ผิวน้ำใสสะอาด สะท้อนแสงแดดเป็นประกาย ลมพัดเบาๆ ไอเย็นจากผิวน้ำก็พัดเข้ามา ทำให้คนที่เดินอยู่ริมน้ำในหน้าร้อนรู้สึกสดชื่นเมื่อเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ สิ่งที่ปรากฎแก่สายตาเป็นอย่างแรกก็คือโต๊ะแกะสลักจากไม้หวางหนานตัวใหญ่ อีกทั้งเก้าอี้แกะสลักแบบเดียวกันที่ถูกวางอยู่ข้างๆ ถัดไปมีฉากกั้นลมที่สลักลวดลายดอกสาลี่ ทั้งห้องให้บรรยากาศงดงามตามแบบฉบับโบราณ ขนาดชุดน้ำชาก็ยังมีการแกะสลักเป็นลายดอกไม้เรื่องที่ตระกูลลู่ร่ำรวยทุกคนรู้ดี และพวกเขาก็ไม่ได้ปกปิด ถึงแม้ตระกูลลู่จะเป็นเพียงพ่อค้า แต่ราชวงศ์ก็ไม่ได้ดูถูกตระกูลลู่เลยสักนิด อีกทั้งทุกปียังอาศัยเงินจากตระกูลลู่ไปช่วยเรื่องภัยพิบัติอีกด้วยถ้าจะบอกว่าตระกูลลู่เป็นภูเขาทองคำก็คงจะไม่เกินไป"พระชายา คุณชายสาม ดื่มน้ำชา บ่าวจะไปแจ้งกับคุณชายรองเดี๋ยวนี้" พ่อบ้านกล่าวทักทาย ก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันทีซูเนี่ยนยกยิ้มมุมปาก พ่อบ้านตระกูลลู่กับพ่อบ้านตระกูลหลี่ต่างก็เป็นคนกระฉับกระเฉงเช่นเดียวกันเพียงแต่พ่อบ้านเพิ่งออกไปไม่นาน ที่ด้านหลังของเขาก็มีหญิงสาวนางหนึ่งเดินตามเข้ามาด้วย ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าสงบเยือกเย็นราวหญิงสูงศักดิ์ เพียงแต่แววตาที่แฝงค
"พระชายาหลี แม่นางกู้" ลู่คันมองไปที่ซูเนี่ยนอย่างตกตะลึง จากนั้นก็หันไปพยักหน้าให้กับกู้อี๋ซิวเล็กน้อยถึงแม้ลู่คันจะเป็นเพียงพ่อค้า แต่ฐานะไม่ได้ด้อยไปกว่าขุนนาชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนักคนไหนเลย ดังนั้นเมื่อเขาเห็นซูเนี่ยนกับกู้อี๋ซิวจึงไม่ได้คารวะเขามองไปที่ซูเนี่ยนอีกครั้ง ถ้าถามว่าระยะนี้คนที่โด่งดังที่สุดในเมืองหลวงคือใคร ก็คงหนีไม่พ้นซูเนี่ยน สมัยก่อนในเมืองหลวงซูเนี่ยนก็มีชื่อเสียงโด่งดังพอตัวแล้ว แต่ระยะนี้ยิ่งโดดเด่นขึ้นไปใหญ่ซูเนี่ยนพยักหน้า กู้อี๋ซิวยืนขึ้น กลัวว่าซูเนี่ยนจะแย่งความสนใจไปจากนาง บนใบหน้าของนางประดับไปด้วยรอยยิ้มงดงามตามมารยาท แต่แววตากลับปรากฎร่องรอยของความดูแควนแว๊บหนึ่ง เพียงเพียงแค่พ่อค้าคนหนึ่งแต่กลัววางมาดซะใหญ่โตในต้าสุย พ่อค้ามีฐานะต่ำต้อยที่สุด เป็นที่ดูถูกของคนอื่น แต่ตระกูลลู่กับตระกูลหลี่ต่างออกไปคุณชายลู่ ข้ามาวันนี้ได้นำเอายาวิเศษที่ท่านอาจารย์ให้มาด้วย จะต้องสามารถรักษาอาการป่วยของคุณชายน้อยให้ดีขึ้นได้แน่นอนใบหน้าของกู้อี๋ซิวเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส มั่นใจเป็นอย่างมาก"โอ๊ะ? เช่นนั้นก็ขอบคุณแม่นางกู้มากแล้ว" ลู่คันยกยิ้มมุมปากให้น้อยๆ เพี
สองสามีภรรยามีสีหน้าตึงเครียด อีกทั้งรู้สึกหมดหนทางและสิ้นหวังลู่ม่อกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของลู่คัน มือเล็ก ๆ ของเขากําเสื้อผ้าของลู่คันไว้แน่น บนเสื้อผ้าของลู่คันไมีรอยมือเล็ก ๆ ไว้สองรอยเพิ่มขึ้นอีกแล้ว"ม่อเอ๋อร์ เป็นเด็กดีนะ" ลู่คันลูบหัวลู่ม่อและปลอบเขาอย่างอ่อนโยนลู่ม่อไม่ได้โวยวายเหมือนเมื่อกี้อีกแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อได้เห็นลู่คัน"เด็กดี กินยาซะจะได้ไหมเอ่ย?" ลู่คันปลอบด้วยเสียงต่ําขอแค่ไม่พูดถึงเรื่องการกินยาททุกอย่างก็ยังดีอยู่ พอพูดถึงเรื่องกินยาเท่านั้นแหละ ลู่ม่อก็เริ่มโวยวายอีกแล้ว"คุณชายรอง นี่คือยาวิเศษที่ท่านอาจารย์ให้มา รีบให้คุณชายน้อยกินเถอะ" กู้อี๋ซิวส่งเสียงออกมาในเวลาที่เหมาะสมเมื่อลู่หลินและลู่ฮูหยินได้ยินว่าเป็นยาวิเศษของท่านจ้าวแห่งหอหลิงเวย สีหน้าก็ยินดี พวกเขาได้ยินว่าฝีมือการรักษาของเจ้าตําหนักนั้นยอดเยี่ยมมาก ยาของเขายิ่งล้ำค่าเป็นไหน ๆ ไม่แน่ว่ากินยาแล้วอาการป่วยของม่อเอ๋อร์อาจจะดีขึ้นก็ได้"ขอบคุณคุณหนูกู้มาก เด็ก ๆ เอายาให้คุณชายน้อยกินซะ" ลู่หลินขอบคุณกู้อี๋ซิว แล้วสั่งให้หญิงรับใช้รับยานั้นมาทันที"ข้าทําเองเถอะ" ล
มือเล็กๆ ของลู่ม่อคอยลูบไล้กระต่ายน้อยที่อยู่ในอ้อมอก กระต่ายตัวไม่ใหญ่มาก มีขนนิ่มลื่นเป็นประกาย มันเป็นเด็กดีมากเมื่อยู่ในอ้อมอกของลู่ม่อ ทำให้ลู่ม่อยิ่งชอบมันมากขึ้น"เอ่อ" ลู่ม่อลูบกระต่าย แต่ดวงตากลมโตมองไปที่ซูเนี่ยน เขารู้ว่ากระต่ายตัวนี้มีเจ้าของ สายตาของเขาวิงวอนราวกับกำลังขออนุญาตจากซูเนี่ยน"ข้าว่าเจ้ากับกระต่ายตัวนี้ดูจะถูกชะตากันมาก เช่นนั้นก็ให้มันอยู่เป็นเพื่อนเจ้าดีไหม" ซูเนี่ยนมองไปที่ลู่ม่ออย่างอ่อนโยนเด็กคนนี้ป่วยอยู่ แต่ยังมีมารยาทขนาดนี้ พอจะเดาได้เลยว่าก่อนที่เขาป่วยเคยเป็เด็กที่มีความสามารถมากขนาดไหน และคนของตระกูลลู่ได้ฝากฝังความหวังอะไรไว้ที่ตัวเขาบ้างสายตาของซูเนี่ยนตกไปอยู่ที่ตัวกระต่าย เสี่ยวเป่าเป็นคนเลี้ยงกระต่ายตัวนี้ แต่คงเป็นเพราะคังอ๋องพูดว่าชอบกินเนื้อกระต่ายตุ๋นน้ำแดง ทำให้เสี่ยวเป่ากังวลว่าคังอ๋องจะทำอะไรกับเจ้ากระต่าย ก็เลยเอามันมาซ่อนไว้ในกล่องยาของนาง"กระต่ายน้อยขี้กลัว เจ้าจะลุกขึ้นมาก่อนไหม มันยังเล็ก ถ้าหนาวอาจจะป่วยได้" ซูเนี่ยนนั่งยองๆ ลงข้างๆ ลู่ม่อ และพูดเสียงเบาตอนนี้นางยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าลู่ม่อป่วยเป็นความผิดปกติด้านพัฒนาการขอ
เดิมทีตอนที่ลู่คันบอกจะเชิญซูเนี่ยนมาดูอาการของลู่ม่อ เขายังมีความลังเล แต่ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่ทำไมไม่เชิญซูเนี่ยนมาให้เร็วกว่านี้ มิเช่นนั้นลู่ม่อก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานแบบนั้นเล้ว"เด็กๆ เอาเสื้อผ้าของคุณชายน้อยกับชุดผ้าปูที่สะอาดมาชุดหนึ่ง" ลู่คันหันไปสั่งหญิงรับใช้ที่อยู่ข้างๆ"พ่อบ้าน ส่งคุณหนูกู้ไปที่ห้องโถงใหญ่เถอะ" ลู่คันมองไปที่กู้อี๋ซิวที่ยืนอึ้งตะลึงอยู่ทีหนึ่ง แล้วหันไปสั่งพ่อบ้านเสียงต่ำ"ขอรับ" พ่อบ้านตอบรับ แล้วพูดว่า "คุณหนูกู้ เชิญด้านนี้ขอรับ"ตอนนี้กู้อี๋ซิวไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่นี่อีกตต่อไป นางอยากจะกลับจวนไปเสียเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ แต่เรื่องในวันนี้จะให้ท่านพ่อของนางและองค์รัชทายาทรู้เข้าไม่ได้ ขอเพียงนางไม่พูด ตระกูลลู่ก็จะไม่พูดด้วยเช่นกัน นางเชื่อว่าตระกูลลู่จะไม่สร้างความไม่พอใจให้กับวังตะวันออกและสำนักราชครูพร้อมกันในคราวเดียวกู้อี๋ซิวมองไปที่ซูเนี่ยนซึ่งกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับลู่ม่อทีหนึ่ง คิดในใจว่าซูเนี่ยนผู้นี้เป็นภัยคุกคามสำหรับนางมากจริงๆ นางจะต้องหาโอกาสสั่งสอนซูเนี่ยนกู้อี๋ซิวสีหน้าดุร้าย และเดินตามพ่อบ้านออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรซูเนี่
"นี่คือถุงหอมที่ข้าทำขึ้นเอง มันมีฤทธิ์ทำให้จิตใจผ่อนคลาย ข้าให้คุณชายน้อยก็แล้วกัน" ซูเนี่ยนดึงถุงหอมออกมาจากเอว แล้วให้หงเย่มอบมันให้ลู่คัน"เช่นนั้นข้าต้องขอบพระทัยพระชายาแล้ว" ลู่คันเป็นคนช่างสังเกต เมื่อครู่นี้เขาก็เห็นว่าลู่ม่อเอาแต่จ้องถุงหอมนั้นอย่างไม่ละสายตาในเมื่อถุงหอมมันมีคุณสมบัติเช่นนี้ ก็ไม่ผิดที่จะลองมันสักคราลู่คันรับถุงหอมมาถือไว้ กลิ่นสมุนไพรหอมอ่อน ๆ โชยมาพร้อมกับกลิ่นมินท์จาง ๆ ชวนให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย นับว่าเป็นของดีอย่างแท้จริงเพียงแต่รอยปักบนถุงหอมนี้คือกระต่ายอย่างนั้นรึ? เขาเพิ่งจะเคยเห็นกระต่ายที่หน้าตาเหมือนหนูขนาดนี้เป็นครั้งแรก ถ้าไม่ใช่เพราะตาสีแดง ๆ ของมัน เกรงว่าคงจะดูไม่ออกลู่คันเผยรอยยิ้มในดวงตา ครั้นเห็นลู่หลินส่งสัญญาณผ่านสายตามาให้ตน ก็เอ่ยปากอย่างระมัดระวัง "พระชายาหลี มิทราบว่าท่านดูออกหรือไม่ว่าม่อเอ๋อร์ป่วยเป็นโรคอะไร""เท่าที่ดูเบื้องต้น น่าจะเป็นโรคออทิสติก" ซูเนี่ยนนึกย้อนถึงกิริยาท่าทางของลู่ม่อ ก่อนจะพูดขึ้น"โรคออทิสติกคืออะไรกัน?" ฮูหยินลู่อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา สีหน้าของนางดูตึงเครียดเป็นอย่างมาก บัดนี้นางอายุยี่สิบห้าปีแล
"ไม่ใช่เช่นนั้น เพียงแต่ทุกครั้งที่ม่อเอ๋อร์เห็นดอกไม้ เขาก็จะกรีดร้องเสียงดัง ดังนั้นในสวนจึงไม่มีดอกไม้หรือกระถางดอกไม้อยู่เลย" ลู่คันส่ายหน้า"เช่นนั้นก่อนหน้านี้ในสวนปลูกดอกไม้อะไร?" ซูเนี่ยนครุ่นคิดสักพักก่อนจะเอ่ยถามเขาอาจจะรู้สึกไม่ดีกับดอกไม้เพียงบางชนิดเท่านั้น แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเหตุใดลู่ม่อจึงไม่รู้สึกต่อต้านดอกเก๊กฮวยในถุงยานั้นกัน?"ดอกท้อ ก่อนหน้านี้จะเป็นดอกท้อเสียส่วนใหญ่" ฮูหยินลู่กล่าว"เช่นนั้นรึ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยกับทุกคน "นับตั้งแต่วันนี้ พวกเจ้าลองเอากระถางดอกไม้ชนิดอื่น ๆ มาตั้งไว้ในเรือนของคุณชายน้อยดู ดูว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไร หากเขาไม่แสดงท่าทีต่อต้าน นั่นย่อมพิสูจน์ได้ว่าเขามิได้เกลียดดอกไม้ทั้งหมด หลังจากนั้นค่อยทยอยนำดอกไม้เหล่านั้นไปปลูกไว้ในสวนของเขา""ส่วนหน้าต่างในเรือนก็ต้องเปิดระบายอากาศบ่อย ๆ ไม่ใช่เอาแต่ปิดไว้ บรรยากาศอึมครึมรังแต่จะสร้างความเครียดให้เขาเสียเปล่า ๆ""แล้วก็เสื้อผ้าของเขารวมถึงผ้าม่านในเรือน ก็พยายามเปลี่ยนให้เป็นสีที่สดใสเสียหน่อย อย่าใช้แต่สีพื้น ๆ""เอาตามนี้ก่อนก็แล้วกัน ไว้รอดูผลลัพธ์ก่อน แล้วหลังจาก
ซูเนี่ยนกล่าวทักหลี่เหลย ก่อนจะพาสือโถวกลับไปยังจวนอ๋องหลีตอนที่พวกเธอกลับไป ฉู่อี้หานก็กำลังดูเสียวเป่าที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำการบ้านบนโต๊ะหยกอย่างขะมักเขม้นเสียวเป่าตั้งใจมาก ใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่ำราวกับตุ๊กตา มองแล้วน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง"ท่านแม่ ท่านกลับมาแล้ว" เสียวเป่าที่เห็นซูเนี่ยนก็เผยสีหน้ายินดี ท่าทางดูอยากพุ่งเข้าไปกอดซูเนี่ยน ทว่ากลับชะงักค้างไปราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ ทำได้เพียงยืนกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ตรงหน้าเธอ จนซูเนี่ยนทนไม่ไหวเป็นอันต้องอุ้มขึ้นมาหอมสักฟอดสองฟอดแต่ที่ฉู่อี้หานพูดมาก็ไม่ผิดนัก เธอจะให้เสียวเป่าติดเธอเกินไปไม่ได้"อื้ม เจ้าตั้งใจทำการบ้านดีหรือเปล่า?" ซูเนี่ยนลูบผมนุ่ม ๆ ของเสียวเป่าด้วยใบหน้าอ่อนโยน"แน่นอน เสียวเป่าเป็นเด็กดี" เสียวเป่ากอดอกพลางพยักหน้าหงึกหงักด้วยท่าทางน่ารัก"จุ๊บ" ซูเนี่ยนทนไม่ไหวจริง ๆ เธอหอมแก้มเสียวเป่าไปอีกรอบ ลูกชายของเธอน่ารักเกินไป เป็นเด็กดีที่ว่านอนสอนง่าย ทำเอาความรักของคนเป็นแม่ของเธอท่วมท้นไปหมด"แค่ก ๆ" มั่วอีกระแอมไอเบา ๆ เขากับท่านอ๋องยังยืนอยู่ตรงนี้อยู่เลยนะ เหตุใดพระชายาจึงทำเป็นเหมือนมองไม่เห็นพวกเขาเสียอย่าง
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ
ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล
คลื่นน้ำนั้นพุ่งกระแทกมาทางซูเนี่ยนอย่างแรงซูเนี่ยนตกใจมาก รีบยื่นมือออกไปคว้าเสื้อเอาไว้ทันทีแต่แรงกระแทกจากคลื่นน้ำนั้นรุนแรง ทำให้ซูเนี่ยนคว้าไว้ได้เพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้นหมุนตัวหลบการโจมตีจากคลื่นน้ำ ซูเนี่ยนอาศัยจังหวะระหว่างนั้นใช้เสื้อชั้นในห่อร่างกายของตัวเองไว้ แต่เนื่องจากรีบร้อนทำให้เสื้อชั้นในสามารถปกปิดไว้ได้เพียงส่วนสำคัญเท่านั้น ร่างกายส่วนอื่นยังเปิดเผยอยู่อย่างเห็นได้ชัดฉู่อี้หานหรี่ดวงตาทั้งสองข้างมองไปยังเรือนร่างเล็กที่ๆ ที่กำลังหันหลังว่ายหนีตัวเองอย่างรวดเร็วอยู่คิดหนี? ต้องดูด้วยว่าเขายินยอมหรือไม่!เดิมทีเขาก็ไม่วางใจทางด้านไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว ดังนั้นเลยส่งสิบแปดองค์รักษ์มาคอยแอบคุ้มกันอีกที คิดไม่ถึงว่าจะมีแอบเข้ามาถึงบ่อน้ำร้อนนี้ได้ แถมยังถูกเขาจับได้พอดี เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ฉู่อี้หานรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่ริมสระน้ำมาสวม จากนั้นก็ยื่นมือคว้าไปทางซูเนี่ยนซูเนี่ยนรับรู้ได้ถึงพลังรุนแรงของฝ่ามือจากด้านหลัง ก็ตกใจรีบหลบทันทีไอน้ำขุ่นมัวล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้ เนื่องจากควันจากไอน้ำหนาเกินไป อีกทั้งซูเนี่ยนก็หัวเหอยุ่งเหยิง ทำให้มองเห็นหน้าไม
"ทำยังไงดีพระชายายังอยู่ข้างในเลย" นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีสีหน้ากระวนกระวายทำไมอ๋องหลีถึงมาตอนนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องหลีก็มาแช่น้ำร้อนของไทฮองไทเฮาเช่นกัน ไม่มีใครเคยขวาง แต่ละคนต่างก็เคยชินแล้ว ก็เลยไม่มีใครรายงานก่อนแต่ว่าวันนี้มันต่างกัน ที่ในบ่อน้ำร้อนยังมีคนอื่นอยู่ด้วย"ไม่ต้องกลัว ด้านในก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย เป็นพระชายาอ๋องหลีนะ ท่านอ๋องกับพระชายาจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง" นางกำนัลอีกคนหนึ่งไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เป็นท่านอ๋องหลีที่น่ากลัวเกินไป พวกนางเจอทีไรเป็นต้องพูดติดๆ ขัดๆ ตลอด รอตอนที่พวกนางจะพูดจริง ก็สายไปซะแล้ว อ๋องหลีเข้าไปแล้วมั่วอีที่ได้ยินบทสนทนาของนางกำนัลทั้งสองคนก็ตกใจ แต่ตอนนี้ใครก็ไม่สะดวกเข้าไปแล้ว จะขวางท่านอ๋องได้อย่างไร?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่อยากขวาง ก็เหมือนกับที่นางกำนัลสองคนนี้พูด ให้ท่านอ๋องกับพระชายาใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอมั่วอีเปลี่ยนทิศทางการเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลสนัย เดินออกไปทางนอกตำหนักฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อไปทางสระน้ำ ที่ปากของหงส์ท
เยือกเย็นมาก สงบมาก ลักษณะเช่นนี้ขนาดลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปยังทำไม่ได้เลยอีกทั้งการปฏิบัติตัวกับคนอื่นก็โอบอ้อมอารี มีมารยาท ใส่ใจแต่เรื่องพวกนี้ นางคิดว่าซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถเป็นฐานะพระชายาอ๋องหลีได้ แถมยังคู่ควรกับอ๋องหลีอีกด้วยอีกอย่างดูจากท่าทางของอ๋องหลีเมื่อคืนนี้ เกรงว่าเขาก็คงมีใจให้กับซูเนี่ยนเหมือนกันสิ่งที่แม่นมไป๋คิดอยู่ในใจ ซูเนี่ยนไม่ได้รู้เลยสักนิด นางคิดเพียงอยากจะรีบอาบน้ำ ตอนนี้นางเหม็นตัวเองจะตายอยู่แล้วแม่นมไป๋เดินนำซูเนี่ยนมาจนถึงบ่อน้ำร้อนนี่คือบ่อน้ำร้อนที่จักรพรรดิเต๋อคังสร้างให้ไทฮองไทเฮาโดยเฉพาะ ภายในยังใส่สมุนไพรจีนไว้มากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากซูเนี่ยนเป็นหมอย่อมต้องดมรู้อยู่แล้วภายในบ่อน้ำร้อนมีควันพวยพุ่ง ขมุกขมัว บ่อน้ำร้อนใหญ่มาก มีปุ่มกดรูปหงส์สยายปีกสร้างไว้โดยรอบ แม่นมไป๋กดปุ่มรูปหงส์อันหนึ่ง ก็เห็นว่าน้ำในบ่อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ใช่บ่อสมุนไพรอีกต่อไป แต่กลายเป็นบ่อน้ำนมสีขาวที่มีกลีบดอกท้อลอยอยู่ด้านบนแทนอุณหภูมิน้ำที่อุ่นทำให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกท้อลอยโชยขึ้นมาในอากาศ ซูเนี่ยนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกว่าหอมมากสมแ