จางป๋อเฉิงที่ตอนนี้นั่งอยู่หน้าฮ่องเต้ ทั้งคู่เป็นสหายกันมีไม่กี่คนที่รู้ สมัยเป็นองค์ชายหนานกงเช่อเคยติดตามท่านตาไปทำการค้าสี่ห้าครั้ง พบเจอกันจึงผูกมิตรขึ้นมา"เฮ้อ อาเฉิงชะตาชีวิตเจ้าข้าไม่รู้จะพูดอย่างไร บุตรสาวเจ้ากับน้องสะใภ้นางงามจริงๆนะ ไม่แปลกหรอกที่ไอ้สารเลวนั่นคิดเกินเลย เขาคงรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่บุตรแม่ทัพใหญ่" ฮ่องเต้ถอนหายใจกับโชคชะตาสหายรุ่นน้อง"กระหม่อมเองก็ไม่คิดว่าเขาจะเลวถึงเพียงนี้เช่นกันฝ่าบาท อย่างไรก็เห็นฉีเอ๋อร์มาแต่น้อย เมตตาสักนิดก็ไม่มี""เจ้าไปเหมืองมาหรือ เขาเป็นอย่างไรบ้างเล่า จากใต้เท้าต้องมาขุดดินขุดแร่ สมควรแล้ว""เอ่อ เขาไม่ได้ทำงานเลยพ่ะย่ะค่ะ ต้องเก็บแรงเอาไว้เพื่อตอนค่ำ""ห๊ะ เก็บแรงเอาไว้ทำอะไร ข้าเนรเทศไปทำงานผู้คุมละเลยถึงเพียงนี้เลยหรือ""เฮ้อ บุตรเขยกระหม่อมเยียอ๋องนั่นแหละพ่ะย่ะค่ะ สั่งให้ผู้คุมจัดหาบุรุษมาเสพสมกับพวกนางทุกคืนนางโลมยังมีวันได้พัก แต่พวกนางไม่เว้นว่างเลย เรื่องที่ป๋อเหวินกระทำนางรู้ทุกอย่าง แต่ไม่คิดห้ามบุตรชายตนเอง ผู้คุมบังคับป๋อเหวินให้นั่งดูการเสพสังวาสของแม่กับเมียและลูกสาว เมื่อบุรุษเหล่านั้นสุขสม เขาก็ถูกวางยาให้ต้องเสพ
จางซูฉีกำลังเคลิ้มจะหลับ คนนอนข้างๆก็เริ่มป้วนเปี้ยนแถวหน้าอกนางอีกรอบ เขาเพิ่งจะรักนางไปเองนะ"ท่านอ๋อง พอเถอะเพคะ อื้อไม่ไหวแล้วเมียท้องอยู่นะ หิวอะไรนักหนาเล่าเพคะ อื้อ""เดือนกว่าแล้วนะที่แพ้ท้อง ตอนนี้หายแล้วขอเถอะนะคนดี""เฮ้อ อีกครั้งเดียวนะเพคะ ไม่มีขอต่ออีก คนหื่นกาม"หนานกงเนี่ยพยักหน้ารัวๆก่อนจะเริ่มบทรักกับเมียสาวอีกครั้ง ส่วนเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องอยากจะใช้เท้าน้อยๆถีบเขาออกไปจริงๆ ทุกคืนต้องนอนกอดมารดาข้า แถมยังแย่งนมข้ากินอีก ท่านพ่อนิสัยไม่ดีตอนนี้มีนางกำนัลในวังมากมายมาช่วยงาน จางซูฉีจึงไม่กังวลเรื่องอาหารการกินเท่าใดนัก นางทำอาหารให้เพียงหนานกงเยี่ยกับฮองเฮาเท่านั้น แม้กระทั่งฮ่องเต้ยังไม่ทำให้เลยมื้อเช้าทุกคนนั่งกินอาหารกันเงียบๆ จางซูฉีเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ" ไท่จื่อ ชินอ๋อง ใต้เท้าทุกท่าน ข้าอยากให้พวกท่านช่วยกราบทูลฝ่าบาทเรื่องไปล่าสัตว์อีกสักครั้งเถอะ ข้ากำลังตั้งครรภ์อยากสร้างกุศล ไม่มีทางให้สามีของข้าไปร่วมการล่าครั้งนี้แน่ๆ""ไท่จื่อ ที่ฉีเอ๋อร์กล่าวมาหม่อมฉันเห็นด้วยนะเพคะ หม่อมฉันก็ตั้งครรภ์กำลังจะกำเนิดอีกหลายชีวิต จะไปพรากชีวิตผู้อื่นด้วยเหตุใด" เจ
เรือนของจางซูฉี"ท่านอ๋อง มันฝรั่งเริ่มงอกแล้วก็ลงปลูกได้เลยเพคะ ส่วนถั่วลิสงสามารถทำได้หลายอย่างนักหากผลผลิตดีเกินคาดไว้หม่อมฉันจะเขียนวิธีแปรรูปให้ทางจิ่วโจวได้นำไปใช้นะเพคะ"จางซูฉีคำนวณแล้วว่าตอนนี้มันฝรั่งที่ตัดบ่มไว้น่าจะงอกแล้ว ถึงเวลาตัดแบ่งออกมาปลูกได้แล้ว หนานกงเยี่ยนอนมองเมียสาวเขียนรายการงานลงกระดาษ เวลานางทำงานช่างมีเสน่ห์งดงามยิ่งนักหากเขาแต่งสตรีในห้องหอมาคงน่าเบื่อน่าดู สตรีคนนี้เวลาจริงจังก็น่ากลัว เวลาอ่อนหวานก็หวานยิ่งนัก หนานกงเยี่ยเดินไปหานางหยิบพู่กันในมือออกมา รั้งนางลุกขึ้นก่อนจะจูบอย่างเรียกร้อง ท้องเริ่มนูนออกมาแล้ว นางตั้งครรภ์กลับยิ่งงดงามกว่าเดิม"ฉีเอ๋อร์ เจ้าตั้งครรภ์แล้วยิ่งงดงามมากนัก หรือว่าเราจะได้บุตรสาวกันนะ โตมาคงงามเหมือนเจ้าแน่ๆ""ทรงปากหวานนัก อย่ารุ่มร่ามเพคะงานล้นมือเยี่ยงนี้ พระองค์ป่วยเป็นเดือนแล้วหม่อมฉันต้องสะสางแทน ร้านค้า ที่นาให้เช่ามากมายจนคิดบัญชีไม่ไหว อย่ากวนตอนทำงานนะเพคะ คืนนี้จะตามใจขอทำงานก่อน""อืม ได้คนดีข้ารอเจ้าได้แต่ว่าง่วงแล้วทำไงดีล่ะ นอนไม่หลับ" จางซูฉีอ่อนใจมิใช่เลิกแพ้ท้องแล้วหรือ ก่อนจะตามใจเขาพาไปที่เตียงแล้วนอนข้า
เมืองหนานเป่ยคึกคักเป็นพิเศษเพราะกำลังจะมีงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ถึงหกคู่ ชาวบ้านต่างมารอแต่เช่า มีการโปรยขนมลูกกวาด และเหรียญอีแปะมากมายที่หมู่บ้านดอกท้อ ผ้าแพรแดงแขวนเต็มไปหมดทั่วหมู่บ้าน โคมไฟสีแดงแขวนเรียงรายด้านในเริ่มทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินของบ่าวสาวทั้งห้าคู่เรียบร้อยแล้ว ต้องรวบรัดยืดเยื้อไม่ได้ เพราะมีเจ้าสาวสามคนตั้งครรภ์อยู่เสี่ยวจูกับฟางซือหมิงแพ้ท้องหนักมาก จางหย่งเล่อเองก็เพลีย มีเพียงจินเสียวหรันกับชุ่ยชุ่ยและว่านถิงถิงที่เข้าพิธีจนจบเรียบร้อย"พี่หญิงท่านไหวหรือไม่เจ้าคะ ชินอ๋องบอกว่าจะไม่ดื่มมากนัก เขาเป็นห่วงท่าน"จางซูฉีเอ่ยถามพี่สาวที่ ถอดเครื่องหัวออกเรียบร้อยแล้ว จางหย่งเล่อนอนหลับตา นางไม่ไหวจริง"เล่อเล่อ แม่จะอยู่เป็นเพื่อนเอง ฉีเอ๋อร์เจ้าเองก็ตั้งครรภ์ อีกทั้งยังคอยช่วยงานจนเหนื่อยไปพักเถอะ ทางนี้ป้าดูแลพี่หญิงเจ้าเอง""งั้นข้าไปแล้วนะเจ้าคะ พี่หญิงท่านพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวข้าให้คนเอาน้ำบ๊วยมาให้ จะได้หายคลื่นไส้"จางซูฉีไปแล้ว จางหย่งเล่อนอนหลับตา นางไม่กล้าสบตามารดา"เป็นอะไรไป กลัวแม่ตำหนิเจ้าหรือไง ท้องก็ท้องแล้ว แต่งก็แต่งแล้ว เด็กดื้อเจ้านี่นะงัดข้อกับชินอ๋อ
เรือนหอสวีไค่หยุนสวีไค่หยุนปลดเครื่องหัวให้จินเสี่ยวหรันออก จากนั้นก็แลกจอกเหล้ามงคลกับนาง"เสี่ยวหรันคนดี พี่รอวันนี้มาเกือบปีแล้วนะในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันสักที ไม่ต้องปีนเข้าหาเจ้าแล้ว""ท่านพี่ ข้าชอบที่นี่แต่งานของท่านอยู่เมืองหลวง เสียดายจังเลยเจ้าค่ะ""ไว้พี่จะพามาบ่อยๆดีไหม เสี่ยวหรันจ๋าพี่อยากเข้าหอแล้วคนดีของพี่"สวีไค่หยุนปลดชุดแต่งงานจินเสี่ยวหรันออก จากนั้นก็ตามด้วยชุดเจ้าบ่าวของตน ก่อนจะจ้องมองร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าอย่างหลงไหลใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นร่างงามตรงหน้าเปลือยเปล่า เขามักแอบปีนห้องนางมาตักตวงความหวานเสมอ แต่ไม่เคยล่วงเกินนางมากกว่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขากับนางจะเป็นคนๆเดียวกันอย่างสมบูรณ์"ขืนท่านยังจ้องอีก ข้าคงแข็งเป็นหินแล้วท่านพี่ ใช่ว่าไม่เคยเห็นสักหน่อย จะให้รออีกนานไหมเจ้าคะ อากาศหนาวนะ""หึๆ อยากได้อะไรอุ่นๆหรือแม่นางน้อยของข้า วันนี้เจ้าเป็นปีศาจจิ้งจอกพันปี หรือเป็นโฉมงามของหอจันทราดีเล่า หืม"จินเสี่ยวหรันลุกขึ้นมา ก่อนจะคลึงทรวงอกตนเองยั่วยวนคนตรงหน้า มืออีกข้างโน้มคอสวีไค่หยุนลงมา ก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ"หนาวจนแข็งเป็นไตแล้ว คุณชายท่านให้ความอบอุ่น
จางซูฉีและหนานกงเยี่ยกำลังเตรียมตัวกลับเมืองหลวง กำลังวางแผนงานและการค้าทั้งหมดที่นี่ โดยให้ลู่จงกับจูชุ่ยชุ่ยเป็นคนดูแลหนางกงอินขอเบิกงบของกรมโยธามาเพื่อสร้างถนนให้สะดวกสบายกว่าเดิม จากเดิมที่ใช้เวลาเดินทางสิบห้าวันโดยรถม้า ก็เลื่อนเร็วขึ้นเหลือเพียงเก้าวันแต่เนื่องจากบรรดาสตรีของพวกเขาตั้งครรภ์ และมีหลายคนครรภ์ยังไม่มั่นคงจึงเลื่อนการเดินทางกลับไปอีกเดือนครึ่ง เสียนอ๋องกลับไปแล้ว ฮ่องเต้ให้เขากลับไปช่วยจางป๋อคุณและมหาราชครูฟางดูแลงานราชการต่างๆรอให้หยางฮองเฮาครรภ์แข็งแรงกว่านี้ก็จะเดินทางกลับ จางซูฉีหมักเหล้าไว้เกือบสามร้อยไห นางขุดดินฝังไว้ใต้ต้นหลิวในจวนใหญ่ที่เพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน อีกครึ่งปีจึงจะขุดขึ้นมาได้ ถึงตอนนี้นางก็คลอดเจ้าตัวน้อยแล้ว"ฉีเอ๋อร์ อย่าทำงานมากนักเลยเจ้าตั้งครรภ์อยู่ พักผ่อนบ้างเถอะ งสนบางอย่างให้บ่าวไพร่ทำก็ได้" หนานกงเยี่ยกำลังคิดบัญชีของหอโอสถ เขาแพ้ท้องไม่สบายเสียนาน ปล่อยนางหักโหมทั้งที่ยังท้องอยู่รู้สึกเป็นห่วงนัก"ท่านอ๋อง นั่งมากเกินไปถึงเวลาคลอดจะคลอดยากนะเพคะ อีกอย่างงานไม่ได้หนักหนาเกินไปนัก อืมจริงสิวันนี้วุ้นเส้นที่ทำไว้แห้งดีแล้ว เย็นนี้เสวยผั
หนานกงเช่อกำลังอ่านรายงานที่ทางวังหลวงส่งมา จิ่วโจวให้ผลผลิตถั่วและมันดียิ่งนัก ต้องไปหาสะใภ้เล็กสักหน่อย ว่าหลังเก็บเกี่ยวแล้วต้องแปรรูปอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็จะทิ้งเปล่าให้เน่าเสียจางซูฉีนังเขียนสูตรทำวุ้นเส้น ซอสถั่วเหลือง การหมักน้ำส้มสายชู โชคดีที่ก่อนจากยุคสิวิไลนั้นมา นางสามารถทำสิ่งเหล่านี้ไว้ใช้เอง บางครั้งทำวิจัยต้องไปอาศัยอยู่กับชาวบ้านตามชนบท จึงได้วิธีการแปรรูปต่างๆมา บางอย่างก็เป็นสูตรจากบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมาหนานกงเช่อเห็นสะใภ้เล็กนั่งทำงานทั้งๆที่ท้องโตมากแล้วก็นึกดีใจแทนบุตรชาย ขนาดเมียขุนนางยังไม่ใส่ใจช่วยเหลือสามีเท่ากับนางเลย เอาแต่แย่งชิงความโปรดปรานจากสามีไม่บรรดาเมียเอกกับเมียรองตีกัน ก็บรรดาบุตรหลานชิงดีชิงเด่นกัน แต่สะใภ้คนนี้เอาแต่คิดหาหนทางให้ผู้คนอยู่รอด ช่วยเหลือสามีทุกด้านเจียงฟางซินสะใภ้คนโตก็เรียนรู้งานมาจากนางไม่น้อย ทุกวันนี้ก็จัดระเบียบบ้านได้ดี จับมือกับหลานสะใภ้เขาจางหย่งเล่อผู้นั้นมองหาลู่ทางเปิดเส้นการค้าใหม่เสมอ จนแคว้นอู๋ร่ำรวยขึ้นพริบตาเงินในท้องพระคลังเพิ่มขึ้นมากมาย ตอนนี้สวีไค่หยุนได้ถูกเขาแต่งตั้งเป็นเจ้ากรมการคลังเรียบร้อยแล้ว รอกลับเ
ผ่านไปเดือนกว่ารถม้าที่สั่งทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนี้กำลังฝึกม้าที่จะนำมาใช้กับรถม้าอยู่ ใช้เวลาฝึกนานประมาณเกือบเดือน เพราะบรรดาคนที่นั่งในรถม้าคือเหล่าสตรีที่กำลังตั้งครรภ์จินเสี่ยวหรันที่ตอนนี้ไม่ต้องดูแลสวีไค่ไหยุนแล้ว เพราะเขาเริ่มไม่มีอาการแพ้ท้องแบบที่อาเจียนไม่หยุดแล้ว เหลือเพียงแค่ความอยากอาหารเท่านั้นส่วนว่านชิงชิงทุกวันนี้นางกลุ้มใจมาก ว่านอันสุ่ยไม่ยอมห่างนางเลยไม่ยอมให้เดิน ไปไหนก็อุ้มตลอดเวลา บางครั้งเขาก็งอแงเป็นเด็กน้อยห่างนางไม่ถึงชั่วยามก็ตามหาอีกแล้ว จนถูกฮ่องเต้เรียกไปต่อว่าหลายครั้งเพราะเสียงานเสียการ"ใต้เท้าว่าน เราว่าท่านรักเมียเกินไปหรือไม่ งานการมีไม่สนใจทำงานอยู่ดีๆหาเมียไม่เจอก็ทิ้งงาน เจ้ามันตาแก่หลงเมียเด็กจริงๆ""ฝ่าบาท กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีกพ่ะย่ะค่ะ"ว่านอันสุ่ยเสียงอ่อย แต่ฮ่องเต้ตรัสถูกต้องเขาหลงเมียจริงๆแต่แค่ไม่อยากยอมรับ"ใต้เท้าว่าน ข้าเองก็รักเมียไม่แพ้ท่าน แต่งานส่วนงานท่านต้องแยกแยะสักหน่อยนะ"หนานกงอินเยาะว่านอันสุ่ย เขาเถียงไม่ได้เพราะหนานกงอินเป็นถึงรัชทายาท ได้แต่บ่นอุบอิบๆเท่านั้น"ไท่จื่อ ทรงหลงพระ
แดนเซียนควันสวีทองลอยขึ้นมายังด้านบนก่อนจะลอยเข้าสู่หว่างคิ้วของหนานกงเยี่ยเทพสงครามที่นั่งรอพระชายาตนอยู่ปากถ้ำ ทันทีที่ดวงจิตเข้าสู่ร่างเขาก็รู้ทันทีว่ามหาเทพถือกำเนิดในแดนมนุษย์แล้วชายาของเขานางกำลังจะออกมาจากการกักตนเพื่อหนีหน้าเขาแล้ว ประตูหินค่อยเลื่อนออกควันสีทองลอยเข้าไปยังด้านในเข้าสู่กลางหว่างคิ้วของเทพบุปผา ไม่นานชิงเหลียนที่หน้าตาเหมือนกันกับจางซูฉีที่แดนมนุษย์ก็เดินออกมาจากด้านใน นางเห็นสวามียืนรอก็เดินตรงมาหา เทพสงครางกางแขาออกให้ชายารักเดินเข้ามาสู่อ้อมกอดเทพบุปผาซบหน้ากับอกกว้าของเขาพร้อมเอ่ยเบาๆ"ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้ว ที่ผ่านมาหนีหน้าพระองค์ ไร้เหตผลต่อจากนี้จะไม่ทำอีกแล้วเพคะ ตอนอยู่แดนมนุษย์เคยเกือบเสียพระองค์ไปหม่อมฉันรู้แล้วว่าความเจ็บปวดนั้นเป็นเช่นไร""ข้าไม่โกรธเจ้า คนงามของข้าๆเตรียมเรือเรียบร้อยแล้ว รอเจ้าออกมาจากด่านเราจะไปล่องเรือกัน เราจะล่องจากตำหนักเหลียนฮวาาจนไปถึงดินแดนประจิม แล้วจากนั้นข้าจะพาเจ้าไปทะเลตะวันออกดีหรือไม่ หืม""เพคะ หม่อมฉันตามใจพระองค์ ฝ่าบาทชิงเหลียนรักพระองค์เพคะ""คนงามข้าก็รักเจ้า ชิงเหลียนคนดีของข้า"ทั้งคู่ล่องเรือไปตามสระบั
ท้องฟ้าเหนือแคว้นอู๋มีสายรุ้งปรากฎถึงเก้าสาย อีกยังมีเหล่านกน้อยบินวนรอบตำหนักเหมยฮวา ท้องฟ้าเป้นสีทองก้อนเมฆสีรุ้งงามตานัก จากนั้นด้านในจางซูฉีก็คลอดเด็กกออกมา อุแว้ๆๆๆๆ ไม่นานก็มีเสียงทารกดังออกมา"ท่านอ๋อง ไท่จื่อเป็นซื่อจื่อน้อยเพคะ หน้าตาละม้ายท่านอ๋องยิ่งนักเพียงแต่ว่า" แม่นมพูดค้างไว้จนทุกคนมองหน้ากัน หนานกงเยี่ยร้อนใจจึงเอ่ยถาม"แต่ว่าอะไรแม่นมเฟิ่ง ท่านพูดออกมาให้หมด""แต่ว่าเส้นผมของซื่อจื่อน้อยไม่ได้ดกดำเพคะ แต่เป็นสีเงินยวงราวกับหิมะเลยเพคะ เสียงร้องดังมากแปลว่าแข็งแรงดี""ทันทีที่แม่นมเอ่ยจบหนานกงเยี่ยก็รู้ทันทีว่าหน้าที่ของพวกเขาในแดนมนุษย์นั้นสมบูรณ์แล้ว รอเวลาจิตวิญญาณเขาและนางกลับแดนเซียนเท่านั้นหนึ่งชั่วยามต่อมาทุกคนจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูจางซูฉีกับบุตรชายได้ หนานกงเยี่ยเห็นหน้าบุตรชายก็ถอนหายใจ เขาต้องเป็นบิดาของคนที่เอาแต่ใจที่สุดในแดนสวรรค์จริงๆหรือ จากนั้นก็ก้มลงไปจุมพิตหน้าผากน้อยๆเบาก่อนจะกระซิบ"ฝ่าบาท อย่างไรก็เป็นบุตรกระหม่อม ดื้อรั้นให้น้อยลงหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันมีสิทธิ์ตีก้นพระองค์ได้นะพ่ะย่ะค่ะ"ก่อนที่ทารกน้อยจะลืมตาทันทีจ้องหน้าคนที่เพิ่งข่มขู่เ
หนานกงเช่อไปแล้วบรรดาสาวนั่งจับกลุ่มคุยกันไม่หยุด แต่ละคนอุ้ยอ้ายจนดูน่ารักไปหมด เฉินลี่จูที่ถูกเยี่ยผิงอันอุ้มลงจากรถม้าเดินมาส่งที่ด้านในตำหนักก็อายหน้าแดง"ท่านอาปล่อยข้าลงเดินเองก็ได้นะเจ้าคะ ไม่ได้ไกลสักนิด""เมียจ๋า ดูพื้นสิขรุขระขนาดนี้ หากไม่ระวังอาจหกล้มได้ ไม่รู้ว่าเยี่ยอ๋องทรงคิดเช่นไรถึงได้ปูหินให้มีร่องห่างกัน พื้นไม่เสมอพระชายาก็กำลังตั้งครรภ์ไม่รู้จักระวังเลย"จางซูฉีขำกับความห่วงเมียคลั่งรักเมียของเยี่ยผิงอันหากบอกว่าท่านอาลู่จงได้เมียเด็กก็ไม่ถูกนัก อาลู่อายุสี่สิบ จูชุ่ยชุ่ยอายุย่างสิบแปด แต่เยี่ยผิงอันสี่สิบห้าย่างสี่สิบหก ส่วนเฉินลี่จูอายุสิบหก นางเด็กที่สุดในบรรดาเมียๆของเหล่าบุรุษแห่งวังหลวงเลยล่ะ"ใต้เท้าเยี่ย หากพื้นปูติดๆกันไม่มีร่อง ยามหิมะตก หรือฝนตกพื้นจะลื่น ร่องช่วยให้เวลาเดินไม่ลื่นน่ะ ลี่จูมานั่งกับพี่ก่อน เสี่ยวหรันกับชิงชิงน่าจะกำลังมา""เพคะพระชายา อ้อพี่ผู่เย่วท่านตั้งครรภ์อีกแล้วหรือเจ้าคะ ใต้เท้าสวีจะขยันเกินไปหรือไม่ คนโตยังไม่ได้ขวบเลย คิกๆๆ"ในบรรดาเด็กรุ่นน้องสามสาวแห่งสกุลจิน สกุลเฉินและสกุลว่านนี่คือแสบที่สุด ต่อยตีกับบุรุษไม่เว้นแต่ละวัน"พ
เมืองหลวงที่ไม่เคยหลับไหล โคมไฟเรียงรายห้อยเต็มหน้าร้านหน้าบ้านที่ปลูกติดกันยามลมพัดแกว่งไกวไปมาบรรยากาศในเมืองหลวงมีแต่ความสุข ฮ่องเต้กำเนิดพระธิดาสองพระองค์ อีกทั้งตอนนี้ฮองเฮาก็กำลังทรงพระครรภ์ได้สามเดือนแล้วตั้งแต่มาถึงเมืองหลวง ตระกูลหลักหลายตระกูล ตระกูลหลี่ ตระกูลว่าน ตระกูลสวี ตระกูลจิน และตำหนักอ๋องทั้งสอง รวมถึงตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท ต่างจัดเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เพราะพระชายาไท่จื่อ พระชายาเยี่ยอ๋อง และชินอ๋องรวมถึงบรรดาฮูหยินของใต้เท้าทั้งหลายนั้นตั้งครรภ์พร้อมกันตำหนักบูรพารัชทายาทหนานกงอินกำลังรักเมียสาวอยู่อย่างนุ่มนวลอ่อนโยน เสียวครางแสนหวานของเจียงฟางซินทำให้เขายิ่งรักนางยิ่งขึ้น"ไท่จื่อ เมียไม่ไหวแล้วเพคะพอเถอะ อื้อ ลูกดิ้นอีกแล้วพระองค์ก็ไม่ยอมเลิกสักที ลูกในท้องงอแงแล้วนะเพคะ อร๊าย หนานกงอินเสียวนะ อย่างัดแบบนี้สิคนบ้าข้าตั้งครรภ์อยู่นะ""บอกมาก่อนว่ารักพี่เด็กดีพูดเร็ว ตั้งแต่เข้าหอมาจนถึงวันนี้ยังไม่บอกว่ารักพี่เลย พูดมาคนดี อืม เสียวจริงๆเมียจ๋า อยากให้ผัวเลิกต้องบอกรักผัวก่อน อ่าา""อื้อ รักเพคะ หม่อมฉันเจียงฟางซินรักหนานกงอิน อร๊าย หม่อมฉันเสร็จอีกแล้ว
ขบวนเดินทางมาได้ครึ่งเดือนแล้ว แวะพักบางจุดเนื่องจากทำผักดองแบะเนื้อรมควันไว้มากมาย อาหารการกินจึงไม่ลำบากมมากนักจางซูฉีไม่ต้องการให้หนานกงเยี่ยไปล่าสัตว์บนเขา ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้คืนนี้พวกเขาแวะพักตรงริมน้ำใกล้เชิงเขา แต่จางซูฉีสั่งเดินทางต่อ หนานกงเช่อจึงไม่เข้าใจเหตุผลของนาง"ฉีเอ๋อร์ พ่อไม่เข้าใจที่เจ้าให้พวกเราเดินทางต่อ นี่ยามเซินแล้วกว่าจะสร้างกระโจมอีก ตรงนี้มีลำธารด้วยสะดวกสบายกว่าไม่ใช่หรือ""เสด็จพ่อ หากเป็นแม่น้ำลำธารที่ไม่อยู่ใกล้เชิงเขาลูกคงไม่ขัดหรอกเพคะ แต่ว่าลำธารนี้ทรงทอดพระเนตรสิเพคะ มีรอยเท้าสัตว์เต็มไปหมด แปลว่านี่เป็นแหล่งน้ำของพวกมัน อีกทั้งยังมีคราบเลือดเป็นจุดๆทั้งรอยเก่ารอยใหม่ แปลว่ามีสัตว์นักล่าด้วย ในขบวนมีคนท้องถึงเจ็ดคน แม้ว่าเหล่าบุรุษจะมีวรยุทธ แล้วนางกำนัลเหล่านั้นเล่าเพคะพวกนางอ่อนแอ เราเสียเวบาเดินทางอีกหน่อยก็ไม่ต้องเสี่ยง ลูกแค่ห่วงความปลอดภัยของทุกคน"เมื่อจางซูฉีชี้แจงเหตุผลจบ ทุกคนก็ยิ่งรีบเดินให้พ้นลำธารไวขึ้น ไม่นานก็เลยเชิวเขามาห้าลี้และเจอเข้ากับแม่น้ำเล็กๆสายหนึ่ง แม่น้ำสายนี้เรือเล็กสามารถสัญจรได้ จึงพากันหยุดพักที่ตรงนั้น"ฉีเอ๋อร์เหนื
ผ่านไปเดือนกว่ารถม้าที่สั่งทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนี้กำลังฝึกม้าที่จะนำมาใช้กับรถม้าอยู่ ใช้เวลาฝึกนานประมาณเกือบเดือน เพราะบรรดาคนที่นั่งในรถม้าคือเหล่าสตรีที่กำลังตั้งครรภ์จินเสี่ยวหรันที่ตอนนี้ไม่ต้องดูแลสวีไค่ไหยุนแล้ว เพราะเขาเริ่มไม่มีอาการแพ้ท้องแบบที่อาเจียนไม่หยุดแล้ว เหลือเพียงแค่ความอยากอาหารเท่านั้นส่วนว่านชิงชิงทุกวันนี้นางกลุ้มใจมาก ว่านอันสุ่ยไม่ยอมห่างนางเลยไม่ยอมให้เดิน ไปไหนก็อุ้มตลอดเวลา บางครั้งเขาก็งอแงเป็นเด็กน้อยห่างนางไม่ถึงชั่วยามก็ตามหาอีกแล้ว จนถูกฮ่องเต้เรียกไปต่อว่าหลายครั้งเพราะเสียงานเสียการ"ใต้เท้าว่าน เราว่าท่านรักเมียเกินไปหรือไม่ งานการมีไม่สนใจทำงานอยู่ดีๆหาเมียไม่เจอก็ทิ้งงาน เจ้ามันตาแก่หลงเมียเด็กจริงๆ""ฝ่าบาท กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีกพ่ะย่ะค่ะ"ว่านอันสุ่ยเสียงอ่อย แต่ฮ่องเต้ตรัสถูกต้องเขาหลงเมียจริงๆแต่แค่ไม่อยากยอมรับ"ใต้เท้าว่าน ข้าเองก็รักเมียไม่แพ้ท่าน แต่งานส่วนงานท่านต้องแยกแยะสักหน่อยนะ"หนานกงอินเยาะว่านอันสุ่ย เขาเถียงไม่ได้เพราะหนานกงอินเป็นถึงรัชทายาท ได้แต่บ่นอุบอิบๆเท่านั้น"ไท่จื่อ ทรงหลงพระ
หนานกงเช่อกำลังอ่านรายงานที่ทางวังหลวงส่งมา จิ่วโจวให้ผลผลิตถั่วและมันดียิ่งนัก ต้องไปหาสะใภ้เล็กสักหน่อย ว่าหลังเก็บเกี่ยวแล้วต้องแปรรูปอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็จะทิ้งเปล่าให้เน่าเสียจางซูฉีนังเขียนสูตรทำวุ้นเส้น ซอสถั่วเหลือง การหมักน้ำส้มสายชู โชคดีที่ก่อนจากยุคสิวิไลนั้นมา นางสามารถทำสิ่งเหล่านี้ไว้ใช้เอง บางครั้งทำวิจัยต้องไปอาศัยอยู่กับชาวบ้านตามชนบท จึงได้วิธีการแปรรูปต่างๆมา บางอย่างก็เป็นสูตรจากบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมาหนานกงเช่อเห็นสะใภ้เล็กนั่งทำงานทั้งๆที่ท้องโตมากแล้วก็นึกดีใจแทนบุตรชาย ขนาดเมียขุนนางยังไม่ใส่ใจช่วยเหลือสามีเท่ากับนางเลย เอาแต่แย่งชิงความโปรดปรานจากสามีไม่บรรดาเมียเอกกับเมียรองตีกัน ก็บรรดาบุตรหลานชิงดีชิงเด่นกัน แต่สะใภ้คนนี้เอาแต่คิดหาหนทางให้ผู้คนอยู่รอด ช่วยเหลือสามีทุกด้านเจียงฟางซินสะใภ้คนโตก็เรียนรู้งานมาจากนางไม่น้อย ทุกวันนี้ก็จัดระเบียบบ้านได้ดี จับมือกับหลานสะใภ้เขาจางหย่งเล่อผู้นั้นมองหาลู่ทางเปิดเส้นการค้าใหม่เสมอ จนแคว้นอู๋ร่ำรวยขึ้นพริบตาเงินในท้องพระคลังเพิ่มขึ้นมากมาย ตอนนี้สวีไค่หยุนได้ถูกเขาแต่งตั้งเป็นเจ้ากรมการคลังเรียบร้อยแล้ว รอกลับเ
จางซูฉีและหนานกงเยี่ยกำลังเตรียมตัวกลับเมืองหลวง กำลังวางแผนงานและการค้าทั้งหมดที่นี่ โดยให้ลู่จงกับจูชุ่ยชุ่ยเป็นคนดูแลหนางกงอินขอเบิกงบของกรมโยธามาเพื่อสร้างถนนให้สะดวกสบายกว่าเดิม จากเดิมที่ใช้เวลาเดินทางสิบห้าวันโดยรถม้า ก็เลื่อนเร็วขึ้นเหลือเพียงเก้าวันแต่เนื่องจากบรรดาสตรีของพวกเขาตั้งครรภ์ และมีหลายคนครรภ์ยังไม่มั่นคงจึงเลื่อนการเดินทางกลับไปอีกเดือนครึ่ง เสียนอ๋องกลับไปแล้ว ฮ่องเต้ให้เขากลับไปช่วยจางป๋อคุณและมหาราชครูฟางดูแลงานราชการต่างๆรอให้หยางฮองเฮาครรภ์แข็งแรงกว่านี้ก็จะเดินทางกลับ จางซูฉีหมักเหล้าไว้เกือบสามร้อยไห นางขุดดินฝังไว้ใต้ต้นหลิวในจวนใหญ่ที่เพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน อีกครึ่งปีจึงจะขุดขึ้นมาได้ ถึงตอนนี้นางก็คลอดเจ้าตัวน้อยแล้ว"ฉีเอ๋อร์ อย่าทำงานมากนักเลยเจ้าตั้งครรภ์อยู่ พักผ่อนบ้างเถอะ งสนบางอย่างให้บ่าวไพร่ทำก็ได้" หนานกงเยี่ยกำลังคิดบัญชีของหอโอสถ เขาแพ้ท้องไม่สบายเสียนาน ปล่อยนางหักโหมทั้งที่ยังท้องอยู่รู้สึกเป็นห่วงนัก"ท่านอ๋อง นั่งมากเกินไปถึงเวลาคลอดจะคลอดยากนะเพคะ อีกอย่างงานไม่ได้หนักหนาเกินไปนัก อืมจริงสิวันนี้วุ้นเส้นที่ทำไว้แห้งดีแล้ว เย็นนี้เสวยผั
เรือนหอสวีไค่หยุนสวีไค่หยุนปลดเครื่องหัวให้จินเสี่ยวหรันออก จากนั้นก็แลกจอกเหล้ามงคลกับนาง"เสี่ยวหรันคนดี พี่รอวันนี้มาเกือบปีแล้วนะในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันสักที ไม่ต้องปีนเข้าหาเจ้าแล้ว""ท่านพี่ ข้าชอบที่นี่แต่งานของท่านอยู่เมืองหลวง เสียดายจังเลยเจ้าค่ะ""ไว้พี่จะพามาบ่อยๆดีไหม เสี่ยวหรันจ๋าพี่อยากเข้าหอแล้วคนดีของพี่"สวีไค่หยุนปลดชุดแต่งงานจินเสี่ยวหรันออก จากนั้นก็ตามด้วยชุดเจ้าบ่าวของตน ก่อนจะจ้องมองร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าอย่างหลงไหลใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นร่างงามตรงหน้าเปลือยเปล่า เขามักแอบปีนห้องนางมาตักตวงความหวานเสมอ แต่ไม่เคยล่วงเกินนางมากกว่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขากับนางจะเป็นคนๆเดียวกันอย่างสมบูรณ์"ขืนท่านยังจ้องอีก ข้าคงแข็งเป็นหินแล้วท่านพี่ ใช่ว่าไม่เคยเห็นสักหน่อย จะให้รออีกนานไหมเจ้าคะ อากาศหนาวนะ""หึๆ อยากได้อะไรอุ่นๆหรือแม่นางน้อยของข้า วันนี้เจ้าเป็นปีศาจจิ้งจอกพันปี หรือเป็นโฉมงามของหอจันทราดีเล่า หืม"จินเสี่ยวหรันลุกขึ้นมา ก่อนจะคลึงทรวงอกตนเองยั่วยวนคนตรงหน้า มืออีกข้างโน้มคอสวีไค่หยุนลงมา ก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ"หนาวจนแข็งเป็นไตแล้ว คุณชายท่านให้ความอบอุ่น