[สถานสงเคราะห์]หลังเลิกเรียนมาได้ชื่นใจลูกไม่ถึงสองชั่วโมงเธอก็พาแกมาฝากที่สถานสงเคราะห์"แม่ครับ""ลูกไม่สบายเหรอ" ทุกครั้งขุนเขาจะไม่งอแงแบบนี้ แต่วันนี้ดูแปลกๆ รินรดาเลยลองเอามือแต่หน้าผากเพื่อเช็คอุณหภูมิของลูกดู "ตัวก็ไม่ร้อนนี่""ขุนเขาครับไปกับแม่ครูนะครับ" แม่ครูเดินมารับเด็กจากแม่"ฝากด้วยนะคะแม่ครู""จ้ะ ขับรถดีๆ นะ" ตอนนี้แม่ครูก็อายุมากแล้ว ควรจะเกษียณตัวเองได้แล้ว แต่ยังเป็นห่วงเด็กๆ เลยไม่ไปไหนคิดว่าบั้นปลายชีวิตก็จะอยู่ที่นี่แหละ"ขอบคุณค่ะแม่ครู วันนี้แกงอแงหน่อยนะคะ"ที่วันนี้ขุนเขางอแงเพราะเขาเจออะไรไม่ดีมา ขุนเขาพยายามทำตัวเป็นเด็กดีไม่อยากให้คุณครูลงโทษอีก..แต่ก็เจอจนได้เพราะเป็นห่วงเด็กอนุบาลสองที่ถูกเพื่อนแกล้งตอนที่รินรดาขับรถออกมาเห็นลูกชายมองตามสายตาละห้อย ก่อนที่ขุนเขาจะเดินเข้าไปกับแม่ครูเด็กน้อยเช็ดน้ำตาที่หยดลงมาออกอดทนหน่อยนะลูก สักวันแม่จะดูแลหนูให้เต็มที่กว่านี้ เห็นน้ำตาของลูกแล้วก็อดมีน้ำตาไม่ได้ เธอคิดว่าลูกคงอยากจะอยู่กับแม่ตอนกลางคืนถึงได้งอแง[Nreṣ̄wr Club]หาที่จอดรถได้รินรดาก็เดินตรงเข้าไปด้านใน วันนี้รองเท้าที่เธอใส่แบบไม่มีส้น เพราะเมื่อวาน
"ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย" คนที่ขัดขวางทรงอัปสรเอ่ยพูด"โอ๊ยเจ็บ" แรงผู้หญิงกับผู้ชายต่างกันเพราะคนที่มาจับมือเธอไว้คือผู้ชาย"ทำอะไรของมึง" นเรศวรที่เดินตามมารีบกระชากมือของเพื่อนออก "มีอะไรกัน""คุณนั่นแหละค่ะมีอะไร ที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่า" ทรงอัปสรตวัดสายตามองไปดูผู้เป็นสามีแบบเอาเรื่อง"คุณพูดอะไร" ช่วงหลังมาเขาก็อยู่กับเธอตลอดเวลา นอกจากเมื่อครู่นี้ที่นั่งคุยกับรินรดา ไม่ได้คุยแบบใกล้ชิดกันด้วยซ้ำ"อย่าให้ฉันจับได้นะถ้าไม่งั้นเราสองคนเลิกกัน" พูดจบทรงอัปสรก็สะบัดกายเดินกลับไปทางห้องทำงาน"เดี๋ยวก่อนสิคะคุณอัปสร" รินรดาเห็นท่าทีของทรงอัปสรแล้วเหมือนเธอจะโกรธมาก เลยรีบเดินตามหลังไปหวังจะอธิบายและนเรศวรก็รีบตามไปกลัวว่าผู้หญิงจะมีเรื่องกัน แต่ก็ไม่ได้ตามไปแค่นเรศวร ขุนรามที่มาห้ามทันเมื่อครู่ก็ตามไปด้วย "สนุกแล้วพี่น้ำตาล" ดวงเดือนลูกสมุนอีกคนของน้ำตาลรีบเข้ามาแจ้ง"ฉันบอกแล้วว่ามันต้องสนุกแน่ คอยดูนะถ้าออกมาจากห้องนั้น ต้องมีคนถูกไล่ออก""และคนๆ นั้นก็เป็นคนที่ขัดขาขัดแข้งของเราใช่ไหม เพราะถึงยังไงเสี่ยก็เลือกเมียอยู่แล้ว"พอประตูห้องปิดลงทรงอัปสรก็หันขวับกลับไปมองคนที่เดินตาม
ออกมาจากห้องนั้นรินรดาก็กลับมาที่โต๊ะทำงาน"คุณรดาคะ เป็นยังไงบ้างคะ" อลิสก็รอฟังอยู่ เพราะเมื่อครู่เหมือนว่าจะมีเรื่องกันหนักเลย"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ""ไม่มีจริงหรือคะ"พออลิสถามมาแบบนี้รินรดาก็นึกได้ว่าต้องไปจัดการใครบางคนให้เรียบร้อยก่อนรินรดาเลยเดินตรงไปทางที่น้ำตาลกำลังทำงานอยู่"ออกไปคุยกับฉันหน่อย""ไม่เห็นหรือว่าฉันทำงานอยู่""เธอจะให้ฉันคุยตรงนี้หรือว่าจะไปคุยกับฉันข้างนอก"น้ำตาลกวักมือเรียกพนักงานให้มาทำตรงจุดที่ตัวเองกำลังรับผิดชอบอยู่ และพนักงานคนนั้นก็เชื่อฟัง บางทีหัวหน้าเรียกยังไม่มาเร็วขนาดนี้รินรดาเดินนำหน้าออกมาทางประตูด้านหลังตรงที่พนักงานใช้กัน เพราะถ้าไปด้านหน้ากลัวว่าแขกจะเห็น"เธอต้องการอะไร""เธอเรียกฉันออกมาคุยแล้วมาถามว่าฉันต้องการอะไรเนี่ยนะ?""ทำไมเธอต้องไปบอกคุณอัปสรแบบนั้นด้วย""บอกอะไรฉันยังไม่ได้บอกอะไรเลย""ไม่ต้องมาตอแหล""นี่เธอ!""คุณอัปสรบอกหมดแล้วว่าใครเป็นคนพูด"เหี้ยแล้วไหมล่ะแล้วมันจะพูดทำไม ..น้ำตาลคิดว่าทรงอัปสรจะไม่เอ่ยชื่อ เพราะถ้าเป็นคนอื่นเอาข่าวแบบนี้ไปบอกถึงหูคงจะช่วยเก็บความลับให้คนที่พูด"หรือมันไม่จริงล่ะชอบกินที่ลับกัน พอมีคนจับได้ก
"จอดรถนะ! คุณจะพาฉันไปไหน""พาขับรถท่องราตรีไปเรื่อยๆ""คุณอยากท่องราตรีก็ไปท่องคนเดียวสิฉันมีงานต้องทำ""ก็บอกแล้วไงว่าคุณไม่ใช่พนักงานของที่นั่นอีกแล้ว""ถ้าฉันไม่ทำงานแล้วจะหาเงินที่ไหนมาเลี้ยงตัวเอง""ผมคงไม่ปล่อยให้สะใภ้ของณโยดมต้องทำงานหรอกมั้ง""คุณพูดอะไร" เขาจะมาไม้ไหนอีก อย่าคิดว่าเธอจะยอมเชื่อผู้ชายคนนี้ง่ายๆ เหมือนสมัยก่อน"คุณลืมเหตุการณ์ก่อนหน้าแล้วเหรอ" ชายหนุ่มชะลอความเร็วแต่ก็ไม่ได้จอดรถ เพราะถ้าจอดเธอคงเปิดประตูลงจากรถแน่"เหตุการณ์ก่อนหน้าหมายความว่ายังไง?""ก็คุณเองไม่ใช่หรอบอกว่าผมเป็นอะไรต่อหน้าเพื่อน""นั่นฉันแค่เล่นละครตบตา""แต่ผมไม่ได้เล่น""คุณอย่ามาขี้ตู่นะ คุณเองต่างหากที่ส่งสัญญาณบอกให้ฉันเล่นตาม""รู้ใจกันขนาดนั้นเชียวแค่มองตาก็รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่"ถ้าขืนพูดต่อเธอคงติดกับเขาแน่ แค่นี้ก็หาทางออกไม่ได้แล้ว รินรดาเลยปลดล็อก Safety Belt แล้วก็หันมองไปดูกระเป๋าของเธอที่ถูกวางไว้เบาะหลัง ก่อนจะดันตัวผ่าน ช่องกลางระหว่างเบาะเพื่อเอื้อมไปหยิบเอากระเป๋าแต่จังหวะนั้นคนที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่ก็เหยียบเบรกก่อนจะหยุดรถข้างทาง"โอ๊ย" สะโพกของเธอติดตรงกลางระหว่างเบาะจนออ
"ไอ้คนฉวยโอกาส ปล่อยฉันนะ!" หญิงสาวพยายามดันตัวขยับออกแต่เขาก็ยิ่งกอดรัดแน่น เธอเลยไม่รู้จะทำยังไงนอกจากบอกให้เขาปล่อย "โอ๊ย"แต่นอกจากเขาจะไม่ปล่อยแล้วยังจับเธอพลิกลงนอนราบกับพื้น ส่วนเขาก็เปลี่ยนมาขึ้นคร่อม"ปล่อยย!!""ไม่ปล่อย" อารมณ์ของทั้งสองแตกต่างกันมาก ใบหน้าของเขายังมีรอยยิ้มจางๆ ให้เห็น แต่กับเธอนี่สิ ถ้าเปลี่ยนสีได้คงเป็นสีแดงไปแล้ว"คุณทำแบบนี้กับฉันทำไม""ได้ยินว่าผัวตายแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่อยากได้ผัวใหม่เหรอ""ไม่!""ผมพอแก้ขัดให้ได้อยู่นะ""ถ้าฉันต้องการคนมาแก้ขัดฉันคงไม่เลือกผู้ชายที่ยังไม่หย่านมแบบคุณหรอก""ยังไม่หย่านม?"งับ! จังหวะที่เขาเผลอเธอก็อ้าปากกัดเข้าจุดที่ใกล้ที่สุด "อืมมม" กะว่าจะกัดให้เขาปล่อยแต่นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วเขายังใช้มือบีบจมูกเธอ จนเธอต้องยอมปล่อยเอง"ฉีดยาบ้างหรือเปล่าเรา" ชายหนุ่มมองต้นแขนตรงที่ถูกเธอกัดจนได้เลือดเลย"สมน้ำหน้า!" รินรดาหมุนตัวจนหลุดออกจากวงแขนอีกฝ่าย พอหลุดแล้วเธอก็รีบลุกเข้าห้องน้ำไป"เอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปด้วย" เขาคิดว่าเธอจะเข้าไปอาบน้ำ แต่ที่เธอเข้าห้องน้ำเพราะอยากขังตัวเองอยู่ในนั้น จนกว่าเขาจะยอมเปิดประตูห้องให้เห็นว่าเธอเข้าห้
"คุณเป็นใคร" กลุ่มคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่หันไปมองผู้ชายที่เสียมารยาทพูดแทรกขุนเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง เพราะอาการของเขากำลังกำเริบ"ผมก็เป็นพ่อของเด็กที่พวกคุณกำลังต่อว่าอยู่นั่นไง" ชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่เดินตรงเข้าไปหาเด็กที่กำลังก้มหน้าก้มตาจิกนิ้วตัวเองอยู่ "ขุนเขาเป็นอะไรครับ""พ่อ" พอผู้ชายคนนั้นนั่งยองๆ ลงตรงหน้าขุนเขาถึงมองเห็นใบหน้าชัด ใช่แล้วเขาคือขุนรามตั้งแต่สงสัยเรื่องนี้เขาก็แอบตามดูตลอด"พวกคุณทำแบบนี้กับเด็กตัวเล็กๆ ได้ยังไง""เด็กคนนี้ไม่มีพ่อคุณอย่ามาแอบอ้าง" ครูเห็นว่าผู้ชายที่ไหนไม่รู้เข้ามาสวมรอยเป็นพ่อกลัวว่าจะมาลักพาตัวเด็กออกไป"เด็กไม่มีพ่อแล้วจะเกิดจากกอไผ่หรือไงใช้สมองส่วนไหนคิด""คุณเป็นพ่อของเด็กคนนี้จริงเหรอ" ผู้ปกครองของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บถามแบบใส่อารมณ์"อืม!""เป็นพ่อเด็กก็ดีรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย เห็นไหมว่าลูกฉันได้รับบาดเจ็บ""ได้รับบาดเจ็บแล้วมันเกี่ยวอะไรกับลูกผม""ลูกของคุณผลักลูกฉันล้ม""หลักฐานอยู่ไหน""คุณครูเป็นคนเห็น""ครูเห็นตอนที่ลูกผมผลักใช่ไหม" ประโยคนี้ขุนรามหันไปมองดูครูที่ว่าให้ขุนเขาอยู่เมื่อครู่"ใช่" น้ำเสียงที่ตอบออกมาไ
น้ำตาลถึงกับชะงักตอนที่ได้ยินเสี่ยบอกว่าจะไล่พนักงานออก แต่ก็รีบปรับสีหน้า เพราะถ้าพนักงานคนนั้นคือตัวเอง คิดหรือว่าตัวเองจะยอมจนมุมส่วนทางด้านอลิสมองหน้ากับรินรดา ถึงแม้จะไม่พูดกันแต่ก็พอเข้าใจว่าอีกฝ่ายมองทำไม ถ้าเป็นแบบที่คิดจริงมันก็เป็นเรื่องดีของที่นี่จะได้จัดการงานได้ดีขึ้นหน่อย"เอาเรื่องที่หนึ่งก่อนเลยนะ" นเรศวรเอ่ยพูดขึ้นและทุกคนก็เงียบฟังมาก "เงินพิเศษสำหรับแขกที่ให้มา ฉันจะให้แบ่งเท่าๆ กัน โดยให้แบ่งคนในครัวด้วย"อะไรนะคะ ทำไมต้องแบ่งคนที่อยู่ในครัวด้วยคะ" ประโยคนี้ไม่ใช่แค่น้ำตาลที่ถามเพราะพนักงานอีกหลายคนก็ถาม"คนที่อยู่ในครัวก็มีส่วนร่วมในการทำอาหารออกมาบริการ"รินรดาและอลิสยิ้มให้กันอีกครั้ง เพราะไม่คิดว่าเสี่ยนเรศจะคิดไปถึงคนในครัวด้วย ขนาดพวกเธอยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น"แบบนั้นไม่แฟร์สำหรับพนักงานบริการข้างนอกนะคะ เพราะคนในครัวไม่ได้ออกมาเดินรับหน้าแขก""เงินทิปที่ได้จากแขกในทุกวันฉันจะเพิ่มให้อีก 10% เพื่อเงินส่วนนั้นจะได้ทั่วถึงกัน"คนที่ได้เงินทิปน้อยต่างก็ดีใจ ที่จะได้ส่วนแบ่งเท่าๆ กัน ส่วนคนที่ได้เยอะในทุกวันไม่พอใจเอามากๆ"เรื่องนี้เสี่ยควรจะถามพนักงานก่อนนะค
"เรื่องนั้นมึงจัดการเสร็จหรือยังวะ" ขุนรามมาไม่ทันตอนที่นเรศวรเรียกประชุมพนักงาน"มึงมีอะไรกับพนักงานคนนี้หรือเปล่า" จริงๆ ถ้าเพื่อนไม่ขอมาเขาก็จะเอาน้ำตาลออกอยู่แล้ว"เปล่าหรอกแค่ขวางหูขวางตา""แค่นั้น?""อืม" ถ้ารินรดายอมออกจากงานเขาอาจจะไม่ขอให้เพื่อนไล่น้ำตาลออกก็ได้ แต่นี่เธอไม่ยอมออกเขาเลยต้องเคลียร์พื้นที่ให้เธอหน่อย"มึงมาก็ดีแล้ว กูเซ็งๆ กำลังหาเพื่อนดื่มอยู่เลย" ที่เซ็งเพราะไม่รู้จะเข้าหน้าเมียได้ยังไง งอนตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่พาไปตรวจครรภ์แล้วขุนรามเห็นเพื่อนอยากดื่มเลยเดินตามออกมานั่งดื่มเป็นเพื่อน พอมานั่งลงเท่านั้นแหละสาวๆ ก็ต่างรุมล้อม"มีอะไรวะ" ทุกครั้งถ้ามีสาวๆ มานั่งด้วย มีหรือที่เพื่อนจะนั่งตัวตรงขนาดนี้ บางวันเห็นมันแอบล้วงข้างบนและล่างไปพร้อมๆ กันด้วยซ้ำ"เปล่าหรอกไหนมึงบอกอยากดื่มก็ดื่มไปสิ" จะไล่สาวๆ ออกไปก็กลัวเสียฟอร์ม เลยต้องให้สาวๆ นั่ง Entertain ไปก่อน"เสี่ยขาดื่มหน่อยนะคะ""เดี๋ยวฉันดื่มเอง""วันนี้เสี่ยเป็นอะไรไปคะ""เราสนิทกันเหรอ""คะ?" สาวๆ ถึงกับงงในท่าทีของเสี่ยขุนราม"รดาทางนี้หน่อย" นเรศวรเห็นรินรดาเดินผ่านก็เลยเรียกเข้ามาถาม ตอนที่ได้ยินเสียงเรี
ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท
คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม
"ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""
"ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ
"อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล
"ถ้างั้นเอวาขอลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะคุณแม่" เอวาคิดว่าลงไปรอข้างล่างดีกว่า ถ้าขุนรามเห็นคงไม่ให้เธอไปด้วยแน่ หรือไม่เขาอาจจะไม่ออกไปเลย"ดีเหมือนกันถ้างั้นหนูไปรออยู่ที่รถนะ" ถึงยังไงเอวาก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรัก ถ้าทั้งสองไม่มีบุญวาสนาต่อกันจริงๆ ยังทิ้งความเป็นเพื่อนไว้อยู่เอวาลงมาข้างล่างก็เห็นว่าพนักงานกำลังยืนมุงอะไรกันอยู่"มีอะไรกัน" เธอเลยรีบเดินตรงไปดู นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอ? ออกมาก็เห็นว่าคนที่ถูกมุงอยู่ก็คือรินรดา"คุณเอวามาโน่นแล้ว" พนักงานที่ยืนมองดูกันอยู่ต่างก็ขยับออกให้เอวาเดินเข้ามา"ดูมันสิคะ ยังหน้าด้านหน้าทน""เธอนี่ทนทายาทจริงๆ เลยนะ ใครก็ได้รีบลากตัวมันออกไป" จะปล่อยให้รินรดาอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวอีกหน่อยขุนรามก็จะลงมา"ปล่อยฉันนะ" พอได้รับคำสั่งรปภ.ที่อยู่ตรงนั้นก็รีบมาลากตัวรินรดาออกไป ส่วนเธอไม่ยอมให้พวกนั้นถูกเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ เลยมีการดิ้นรน"แล้วจะมายืนมุงอะไรนักหนาไม่ไปกินข้าวกันหรือไง" เอวาหันไปตะคอกพนักงานที่ยืนมุงกันอยู่"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!" เพราะเธอดิ้นรนจนทำให้เสื้อที่ใส่อยู่ถูกกระชากจนขาดหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชา
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมาก" หลังจากตรวจอาการดูแล้วคุณหมอก็ให้แค่ยาทาแก้ฟกช้ำภายนอก"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว""คุณจะไปไหน" เขาไม่ได้ขับรถกลับทางเดิมเธอเลยสงสัย"กลับบ้านเรา""กลับบ้าน?" รินรดามองดูทางที่เขาขับไปอีกรอบ ทางนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเธอนี่ "คุณจะพาฉันไปบ้านหลังไหน"[คฤหาสน์ณโยดม]"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม""ลูกอยู่ที่นี่แล้ว""ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่""ผมจะไม่ยอมให้คุณกลับไปทำงานที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีก""มันก็ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น""กี่ครั้งแล้วที่ผมเห็นคุณตกอยู่ในอันตราย แล้วไอ้ที่ผมไม่เห็นล่ะกี่ครั้ง""ฉันจะพยายามดูแลตัวเอง""คุณไม่ต้องพยายามเดี๋ยวผมจะดูแลคุณเอง""คุณก็รู้ว่าฉันกับแม่คุณไม่ค่อย..""ท่านยอมไปตามถึงที่บ้าน คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าท่านยอมเราสองคนแล้ว"พอเขาลงจากรถเธอก็ไม่ยอมตามลงไป จนขุนรามเดินมาเปิดประตูรถให้ เธอยังคงนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่"สงสัยอยากจะให้ผมอุ้ม""อุ๊ยคุณจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ""อย่าดิ้นเดี๋ยวก็หลุดมือ""ฉันเดินเองได้""อุ้ยคุณผู้ชาย" แม่บ้านได้ยินเสียงรถเลยมาเปิดประตูให้ พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าคุณผู้ชายกำลังอุ้มภรรยาอยู่"ปล่อยฉันลงได้หรือยัง" หลังจากที่
"แม่มาทำไมครับ""แกทำไมถามแม่แบบนี้""แม่อย่ามาก่อเรื่องที่นี่ดีกว่าครับ""แกอย่าลืมนะว่าฉันมีลูกแค่คนเดียว และแกก็มีแม่แค่คนเดียวด้วย"รินรดาที่เดินตามหลังเขามายกมือไหว้ท่านแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และกำลังจะเข้าไปในบ้าน"ฉันอยากคุยอะไรกับแกและก็เมียแกหน่อย"ขุนรามหันมองไปดูเธอที่เดินเข้าไปในบ้านแต่พอได้ยินแม่เขาพูดแบบนั้นเธอก็หยุดแล้วหันกลับมา"แม่จะคุยอะไรครับ""คุยเรื่องของแกนี่แหละ บริษัทก็ไม่รู้จักเข้า ฉันแก่มากแล้วแกจะให้ฉันทำงานไปถึงไหน" หลายวันแล้วที่ลูกชายไม่เข้าบริษัท และนางก็ต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด"แล้วแม่ทำตามที่ผมขอหรือยังล่ะครับ""ฉันถึงจะมาคุยกับแกอยู่นี่ไง""ถ้างั้นแม่ก็เข้ามาในบ้านก่อนสิครับ" ตอนที่ชวนแม่เข้าบ้านเขาไม่ลืมที่จะมองไปดูหน้าเธอก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร"นี่ห้องรับแขกเหรอ แล้วทำไมไม่ติดแอร์สักตัว""แม่ครับ" ขุนรามตำหนิแม่"จะไม่ให้ฉันพูดอะไรเลยหรือไง ร้อนๆ แบบนี้หลานฉันอยู่ยังไง""ผมอยู่ในห้องกับแม่ครับ" ขุนเขาเป็นคนตอบคุณย่าเอง ช่วงนี้อากาศร้อนมาก อุณหภูมิถึง 40 องศาเลยแหละ"แม่จะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิครับ""ฉันจะมาบอกให้แกกลับไปทำงานที่บริษัท เรื่องนั้นเดี๋ยว