นานทีเดียวที่เปรมาพูดไม่ออก อึ้ง ตะลึง และช็อกดวงตาคู่งามสบกับดวงตาเรืองรองที่ทอดมองเธออยู่อย่างมีความหมายลึกซึ้ง เจ้าของดวงตาทรงอำนาจที่มักเฉยชาต่อสิ่งรอบกายอยู่เสมอ เขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริง ๆ เหรอ ในใจมีข้อกังขา คิดว่าน่าเหลือเชื่อเกินไป แต่ขณะเดียวกันกลับอุ่นซ่าน หวานล้ำเหมือนดื่มน้ำผึ้งไปเป็นไห ถ้าเป็นคนอื่นเธอไม่มีทางเชื่อคำพูดหวานหู แต่เมื่อเป็นพฤทธิ์เปรมาไม่รู้สึกว่าเขาลวงหลอกให้ตกหลุมพราง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ที่ดีของเขา ไม่เคยมีข่าวฉาวกับใคร ไม่ทำให้รู้สึกว่าเธอจะกลายเป็นของเล่นแก้เหงา เขาไม่มีเวลามานั่งทำเรื่องไร้สาระเหมือนคนมีเงินบางกลุ่มที่มักตกเป็นข่าวเสียหายเสมอ เธอเคยมองคนผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่งแน่นอนว่าไม่อยากมองผิดอีก และครั้งนี้เธอก็รู้สึกว่าสายตาตัวเองดีขึ้นมาก“ฉันรู้ว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง แต่เราสองคนยังต้องเรียนรู้นิสัยกันอีกมาก บางทีรู้จักกันไปนาน ๆ คุณอาจทนนิสัยที่ไม่ดีของฉันไม่ได้ก็ได้นะคะ” เธอยังอยู่ในอ้อมแขนของเขา เรียวแขนถูกลูบจนเคลิ้มจะหลับ แต่ก็ยังครองสติได้ดี “บางครั้งฉันเอาแต่ใจ ทั้งยังทำอาหารไม่เก่ง แล้วก็ด่าเก่งด้วย อาจทำให้คุณรำคาญผู้ห
ทุกอย่างดีหมด เปรมาซึ้งใจ จะเว้นก็แต่เรื่องที่เขาโมเมเอาเอง ชักไม่แน่ใจเข้าไปทุกทีว่านี่คือคุณพฤทธิ์ตัวจริงแน่ ๆ ใช่หรือเปล่าทำไมเขาถึงเหมือนเป็นคนละคน “ท่านประธานที่เคารพ ไม่ทราบว่าคุณกับฉันเรากลายเป็นสามีภรรยากันตั้งแต่ตอนไหนคะ ตอนนี้คุณเป็นแค่คนคุยลำดับที่ 1 ของฉันเท่านั้นนะคะ” เธอขืนกายหอมกรุ่นของตนเองออกมาเล็กน้อยพอเป็นพิธี เชื่อเถอะว่าเกร็งปากไม่ให้หลุดยิ้ม ปากจะฉีกจะแย่ พวกเธอตกลงปลงใจที่จะเป็นสามีภรรยากันตอนไหนไม่เห็นรู้เรื่องเลย นี่มันมัดมือชกกันชัด ๆ บทจะใจร้อนขึ้นมาคุณพฤทธิ์ของเธอก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ“ตั้งแต่ที่คุณยอมรับความสัมพันธ์”“ฉันพูดแบบนั้นเหรอคะ?” เธอว่าเธอยังไม่ได้พูดนะสีหน้าพฤทธิ์เคร่งขรึมมาก การประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเขายังมีความผ่อนคลายมากกว่านี้เลย เพียงแค่เปรมาไม่เคยทราบก็เท่านั้น กว่าเขาจะพบภรรยาที่จะสร้างครอบครัวด้วยไม่ง่าย เขาจะทำเล่น ๆ ไม่ได้ “คุณอาจไม่ได้พูดตรง ๆ แต่ผมรู้สึกได้ด้วยตัวเองว่าคุณยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเราแล้ว” เปรมาทำหน้าประมาณว่างั้นเหรอคะ “ใจผมคุณคือภรรยาไปแล้วครึ่งหนึ่ง แม้ว่าคุณจะให้เป็นแค่คนคุยลำดับที่ 1” เธอน่าจะเป็นคนเดียวที่กล้
หลังจากเปรมมิกาเก็บตัวเงียบ ทนความอัดอั้นตันใจอยู่ในบ้านด้วยความอดสูมาหลายวัน จู่ ๆ ตื่นขึ้นมาก็ได้รับแจ้งข่าวดีโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่ต่างอะไรจากโชคหล่นทับ สวรรค์เปิดทาง เธอได้รับการติดต่อจากกองละครที่ถอดนังเปรมาออกด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจ คำนวณถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับมีแต่ได้กับได้ ทางนั้นต้องการให้เข้าไปแคสติ้งบทที่สมควรจะเป็นของยายสารเลวนั่นในวันนี้ ก่อนจะวางสายคนที่แนะนำตัวว่าเป็นเลขาฯ ของคุณนภายังสร้างความมั่นใจให้ด้วยว่าแนวโน้มที่เธอจะได้มีมากกว่าไม่ได้ ขอแค่เข้าไปให้ผู้ใหญ่เห็นถึงความตั้งใจ รอยยิ้มที่หายไปจากใบหน้าของเปรมมิกากลับมาสดใสดังเดิม แม้โอกาสที่ได้จะได้มาเพราะนังตัวดีนั้นมันถูกปัดตกแล้วจึงต้องหา คนใหม่มาเสียบแทนก็เถอะ เธอไม่ได้แคร์ตรงนั้น ขอแค่ได้เริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่างเดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีเอง ตอนนี้คิดไกลไปถึงว่าถ้ากระแสตอบรับดีนังเปรมาก็นังเปรมาเถอะเธอจะเขี่ยมันจากฟ้าให้ตกต่ำลงดินเอง จันทร์แรมพอรู้ข่าวนี้ก็ปลาบปลื้มยินดี ถ้าเปรมมิกาได้งานนี้มาจริง ๆ ถือว่าได้กู้หน้าตาที่เสียหายไปได้เยอะเลย ทั้งยังได้ความสะใจ ได้ตอกหน้าทุกคนที่เคยดูหมิ่นดูแคลน แต่ขณะเดียวกันก็อดกังวลก
เปรมาสะดุ้งในใจ พลางหัวเราะกลบเกลื่อนด้วยท่าทางใสซื่อ “ไอรีนแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเฉย ๆ หรอกค่ะพี่อุ้มขา ในหัวไอรีนมีแต่ความคิดดี ๆ ทั้งนั้น” วงเล็บว่าซะที่ไหนล่ะแต่เธอไม่ยอมรับง่าย ๆ หรอกว่ากำลังคิดไม่ดีจริง ๆ แต่มันก็ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องไม่ดีซะทีเดียวแค่เปรียบเทียบนิดหน่อยเอง กรรณิการ์กลอกตา พึมพำว่า “ก่อนจะพูดอะไรช่วยส่องกระจกดูหน้าตัวเธอเองก่อนเนอะแล้วจะเห็น” ว่ามันหื่นมากแค่ไหน ประโยคหลังเธอไม่ได้เปิดโปงออกมา ถ้าให้เดาคนที่เปรมากำลังนึกถึงน่าจะเป็นคนเดียวกับที่หอบหิ้วของฝากมาให้ ความสุขที่เธอเห็นมันออกมาจากภายในของน้องสาวเธอจริง ๆ หวังว่ามันจะดีอย่างนี้ตลอดไป “เป้ หน้าพี่แย่มากเลยเหรอ?” ลูบแก้มตัวเองไปพลาง เปรมาเข้าใจที่กรรณิการ์สื่อแต่เธอแค่เฉไฉ ที่ถามเรื่องหน้าตาเอาเป็นว่านอนตื่นสายเลยไม่ได้ลงเมคอัพ ลงแค่ครีมบำรุงกับกันแดด แล้วเธอก็ขี้เกียจเกินกว่าจะมานั่งละเลงสีสันลงบนหน้าบนรถ ปกติเวลาไปกองถ่ายส่วนใหญ่ก็จะหน้าสดไปประจำ เพราะต้องไปแต่งที่นั่นอยู่แล้ว และคนที่เคยร่วมงานด้วยชินกันหมดแล้ว คุณพฤทธิ์เธอยังเอาหน้าสดไปให้เขาเห็นแล้วเลย “โธ่ เอาอะไรมาแย่ล่ะครับพี่ไอรีน พี่สาวขอ
เปรมาเดินทางมาถึงโรงแรมแล้ว มีเวลาเหลือ ๆ ให้ดื่มกาแฟแก้วโปรด ลาเต้ร้อนหวานน้อยคือเมนูที่สั่งประจำ แต่ขอให้เป็นเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนเถอะเธอดื่มได้หมด เช้านี้ตื่นขึ้นมาถึงใต้ตาจะแลดูหมองคล้ำมากไปสักหน่อยเพราะนอนพักผ่อนไม่เพียงพอแต่ สีหน้า และแววตาของเธอสดใสมาก เหมือนความสุขได้มากองรวมไว้ที่เธอหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามีอะไรดี ๆ เกิดขึ้น แต่ทุกคนที่พบเธอก็คิดไปในทางเดียวกันหมดว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ และยังแสดงให้เห็นว่าการถูกปลดจากละครในค่ำคืนที่ผ่านมาไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเธอมากมายนัก หากเป็นคนอื่นไม่แน่ว่าอาจจะเก็บอาการไม่ได้ ทั้งได้รับการปกป้องจากทีเอ็มเคก็ว่าแน่แล้ว ต่อมายังตบหน้ากองละครซ้ำซากแบบไม่ได้ตั้งใจอีกครั้งเมื่อได้ทราบข่าวโดยทั่วกันว่านางร้ายอย่างเธอได้ตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกมาครอบครอง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีคนพูดลับหลังว่าผู้จัดละครผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงอย่างนภาเผลอก้าวพลาดอย่างน่าเจ็บใจ พูดกันไปถึงว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานไม่ได้สอนเธอบ้างเลยหรือไง เหมือนที่ผู้กำกับโต้งพูดไว้เป๊ะไม่รู้ผีห่าซาตานตนไหนพูดยุยงข้างหู แต่เสียใจตอนนี้ไม่ทันแล้ว
ทีมงานเดินมาแจ้งว่าอีกประมาณครึ่งชั่วโมงจะเริ่มทยอยซ้อมเดินแบบ จากนั้นถึงไปฟิตติ้งชุดอีกครั้ง สำหรับงานที่จะเกิดขึ้นในวันนี้เป็นงานใหญ่ แฟชั่นโชว์ที่ปกติจะจัดกันคนละวันระหว่างฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง แต่วันนี้จะไม่เป็นแบบนั้น ทางแบรนด์จัดไปพร้อมกันในวันนี้เลย นับเป็นความพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี แขกจากต่างประเทศก็ถูกเชิญมาด้วย “นั่นสิคะ ฮันน่าก็คิดว่าบังเอิญมาก ๆ แต่ว่าพี่ไอรีนขา” “หืม” “พี่ไอรีนสนิทกับนายภีมหรือเปล่าคะ?” “ทำไมเหรอจ๊ะ?” เปรมาลดเสียงกระซิบตาม ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไปทำไม ไม่ได้จะนินทาใครสักหน่อย แต่ลึก ๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กสองคนนี้บางทีอาจจะมีปัญหาอะไรกันสักอย่างโดยที่ไม่มีใครรู้ เพราะน้ำเสียงของฮันน่าฟังแล้วทำให้รู้สึกได้เลยว่ามีความ ไม่ชอบใจแฝงอยู่ “ก็นายภีมเขาดูให้ความสนใจพี่ไอรีนเป็นพิเศษ ฮันน่าเลยสงสัยว่าพี่ไอรีนสนิทกับเขาหรือเปล่าน่ะค่ะ แต่สาบานนะคะว่าฮันน่าไม่ได้อิจฉาที่หมอนั่นสนใจแต่พี่ไอรีนแบบออกนอกหน้า” ฮันน่ารีบอธิบายเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เธอไม่ได้แอบชอบภีมพล แค่ห่วงรุ่นพี่ แต่ก็เลี่ยงที่จะใช้คำว่าสอดส่อง เพราะกลัวเปรมาจะวิตกกั
ชรัณไม่รู้ว่าอาหารเดลิเวอร์รี่ที่เขาถูกเจ้านายสั่งกำชับให้ลงลิฟต์มารับจากมือไรเดอร์ด้วยตนเองตั้งแต่ 40 นาทีที่แล้วถูกใครส่งมา ที่แน่ ๆ ไม่มีทางที่เจ้านายจะสั่งมาทานเอง ความน่าจะเป็นนี้ตัดทิ้งไปได้เลย แค่แอพพลิเคชันก็ไม่มีในมือถือแล้ว อยากทานอะไรจะบอกผ่านเขาเท่านั้น มือเรียวสวยตัดกับเส้นเลือดคมชัดพลิกเอกสารอย่างใจเย็นภายใต้บรรยากาศอันเงียบสงบ รอจนแม่บ้านจัดอาหารใส่จานให้แล้วประธานทีเอ็มเคถึงได้ลุกเดินมานั่งบนโซฟา เพ่งมองสีสันบนจานและชามอยู่นาน ก่อนจะได้ทำสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทคาดไม่ถึงอีกครั้งด้วยการยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะ ผู้ช่วยหนุ่มขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก คิดในใจว่านี่มันเป็นปรากฏการณ์อะไรกันแน่ สับสนอยู่พักนึงแล้วถอยหลังเดินออกไปเงียบ ๆ จมอยู่กับวามคิดอันเลื่อนลอย ตอบสนองอีกทีก็ตอนที่ผู้ช่วยตัวเองทักความตั้งใจของพฤทธิ์ในการถ่ายรูปอาหารไม่ต่างจากตอนนั่งอ่านร่างสัญญาสำคัญที่ส่งตรงมาจากอเมริกา อีกหนึ่งค่ายหนังที่กำลังจะร่วมงานกัน กดถ่ายแต่ละครั้งเล็งแล้วเล็งอีก ไม่มีใครรู้ว่ามันยาวนานถึงครึ่งชั่วโมง เขาถึงยอมตัดใจลงนั่งดี ๆ ถือช้อน จับตะเกียบ ทานบะหมี่เป็ดย่างที่เน้นเป็ดไม่เน้
ผู้อำนวยการไพบูลย์ผู้ฮึกเหิมเตรียมตั้งท่ารับรอแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ขอแค่ท่านประธานมีคำสั่งลงมาก็พร้อมออกประกาศทันที พร้อมขนาดที่ว่ามีร่างเอกสารแล้วเรียบร้อย ถึงลูกน้องคนอื่น ๆ ในทีมจะไม่เข้าใจก็ตามว่าทำไมหัวหน้าถึงได้กระตือรือร้นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวมากจนเกินเหตุทั้งที่เปรมาก็ไม่ได้มีสัญญานักแสดงในบริษัท แต่บริษัทดูจะให้ความสำคัญกับเธอเป็นกรณีพิเศษ สังเกตได้จากการที่ออกหน้าปกป้องครั้งก่อน มาครั้งนี้ท่าทีก็ค่อนข้างชัดเจน เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าไม่มีใครไม่สงสัย ทว่าความสงสัยนั้นไม่อาจหาคำตอบได้ด้วยตนเอง และไม่มีสิทธิ์จะถามด้วย“พวกเธอไม่ต้องสงสัย แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ!”มันคือการเตือนสติลูกน้องดี ๆ นี่เอง กวาดตาดุดันไปรอบหนึ่งก็เดินอาด ๆ เข้าห้องทำงานส่วนตัว ในทางกลับกันยิ่งทำให้ดูน่าสงสัยไปกันใหญ่ แต่ใครจะไปง้างปากเขาได้ และยิ่งไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าของพวกเขาก็ไม่ได้รู้รายละเอียดลึก ๆ อะไรเลย จนกว่าจะมีอะไรหลุดออกมาเองนั่นแหละถึงได้รู้ ตอนนี้ในใจก็ได้แต่คาดเดาไปต่าง ๆ นานาหลายคนคิดว่าไม่พูดจากปากดีที่สุด เพราะกลัวว่าเดาไปเดามาจะเข้าถึงหูท่านประธานถูกไล่ออกแล้วมันไม่ค
ทุก ๆ วันที่คุณแม่คนเดียวถูกคุณพ่อและลูก ๆ มะรุมมะตุ้ม ล้อมหน้าล้อมหลัง เป็นภาพชินตามที่ทุกคนในบ้านคุ้นเคย ต้องแจกจูบ แลกหอมกันจนพอใจ ถึงแยกย้าย คุณพ่อไปทำงานแบบไม่ค่อยเต็มใจ เด็ก ๆ เดินตามกันไปเล่น แต่ต้องอยู่ในรัศมีที่มองเห็นคุณแม่เท่านั้น ไม่อย่างนั้นอย่าได้ถามหาความสงบสุข ช่วงกลางวัน บางวันเด็ก ๆ ก็จะไปหาคุณพ่อที่บริษัทและอยู่ยาวจนถึงเวลาเลิกงาน ที่ห้องทำงานท่านประธานใครเข้าไปจะเห็นเลยว่ามีอุปกรณ์เด็กเพิ่มมาเยอะเลยพนักงานไม่ได้สิทธิ์ในการเลี้ยงบุตรหลานในที่ทำงานแต่ใครให้เขาเป็นประธานล่ะ จะเอาลูกมาเลี้ยง มาเล่น มานอนกลางวันที่บริษัทตัวเองยังไงก็ได้ วันไหนพาลูกมาลำพังไร้เงาคุณผู้หญิงก็รู้ได้เลยว่าวันนั้นภรรยาท่านประธานติดธุระ ออกไปพบปะ คนที่รับบทผู้ช่วยก็คือคุณเลขาฯ ไม่ใช่พี่เลี้ยงที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ที่บ้าน “คูมพ่อขา เอลล่าจาดูตูนเจ้าหญิงค่ะ”“คีนจะเล่นรถ”“ป้อ!”เปรมามองภาพความอลหม่านแล้วยิ้มหวาน ประกายความสุขอาบไร้บนใบหน้า มีคนเคยถามเธอว่าตัดสินใจมีลูกเร็วไม่คิดว่าจะเสียโอกาสในสายงานที่กำลังไปได้ดีเหรอ โอกาสดี ๆ ไม่ได้มีเข้ามาบ่อย ๆ หรอกนะคำตอบของเธอคือไม่ตั้งแต่แรกการมีลูกไม่ไ
5 ปีต่อมาเปรมาแต่งงานกับพฤทธิ์มาแล้ว 5 ปี มีพยานรักที่น่ารักน่าชังแล้วถึง 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 วัยกำลังซุกซน คนโตเป็นผู้ชายชื่อน้องคีน คนที่สองชื่อน้องเอลล่า และคนเล็กชื่อน้องเคิร์ท ไม่ต้องพูดเรื่องความรักที่มอบให้กับเด็ก ๆ ทั้งสองครอบครัวรักใคร่และตามใจหลานกันสุด ๆ วันนี้ทั้งครอบครัวได้รับเชิญให้ไปงานประกาศรางวัลประจำปี และมารดาของเด็ก ๆ ที่น่ารักก็กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ในห้องนั่งเล่นกับช่างแต่งหน้ารู้ใจทีมเดิม หน้าที่รับผิดชอบลูก ๆ จึงตกเป็นของคุณพ่อที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัวอาบน้ำ ป้อนข้าว เปลี่ยนแพมเพิร์ส ท่านหนุ่มประธานวัย 35 ปี ทำได้คล่องมากมีพี่เลี้ยงมาคอยช่วยดูแลแต่อะไรที่ทำเองได้ก็อยากทำด้วยตัวเองอยู่ดี เปรมาเองก็เหมือนกัน เพื่อลูกเธอทำได้ทุกอย่างแม้ว่าเรื่องนั้นจะไม่ถนัดเลย เป็นต้นว่าการทำอาหารเธอก็ฝึกจากเมนูง่าย ๆอัพเลเวลทำให้สามีทานได้มากกว่าการต้มบะหมี่ และทอดไข่ได้แล้วชมเปาะว่าเมียทำอร่อย เอาใจเก่งไม่เปลี่ยน แต่ยังไงก็ตามหน้าที่ทำอาหารก็ยังเป็นของสามีอยู่ดีและตั้งแต่มีลูกเปรมาก็ไม่ค่อยได้รับงานละครเท่าไร ล่าสุดเพิ่งรับไปหนึ่งเรื่อง เป็นซีรีส์วัยรุ่น เธอเน้นไปที่กา
สีหน้าถมึงทึงของพ่อเลี้ยงบดินทร์บ่งบอกถึงอารมณ์คุกรุ่นรุนแรงของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่เดินเข้าไปบีบคอหญิงชั่วให้ตายคามือก็ดีเท่าไรแล้ว การกลับมาเจอกันครั้งนี้ไม่มีความหลังครั้งเก่าให้คิดถึง มีแต่ความแค้นสุมอกที่ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายลูกสาวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเท่านั้นเลย“เธอคิดว่าฉันตายห่าไปแล้วหรือไงจันทร์แรม” เสียงตะคอกนี้ไม่ต้องกลัวเลยว่าลูกค้าที่มาใช้บริการจะตกใจจนขวัญหนีกระเจิง ตอนนี้แม้แต่ลูกจ้างทั้งหมดก็ไม่อยู่ในร้าน ลูกเขยเขาปิดร้านให้เป็นส่วนตัวแล้วตอนที่พฤทธิ์โทร. มาเล่าให้ฟังว่าหญิงชั่วคนนี้พยายามหาทางเข้าหาลูกสาวของเขาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองพ่อเลี้ยงบดินทร์ก็ของขึ้นทันที และบอกเสียงดังฟังชัดว่าจะจัดการปัญหาน่ารำคาญนี้ด้วยตนเอง ลูกเขยไม่ต้องยุ่ง ให้พาลูกสาวเขาไปล่องเรืออยู่ในทะเลอย่างสบายใจได้เลย“ไม่ค่ะพ่อเลี้ยง” ปากคอจันทร์แรมสั่น“ไม่อะไร เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นแม่จริง ๆ ของไอรีนอีกเหรอ เธอคิดจะเรียกร้องอะไรจากลูกสาวของฉันอีกห๊ะ! ที่ฉันยอมให้ลูกฉันเรียกเธอว่าแม่ไม่ได้หมายความว่าฉันยอมรับสถานะนั้นของเธอนะ เธอควรรู้ไว้ว่าทุกครั้งที่ฉันคิดว่าไอรีนเรียกเธอว่าแม่ฉันแค้นจะแย่ เพรา
จันทร์แรมหาทางมาเจอลูกสาวคนแรกอยู่หลายวัน แต่ทุกครั้งล้วนล้มเหลว ขอเข้าพบว่าที่ลูกเขยก็เข้าถึงไม่ได้ ทว่าเมื่อคืนก่อนนอนได้รับการติดต่อมาจากผู้จัดการของเปรมา นัดให้ออกมาเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเธอรีบตอบตกลงทันที เรื่องราวของลูก ๆ ที่เฝ้าเลี้ยงดูฟูมฟักเป็นอย่างดีกัดกินความคิดของเธอจนทำให้ดูอ่อนล้ากว่าหลายปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดเปรมมิกาตั้งแต่แต่งงานเข้าบ้านสามีไปวัน ๆ ก็มีแต่เรื่องชวนให้ปวดหัว บีบหัวใจ แม่ผัวตัวร้ายกับสามีไม่เอาไหนนึกถึงแล้วก็แค้นแทนลูก พอรู้ว่าจะได้เจอเปรมาในเที่ยงวันนี้อารมณ์ขุ่นมัวก็ดีขึ้นมาก ตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ช่วยลูกสาวคนโปรด ถ้ามีลูกเขยคนโตหนุนหลัง ครอบครัวลูกชายคนเล็กคงไม่กล้ารังแกคนของเธออีก เรื่องนี้จะต้องหาวิธีพูดให้ได้ หมายมั่นมาตั้งแต่ที่เริ่มคิดเข้าหาลูกสาวคนโตแล้ว ต่อให้อดีตจะโกรธเกลียดน้องยังไง ตอนนี้ตัวเองก็ไปได้ดีแล้วยังต้องสนใจเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วอีกเหรอ คนในครอบครัวไม่ช่วยกันเองแล้วจะรอให้ใครช่วย“เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าลูกสาวเธอคนนั้นจะญาติดีด้วย”“ยังไงจันทร์ก็คือแม่”จันทร์แรมพูดเรียบ ๆ ไม่สนใจสามีที่เริ่มมีโรคภัยรุมเร้า และแก่ชราลงอย่างรวด
ออกจากบริษัทแล้วพฤทธิ์ก็พาภรรยาไปย่านขายอาหารริมทางผู้คนพลุกพล่านไม่น้อย จำนวนร้านที่ออกมาตั้งขายก็เยอะ การหาที่จอดรถเหมือนจะยากแต่โชคดีที่มีรถออกพอดีเขาเลยจอดแทนที่จูงมือพากันเดินลงมาแบบเปิดเผย ไม่ปิดบังใบหน้า มีคนเห็นพวกเขาแล้ว และไม่พลาดที่จะยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ กล้าหน่อยก็เรียกชื่อ ชมต่อหน้า“ไอรีน”“ตัวจริงสวยจังเลยค่ะ”“พี่เป็นแฟนคลับน้องนะคะ”“คืนนี้ต้องหลับฝันดีแน่ ๆ เจอนางฟ้าก่อนนอน”“ไม่นึกไม่ฝันว่าการพาเมียออกมากินส้มตำจะเจอคนสวย”เปรมาไม่หยิ่ง ไม่ถือตัวเลย เธอยิ้มให้ทุกคนที่ทัก พ่อค้าแม่ค้าก็เรียกจะให้ของกินแต่เธอไม่รับบอกว่าของซื้อของขาย ให้ฟรี ๆ ไม่ได้ หาอะไรทานเสร็จแล้วจะแวะอุดหนุนก่อนกลับ คนข้างกายจะเฉยชาก็ไม่มีใครถือสา เพราะไม่ใช่ไม่มีใครรู้ว่าเขามีบุคลิกแบบนี้มาตั้งแต่เกิด แถมยังได้รับเสียงชื่นชมไปอีกต่างหาก หล่อเหมือนเพราะเอกเกาหลี เรื่องนี้เห็นด้วยอย่างแรง แต่มีใจเอนเอียง คนของเธอหล่อกว่าแต่พูดไปไม่ได้เดี๋ยวถูกหมั่นไส้ ได้แต่ชมกันเอง“สำหรับไอรีนคุณหล่อกว่าใครเลยค่ะ”“คุณก็สวยที่สุดสำหรับผมเหมือนกัน”เอาเป็นว่าที่สุดของคนอื่นเป็นยังไงไม่รู้ แต่ที่สุดของคู่ร
เปรมายิ้มหวานออก และมันก็สดใสราวกับว่าโลกกลม ๆ ใบนี้ไม่มีความหม่นหมองที่ทำให้คนกุมขมับทุกข์ใจได้ “ไม่มีอะไรต้องเถียงเลยค่ะ สิ่งที่คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว ไอรีนรักคุณ ไม่อยากพูดถึงแต่ก็อยากพูดให้คุณเข้าใจ คุณเป็นผู้ชายคนแรกในฐานะคนรักที่ไอรีนรักนะคะเมฆ” “พูดด้วยสิครับว่าจะเป็นคนสุดท้ายด้วย” เขางับจมูกเธอเบา ๆคนถูกเรียกร้องให้รับปากหัวเราะน่ารัก คำว่าตลอดไปฟังดูยาวนานเหลือเกิน แต่กาลเวลามันหมุนไปเร็วกว่าที่คิด ดังนั้นหากทำอะไรแล้วมีความสุขก็ควรทำเลย ยังจะต้องลังเลอีกทำไม เปรมายืดตัว พลางเอี้ยวหน้าจูบปากสุดที่รักของเธอแรง ๆ “ตามที่คุณต้องการเลยค่ะที่รักขา คุณคือรักแรกรักเดียวตลอดไปของไอรีนแต่ถ้าคุณเกเรเมื่อไรไอรีนจะเอาความรักกลับคืน” ขู่ไว้ก่อนแต่เชื่อว่าวันนั้นไม่มีทางมาถึงเพราะผู้ชายของเธอมั่นคงจะตาย “ไม่มีทาง ไม่มีทางที่คุณจะเอาหัวใจและความรักที่มอบให้ผมแล้วกลับไปได้หรอกที่รัก” น้ำคำหนักแน่นดุจหินผา เหมือนใจที่สลักไว้แล้วว่าจะเป็นของเปรมาแค่คนเดียว ความรู้สึกนี้ต่อให้ผ่านไปอีกกี่สิบปีก็ยังคงเหมือนเดิม “ผมรักคุณนะครับไอรีน และจะรักมั่นคงตลอดไป เชื่อผมนะ”“เชื่อค่ะ ไอรีนเชื่อคุณ” เหมือน
คนที่รอลุ้นว่าเปรมาจะมาปรากฏตัวที่งานแต่งของอดีตคู่หมั้นกับน้องสาวต่างมารดาที่หักหลังเธออย่างเลือดเย็นต่างต้องพบกับ ความผิดหวังกันเป็นแถว เพราะนางร้ายสาวสุดฮอตไม่มา ทว่าเวลาผ่านไปเธอก็ไม่พลาดที่จะแสดงความยินดีผ่านช่องทางของตนเองว่าให้รักกันอย่างชื่นมื่นให้สมกับความพยายามที่จะรักกันในวันที่มืดมน วันนี้ไม่ต้องปกปิดใครแล้วก็เอาให้เต็มที่ แสดงความรักออกมาให้ทุกคนได้เห็น และยังปิดท้ายแบบแสบ ๆ คัน ๆ ตามสไตล์เมื่อต้องพาดพิงไปถึงคู่รักสุดยี้“อย่าทำให้ผิดหวัง ทุกคนรอดูอยู่”อ่านแล้วชาวเน็ตก็ตีความไปต่าง ๆ นานา[ใช่ ๆ เพราะพวกเรารอเหยียบซ้ำอยู่][อารมณ์เหมือนอวยพร แต่ฉันอ่านแล้วไม่คิดงั้นนะ][ติ่งยัยไอด้าหายไปไหนกันแล้วอะ เงียบกริบมานานแล้วนะ][ฉันก็จะรอดูไปพร้อมเธอไอรีน][ฉันจำได้ว่าตอนนั้นนางกับแม่นางปฏิเสธหัวชนฝาว่าไม่จริง เป็นเรื่องใส่ร้ายป้ายสี พอไม่กี่วันก็ควงแขนออกงาน แล้วมาโป๊ะว่าท้องไปอีก มาวันนี้ถึงขั้นจัดงานแต่งแล้ว พวกแก หน้าพวกนางต้องด้านขนาดไหนอะ][งานแต่งอลังการ เชิญแขกไปเป็นพยานขนาดนั้นแต่ทำไมดูหน้าบ่าวสาวเหมือนพวกถูกบังคับให้แต่งงั้นอะ หรือว่าความรักครั้งนี้มันไม่หวานแหววเหมือ
สิ่งที่จันทร์แรมกับเปรมมิกาอยากให้เกิดขึ้นถึงขนาดยอมทำเรื่องไร้ยางอายจนคนวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งเมือง ปัจจุบันพวกเธอได้ สมดั่งใจหมายแล้ว ทว่าน่าแปลกใจที่รอยยิ้มบนใบหน้าดันจืดจาง แข็งเกร็งเหมือนคนถูกบังคับให้กินยาขมก่อนออกมาพบเจอคนมากมายงานวิวาห์ที่เป็นที่โจษจันกันทั้งประเทศได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการภายในระยะเวลาอันแสนสั้น หากเทียบกับสถานะทางสังคมของครอบครัวณัฐดนัย ที่แม้ว่าระยะหลังจะเสื่อมโทรมลงไปมากเพราะการกระทำอันน่ารังเกียจ แต่ก็ยังนับได้ว่าเป็นตระกูลที่ยังพอมีหน้ามีตาอยู่บ้าง ร่อนการ์ดมงคลเชิญใครไปน้อยคนนักที่จะเมินเฉย อีกนัยหนึ่งก็คิดได้ว่ามาเพราะต้องการมาดูความคักคักที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดหากไม่มีข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ออกมาประจานงานวิวาห์งานนี้ก็กล่าวได้ว่าไร้ที่ติ แต่อย่าได้ถามหาว่ามีใครอิจฉาไหม ให้ถามหาว่าใครไม่นินทาดีกว่า ความชื่นมื่นที่ถูกเซ็ต จัดฉากขึ้นมาลวงหลอกสายตาประชาชน หน้าตายิ้มแย้มของเจนภพกับบุษบาขัดแย้งกับสถานการณ์ภายในอันร้อนระอุอย่างสิ้นเชิงทั้งสองครอบครัวไม่ปรองดองสมานฉันท์กันเหมือนที่ถ่ายภาพร่วมเฟลมกันแบบจำใจไม่พอ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวคนสำคัญของงานยังทำท่าไม่ยิ
“ไอรีนขอโทษนะคะที่ทำให้คุณต้องรอ” เปรมาทำหน้ารู้สึกผิด เคลียจมูกกับจมูกโด่งคม แป๊บเดียวเท่านั้นก็มีสีหน้าภูมิใจ “แต่ถ้าคนไม่มีอคติกับไอรีนก็ย่อมต้องมองออกเหมือนคนส่วนใหญ่ว่าตำแหน่งในใจของไอรีนสำคัญกับคุณมาก เพราะฉะนั้นตำแหน่งภรรยาของคุณไม่มีทางรอดมือไอรีนไปได้หรอกจริงไหมคะ” ท่าทางมั่นใจนี้เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนโชคดีที่ได้เธอเป็นภรรยาที่ไม่ได้มีดีแค่สวยงามเพียงอย่างเดียว“จริงครับ ไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้แล้ว มีแค่คุณเท่านั้นที่จะได้ตำแหน่งนี้ไป และผมคิดว่าสวรรค์คงทนเห็นผมใช้ชีวิตโสดไม่ได้เลยมอบคุณให้ผม” เขาจูบปากเล็ก ๆ ที่กำลังยิ้มแฉ่งเหมือนดอกไม้บานสะพรั่ง “ถ้าไม่มีคุณผมคงไม่มีความสุขเท่านี้เหมือนทุกวันนี้ ขอบคุณนะครับ”“ไอรีนก็เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่มีคุณไอรีนคงไม่มีความสุขเท่านี้”ราว ๆ เที่ยงคืน ภาพแหวนเพชรเม็ดงามล้อแสงไฟบนนิ้วนางข้างซ้ายของเปรมาที่ลงโดยประธานทีเอ็มเคก็ปรากฏขึ้นใน IG ส่วนตัวพร้อมแคปชันที่เรียกเสียงฮือฮาเหมือนเคย ตั้งแต่เปิดตัวว่ามีแฟนสาวเขาก็ขยันลงรูปอวดแฟนถี่ ๆ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่อวดธรรมดาแล้ว ถูกใจโดย ireneprema และอีก 1,675,100 คนpharitjira ผมกำลังจะแต่งงานครับ