เปรมาเดินทางมาถึงโรงแรมแล้ว มีเวลาเหลือ ๆ ให้ดื่มกาแฟแก้วโปรด ลาเต้ร้อนหวานน้อยคือเมนูที่สั่งประจำ แต่ขอให้เป็นเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนเถอะเธอดื่มได้หมด เช้านี้ตื่นขึ้นมาถึงใต้ตาจะแลดูหมองคล้ำมากไปสักหน่อยเพราะนอนพักผ่อนไม่เพียงพอแต่ สีหน้า และแววตาของเธอสดใสมาก เหมือนความสุขได้มากองรวมไว้ที่เธอหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามีอะไรดี ๆ เกิดขึ้น แต่ทุกคนที่พบเธอก็คิดไปในทางเดียวกันหมดว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ และยังแสดงให้เห็นว่าการถูกปลดจากละครในค่ำคืนที่ผ่านมาไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเธอมากมายนัก หากเป็นคนอื่นไม่แน่ว่าอาจจะเก็บอาการไม่ได้ ทั้งได้รับการปกป้องจากทีเอ็มเคก็ว่าแน่แล้ว ต่อมายังตบหน้ากองละครซ้ำซากแบบไม่ได้ตั้งใจอีกครั้งเมื่อได้ทราบข่าวโดยทั่วกันว่านางร้ายอย่างเธอได้ตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกมาครอบครอง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีคนพูดลับหลังว่าผู้จัดละครผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงอย่างนภาเผลอก้าวพลาดอย่างน่าเจ็บใจ พูดกันไปถึงว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานไม่ได้สอนเธอบ้างเลยหรือไง เหมือนที่ผู้กำกับโต้งพูดไว้เป๊ะไม่รู้ผีห่าซาตานตนไหนพูดยุยงข้างหู แต่เสียใจตอนนี้ไม่ทันแล้ว
ทีมงานเดินมาแจ้งว่าอีกประมาณครึ่งชั่วโมงจะเริ่มทยอยซ้อมเดินแบบ จากนั้นถึงไปฟิตติ้งชุดอีกครั้ง สำหรับงานที่จะเกิดขึ้นในวันนี้เป็นงานใหญ่ แฟชั่นโชว์ที่ปกติจะจัดกันคนละวันระหว่างฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง แต่วันนี้จะไม่เป็นแบบนั้น ทางแบรนด์จัดไปพร้อมกันในวันนี้เลย นับเป็นความพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี แขกจากต่างประเทศก็ถูกเชิญมาด้วย “นั่นสิคะ ฮันน่าก็คิดว่าบังเอิญมาก ๆ แต่ว่าพี่ไอรีนขา” “หืม” “พี่ไอรีนสนิทกับนายภีมหรือเปล่าคะ?” “ทำไมเหรอจ๊ะ?” เปรมาลดเสียงกระซิบตาม ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไปทำไม ไม่ได้จะนินทาใครสักหน่อย แต่ลึก ๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กสองคนนี้บางทีอาจจะมีปัญหาอะไรกันสักอย่างโดยที่ไม่มีใครรู้ เพราะน้ำเสียงของฮันน่าฟังแล้วทำให้รู้สึกได้เลยว่ามีความ ไม่ชอบใจแฝงอยู่ “ก็นายภีมเขาดูให้ความสนใจพี่ไอรีนเป็นพิเศษ ฮันน่าเลยสงสัยว่าพี่ไอรีนสนิทกับเขาหรือเปล่าน่ะค่ะ แต่สาบานนะคะว่าฮันน่าไม่ได้อิจฉาที่หมอนั่นสนใจแต่พี่ไอรีนแบบออกนอกหน้า” ฮันน่ารีบอธิบายเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เธอไม่ได้แอบชอบภีมพล แค่ห่วงรุ่นพี่ แต่ก็เลี่ยงที่จะใช้คำว่าสอดส่อง เพราะกลัวเปรมาจะวิตกกั
ชรัณไม่รู้ว่าอาหารเดลิเวอร์รี่ที่เขาถูกเจ้านายสั่งกำชับให้ลงลิฟต์มารับจากมือไรเดอร์ด้วยตนเองตั้งแต่ 40 นาทีที่แล้วถูกใครส่งมา ที่แน่ ๆ ไม่มีทางที่เจ้านายจะสั่งมาทานเอง ความน่าจะเป็นนี้ตัดทิ้งไปได้เลย แค่แอพพลิเคชันก็ไม่มีในมือถือแล้ว อยากทานอะไรจะบอกผ่านเขาเท่านั้น มือเรียวสวยตัดกับเส้นเลือดคมชัดพลิกเอกสารอย่างใจเย็นภายใต้บรรยากาศอันเงียบสงบ รอจนแม่บ้านจัดอาหารใส่จานให้แล้วประธานทีเอ็มเคถึงได้ลุกเดินมานั่งบนโซฟา เพ่งมองสีสันบนจานและชามอยู่นาน ก่อนจะได้ทำสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทคาดไม่ถึงอีกครั้งด้วยการยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะ ผู้ช่วยหนุ่มขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก คิดในใจว่านี่มันเป็นปรากฏการณ์อะไรกันแน่ สับสนอยู่พักนึงแล้วถอยหลังเดินออกไปเงียบ ๆ จมอยู่กับวามคิดอันเลื่อนลอย ตอบสนองอีกทีก็ตอนที่ผู้ช่วยตัวเองทักความตั้งใจของพฤทธิ์ในการถ่ายรูปอาหารไม่ต่างจากตอนนั่งอ่านร่างสัญญาสำคัญที่ส่งตรงมาจากอเมริกา อีกหนึ่งค่ายหนังที่กำลังจะร่วมงานกัน กดถ่ายแต่ละครั้งเล็งแล้วเล็งอีก ไม่มีใครรู้ว่ามันยาวนานถึงครึ่งชั่วโมง เขาถึงยอมตัดใจลงนั่งดี ๆ ถือช้อน จับตะเกียบ ทานบะหมี่เป็ดย่างที่เน้นเป็ดไม่เน้
ผู้อำนวยการไพบูลย์ผู้ฮึกเหิมเตรียมตั้งท่ารับรอแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ขอแค่ท่านประธานมีคำสั่งลงมาก็พร้อมออกประกาศทันที พร้อมขนาดที่ว่ามีร่างเอกสารแล้วเรียบร้อย ถึงลูกน้องคนอื่น ๆ ในทีมจะไม่เข้าใจก็ตามว่าทำไมหัวหน้าถึงได้กระตือรือร้นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวมากจนเกินเหตุทั้งที่เปรมาก็ไม่ได้มีสัญญานักแสดงในบริษัท แต่บริษัทดูจะให้ความสำคัญกับเธอเป็นกรณีพิเศษ สังเกตได้จากการที่ออกหน้าปกป้องครั้งก่อน มาครั้งนี้ท่าทีก็ค่อนข้างชัดเจน เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าไม่มีใครไม่สงสัย ทว่าความสงสัยนั้นไม่อาจหาคำตอบได้ด้วยตนเอง และไม่มีสิทธิ์จะถามด้วย“พวกเธอไม่ต้องสงสัย แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ!”มันคือการเตือนสติลูกน้องดี ๆ นี่เอง กวาดตาดุดันไปรอบหนึ่งก็เดินอาด ๆ เข้าห้องทำงานส่วนตัว ในทางกลับกันยิ่งทำให้ดูน่าสงสัยไปกันใหญ่ แต่ใครจะไปง้างปากเขาได้ และยิ่งไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าของพวกเขาก็ไม่ได้รู้รายละเอียดลึก ๆ อะไรเลย จนกว่าจะมีอะไรหลุดออกมาเองนั่นแหละถึงได้รู้ ตอนนี้ในใจก็ได้แต่คาดเดาไปต่าง ๆ นานาหลายคนคิดว่าไม่พูดจากปากดีที่สุด เพราะกลัวว่าเดาไปเดามาจะเข้าถึงหูท่านประธานถูกไล่ออกแล้วมันไม่ค
ทันทีที่หญิงงามสวมแว่นกันแดดอันโตเปิดประตูขึ้นรถที่จอดหลบมุมมาได้ ประธานหนุ่มที่ทำให้หลายคนกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์ที่ดูคล้ายไร้ความรู้สึกเกินไปก็รวบร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน ไม่ต้องรอให้เธอโผกายเข้าหาก่อนอย่างที่ยั่วไว้ ให้เห็นว่าเขาเองก็ทนรอไม่ได้แม้แต่น้อย อยากสัมผัส อยากกอด อยากทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นของเขาเปรมาหัวเราะคิกตอนที่ถูกริมฝีปากร้อนป้อนจูบลงมาอย่างหนักหน่วง นาทีต่อมาเสียงหัวเราะระรื่นก็เจือด้วยเสียงสะอื้นติด ครวญครางเหมือนลูกแมวตอนร้อง บรรยากาศเร่าร้อนไม่แพ้อากาศด้านนอก แว่นตากันแดดทรงเก๋ถูกถอดไปตอนไหนไม่รู้ตัว ดวงตาสองคู่สบประสานมองกันและกันอย่างเสน่หาว่าไปแล้วเปรมากับพฤทธิ์ก็กำลังทำเหมือนคู่รักที่ห่างกันไปนานหลายวัน พอกลับมาเจอกันก็ต้องรีบแสดงความรักอย่างดูดดื่ม และหวานชื่นเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาที่ขาดหายไปอย่างน่าเจ็บใจ และหากจะพูดกันจริง ๆ อีก เวลาที่ได้ใกล้ชิดกันจริงจังแบบสองต่อสองของพวกเขาสองคนนั้นกางนิ้วขึ้นมานับยังเหลือ ๆ แต่ความสัมพันธ์ก็จัดว่าดีมาก เหมือนคุ้นเคยกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว กอดกันได้ จูบกันดีเหมือนปฏิบัติมานาน“เหนื่อยไหมครับ”น้ำเสียงทุ้ม
“ผมเป็นของคุณ คุณเป็นของผมถูกต้องไหม”“อืม” “แต่ไอรีนครับ” “คะ” เธอยังหลงอยู่ในประโยคเมื่อสักครู่อยู่เลยแต่ปากก็ครางรับ“ผมอยากได้ยินคุณแทนตัวเองว่าไอรีน ได้ไหมครับ” “หืม”เปรมาช้อนใบหน้าเรียบเนียนไร้ร่องรอยขึ้น เอียงคอรับสัมผัสบางเบาที่ประทับลงมาบนแก้มอย่างอ่อนโยน พลางจ้องเข้าไปในดวงตาลึกล้ำที่มีเงาของเธอสะท้อนอยู่ในนั้นอย่างชัดเจน ชอบจังเลย ชอบเวลาที่ในสายตาเขามีแค่เธอ รอยยิ้มอ่อนหวานพลันปรากฏขึ้นมาอย่างน่ามอง ความสัมพันธ์ของพวกเธอพัฒนาไปไวมาก นั่นเพราะหัวใจเข้ากันได้ คำว่า ‘ได้ไหมครับ’ มันอ่อนโยนและนุ่มนวลมาก ๆ เขาขอในสิ่งที่ไม่ได้เกินกำลังความสามารถของเธอเลย แล้วมันก็ไม่ใช่การบังคับทำให้ลำบากใจ มันคือการถามความสมัครใจ และพฤทธิ์ยังใจร้อนมากด้วย“ตกลงว่ายังไงครับ?”เปรมาหัวเราะ “ถ้าคุณชอบ ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ” “ผมชอบจริง ๆ นั่นแหละ” เขาไม่ปฏิเสธและคำว่าชอบก็ลอดผ่านริมฝีปากที่ประทับอยู่บนหน้าผากมน“ไอรีนเชื่อค่ะ ไม่งั้นคุณเมฆคงไม่อยากได้ยิน”“มันทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น” เขาอธิบายเพิ่มเติมเปรมาอดไม่ได้ที่จะปล่อยผ่านประโยคนี้ไปเฉย ๆ จึงยิ้มแซว อย่างอารมณ์ดีแม้ว่าจะทำให้ตัวเองต้
รถยนต์คันหรูสีดำปลาบเลขทะเบียนสวยแล่นผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ด้วยระบบคีย์การ์ดเข้ามาแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนทำความเคารพอยู่ด้านนอกป้อมสองคน นั่นคือด่านแรก ผ่านประตูที่สองก็มีเจ้าหน้าที่ แล้วถึงจะหลุดเข้าด้านในจริง ๆ ประตูสองชั้นนิรภัยแน่นหนาเปรมาให้ความสนใจกับสถานที่เป็นพิเศษ ดวงตาคู่งามกวาดมองสองข้างทางของแกรนด์ ไฮแอทอันเลื่องลืออย่างชื่นชม ที่พักอาศัยของคนที่ใช้คำว่า ‘รวย’ อย่างเดียวไม่พอของจริง สถานที่นี้เป็นที่รู้กันดีว่าคนที่จะจับจองเป็นเจ้าของได้นั้นจะต้องเป็นระดับมหาเศรษฐีใหญ่ และเป็นคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง มีเงินแล้วซื้อมันทันทีไม่ได้ มันมีเงื่อนไข ในอินเทอร์เน็ตลองไปสืบค้นกันดูได้เลย ยังไงก็ไม่มีภาพหลุดออกมาให้เห็นเป็นบุญตาเลยว่าด้านในเป็นยังไง จะสวยงามสมราคามากน้อยแค่ไหน จะมีโอกาสได้เห็นเพียงแวบ ๆ แค่ตอนนั่งรถผ่านบนถนนเท่านั้นเองและครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกเลยที่เปรมาได้เข้ามาเยี่ยมชมเช่นกัน มีคนที่เธอรู้จักอาศัยอยู่ในนี้ เป็นระดับผู้บริหารเหมือนกันแต่ไม่ได้ไปมาหาสู่กันมานานแล้ว ตั้งแต่ทางเข้าจนลึกเข้ามาจะเห็นได้ว่าดอกไม้ ต้นไม้ ใบหญ้าอันงดงาม ตลอดจนสิ่งปลูกสร้
ฝ่ามือบางข้างที่ว่างลูบแก้มคนขยัน และทำงานเก่งอย่างอบอุ่น แววตาคู่คมทอประกายอ่อนโยน เป็นแววตาที่เขามีให้เฉพาะคนพิเศษเท่านั้น ซึ่งเธอคือคนนั้น ในละคร หรือในนิยายนางเอกจะต้องคู่กับพระเอกโปรไฟล์เริด ๆ ส่วนพวกนางร้ายถ้าไม่กลับตัวกลับใจเป็นคนดีก็จะมีจุดจบที่ไม่สวยงาม แต่ในชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นไปตามปลายปากกาของใคร นางร้ายอย่างเธอก็มีสิทธิ์เลือกชีวิต และความรักดี ๆ ให้ตัวเองได้ “ไอรีนเชื่อคุณเมฆ 100% เลยค่ะ” “ขอบคุณครับ”แค่บอกว่าเชื่ออย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องบอกว่าเชื่อเต็มร้อย ความจริงอาจจะเกินด้วยซ้ำ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอต้องไม่เชื่อเขานี่นาจริงไหม หญิงสาวบีบกระชับมือใหญ่ก่อนจะปล่อยอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก จับแล้วไม่อยากปล่อยอารมณ์ตอนนี้คือแบบนั้นเลย อยากจับตลอดไปเลย“เดี๋ยวผมเปิดประตูให้”“ค่ะ” ยิ้มรับพลางเอียงแก้มรับรอยจูบที่ประทับลงมาเบา ๆ“เชิญครับ”“ขอบคุณค่ะคุณสามี” สามคำท้ายเธอตั้งใจเรียกเลยล่ะแววตาวูบไหวของประธานหนุ่มแห่งทีเอ็มเคมีความพึงพอใจ วาดแขนโอบเอวคอดกิ่ว ดึงกระเป๋าสะพายใบหรูแบรนด์เดียวกับที่ เปรมาเพิ่งเซ็นสัญญาร่วมงานมาถือไว้ในมือข้างที่ว่าง ก้มหน้าต่ำจนหน้าผากชิดหน้า
ทุก ๆ วันที่คุณแม่คนเดียวถูกคุณพ่อและลูก ๆ มะรุมมะตุ้ม ล้อมหน้าล้อมหลัง เป็นภาพชินตามที่ทุกคนในบ้านคุ้นเคย ต้องแจกจูบ แลกหอมกันจนพอใจ ถึงแยกย้าย คุณพ่อไปทำงานแบบไม่ค่อยเต็มใจ เด็ก ๆ เดินตามกันไปเล่น แต่ต้องอยู่ในรัศมีที่มองเห็นคุณแม่เท่านั้น ไม่อย่างนั้นอย่าได้ถามหาความสงบสุข ช่วงกลางวัน บางวันเด็ก ๆ ก็จะไปหาคุณพ่อที่บริษัทและอยู่ยาวจนถึงเวลาเลิกงาน ที่ห้องทำงานท่านประธานใครเข้าไปจะเห็นเลยว่ามีอุปกรณ์เด็กเพิ่มมาเยอะเลยพนักงานไม่ได้สิทธิ์ในการเลี้ยงบุตรหลานในที่ทำงานแต่ใครให้เขาเป็นประธานล่ะ จะเอาลูกมาเลี้ยง มาเล่น มานอนกลางวันที่บริษัทตัวเองยังไงก็ได้ วันไหนพาลูกมาลำพังไร้เงาคุณผู้หญิงก็รู้ได้เลยว่าวันนั้นภรรยาท่านประธานติดธุระ ออกไปพบปะ คนที่รับบทผู้ช่วยก็คือคุณเลขาฯ ไม่ใช่พี่เลี้ยงที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ที่บ้าน “คูมพ่อขา เอลล่าจาดูตูนเจ้าหญิงค่ะ”“คีนจะเล่นรถ”“ป้อ!”เปรมามองภาพความอลหม่านแล้วยิ้มหวาน ประกายความสุขอาบไร้บนใบหน้า มีคนเคยถามเธอว่าตัดสินใจมีลูกเร็วไม่คิดว่าจะเสียโอกาสในสายงานที่กำลังไปได้ดีเหรอ โอกาสดี ๆ ไม่ได้มีเข้ามาบ่อย ๆ หรอกนะคำตอบของเธอคือไม่ตั้งแต่แรกการมีลูกไม่ไ
5 ปีต่อมาเปรมาแต่งงานกับพฤทธิ์มาแล้ว 5 ปี มีพยานรักที่น่ารักน่าชังแล้วถึง 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 วัยกำลังซุกซน คนโตเป็นผู้ชายชื่อน้องคีน คนที่สองชื่อน้องเอลล่า และคนเล็กชื่อน้องเคิร์ท ไม่ต้องพูดเรื่องความรักที่มอบให้กับเด็ก ๆ ทั้งสองครอบครัวรักใคร่และตามใจหลานกันสุด ๆ วันนี้ทั้งครอบครัวได้รับเชิญให้ไปงานประกาศรางวัลประจำปี และมารดาของเด็ก ๆ ที่น่ารักก็กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ในห้องนั่งเล่นกับช่างแต่งหน้ารู้ใจทีมเดิม หน้าที่รับผิดชอบลูก ๆ จึงตกเป็นของคุณพ่อที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัวอาบน้ำ ป้อนข้าว เปลี่ยนแพมเพิร์ส ท่านหนุ่มประธานวัย 35 ปี ทำได้คล่องมากมีพี่เลี้ยงมาคอยช่วยดูแลแต่อะไรที่ทำเองได้ก็อยากทำด้วยตัวเองอยู่ดี เปรมาเองก็เหมือนกัน เพื่อลูกเธอทำได้ทุกอย่างแม้ว่าเรื่องนั้นจะไม่ถนัดเลย เป็นต้นว่าการทำอาหารเธอก็ฝึกจากเมนูง่าย ๆอัพเลเวลทำให้สามีทานได้มากกว่าการต้มบะหมี่ และทอดไข่ได้แล้วชมเปาะว่าเมียทำอร่อย เอาใจเก่งไม่เปลี่ยน แต่ยังไงก็ตามหน้าที่ทำอาหารก็ยังเป็นของสามีอยู่ดีและตั้งแต่มีลูกเปรมาก็ไม่ค่อยได้รับงานละครเท่าไร ล่าสุดเพิ่งรับไปหนึ่งเรื่อง เป็นซีรีส์วัยรุ่น เธอเน้นไปที่กา
สีหน้าถมึงทึงของพ่อเลี้ยงบดินทร์บ่งบอกถึงอารมณ์คุกรุ่นรุนแรงของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่เดินเข้าไปบีบคอหญิงชั่วให้ตายคามือก็ดีเท่าไรแล้ว การกลับมาเจอกันครั้งนี้ไม่มีความหลังครั้งเก่าให้คิดถึง มีแต่ความแค้นสุมอกที่ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายลูกสาวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเท่านั้นเลย“เธอคิดว่าฉันตายห่าไปแล้วหรือไงจันทร์แรม” เสียงตะคอกนี้ไม่ต้องกลัวเลยว่าลูกค้าที่มาใช้บริการจะตกใจจนขวัญหนีกระเจิง ตอนนี้แม้แต่ลูกจ้างทั้งหมดก็ไม่อยู่ในร้าน ลูกเขยเขาปิดร้านให้เป็นส่วนตัวแล้วตอนที่พฤทธิ์โทร. มาเล่าให้ฟังว่าหญิงชั่วคนนี้พยายามหาทางเข้าหาลูกสาวของเขาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองพ่อเลี้ยงบดินทร์ก็ของขึ้นทันที และบอกเสียงดังฟังชัดว่าจะจัดการปัญหาน่ารำคาญนี้ด้วยตนเอง ลูกเขยไม่ต้องยุ่ง ให้พาลูกสาวเขาไปล่องเรืออยู่ในทะเลอย่างสบายใจได้เลย“ไม่ค่ะพ่อเลี้ยง” ปากคอจันทร์แรมสั่น“ไม่อะไร เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นแม่จริง ๆ ของไอรีนอีกเหรอ เธอคิดจะเรียกร้องอะไรจากลูกสาวของฉันอีกห๊ะ! ที่ฉันยอมให้ลูกฉันเรียกเธอว่าแม่ไม่ได้หมายความว่าฉันยอมรับสถานะนั้นของเธอนะ เธอควรรู้ไว้ว่าทุกครั้งที่ฉันคิดว่าไอรีนเรียกเธอว่าแม่ฉันแค้นจะแย่ เพรา
จันทร์แรมหาทางมาเจอลูกสาวคนแรกอยู่หลายวัน แต่ทุกครั้งล้วนล้มเหลว ขอเข้าพบว่าที่ลูกเขยก็เข้าถึงไม่ได้ ทว่าเมื่อคืนก่อนนอนได้รับการติดต่อมาจากผู้จัดการของเปรมา นัดให้ออกมาเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเธอรีบตอบตกลงทันที เรื่องราวของลูก ๆ ที่เฝ้าเลี้ยงดูฟูมฟักเป็นอย่างดีกัดกินความคิดของเธอจนทำให้ดูอ่อนล้ากว่าหลายปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดเปรมมิกาตั้งแต่แต่งงานเข้าบ้านสามีไปวัน ๆ ก็มีแต่เรื่องชวนให้ปวดหัว บีบหัวใจ แม่ผัวตัวร้ายกับสามีไม่เอาไหนนึกถึงแล้วก็แค้นแทนลูก พอรู้ว่าจะได้เจอเปรมาในเที่ยงวันนี้อารมณ์ขุ่นมัวก็ดีขึ้นมาก ตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ช่วยลูกสาวคนโปรด ถ้ามีลูกเขยคนโตหนุนหลัง ครอบครัวลูกชายคนเล็กคงไม่กล้ารังแกคนของเธออีก เรื่องนี้จะต้องหาวิธีพูดให้ได้ หมายมั่นมาตั้งแต่ที่เริ่มคิดเข้าหาลูกสาวคนโตแล้ว ต่อให้อดีตจะโกรธเกลียดน้องยังไง ตอนนี้ตัวเองก็ไปได้ดีแล้วยังต้องสนใจเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วอีกเหรอ คนในครอบครัวไม่ช่วยกันเองแล้วจะรอให้ใครช่วย“เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าลูกสาวเธอคนนั้นจะญาติดีด้วย”“ยังไงจันทร์ก็คือแม่”จันทร์แรมพูดเรียบ ๆ ไม่สนใจสามีที่เริ่มมีโรคภัยรุมเร้า และแก่ชราลงอย่างรวด
ออกจากบริษัทแล้วพฤทธิ์ก็พาภรรยาไปย่านขายอาหารริมทางผู้คนพลุกพล่านไม่น้อย จำนวนร้านที่ออกมาตั้งขายก็เยอะ การหาที่จอดรถเหมือนจะยากแต่โชคดีที่มีรถออกพอดีเขาเลยจอดแทนที่จูงมือพากันเดินลงมาแบบเปิดเผย ไม่ปิดบังใบหน้า มีคนเห็นพวกเขาแล้ว และไม่พลาดที่จะยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ กล้าหน่อยก็เรียกชื่อ ชมต่อหน้า“ไอรีน”“ตัวจริงสวยจังเลยค่ะ”“พี่เป็นแฟนคลับน้องนะคะ”“คืนนี้ต้องหลับฝันดีแน่ ๆ เจอนางฟ้าก่อนนอน”“ไม่นึกไม่ฝันว่าการพาเมียออกมากินส้มตำจะเจอคนสวย”เปรมาไม่หยิ่ง ไม่ถือตัวเลย เธอยิ้มให้ทุกคนที่ทัก พ่อค้าแม่ค้าก็เรียกจะให้ของกินแต่เธอไม่รับบอกว่าของซื้อของขาย ให้ฟรี ๆ ไม่ได้ หาอะไรทานเสร็จแล้วจะแวะอุดหนุนก่อนกลับ คนข้างกายจะเฉยชาก็ไม่มีใครถือสา เพราะไม่ใช่ไม่มีใครรู้ว่าเขามีบุคลิกแบบนี้มาตั้งแต่เกิด แถมยังได้รับเสียงชื่นชมไปอีกต่างหาก หล่อเหมือนเพราะเอกเกาหลี เรื่องนี้เห็นด้วยอย่างแรง แต่มีใจเอนเอียง คนของเธอหล่อกว่าแต่พูดไปไม่ได้เดี๋ยวถูกหมั่นไส้ ได้แต่ชมกันเอง“สำหรับไอรีนคุณหล่อกว่าใครเลยค่ะ”“คุณก็สวยที่สุดสำหรับผมเหมือนกัน”เอาเป็นว่าที่สุดของคนอื่นเป็นยังไงไม่รู้ แต่ที่สุดของคู่ร
เปรมายิ้มหวานออก และมันก็สดใสราวกับว่าโลกกลม ๆ ใบนี้ไม่มีความหม่นหมองที่ทำให้คนกุมขมับทุกข์ใจได้ “ไม่มีอะไรต้องเถียงเลยค่ะ สิ่งที่คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว ไอรีนรักคุณ ไม่อยากพูดถึงแต่ก็อยากพูดให้คุณเข้าใจ คุณเป็นผู้ชายคนแรกในฐานะคนรักที่ไอรีนรักนะคะเมฆ” “พูดด้วยสิครับว่าจะเป็นคนสุดท้ายด้วย” เขางับจมูกเธอเบา ๆคนถูกเรียกร้องให้รับปากหัวเราะน่ารัก คำว่าตลอดไปฟังดูยาวนานเหลือเกิน แต่กาลเวลามันหมุนไปเร็วกว่าที่คิด ดังนั้นหากทำอะไรแล้วมีความสุขก็ควรทำเลย ยังจะต้องลังเลอีกทำไม เปรมายืดตัว พลางเอี้ยวหน้าจูบปากสุดที่รักของเธอแรง ๆ “ตามที่คุณต้องการเลยค่ะที่รักขา คุณคือรักแรกรักเดียวตลอดไปของไอรีนแต่ถ้าคุณเกเรเมื่อไรไอรีนจะเอาความรักกลับคืน” ขู่ไว้ก่อนแต่เชื่อว่าวันนั้นไม่มีทางมาถึงเพราะผู้ชายของเธอมั่นคงจะตาย “ไม่มีทาง ไม่มีทางที่คุณจะเอาหัวใจและความรักที่มอบให้ผมแล้วกลับไปได้หรอกที่รัก” น้ำคำหนักแน่นดุจหินผา เหมือนใจที่สลักไว้แล้วว่าจะเป็นของเปรมาแค่คนเดียว ความรู้สึกนี้ต่อให้ผ่านไปอีกกี่สิบปีก็ยังคงเหมือนเดิม “ผมรักคุณนะครับไอรีน และจะรักมั่นคงตลอดไป เชื่อผมนะ”“เชื่อค่ะ ไอรีนเชื่อคุณ” เหมือน
คนที่รอลุ้นว่าเปรมาจะมาปรากฏตัวที่งานแต่งของอดีตคู่หมั้นกับน้องสาวต่างมารดาที่หักหลังเธออย่างเลือดเย็นต่างต้องพบกับ ความผิดหวังกันเป็นแถว เพราะนางร้ายสาวสุดฮอตไม่มา ทว่าเวลาผ่านไปเธอก็ไม่พลาดที่จะแสดงความยินดีผ่านช่องทางของตนเองว่าให้รักกันอย่างชื่นมื่นให้สมกับความพยายามที่จะรักกันในวันที่มืดมน วันนี้ไม่ต้องปกปิดใครแล้วก็เอาให้เต็มที่ แสดงความรักออกมาให้ทุกคนได้เห็น และยังปิดท้ายแบบแสบ ๆ คัน ๆ ตามสไตล์เมื่อต้องพาดพิงไปถึงคู่รักสุดยี้“อย่าทำให้ผิดหวัง ทุกคนรอดูอยู่”อ่านแล้วชาวเน็ตก็ตีความไปต่าง ๆ นานา[ใช่ ๆ เพราะพวกเรารอเหยียบซ้ำอยู่][อารมณ์เหมือนอวยพร แต่ฉันอ่านแล้วไม่คิดงั้นนะ][ติ่งยัยไอด้าหายไปไหนกันแล้วอะ เงียบกริบมานานแล้วนะ][ฉันก็จะรอดูไปพร้อมเธอไอรีน][ฉันจำได้ว่าตอนนั้นนางกับแม่นางปฏิเสธหัวชนฝาว่าไม่จริง เป็นเรื่องใส่ร้ายป้ายสี พอไม่กี่วันก็ควงแขนออกงาน แล้วมาโป๊ะว่าท้องไปอีก มาวันนี้ถึงขั้นจัดงานแต่งแล้ว พวกแก หน้าพวกนางต้องด้านขนาดไหนอะ][งานแต่งอลังการ เชิญแขกไปเป็นพยานขนาดนั้นแต่ทำไมดูหน้าบ่าวสาวเหมือนพวกถูกบังคับให้แต่งงั้นอะ หรือว่าความรักครั้งนี้มันไม่หวานแหววเหมือ
สิ่งที่จันทร์แรมกับเปรมมิกาอยากให้เกิดขึ้นถึงขนาดยอมทำเรื่องไร้ยางอายจนคนวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งเมือง ปัจจุบันพวกเธอได้ สมดั่งใจหมายแล้ว ทว่าน่าแปลกใจที่รอยยิ้มบนใบหน้าดันจืดจาง แข็งเกร็งเหมือนคนถูกบังคับให้กินยาขมก่อนออกมาพบเจอคนมากมายงานวิวาห์ที่เป็นที่โจษจันกันทั้งประเทศได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการภายในระยะเวลาอันแสนสั้น หากเทียบกับสถานะทางสังคมของครอบครัวณัฐดนัย ที่แม้ว่าระยะหลังจะเสื่อมโทรมลงไปมากเพราะการกระทำอันน่ารังเกียจ แต่ก็ยังนับได้ว่าเป็นตระกูลที่ยังพอมีหน้ามีตาอยู่บ้าง ร่อนการ์ดมงคลเชิญใครไปน้อยคนนักที่จะเมินเฉย อีกนัยหนึ่งก็คิดได้ว่ามาเพราะต้องการมาดูความคักคักที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดหากไม่มีข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ออกมาประจานงานวิวาห์งานนี้ก็กล่าวได้ว่าไร้ที่ติ แต่อย่าได้ถามหาว่ามีใครอิจฉาไหม ให้ถามหาว่าใครไม่นินทาดีกว่า ความชื่นมื่นที่ถูกเซ็ต จัดฉากขึ้นมาลวงหลอกสายตาประชาชน หน้าตายิ้มแย้มของเจนภพกับบุษบาขัดแย้งกับสถานการณ์ภายในอันร้อนระอุอย่างสิ้นเชิงทั้งสองครอบครัวไม่ปรองดองสมานฉันท์กันเหมือนที่ถ่ายภาพร่วมเฟลมกันแบบจำใจไม่พอ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวคนสำคัญของงานยังทำท่าไม่ยิ
“ไอรีนขอโทษนะคะที่ทำให้คุณต้องรอ” เปรมาทำหน้ารู้สึกผิด เคลียจมูกกับจมูกโด่งคม แป๊บเดียวเท่านั้นก็มีสีหน้าภูมิใจ “แต่ถ้าคนไม่มีอคติกับไอรีนก็ย่อมต้องมองออกเหมือนคนส่วนใหญ่ว่าตำแหน่งในใจของไอรีนสำคัญกับคุณมาก เพราะฉะนั้นตำแหน่งภรรยาของคุณไม่มีทางรอดมือไอรีนไปได้หรอกจริงไหมคะ” ท่าทางมั่นใจนี้เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนโชคดีที่ได้เธอเป็นภรรยาที่ไม่ได้มีดีแค่สวยงามเพียงอย่างเดียว“จริงครับ ไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้แล้ว มีแค่คุณเท่านั้นที่จะได้ตำแหน่งนี้ไป และผมคิดว่าสวรรค์คงทนเห็นผมใช้ชีวิตโสดไม่ได้เลยมอบคุณให้ผม” เขาจูบปากเล็ก ๆ ที่กำลังยิ้มแฉ่งเหมือนดอกไม้บานสะพรั่ง “ถ้าไม่มีคุณผมคงไม่มีความสุขเท่านี้เหมือนทุกวันนี้ ขอบคุณนะครับ”“ไอรีนก็เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่มีคุณไอรีนคงไม่มีความสุขเท่านี้”ราว ๆ เที่ยงคืน ภาพแหวนเพชรเม็ดงามล้อแสงไฟบนนิ้วนางข้างซ้ายของเปรมาที่ลงโดยประธานทีเอ็มเคก็ปรากฏขึ้นใน IG ส่วนตัวพร้อมแคปชันที่เรียกเสียงฮือฮาเหมือนเคย ตั้งแต่เปิดตัวว่ามีแฟนสาวเขาก็ขยันลงรูปอวดแฟนถี่ ๆ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่อวดธรรมดาแล้ว ถูกใจโดย ireneprema และอีก 1,675,100 คนpharitjira ผมกำลังจะแต่งงานครับ