“อา... พี่อิท” หล่อนอ้าปากเปล่งคำนั้นออกมา รับรู้รสชาติน้ำฝนตกใส่ปาก แต่ไม่มีสิ่งใดหยุดหล่อนได้อีกแล้ว “อื้อ... พี่อิท...” หล่อนสะท้านแอ่นอกสู้มืออิทธิที่แทรกเข้ามาในเสื้อตัวบางฉ่ำน้ำ แค่ฝ่ามือเขาสัมผัสกับความอวบใหญ่และแตะปลายนิ้วเบาๆ ที่ปลายยอดแข็งเป็นไต หล่อนก็ต้องบิดกายด้วยความซ่านเสียว จากนั้นเสื้อยืดก็ถูกรั้งขึ้นมากองอยู่เหนืออก รวมทั้งเสื้อชั้นในที่ถูกถกขึ้นไม่ไยดี อกอวบใหญ่ก็ถูกบีบเคล้นหนักมือ จมูกสูดดมไล้ไปตามผิวฉ่ำน้ำ ปลายนิ้วแตะและบีบบนปลายยอดอย่างแผ่วเบาก่อนจะกลายเป็นขยำขยี้ นั่นทำให้หล่อนละล่ำละลักเปล่งเสียงร้อง “อ่ะ! อื้อ... พี่อิท... พี่อิท... อื้อ... เจ็บ... เจ็บ... อ่ะ อา...” หล่อนร้องได้ 2 เจ็บ ริมฝีปากของอิทธิก็อ้าอมปลายยอดของหล่อนไว้ นั่นกลับกลายเป็นความเสียววิ่งแล่นไปทั้งร่างจนหล่อนต้องแอ่นอกหา ต้นขาบดเบียดกันแนบชิด เพราะอาการเจ็บจี๊ดราวใครเอามดละเอียดมาปล่อยไว้ทั้งรัง หรือไม่ก็มีใครมาก่อกองไฟย่อมๆ เอาไว้ เพราะหล่อนอยากให้อิทธิเคลื่อนใบหน้าลงไป “อา... พี่อิท... ซี้ด...” อิทธิเ
‘ชาย-หญิง อยู่ด้วยกันในกระท่อมยามฝนตก’ ไม่เคยมีพระเอกนางเอกคู่ไหนรอดไปได้ และหล่อนก็จะเป็นรายต่อไป เมื่ออิทธิฉกริมฝีปากมาทาบปิดปากของหล่อนไว้ ทุกสิ่งก็เป็นไปตามใจคิด บัวหลับตาพริ้ม ยอมให้เขาจูบหล่อน แตะต้องเนื้อตัว ฟอนเฟ้น และเคล้นคลึงไปทั้งร่าง เพราะหล่อนแพ้ใจตัวเองแล้ว หล่อนรักเขาท่วมท้นหัวใจ ระยะเวลากว่า 1 เดือนที่อิทธิเทียวไล้เทียวขื่อ เขาดีกับหล่อนเสมอต้นเสมอปลาย เขาให้เกียรติหล่อน ครั้งแรกที่จับมือกันเขาก็ขออนุญาตหล่อนก่อน และครั้งนี้ หากเขาขอ หล่อนก็เต็มใจ จูบแสนหวานละเลียดอยู่ที่ริมฝีปากและบัวก็รับรู้ว่าผ้านุ่งติดกายเคลื่อนหลุดไปแล้ว จากนั้นร่างหล่อนก็เบาหวิว หล่อนถูกโอบอุ้มโดยเจ้าของเรือนกายแข็งแกร่ง จากน้ำฝนที่ตกกระทบเนื้อตัวตลอดเวลา กลายเป็นความแห้ง จากนั้นก็กลายเป็นความนุ่ม เมื่ออิทธิวางร่างเกือบเปลือยของหล่อนบนที่นอนเย็บนุ่นที่หล่อนเย็บเองกับมือ ก่อนที่ร่างเขาจะผละไป “พี่อิท...” น้ำเสียงติดอยู่แค่ริมฝีปากทันทีที่หล่อนลืมตาขึ้นมอง เพราะร่างสูงที่ลุกออกไปยืนอยู่ไม่ไกล กำลังปลดกางเกงขายาวผ้าเนื้อดีออกจากกา
ฝ่ามือของอิทธิเคลื่อนไปตามสีข้างก่อนจะรั้งกางเกงตัวจิ๋วออก หล่อนไม่ได้ต้านทานใดๆ เลย ยอมให้เขาเปลือยหล่อนทั้งตัว และแค่ฝ่ามืออุ่นจัดทาบที่บัวดอกแย้ม บัวก็ตื่นตัว ดวงตาสวยเบิกกว้างสติที่ขาดลอยกลับคืนมา อ้าปากร้องห้ามเขาปากคอสั่น ทว่าไม่นานก็กลายเป็นเสียงกระเส่า เมื่อนิ้วมือของอิทธิไม่ได้อยู่เฉยแต่กลับเขี่ยที่กลีบดอกก่อนจะค่อยๆ แทรกเข้าในดอกบัวแต่เพียงแผ่วเบา “อ่ะ! พี่อิท... อย่าจับตรงนั้น อื้อ... พี่อิท... อย่าจับ... อื้อ...” “ตรงนี้แหละที่บัวจะเสียวที่สุด แต่แค่นิ้วไม่เสียวพอหรอกนะ ต้องโดนลิ้น” บัวเบิกตากว้าง สมองตื่นตัวกับคำพูดของเขา อิทธิไม่เคยมีมุมนี้ให้หล่อนเห็น แต่เขากำลังทำ “อา... พี่อิท... อื้อ...” นิ้วมือของเขาแตะสัมผัสบนกลีบดอกแต่เพียงแผ่วเบาก่อนจะวกลงด้านล่างและความชื้นที่สัมผัสได้ก็ทำให้อิทธิต้องครางในลำคอ “พี่จะทำให้บัวเสียวสุดๆ นะครับ เสียวก็ร้องดังๆ ร้องแข่งกับฝน” บัวยิ่งตื่นตัวกับคำพูดของเขา แม้จะไม่ใช่คำหยาบคายเลย ทว่าคำพูดนั้นกลับกระตุ้นหล่อนทุกทาง คำแบบนี้ใครจะพูดกัน คงมีแต่ ‘ผั
“อา... พี่อิท... อา...” ปากร่ำร้องได้ตามใจคิดเพราะเสียงฝนด้านนอกกลบเสียงน่าละอายซะหมด หล่อนบิดกายไปทุกที่ที่ริมฝีปากร้อนๆ และปลายลิ้นของอิทธิลากผ่าน และในความปรารถนาสูงสุด คล้ายกับว่า ณ จุดนั้นหล่อนอยากให้อิทธิใช้ปลายลิ้นสำรวจไปถึง “อา... พี่อิท... โอว... พี่อิท... บัวเสียว... ซี้ด... พี่อิท...” บัวไม่รู้ตัวเลยว่าหล่อนร่ำร้องเรียกหาเขาพร้อมกับเปิดต้นขาเชิญชวนให้เขาทำตามที่ใจหล่อนหมาย ความอัดอั้นกำลังส่งผลให้หล่อนควบคุมตัวเองไม่ได้ หล่อนต้องการให้เขาแตะต้อง และเมื่ออิทธิไล้ริมฝีปากผ่านเนินดอกไม้ หล่อนก็สะท้านเฮือกจิกนิ้วเท้าลงที่ฟูกนุ่ม แอ่นบัวแรกแย้มเข้าหาเขา “อา... พี่อิท... อื้อ... อื้อ... พี่อิท...” เสียงร่ำร้องนั้นบัวไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร หล่อนรู้เพียงว่าหล่อนห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว หล่อนต้องการสิ่งนั้น “อา... พี่อิท!” ดวงตาสวยหวานเบิกกว้าง รับรู้ได้ถึงความอุ่นชื้นที่ฉกวาบลงกึ่งกลางดอกไม้ หล่อนผงกหัวขึ้นมองโดยเร็ว อะไรกันแน่ที่เกิดกับหล่อน ทว่าสิ่งที่เห็นก็ทำให้บัวสะท้านราวต้องลมแรง
“บัวรักพี่” หล่อนแน่ใจสิว่ารักเขา ถ้าไม่รักจะยอมให้เขาแนบชิดแบบนี้เหรอ หล่อนรักเขาจนปล่อยตัวปล่อยใจ แล้วเขายังจะหาว่าหล่อนไม่รักอีกหรือ “พี่ไม่เชื่อ พี่ไม่อยากยุ่งกับคนที่พูดแค่ลมปาก” “พี่อิท!” บัวเรียกเขาเสียงหลงเมื่ออิทธิคลายท่อนแขนจากขาของหล่อนพร้อมขยับกายถอยห่างอย่างเร็ว ร่างสูงใหญ่หันไปคว้ากางเกงในมาสวม ก่อนจะหยิบกางเกงขายาวที่เปียกน้ำขึ้นมาสะบัดเพื่อจะสวมเข้าไป บัวรีบลุกขึ้นนั่งคว้าผ้าแห้งใกล้มือมาปิดของสงวนมองสิ่งที่อิทธิทำอย่างสับสน แต่ก็คิดไม่ตกว่าหล่อนควรทำอย่างไรดี หล่อนรักเขา ไม่อยากให้เขาโกรธ หล่อนอยากให้เขามั่นใจว่าหล่อนรักเขาเพียงคนเดียว แต่นั่นคือหล่อนต้องแลกด้วยความเชื่อใจ “พี่อิท... อย่าโกรธบัวเลยนะ” เขาหันมองหล่อนก่อนจะหันกลับไปเมื่อไม่เป็นดังที่เขาหวัง สายตาเย็นชานั้นยิ่งทำให้หล่อนสะอื้น “บัวยอมแล้ว” หล่อนจะยอมเป็นของเขาคนเดียว อิทธิหันกลับมาหาหล่อน บัวสูดลมหายใจเข้าลึก หลบสายตามองฟ้ามองฝนด้านนอก ฝนตกหนักแบบนี้อีกนานกว่าจะซาเม็ด นั่นทำให้ความสลัวปกคลุมในกระท่อมน้อย หล่อนไม่ไ
“โอย! พี่อิท! บัวเจ็บ!” “เมียจ๋าอดทนเพื่อผัวหน่อยนะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งต่อๆ ไปมันจะไม่เจ็บอีก ผัวสัญญา ทนนะจ๊ะ ทน... อูย...” บัวพยักหน้าน้ำตาไหลพรากเพราะคำว่า ‘เมีย-ผัว’ ที่ก้องอยู่ในหัว คือความสุขท่วมท้นหัวใจ หล่อนเป็นเมียอิทธิและอิทธิก็เป็นผัวหล่อน หล่อนกลายเป็นคนมีผัวแล้ว และผัวกำลังทำหล่อน ทว่าเมื่ออิทธิส่งความยิ่งใหญ่เข้ามาอีก ภวังค์หวามของบัวก็มลายทันที ความเจ็บยังมีมาก มากจนหล่อนอยากจะกรีดร้องให้สุดเสียง ทว่าผัวหมาดๆ ก็ทาบปากอุ่นๆ มาปิดเอาไว้ พร้อมกับไล้ลิ้นเข้ามาตวัดเลีย ปลายเล็บจิกลงบนบ่าใหญ่เพื่อระบายความเจ็บปวด ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างเมื่ออิทธิทิ้งตัวมาสุดทาง “พี่อิท! กรี๊ดดดดด...” “อูย... บัวแน่น อืม... แน่นที่สุด” บัวสั่นไปทั้งร่าง ปากอ้าค้างเพราะหมดเรี่ยวแรงแม้แต่จะร้อง ความเจ็บพุ่งวาบกระจายจากกึ่งกลางดอกบัวก่อนจะแล่นไปทั้งร่าง น้ำตาหยาดรินเป็นสาย ไม่มีอีกแล้วบัวแรกแย้ม นับต่อแต่นี้ไป หล่อนกลายเป็นบัวดอกบานเต็มที่ บานจนกว้างเพราะร่องฉ่ำน้ำสามารถรับความยิ่งใหญ่ของอิทธิได้ทั้งหมด
“อูย...” เสียงครางกระเส่าของอิทธิทำให้บัวรีบหุบหน้าขา แม้จะเจ็บจี๊ด แต่หล่อนก็อายเกินกว่าจะอ้าขาค้างไว้ ทว่าอิทธิกลับทาบฝ่ามือยั้งขาหล่อนไว้ “ไม่ต้องหุบ พี่จะเอาต่อ” คำห่ามๆ ธรรมดาสุด ทว่ากลับทำให้บัวร้อนวาบไปทั้งร่าง พริบตาเดียวความเสียวก็แทนที่ เมื่ออิทธิขยี้ปลายนิ้วที่ติ่งเสียว “อ๊ายยยยย... พี่อิท! อื้อ... พี่อิท... ซี้ด... พี่อิท...” บัวอ้าปากค้างครวญครางไม่หยุด เพราะอิทธิขยี้ติ่งและแหย่นิ้วเข้ามาในร่อง ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้บัวดิ้นพล่าน หล่อนไม่รับรู้อะไรแล้ว ไม่ว่าอิทธิจะจับหล่อนให้อ้าขากว้าง พาดขาที่ไหล่เขา หรือจะจับหล่อนนอนตะแคงข้าง เพื่อขยี้นิ้วให้มันยิ่งขึ้นหล่อนก็ไม่รับรู้ หล่อนรู้เพียงว่าเสียวเหลือเกิน หล่อนเสียวจนสั่น เสียวจนสมองโล่ง ไม่มีสิ่งใดให้คิดนอกจากความเสียวต่อเนื่อง และเมื่ออิทธิแยงนิ้วเข้าไปกว้านด้านใน พร้อมกับขยี้ติ่งเสียวรัวเร็ว ความรู้สึกราวขันน้ำตกพื้นแตกกระจายก็พุ่งเข้าหาหล่อนอีกครั้ง “อ๊ายยยยย... พี่อิทขา... โอว... เสียว... โอว... ซี้ด... ซี้ด... พี่อิทขา... ซี้ด... โอย...” หล่อน
คำต้องห้ามพูดชิดติดใบหู นั่นทำให้บัวนิ่งขึง ทั้งร่างราวกับจะรับรู้ความหมายนั้นอย่างรู้ซึ้ง และเมื่ออิทธิกระซิบบางอย่าง หล่อนก็ทำตามอย่างว่าง่าย “ค่อยๆ ลุกขึ้นนะ ให้พี่ค้างไว้ อืม... ใช่จ้ะ หันมาหาพี่ เอาขาคร่อมพี่ไว้ นั่นแหละ ใช่... แบบนั้น โอว... เมียจ๋า... โอว... ผัวเสียว...” “ซี้ด... พี่อิทขา... โอว... นี่มันอะไร โอว... บัวเสียว... ซี้ด... โอว... พี่อิทขา...” บัวสะบัดเรือนผมกระจายเต็มแผ่นหลังเมื่ออิทธิรั้งร่างหล่อนให้ลุกขึ้นนั่งบนตัวเขาทั้งที่ดุ้นยังคาอยู่ และให้หล่อนหันหน้าเข้าหาคร่อมขาพาดผ่าน จนกลายเป็นว่าหล่อนกำลังขี่เขาอยู่ โดยมีดุ้นประสานกันและกันเอาไว้ และตอนนี้ดุ้นใหญ่ก็พองตัวเต็มที่ อัดแน่นอยู่ในร่องฉ่ำน้ำของหล่อนจนเต็ม ความอึดอัด คับแน่น และความยาวใหญ่ ทำให้หล่อนต้องโหย่งร่างไว้ ไม่อย่างนั้นขันหล่อนคงจะตกแตกอีกครั้ง “เจ็บมั้ยจ๊ะ” หล่อนส่ายหน้าแทนคำตอบ เพราะกลัวจะหลุดเสียงเสียวออกไปแข่งกับเสียงฝน “เห็นมั้ยพี่บอกว่าจะเจ็บไม่มาก” ใช่... หล่อนเจ็บไม่มาก แต่เสียวมากจนไม่มีที่จะอยู่ ยิ่งเขาจับสะโพกหล่อนและเคลื
ทว่าพี่ทุยกลับไม่ได้ดูดเลียนม สิ่งที่พี่ทุยกำลังดูดเลียซุกไซ้และแยงลิ้นเข้าไปนั้นคือ... “อื้อ... พี่ทุยจ๋า ไหนว่าจะกินนม” “ก็ใครบอกว่าพี่จะกินนม พี่บอกว่าพี่หิว ขอกินบ้าง” “พี่ทุยอ่ะ เจ้าเล่ห์ ซี้ด...” นวลบิดตัวครางกระเส่าแต่แยกต้นขาให้กว้างขึ้นอีก พร้อมทั้งยกขาเล็กน้อยให้เต่านาปากแดงทักทายปลายลิ้นของพี่ทุยได้ถนัดถนี่ “ไม่เจ้าเล่ห์จะได้เมียเหรอ แถมเมียก็น่าเลียที่สุด ขอพี่เลียจนแตกนะนวล” นวลพยักหน้าอายๆ ก่อนจะแหงนหน้าครางกระเส่าเมื่อผัวรักเล่นลิ้นระรัวเร็ว จนหล่อนน้ำแตกนำหน้าไปก่อน จากนั้นพี่ทุยจึงนั่งลงบนเก้าอี้ มีหล่อนนั่งอยู่ระหว่างกลาง ดูด เลีย ดุ้นยาวใหญ่อย่างเมามัน และก่อนที่พี่ทุยจะแตก หล่อนก็รีบขึ้นคร่อมตามคำเร่าร้อง “เมียจ๋า... เมียจ๋า... โอว... เมียจ๋า... โอว...” ทุยครางกระเส่า ก้มหน้าฟัดนมอวบอัดของเมียให้คลายเสียว แต่นวลไม่ปรานีเขาเลย ร่องของเมียตอดรัดหนุบหนับ ควบขี่ โยกคลอน จนเขาทนไม่ไหว เขากำลังจะแตก “โอว... นวลจ๋า... เมียจ๋า... โอว...” ความร้อนรุ่มฉีดอัดเต็มที่ ด
ทุยเคลื่อนฝ่ามือขึ้นไปลูบไล้ที่ข้างแก้ม “นวลเป็นของพี่แล้วนะ เป็นเมียพี่ พี่จะดูแลนวล จะรักแต่นวล จะซื่อสัตย์กับเมีย พี่ให้สัญญา” “นวลรักพี่ทุยจ้ะ นวลสัญญาว่าจะซื่อสัตย์กับพี่ทุย จะเป็นเมียจะเป็นแม่ที่ดี นวลมีความสุขมากๆ จ้ะ” นวลพูดยิ้มๆ แต่น้ำตากลับรื้นออกมาไม่หยุด ทุยปาดน้ำตาที่ข้างแก้มก่อนจะพลิกร่างหันมองนาฬิกาติดฝาผนัง “ยังพอมีเวลามั้ยนวล ลูกจะตื่นหรือยัง” นวลขยับขึ้นมองนาฬิกา คำนวณเวลาว่องไวก่อนจะรีบลุกขึ้นนั่ง แต่เมื่อทุยจะลุกขึ้นตาม นวลกลับกดให้นอนลง “พี่จะไปรับลูกเป็นเพื่อนนะ” “เดี๋ยวค่อยไปก็ได้จ้ะ ขอนวลกินพี่ทุยก่อน ยังพอมีเวลา” หล่อนตอบก่อนจะเอื้อมมือมากอบกุมดุ้นยาวใหญ่ที่สงบตัวลง แต่แค่ฝ่ามือสัมผัส มันก็ขยายตัวเต้นระริกอยู่ในอุ้งมือ นวลเหลือบตามอง ‘ผัวรัก’ ที่หล่อนรับเขาเข้ามาได้เต็มหัวใจ หล่อนจะทำทุกอย่างให้พี่ทุยมีความสุขให้สมกับที่พี่ทุยทำให้หล่อนกับลูกมีความสุขเช่นกัน ฝ่ามือกำรูดเอาหนังย่นยู่ให้เปิดออก เผยให้เห็นหัวทุยทู่มีน้ำฉ่ำหล่อเลี้ยง นวลไม่รอช้าตวัดปลายลิ้นเลียเอาหยาดน้ำนั้นท
นวลกรีดร้องเสียงหลง ร่องฉ่ำตอดรัดปลายลิ้นที่จ้วงแทงเร็วรี่ แต่ทุยก็ยังไม่พอ เขาส่ายหน้าเข้าไปคลุกเคล้าปากจมูกและจ้วงลิ้นกวาดต้อนตวัดเอาหยาดน้ำท่วมท้นออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเขาอร่อยเหลือเกิน อร่อยปากอร่อยลิ้นจนอยากจ่อปากดูดเลียอยู่แบบนี้ทั้งวันทั้งคืน แต่ดุ้นที่แข็งปั๋งร่ำร้องอยากตะลุยเข้าไปแทนลิ้นก็เต้นตุบๆ ประท้วงร้องให้เขาพอ ทุยเคลื่อนใบหน้าออกจากร่องฉ่ำเยิ้ม ขยับขึ้นมาจูบดูดดื่มกับนวลอีกครั้ง และนวลที่แลกลิ้นพัลวัน ทั้งกอดรัดเนื้อตัวเขา ลูบไล้ฝ่ามือน้อยๆ สร้างความซ่านเสียวให้กับเขาก็ทำให้ทุยสุขใจเหลือเกิน “นวลจ๋า... พี่รักนวลนะ” “นวลก็รักพี่ทุยจ้ะ นวลพร้อมแล้ว” ความหมายจากคำพูดคือหล่อนพร้อมที่จะให้เขาสอดใส่ ทุยลุกไปยืนข้างเตียง ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนหมด จนเนื้อตัวเปล่าเปลือย และดุ้นยาวใหญ่ในกำมือก็ทำให้นวลตาลุกวาว เพราะขนาดนั้นใหญ่กว่าที่เคยได้รับ หล่อนอ้าปากค้าง กระเถิบตัวลุกขึ้นนั่ง ทุยคลานขึ้นเตียง ความใหญ่โตที่ไม่คิดจะปิดบังชี้ตรงมายังนวลที่ยังคงอึ้ง “นวล...” “จ้ะพี่” “พร้
“พี่ทุย...” ทุยเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อใน นวลให้ความร่วมมือถอดออกแต่โดยดี และนั่นก็ทำให้หน้าอกขนาดมหึมาจากการกักเก็บน้ำนม ปรากฏออกมาชี้หน้าของทุย ทุยโอบประคองสองเต้าขนาดใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองนวล “แต่วันนี้ พี่ขอแย่งลูกกินหน่อยนะ หิวจังเลย ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้กินอะไรเลย” “พี่ทุย... ซี้ด...” นวลแอ่นอกซี้ดปากเพราะเมื่อทุยพูดจบริมฝีปากเขาก็อ้าออกครอบครองเอาหัวนมข้างหนึ่งเข้าไปทันที ทุยดูดดื่มกลืนกินความมันปนหวานอ่อนอย่างเอร็ดอร่อย และก็ไม่ปล่อยให้อีกข้างที่ล้นทะลักน้อยใจ เมื่อเขาสลับข้างดูดดื่มจนนวลได้แต่แอ่นอกครางซี้ด “อื้อ... พี่ทุย... ซี้ด... เสียว... อื้อ... นวลเสียว...” เสียงหวานครางกระเส่าเร้าใจทุยที่สุด เขาเฝ้าฝันถึงวันเวลานี้ และเขาก็ได้ในสิ่งที่ใฝ่ฝันหา สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง นั่นคือการมี ‘เมียที่ดี’ นวลเป็นของขวัญที่ความขยันหมั่นเพียรและความซื่อสัตย์มอบให้ และค่ำคืนนี้เขาจะทำให้นวลมีความสุขที่สุด “พี่ทุย... ซี้ด... พี่ทุย... อื้อ...” นวลแหงนหน้าซี้ดปากด้วยความเสียวเพร
สีหน้าประหลาดใจของทุยยิ่งทำให้นวลยิ้มทั้งน้ำตา“เพราะนวลเชื่อว่า ผู้ชายคนนี้จะให้ความรักกับนวลและลูกได้ เชื่ออย่างหมดหัวใจ” นวลขยับเข้าไปซุกหน้ากับอกของทุย “จะมีผู้ชายสักกี่คนบนโลกใบนี้ ที่รักมั่นกับผู้หญิงคนเดียว รักผู้หญิงท้องแก่ที่ทั้งอ้วนทั้งจน แถมต้องมาทำคลอดตัดสายสะดือให้ลูกคนอื่นอีก ทั้งยังรับเป็นพ่อ รับเป็นเมีย ดูแลไม่ให้ขาดตก โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าใครจะมองว่าเป็นควายสมชื่อ” นวลยิ่งพูดก็ยิ่งสะอื้น เพราะนั่นคือคำนินทาที่น้องชายมาเล่าให้ฟัง ทั้งหล่อนยังเคยได้ยินกับหู ยามมีคนเดินผ่านหน้าบ้าน ต่างพูดคุยว่า ‘ทุย’ เป็นไอ้ทุยสมชื่อ รับเดนต่อจากพี่ธง และหล่อนก็เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้คงเข้าหูทุยเหมือนกัน แต่เขาก็ยังปฏิบัติกับหล่อนเสมอต้นเสมอปลาย ทำราวกับหล่อนเป็นเมียและจันทร์เจ้าเป็นลูกของเขาจริงๆ เพราะเมื่อครบกำหนดที่หล่อนต้องไปตรวจหลังคลอด หรือคุณหมอนัดตรวจจันทร์เจ้า คนที่กระตือรือร้นดูตารางนัดและเตือนไม่ให้หล่อนลืมก็คือเขา และเรื่องที่หล่อนรู้จากแม่ก็คือ ในวันที่หล่อนจะออกจากโรงพยาบาล พี่ธงไปเยี่ยมหล่อน แต่เจอกับพี่ทุยก่อน ผู้ชายสอ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทุยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเป็นสามีเป็นพ่อของลูก ลูกสาวมีชื่อว่า ‘ด.ญ.จันทร์เจ้า’ และยังไม่ทันรุ่งสางแม่และน้องของนวลที่ได้ข่าวจากคนมาเที่ยวงานลอยกระทงว่านวลเจ็บท้องก็รีบตามมา ทุยขอเป็นคนไปดำเนินการเรื่องใบเกิดของลูกเอง และไม่ลืมที่จะบอกกับแม่ของนวลว่าเขาตั้งใจรับจันทร์เจ้าเป็นลูก ด.ญ.จันทร์เจ้า แข็งแรงดี แต่เนื่องจากนวลคลอดลูกในรถกระบะทำให้คุณหมอขอให้นวลนอนโรงพยาบาลต่ออีกหลายวันเพื่อดูอาการอย่างละเอียด เมื่อถึงวันที่นวลออกจากโรงพยาบาล ทุยก็พานวลกับลูกมาไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองประจำจังหวัด เพื่อฝากฝังเด็กน้อยไว้ให้เป็นลูกเจ้าพ่อ “พี่ทุยจะไปไหนต่อจ๊ะ” นวลถามเพราะทุยไม่ได้เลี้ยวรถกลับไปยังทิศทางของบ้าน แต่กลับเลี้ยวเข้าไปในส่วนงานราชการประจำจังหวัด “ไปทำธุระต่อ” ทุยตอบพร้อมกับเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าที่ว่าการอำเภอ “ลงมาสินวล แม่รออยู่ทางโน้น” นวลมองตามแล้วก็เห็นแม่กับน้องยืนรออยู่ด้านบนที่ว่าการอำเภอจริงๆ “พี่ทุย” “ลงมาเถอะ พี่เป็นพ่อของจันทร์เจ้าแล้วนะ แล้วตอนนี้พี่ก็จะเป็นสามีของนวล”
“แต่...” “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น พี่อยากกินกับข้าวฝีมือนวลทุกวัน” นวลสะอื้นไม่หยุด ความอ่อนแอที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจ ทำให้อยากมีใครสักคนมาปกป้อง แต่หากจะทำให้คนดีๆ อย่างพี่ทุยต้องมาจมปรักกับผู้หญิงมีผัวแล้วอย่างหล่อนก็ไม่ควร แต่ก็สงสารสายตาเว้าวอนนั้น ระลึกถึงความปรารถนาดีที่พี่ทุยทำให้หล่อนตลอดมา หล่อนตัดสินใจไม่ได้ “นะ พี่อยากกินน้ำพริกกะปิฝีมือเมีย” น้ำเสียงนั้นเว้าวอนจนหัวใจหล่อนสั่น “พี่ทุย... อุ้ย!” “นวล... นวลเป็นอะไร” ทุยขยับเข้าไปชิดเมื่อร่างอุ้ยอ้ายของนวลสะดุ้งโหยง ห่อตัวก่อนจะยืดตัวเอนไปด้านหลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวด “พี่ทุย... อื้อ... นวล... นวลเหมือนจะเจ็บท้องอ่ะ” “เจ็บยังไง เจ็บแบบนี้จะคลอดหรือเปล่า” “ไม่น่านะพี่ อุ้ย! โอ๊ยยยยย... พี่ทุย! มะ... ไม่ ไม่เป็นไร ยังไม่น่าจะคลอด หมอบอกว่าต้องเลยลอยกระทงไปก่อน โอ๊ยยยยย...” หล่อนบีบข้อมือเขาแน่น แต่ปากบอกว่าไม่เป็นไร “แต่พี่อ่านในหนังสือเตรียมคลอดเขาบอกว่ามีโอกาสคลอดก่อนกำหนดของหมอไม่ใช่เหรอ” “แต่... โอย... พี่ทุย
นวลเปิดถุงกระดาษแต่ละใบออกดู ใบแรกด้านในนั้นมีเสื้อผ้าเด็กอ่อนอยู่หลายชุด มีหมวก ถุงมือ ถุงเท้า ผ้ากันเปื้อน ผ้าอ้อม ที่ล้วนเป็นสีชมพู ถุงใบที่สองเป็นชุดเดรสของผู้หญิง 2 ชุด มีลักษณะคล้ายกันคือมีกระดุมผ่าหน้ายาวตลอดตัว และถุงใบที่สาม เป็น... สิ่งที่ทำให้นวลหน้าร้อนวูบวาบ เพราะที่เห็นนั่นเป็นเสื้อชั้นในแบบเปิดเต้าด้านหน้า เหมาะสำหรับให้นมลูก “นวลชอบมั้ย” “เอ่อ... ชอบจ้ะ แต่พี่ทุยไม่ต้องซื้ออะไรให้นวลอีกนะจ๊ะ นวลเกรงใจ ของพวกนี้ก็ราคาแพงด้วย” แน่ล่ะ เพราะตอนที่หล่อนไปหาหมอเมื่อสัปดาห์ก่อน หล่อนเห็นใบโฆษณาเสื้อในแบบเปิดเต้ายี่ห้อนี้ ตัวหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 700 บาท แล้วพี่ทุยซื้อมาให้หล่อน 3 ตัว ไหนจะเสื้อผ้าหล่อน เสื้อผ้าลูก ทั้งหมดนี่ไม่เกินหมื่นหรอกหรือ “คิดอะไรมาก นวลก็รู้ว่าพี่ไม่มีเวลาไปใช้เงินที่ไหนหรอก ได้ซื้อของให้นวลให้ลูกบ้าง พี่มีความสุขนะ พี่เลือกชุดลูกเป็นสีชมพูทั้งหมด นวลชอบมั้ย” “ชอบจ้ะ” “พี่อยากให้จันทร์เจ้าสวยเหมือนนวล” ความร้อนราวจะพวยพุ่งขึ้นสู่พวงแก้มไม่หยุด จนนวลต้องพยายามสะกดควา
“พี่ทุยกินข้าวนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันไปจับสำรับมาให้ วันนี้มีน้ำพริกกะปิของโปรดของพี่ด้วยนะ มีกระเฉดราดกะทิด้วย” “เอ็งนี่จะทำให้พี่อ้วน เอ็งนั่งนี่แหละ เดี๋ยวพี่ไปจัดมาเอง” “จ้ะ” นวลยิ้มน้อยๆ มองตามร่างสูงใหญ่ผิวกายกรำแดดที่เดินไปยังด้านข้างของเรือนที่เป็นส่วนของครัวไฟ เสียงก๊อกแก๊กในครัวให้รู้ว่าพี่ทุยกำลังคดข้าวตักกับข้าว ไม่นานร่างสูงก็เดินออกมาพร้อมจาน 2 ใบ ใบหนึ่งมีข้าวพูนจาน อีกใบเป็นผักลวกและน้ำพริกราดมาซะท่วม “โห... ไม่เผ็ดเหรอพี่ ราดมาซะเยอะเลย” “เผ็ดๆ น่ะดี ทำงานมาหนักๆ ตาสว่างเลย เอ็งรู้มั้ยนวล ฝีมือตำน้ำพริกของเอ็งนี่อร่อยที่สุดในสามโลก กินรสมือใครก็ไม่ถูกใจเท่ารสมือเอ็ง” นวลยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบ “ก็บอกให้มากินข้าวที่นี่ทุกวัน อยากกินอะไรก็บอก ฉันจะทำให้กิน” “พี่ไม่อยากให้เอ็งลำบาก ท้องแก่ขนาดนี้แล้วด้วย” “พี่ให้ฉันมากกว่านี้ซะอีก ถ้าไม่ได้พี่ช่วยประคับประคอง เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ ฉันจะอยู่ได้ยังไง” นวลหมายถึงพี่ทุยช่วยเป็นธุระพาหล่อนไปหาหมอตามตารางนัด เพราะยิ่งท้องแก่ใกล้คลอด หมอยิ่ง