แชร์

บทที่ 82

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
เธอมองมาที่ฉันก่อนที่ตาของเธอจะเบิกกว้างขึ้น “มีบางอย่างเปลี่ยนไป”

“เธอหมายความว่าอย่างไร?” ฉันถามโดยพยายามซ่อนรอยยิ้มของฉัน

“มีบางอย่างที่เปลี่ยนไปในตัวคุณ พอฉันมองดี ๆ แล้ว… มันคืออะไร? มีอะไรเปลี่ยนไปเหรอ?”

“ฉันไม่รู้ อาจเป็นเพราะว่าฉันเบื่อที่จะใช้ชีวิตอย่างขมขื่น หรืออาจเป็นเพราะฉันมีเซ็กส์กับอีธาน…” ฉันเกาคางตัวเองพลางครุ่นคิด “เพราะเซ็กส์แน่ ๆ เลย”

“อะไรนะ?!” เธอร้องตะโกนและทำให้บางคนหันมาหาเรา

ฉันหัวเราะกับท่าทางตลก ๆ ของเธอ

“เธอมีเซ็กส์กับอีธานเหรอ?” เธอพูดซ้ำราวกับว่าเธอไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันบอกเธอ

“ใช่” ฉันยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อนึกถึงเรื่องนั้น “จริง ๆ แล้วหลายครั้งเลย”

“หลายครั้งในคืนเดียวหรือหลายคืน?”

ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ฉันหมายถึงหลายครั้งในคืนเดียวติดต่อกันหลายคืน”

เธออ้าปากค้างก่อนที่ปากเธอจะหยักยิ้มและยิ้มให้ฉันเหมือนคนโง่

“ไม่เบาเลยนะ! ถ้าการที่มีเซ็กส์กับเขาทำให้ยิ้มหน้าบานแบบนี้ก็ทำต่อไปเถอะที่รัก คุณสมควรที่จะมี

เซ็กส์ที่ดีและมีความสุข”

นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ฉันรักเล็ตตี้ เธอไม่ตัดสินใครและสนับสนุนฉันมาก

ฉันโอบแขนเธอและกอดเธอ “ขอบคุณนะเล็ตตี้ที่เป็นตัวขอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 83

    เขายังบอกฉันด้วยว่าอย่าประมาท เขาบอกว่าแค่เพราะว่าผู้ชายคนนั้นตายแล้วไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอันตรายอีกต่อไป“แมรู้ลูกรัก มันเป็นงานปาร์ตี้ที่ยอดเยี่ยมมาก ไว้แม่จะส่งรูปให้ดูนะจ๊ะ” ฉันหยุดชะงัก “เพื่อน ๆ ของลูกฝากความคิดถึงถึงลูกด้วยนะ”เรามักจะไปที่บ้านมูลนิธิกับโนอาทุกวันเสาร์ เขาเข้ากับเด็ก ๆ ที่นั่นได้ดีแม้แต่เด็กโต พวกเขาทุกคนรักโนอาและถึงกับถามหาเขาในวันนี้ด้วย“พี่คิงส์ตันอยู่ที่นั่นไหมครับ?” เขาถามด้วยความตื่นเต้น“อยู่จ้ะ เขา... แม่ให้เบอร์โทรคุณยายกับเขาแล้ว เขาบอกว่าจะโทรหาลูกเร็ว ๆ นี้”คาเลบและโนอามีความสัมพันธ์กันแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน คาเลบมองโนอาเป็นน้องชายของเขา และโนอาก็มองเขาเป็นพี่ชาย แม้ว่าพวกเขาจะมีอายุห่างกันมาก แต่พวกเขาก็สนิทกันมาก ทั้งสองคนสามารถคุยกันได้เป็นชั่วโมง“เย้” เขาตะโกนผ่านโทรศัพท์ “ผมคิดถึงเขามากเลย”“เขาก็คิดถึงลูกเช่นกันครับ” ฉันยิ้มแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นก็ตาม“โอเคครับแม่ ได้เวลานอนแล้ว… ผมแค่อยากได้ยินเสียงแม่ก่อนนอน” เขาบอกฉันอย่างอ่อนหวาน และหัวใจของฉันก็อบอุ่นขึ้นตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว เด็ก ๆ กลับไปที่บ้านโฮปแล้วเมื่อสองสามชั

  • ธุลีใจ   บทที่ 84

    โรแวนผมมองตามเอมม่าที่ขอตัวและยืนขึ้น ผมคงไม่สนใจเธอหรอกถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอเดินออกไปหลังจากเอวาไม่กี่นาทีสัญชาตญาณบอกผมให้ตามเธอไป ผมยังไม่ลืมสิ่งที่เอวาพูดกับผมถึงเอมม่า มันทำให้ผมคิดมากและผมต้องการคำตอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เอมม่าทำตัวแบบนั้นความตื่นเต้นที่เธอมีต่อการมาที่นี่ตอนนี้หายไปแล้ว ผมพนันด้วยบริษัทของผมได้เลยว่านั่นคงเป็นเพราะได้รู้ว่างานนี้ถูกจัดโดยเอวา เอวาไม่ใช่คนขี้แพ้อย่างที่เธอคิดคนอื่น ๆ ไม่มีปัญหาอะไรยกเว้นเธอ เกเบรียลยังชวนผู้หญิงสองสามคนเต้นรำด้วยกัน ส่วนทราวิสแม้ว่าจะมองเล็ตตี้ด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย แต่เขาก็ดูสบายดีที่อยู่ที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เล็ตตี้กลับมาร่วมโต๊ะกับเราผมค่อย ๆ ลุกขึ้น ผมไม่ได้พูดอะไรแม้ว่าคนอื่น ๆ จะมองผมด้วยสายตาแปลก ๆ ก็ตามผมเดินออกไปและพบว่าเอวาและเอมม่ายืนเผชิญหน้ากันอยู่พวกเธอมุ่งความสนใจไปที่กันและกันมากจนผมไม่คิดว่าพวกเธอจะสังเกตเห็นผม“เธอคิดว่าแค่เพราะเธอเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิโฮปเธอก็จะเป็นคนสำคัญแล้วงั้นเหรอ?” เอมม่าถามเอวาผมได้ยินเอวาถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า “ฉันไม่มีเวลาหรือพลังที่จะคุยกับเธอเอมม่า

  • ธุลีใจ   บทที่ 85

    “เขาจะไม่มีวันรู้หรอก เธอรู้ไหมว่าทำไม? เพราะเขาจะเชื่อทุกอย่างที่ฉันบอกเขา เพราะเขาไว้ใจฉันมาก”“ความไว้วางใจที่เธอทำลายไปนับครั้งไม่ถ้วน” เอวาถอนหายใจ “ตอนนี้โรแวนเป็นคนที่ฉันชอบน้อยที่สุด และฉันยินดีที่จะผลักเขาลงจากหน้าผาสำหรับสิ่งที่เขาทำกับฉัน แต่เขาไม่สมควรที่จะต้องถูกผู้หญิงที่เขารักหักหลัง ผู้หญิงที่เขารักอย่างซื่อสัตย์มาหลายปี มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา”เมื่อพูดจบ เธอก็เดินจากเอมม่าอีกครั้ง แต่เอมม่าก็คว้ามือเธอไว้อีกครั้ง“ปล่อยฉัน ไม่งั้นฉันจะให้ลูกน้องของฉันไล่เธอออกไปเหมือนที่ฉันทำกับคริสตินและเบรนดา” เอวาเตือนด้วยน้ำเสียงที่อันตรายผมก้าวออกมาจากเงามืด ถึงเวลาที่เอมม่ากับผมจะได้คุยกันสักหน่อยแล้ว“ไม่จำเป็น ผมสัญญาว่าจะจัดการกับเธอเอง”ทั้งคู่หันมาหาผม เอวาหลุดจากการเกาะกุมของเอมม่าและจากไปโดยไม่หันมามองเราแม้แต่น้อย เอมม่าตัวแข็งทื่อและดูเหมือนกวางที่ถูกไฟหน้ารถส่อง“คุณยืนอยู่ตรงนั่นมานานแค่ไหนแล้ว?” เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“นานพอที่จะรู้ว่าคุณโกหก” ผมขู่อย่างโกรธจัด “ผมอยากให้คุณบอกความจริงกับผมเดี่ยวนี้ ถ้าคุณกล้าโกหกผมนะเอมม่า ผมสาบานเลยว่าคุณจะต้องไม่ชอบผ

  • ธุลีใจ   บทที่ 86

    เอวาวันนี้เป็นวันเสาร์ หลังจากงานปาร์ตี้นั้นหนึ่งวัน แม้เมื่อวานนี้จะวุ่นวายแต่ฉันกลับรู้สึกมีความสุขไม่น้อยเลยที่มันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีฉันลุกออกจากเตียงและเดินไปยังห้องน้ำเพื่อทำกิจวัตรประจำวัน แม้อีธานจะเดินทางกลับมาที่บ้านฉันพร้อม กันแต่เขาก็ไม่ได้นอนค้าง วันนี้เขาจำเป็นต้องตื่นแต่เช้าตรู่ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการขัดจังหวะการนอนของฉันเมื่อเขาต้องตื่นและออกไปฉันแปรงฟันไปพลางคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ทั้งหมดตอนที่เอมม่ามาไล่ต้อนฉันนั้น ฉันก็เตรียมพร้อมสำหรับการปะทะไว้แล้ว ฉันรู้ได้เมื่อโรแวนเดินมาและพบว่าฉันและเอมม่าประจันหน้ากันอยู่ฉันรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ฉันสัมผัสได้ถึงการมาของเขา แต่เอมม่ากลับไม่รู้สึกเลย ฉันต้องการจะเอาคืนสำหรับทุกสิ่งเรื่องโกหกที่เอมม่าพ่นออกมา ฉันต้องการให้โรแวนเห็นว่าคนที่เขารักหัวปักหัวปำเป็นผู้หญิงแบบไหน ที่ฉันพูดกับเธอไปทุกคำนั้นล้วนออกมาจากใจและนี่เป็นเวลาที่เขาจะได้ตาสว่างสักทีทุกคนต่างพากันเชิดชูเอมม่าไว้เหนือหัว คิดเสมอว่าเธอนั้นไร้ที่ติและเธอไม่มีวันทำเรื่องเลวทรามอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็เป็นความจริงสำหรับเด็กสาวที่เธอเคยเป็นในอดีต แ

  • ธุลีใจ   บทที่ 87

    เมื่อเข้าใกล้ตัวบ้าน ต้นไม้เรียงรายเป็นแถวตลอดทางที่ขับรถเข้าไปจะรอต้อนรับคุณอยู่ ซึ่งนำทางไปยังทางเข้าอันแสนดึงดูดสายตาซึ่งมีประตูกระจกบานใหญ่อยู่ตรงหน้า พร้อมทั้งไม้ประดับน้อยใหญ่เรียงรายเมื่อคุณเดินเข้าไปภายใน คุณจะพบกับห้องโถงอันโอ่อ่า ด้านบนเป็นฝ้าเพดานสูงและโคมระย้าสุดตระการตาระยิบระยับราวประดับประดาด้วยเพชรนับพันภายในบ้านตกแต่งตามสไตล์ที่ผสมผสานความสวยงามและเอื้อต่อการใช้สอยเข้าด้วยกัน ห้องนั่งเล่นมีแสงธรรมชาติสาดส่องอย่างทั่วถึง และประดับด้วยโซฟ3าหรูหราแสนสบาย จัดวางในรูปแบบที่ให้ความรู้สึกไม่อึดอัดเลยห้องครัวเป็นดั่งฝันของพ่อครัวหลายคน มีเครื่องครัวพร้อมใช้ เคาน์เตอร์ทำอาหารทำจากหินอ่อนและโต๊ะนั่งรับประทานอาหารขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้ทรงสูงบ้านโฮปมีห้องนอนซึ่งมีพื้นที่กว้างอยู่หลายห้อง แต่ละห้องตกแต่งได้อย่างมีเอกลักษณ์ซึ่งเป็นไปตามความชื่นชอบของเด็ก ๆ จุดนี้เองจึงทำให้แต่ละคนรู้สึกเหมือนมีพื้นที่เป็นของตนเองและรู้สึกสบายใจนอกจากนี้ยังมีพื้นที่สันทนาการด้วยเช่นกัน อย่างห้องเล่นเกม โรงหนังภายในบ้าน ห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำในร่ม รวมถึงสนามเด็กเล่นที่มีชิงช้าและส

  • ธุลีใจ   บทที่ 88

    “นี่ล้อเล่นกันใช่ไหม?” ฉันเอ่ยถามแมรี่ โดยหวังว่าเธอเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้นเธอส่ายหน้าปฏิเสธอย่างโศกเศร้าก่อนยื่นโทรศัพท์ของเธอมาให้“บ้านเอวา ชาร์ปไฟโหมจนวอด หลังเปิดเผยตัวตนว่าเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิโฮป”ฉันอ่านพาดหัวข่าวนั้นซ้ำไปซ้ำมาโดยหวังว่านี่คงเป็นเพียงการอำกันเล่น ฉันกลับคาดหวังผิดไปเมื่อเลื่อนลงมาพบวิดีโอที่แสดงว่าบ้านกำลังไฟลุกอยู่ยิ่งฉันไม่ยอมรับมากเท่าไร ก็ยิ่งไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เลยว่าบ้านของฉันกำลังไฟไหม้จริง ๆหัวใจฉันตกไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยพลัน ฉันวางโทรศัพท์ของแมรี่ลงและดีดร่างกายลุกขึ้น ทุกการเคลื่อนไหวสั่นสะท้านขณะรีบร้อนออกจากห้องทำงาน“เอวา เดี๋ยวก่อน” เธอร้องเรียกฉันแต่เสียงนั้นกลับส่งมาไม่ถืงโสตประสาทฉันใบหน้าของเด็กน้อยตรงนั้นกลายเป็นภาพเลือนลาง ขณะฉันเคลื่อนไหวโดยไวขนาดเสือชีตาร์ยังอาย หัวสมองฉันว่างเปล่าขณะพุ่งตัวออกไปข้างนอกฉันเดินขึ้นไปบนรถและรีบขับออกจากที่จอด นั่นเป็นเวลาเดียวกับที่แมรี่พุ่งตัวมาที่ประตู เธอโบกมือราวกับจะให้ฉันหยุดรถ ฉันไม่สนใจเธอและรีบขับรถออกไปสติของฉันมันยุ่งเหยิงไปหมด ความโกรธและความกังวลกลืนกินฉันหรือว่าฉันลืมปิดเตาและนั

  • ธุลีใจ   บทที่ 89

    “แล้วรถคุณเล่า?” ฉันเอ่ยถามพลางติดเครื่องยนต์ฉันรู้ว่าเขาต้องขับรถมาเองหรือไม่คงเป็นคนขับรถขับมาส่ง คนอย่างโรแวนไม่มีทางเรียกรถรับจ้างมารับอย่างแน่นอน “เดี๋ยวเดนนิสขับรถผมกลับบ้านเอง…ผมโทรเรียกเขามาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ” เขากล่าวเป็นเวลาเดียวกับที่ฉันถอยรถและขับออกไป“บ้าน…ฉันไม่มีอีกแล้ว” ฉันกระซิบเสียงเบาด้วยความเศร้า“เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” “คิดงั้นหรือ?” ฉันเอ่ยถามด้วยความเศร้าด้วยเหตุผลบางประการ ฉันรู้ว่าไม่มีอะไรดีขึ้นทั้งนั้น มันกลับจะยิ่งแย่ลงไปเรื่อย ๆฉันหยิบโทรศัพท์ออกพร้อมกดโทรไปหานายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เขารับสายตั้งแต่เสียงดังครั้งแรก“ผมเสียใจด้วยจริง ๆ นะครับคุณเอวา ผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับบ้านของคุณหมดแล้ว” เขาเอ่ยด้วยโทนเสียงที่แตกต่างจากเคย“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันหยุดเพียงครู่ “บอกฉันหน่อยได้ไหมคะว่าคุณเตรียมอะไรไว้ให้ฉันบ้าง อะไรก็ได้ค่ะ เพราะตอนนี้ฉันไม่มีบ้านให้อยู่แล้ว”ฉันไม่ใช่คนที่ชอบนอนค้างอ้างแรมในโรงแรมเสียเท่าไรนัก ยิ่งในเวลาเช่นนี้ด้วย ฉันไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรหากเขาตอบกลับมาว่าไม่มีบ้านหลังไหนเหลืออยู่เลย“มีครับ มีอยู่หลังหนึ่ง มันเหมาะกับคุ

  • ธุลีใจ   บทที่ 90

    “แล้วตอนนี้ทุกอย่างก็ดำเนินมามากกว่าห้าปีแล้วใช่ไหม?” เขาเอ่ยถามเสียงเบา“ใช่…ตอนที่ฉันได้เงินล้านก้อนแรก ฉันอยากจะบอกคุณใจจะขาด อยากให้คุณภูมิใจในตัวฉัน อยากให้รู้ไว้ว่าฉันไม่ใช่คนขี้แพ้พวกนั้น” ฉันรู้สึกเหมือนย้อนไปในวันนั้น “ฉันจำได้ว่ารอคุณกลับถึงบ้าน แต่คุณก็ไม่ได้กลับมาบ้าน ฉันจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้จนเช้า แต่ฉันก็อยากจะบอกคุณอยู่ดี ตอนที่เห็นคุณอยู๋ในครัววันต่อมา ฉันจึงเดินเข้าไปนั่งข้างคุณ แล้วบอกว่าฉันมีเรื่องจะบอก”ฉันหยุดไปครู่หนึ่งและสูดลมหายใจเข้าลึก ความทรงจำนั้นฝังลึกในสมองฉัน“แทนที่คุณจะตั้งใจฟังฉัน คุณกลับหันหน้ามาแล้วทำสายตาเย็นชาใส่ แล้วก็บอกว่าไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ฉันจะพูด บอกว่าไม่ได้สนใจชีวิตฉันหรือว่าฉันจะทำอะไร คุณยังใจร้ายบอกอีกว่าฉันจะไปตายที่ไหนก็ไป ไม่ว่าจะไปที่ไหนคุณก็ไม่ได้สนใจทั้งนั้น แทนที่จะมานั่งเสียเวลาตรงนี้แล้วทำให้ช่วงเวลาตอนเช้าของคุณเสียเปล่าไป ทำไมออกไปกวนคนอื่นแทนเล่า”ความเงียบสงัดที่ก่อตัวขึ้นในรถคันนี้ช่างหนักอึ้ง ฉันเหลือบเห็นลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลงขณะกลืนน้ำลาย“เอวา…” เขาเริ่มพูดออกมา กระนั้นฉันขัดจังหวะเขาเสียก่อน “ดังนั้นฉ

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 462

    เรียกฉันว่าคนขี้ขลาดก็ได้ ฉันไม่สน แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรเมื่อฉันไปถึงห้องนั่งเล่น ฉันโทรสั่งอาหารเช้าให้มาส่งที่ห้องของเรา ก่อนจะนั่งลงรอฉันรู้ว่านี่จะเป็นหายนะตั้งแต่ตอนที่เกเบรียลบอกว่าเราจะใช้ห้องร่วมกัน ฉันคิดว่าหมอนจะช่วยได้ แต่ฉันแค่หลอกตัวเอง มันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันก็เดินไปเปิด"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณผู้หญิง" พนักงานเสิร์ฟทักทาย พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า"อรุณสวัสดิ์ค่ะ""ให้ดิฉันวางตรงไหนดีคะ?" เธอถามขณะที่ฉันหลีกทางให้เธอเข้ามา"บนโต๊ะอาหารก็ได้ค่ะ" ฉันตอบเธอเธอพยักหน้าและเดินไปที่นั่น เธอเพิ่งวางอาหารเช้าลงและกำลังจะออกไป เกเบรียลก็เดินออกจากห้องนอนพร้อมมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อฝีเท้าเธอเริ่มช้าลง และเธอเกือบจะสะดุดเมื่อมองเห็นเขา เกเบรียลเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก ดังนั้นฉันจึงไม่โทษเธอหรอก"ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดเมื่อรู้ว่าสายตาของเธอยังคงอยู่ที่เกเบรียล ขณะที่สายตาของชายหนุ่มก็อยู่ที่ฉันเสียงของฉันดึงเธอออกจากภวังค์ เธอพยักหน้าก่อนจากไป เมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็ปิดประตูให้เรียบร้อย"แล้วยังไงดี คุณจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเก

  • ธุลีใจ   บทที่ 461

    ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงคืนนั้นรวมถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ก็ทำให้ฉันรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวแล้ว ฉันขยับตัวเล็กน้อย หวังว่าจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นและบรรเทาความปั่นป่วนในร่างกาย แต่มันกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง เพราะการขยับตัวทำให้ร่างกายแนบชิดกับเกเบรียลมากขึ้นกว่าเดิมเกเบรียลส่งเสียงครางต่ำ แหบพร่า และเร้าอารมณ์ เช่นเดียวกับที่เขาเคยเปล่งออกมาในคืนนั้น ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว เสียงนั้นพุ่งตรงเข้าสู่ความรู้สึกของฉัน ทำให้ฉันหยุดพยายามจะขยับตัวให้สบายขึ้นฉันค่อย ๆ หันไปมองเขา หวังว่าเขาจะยังหลับอยู่ พอเห็นว่าเปลือกตาของเขายังคงปิดสนิท ฉันก็รู้สึกโล่งใจ แต่แล้วหัวใจก็เต้นแรงขึ้นเมื่อได้มองใบหน้าของเขาชัด ๆตอนหลับ เขาดูสงบและงดงามเหลือเกิน ขนตายาวทอดเงาบนแก้ม ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย เพียงแค่มองฉันก็เกิดความรู้สึกอยากสัมผัสเขา อยากแนบจูบลงไปบนริมฝีปากนั้นฉันกำลังจมดิ่งลงไปอีกครั้ง กับผู้ชายที่กุมหัวใจฉันไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน คนเดียวกับที่ตอนนี้กำลังขอในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ฉันหลงใหลในตัวเขามาก จนกระทั่งฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนสายเกินไปเสียงครางหลุดออกจากริมฝีปากขอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 460

    มื้อค่ำที่เหลือเป็นไปอย่างเงียบสงัด เขาก็ยังต้องขอโทษฉันอยู่แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดว่าเกเบรียลจะมาขอโทษฉันเลย ดังนั้นการที่เขาทำแบบนั้นและทำด้วยความจริงใจแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริง ๆเรารับประทานมื้อค่ำเสร็จและโทรเรียกพนักงานจากด้านล่างให้มาเก็บจาน"ฉันจะไปนอนแล้วนะ มีอะไรที่คุณอยากได้ก่อนหรือเปล่า?" ฉันถามเมื่อจานอาหารถูกเก็บไปและพนักงานจากโรงแรมก็ออกจากห้องไปแล้วลึก ๆ ในใจฉันกำลังตกใจและกังวลที่จะต้องนอนในห้องเดียวกับเกเบรียล แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ความวิตกกังวลหายไป"ผมเองก็จะไปนอนเหมือนกัน เหนื่อยสุด ๆ เลย"ฉันพยายามกลั้นความตกใจที่เริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ฉันคิดว่าจะนอนก่อนเขาเหมือนที่เคยทำ นั่นจะทำให้ฉันมีเวลาได้ผ่อนคลายและพักผ่อนก่อนที่เขาจะเข้ามานอน ฉันนึกไว้ว่าจะหลับไปแล้วก่อนที่เขาจะขึ้นมานอนฉันกัดฟันอย่างหงุดหงิดและเครียด ก่อนจะพยักหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องนอน"คุณชอบนอนด้านไหน?" เขาถาม ขณะที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง"ฉันไม่ค่อยมีความชอบอะไรหรอก ขอแค่ได้นอน ด้านไหนก็เหมือนกัน"“รู้เรื่อง งั้นผมนอนฝั่งซ้ายนะ คุณก็ฝั่งขวาแล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 459

    "อาบน้ำเสร็จแล้ว" ฉันบอกเกเบรียลเมื่อก้าวออกมาที่ห้องนั่งเล่น"ผมสั่งอาหารไว้แล้ว กินก่อน ไม่ต้องรอผมได้เลยนะครับ" เขาพูดก่อนเดินผ่านฉันเข้าไปในห้องนอนมันรู้สึกแปลกที่จะเริ่มรับประทานโดยที่ไม่มีเขาและฉันก็ไม่ได้หิวมากนัก ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีเมล และดูว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างฉันไม่ต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เกเบรียลก็เดินออกมาจากห้องนอนในเสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงวอร์ม“ยังไม่กินเหรอ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองอาหาร“ก็รู้สึกไม่ดีนี่นาที่กินก่อนคุณแบบนั้น แถมคุณเป็นคนสั่งอาหารมาด้วย”เขาทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะเริ่มเปิดจานอาหาร ฉันตักอาหารเล็กน้อยแล้วเริ่มรับประทาน ความเหนื่อยถาโถมเข้ามา แม้ว่าฉันจะได้นอนบนเครื่องบินแล้วก็ตาม ฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเตียงได้ ตอนแรกฉันไม่ชอบใจนักเรื่องการนอนร่วมเตียงกับเกเบรียล แต่ตอนนี้ฉันกลับเอาแต่คิดถึงมันเสียแล้ว ร่างกายร้องหาเพียงการพักผ่อน“แล้วคุณล่ะ เคยตกหลุมรักใครไหม?” คำถามเกเบรียลทำเอาฉันประหม่าฉันหันขวับไปมองเขา เจอสายตาคมกริบที่จ้องตรงมา ฉันกลืนอาหารลงคอและให้ปากทำหน้าที่ ตอนนี้คงมีอยู่แค่สองทางเลือก ไม่โกหกออกไป ก็บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 458

    ไม่กี่นาทีต่อมา เรามายืนอยู่หน้าห้องสวีท ความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ จู่โจมฉันทันที เกเบรียลไขกุญแจและผลักประตูเข้าไปโถงทางเข้าต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนขัดมันที่เปล่งประกายอยู่ใต้แสงนุ่มนวลของโคมไฟระย้าสุดหรู เงาสะท้อนทอดเป็นลวดลายงดงามบนผนังห้องนั่งเล่นกว้างขวางปรากฎสู่สายตา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู และหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพของเมืองที่ระยิบระยับราวกับทะเลดาวระบบความบันเทิงล้ำสมัยให้คำมั่นถึงค่ำคืนอันแสนอบอุ่น ขณะที่ครัวสไตล์กูร์เมต์ดึงดูดใจด้วยเครื่องใช้สแตนเลสเงาวาวและเคาน์เตอร์กลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร ห้องรับประทานอาหารสุดเก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง"ดูท่าทางคุณจะชอบนะ?" เกเบรียลแกล้งเย้าฉันทำได้แค่พยักหน้า อย่างที่บอกไปแล้ว เราเคยรวย และฉันก็เคยพักในโรงแรมดี ๆ มาก่อน แต่ที่นี่คืออีกระดับหนึ่ง มันเป็นนิยามของความหรูหราที่แท้จริงสายตาฉันยังคงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่จู่ ๆ ฉันก็ชะงักเท้าเมื่อความจริงบางอย่างตีแสกหน้าเข้ามาเต็ม ๆ"เกเบรียล ห้องฉันอยู่ไหนคะ? ฉันเห็นแค่ห้องนอนเดียวเองนะ" ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 457

    เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ มือของเกเบรียลจับตัวฉันไว้ไม่ให้กระดอนตอนเครื่องบินลงจอด“ไม่เป็นไรนะ?” เขาเอ่ยถามพลางสบตาฉัน“ค่ะ”หลังจากที่เกเบรียลเล่าเรื่องผู้หญิงที่เขาเคยตกหลุมรัก ก็ไม่มีเรื่องอะไรไปมากกว่านั้น บาดแผลนั้นยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ บาดแผลที่ฝังลึกลงไปข้างในฉันเห็นมันปรากฎอยู่ในดวงตาเขาอย่างชัดเจนขณะที่เล่าทุกอย่างให้ฟัง เขาไม่ต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเพิ่งจะเปิดเผยความลับบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่ใครคนอื่นไม่เคยรู้ แม้แต่พี่ชายฝาแฝดเขาก็ไม่เคยรู้ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเล่าออกมามากกว่านั้น ฉันไม่ได้ขอให้เขาเล่าให้ฟังว่าหลังจากรับรู้ความจริงพวกนั้นมันเป็นอย่างไรต่อหรือเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เขารู้สึกเปราะบาง และฉันก็เข้าใจด้วยว่าเขาต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ ดังนั้นฉันจึงให้พื้นที่กับเขาฉันใช้เวลากว่าครึ่งอ่านหนังสือและอีกครึ่งในการนอนหลับพักผ่อน เขายังเอาใจใส่แม้ตอนที่นั่งห่างออกไป เขาถามว่าฉันนั่งสบายไหมหรือต้องการอะไรอีกหรือเปล่าอยู่เป็นระยะมือของเขาเอื้อมมาแตะหน้าท้องฉันจนดึงฉันออกจากภวังค์ ฉันมองลงไปพบว่าเขากำลังปลดเข็มขัดนิรภัยของฉันออก“คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันท

  • ธุลีใจ   บทที่ 456

    ก็เป็นความรักที่สวยงามไม่ใช่เหรอ? แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามันต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น บางสิ่งที่เปลี่ยนไป ถ้าทุกอย่างมันดีจริง ๆ ตอนนี้เขาก็คงเคียงคู่กับเธอคนนั้นไปแล้ว ไม่น่าจะมาแต่งงานกับฉันแบบนี้เสียงของเขาเริ่มแหบพร่าและเริ่มเล่าต่อ “ทุกสิ่งมันดีไปหมดเลย เธอเป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากและผมก็รู้สึกว่าหลงรักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้แนะนำเธอให้โรแวนรู้จัก เพราะผมอยากเก็บเธอไว้กับตัว ผมไม่ได้เจตนาจะคบหาแบบเงียบ ๆ แต่แค่อยากใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ก่อนที่จะพบครอบครัวผม ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาผมนึกว่าตนเองโชคดีขนาดไหนที่ได้พบเจอคนอย่างเธอ อย่างที่คุณรู้ โลกของเรามันหาคู่รักที่เหมาะกันได้ง่ายเสียที่ไหนล่ะ ฮาร์เปอร์”และนั่นแหละก็เป็นสังคมของเรา มันยากมากเลยนะที่จะพบเจอคนที่รักเราจริง บางคู่ที่แต่งกันก็เป็นเพราะเรื่องของธุรกิจ และน้อยคนนักที่จะรักและเคารพจากใจจริง แล้วก็ยังมีพวกหวังรวยทางลัดอีก เป็นพวกที่แต่งงานกับคนรวย ๆ เท่านั้นและฉันว่านี่คงเกิดขึ้นบ่อยด้วย“ผมอยู่ในห้วงความรักเลยและคิดอะไรอย่างมีเหตุผลไม่ค่อยได้ เธอสามารถทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองได้เพราะผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอ ไม่อยากให้เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 455

    “ฮาร์เปอร์?” เสียงของเขาเรียกฉันกลับมาสู่ความเป็นจริง“โอ๊ะขอโทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป “ค่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้ว”“ดีครับ งั้นไปกันเถอะ”หนึ่งชั่วโมงต่อมา เรานั่งอยู่ในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเกเบรียล ครั้งนี้ฉันเดินทางไปกับเขาเพื่อเซ็นสัญญาธุรกิจ“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? ต้องการอะไรหรือเปล่า? ผมให้พนักงานต้อนรับเอาอะไรมาให้ได้นะ” กาเบรียลถามขึ้นทันทีที่เครื่องบินเริ่มออกตัวเข้าใจที่ฉันบอกแล้วใช่ไหม? เขาใส่ใจฉันมากเหลือเกินแต่ตอนที่เรายังแต่งงานกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ฉันคิดว่าเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อทำให้ฉันมีความสุขเลย จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้าม เขาไม่เคยสนใจว่าฉันต้องการอะไร หรือว่าฉันสบายดีไหม ไม่เคยสนใจแม้แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เขาแค่ไม่เคยสนใจฉันเลยแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันสับสน มันเหมือนเขาเป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่คอยทำให้ความปราถนาของฉันเป็นจริง“ไม่ค่ะขอบคุณ ถ้าต้องการอะไร เดี๋ยวฉันจะบอกพนักงานเองได้ค่ะ” ฉันพึมพำตอบกลับเกเบรียลพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดฉันเอนตัวลงกับเบาะหน

  • ธุลีใจ   บทที่ 454

    “แม่ต้องไปจริง ๆ เหรอคะ?” ลิลลี่ถาม สายตามองสลับไปมาระหว่างฉันกับกระเป๋าเดินทางที่เปิดอยู่บนเตียงฉันไม่เคยชอบการเก็บกระเป๋าแบบเร่งรีบในนาทีสุดท้ายแบบนี้เลย แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา งานที่ทำงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ พอกลับถึงบ้าน สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือการนอนหลับ ฉันเหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหว ไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากกินแล้วก็นอน“ต้องไปจ้ะ” ฉันตอบเธออย่างอ่อนโยน “งานนี้สำคัญมากเลยลูก แล้วพ่อหนูต้องไปจัดการด้วยตัวเอง…”“แต่หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนูไปด้วยไม่ได้? หนูอยากเห็นว่าพ่อทำงานยังไง หนูอยากรู้ว่าพ่อจัดการเรื่องงานยังไงค่ะ”ฉันพับเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย ซึ่งเป็นเสื้อไหมสีฟ้า ก่อนจะวางมันลงไปในกระเป๋ากับของที่เหลือ พอทุกอย่างเรียบร้อย ฉันรูดซิปปิดแล้ววางกระเป๋าลงบนพื้น“ลูกก็รู้นี่ ว่าไปไม่ได้” ฉันตอบเธอขณะนั่งลงบนเตียง“ทำไมล่ะคะ?”“เพราะลูกยังเป็นเด็กไง ก็เลยไปไม่ได้ ถูกไหมคะ?”“หนูไม่ใช่เด็กนะคะ หนูจะสิบขวบแล้ว"ฉันกลอกตาให้กับคำโกหกที่ชัดเจน ก่อนจะดึงลิลลี่เข้ามากอดและหอมแก้มเนียนนุ่มของเธอเบา ๆ“หนูก็รู้ดีนะว่าเพิ่งแปดขวบ อีกนานเลยกว่าสิบขวบนะลิลลี่… แล้วอีกอย่าง เด็ก ๆ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status