสิงห์”“คงงั้น” พี่สิงห์ตอบพี่มารี แต่เขากลับเอาแต่จ้องมองหน้าฉัน สีหน้าของสีหน้าสิงห์เหมือนคนไม่ได้รู้สึกตกใจอะไรเลย“เพื่อนอยู่คอนโดนี้งั้นเหรอสิงห์” พี่มารีถามย้ำอีกครั้ง“อื้ม” พี่สิงห์ยังคงเอาแต่มองหน้าฉันเหมือนเดิม“พะ พี่มารีจะมาทำไมไม่บอกพริ้ง” ฉันเดินเข้าไปหาพี่มารีแต่พี่มารีเดินสวนทางกับฉันตรงไปหาพี่สิงห์ จากนั้นก็ดึงแขนของพี่สิงห์ให้หันหน้ามาหาตัวเอง“ทำไมต้องถอนหมั้น ถ้าไม่อยากจะหมั้นแต่แรกทำไมไม่ปฏิเสธ” พี่มารีถามเสียงสั่นเครือ แต่แล้วก็ไร้คำตอบใด ๆ จากปากของพี่สิงห์“ทำมารีท้องแล้วจะมาทิ้งมารีกับลูกแบบนี้ มารีไม่ยอมหรอกนะคะ”ฉันยืนมองทั้งคู่ด้วยความรู้สึกผิด ความรู้สึกผิดมันถาโถมเข้ามาในใจของฉันอย่างหนักหน่วง ยิ่งเห็นพี่มารีเสียใจ มันยิ่งตอกย้ำความเลวของฉัน“ฉันบอกเ
— Talk Singha #คลับชื่อดังภายในห้องผู้บริหารใหญ่ของคลับปัก! แก้วเหล้าในมือผมถูกวางกระแทกโต๊ะเสียงดัง จากนั้นผมก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ไม่ว่าจะทำอะไรแม่งก็หงุดหงิดไปหมด ขนาดข้างกายมีผู้หญิงนั่งโอบล้อมสองฝั่งแต่พวกเธอก็ไม่ได้ทำให้ผมเย็นลงได้เลยหนึ่งอาทิตย์แล้ว หนึ่งอาทิตย์ที่ยัยเด็กซื่อบื้อคนนั้นพยายามหลบหน้าผม ทำไมวะ ทำไมต้องคิดว่าผมทำพี่สาวเธอท้อง ผมคงไม่คิดสั้นหาอะไรมามัดตัวเองให้ดิ้นไม่หลุดหรอก เรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดคือพ่อของผม หึ!!“เป็นเหี้ยไรวะ” ไอ้ขุนรามมันหันมาทักผมในขณะที่มันกำลังนัวเนียกับผู้หญิงข้างกายมันอยู่“นั่นดิ ทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์อยู่ได้” ไอ้กายเพื่อนของผมที่เป็นหมอพูดสมทบอีกคน“ถอนหมั้นแล้วมีอะไรให้เครียดอีกวะ” ไอ้รามพูด“เรื่องของกู”“เธอสองคนจะไปไหนก็ไป ฉันอยากนั่งคนเดียว” ผมบอกผู้หญิงที่นั่งข้างผม เธอทั้งสองคนยอมลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี“ไอ้สัสเสียของฉิบหาย ของดี ๆ ทั้งนั้นไม่เอาทำไมไม่บอกกูวะ กูจะรับไว้เอง” ไอ้กายจิ๊ปากใส่ผม แต่ผมไม่ได้สนใจคำพูดอะไรของพวกมันผมนั่งดื่ม แล้วก็นั่งดูไลฟ์สดบรรยากาศภายในคลับของตัวเองผ่านจอทีวีขนาดใหญ่พลางยกเหล้
— Talk Prink ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน วันนี้ฉันรู้สึกเบื่อห้อง รู้สึกไม่อยากอยู่ห้องมันอึดอัดไปหมด แค่หายใจยังเหนื่อยผ่านมาแล้วหนึ่งอาทิตย์ ฉันพยายามโทรศัพท์ไปหาพี่สาวของฉัน แต่พี่มารีก็ไม่รับสายเลย จะไปหาก็ไม่ได้เพราะติดเรียนส่วนพี่สิงห์ฉันต้องใช้ความพยายาม และต้องแข็งใจมากที่จะตัดเขา ไม่รับสายเขา แต่ฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าในหัวใจของฉันยังคงมีพี่สิงห์อยู่“พริ้ง แกดื่มเยอะไปแล้วนะ” สายธารดึงแก้วเหล้าออกจากมือฉันในขณะที่ฉันกำลังจะยกเหล้าดื่มจริง ๆ ทุกคนก็พอจะรู้ว่าฉันไม่ใช่คนดื่มเก่งอะไรเลย คออ่อนมาก แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันวันนี้ฉันกลับอยากดื่ม“ฉันอยากดื่ม ขอหนึ่งวันนะสายธาร” ฉันบอกเพื่อนเสียงเศร้า พร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนขอแก้วเหล้าคืนสายธารถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะยื่นแก้วเหล้าคืนมาให้ฉันอย่างไม่เต็มใจ ฉันรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง แต่ฉันอยากดื่มนี่นา“สวัสดีครับ” จู่ ๆ ก็มีผู้ชายมาทักฉันสองคน เขานั่งอยู่โต๊ะข้างหน้าฉันนี่แหละ ฉันสังเกตเห็นว่าเขามองฉันสักพักแล้ว“คะ?” สายธารถามผู้ชายคนนั้น ส่วนฉันไม่ได้สนใจอะไร ไม่มีใครดึงความสนใจจากฉันได้ นอกจากผู้ชายใจร้ายคนนั้น...“ขอชนแก้วหน่อยได้ไ
“โทรไปบอกให้เพื่อนเธอกลับไปซะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง” พี่สิงห์เปลี่ยนประเด็นพูดส่งฉันแทนที่จะตอบคำถาม“ไม่ค่ะ พริ้งจะกลับกับเพื่อน”“อย่าดื้อกับฉันให้มาก” สายตาอำมหิตจ้องมองใบหน้าของฉันอย่างเอาเรื่อง“นี่ พี่สิงห์เอาคืนมานะมาค้นกระเป๋าของคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง”“พี่สิงห์นั่นมันโทรศัพท์พริ้งนะ เอาคืนมาเดี๋ยวนี้” ฉันโวยวายเสียงดัง ก็พี่สิงห์น่ะสิ จู่ ๆ เขาก็ดึงกระเป๋าสะพายฉันไป แถมยังหยิบโทรศัพท์ของฉันไปกดอะไรก็ไม่รู้ ฉันจะแย่งมาก็ไม่ได้เพราะพี่สิงห์ดันตัวฉันเอาไว้เขารู้รหัสผ่านโทรศัพท์ฉันงั้นเหรอ บอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันหายมึนหัวแล้ว ตาสว่างเลยแหละ“เอาคืนมานะ !!”“ถ้าอยากได้คืน ก็ตามฉันมา” พี่สิงห์กระตุกยิ้ม เขาควงโทรศัพท์ของฉันหมุนไปมาตรงหน้าก่อนจะหยักคิ้วให้ฉันแล้วเดินนำหน้าฉันไปฉันจะทำไงได้ล่ะ ถึงไม่อยากจะตามไปแต่ทั้งกระเป๋าทั้งโทรศัพท์ก็อยู่กับเขาหนิ เฮ้อ...พี่สิงห์พาฉันเข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง เป็นห้องส่วนตัวแถมยังมีผู้ชายนั่งอยู่ข้างในด้วยสองคน เขาทั้งสองคนกำลัง เอ่อ... กำลังจูบกับผู้หญิงอยู่น่ะ“พาใครมาวะ?”“เฮ้ย น้องพริ้ง ^_^”พอได้เห็นหน้าผู้ชายสองคนที่อยู่ในห้องชัด ๆ ฉันก็จำได้ว่า
— Talk Singhaหึ!! คิดว่าผมไม่รู้หรือไงว่าเมียตัวเองแอบหนีไปเที่ยว เธอคงไม่รู้ว่าผมให้ลูกน้องคอยตามดูเธอเอาไว้ ว่าแล้ว ไล่ผมมาจัง กลับไปเจอดีแน่ ๆที่เธอไม่กล้าบอกผมก็เพราะรู้ว่าบอกผมยังไงผมก็ไม่ให้ไป ผมหวง ถ้าจะไปผมต้องไปด้วย ดูท่าเพื่อนของเธอคงจะเป็นต้นคิดแน่ ๆโชคดีที่งานอีกงานที่ผมต้องไปพรุ่งนี้ถูกยกเลิก ผมเลยคิดว่าจะบินกลับไทยไปตอนนี้เลยจริง ๆ ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมาย ผมแค่ไม่ชอบให้พริ้งไปเที่ยว เพราะเวลาเธอเมามันเหมือนคนอื่นเขาซะที่ไหนกันล่ะ แต่วันนี้ลูกน้องผมบอกว่าเธอดื่มน้ำเปล่า ค่อยโล่งใจหน่อย ถ้าผมรู้ว่าเธอดื่มเหล้าคงจะหัวเสียมากกว่านี้หลังจากที่ผมแน่ใจว่าเมียผมหลับไปแล้ว ผมก็กดวางสายก่อนจะนั่งรถไปขึ้นเครื่องกลับไทยจริง ๆ ผมไม่ชอบมางานสังคมแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่เพราะพ่อเป็นคนขอให้ผมมา จะเอาเมียมาด้วยก็ไม่ยอมมา คงเพราะมีแผน อุตส่าห์ซื้อของขวัญไว้ให้ เตรียมจะเซอร์ไพรส์ รู้แบบนี้มันน่าให้ไหมวะ เมียผมแม่งดื้อ !!!#ประเทศไทยมาถึงผมก็สั่งให้ลูกน้องเอาของที่ผมจะให้เมียมาที่คอนโด เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เมื่อคุยกับลูกน้องเสร็จผมก็รีบเดินขึ้นไปที่ห้อง รอเวลาเ
หนีเที่ยว พรุ่งนี้พี่สิงห์จะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไปด้วยไม่ได้เพราะต้องเรียน วันนี้เขาก็เลยจะงอแงเป็นพิเศษ แถมจะเอาฉันไปด้วยให้ได้เลย “ไปแค่สองวันเอง ไม่ได้รึไง?” พี่สิงห์ยกหัวขึ้นมานอนบนหน้าตักของฉันแล้วทำหน้าอ้อน ตอนนี้เราอยู่กันในห้อง พี่สิงห์เพิ่งจะไปรับฉันกลับมาจากมหาวิทยาลัย “ก็นั่นสิคะ แค่สองวันเองนะ” ฉันย้อนคำพูดของพี่สิงห์ทันที“เดี๋ยวนี้รู้จักเถียง” พี่สิงห์มองฉันตาดุ ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มของฉัน “อื้อ พี่สิงห์ ก็พริ้งบอกว่าพริ้งมีเรียนไง” ฉันจับมือพี่สิงห์ออกจากแก้มแล้วก็อธิบายเหตุผลเดิม ๆ ที่ฉันพูดไปเป็นร้อยครั้งแล้ว ให้พี่สิงห์ฟัง “ไม่อยากห่างเธอ” พี่สิงห์พูดเสียงจริงจัง“เราก็วิดีโอคอลคุยกันไงคะ ^_^”“มันเหมือนกันไหมล่ะ คอลคุยแล้วฉันได้กอดเธอไหมล่ะ” นั่นไง งอแงอีกแล้ว คนแก่นี่จริง ๆ เลยนะ “ยังไงก็ไปไม่ได้ค่ะ พี่สิงห์เข้าใจพริ้งหน่อย”“เธอใจร้ายชะมัด”“แล้วนี่เก็บกระเป๋ายังคะ?”“นี่อยากให้ฉันไปมากว่างั้น เธอมีพิรุธ !!” พูดจบพี่สิงห์ก็ลุกขึ้นมองหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง เขามองฉันด้วยสายตาที่กำลังจ้องจะจับผิดฉันอยู่“เปล่า พริ้งแค่จะเก็บกระเป๋าให้ไ
ทะเล...ที่พี่สิงห์บอกว่าจะพาฉันมาเที่ยวทะเลน่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าทะเลที่ไทย แต่ที่ไหนได้เขาพาฉันไปเที่ยวทะเลที่ต่างประเทศ ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของคุณพ่อพี่สิงห์มา และแน่นอนว่ารวยระดับพี่สิงห์ต้องเป็นเกาะส่วนตัวนี่เดี๋ยวกลับไปจากเที่ยวก็ต้องไปงานแต่งของพี่มารีต่อด้วย เรามากันแค่สองวันหนึ่งคืนเท่านั้น เพราะมีเวลาแค่นี้จริง ๆ “ไปใส่ชุดนี้หน่อย”ในขณะที่ฉันกำลังนั่งมองบรรยากาศยามเช้าที่ชิงช้าริมหาดพี่สิงห์ก็ยื่นถุงอะไรบางอย่างมาให้ฉัน แถมเขายังทำหน้าอ้อนฉันอีกด้วย “อะไรคะ?” ฉันรับถุงมาจากพี่สิงห์ก่อนจะปิดดูข้างใน เมื่อเห็นว่าของข้างในนั้นมันมีสีแดงสดฉันก็รีบปิดถุงทันที มันคือบิกินี่ที่พี่สิงห์ซื้อให้ฉัน “บะ บ้า ก็พริ้งบอกว่าไม่ใส่ไง”พี่สิงห์นี่จริง ๆ เลยนะ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจแล้วแท้ ๆ ที่จะไม่หยิบบิกินี่มา ไม่รู้ว่าพี่สิงห์แอบเอาใส่กระเป๋ามาด้วยตั้งแต่เท่าไหร่ “อุตส่าห์ซื้อมาตั้งแพง” พี่สิงห์บ่น แต่ฉันไม่ได้บอกให้เขาซื้อให้เลยนะ พี่สิงห์น่ะอยากจะซื้อเองต่างหาก “ก็พริ้งบอกแล้วว่าไม่ต้องซื้อ”“ก็อยากให้เมียใส่ ที่นี่มีแค่ผัวเธอนะ เธอจะอายทำไม”“ก็พริ้งอายนี่นา...” ฉันทำหน้ามุ่ยตอบพี่สิงห์
เชื่อไหมคะถ้าฉันจะบอกว่าตอนนี้ฉันถูกพี่สิงห์ลากตัวมาที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อที่จะมาเลือกซื้อชุดบิกินี่ตามที่เขาได้พูดเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่อยากจะใส่มันเลยสักนิด“พี่สิงห์ไม่เอา พริ้งบอกแล้วไงว่าไม่อยากใส่” ฉันปัดมือพี่สิงห์ออก เพราะเขาเอาบิกินี่สีแดงสดมาทาบลงบนตัวของฉัน“เซ็กซี่ดี เอาอันนี้ แล้วสีไหนอีกดี” รับบทเป็นคนหูหนวกไปแล้วค่ะแฟนฉันตอนนี้ ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จะทำยังไงกับเขาดีเนี่ยพูดไม่ฟังเลยพี่สิงห์หยิบชุดบิกินี่มาประมาณสามชุดได้แต่ละชุดควไม่ต้องให้พูดถึงความโป๊ของมันนะ ถ้าแบบนี้ให้ฉันแก้ผ้าเลยยังจะดีกว่า“ยิ้มหน่อยสิ ดูทำหน้าเข้า” พี่สิงห์บอกฉันหลังจากที่จ่ายเงินค่าชุดเดินออกมาจากร้านเรียบร้อยแล้ว“พี่สิงห์น่ะ บอกไม่ฟังเลย”“หิว กินอะไรดี เธออยากกินอะไร?” ค่ะ!! สุดท้ายพี่สิงห์ก็คือพี่สิงห์ ฉันควรชินได้แล้วจริง ๆ“อะไรก็ได้ค่ะ”“อะไรก็ได้ มันไม่มีขายหรอกนะ”“กวน... เหรอคะ” ฉันพูดเว้นคำมันก็แล้วแต่พี่สิงห์จะไปเติมคำในช่องว่าง“นั่นปากใช่ไหม ใครให้พูดกับคนที่อายุเยอะกว่าแบบนี้ อีกอย่างใครใช้ให้พูดกับผัวแบบนี้ ฮะ” พี่สิงห์มองฉันสายตาเกรี้ยวกราดเขายกมือขึ้นมาเท้าเอว
ภายในห้อง... เมื่อมาถึงพี่สิงห์ก็ยังงอนตุ๊บป่องอยู่ แต่ฉันต้องไปให้อาหารแมวก่อน ดูสิพอเห็นคนเดินเข้ามาในห้องนางร้องใหญ่เลย อึเอาไว้หลายกองด้วยนะ“ค้าบบ แม่กำลังจะเอาอาหารให้กินอยู่นี่ไงสิงห์” ฉันปรามแมวน้อยเพราะเอาแต่ร้องแล้วก็จะปีนกรงท่าเดียว“เหมี๊ยว เหมี๊ยว ~” ดูมันทำท่าเข้าสิน่ารักซะไม่มีหลังจากเอาอาหารให้แมวเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องมาง้อแฟน เฮ้อ!! เป็นฉันนี่มันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ“พี่สิงห์ งอนอะไรพริ้งอีก” ฉันถามเขาแต่พี่สิงห์ก็เอาแต่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงไม่สนใจฉันเลย“ทำไมคนแก่ชอบขี้งอนจัง ไม่กลัวพริ้งเบื่อเหรอคะ”“กล้าเบื่อฉันก็ลองดู !!” พี่สิงห์ละสายตาออกจากหน้าจอโทรศัพท์ เขาจ้องฉันตาเขม่งเลยตอนนี้“พริ้งแค่คุ้นหน้าผู้ชายคนนั้น เขาน่าจะแอบกิ๊ก ๆ กันกับยัยสารธาร”“อื้ม” พี่สิงห์พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ เขามองโทรศัพท์ในมือต่อ แต่ฉันดูออกว่าแบบนี้น่ะยังไม่หายงอนหรอกฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็คลานเข่าขึ้นไปบนเตียง นั่งคร่อมตรงช่วงสะโพกของพี่สิงห์แล้วก็มุดหน้าลงไประหว่างแขนสองข้างของพี่สิงห์ที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่“พี่สิงห์ทำไมขี้งอนขนาดนี้เนี่ย” ฉันบนพึมพำบนแผงอกก
เช้าวันใหม่... ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงเพราะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนฉันแช่ชุดนักศึกษาเอาไว้แล้วยังไม่ได้เอาไปตากเลยเพราะเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนที่พี่สิงห์อาบน้ำอยู่เมื่อเดินเข้าไปดูในห้องน้ำฉันก็ไม่เห็นชุดนักศึกษาของตัวเองแล้ว หายไปไหนกัน“พี่สิงห์ พี่สิงห์เห็นชุดที่พริ้งแช่เอาไว้เมื่อคืนไหม” ฉันเดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถามพี่สิงห์ที่กำลังนอนหลับอยู่พี่สิงห์ปรือตาขึ้นมามองฉันแต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นที่เขามองหน้า สายตาของพี่สิงห์ค่อย ๆ เลื่อนมองตรงระดับหน้าอกของฉันอย่างหื่นกามแป๊ะ!! ฉันฟาดไปที่ไหล่กว้างของพี่สิงห์แรง ๆ เพราะเขาเอาแต่บ้ากามไม่สนใจคำถามของฉันเลย“โอ้ย! เธอตีแรงไปไหมวะพริ้ง” พี่สิงห์จ้องหน้าฉันสายตาดุ ๆ เขายกมือขึ้นไปลูบตรงที่เพิ่งโดนฉันฟาดไปเมื่อกี๊“พริ้งถามน่ะ ไม่ได้ยินเหรอคะ”“เอาไปตากให้แล้ว” พี่สิงห์ตอบก่อนที่เขาจะเอาหัวของตัวเองมาวางไว้บนหน้าตักของฉัน จะว่าไปพี่สิงห์ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยมีตากผ้าให้ด้วย“ขอบคุณนะคะ ^_^”“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็น...”“ไม่ค่ะ หยุดบ้ากามก่อนจะได้ไหม พริ้งอยากกลับห้องแล้ว แมวพริ้งไม่มีอาหารกิน”“แมวกับผัวอะไรสำคัญกว่า
ฉันดันตัวพี่สิงห์ออกเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดออกจากอ้อมกอดของเขา แต่พี่สิงห์กลับไม่ยอมปล่อยฉัน เขาเอาแต่จ้องไปหน้าของฉันไม่ละสายตา จนฉันต้องถอนหายใจออกมาเพราะความหนักใจกับอาการที่เหมือนเด็กของพี่สิงห์ ไม่สิ! เด็กบางคนยังพูดรู้เรื่องกว่าเขาอีกนะ“นานตรงไหนคะ แค่ไม่กี่ปีเอง”“สำหรับฉันหนึ่งเดือนก็ถือว่านานมาก” พี่สิงห์ยังคงงอแงไม่ยอมเลิก ฉันจะจัดการกับผู้ชายคนนี้ยังไงดี“เราเลิกคุยกันเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ”“ยังคุยไม่รู้เรื่อง” พี่สิงห์ขัดขึ้น เขาพ่นลมหายใจแรง ๆ รดใบหน้าของฉันด้วย“พริ้งรู้เรื่องแล้ว แต่พี่สิงห์น่ะไม่รู้เรื่อง” ฉันพูดด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง“ถ้าพี่สิงห์ยังพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้งั้นคืนนี้พริ้งขอกลับไปนอนที่คอนโดนะคะ” ฉันพูดตัดปัญหาไป เพราะขืนถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้แล้วต้องมานอนด้วยกันพี่สิงห์ก็คงต้องหยิบเรื่องหมั้นขึ้นมาพูดอีกแน่ ๆ“เธอทำไมใจร้ายแบบนี้วะพริ้ง แม่ง!!” นั่นไง!! พอไม่ได้ดั่งใจเขาก็โวยวาย ก็เขาพูดเองว่ารอได้แล้วจะมาอะไรเนี่ย งานหมั้นเชียวนะ มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยพี่สิงห์ปล่อยกอดออกจากฉันจากนั้นก็เดินหน้าบึ้งพร้อมกับกระแทกเท้ากลับไปน
พี่สิงห์มองค้อนฉัน แอบคิดในใจนะว่านี่ฉันคิดดีแล้วใช่ไหมที่ให้อภัยเขา ดูความเอาแต่ใจของเขาสิ แต่ก็นะถ้าฉันกลับคำพูดก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน “พะ พี่สิงห์ทำแบบนี้มันสกปรกนะคะ” ฉันเบิกตากว้างเพราะ จู่ ๆ พี่สิงห์ก็ถอดเสื้อตัวเองออกมาเช็ดคราบน้ำกามของเขาที่ติดอยู่บนหน้าท้องของฉันออก แล้วก็เช็ดน้ำกามที่ติดอยู่ตรงหว่างขาให้ฉันด้วย “ถ้าไม่เอาเสื้อฉันเช็ดแล้วเธอจะเอาอะไรเช็ด เสื้อเธอไหม?” พี่สิงห์เลิกคิ้วถาม ฉันเงียบไม่ได้เถียงอะไรต่อเพราะพูดไปก็คงไม่ชนะเขาหรอก ฉันลุกขึ้นแต่งตัวโดยมีพี่สิงห์จ้องมองตลอดเวลา ส่วนเขาน่ะยังไม่ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเลย ไม่อายเลยรึไง นี่เขาโป๊อยู่นะ ทำหน้ากวนฉันด้วยนะ“พี่สิงห์ใส่เสื้อผ้าได้แล้ว” ฉันทนมองไม่ไหวเลยต้องบอกให้พี่สิงห์ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า“นึกว่าเธออยากมอง” ดูเขาพูดสิ ไหนคำว่าอายไม่มีเลยจริง ๆ “บะ บ้าเหรอคะ ใครจะอยากมองกันล่ะ ไม่เห็นจะหน้ามองเลยสักนิด”“ก็เธอไง ไม่รู้ตัวเหรอว่าเธอจ้องมันอยู่”พอพี่สิงห์พูดแบบนั้นฉันถึงกับต้องรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที ใบหน้ามันร้อนผ่าวฉัน ฉันรู้สึกได้เลยตอนนี้ “ไม่ต่อเหรอ?”“ตะ ต่ออะไรเล่า บะ บ้า สั่งให้นักบินเอาเครื
พอจบคำพูดของพี่สิงห์ฉันก็แสร้งทำเป็นหาวนอนยกมือขึ้นมาปิดปาก“พริ้งง่วงจังค่ะ อยากนอนแล้วเอาเครื่องลงได้แล้ว” ฉันพูดออกไปน้ำเสียงงัวเงียเพื่อให้มันดูสมจริงยิ่งขึ้น“ง่วง? นี่เธอล้อฉันเล่นหรือเปล่า” พี่สิงห์ขมวดคิ้วหนาเป็นปมพร้อมกับยืนเอามือท้าวเอวมองค้อนฉัน เขาดูจะไม่ค่อยเชื่อฉันสักเท่าไหร่“ง่วงจริง ๆ นะคะ ตาจะปิดแล้วเนี่ย”“งั้นเธอนอนไปเดี๋ยวทำเอง” พูดจบพี่สิงห์ก็ทำท่าเหมือนจะขึ้นมาคร่อมตัวฉัน เห็นแบบนั้นฉันรีบขยับหนีเขาทันทีพร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเอาไว้ ไม่ชอบเลยที่มีเตียงนอนอยู่บนเครื่องแบบนี้ มันเข้าทางพี่สิงห์ไปหมดทุกอย่าง“ง่วงหรือไม่อยากให้ทำ?” พี่สิงห์เลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม ตอนนี้เขาอยู่ในท่าที่มือทั้งสองข้างวางค้ำยันกับที่นอนเอาไว้พร้อมจะคลานเข่าเข้ามาหาฉันตลอดเวลา“มะ ไม่อยากทำ” ฉันเม้มปากแน่น คือแบบฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงอะนะ คือก็คนมันยังไม่พร้อมจะให้ทำแบบนั้นนี่นา แต่แทนที่พี่สิงห์จะเข้าใจเปล่าเลยค่ะ เขาคลานเข่าเข้ามาใกล้ฉันเรื่อย ๆ“พี่สิงห์...” มันรู้สึกร้อนวูบวาบกับสายตาแบบนี้ของเขายังไงก็ไม่รู้ มันเหมือนกับว่าพี่สิงห์กำลังสื่อบอกฉันว่ายังไงครั้งนี้เขาก็ไม่ยอมปล่อยฉันไปแ