ตอนที่ 3
ศัตรูหัวใจ
หลังจากที่ฟังเมี่ยวเมี่ยวเล่าเหตุการณ์และเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟังก็พอรู้เรื่องที่แห่งนี้อยู่บ้าง ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือความบังเอิญ แต่คุณหนูเจ้าของร่างนี้นามของนางก็ไป๋อวี่ซีเช่นเดียวกัน และดูเหมือนการแต่งงานครั้งนี้จะไม่ถูกใจท่านอ๋องห้าที่ว่าเป็นอย่างมาก
"ไม่ชอบข้าแล้วอย่างไร.. ชอบข้าแล้วอย่างไร.. เหตุใดต้องยอมน้อยเนื้อต่ำใจเพื่อชายผู้นั้นด้วย"
เมื่อสวรรค์เป็นใจส่งให้ได้เกิดใหม่ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องใช้ชีวิตในโลกนี้ให้ได้ อวี่ซีใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงไม่กี่วัน แต่ละวันสืบเสาะหาข้อมูลของที่นี่เท่าที่จะหาได้ แต่ข่าวคราวที่ได้กลับเป็นเพียงข่าวของท่านอ๋องห้าที่ออกรบจนชนะแต่ไม่ยอมกลับจวน
บ้างก็ว่าชายาท่านอ๋องมีใบหน้าน่าเกลียดจนท่านอ๋องทำใจไม่ได้จึงไม่กลับ บ้างก็ว่านิสัยของชายานั้นริษยาคุณหนูลู่ที่เป็นรักแรกของท่านอ๋องจนสามีนึกรังเกียจ บ้างก็ว่าชายานั้นไม่เป็นที่โปรดปรานทำให้ท่านอ๋องนั้นเตรียมรับอนุ แต่สิ่งที่ทำให้ไป๋อวี่ซีนั้นไม่เข้าใจที่สุดเลยก็มีเพียงแค่..
"เมี่ยวเมี่ยว.. ปกติข้าไม่เคยออกมาจากจวนท่านอ๋องเลยงั้นหรือ เหตุใดพวกชาวบ้านถึงไม่รู้จักข้า"
"ปกติคุณหนูไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด ไม่เพียงเท่านั้นท่านอ๋องเคยส่งองครักษ์มากำชับว่าไม่ให้คุณหนูออกไปป่าวประกาศให้ผู้ใดรู้ ว่าคุณหนูคือชายาท่านอ๋องจึงแทบจะไม่ออกจากจวน.. เรื่องนี้คุณหนูก็ลืมหรือเจ้าคะ"
"ไม่อยากให้รู้.. เพราะเหตุใด"
"เพราะท่านอ๋องไม่อยากให้มีผลกระทบตามมาเจ้าค่ะ"
"แต่ข้าคือชายาที่แต่งถูกต้องตามกฎหมายมิใช่หรือ"
"เรื่องนี้.. เมี่ยวเมี่ยวก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ"
"หึ! ตกแต่งข้าเป็นชายาแต่กลับไม่อยากป่าวประกาศ นี่มันชายาแบบใดกัน"
ถึงจะไม่พอใจแต่เพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไรกันแน่ จึงทำได้เพียงนิ่งเงียบเพื่อเก็บข้อมูลไปก่อนเท่านั้น
"นี่มันคุณหนูไป๋.. ไม่สิ! ชายาท่านพี่ห้ามิใช่หรือ ลมฟ้าลมฝนจะตกที่เมืองกระมังพระชายาถึงได้ออกมาจากจวนได้"
เสียงเล็กแหลมดังขึ้นในขณะที่อวี่ซีเดินเลือกเครื่องประดับอยู่ เธอเบนหน้าไปมองช้า ๆ ตามแบบฉบับผู้ดีที่เคยแสดงละครมา หญิงสาวใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ ปากนิด จมูกหน่อย กำลังยืนจีบปากจีบคอพูดอยู่หน้าร้าน ข้างกันนั้นมีสตรีผู้หนึ่งที่งดงามไม่แพ้กันยืนมองนิ่ง ๆ
"เมี่ยวเมี่ยว.."
และดูเหมือนว่าสาวใช้จะรู้ว่าต้องการอะไร เพียงแค่เธอสะกิดเรียกหญิงสาวก็ตะแคงใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกระซิบ
"ด้านซ้ายคือคุณหนูลู่เวินหนิงรักแรกของท่านอ๋องห้า ด้านขวาคือองค์หญิงเก้าเยว่จิ่งเจ้าค่ะ"
ไป๋อวี่ซีมองทั้งสองด้วยท่าทางเรียบร้อยก่อนจะส่งยิ้มให้บาง ๆ แล้วหันมาเลือกดูสินค้าต่อ
หมับ!
ข้อมือข้างหนึ่งถูกกระชากอย่างแรงจนเธอเซไปด้านหลังเล็กน้อย ก็เห็นว่าผู้ที่จับเธอไว้นั้นคือองค์หญิงเก้า ใบหน้าของนางแสดงออกชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์
"ทำอะไรคุณหนูน่ะ!"
อวี่ซียกมือขึ้นห้ามสาวใช้ก่อนจะหันไปประจันหน้ากับผู้ก่อเหตุ นางร้ายในยุคปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเธอใช้สายตาได้น่ากลัว เวลานี้กำลังกวาดมองใบหน้าของสตรีผู้นี้นิ่งก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองข้อมือตนเอง เยว่จิ่งมีท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมืออย่างว่าง่าย
"องค์หญิงเก้ามีเรื่องอะไรจะคุยกับข้างั้นหรือ"
"ข้าเนี่ยนะมีเรื่องจะคุยกับท่าน"
"หากองค์หญิงเก้าไม่มีเรื่องจะคุยกับข้า เหตุใดต้องมาแสดงกิริยาที่ไร้มารยาทกับข้าด้วย"
"ท่าน! ช่างเถอะ! เหตุใดท่านเห็นพี่ลู่ถึงไม่ยอมทักทาย"
"แล้วเหตุใดข้าถึงต้องทักทายนาง.. นางใหญ่โตมาจากไหนอย่างนั้นหรือ"
"เพราะพี่ลู่จะเข้ามาเป็นชายาของพี่ห้า ส่วนท่านก็แค่สตรีที่กำลังจะถูกหย่า! ท่านก็เตรียมตัวหย่าให้ท่านพี่ของข้าเสียที"
"หย่า.. งั้นหรือ"
"นี่ท่านยังไม่ทราบงั้นหรือ ท่านพี่ของข้ารบชนะกำลังเดินทางกลับ และฝ่าบาทก็จะประทานรางวัลให้ซึ่งรางวัลที่ท่านพี่ของข้าต้องการก็คือ.. คุณหนูลู่ผู้เป็นรักแรกและรักเดียว ไม่ใช่สตรีที่ไร้ประโยชน์เช่นท่าน!"
"เช่นนั้นก่อนที่จะอภิเษกกับข้า.. เหตุใดท่านพี่ของท่านถึงไม่ปฏิเสธองค์หญิงเก้าไม่คิดบ้างหรือ ไม่เคยคิดจริง ๆ หรือว่าที่ท่านอ๋องแต่งกับข้าเพราะท่าอ๋องติดใจสตรีไร้ประโยชน์ผู้นี้"
"ไม่มีทาง! ถ้าไม่ใช่เพราะท่านใช้อุบายมีหรือที่ท่านพี่ของข้าจะยอมลดตัวไปแต่กับคนเช่นท่าน"
ตอนที่ 4พระราชโองการ"เมี่ยวเมี่ยว..""พอแล้วอาเยว่.. ที่นี่มีแต่คนนอกไม่เหมาะสมที่จะคุยเรื่องนี้ในที่เช่นนี้"แต่ยังไม่ทันที่สาวใช้จะได้อธิบายอะไร ก็เป็นคุณหนูลู่ที่เอ่ยตัดบท ใบหน้าและท่าทางของเธอดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ และในสายตาของไป๋อวี่ซีที่ผ่านมาทุกบทบาทผู้นี้แล้วช่างเป็นท่าทางของคนที่ข่มอารมณ์ได้ดียิ่งนัก.. น่าสนุกดีนี่นา"ยังคงเป็นคุณหนูลู่ที่แสนดีและเห็นแก่หน้าท่านพี่ยิ่งนัก"นี่ไม่แตกต่างจากซีรีส์ที่เล่นเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนเรื่องอิจฉาริษยาย่อมมีอยู่ทั่วไป และการเลือกฝั่งเลือกฝ่ายย่อมมีทุกทีเสียจริง"เมี่ยวเมี่ยวเรากลับกันเถอะ วันนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ไว้วันหน้าเราค่อยมาดูแล้วกัน""เจ้าค่ะคุณหนู""หยกชิ้นนี้งามเหลือเกิน""หากคุณหนูลู่อยากได้ท่านพี่ห้ากลับมาข้าจะให้ท่านพี่ห้าซื้อให้ท่าน"ไป๋อวี่ซีเดินออกมาจากร้านนั้นด้วยใบหน้านิ่ง ๆ อยากรู้ยิ่งนักว่าถ้าเป็นเจ้าของร่างหากเจอเหตุการณ์เช่นนี้จะทำเช่นไร"วันนี้คุณหนูสง่างามมากเจ้าค่ะ""เมี่ยวเมี่ยว.. เมื่อก่อนหากข้าเจอเหตุการณ์เช่นนี้ข้าทำอย่างไรงั้นหรือ""หากเป็นเมื่อก่อน.. คุณหนูก็คงยืนฟังพวกนางพูดจนจบและเก็บเ
ตอนที่ 5ทุจริต"กระหม่อมไม่เข้าใจเลยขอรับ ว่าเหตุใดท่านอ๋องถึงอยากหย่ากับพระชายา""เจ้าสงสัยความคิดข้างั้นหรือ""มิกล้า ๆ เพียงแต่กระหม่อม..""ช่างเถอะ ฮ่องเต้รับปากกับข้าแล้วว่าหากไปช่วยชาวเมืองที่ประสบภัยได้จะรับปากออกพระราชโองการให้ข้า""แต่กระหม่อมได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการให้พระชายาไปดูชาวบ้านที่นั่นด้วยนะขอรับ"ไม่รู้ว่าเพียงเพราะช่วยชาวบ้าน เหตุใดฮ่องเต้ถึงส่งสตรีที่ไม่รู้จักเรื่องราวเหล่านี้ให้ออกไปเช่นนั้น แม้นางจะเติบโตมาจากที่นั่นแต่นิสัยและความสามารถของนางแล้วนอกจากไปเป็นภาระจะทำสิ่งใดได้อีก'หากเจ้าอยากได้พระราชโองการหย่าพระชายา ไว้เจ้ากลับมาจากเมืองหนานแล้วค่อยว่ากัน อ่อ.. เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาบ่อยครั้งเรื่องผู้ประสบภัยและยังไม่มีผู้ใดไปจัดการ ชายาของเจ้าเดิมทีนางก็เป็นคุณหนูจากเมืองหนานย่อมรู้ภูมิทัศน์ดี ข้าจึงให้นางออกไปช่วยชาวบ้านในฐานะเยว่เฟยของเจ้า เจ้าก็ไปช่วยนางหน่อยแล้วกัน'"ก็แค่ไปแก้ปัญหาอุทกภัยจะไปยากอะไรกัน ข้าก็อยากรู้นักว่าสตรีเช่นนางจะแก้ปัญหาอะไรได้"•••••"คุณหนู ข้างหน้าอีกสองลี้จะถึงเมืองหนาแล้ว คุณหนูจะกลับจวนไป๋ก่อนหรือไม่ข
ตอนที่ 6พบเจอไป๋อวี่ซียืนมองเหล่าประชาชนที่โอดครวญด้วยความรู้สึกที่หดหู่ หากเป็นเช่นนี้คนที่ได้รับผลกระทบย่อมเป็นบรรดาชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องราวเป็นแน่ แต่ด้วยอำนาจของตนเองก็ไม่ได้จะมีมากขนาดนั้น หากจะช่วยชาวบ้านจำเป็นต้องมีหลักฐานที่แน่นพอ"พวกเจ้าอย่าเพิ่งบอกว่าข้าเป็นใคร เรื่องเสบียงข้าจะหาทางจัดการเอง.. อู่ถังเจ้าไปปล่อยข่าวว่าข้าเยว่เฟยเดินทางมาถึงเมืองแล้ว เพียงแต่ร่างกายอ่อนแอเมื่อมาถึงจึงป่วยไม่สามารถไปช่วยชาวบ้านได้ช่วงนี้""ขอรับ""อีกเรื่อง.. เสบียงที่เรานำมาใช้ได้กี่วัน""คุณหนู เสบียงที่เรานำมาคิดว่าอยู่ได้ไม่เกิน7วันขอรับ"แม้ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่ในเศษเสี้ยวความทรงจำเธอจำได้ว่ามีคนผู้หนึ่งที่พอจะช่วยได้ หากใช้เสบียงที่นำมาก็พอยืดเวลาไปได้อีก"ดี! งั้นเจ้านำเสบียงไปช่วยชาวบ้านก่อน""ขอรับ""เมี่ยวเมี่ยว.. เจ้ายังจำที่อยู่ของอาเฉิงได้หรือไม่""คุณชายเฉิงเหว่ย.. จำได้เจ้าค่ะ""เราไปกัน"แม้ว่าเมืองหนานจะไม่ได้กลับมาเกือบครึ่งปี แต่นอกจากฝั่งตงเป่ยที่ติดต้นน้ำแล้วในเมืองค่อนข้างเป็นปกติดีทุกอย่างราวกับว่าอยู่คนละพื้นที่ ยิ่งทำให้ไป๋อวี่ซีนั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงมีเรื
ตอนที่ 7แม่นางมีนามว่าอะไรคำพูดจากชายเบื้องหน้าดังขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม ส่งผลให้ไป๋อวี่ซีจำเป็นต้องเลื่อนสายตาไปมองอย่างช่วยไม่ได้ บุรุษรูปงามแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเพียงแรกพบสบตาร่างกายถึงกับชาไปชั่วขณะ"คุณหนูผู้นี้ได้ยิน..""เชิญนั่งเจ้าค่ะ"เธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย รู้สึกได้ว่าน้ำลายไหลออกจากริมฝีปาก เมื่อได้สติอวี่ซียกมือตนเองขึ้นมาเช็ดมุมปากด้วยท่าทางเขินอาย โชคยังดีที่ใบหน้าของเธอนั้นยังอยู่ภายใต้หมวกสานใบใหญ่ ไม่เช่นนั้นต่อหน้าชายผู้นี้คงทำเรื่องน่าขายหน้าไปเสียแล้วเธอมองไปรอบร้านอีกครั้งถึงเห็นว่าที่แห่งนี้โต๊ะเก้าอี้เต็มทุกตัว พอทำให้เข้าใจได้ว่าเหตุใดบุรุษรูปงามเช่นนี้ถึงมาขอร่วมโต๊ะ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ทำได้เพียงแค่ต่างคนต่างกินอาหารที่ตนเองสั่งมา"มื้อนี้ข้าเลี้ยงเอง.. ขอบคุณแม่นางมาก""ข้าไม่ชอบติดหนี้ใคร ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณชายเพียงแต่ข้าขอปฏิเสธ"ในขณะที่ทานอาหารไปเธอก็ยังคงลอบสังเกตชายที่อยู่ชั้นบนไปตลอดเวลา จนมั่นใจได้ว่าชายคนที่เห็นนั้นคือท่านเจ้าเมืองของเมืองนี้ เมื่อทางนั้นเริ่มเคลื่อนไหวนางจึงต้องตัดใจจากขาหมูน่องโตตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้"ข้าข
ตอนที่ 8ท่านคือเยว่อ๋อง•••••โคร๊ม!เสียงกระจกแตกจากด้านในทำให้อวี่ซีที่รอจนแทบหลับตื่นขึ้นมาเต็มสองตา เงาดำที่เคยเข้าไปในที่แห่งนั้นกระโดดออกมาด้วยความรวดเร็ว เสียงโหวกเหวกโวยวายดังตามมาจากด้านใน จึงคิดได้แค่ว่าด้านในเกิดเรื่องขึ้นแล้วพรึ่บ!และเหมือนโชคชะตากำลังเล่นตลก เงาดำแรกผ่านไปอย่างง่ายดายแต่เงาเดาที่หนีมาใหม่กลับตกลงมาตรงหน้านางที่กำลังซ่อนตัวอยู่อวี่ซีมองเหล่าทหารในจวนที่กำลังออกไล่ตามผู้บุกรุกสลับกับมองเงาดำนั้น และจากท่าทางของคนผู้นี้คล้ายกับว่าน่าจะมีบาดแผลที่ค่อนข้างเอาเรื่องอยู่ เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะช่วยเขาดีหรือไม่ และไม่รู้ว่ามีอะไรดลจิตดลใจที่ทำให้เธอตัดสินใจก้าวออกมาจากที่หลบซ่อนและกระชากคนผู้นี้เข้าไปหลบด้วยกันปึก!"อย่าขยับ! เจ้าเป็นใคร!"แต่เพราะสถานการณ์ไม่ได้น่าไว้ใจ ในจังหวะที่ดึงเขาเข้ามานั้นก็ถูกชายผู้นี้ยกมีดสั้นมาจ่อคอไว้เสียแล้ว ความรู้สึกตกใจเวลาอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานของจริงมันเป็นเช่นนี้นี่เอง ช่างแตกต่างกับความรู้สึกในตอนแสดงละครลิบลับ"ข้าช่วยเจ้าอยู่! อย่าหันมีดใส่ผู้มีพระคุณของเจ้าได้หรือไม่""เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร เหตุใดมาทำตั
ตอนที่ 9ท่านเองน่ะหรือ.. สามีของข้า.."ท่านเองน่ะหรือ.. สามีของข้า.."เปลือกตาที่หนักอึ้งลืมขึ้นช้า ๆ เพราะกลิ่นหอมของอาหารที่โชยมาแต่ไกล เยว่อ๋องเหลือบสายตามองไปโดยรอบถึงได้เห็นว่าสตรีที่เขาเจอเมื่อคืนกำลังนั่งจ้องหน้าเขาไม่กะพริบอยู่ที่โต๊ะห่างไปไม่ไกลนัก"ท่านฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ""เหตุใดแม่นางถึงมาอยู่ที่นี่ได้""ก็นี่มันโรงเตี๊ยมที่หม่อมฉันเข้าพัก.. ไม่ให้อยู่ที่นี่ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องจะให้หม่อมฉันไปอยู่ที่ใดหรือเจ้าคะ"เขาตาโตทันทีที่สตรีผู้นี้ล่วงรู้ตัวตนของเขา เหิงเยว่รีบร้อนดันตัวเองขึ้นมานั่งพร้อมทั้งทำตาปริบ ๆ ริมฝีปากหนักอึ้งแม้ว่าจะมีคำถามมากมายแต่กลับรู้สึกไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ และยังไม่ทันที่เขาจะได้นึกหรือถามอะไรออกไปประตูหน้าห้องพักก็ถูกเปิดออกโดยองครักษ์คู่ใจของเขา"ท่านอ๋องฟื้นแล้วหรือขอรับ""โม่ฉิน! นี่เจ้าพูดอะไรกับแม่นางผู้นี้ไปบ้าง"เยว่อ๋องกวักมือเรียกองครักษ์พร้อมทั้งเอียงคอถามอย่างจริงจัง แม้ว่าดวงตาของเขาจะยังจ้องมองสตรีที่ทำให้เขาตกหลุมรัก มองดูนางที่เอาแต่ตักอาหารเข้าปากโดยที่ไม่ได้หันมาสนใจอะไรพวกเขา"กระหม่อมไม่ได้บอกอะไรขอรับ..""เช่นนั้นเหตุใดนางถึ
ตอนที่ 10หรือว่าท่านจะหย่ากับพระชายาเพื่อข้างั้นหรือหลังจากไปพบคุณชายเฉิงเหว่ยก็รู้ถึงที่ซ่อนเสบียงของจวนเจ้าเมือง รวมถึงเส้นการการค้าขายที่ผิดกฎของแคว้น อวี่ซีนำเรื่องนี้มาปรึกษากับท่านอ๋องเพื่อให้เขาบัญชาทหารลงไปนำเสบียงเหล่านั้นไปช่วยชาวบ้าน และเป็นจังหวะดีที่โม่ฉินนั้นได้หลักฐานการทุจริตเบี้ยหวัดและเก็บซ่อนเสบียงไว้เพื่อนำไปส่งให้โรงเตี๊ยมที่พวกเขาไปกินมาเมื่อวาน วันถัดมาท่านอ๋องจึงนำทหารไปเข้าจับกุมได้ทันเวลา เรื่องทุกอย่างจึงถูกคลี่คลายได้เป็นอย่างดี"แม่นางเยว่"เพราะชาติก่อนนั้นนอกจากชีวิตนักแสดงแล้วสิ่งที่ไป๋อวี่ซีถนัดมากที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องอาหาร จึงอาสามาเป็นคนทำอาหารให้เหล่าชาวบ้านในพื้นที่อพยพ ในระหว่างที่ท่านอ๋องนั้นหาวิธีแก้ปัญหาอุทกภัย เรียกได้ว่าเป็นการร่วมมือกันที่ปิดช่องโหว่ได้เป็นอย่างดี"ท่านอ๋อง.. เหตุใดท่านถึงอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าท่านจัดการเรื่องที่ขวนเจ้าเมืองหรือเจ้าคะ""เรียบร้อยแล้ว ข้าเพียงแต่.. เอ่อ""มีอะไรหรือเจ้าคะ"โครก~หญิงสาวหลุบสายตาลงไปมองตามเสียงที่ได้ยิน ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมามองใบหน้าของเยว่อ๋องที่แสดงออกว่าเขินอายไม่น้อย ริมฝีปากนางยกยิ้ม
ตอนที่ 11พระชายา"ท่านอ๋อง.. พระองค์คิดว่าพระชา เอ่อ.. แม่นางเยว่เป็นอย่างไรบ้างขอรับ""นางน่ารัก นิสัยดี ไม่เพียงเท่านั้นนางยังเฉลียวฉลาดและเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก"ชายหนุ่มมองเยว่อ๋องที่บรรยายคุณความดีของพระชายาออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เพราะพระชายาไม่ยอมให้บอกว่าเธอคือตระหนกว่เฟย องครักษ์อย่างเขาจึงทำได้เพียงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"พระองค์ชื่นชอบแม่นางเยว่มากหรือขอรับ""ถ้าเป็นเจ้า.. เจ้าไม่ชอบหรือ"นอกจากที่เขาจะไม่ตอบคำถามแล้ว แต่กลับถามกลับไปที่องครักษ์ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ดูจากสถานการณ์แล้วหากตอบว่าชอบมีหวังหัวได้หลุดจากบ่าเป็นแน่"มิกล้า ๆ กระหม่อมมิกล้าชอบแม่นางเยว่หรอกขอรับ""หึ! แล้วเรื่องพระชายาที่ข้าให้ไปสืบได้ความว่าอย่างไร"หากโกหกท่านอ๋องต่อไปเรื่องพระชายา เมื่อคราวที่ถูกจับได้ก็มีแต่ตายกับตาย แต่หากบอกความจริงไปพระชายาทราบต้องโกรธเป็นแน่ มีทางเลือกใดให้องครักษ์เช่นเขาในเวลานี้บ้าง"ว่าอย่างไร.. นางไปเมืองหนานจริงหรือไม่เหตุใดถึงตามหานางไม่พบ ไม่ใช่ว่านางนอนอยู่จวนสบายใจแล้วโกหกเบื้องสูงหรอกหรือ หึ! ฝ่าบาททรงไว้ใจสตรีผู้นี้เกินไปเสียแล้ว เมื่อถึงราชสำนักข้าจะ
ตอนที่ 30ความสุขที่ถูกเติมเต็มเวลาผ่านไปไม่นาน..“อุแว้! อุแว้!”เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังขึ้นก้องกระท่อมท่ามกลางความเงียบจากด้านนอก มีเพียงแค่เสียงกรีดร้องของเยว่เฟยและก้อนแป้งที่ลืมตาดูโลก“เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ!”หมอประกาศเสียงดังก่อนที่ไม่กี่อึดใจต่อมาเสียงร้องอีกเสียงก็ดังขึ้น“และเป็นคุณหนูอีกคนเจ้าค่ะ!”ท่านอ๋องยืนนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความตื้นตันน้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถาม“ลูก.. ปลอดภัยหรือไม่”“เด็กทั้งสองแข็งแรงมากเจ้าค่ะ!”ท่านอ๋องถอนหายใจอย่างโล่งอก ใบหน้าของเขาคลายความตึงเครียดลและในที่สุดเขาก็ได้เห็นลูกน้อยของตนเป็นครั้งแรก แต่ในวินาทีที่ความยินดีท่วมท้นไปทั่วหัวใจ เขากลับได้ยินเสียงของหมอที่ทำให้ร่างกายเย็นเยียบ“พระชายาเสียเลือดไปมาก!”ไป๋อวี่ซีที่เพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดกลับหมดแรงโดยสิ้นเชิง ดวงตาของเธอลืมขึ้นเล็กน้อยแต่สติเลือนราง เธอมองเห็นเงาของท่านอ๋องอยู่ตรงหน้า มองเห็นเงาตะคุ่มของเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอ เธออยากยิ้มอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนอง“เหิง.. เยว่..”เสียงเธอแผ่วเบาราวกับสายลมพัดผ่าน ทันใดนั้นเปลือกตาของเธอก
ตอนที่ 29ออกจากเมืองหลวงท้องพระโรงหลวงบรรยากาศภายในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ทหารและขุนนางยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบขณะที่ฮ่องเต้ประทับอยู่บนบัลลังก์ทอง พระพักตร์ทรงอำนาจทอดพระเนตรชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนคุกเข่าอยู่เบื้องล่างท่านอ๋องค้อมศีรษะลงต่ำ ร่างสูงสง่ากรำศึกจนเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นแต่แววตาของเขากลับแน่วแน่ดังเดิม“เยว่อ๋อง.. เจ้าทำศึกครั้งนี้ได้ดีนักราชสำนักและประชาชนต่างซาบซึ้งในคุณงามความดีของเจ้า”สุรเสียงของฮ่องเต้ดังก้องไปทั่วท้องพระโรง ก่อนจะมีรับสั่งให้ขันทีนำทองหนึ่งพันชั่ง ที่ดินสองผืน แก้วแหวนเงินทอง รวมถึงทหารสองหมื่นนายมาเป็นรางวัลตอบแทนขุนนางพากันซุบซิบถึงพระกรุณาขององค์จักรพรรดิ นับว่าเป็นรางวัลที่มากมายและล้ำค่าท่านอ๋องควรจะปลาบปลื้มยิ่งนัก แต่แทนที่เขาจะยินดีท่านอ๋องกลับเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ริมฝีปากยกยิ้มบาง ก่อนจะเอ่ยบางอย่างที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง“กระหม่อมขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพ่ะย่ะค่ะ แต่นอกจากของรางวัลเหล่านี้ กระหม่อมมีข่าวดีถวายฝ่าบาท..”“ว่ามาเถิด”ฮ่องเต้เลิกพระขนงเล็กน้อย ดวงตาคมจ้องมองไปยังบุรุษเบื้องล่าง ท่านอ๋องสบตากับฮ่องเต้ก
ตอนที่ 28แก้แค้นไป๋อวี่ซีเอ่ยออกมาเสียงแหบแห้งน้ำตาคลอเบ้า ในเวลานี้เธอไม่สามารถคิดไปในทางที่ดีได้เลยแม้เพียงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากได้ยินว่าลูกของเธอไม่เป็นอะไรอยู่ดีหมอหลวงยิ้มบาง ๆ อย่างอบอุ่น ก่อนที่จะเบาเสียงตอบกลับ“พระชายาท่านไม่ต้องกังวล ลูกของท่านปลอดภัยดี.. แม้จะได้รับบาดเจ็บจากการกระทบกระเทือน แต่ทารกในครรภ์ยังคงแข็งแรงดี ทั้งท่านและลูกจะต้องพักฟื้นให้ดี”เยว่เฟยรู้สึกเหมือนกับว่าหินก้อนใหญ่ที่ทับอยู่บนอกของเธอนั้นถูกยกออก น้ำหนักทั้งหมดที่ครอบงำเธอมาเป็นเวลาหลายชั่วยามนั้นหลุดออกไปทำให้เธอหายใจได้ลึกขึ้น“จริงหรือ”เธอกล่าวเสียงสั่น ปากแห้งผาก ริมฝีปากบานฉีกยิ้มด้วยความดีใจ ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าของหมอหลวงอย่างมีความหวังจนเมื่อเธอเห็นเขาพยักหน้าตอบ“ตอนนี้ท่านต้องพักให้เต็มที่ ร่างกายยังต้องฟื้นฟูอีกมาก”น้ำตาที่ไป๋อวี่ซีพยายามจะกลั้นเอาไว้หลั่งรินลงมา เหมือนกับฝนที่ตกจากฟ้าในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ความรู้สึกขอบคุณเต็มหัวใจจนไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ นอกจากการขอบคุณที่เงียบสงบ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับหมอหลวงที่ยืนข้างเตียงความเงียบแผ่ขยายไปทั่วห้อง แต่ในใจของไป๋
ตอนที่ 27ข้ามาช้าไป“เป็นอย่างไรบ้างหมอหลวง! พระชายาและลูกของข้าปลอดภัยดีหรือไม่”“ท่านอ๋อง.. พระชายาเวลานี้ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส กระหม่อมใช้ความสามารถที่มียื้อชีวิตเยว่เฟยเอาไว้ได้ เพียงแต่..”“เพียงแต่อะไร!”“เพียงแต่เด็กในครรภ์พระชายา.. กระหม่อมไร้ความสามารถ”เยว่อ๋องทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาของเขาแดงก่ำหยดน้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่สามารถหักห้ามได้“ที่ท่านพูดหมายความว่าอย่างไร.. ข้าไม่สามารถรักษาลูกของข้าไว้ได้อย่างนั้นหรือ”“หากท่านอ๋องพาพระชายามาเร็วกว่านี้อีกสักหน่อย กระหม่อมยังพอมีทางรักษาเอาไว้ได้”“ข้ามาช้าไปอย่างนั้นหรือ.. ไม่ได้! หากนางฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่านางสูญเสียบุตรในครรภ์ไปต้องเสียใจมากเป็นแน่ หมอหลวง! ท่านต้องหาทางช่วยรักษาลูกของข้าเอาไว้ให้ได้”เหิงเยว่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะไปคว้าที่ข้อมือของหมอหลวงเอาไว้“ท่านอ๋อง~ ฝ่าบาทส่งกระหม่อมมาดูอาการพระชายา ไม่ทราบว่าท่านอ๋องสะดวกหรือไม่”เขาหันไปมองผู้ที่มาใหม่ก็พบว่าเป็นไท่อี้เฉิงหมอประจำกายของฝ่าบาท เยว่อ๋องรีบหลบเพื่อให้เขาเข้าไปรักษาพระชายาอย่างว่าง่าย“ไท่อี้เฉิง.. ท่านต้องช่วยรักษาภรรยาและบุตรของข้าเอาไว้ใ
ตอนที่ 26ภาพที่ปวดใจแต่เพียงแค่เขาออกคำสั่ง ทหารและบ่าวในจวนก็กรูกันเข้าไปค้นหาในจวนอย่างรวดเร็ว เขาปรายตามองเวินหนิงที่ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจออกมาเลยแม้แต่น้อย ใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งชั่วยามคนที่เข้าไปค้นจวนรองแม่ทัพก็พากันเดินกลับออกมา“ไม่พบขอรับ”“เป็นไปได้อย่างไรกัน..”มือหนากำหมัดไว้แน่นก่อนจะหันไปจ้องใบหน้าของลู่เวินหนิงอีกครั้ง ท่าทางของนางที่ไม่รู้สึกรู้สายิ่งตอกย้ำว่าเธอมีพิรุธ แต่เพราะไร้ซึ่งหลักฐานและยังหาเยว่เฟยไม่พบ ความปลอดภัยของนางย่อมสำคัญกว่าจึงทำได้แค่ถอยออกมาก่อน“ข้าจะให้คำตอบของการกระทำในครั้งนี้กับรองแม่ทัพลู่ฉือเวยเอง กลับ!”เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นแล้วพาบ่าวในจวนกลับออกมาแต่โดยดี ลู่เวินหนิงกำมือของตัวเองไว้แน่นด้วยความโมโห เธอไม่คิดว่าเหิงเยว่จะกล้าพาค้นมาบุกจวนของรองแม่ทัพเช่นนี้ เรื่องนี้ไม่มีทางที่เธอจะยอมปล่อยผ่านไปแน่ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าหวานก็ยังคงฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างสะใจอยู่ดี“อู่ถังจับตาดูคุณหนูลู่เอาไว้ หากนางเคลื่อนไหวให้ตามไปทันทีแล้วรีบแจ้งข้า.. ข้าจะไปจวนอ๋องเจ็ด”เมื่อจัดการเรื่องที่ควรทำเรียบร้อยแล้ว เขาได้ขึ้นม้าเพื่อตรงไปยังจวนหยวนอ๋องตามลำพังทัน
ตอนที่ 25ลางสังหรณ์เสียงควบม้าดังกึกก้องไปทั่วผืนป่า แม้ว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่จิตใต้สำนึกของเขากลับไม่อยากช้าแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากที่เหิงเยว่ฟื้นขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บ สิ่งแรกที่เขาทำคือรีบร้อนที่จะกลับไปหาพระชายา แม้ว่าโม่ฉินหรือเหล่าทหารต่างไม่มีใครเห็นด้วยแต่กลับไม่มีใครสามารถห้ามเขาเอาไว้ได้สักคน เยว่อ๋องฝืนร่างกายก่อนจะใช้ยาระงับความเจ็บปวดที่มีฤทธิ์กดความรุนแรงของบาดแผลทั่วร่างกายเอาไว้นาน6ชั่วยาม เพื่อที่จะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวงแม้ว่าจะมีผลกระทบภายหลังเกือบถึงชีวิตก็ตาม“ท่านอ๋อง! ช้าหน่อยขอรับร่างกายของท่านยังไม่หายดีอาจถึงตายได้นะขอรับ”โม่ฉินเร่งฝีเท้าควบม้าตามมาด้วยความเป็นห่วงเอ่ยห้ามตลอดทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถห้ามเขาได้อยู่ดี“โม่ฉิน! ข้ามีลางสังหรณ์ว่าพระชายากำลังตกอยู่ในอันตราย”“จะเป็นไปได้อย่างไรขอรับ พระชายามีอู่ถังดูแลไม่มีอันตรายแน่นอนขอรับ”“ข้าไม่วางใจจะไปดูให้เห็นกับตา ไป!”เมื่อไม่สามารถห้ามปรามได้สุดท้ายทั้งสองก็รีบควบม้ามุ่งหน้ากลับเมืองหลวง ใช้เวลากว่าสี่ชั่วยามที่เขาเดินทางโดยไม่หยุดพักในที่สุดก็เดินทางมาถึงจวนอ๋อง ทันทีที่เขาเปิดปร
ตอนที่ 24ใครมันมอบความกล้าเช่นนี้ให้พวกเจ้าใบหน้าสวยแหงนขึ้นมองตามเสียงที่ได้ยินจากทางด้านหน้า ทำให้รู้ทันทีว่าคนที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นผู้ใด เธอคงมองโลกในแง่ดีเกินไปว่าสตรีเช่นนางแม้จะร้ายแต่คงไม่กระทำอุกอาจ ลู่เวินหนิงพร้อมชายฉกรรจ์อีกสามคนเดินเข้ามาใกล้ด้วยสายตาที่เหยียดหยามสมเพช“ข้าอยากรู้นัก ว่าหากท่านพี่เหิงเยว่รู้ว่าพระชายาเล่นชู้สู่ชายเช่นนี้จะทำอย่างไร”“เอ้า!”เพราะริมฝีปากที่ถูกผูกไว้ทำให้ไม่สามารถพูดได้ตามใจนึก ใบหน้าของคุณหนูลู่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าสะใจ ก่อนที่เธอจะให้สัญญาณกับชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินมาดึงผ้าที่ปิดปากของเธอออก“ถ้าเยว่อ๋องรู้เรื่องนี้ ไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่”“แล้วอย่างไรเล่า.. อย่างไรเวลานี้ท่านอ๋องของเจ้าก็ไม่สามารถมาช่วยเจ้าได้ เยว่เฟยเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ารอเวลาที่เจ้าออกจากจวนมานานเพียงใด”“เจ้าจับตาดูข้า!”“ไม่งั้นล่ะ.. หากข้าไม่จับตาดูเจ้าแล้วเมื่อใดข้าจะได้แก้แค้นที่เจ้าทำให้ข้าเสียหน้า ไม่เพียงเท่านั้นเจ้ายังแย่งท่านพี่เหิงริบหรี่ว่ของข้าไปเจ้าสมควรได้รับผลกรรมเช่นนี้ หากไม่มีเจ้าสักคนท่านพี่ก็ต้องเป็นของข้า! เป็นของข้าผู้เดียว!”“ประสาท!”“ข้าจะบอกเ
ตอนที่ 23บาดเจ็บถึงแม้ว่าจะต่างคนต่างบาดเจ็บ แต่สุดท้ายแล้วสนามรบครั้งนี้ผู้ที่ชนะก็คือกองทัพของเยว่อ๋อง เขาสามารถจับเฉินเฉิงหุ้ยเอาไว้ได้ทำให้สงครามครั้งนี้สิ้นสุดลง แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ปลายกระบี่ที่แทงเข้าไปเหนือหัวใจเล็กน้อย เลือดสีแดงฉานไหลออกมาเป็นทางอย่างน่าหวาดเสียว เยว่อ๋องมองเหล่าทหารที่พลีชีพด้วยสายตาที่ขอบคุณ มือข้างหนึ่งดึงกระบี่ที่ปักอกเล่มนั้นโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี ก่อนที่ร่างกายของเขาจะล่วงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก“หมอ! ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้างปลอดภัยหรือไม่”“ท่านอ๋องถูกกระบี่ปักอกลึกหลายคืบ แต่โชคยังดีที่ไม่โดนจุดสำคัญ.. ถึงอย่างนั้นเวลานี้ก็ต้องดูอาการเสียก่อนไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้”“ท่านต้องรักษาท่านอ๋องให้ดี หากท่านอ๋องเป็นอะไรขึ้นมาท่านจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของท่าน”โม่ฉินเอ่ยคำพูดที่แสนน่ากลัวให้กับหมอที่มีอายุกว่าเขาเล็กน้อย ชายหนุ่มที่ถือเครื่องมือตรวจมีท่าทางกังวลจนเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่องครักษ์เช่นเขาจะต้องสนใจ หมอท่านนี้สามารถดึงชีวิตท่านอ๋องออกมาจากปากยมโลกได้ เช่นนั้นเขามั่นใจแปดส่วนว่าจะต้องรักษาต่อไป
ตอนที่ 22สนามรบ•••••หลังจากวันที่เยว่อ๋องนำทัพออกรบเวลาก็ล่วงผ่านมาเกือบสองเดือน แต่ยังดีที่เขามักจะให้ม้าเร็วหรืออินทรีย์ส่งข่าวกลับมาให้พระชายาอยู่เสมอ ทำให้ทั้งสองรู้สึกว่ายังใกล้ชิดกันไม่ห่างไกล เพียงแต่เวลาไม่กี่วันมานี้อวี่ซีรู้สึกอารมณ์ไม่คงที่และร่างกายก็อ่อนเพลียตลอดเวลา“คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”สาวใช้มองหน้าอวี่ซีที่ซีดเผือดไร้เลือดฝาด ความรู้สึกพะอืดพะอมคลื่นไส้และรู้สึกหิวตลอดเวลาทำให้เธอไร้เรี่ยวแรง อวี่ซีมองความผิดปกติของร่างกายตนเองแล้วได้แต่คิดในใจ“คงไม่ใช่หรอกนะ แค่สามสี่ทีคงไม่ใช่ว่าท้องหรอกนะ”“ตั้งครรภ์หรือเจ้าคะ! จริงหรือเจ้าคะ!”แต่ดูเหมือนว่าคนที่ตื่นเต้นกว่าจะเป็นสาวใช้อย่างเมี่ยวเมี่ยว เธอดูกระวนกระวายเดินพล่านด้วยความว้าวุ่น อาการของนางแสดงออกว่าดีใจอย่างเห็นได้ชัด“ไม่ได้เจ้าค่ะ! ต้องเรียกหมอให้มาตรวจให้แน่ใจ คุณหนูรอสักครู่นะเจ้าคะ”รอเพียงไม่นานที่สาวใช้ไปตาม หมอประจำจวนอ๋องได้รีบเข้ามาจับชีพจรของเธอก่อนจะเบิกตากว้าง“พระชายาตั้งครรภ์แล้วขอรับ ระหว่างนนี้พระชายาต้องพักผ่อนให้เพียงพอดูแลร่างกายตนเองให้ดี.. ส่วนนี่คือเทียบยาบำรุงครรภ์ขอรับ”“ข้า.. ต