"มึงมาทำไมที่นี่""อ้าว?" ขุนรามที่กำลังจะเดินมาขึ้นรถได้ยินเสียงคุ้นหูเลยหันไปมอง "ไหนมึงบอกจะไปค้างกับเด็กไง""กูถามว่ามึงมาทำไมที่นี่""มาส่งคุณอัปสรน่ะสิวะ""เธอมีรถทำไมต้องให้มึงมาส่ง""เออว่ะกูลืมเลย ถ้างั้นเย็นนี้กูคงต้องมารับเธออีกน่ะสิ""ไม่ต้องมา""มึงอาการออกนะ ไหนมึงบอกไม่สนใจไง""มึงไม่ต้องมาจับผิดกู ต่อไปนี้มึงไม่ต้องมาที่นี่แล้ว" นเรศวรไม่เปิดโอกาสให้ขุนรามได้พูดอีกเขาก็เดินเข้าไปในคอนโด ที่จริงเขาก็ให้ลูกน้องไปส่งที่คอนโดของอุ๋งอิ๋งแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นห้องเลยก็รู้สึกไม่มีอารมณ์ จึงให้ลูกน้องกลับมาส่งที่นี่ และก็ได้เห็นขุนรามลงมาจากชั้นบน"เป็นอะไรของมันวะ หรือเด็กไม่ให้เอาเลยมาใส่อารมณ์กับเพื่อน"ขึ้นมาถึงชั้นบนนเรศวรเหลือบมองไปดูห้องข้างๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องของตัวเอง ตอนนี้เขาเป็นอะไรกันแน่ ทำไมช่วงนี้เขาเหมือนผูกพันกับเธอมาก ทั้งๆ ที่ไม่เคยพูดดีด้วยกันเลยวันต่อมา..วันนี้ทรงอัปสรลงมาเร็วหน่อยเพราะไม่มีรถส่วนตัว จะเรียกข้าวปุ้นมารับก็เกรงใจ ข้าวปุ้นก็ไม่ใช่เด็กในบ้านเหมือนแต่ก่อนแล้วหญิงสาวเดินออกมาจะไปเรียกรถ ขณะที่เธอกำลังเดินออกไปก็มีรถคันหนึ่งบีบแ
[Nreṣ̄wr Club]"มาแล้วหรือคะ" รินรดาเห็นรถคันใหม่มาจอดก็รีบเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับ และจังหวะเดียวกันนั้นประตูด้านข้างก็ถูกเปิดออกมาเช่นกัน "คุณ?" รินรดาดูจะตกใจที่เห็นว่าทรงอัปสรลงมาจากรถของนเรศวร"พอดีว่าเมื่อวานนี้ฉันกลับพร้อมกับคุณขุนรามค่ะ วันนี้ไม่มีรถมา เห็นรถของคุณนเรศวรขับผ่านเลยขอติดรถมาด้วยค่ะ""คุณอัปสรไม่ต้องอธิบายหรอกค่ะ""ถ้างั้นฉันขอตัวนะคะ""รถคันนี้ใช่ไหมคะ" รินรดาหันมาพูดกับนเรศวรที่เพิ่งจะก้าวลงจากรถ จังหวะนั้นกุญแจรถคันงามที่ทรงอัปสรนั่งข้างมาด้วยถูกวางลงที่มือของรินรดาทรงอัปสรที่เพิ่งจะเดินไปแอบชำเลืองกลับมามองก็เห็นภาพนั้นพอดีอย่าบอกนะว่ารถคันนี้เขาซื้อให้กับผู้หญิงของเขา ถึงว่าไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อน เราเป็นบ้าอะไรถึงไปนั่งก่อนผู้หญิงของเขาเนี่ย"ขอบคุณค้าบที่ให้ยืมก่อน""แล้วขับดีๆ ล่ะอย่าไปชนท้ายใครเขาอีก ถ้ารถคันนั้นออกจากศูนย์ก็เอารถคันนี้มาคืน""รับทราบคร้าบบ" รินรดาพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้แล้วก็ขับรถไปจอดในที่จอดนเรศวรเดินผ่านโซนที่มีสระว่ายน้ำ แต่ตอนที่กำลังจะผ่านไปมองไปเห็นใครบางคนที่คุ้นตานั่งอยู่โต๊ะวีไอพี"มึงมาทำไมอีก""มาดื่ม" ว่าแล้วขุนรามก็ย
"เดี๋ยวก่อนนะ คุณบอกว่าผมไปหลอกลวงเด็กใหม่ เด็กใหม่คนไหน" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเขา ไม่ชอบกินไก่วัดไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่"ก็คนที่คุณเข้าไปช่วยไง เห็นบอกว่าคุณนัดให้ไปหาไม่ใช่เหรอ""ผมเนี่ยนะนัดเด็กใหม่?""ทำไม จะปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ทำว่างั้น""คุณไปได้ยินมาจากไหน""เมื่อกี้ตอนที่ฉันเดินตามหลังเด็กใหม่ออกมา""ดูคุณจะสนใจผมจังเลยนะ" คนร่างหนาค่อยๆ โน้มลำตัวตามร่างของเธอที่เอนลงไปบนกระโปรงรถ"ถอยไปนะคุณ" มือเรียวดันหน้าอกอีกฝ่ายไว้เพราะตรงนี้มันเป็นลานจอดรถใครเดินผ่านไปผ่านมาก็คงเห็น "เดี๋ยวคนเห็นหรอก""กลัวคนเห็นงั้นเข้าไปต่อกันในรถดีกว่า" ชายหนุ่มล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง พอไม่เจอเขาก็ล้วงดูอีกข้าง"หึ.. อย่าบอกนะคะว่าหากุญแจรถคันนี้ คุณให้เด็กคุณไปแล้วไม่ใช่หรือคะ" จบคำพูดของทรงอัปสร นเรศวรก็มองจ้องเหมือนหาความจริงในแววตางามคู่นั้น "คุณมองอะไร""คุณสนใจผมจริงๆ ด้วย""บ้าใครจะสนใจคุณ""ถ้าไม่สนใจจะรู้ได้ยังไงว่ากุญแจรถคันนี้อยู่กับใคร" ทีแรกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเห็นตอนที่เขาเอากุญแจให้รินรดา เพิ่งมารู้ตอนที่เธอพูดประชดประชันนี่แหละ"ก็ฉันเห็นฉันก็พูดได้สิ" ทรงอัปสรกำลังจะเดินไปแต่ถูกมือห
"ทำไมคุณไม่อธิบายอะไรให้พ่อฉันฟังเลยล่ะ" หลังจากที่พ่อกลับไปแล้วทรงอัปสรก็หันมาต่อว่าให้เขา"คุณพูดไปขนาดนั้นแล้วผมจะมีหน้าอะไรไปอธิบายให้ท่านเข้าใจได้ล่ะ""คุณก็รู้ว่าที่ฉันพูดไปเพราะโมโห คุณก็ต้องรีบอธิบายตอนนั้นสิ""ถ้าผมอธิบายไปเดี๋ยวก็หาว่าผมไม่รับผิดชอบอีก""ทำไมคุณต้องมารับผิดชอบฉันด้วย ถึงยังไงฉันก็ไม่ให้คุณรับผิดชอบหรอกนะ!""จะมาโวยวายให้ผมทำไมตัวเองเป็นคนเปิดประเด็นก่อน""ฉันเปิดที่ไหนคุณนั่นแหละเป็นคนผิด ถ้าคุณไม่ทำแบบนั้นพ่อก็คงไม่มาเห็น และคงไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น""นายครับ" ทันน์ยืนมองนานแล้วเห็นทั้งสองเหมือนมีปากเสียงกันเลยเข้ามาดูหน่อย"มึงมาก็ดีแล้วพากูกลับคอนโดที" นเรศวรรีบชิ่งหนีก่อนเพราะถ้าไม่งั้นคงเจออีกหลายดอก"แล้วฉันจะทำยังไงดี โอ๊ยไม่น่าหาเรื่องเลยเรา เพราะไอ้เด็กเวรนั่นคนเดียวเลย" คิดถึงน้องสาวแล้วก็โมโห ชิงหมามาเกิดหรือไงถึงได้หาเรื่องให้เธอปวดหัวอยู่ได้ถึงแม้จะโมโหแค่ไหนพอขับรถมาถึงคอนโดทรงอัปสรก็ยังคงระมัดระวังอยู่เหมือนเดิม กลัวว่าเขาหรือคนของเขาจะยังอยู่แถวนี้ พอมองดูแล้วว่าปลอดภัยเธอถึงได้กดลิฟต์ขึ้นชั้นบนเข้ามาถึงในห้องเธอก็คิดหาวิธี ว่าจะทำยังไงต่อ พร
"ที่เรียกมาวันนี้พ่ออยากจะถามว่าจะนัดผู้ใหญ่คุยกันตอนไหน""เมื่อกี้พ่อว่าอะไรนะคะ" เธอเพิ่งนั่งลงยังไม่ทันได้ตั้งใจฟังคิดว่าตัวเองฟังผิด"พวกเราคบกันมานานเท่าไรแล้ว" ก่อนที่จะทวนคำพูดคนเป็นพ่อถามก่อนว่าลูกสาวคบกับแฟนคนนี้มานานหรือยัง"ไม่ได้คบค่ะ""อะไรนะ เอากันแบบไม่มีสถานะเหรอเนี่ย?" พอคำพูดประโยคนี้ออกจากปากของแม่เลี้ยง คนที่นั่งร่วมอยู่ในห้องรับแขกหันมามองนางแทบจะพร้อมกัน "ฉันพูดผิดตรงไหนล่ะคะ ถ้าเป็นแบบที่ออมสินพูดก็แสดงว่าทั้งสองคงมีความสัมพันธ์เกินเลยกันไปแล้วล่ะค่ะ""ถ้านั่งอยู่เงียบๆ ไม่เป็น ก็กรุณาใสหัวไปจากตรงนี้ด้วย""คุณดูคำพูดคำจาของลูกสาวคุณสิคะ!""เงียบทั้งสองคนนั่นแหละ ออมสินพาแม่ขึ้นบ้านไป""ค่ะ" ออมสินลุกขึ้นแล้วคว้าเอาแขนแม่ให้ออกมา เพราะออมสินก็ไม่ชอบคำที่พี่สาวว่าให้แม่เหมือนกันคงเป็นแบบนี้สินะเธอถึงไปค้างที่คอนโดพี่ชายไม่กลับมาบ้านเลย ..นเรศวรทำได้แค่นั่งมองอยู่เงียบๆ"กลับมาพูดเรื่องของพวกเราต่อ""เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันมากไปกว่าผู้ร่วมหุ้นค่ะ" หลังจากที่ทรงอัปสรพูดจบเธอก็สะกิดให้คนข้างๆ พูดตาม"ตามนั้นครับ""ตามนั้นอะไรของคุณล่ะ พูดให้มันยาวกว่านี้ไม่ได้หรื
"แล้วเมื่อไรไอ้บ้านั่นมันจะลงจากรถวะเนี่ย" รถของเธอฟิล์มไม่ค่อยมืดมาก เลยกลัวว่ารถคันที่จอดข้างๆ จะมองมา ทรงอัปสรที่ ก้มศีรษะหลบอยู่ค่อยๆ ชะโงกมองไปดูว่าเขาทำอะไรอยู่ในรถทำไมถึงยังไม่ลงสักที "คุยโทรศัพท์?"รถของนเรศวรฟิล์มก็ไม่มืดมาก ถ้ามองไปก็พอเห็นเงาอยู่ว่าคนด้านในทำอะไร"ไอ้บ้าเอ้ยจะมาคุยโทรศัพท์อะไรตรงนี้" ถ้าเธอเคลื่อนรถออกตอนนี้มันต้องสังเกตเห็นแน่เลยจะเปิดประตูลงฝั่งคนขับก็ไม่ได้เพราะรถของเขาจอดอยู่ข้างๆ นี่เอง ทรงอักษรเลยดับเครื่องยนต์ก่อนจะขยับมาอีกฝั่งหนึ่งของรถ แล้วก็ค่อยๆ เปิดก่อนจะก้าวเท้าลงไปในท่าระมัดระวัง>>{"อืม เอาตามนั้นเลยแล้วกัน"} เสียงคนที่คุยโทรศัพท์อยู่ดังเล็ดลอดมาตอนที่เธอลงจากรถได้แล้ว ทีแรกคิดว่าเขาจะคุยนานกว่านี้"แล้วจะลงมาทำไมตอนนี้วะ" หญิงสาวโน้มตัวให้ต่ำลงจากรถ แล้วค่อยๆ ชะโงกมองดูว่าเขาไปหรือยัง แต่อีกฝ่ายยังคงยืนคุยโทรศัพท์อยู่หน้ารถ ..เวรกรรมจริงๆ เลยเรา>>{"อะไรนะมึงสนใจหุ้น"}"หุ้น?" เขาหมายถึงหุ้นของเราหรือเปล่า หรือว่าคุณขุนรามคุยเรื่องหุ้นกับเพื่อนแล้ว หญิงสาวพยายามเอียงหูฟัง แต่จังหวะนั้นคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างรถก็เดินไปทางเข้าคอนโดเอ้าไ
มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ..เข้ามาถึงก็เห็นว่าเขานั่งรออยู่ที่ห้อง VIP แล้ว"สวัสดีครับคุณพ่อ""มารอนานหรือยัง" อรรจน์รับไหว้พร้อมกับถามก่อนจะนั่งลง"ยังไม่นานครับ""แล้วนี่.." หลังจากที่นั่งลงแล้วท่านก็มองไปดูญาติฝ่ายชาย ..ทรงอัปสรถึงได้หันมองไปดู"ผู้ใหญ่ของผมเองครับ"ผู้ใหญ่ของเขา? เธอจำคนที่เขาบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ได้ดีเพราะวันก่อนเพิ่งไปเจอท่านมาที่สถานสงเคราะห์ และเด็กๆ ที่นั่นก็เรียกท่านว่าแม่ครู เขากำลังเล่นอะไรอยู่เนี่ยระหว่างที่ทรงอัปสรกำลังคิดอยู่นั้นผู้ใหญ่ก็ทำความรู้จักกันไป"อัปสรขอคุยกับเขาหน่อยค่ะ""ลูกจะคุยอะไรก็คุยต่อหน้าผู้ใหญ่นี่เลย" วันนี้อรรจน์ไม่ได้พาใครมาด้วย เพราะท่านรู้ว่าถ้าพาแม่เลี้ยงของทรงอัปสรมามีหวังไม่ได้คุยเรื่องสำคัญกันแน่"คุณจะคุยกับฉันก่อนไหม" เธอไม่ได้สนใจว่าพ่อจะพูดอะไรหรือผู้ใหญ่ของเขาจะคิดยังไง นาทีนี้ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องก่อน"ผมขอตัวครู่หนึ่งนะครับ" ขณะที่พูดชายหนุ่มก็ดันตัวลุกขึ้นแล้วเดินตามหลังเธอออกไปทรงอัปสรเดินนำหน้าออกมาจนถึงห้องโถงด้านหน้าของโรงแรม"คุณกำลังทำอะไรอยู่" หญิงสาวหยุดแล้วหันหน้ากลับไปแต่อีกคนที่เดินตามมานี่สิไม่คิดว่าเธอจ
นี่อะไรกันเราต้องมาหมั้นหมายกับผู้ชายแบบงงๆ เนี่ยนะ ขณะที่เดินไปรถเธอก็ได้ทบทวนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าเรื่องมันเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนไหนแค่อยากจะหาตัวการคนที่ฆ่าพี่ชายเธอเท่านั้นเอง แต่เอาไปเอามาเธอต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรงั้นเหรอ ถ้าเขารู้ว่าเธอรู้เรื่องนี้แล้วคนที่ถูกเก็บรายต่อไปอาจจะเป็นเธอก็ได้"อุ๊ยคุณทำอะไร" หญิงสาวต้องมาตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดเพราะอยู่ดีๆ เขาก็เดินมาเปิดประตูรถของเธอก่อน"เดี๋ยวผมขับรถให้""คุณก็ขับรถของคุณไปสิ""ไอ้ทันน์มันเอากลับไปแล้ว""นั่นมันเรื่องของคุณ ถอยไปนะ""ไล่ผัวแบบนี้ไม่ดีเลยนะ""คุณไม่ใช่ผัวฉัน""อีกไม่กี่วันก็เป็นแล้ว พูดให้ชินปากไว้ก่อนก็ไม่เห็นเป็นไร""แต่ฉันเป็น!" ทรงอัปสรใช้สะโพกกระแทกให้เขาออกจากประตูรถแล้วเธอก็เปิดออกให้กว้าง แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นไปนั่งเลยเขาก็เปิดอีกฝั่งหนึ่งขึ้นไปนั่งก่อนเธอแล้ว "ลงไปนะ!""ดีเหมือนกันจะได้มีคนขับรถให้นั่ง" ชายหนุ่มพูดพลางเอื้อมมือไปดึง Safety Belt มาล็อก ก่อนจะเอนเบาะลงอีกเล็กน้อยเพื่อให้นั่งสบายหน่อย"ฉันไม่ใช่คนขับรถของคุณ และนี่ก็รถของฉัน""ถ้าคุณพูดดีกว่านี้จะน่ารักมากเลยรู้ตัวไหม
ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท
คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม
"ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""
"ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ
"อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล
"ถ้างั้นเอวาขอลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะคุณแม่" เอวาคิดว่าลงไปรอข้างล่างดีกว่า ถ้าขุนรามเห็นคงไม่ให้เธอไปด้วยแน่ หรือไม่เขาอาจจะไม่ออกไปเลย"ดีเหมือนกันถ้างั้นหนูไปรออยู่ที่รถนะ" ถึงยังไงเอวาก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรัก ถ้าทั้งสองไม่มีบุญวาสนาต่อกันจริงๆ ยังทิ้งความเป็นเพื่อนไว้อยู่เอวาลงมาข้างล่างก็เห็นว่าพนักงานกำลังยืนมุงอะไรกันอยู่"มีอะไรกัน" เธอเลยรีบเดินตรงไปดู นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอ? ออกมาก็เห็นว่าคนที่ถูกมุงอยู่ก็คือรินรดา"คุณเอวามาโน่นแล้ว" พนักงานที่ยืนมองดูกันอยู่ต่างก็ขยับออกให้เอวาเดินเข้ามา"ดูมันสิคะ ยังหน้าด้านหน้าทน""เธอนี่ทนทายาทจริงๆ เลยนะ ใครก็ได้รีบลากตัวมันออกไป" จะปล่อยให้รินรดาอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวอีกหน่อยขุนรามก็จะลงมา"ปล่อยฉันนะ" พอได้รับคำสั่งรปภ.ที่อยู่ตรงนั้นก็รีบมาลากตัวรินรดาออกไป ส่วนเธอไม่ยอมให้พวกนั้นถูกเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ เลยมีการดิ้นรน"แล้วจะมายืนมุงอะไรนักหนาไม่ไปกินข้าวกันหรือไง" เอวาหันไปตะคอกพนักงานที่ยืนมุงกันอยู่"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!" เพราะเธอดิ้นรนจนทำให้เสื้อที่ใส่อยู่ถูกกระชากจนขาดหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชา
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมาก" หลังจากตรวจอาการดูแล้วคุณหมอก็ให้แค่ยาทาแก้ฟกช้ำภายนอก"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว""คุณจะไปไหน" เขาไม่ได้ขับรถกลับทางเดิมเธอเลยสงสัย"กลับบ้านเรา""กลับบ้าน?" รินรดามองดูทางที่เขาขับไปอีกรอบ ทางนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเธอนี่ "คุณจะพาฉันไปบ้านหลังไหน"[คฤหาสน์ณโยดม]"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม""ลูกอยู่ที่นี่แล้ว""ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่""ผมจะไม่ยอมให้คุณกลับไปทำงานที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีก""มันก็ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น""กี่ครั้งแล้วที่ผมเห็นคุณตกอยู่ในอันตราย แล้วไอ้ที่ผมไม่เห็นล่ะกี่ครั้ง""ฉันจะพยายามดูแลตัวเอง""คุณไม่ต้องพยายามเดี๋ยวผมจะดูแลคุณเอง""คุณก็รู้ว่าฉันกับแม่คุณไม่ค่อย..""ท่านยอมไปตามถึงที่บ้าน คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าท่านยอมเราสองคนแล้ว"พอเขาลงจากรถเธอก็ไม่ยอมตามลงไป จนขุนรามเดินมาเปิดประตูรถให้ เธอยังคงนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่"สงสัยอยากจะให้ผมอุ้ม""อุ๊ยคุณจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ""อย่าดิ้นเดี๋ยวก็หลุดมือ""ฉันเดินเองได้""อุ้ยคุณผู้ชาย" แม่บ้านได้ยินเสียงรถเลยมาเปิดประตูให้ พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าคุณผู้ชายกำลังอุ้มภรรยาอยู่"ปล่อยฉันลงได้หรือยัง" หลังจากที่
"แม่มาทำไมครับ""แกทำไมถามแม่แบบนี้""แม่อย่ามาก่อเรื่องที่นี่ดีกว่าครับ""แกอย่าลืมนะว่าฉันมีลูกแค่คนเดียว และแกก็มีแม่แค่คนเดียวด้วย"รินรดาที่เดินตามหลังเขามายกมือไหว้ท่านแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และกำลังจะเข้าไปในบ้าน"ฉันอยากคุยอะไรกับแกและก็เมียแกหน่อย"ขุนรามหันมองไปดูเธอที่เดินเข้าไปในบ้านแต่พอได้ยินแม่เขาพูดแบบนั้นเธอก็หยุดแล้วหันกลับมา"แม่จะคุยอะไรครับ""คุยเรื่องของแกนี่แหละ บริษัทก็ไม่รู้จักเข้า ฉันแก่มากแล้วแกจะให้ฉันทำงานไปถึงไหน" หลายวันแล้วที่ลูกชายไม่เข้าบริษัท และนางก็ต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด"แล้วแม่ทำตามที่ผมขอหรือยังล่ะครับ""ฉันถึงจะมาคุยกับแกอยู่นี่ไง""ถ้างั้นแม่ก็เข้ามาในบ้านก่อนสิครับ" ตอนที่ชวนแม่เข้าบ้านเขาไม่ลืมที่จะมองไปดูหน้าเธอก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร"นี่ห้องรับแขกเหรอ แล้วทำไมไม่ติดแอร์สักตัว""แม่ครับ" ขุนรามตำหนิแม่"จะไม่ให้ฉันพูดอะไรเลยหรือไง ร้อนๆ แบบนี้หลานฉันอยู่ยังไง""ผมอยู่ในห้องกับแม่ครับ" ขุนเขาเป็นคนตอบคุณย่าเอง ช่วงนี้อากาศร้อนมาก อุณหภูมิถึง 40 องศาเลยแหละ"แม่จะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิครับ""ฉันจะมาบอกให้แกกลับไปทำงานที่บริษัท เรื่องนั้นเดี๋ยว