"โอ้แม่เจ้า" ขุนรามมองแทบไม่กระพริบตา ในกลุ่มนั้นไม่ใช่แค่ขุนรามหรอกที่จ้องแบบเอาเป็นเอาตาย เพราะทุกคนต่างก็จ้องมอง ..ไม่มองน่ะสิแปลกคนคงหาว่าไม่ใช่ผู้ชายแท้กูเป็นโรคหัวใจหรือเปล่าวะ นเรศวรแปลกใจอยู่ดีๆ หัวใจของเขาก็เต้นรัวเหมือนคนเป็นโรคหัวใจเลยพอเธอเดินมาถึงสระว่ายน้ำขาเรียวก็ก้าวเหยียบขึ้นไปตรงที่เป็นบันไดของสระ เสียงดนตรีและเสียงเพลงก็ยังคงขับร้อง แต่ทุกคนไม่ได้หันไปให้ความสนใจกับสิ่งนั้นเลยพอก้าวขึ้นไปจนถึงขั้นบนสุดทรงอัปสรก็หมุนหันไปรอบๆ เพื่อโชว์หุ่นอันเร่าร้อนของเธอ แต่เธอก็พยายามระวังตัวไม่ให้ตก พอเธอโชว์ลวดลายการหมุนตัวบนขอบสระแล้วขาเรียวก็ค่อยๆ วางลง ไปในน้ำเบาๆ แบบระมัดระวังสระว่ายน้ำทำสูงขึ้นจากพื้นแค่เมตรเดียว และน้ำก็อยู่ระหว่างต้นขาขาวของเธอนี่เองผู้ชายที่เริ่มจะทนไม่ไหวต่างก็ขยับเข้ามาใกล้ แต่บอดี้การ์ดก็พยายามคุมสถานการณ์ไว้"ทำไมคุณหนูต้องใส่ชุดโป๊ขนาดนี้ด้วย" ข้าวปุ้นยืนกอดเสื้อคลุมของอัปสรไว้แน่น ถ้าหมดเวลาโชว์เธอจะได้รีบเอาชุดคลุมนั้นสวมปิดร่างกายให้กับคุณหนูทรงอัปสรลงไปในน้ำเธอก็ไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆ เธอย่างก้าวไปตามความยาวของสระเหมือนว่ากำลังเดินแบบอยู่บนรัน
"แล้วมึงจะตามกูเข้ามาทำไม" นเรศวรบ่นให้ขุนรามเพราะเดินตามหลังมาต้อยๆ เลย"กูก็จะมาดูไงว่าสาวข้างห้อง.."ทรงอัปสรตกใจกลัวเรื่องที่เธออยู่ข้างห้องของนเรศวรจะถูกเปิดเผย หญิงสาวรีบหันมองไปดูเพื่อนของเขาก่อนจะขอความช่วยเหลือโดยการส่ายหน้าเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าพูดเรื่องนี้ ..และตอนนั้นนเรศวรก็สังเกตเห็นเหมือนกันว่าเธอกำลังขอให้เพื่อนของเขาช่วยปิดบังเรื่องนี้"เอ่อ.. กูตามมาดูคุณคนสวยน่ะสิวะ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกัน" ขุนรามแก้คำพูดให้ และก็แอบแปลกใจ เธอไม่รู้เหรอว่าไอ้เพื่อนรักของเขารู้แล้วว่าเธออยู่ห้องนั้น"คุณจะทำอะไร" อยู่ดีๆ นเรศวรก็ถอดรองเท้าเธอออกมาดู"ทำไมมันถึงหักได้" รองเท้ายี่ห้อนี้ครึ่งแสนได้มั้ง ใส่เดินลงน้ำแค่นี้ทำไมถึงหักได้"ไหนกูดูซิ" ขุนรามหยิบรองเท้าคู่นั้นมาดู ส่วนทางด้านข้าวปุ้นพยายามเอาผ้าคลุมร่างของคุณหนูของเธอไว้อย่างมิดชิดเลย "เหมือนรอยถูกเลื่อยเลย""ไหนคะ" ทรงอักษรขอดูรองเท้าที่ขุนรามบอกว่ามันเหมือนถูกเลื่อย"ตอนซื้อมาคุณดูดีไหม" นเรศวรเป็นคนถามต่อ"ดูดีสิ""แล้วคุณเก็บรองเท้าไว้ที่ไหน" เขาพยายามคิดดูว่ามีคู่แข่งทางธุรกิจไหม เพราะการแสดงโชว์ของคลับเป็นที่สนใจของลูกค้าใ
"เป็นยังไงบ้างครับนาย""จะเป็นยังไงล่ะ กระดูกไม่ร้าวก็ดีเท่าไรแล้ว" ถึงแม้ว่าจะไม่ร้าวแต่มือของเขาก็มีผ้าพันแผลพันรอบไว้เพราะช่วงนี้จะได้รับแรงกระทบกระเทือนไม่ได้"เจ้านายจะกลับคอนโดก่อนไหมครับ""จะกลับทำไมเพิ่งหัวค่ำเองกลับไปทำงานก่อน""แต่เจ้านายเจ็บ""เจ็บแค่นี้เอง" ทีแรกกลัวว่ากระดูกจะแตกเลยมาหาหมอ ..กี่ครั้งแล้วที่ต้องมาหาหมอเพราะผู้หญิงคนนี้ว่าจะเอาคืนแต่เจอทุกดอกตุนท์ขับรถพาเจ้านายกลับมาที่คลับ.."เสี่ยขา" อุ๋งอิ๋งที่มารออยู่แล้วเห็นเสี่ยเดินเข้ามาก็รีบเข้ามาหา"ใครให้เธอมา" วันนี้เขาไม่ได้ให้คนไปรับเธอมา"เสี่ยไม่ได้ไปหาอุ๋งอิ๋งหลายวันแล้วนี่คะ""เธอเลยมาหาฉันที่นี่?" นเรศวรมีท่าทีไม่ชอบใจเอามากๆ เพราะเธอทำเกินหน้าที่ของตัวเองทรงอัปสรที่ออกมาดูงานมองไปเห็นแต่ไกลว่าเขากลับมาแล้วเลยจะเข้ามาถามดูอาการ เพราะได้ยินทันน์บอกว่าตุนท์พาเจ้านายไปหาหมอ แต่พอเดินเข้ามาถึงเห็นว่าเขากำลังคุยกับเด็กของเขาอยู่"แสดงว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ยังมีแรงเรียกเด็กมาหาได้" หญิงสาวหยุดมองเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านไป แต่พอเดินยังไม่ถึงไหนก็มองไปเห็นรินรดาเดินมาทางนี้พอดี "งานนี้สงสัยสนุกแน่เลย""ถ้าไม่มีคำสั
"คุณจะมามีอารมณ์อะไรกับฉันปล่อยฉันนะคุณนเรศ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนชื่อให้คุณ""เปลี่ยนชื่อให้ผม?""ฉันบอกให้ปล่อยไง""คุณจะเปลี่ยนชื่ออะไรให้ผม""อย่ารู้เลยดีกว่า""อยากรู้แล้วสิ" ชายหนุ่มขยับใบหน้าเข้าไปใกล้เหมือนจะจูบ แต่ริมฝีปากยังไม่แตะถูกผิวอีกฝ่ายเลยเข่าอรหันต์ของเธอก็เด้งขึ้นมา"โอ๊ยปล่อยฉันนะ"แต่เขาจับทางเธอได้หมดแล้วไม่มีวันสะหรอกที่จะปล่อยให้เธอทำแบบเดิมได้อีกทรงอัปสรเหลือบตามองดูมือข้างที่เขาจับมือเธอกดไว้กับผนังห้อง มือข้างนั้นมีผ้าพันแผล ในเมื่อเล่นงานจุดอ่อนมันไม่ได้ก็เล่นงานตรงที่มันเจ็บนี่แหละ ..หญิงสาวเลยใช้แรงที่มีอยู่บิดมือตัวเองเพื่อให้มือของเขาได้รับแรงกระทบไปด้วย"โอ๊ยยย ปล่อย!" แต่เกินความคาดหมายของเธอถึงแม้เขาจะเจ็บแต่เรี่ยวแรงเขาก็มีมากกว่า มือเรียวที่ใช้บิดอยู่เมื่อครู่ถูกอีกฝ่ายจับกดในท่าบิดเธอเลยร้องเจ็บ"ฉันอยากจะดูซิว่าเธอจะงัดไม้ไหนมาอีก" ขาก็ถูกหนีบล็อกไว้ แขนทั้งสองข้างก็ถูกพันธนาการไว้กับผนังห้อง"อย่าบังคับให้ฉันต้องเปลี่ยนชื่อให้คุณนะ!" คนตัวเล็กกัดปากกัดฟันพูด "ถ้าคุณยอมปล่อยฉันจะไม่เปลี่ยน""หึหึ ก็แค่เปลี่ยนชื่อ คุณจะเปลี่ยนเรียกผมว่าที่รักเหรอ""
หลังจากที่เปิดประตูออกมานเรศวรก็สัมผัสได้ว่าห้องข้างๆ ยังยืนอยู่หน้าประตู"?" ด้วยความที่ห้องของเธออยู่ถัดไป คนที่ออกมาจากห้องถ้าไม่มองกลับไปก็จะไม่เห็น และนเรศวรก็เช่นกัน..พอปิดประตูเขาก็หันหน้าไปทางลิฟต์โดยไม่ได้หันมองไปอีกด้าน เลยไม่เห็นว่าตอนนี้เธอยืนอยู่หน้าห้องชายหนุ่มเอามือล้วงกระเป๋าแล้วเดินไปยืนกดปุ่มลูกศรลงข้างล่าง พอประตูเปิดออกเท้าแกร่งก็ก้าวเข้าไปด้านใน จังหวะที่หันหน้ามาทางประตูลิฟต์เพื่อกดปุ่มลงข้างล่างก็ไม่เห็นใครยืนอยู่ทางเดินแล้วมุมปากหนายกยิ้มบางๆ พร้อมกับประตูลิฟต์ที่ปิดลง ที่จริงเขาเห็นเงาเธอผ่านประตูลิฟต์ตอนที่รีบเปิดประตูกลับเข้าไปในห้องแล้ว"โชคดีนะที่ไม่หันมา ใจหายใจคว่ำหมดเลยไอ้บ้าเอ๊ย" หญิงสาวค่อยๆ แง้มประตูออกมาดูอีกทีก็ไม่เห็นใครอยู่ด้านหน้าแล้ว เธอทิ้งเวลาไว้อีกพักหนึ่งถึงได้ตามเขาลงมาข้างล่างลงมาถึงทรงอัปสรก็ตรงไปที่รถอย่างระมัดระวัง พอขึ้นไปนั่งเธอก็รีบขับรถออกไป ถึงยังไงวันนี้ก็ไม่ไปทำงานแล้ว เดินช้อปปิ้งใช้เงินแก้เซ็งหน่อยแล้วกันด้วยความที่คิดว่าตัวเองจะออกมาซื้อแค่ของสดไปใส่ตู้เย็นเลยไม่ได้แต่งเนื้อแต่งตัว แถมผมก็แค่มัดรวบไว้พอไม่ให้เกะกะ ชุดยิ
[Nreṣ̄wr Club]"วันนี้คุณอัปสรไม่เข้าค่ะ" ข้าวปุ้นมารายงานเพราะท่านผู้บริหารเรียกคุณหนูคุยงาน"ทำไมไม่เข้า" เขาก็เห็นอยู่ว่าเธอออกไปช้อปปิ้งได้ปกติ แต่ทำไมถึงจะไม่เข้ามาทำงาน"ไม่ทราบค่ะ คุณอัปสรบอกแค่วันนี้ไม่เข้ามาทำงาน""ต้องมีเหตุผลมากกว่านั้นสิ.. ถึงแม้จะเป็นหุ้นส่วนแต่ก็รับตำแหน่งผู้จัดการ ถ้าผู้จัดการไม่อยู่ใครจะดูงานตำแหน่งนี้แทน" เห็นสายตาข้าวปุ้นมองมา นเรศวรเลยอธิบายยาว"เมื่อคืนนี้คุณหนูได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยค่ะ วันนี้เลยไม่มาทำงาน"ได้รับบาดเจ็บ? หรือว่า?? นเรศวรคิดถึงตอนที่เขาทำให้เธอมีแผลที่ปากอีก สงสัยจะเป็นตอนนั้นแน่เลย ทำเก่งดีนักให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร"บอกเหตุผลแค่นี้ก็จบแล้ว ถ้างั้นเลื่อนคุยงานเป็นพรุ่งนี้""ค่ะ""มีอะไรคะ" จังหวะที่ข้าวปุ้นกำลังจะออกไปรินรดาก็เดินเข้ามาพอดี แต่ข้าวปุ้นก็ไม่ได้หยุดดูว่าเธอคนนี้เข้ามาทำไม"คุยเรื่องงานนิดหน่อย แล้ว Project ของเราไปถึงไหนแล้ว""จะไปถึงไหนล่ะคะ ผู้บริหารกัดกันขนาดนั้น""พูดไม่เพราะ""ก็มันจริงไหมล่ะคะ ธุรกิจของตัวเองแท้ๆ แทนที่จะช่วยกันดู กลับมากัดกันเองซะงั้น""ก็มันน่ากัดนี่""อะไรนะคะ?""เปล่า! แล้วนี่เข้ามามีอะไร
"ฉันบอกให้คุณถอยออกไปไง""เหมือนคุณจะกลัวนะ ไม่เห็นปากดีเหมือนเมื่อกี้เลย""ถ้ากลัวฉันคงไม่อยู่ตรงนี้หรอก แต่ฉันขยะแขยงมากกว่า""ขยะแขยง?!""โอ๊ยไอ้!" หญิงสาวยังไม่ทันตั้งตัวอีกฝ่ายก็กระโจนเข้ามาประชิดตัวแล้วพาร่างของเธอไปวางลงบนโต๊ะยาวในห้องประชุมโดยที่เธอไม่ได้ตั้งตัว"คุณนเรศวร คุณเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ" เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่น่าเล่นกับไฟกองนี้เลย ในใจภาวนาให้ข้าวปุ้นเข้ามาตามเธอด้วยเถอะ"แค่บอกมาคำเดียวว่ากลัว ฉันถึงจะยอมปล่อย" คนร่างหนาโน้มลำตัวลงไปพูดใกล้จนอีกฝ่ายต้องเอนตัวหนีเธอพยายามจะไม่อ้าปากพูดอะไรอีก และก็จะไม่พูดสิ่งที่เขาบังคับให้พูดด้วยสายตาคมมองสำรวจตั้งแต่ใบหน้าต่ำลงไปจนถึงเนินหน้าอกที่เผยออกมาพอให้ยั่วยวนสายตาของคนมอง ก่อนจะเลื่อนมองต่ำลงไปตรงจุดที่เธอโชว์ให้ผู้ชายทุกคนในคลับได้เห็นในคืนนั้น จนเผลอกลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่ใบหน้าคมคายนั้นจะขยับต่ำลงไปสัมผัสกับเนินหน้าอกขาวอวบที่ยั่วยวนอยู่"ฉันกลัว" เสียงหวานสั่นเครือเปล่งออกมาเบาๆ เพื่อหยุดการกระทำของอีกฝ่ายเธอไม่อยากเสียเปรียบเขาอีกแล้ว ในเมื่อเขาอยากได้ยินคำนี้เธอก็ยอมพูดใบหน้าคมที่ฝังอยู่กับร่องหน้าอกเผล
"ว่าแต่สาวข้างห้องอยู่ไหมวะ""กูจะไปรู้เหรอ""แล้วมึงรู้อะไรบ้างสาวข้างห้องก็หุ้นส่วนของมึงเอง แต่ช่วงนี้มึงมาหลบอยู่คอนโดบ่อยนะ ก่อนหน้าก็เห็นมึงอยู่ safe house ตลอดไม่ใช่เหรอ""มึงเป็นผู้ตรวจสอบกูตั้งแต่เมื่อไร""อารมณ์มึงนี่เหมือนคนวัยทองเลยนะ ใช้ชีวิตให้มีความสุขหน่อยสิวะ ดูมึงจะซีเรียสไปทุกอย่างเลย""ใครจะเป็นพ่อปลาไหลเหมือนมึงล่ะ ลื่นไปที่นั่นทีลื่นไปที่นี่ที""เออๆ ขอโทษแล้วกันเรากลับมาคุยเรื่องสาวข้างห้องอีกรอบนะ""กูไม่อยากคุยกับมึงและมึงก็กลับไปได้แล้วกูจะนอน""ก็บอกแล้วไงว่ากูจะค้างที่นี่แหละคืนนี้กูก็จะไปคลับกับมึง""กูไม่ให้มึงไป""มึงห้ามกูไม่ได้หรอกเพราะกูเป็นลูกค้า" ว่าแล้วขุนรามก็เดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแบบถือวิสาสะ"ไปนอนโซฟา""มึงอยากนอนโซฟาก็ไปนอนเองสิกูจะนอนบนเตียง""เดี๋ยวกูจับมึงปล้ำซะเลยเนี่ย""ไอ้วิตถาร" กลัวเสียความบริสุทธิ์ของประตูหลังขุนรามเลยต้องยอมไปนอนที่โซฟาค่ำๆ คืนเดียวกัน..วันนี้ทรงอัปสรเตรียมของมาไว้ที่ห้องครบแล้วเลยไม่จำเป็นต้องลงไปซื้ออะไร เธอเลยใช้เวลาอยู่ในห้องทั้งวันจนถึงช่วงค่ำค่อยอาบน้ำแต่งตัวออกไปที่คลับวันนี้ที่คลับแขกเยอะมาก ถึงแม้จะไม่
ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท
คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม
"ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""
"ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ
"อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล
"ถ้างั้นเอวาขอลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะคุณแม่" เอวาคิดว่าลงไปรอข้างล่างดีกว่า ถ้าขุนรามเห็นคงไม่ให้เธอไปด้วยแน่ หรือไม่เขาอาจจะไม่ออกไปเลย"ดีเหมือนกันถ้างั้นหนูไปรออยู่ที่รถนะ" ถึงยังไงเอวาก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรัก ถ้าทั้งสองไม่มีบุญวาสนาต่อกันจริงๆ ยังทิ้งความเป็นเพื่อนไว้อยู่เอวาลงมาข้างล่างก็เห็นว่าพนักงานกำลังยืนมุงอะไรกันอยู่"มีอะไรกัน" เธอเลยรีบเดินตรงไปดู นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอ? ออกมาก็เห็นว่าคนที่ถูกมุงอยู่ก็คือรินรดา"คุณเอวามาโน่นแล้ว" พนักงานที่ยืนมองดูกันอยู่ต่างก็ขยับออกให้เอวาเดินเข้ามา"ดูมันสิคะ ยังหน้าด้านหน้าทน""เธอนี่ทนทายาทจริงๆ เลยนะ ใครก็ได้รีบลากตัวมันออกไป" จะปล่อยให้รินรดาอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวอีกหน่อยขุนรามก็จะลงมา"ปล่อยฉันนะ" พอได้รับคำสั่งรปภ.ที่อยู่ตรงนั้นก็รีบมาลากตัวรินรดาออกไป ส่วนเธอไม่ยอมให้พวกนั้นถูกเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ เลยมีการดิ้นรน"แล้วจะมายืนมุงอะไรนักหนาไม่ไปกินข้าวกันหรือไง" เอวาหันไปตะคอกพนักงานที่ยืนมุงกันอยู่"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!" เพราะเธอดิ้นรนจนทำให้เสื้อที่ใส่อยู่ถูกกระชากจนขาดหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชา
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมาก" หลังจากตรวจอาการดูแล้วคุณหมอก็ให้แค่ยาทาแก้ฟกช้ำภายนอก"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว""คุณจะไปไหน" เขาไม่ได้ขับรถกลับทางเดิมเธอเลยสงสัย"กลับบ้านเรา""กลับบ้าน?" รินรดามองดูทางที่เขาขับไปอีกรอบ ทางนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเธอนี่ "คุณจะพาฉันไปบ้านหลังไหน"[คฤหาสน์ณโยดม]"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม""ลูกอยู่ที่นี่แล้ว""ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่""ผมจะไม่ยอมให้คุณกลับไปทำงานที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีก""มันก็ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น""กี่ครั้งแล้วที่ผมเห็นคุณตกอยู่ในอันตราย แล้วไอ้ที่ผมไม่เห็นล่ะกี่ครั้ง""ฉันจะพยายามดูแลตัวเอง""คุณไม่ต้องพยายามเดี๋ยวผมจะดูแลคุณเอง""คุณก็รู้ว่าฉันกับแม่คุณไม่ค่อย..""ท่านยอมไปตามถึงที่บ้าน คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าท่านยอมเราสองคนแล้ว"พอเขาลงจากรถเธอก็ไม่ยอมตามลงไป จนขุนรามเดินมาเปิดประตูรถให้ เธอยังคงนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่"สงสัยอยากจะให้ผมอุ้ม""อุ๊ยคุณจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ""อย่าดิ้นเดี๋ยวก็หลุดมือ""ฉันเดินเองได้""อุ้ยคุณผู้ชาย" แม่บ้านได้ยินเสียงรถเลยมาเปิดประตูให้ พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าคุณผู้ชายกำลังอุ้มภรรยาอยู่"ปล่อยฉันลงได้หรือยัง" หลังจากที่
"แม่มาทำไมครับ""แกทำไมถามแม่แบบนี้""แม่อย่ามาก่อเรื่องที่นี่ดีกว่าครับ""แกอย่าลืมนะว่าฉันมีลูกแค่คนเดียว และแกก็มีแม่แค่คนเดียวด้วย"รินรดาที่เดินตามหลังเขามายกมือไหว้ท่านแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และกำลังจะเข้าไปในบ้าน"ฉันอยากคุยอะไรกับแกและก็เมียแกหน่อย"ขุนรามหันมองไปดูเธอที่เดินเข้าไปในบ้านแต่พอได้ยินแม่เขาพูดแบบนั้นเธอก็หยุดแล้วหันกลับมา"แม่จะคุยอะไรครับ""คุยเรื่องของแกนี่แหละ บริษัทก็ไม่รู้จักเข้า ฉันแก่มากแล้วแกจะให้ฉันทำงานไปถึงไหน" หลายวันแล้วที่ลูกชายไม่เข้าบริษัท และนางก็ต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด"แล้วแม่ทำตามที่ผมขอหรือยังล่ะครับ""ฉันถึงจะมาคุยกับแกอยู่นี่ไง""ถ้างั้นแม่ก็เข้ามาในบ้านก่อนสิครับ" ตอนที่ชวนแม่เข้าบ้านเขาไม่ลืมที่จะมองไปดูหน้าเธอก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร"นี่ห้องรับแขกเหรอ แล้วทำไมไม่ติดแอร์สักตัว""แม่ครับ" ขุนรามตำหนิแม่"จะไม่ให้ฉันพูดอะไรเลยหรือไง ร้อนๆ แบบนี้หลานฉันอยู่ยังไง""ผมอยู่ในห้องกับแม่ครับ" ขุนเขาเป็นคนตอบคุณย่าเอง ช่วงนี้อากาศร้อนมาก อุณหภูมิถึง 40 องศาเลยแหละ"แม่จะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิครับ""ฉันจะมาบอกให้แกกลับไปทำงานที่บริษัท เรื่องนั้นเดี๋ยว