"ถ้าเป็นฉันล่ะพอจะไว้ใจได้ไหม""อะไรนะคะ?""ระหว่างที่กำลังหาคนอยู่เดี๋ยวฉันจะช่วยงานแล้วกัน""เสี่ยเนี่ยนะคะจะช่วยนับเงิน??""ทำไม หรือไม่ไว้ใจฉัน""ไม่ใช่ค่ะเสี่ยมีเวลาเหรอคะ""ก็พอมี""เอ่อ.." อลิสหันไปมองหน้ารินรดาเพื่อขอความคิดเห็น แต่อีกฝ่ายไม่มองดูใครเลย "ก็ได้ค่ะ" จะให้ว่ายังไงล่ะ ระดับเสี่ยเจ้าของบริษัทจะมานับเงินทิปใครจะไม่ไว้ใจ"ต้องทำงานยังไงบ้าง""เดี๋ยวอลิสจะแนะนำนะคะ""เธอเป็นหัวหน้าไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ให้อีกคนสอนงานแทนล่ะ""เอ่อ.." ถึงแม้ว่ารินรดาจะเป็นรองหัวหน้า แต่ก็เป็นเด็กของเสี่ยนเรศ อลิสไม่ค่อยกล้าใช้งานอยู่แล้ว"อลิสไปทำเองเถอะฉันไม่ว่างหรอก" รินรดาลุกขึ้นจากเก้าอี้กำลังจะออกไปทำงานด้านนอก แต่ถูกขวางไว้โดยคนที่อาสาจะช่วยงาน"สอนงานหน่อยสิ""แค่นับเงินต้องให้สอนด้วยเหรอ""........" มันชักจะยังไงแล้ว "อลิสขอตัวออกไปข้างนอกก่อนนะคะ""เดี๋ยวก่อนสิอลิส" รินรดาตะโกนเรียกอลิสให้หยุด"เรื่องนี้อลิสมอบหมายให้คุณรดาจัดการเลยนะคะ" อลิสยังไม่ลืมกำชับเรื่องนี้ก่อนที่จะออกไป"ว่าไงครับหัวหน้าสั่งงานมาแล้ว""ตามมา" แค่ไปสอนงานก็คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง หญิงสาวเดินนำหน้าไปตรงที่เก็บเง
"แล้วคุณจะเอาเงินที่ไหน มาจ่ายค่าเทอมให้ลูก ก็ในเมื่อครอบครัวของคุณล้มละลาย""ล้มละลาย?" เล่นกูอีกแล้วไหมล่ะไอ้นเรศ ถ้ารินรดาไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเขาคงลืมไปแล้ว เพราะวันนั้นเธอได้ยินที่นเรศวรโกหกทรงอัปสรว่าเขาไม่มีเงินซื้อหุ้นของเธอหรอก เพราะครอบครัวของเขากำลังล้มละลาย"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ขุนเขาครับตื่นได้แล้วครับ" หญิงสาวเปิดประตูแล้วก็ปลุกลูกชายให้ตื่น เพราะกว่าจะพาลูกอาบน้ำ และก็ป้อนข้าวแกอีก มีหวังต้องไปถึงโรงเรียนสายแน่"ที่จริงแล้วผมไม่ได้...""ถอยไปสิคะ" เขายังไม่ทันได้อธิบายเธอก็อุ้มลูกที่ปลุกไม่ตื่นออกมาจากรถก่อนขุนรามเลยต้องปล่อยให้เธอพาลูกเข้าไปทำธุระให้เสร็จก่อน ค่อยหาโอกาสคุยกับเธออีกทีแล้วกันจนรินรดาออกมาอีกครั้งก็เห็นว่าเขายังคงรออยู่หน้าบ้าน"ทำไมคุณถึงยังไม่กลับ""ไม่มีเงิน" อันนี้เรื่องจริง เพราะเขาควักเงินใส่ในทิปของพนักงานหมดแล้ว ส่วนบัตรและของอย่างอื่นอยู่ในรถ ไม่ได้นำติดตัวมาด้วยเห็นว่าเขาไม่มีเงินเธอเลยล้วงเอาเงินออกมาจากกระเป๋าส่งให้"อะไร""ค่าแท็กซี่ไง""กลับไปห้องผมก็ไม่มีอะไรจะกินอีกอยู่ดี" เอาวะล้มละลายก็ล้มละลาย เผื่อว่าเธอจะสงสารบ้าง "คอนโดที่ผมอาศัยอ
"คุณแน่ใจหรือว่าจะมาอยู่ที่นี่""แน่ใจครับ""ถ้าคุณมาอยู่ที่นี่ฉันให้คุณอยู่ได้แค่ข้างนอก" ข้างนอกที่เธอพูดถึงก็คือห้องรับแขกและเขาต้องใช้โซฟาเป็นที่นอนเท่านั้น"แล้ว.." ชายหนุ่มมองไปดูห้องที่ยังว่างอยู่"ห้องนั้นเป็นห้องของพี่นเรศ"เริ่มจะควันออกหู ไอ้นเรศมีสิทธิ์อะไรมามีห้องส่วนตัวที่บ้านหลังนี้วะ"อยู่ได้ไหม""อยู่ได้ครับ""เย้ๆ ดีใจจังเลยครับพ่อจะมาอยู่กับผมแล้ว แบบนี้กลางคืนผมไม่ต้องไปนอนที่สงเคราะห์แล้วใช่ไหมครับแม่""ไม่ได้หรอกครับ เขาต้องไปทำงานอีก""ทำงาน?""ไม่ทำงานแล้วคุณจะเอาเงินที่ไหนมาใช้""ทำงานครับ" ขุนรามรีบรับปากว่าจะไปทำงาน"ฉันจะให้คุณไปทำงานที่คลับ""หือ.." ถ้าให้ทำงานที่นั่นมีหวังความได้แตกแน่เรื่องที่เขาไม่ได้ล้มละลาย แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยคุยกับไอ้นเรศดูอีกที"หรือคุณทำไม่ได้""ทำได้ครับ"[สถานสงเคราะห์]"หนูอย่าดื้อกับแม่ครูนะครับ""แม่มารับผมเร็วๆ นะครับ" ถึงแม้แม่ครูจะดีแค่ไหนเด็กก็ยังอยากได้รับความอบอุ่นจากแม่ ทุกวันนี้เขาเจอหน้าแม่แค่นิดเดียวเองขุนรามที่นั่งรออยู่หน้ารถได้แต่มองลูกชายตัวเล็กๆ ที่ต้องเอาไปฝากคนนั้นทีคนนี้ที แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะแม่
"ไอ้ทันน์! เอาปืนมาให้กู!!""นายครับ" ที่จริงทันน์ได้ยินเสียงเหมือนเจ้านายมีเรื่องกัน แต่ก็ไม่ได้เปิดประตูเข้ามาเพราะไม่มีคำสั่ง พอได้ยินเสียงเรียกทันน์เลยเปิดประตูเข้ามาดู"กูบอกให้เอาปืนมาไง!!""ไม่ดีมั้งครับนาย""คุณรดาคะ" อลิสกำลังจะเอางานเข้าไปให้ข้าวปุ้นเดินผ่านทางนั้นได้ยินเสียงเลยมองเข้าไปเห็นว่าในห้องเสี่ยกำลังมีเรื่องกัน ไม่รู้จะทำยังไงเลยต้องรีบกลับมาหารินรดาก่อน"มีอะไรคะ""เหมือนว่าเสียทั้งสองท่านจะมีเรื่องกันค่ะ""มีเรื่องกัน?""ใช่ค่ะเห็นอลิสได้ยินเสี่ยนเรศบอกให้คุณทันน์เอาปืนมาให้"หลังจากที่ฟังอลิสพูดจบรินรดาก็รีบวิ่งไปทางห้องทำงานของพี่ชาย ..อลิสก็รีบตามไปเช่นกัน"หยุดนะคะ" รินรดาเข้ามาก็เห็นว่านเรศวรกำลังแย่งเอาปืนจากทันน์อยู่ "พี่จะทำอะไร?""ทำไมไม่บอกพี่ ว่าผู้ชายเลวคนนั้นคือมัน""พี่รู้แล้วเหรอ" รินรดาตวัดสายตามองไปดูผู้ชายที่ตอนนี้ใบหน้ามีแต่รอยฟกช้ำแถมยังมีเลือดไหลออกจากมุมปาก"มันใช่ไหมคือคนที่ทำลายชีวิตของเรา"รินรดาตอบพี่ชายไปโดยการพยักหน้า เพราะเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว คงจะปิดบังไม่ได้อีกแล้ว ..อลิสที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยทำอะไรไม่ถูก จะออกไปตอนนี้ก็คงไม่
ขุนรามรีบแกะมือของเด็กเอ็นคนนั้นออกอย่างเร็ว สายตามองเข้าไปด้านใน.."อุ๊ย" เกือบวิญญาณหลุดออกจากร่าง เมื่อมองเข้าไปแล้วเห็นสายตาคนที่นั่งอยู่มองมาเหมือนกัน "อย่าทำแบบนี้อีก" เขาตำหนิผู้หญิงที่ถือวิสาสะเข้ามาถึงเนื้อถึงตัว"เสี่ยคะ" เด็กเคยได้เลยคิดว่าถ้าอ้อนหน่อยเดี๋ยวเสี่ยก็ล้วงทิปออกมาให้"ไปทำงาน" ใบหน้าเขาเอาจริงมาก เพราะต่อจากนี้ไป เขาต้องทำตัวให้เธอเชื่อใจให้ได้ "เดี๋ยวก่อน ไปบอกเพื่อนๆ ด้วยว่าอย่าทำแบบนี้""ทำไมคะเสี่ย""ฉันมีลูกมีเมียแล้ว ไม่อยากให้เมียฉันเห็น" ถึงแม้เธอจะมองอยู่ แต่เธอก็ไม่ได้ยินหรอกว่าพวกเขาคุยอะไรกันเพราะเสียงเพลงดังมาก"ค่ะ.." ถูกตัดทางทำมาหากินไปอีกรายแล้ว อุตส่าห์รอว่าเมื่อไรเสี่ยจะเข้ามาเที่ยวและเรียกพวกเธอให้บริการ แต่พวกเธอก็รู้ดีว่าต้องทำตัวยังไงถ้าลูกค้าพูดแบบนี้เขาไม่ได้คุยกับเธอจนถึงเวลาเลิกงาน ขุนรามออกมาที่รถเพราะตั้งแต่ตอนที่เคลียร์เรื่องเงินพิเศษของพนักงานเขาก็ไม่เห็นเธอเลย"กลับไปแล้วเหรอ" ออกมาก็ไม่เห็นรถของเธอจอดอยู่ที่เดิมแล้ว ชายหนุ่มรีบไปที่รถของตัวเองแล้วก็ขับตามเธอไปเขามาจอดรถรออยู่หน้าบ้านพักใหญ่ ก็เห็นรถของเธอวิ่งมารินรดาจอดรถได้ก
"คุณย่าครับ" ผู้อำนวยการสั่งให้ครูพาขุนเขามาหาคุณย่า พอมาเห็นคุณย่าขุนเขาก็ดีใจมากวิ่งเข้าไปกอด"ไม่ได้เจอกันหลายวันคิดถึงย่าไหม""คิดถึงครับ""แกชอบที่นี่มากเลยครับ""แล้วแกต้องเรียนอีกนานไหมกว่าจะขึ้นชั้นประถม""อีก 3-4 เดือนครับ"รัตติกาลไม่เข้าใจว่าทำไมลูกชายถึงให้หลานมาเรียนโรงเรียนธรรมดาแบบนี้รินรดาตื่นขึ้นมาก็ใกล้เวลาไปรับลูกชายแล้ว พอออกมาก็ไม่เห็นเขากลับมา ทีแรกก็คิดจะไม่สนใจแล้วล่ะ หลายวันมานี้เขาวนเวียนอยู่ข้างกายตลอดแต่พอไม่มีเขาก็รู้สึกยังไงไม่รู้ขับรถออกมาถึงโรงเรียนอนุบาลเธอก็เดินตรงเข้าไปจุดรับเด็ก"อ้าวคุณแม่ คุณย่าไม่บอกเหรอคะว่ามารับน้องขุนเขาไปแล้ว""คุณย่าไหน??""เออคุณย่าของน้องขุนเขาค่ะ""ทำไมพวกคุณถึงปล่อยให้ลูกฉันไปกับคนแปลกหน้า" เธอแทบจะยืนไม่อยู่อยู่แล้ว แต่ก็ต้องเรียกสติตัวเองให้กลับมาก่อน หรือว่าจะเป็น...คิดได้แบบนั้นรินรดาเลยรีบกลับมาเอาโทรศัพท์ที่อยู่ในรถ แล้วโทรไปหาคนที่อาจจะรู้เรื่องนี้>>{"ฮัลโหล ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน"} {"คุณจะโทรมาหาใคร"}พอได้ยินเป็นเสียงผู้หญิงรับเธอเลยขยับโทรศัพท์ออกมาดูว่ากดถูกเบอร์ไหม แต่มันก็เป็นเบอร์ที่ขอมาจากพี่นเรศวันนั้
"คุณไม่ต้องเครียดนะ ย่าแค่อยากจะอยู่กับหลาน" เขาพาเธอมาสงบสติอารมณ์อีกห้องหนึ่ง เพราะตอนนี้ขุนเขาตกใจที่ถูกแม่ดุ"ย่าแค่อยากจะอยู่กับหลานงั้นเหรอ แบบนี้มันเป็นการขู่บังคับกัน คุณไม่รู้หรือไง" คิดจะเอากฎหมายมาขู่เธอน่ะสิไม่ว่า"คุณไม่เห็นตาขุนเขาเหรอ แกดูมีความสุขนะ""ลูกอยู่กับฉันก็มีความสุขเหมือนกัน""รดาคุณเปิดโอกาสให้ผมหน่อยได้ไหม""เดี๋ยวอีกหน่อยคุณก็จะแต่งงานแล้ว คุณก็มีลูกกับภรรยาของคุณสิ""ผมไม่แต่งงาน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คุณ""ฉันไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าคุณยังไม่หย่านมแม่ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กับฉัน""ผมไม่รู้ว่าคุณไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ชีวิตผมนอกจากคุณกับลูกแล้วก็มีแค่แม่คนเดียว คุณจะให้ผมปล่อยปละละเลยท่านงั้นเหรอ""ก็ไม่ต้องถึงขั้นนั้น แค่คุณไม่ต้องให้แม่คุณจูงจมูกอยู่แบบนี้""ผมก็กำลังทำอยู่นี่ไง""คุณทำอะไร ฉันยังเห็นคุณทำตามแม่อยู่เลย""ผมไม่ยอมแต่งกับผู้หญิงที่ท่านหาให้""อีกหน่อยคุณก็คงต้องยอม""เรามาใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กัน""คุณไปเอาลูกกลับมาให้ฉันเลยนะ" ตอนนี้ลูกของเธออยู่ในห้องของเล่น ตั้งแต่รู้ว่ามีหลานชายรัตติกาลก็เตรียมห้องสำหรับเด็กผู้
"ขุนเขาครับกลับบ้านกับแม่" หญิงสาวตามมาเรียกลูกชายให้กลับบ้านด้วยกัน"วันนี้วันหยุดให้แกเล่นอยู่นี่แหละ" ตอนนี้ย่าติดหลานมาก เพราะแกเข้าใจพูดแถมน่ารักน่าเอ็นดู"ไม่ได้ค่ะฉันจะพาแกกลับบ้าน""จะพาไปฝากสถานสงเคราะห์อีกล่ะสิ ฉันไม่ยอมหรอกนะ""แต่ฉันต้องทำงาน" เธอพูดไม่มีอ่อนน้อมถ่อมตนเลย และเธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องอ่อนน้อมถ่อมตนให้กับคนที่ดูถูกเหยียดหยามเธอแบบนี้"ทำงานที่คลับที่บาร์น่ะเหรอ""แม่ครับ..""แกชอบผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไง""แม่ครับ!!" ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แต่น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าไม่ต้องการให้แม่พูดว่าให้เธอแบบนั้น"ถ้าจะไปทำงานก็ไป ฉันจะรับหลานมาอยู่ที่นี่""แต่ที่นี่มันไกล" ถ้าเธอคอยรับคอยส่งลูกที่นี่ มีหวังไม่ได้พักผ่อนแน่ เพราะต้องใช้เวลาไปกับรถติดหมด"ถ้ารู้ว่ามันไกลก็มาพักที่นี่" ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่นางเริ่มใจอ่อน แต่พอรู้ว่าแม่ของหลานจะพาหลานกลับ นางก็ทำใจไม่ได้"แบบนี้ก็ไม่ได้ค่ะ""แบบนั้นก็ไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ได้ แล้วเธอจะเอาแบบไหน""ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ และฉันก็จะพาลูกกลับด้วย" รินรดาตวัดสายตามองไปดูขุนราม เพื่อบอกให้เขาคุยกับแม่ที่ดื้อรั้นของเขาหน่อย
ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท
คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม
"ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""
"ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ
"อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล
"ถ้างั้นเอวาขอลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะคุณแม่" เอวาคิดว่าลงไปรอข้างล่างดีกว่า ถ้าขุนรามเห็นคงไม่ให้เธอไปด้วยแน่ หรือไม่เขาอาจจะไม่ออกไปเลย"ดีเหมือนกันถ้างั้นหนูไปรออยู่ที่รถนะ" ถึงยังไงเอวาก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรัก ถ้าทั้งสองไม่มีบุญวาสนาต่อกันจริงๆ ยังทิ้งความเป็นเพื่อนไว้อยู่เอวาลงมาข้างล่างก็เห็นว่าพนักงานกำลังยืนมุงอะไรกันอยู่"มีอะไรกัน" เธอเลยรีบเดินตรงไปดู นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอ? ออกมาก็เห็นว่าคนที่ถูกมุงอยู่ก็คือรินรดา"คุณเอวามาโน่นแล้ว" พนักงานที่ยืนมองดูกันอยู่ต่างก็ขยับออกให้เอวาเดินเข้ามา"ดูมันสิคะ ยังหน้าด้านหน้าทน""เธอนี่ทนทายาทจริงๆ เลยนะ ใครก็ได้รีบลากตัวมันออกไป" จะปล่อยให้รินรดาอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวอีกหน่อยขุนรามก็จะลงมา"ปล่อยฉันนะ" พอได้รับคำสั่งรปภ.ที่อยู่ตรงนั้นก็รีบมาลากตัวรินรดาออกไป ส่วนเธอไม่ยอมให้พวกนั้นถูกเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ เลยมีการดิ้นรน"แล้วจะมายืนมุงอะไรนักหนาไม่ไปกินข้าวกันหรือไง" เอวาหันไปตะคอกพนักงานที่ยืนมุงกันอยู่"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!" เพราะเธอดิ้นรนจนทำให้เสื้อที่ใส่อยู่ถูกกระชากจนขาดหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชา
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมาก" หลังจากตรวจอาการดูแล้วคุณหมอก็ให้แค่ยาทาแก้ฟกช้ำภายนอก"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว""คุณจะไปไหน" เขาไม่ได้ขับรถกลับทางเดิมเธอเลยสงสัย"กลับบ้านเรา""กลับบ้าน?" รินรดามองดูทางที่เขาขับไปอีกรอบ ทางนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเธอนี่ "คุณจะพาฉันไปบ้านหลังไหน"[คฤหาสน์ณโยดม]"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม""ลูกอยู่ที่นี่แล้ว""ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่""ผมจะไม่ยอมให้คุณกลับไปทำงานที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีก""มันก็ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น""กี่ครั้งแล้วที่ผมเห็นคุณตกอยู่ในอันตราย แล้วไอ้ที่ผมไม่เห็นล่ะกี่ครั้ง""ฉันจะพยายามดูแลตัวเอง""คุณไม่ต้องพยายามเดี๋ยวผมจะดูแลคุณเอง""คุณก็รู้ว่าฉันกับแม่คุณไม่ค่อย..""ท่านยอมไปตามถึงที่บ้าน คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าท่านยอมเราสองคนแล้ว"พอเขาลงจากรถเธอก็ไม่ยอมตามลงไป จนขุนรามเดินมาเปิดประตูรถให้ เธอยังคงนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่"สงสัยอยากจะให้ผมอุ้ม""อุ๊ยคุณจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ""อย่าดิ้นเดี๋ยวก็หลุดมือ""ฉันเดินเองได้""อุ้ยคุณผู้ชาย" แม่บ้านได้ยินเสียงรถเลยมาเปิดประตูให้ พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าคุณผู้ชายกำลังอุ้มภรรยาอยู่"ปล่อยฉันลงได้หรือยัง" หลังจากที่
"แม่มาทำไมครับ""แกทำไมถามแม่แบบนี้""แม่อย่ามาก่อเรื่องที่นี่ดีกว่าครับ""แกอย่าลืมนะว่าฉันมีลูกแค่คนเดียว และแกก็มีแม่แค่คนเดียวด้วย"รินรดาที่เดินตามหลังเขามายกมือไหว้ท่านแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และกำลังจะเข้าไปในบ้าน"ฉันอยากคุยอะไรกับแกและก็เมียแกหน่อย"ขุนรามหันมองไปดูเธอที่เดินเข้าไปในบ้านแต่พอได้ยินแม่เขาพูดแบบนั้นเธอก็หยุดแล้วหันกลับมา"แม่จะคุยอะไรครับ""คุยเรื่องของแกนี่แหละ บริษัทก็ไม่รู้จักเข้า ฉันแก่มากแล้วแกจะให้ฉันทำงานไปถึงไหน" หลายวันแล้วที่ลูกชายไม่เข้าบริษัท และนางก็ต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด"แล้วแม่ทำตามที่ผมขอหรือยังล่ะครับ""ฉันถึงจะมาคุยกับแกอยู่นี่ไง""ถ้างั้นแม่ก็เข้ามาในบ้านก่อนสิครับ" ตอนที่ชวนแม่เข้าบ้านเขาไม่ลืมที่จะมองไปดูหน้าเธอก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร"นี่ห้องรับแขกเหรอ แล้วทำไมไม่ติดแอร์สักตัว""แม่ครับ" ขุนรามตำหนิแม่"จะไม่ให้ฉันพูดอะไรเลยหรือไง ร้อนๆ แบบนี้หลานฉันอยู่ยังไง""ผมอยู่ในห้องกับแม่ครับ" ขุนเขาเป็นคนตอบคุณย่าเอง ช่วงนี้อากาศร้อนมาก อุณหภูมิถึง 40 องศาเลยแหละ"แม่จะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิครับ""ฉันจะมาบอกให้แกกลับไปทำงานที่บริษัท เรื่องนั้นเดี๋ยว