ตอนที่ 78 ยอดเขาฉางเต๋อ [2]“มันอยู่เพื่อกักขัง.. ตราบใดที่ข้าไม่ลงเขา พวกมันก็ไม่ทำร้ายข้า.. แต่ไม่ใช่กับพวกเจ้า อยู่ให้ห่างจากพวกมันหน่อยจะเป็นผลดี” คำพูดที่แสนจะกำกวมนั้นออกมาจากปากของท่านยายยิ่งทำให้เฟยหลงรู้สึกงุนงงและสงสัยเข้าไปใหญ่ เธอไม่เข้าใจว่านางกำลังหมายถึงสิ่งใดทำได้เพียงมองไปยังไอปีศาจสลับกับหญิงชราผู้นี้ไปมา“หมายความว่าอย่างไร” แต่คงไม่ได้มีแค่เธอกระมังที่นึกสงสัยในคำพูดกำกวมนั้น เพราะแม่นางฉีเองก็เอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยเช่นกัน“แม่นาง.. เจ้าอยู่ให้ห่างจากพวกมันเสียหน่อย ร่างกายเจ้าไม่ควรเข้าใกล้พวกมัน เจ้า..” ท่านยายหลิงไถหันมามองฉีอันเฉาก่อนจะปรายตามองเธออย่างพิจารณา สายตาของท่านยายดูมีลับลมคมในไม่น้อย ท่านมองใบหน้าของอันเฉาสลับกับมองที่หน้าท้องเล็กน้อยโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาก่อนจะหันกลับไปเดินต่อโดยทิ้งคำถามไว้ให้พวกเราอย่างมากมาย“พวกเจ้าเดินตามข้ามาก็พอ” ทั้งสี่คนทำได้เพียงจูงเจ้าสหายตัวน้อยเดินตามท่านยายหลิงไถไปอย่างเงียบเชียบ ผ่านไปหลายชั่วยามที่ทั้งสี่เดินตามสตรีชราผู้นี้อย่างมองไม่เห็นจุดหมาย ข้างทางเป็นเพียงต้นไม้สีน้ำตาลแห้งแร้งที่ถูกปกคลุมด้วยไอปีศาจดำไม่น่าเ
ตอนที่ 79 สะสาง"ข้าขอไม่ปิดบัง.. อย่างที่ข้าบอกไปนั้นว่าข้ามีนามว่าหลี่เฟยหลง.. เป็นเพียงนักเขียนนวนิยายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรวันนั้นเมื่อข้านั้นกำลังนอนหลับได้ฝันเห็นโลกใบนี้กับสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในกระท่อมกลางป่าอสรพิษ แต่เมื่อข้าลืมตาขึ้นมาข้าถึงได้รู้ว่าข้านั้นมาอยู่ในร่างของนางเสียแล้ว""ในวันที่ข้านั้นมาอยู่ที่โลกใบนี้ในร่างของแม่นางคนแรกที่ข้าได้พบก็คือเจ้า" เธอหันหน้าไปมองสหายทั้งสามก่อนจะชี้นิ้วไปที่เจิงเจียอวี่"ในวันที่ข้าพาเจ้าที่ได้รับบาดเจ็บเข้าไปรักษาในกระท่อมหลังนั้น.. เป็นวันเดียวกับที่ข้าได้เข้ามาอยู่ในร่างของแม่นาง""เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้ามาในวันที่ข้าบาดเจ็บอย่างนั้นหรือ""สิ่งที่เจ้าคิดนั้นก็ไม่ผิด.. ไม่ว่าจะเป็นตำรายาหรือสมุนไพรข้าหลี่เฟยหลงล้วนแต่ไม่รู้จักเลยสักอย่างสิ่งที่ข้าช่วยชีวิตของเจ้าไว้ได้ก็คือตำราที่แม่นางเพ่ยเพ่ยนั้นทิ้งไว้ในกระท่อมหลังนั้น""แล้วหลังจากนั้นก็เป็นดังที่เจ้าเห็น.. ในวันที่ข้านั้นไปเก็บสมุนไพรหายากเพื่อมารักษาเจ้าก็เป็นวันเดียวกับที่ข้านั้นได้พบกับเสี่ยวจ๋าย""แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็เป็นตามที่เจ้าเห็น.. ข้าไม่รู้เรื่องราว
ตอนที่ 80 หากนางไม่สำเร็จวิชาข้าก็จะฝึกแทนนาง“ข้าเข้าใจแล้ว..” สิ้นคำสั่งของพี่ชายเจียอวี่ได้พยักหน้ารับคำนั้นก่อนจะถอยหลังออกไปนั่งข้างฉีอันเฉาดังเดิม“ท่านยาย.. เมื่อครั้งที่พวกข้ามาย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย อสูร หรือปีศาจ แต่สภาพแวดล้อมนั้นไม่ง่ายเลยที่ทั้งสองจะกลับไปได้อย่างปลอดภัย”“ข้าให้พวกเขากลับได้.. ข้าย่อมมีทางส่งพวกเขาไปอย่างปลอดภัย ไม่มีสิ่งใดที่ข้าหลิงไถจะทำไม่ได้เว้นเพียงแต่.. ลงไปจากเขาลูกนี้” เธอเห็นใบหน้าของท่านยายที่ดูสลดลงอยู่ไม่น้อย แต่เพราะว่าเธอนั้นไม่รู้จักกับนางเป็นการส่วนตัวหากถามซักไซ้เกรงว่าจะไม่เหมาะ หากเมื่อท่านยายอยากเล่าท่านคงได้เอ่ยปากออกมาเอง“แล้วเจ้า.. ไม่กลับไปด้วยงั้นหรือ” เฟยหลงปรายตามองไปตามท่านยายที่เห็นว่าเขานั้นหันไปถามกับเจิงอวี้เจิน“ข้าจะไม่มีทางยอมทิ้งสตรีผู้นี้ไว้ผู้เดียว” คำพูดของเขาแม้ว่าจะไม่ได้ดูสวยหรูเสียเท่าไหร่ แต่สำหรับเธอแล้วย่อมมีความหมายต่อใจอยู่ไม่น้อย“เจ้าหมายถึงผู้ใด.. แม่นางเฟยหลงหรืออาเพ่ยกัน” บรรยากาศที่เงียบสงบจนน่ากลัวเกิดขึ้นทันทีที่สิ้นสุดคำถามที่แม้แต่เฟยหลงเองยังไม่อยากได้ยิน“ว่าอย่างไร.. คนที่เจ้
ตอนที่ 81 สายเลือดเพียงหนึ่งเดียว"เรื่องเกี่ยวกับเพ่ยเพ่ยหรือท่านยาย.. ข้าอยากฟัง" หลีเฟยหลงรีบพยักหน้ารัวตอบหญิงชราด้วยความอยากรู้"ถ้าเจ้าสามารถขึ้นมาบนยอดเขาได้นั่นหมายความว่าเจ้าต้องเห็นแล้วใช่หรือไม่ เมื่อครั้งยังเยาว์วัยของนาง" ท่านยายหลิงไถจ้องมองในใบหน้าของเฟยหลง สตรีร่างบางได้ทำได้เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ เพราะว่าสิ่งที่ท่านยายพูดนั้นเธอได้เห็นมันจริง ๆ สุสานที่มีภาพแห่งความทรงจำของอาเพ่ยวัยเยาว์ที่นางหลงเหลือในความทรงจำของนางที่ไม่น่าพิสมัย" แม่นางเพ่ยเพ่ยนั้นเดิมทีแล้วนางไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป ยอดเขาแห่งนี้เดิมทีมีไอเซียนปกคลุม""เป็นที่อยู่ของเหล่าเซียนเผ่าเลือดสีทองเจ้าเคยได้ยินมันบ้างหรือไม่" สตรีชราหันมองเฟยหลงสลับกับมองอวี้เจิน ทั้งสองได้เพียงแค่มองหน้ากันเล็ก ๆ ก่อนจะหันไปมองสตรีชราผู้นี้ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ แม้จะเป็นการได้ยินแค่ในตำราก็เถอะ"เช่นนั้นเจ้าเข้าใจใช่หรือไม่ว่าสิ่งที่ข้าพูดถึงคือสิ่งใด.. เลือดของนางไม่ใช่สีแดงเจ้ารู้ใช่หรือไม่" ท่านยายเอ่ยถามพร้อมทั้งมองหน้าของเธอเล็กน้อย"ทราบเจ้าค่ะ""ท่านทั้งสองกำลังหมายถึงเรื่องอะไร.. ท่านยายกำลังจะบอกว่าเผ่าเลือดสีท
ตอนที่ 82 เจ้าอยากไปเดินเล่นกับข้าหรือไม่ [1]"ขั้นตอนแรกที่เจ้าจะสามารถเรียนวิชากระแสพิษวนกลับได้นั้น เจ้าจำเป็นต้องมีสมาธิที่มั่นคงตั้งจิตให้มั่น ระหว่างนี้ข้าจะให้เจ้านั่งทำสมาธิเพื่อกระตุ้นพลังวิญญาณในร่างกายของเจ้าเพิ่มความคุ้นชิน" หลังจากที่ท่านยายเอ่ยคำนั้น สตรีสูงวัยผู้นี้ได้เดินถอยออกไปทิ้งให้หลี่เฟยหลงและเจิงอวี้เจินยืนมองหน้ากันนิ่ง หากเป็นเช่นที่ท่านยายกล่าวชีวิตของแม่นางเพ่ยเพ่ยก็น่าสงสารแล้ว มิหนำซ้ำชีวิตของน้องชายของเขาอย่างกู่ป๋ายยิ่งน่าสงสาร ขึ้นไปอีก"ข้าไม่อยากจะคิด.. หากกู่ป๋ายรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ทายาทเลือดสีทองจะเป็นเช่นไร""แม่นางหลี่เฟยหลง.. ท่านยายพึ่งบอกให้เจ้าทำสมาธิใช่หรือไม่ ข้าคิดว่าเจ้าควรทำจิตใจให้สงบ เรื่องของกู่ป๋าย ข้าเชื่อว่าเด็กคนนี้มีความคิดความอ่านที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป เขาต้องเข้าใจเรื่องนี้นี้ได้เป็นอย่างดีแน่""แต่ว่าข้า..""หากเมื่อเทียบกับอายุของเจ้าและเขาแล้ว เจ้าเด็กคนนั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นบรรพบุรุษของพวกเราเลยก็ว่าได้.. เจ้าเชื่อใจเขาเถอะ อย่าได้กังวลไป" เจิงอวี้เจินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่นมือหนาข้างหนึ่งวางลงไว้บนศีรษะของเธออย่างเอ็นด
ตอนที่ 83 เจ้าอยากไปเดินเล่นกับข้าหรือไม่ [2] "เดินเล่นกับท่านอย่างนั้นหรือ" เธอมองหน้าของบุรุษผู้นี้ด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจเมื่อครู่เขาบอกว่าจะออกไปสำรวจด้านนอกเหตุใดตอนนี้ถึงเปลี่ยนมาชวนเธอด้วย"เจ้าไม่อยากไปกับข้างั้นหรือ" เขายกคิ้วหันมองหน้าเธอด้วยสายตาที่บอกไม่ถูก"ไปสิ! ข้าไป.. เจ้าอยากไปที่ใดข้ายอมไปกับเจ้าอยู่แล้ว" หลี่เฟยหลงเอ่ยกับบุรุษด้านหน้าด้วยท่าททางจริงจังก่อนจะยกยิ้มแล้วเดินมายืนตรงหน้าจ้องมองเขา ก่อนจะเดินตามเขาออกไปทั้งสองกวาดตามองรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้แม้จะขึ้นชื่อว่าหุบเขามรณะที่อยู่บนยอดเขาฉางเต๋อ แต่ภาพที่เธอเห็นนั้นเรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ จุดหนึ่งบนยอดเขาเท่านั้น"อาอวี้.. ด้านนอกนั้นคือไอ้ปีศาจใช่หรือไม่ เหตุใดพวกมันถึงไม่สามารถเข้ามาในนี้ได้" ทั้งสองหยุดยืนอยู่ที่หน้าผามองไปด้านล่างเห็นไอปีศาจที่ปกคลุมทั่วทุกทิศ ราวกับว่าสถานที่ปลอดภัยที่สุดมีเพียงแค่บนยอดเขาฉางเต๋อตรงนี้เท่านั้น"เพราะที่ตรงนี้ยังมีไอเซียนปกคลุมอยู่ไม่น้อย ทำให้ไม่โดนไอปีศาจกลืนกิน""เจ้ามีเรื่องอยากคุยกับข้าใช่หรือไม่ถึงได้พาข้าออกมาเดินเล่น
ตอนที่ 84 ฮูหยินของข้า"ท่านนี่มัน!" ความรู้สึกนี้ไม่ปลอดภัยต่อหัวใจเป็นเช่นนี้นี่เอง เธอรู้สึกได้เลยว่าเจิงอวี้เจินผู้นี้เรื่องการจีบสาวก็แพรวพราวไม่แพ้ผู้ใด จนเริ่มเกิดคำถามในใจว่าสิ่งที่เขาเอ่ยมานั้นเคยเอ่ยกับผู้ใดมาก่อนหรือไม่"อ๊ะ!" แต่ยังไม่ทันที่เธอนั้นจะได้คิดอะไรให้มากความ สองแขนแกร่งของเขาได้ตวัดช้อนร่างกายของเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนจะพาเดินลงจากยอดเขาด้วยความเนิบช้าทางด้านของเฟยหลงเองก็ไม่ได้คิดจะขัดข้องกับการกระทำของเขาสักเท่าไรนัก แต่เมื่อคิดว่าถ้าหากท่านยายเห็นการกระทำของพวกเขาแล้วท่านจะรู้สึกเช่นไรหรือท่านจะสงสัยอะไรหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นย่อมไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองเป็นแน่"อาอวี้ท่านวางข้าลงก่อน.. หากท่านอุ้มข้าไปในสภาพนี้ท่านยายหลิงไถต้องสงสัยพวกเราเป็นแน่""ท่านยายสงสัยแล้วจะเป็นกระไรไป.. ข้าอุ้มฮูหยินของข้า มีอะไรที่ข้ากระทำผิดไปอย่างนั้นหรือ""ท่านอย่ามาทำเป็นมึนหน่อยเลย.. ท่านอย่าลืมว่าตอนนี้ท่านกับข้าเป็นเพียงสหาย""แต่ที่เราทำกันบนยอดเขานั้นไม่มีสหายใดที่ทำกันหรอกนะเจิงฮูหยิน" ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือไม่แต่คำพูดและการกระทำของบุรุษตรงหน้านี้ดูเหมือนจะมีอาการไม่พอใ
ตอนที่ 85 ข้าจะมีเวลาอยู่อีกนานเท่าไหร่"เหตุใดท่านถึงไม่เอ่ยให้เร็วกว่านี้! หากเป็นเช่นนั้น.. ท่านหยุดทุกอย่างได้หรือไม่""ข้าเพียงแค่ไม่ได้เอ่ยกับท่าน.. แต่ข้าเอ่ยกับนางและท่านคิดว่าสตรีผู้นั้นจะยอมหยุดหรือไม่""แต่นางไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตของนางเข้ามาเสี่ยงกับเรื่องนี้.. ผู้ที่กระทำไม่ใช่นาง! นางเป็นเพียงสตรีธรรมดาไม่จำเป็นต้องมาแบกรับสิ่งใดในโลกใบนี้ ผู้ที่กระทำทั้งหมดคือแม่นางเพ่ยเพ่ย แล้วเหตุใดอาหลี่ถึงต้องมารับชะตากรรมเหล่านี้.. ท่านหยุดมันเสียมีแต่ท่านที่ทำได้""แต่สำหรับนาง.. ชีวิตของฮ่องเต้เปรียบเสมือนชีวิตของบิดาท่าน นางไม่มีทางทำให้ท่านเป็นกังวลเป็นแน่""ท่านกำลังจะบอกข้าว่า.. ที่นางทำทั้งหมดนี้เพื่อความรู้สึกของข้าอย่างนั้นหรือ""ท่านเป็นถึงสามีของนางเหตุใดท่านถึงไม่รู้.." เจิงออวี้เจินหันขวับทันควันมองใบหน้าของท่านยายหลิงไถอย่างรวดเร็วทันทีที่ท่านพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของบุรุษที่เกรี้ยวกราดเมื่อครู่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อตั้งแต่ใบหน้าไปยันหูของเขาอีกครั้ง เขาไม่เข้าใจว่านางรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรหากจะบอกว่าหลี่เฟยหลงเป็นคนกล่าวย่อมไม่ใช่เป็นแน่"ท่านทำได้เพียงแค่ยืนเฝ้าและให
ตอนที่ 98 เจิงฮูหยิน.. ข้ามาแล้วทั้งสี่ยืนมองเจิงอวี้เจินที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร สองแขนของเขากอดร่างกายของภรรยาเอาไว้แน่น ใบหน้าคมประกบจูบลงที่ริมฝีปากของนางก่อนจะขยับเลื่อนไปหอมแก้มทั้งสองข้างของเธอ พร้อมทั้งจุมพิตที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนก่อนจะค่อย ๆ ช้อนตัวของเฟยหลงนั้นขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อเดินอุ้มนางไปวางไว้บนเตียง"ข้าขออยู่ส่งนางจนวินาทีสุดท้ายได้หรือไม่" เขาหันมามองท่านยายหลิงไถที่พยักหน้าให้เล็กน้อย เมื่อเขาได้รับอนุญาตแล้วจึงได้ขึ้นไปนอนคู่กันกับเธอบนเตียง สองแขนกอดร่างกายของเธอเอาไว้แน่นอยากสัมผัสไว้ให้นานที่สุด"พวกเจ้าทั้งสองออกไปรอด้านนอกก่อน ข้าจะเตรียมพิธีและเมื่อถึงเวลาอันสมควรข้าจะให้กู่ป๋ายออกไปเรียกพวกเจ้า" สิ้นสุดคำพูดของท่านยายสหายทั้งสองได้มองใบหน้าของเจิงอวี้เจินและหลี่เฟยหลงอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปรอด้านนอกอย่างว่าง่าย"กู่ป๋าย.. เจ้ากลัวหรือไม่" แม้ว่าเจิงอวี้เจินนั้นจะได้ยินเสียงของท่านยายและน้องชายของแม่นางเพ่ยเพ่ยคุยกัน แต่เขากลับได้หาสนใจไม่ เขาไม่สนใจเลยว่าทั้งสองจะพูดเรื่องอะไร เขาสนใจเพียงแต่เขาอยากจะกอดร่างกายของภรรยาของเขาเอาไว้ให้นานที่สุด น้ำตาของชาย
ตอนที่ 97 หากนางอยู่ที่นี่.. นางจะเจ็บปวด"เหตุใดเจ้าถึงไม่ยินดี.. ในเมื่อเรื่องนี้เราทั้งสองนั้นได้คุยกันมาก่อนแล้วไม่ใช่หรือ ว่าหากจบเรื่องราวทั้งหมด ข้าจะให้ท่านพ่อของข้าไปสู่ขอเจ้า""ท่านพี่.. ข้ารักท่านอย่างที่ไม่เคยรักชายใดมาก่อน ท่านเป็นคนแรกที่ทำให้ข้ารู้จักคำว่ารัก คำว่าห่วงใย เพียงแต่ท่านหลงลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือว่าข้ามิใช่คนในโลกใบนี้ หากเมื่อเราทั้งสองนั้นได้ตกลงปลงใจเข้าร่วมพิธีสมรสในครั้งนี้ หากข้าต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีท่านจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวข้าไม่ยินดีให้ท่านเป็นเช่นนั้น ข้าไม่ยินดีที่ให้งานมงคลสมรสของเราทั้งคู่เป็นสิ่งที่จะเหนี่ยวรั้งท่าน.. ท่านเข้าใจความรู้สึกของข้าหรือไม่""แม่นางหลี่เฟยหลง.. เช่นนั้นเจ้าฟังคำของข้าให้ดี ต่อให้ในโลกใบนี้หรือใบไหน หากเจ้าอยู่ที่ใดข้าขอให้คำมั่นสัญญาต่อฟ้าดินเพื่อเป็นพยาน ข้าจะรักเพียงเจ้าจะติดตามเจ้า ไปทุกที่ หรือต่อให้เจ้าจะทิ้งข้าไว้ในที่แห่งนี้ ทะเลเพลิง ภูเขาน้ำแข็งหรือต้องตายกี่ครั้ง ข้าก็ไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงแค่ข้าได้รักเจ้าได้ดูแลเจ้าได้อยู่กับเจ้า แม้จะเป็นเพียงหนึ่ง วัน สองวัน เจ็ดวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี หรือตลอดชี
ตอนที่ 96 ข้าไม่ยินดีสำหรับงานมงคลสมรสในครานี้เฟยหลงมองดูแม่นางเพ่ยเพ่ยที่กระโดดโลดเต้นไปมาราวกับว่านางนั้นกำลังทำสิ่งที่เฝ้ารอจนสำเร็จ ด้วยความดีใจของสตรีผู้นี้ที่ดูจะดีใจเกินกว่าปกติทำให้เธอรู้สึกอยากรู้อีกครั้งได้ชะโงกหน้าไปมองที่ตำราเล่มนั้นอีกครา ในตำราหมายเหตุไว้ว่าหากต้องการสิ่งใดให้นึกถึงสิ่งนั้น เป็นการซ้อนวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอีกโลกขนานหนึ่ง"สิ่งมีชีวิตอีกโลกหนึ่ง.. เหตุใดในยุคสมัยนี้ถึงรู้เรื่องราวเหล่านี้""ข้าต้องการท่านแม่.. หากข้าสามารถเรียกวิญญาณท่านแม่ได้เรื่องราวพวกนี้ก็จะจบลง แต่หากข้าทำไม่สำเร็จวิญญาณของคนผู้นั้นที่ข้าเรียกมาต้องสะสางเรื่องราวยุ่งเหยิงที่ข้าก่อขึ้นนี้ได้เป็นแน่"แม่นางเพ่ยพูดจบก็ได้วางทุกอย่างลงบนโต๊ะ พร้อมทั้งหยิบเจ้าปลาตัวใหญ่นั้นเดินเข้าไปในครัว แม้ว่าหลี่เฟยหลงจะอยู่ที่นี่อยู่นาน แต่เธอกลับไม่รู้ว่าที่แห่งนี้ส่วนนั้นเป็นครัวที่สามารถทำอาหารได้ เพียงแต่ไม่มีอุปกรณ์ใดที่ใช้ในการทำอาหารอะไรสักอย่าง เธอมองดูแม่นางเพ่ยเพ่ยที่ใช้พลังสีทองของตนในการถอดเกล็ดปลาเสียบไม้แล้วย่าง นางใช้พลังของตนเองในการทำจนหมดสิ้นราวกับไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่แห่งใดย่อมไม่อด
ตอนที่ 95 ซ้อนวิญญาณวิชาต้องห้ามสตรีผู้นี้แผดเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องขัง สาดคำพูดต่อว่าสตรีที่สูงส่งผู้นี้อย่างไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว แต่นอกจากที่พระสนมเอกจะไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองหรือไม่พอใจแล้ว นางกลับกำลังยกยิ้มอย่างชอบใจสายตาคู่นั้นของแม่นางเพ่ยเพ่ย มองไปทางน้องชายที่ถูกลากออกไป ราวกับหมูหมากาไก่เปรียบเหมือนว่าเขานั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ความรู้สึกคับแน่นในอกเริ่มทำให้นางไม่มีทางเลือก หากนางไม่ทำตามคำที่สนมเอกบอก ชีวิตของน้องชายนางไม่รอดแน่ แต่หากนางทำเรื่องที่พระสนมต้องการนั่นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเธอ หากมันสำเร็จก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเธอและน้องชายจะรอด แต่ก็ไม่ได้มีอะไรการันตีว่าทั้งสองจะไม่รอด"เจ้าคิดให้ดีหากเจ้าทำมันสำเร็จข้ารับรองว่าชีวิตของเจ้าและน้องชายเจ้า จะเดินทางออกจากแคว้นฉวางอย่างปลอดภัยหายห่วง.. แต่หากเจ้าไม่ยินดีข้าจะ นำหัวของน้องชายเจ้ามาคืนให้เจ้า.. เจ้าว่าเช่นนี้ดีหรือไม่"แม่นางเพ่ยเพ่ยทำได้เพียงจ้องมองไปที่น้องชายของตนเอง ที่กำลังหายลับไปจนสุดสายตา ก่อนจะสลับมามองพระสนมเอกที่มีนิสัยละโมบโลภมาก เธอไม่รู้เลยว่าทางออกของเธอควรเป็นอย่างไร เธอรู้เพียงแต่ใน
ตอนที่ 94 เจ้ามันปีศาจเธอตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องกังวานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนรู้สึกแสบคอ ก่อนจะเด้งตัวมานั่งขัดสมาธิพร้อมทั้งกอดอก อย่างคนที่หงุดหงิด สายตาของเธอกวาดมองไปรอบ ๆ อีกครั้งก่อนจะหลับตาลงเล็กน้อย"ถ้าหงายหลังนอนอีกครั้งจะไปตกที่หลังคาวังหลวงหรือเปล่านะ" แม้ว่าเธอจะคิดเล่น ๆ แต่ทันทีที่เธอหงายหลังนอนลงไปอีกครา ร่างกายของเธอรู้สึกเบาหวิวอีกครั้ง"กำลังเดินทางอีกแล้วสินะ" เธอไม่แม้แต่จะลืมตามามองรอบกาย ทำได้เพียงแค่กอดอกพร้อมปล่อยร่างกายของตัวเองให้ไหลไปตามกระแสลมที่ได้รับฟึ่บ!แต่ครั้งนี้เธอรู้สึกว่าตนเองนั้นตกลงมาที่กองฟางเห็นจะได้ ดวงตาทั้งสองเปิดขึ้นเห็นเพียงแค่ความมืดสนิท เธอค่อย ๆ ใช้มือทั้งสองคลำไปรอบกายรับรู้ได้ว่ามันคือกองฟางจริง ๆ เฟยหลงดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมทั้งสอดสายตามองหาแสงสว่าง"จับมัน!" เธอต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยคำสั่งที่น่ากลัว พร้อมทั้งเสียงฝีเท้าอีกหลายคู่วิ่งเข้ามาในกระท่อมหลังนี้ สองเท้าของเธอก้าวเดินออกไปข้างหน้าตามแสงสว่างที่มีเพียงน้อยนิดนั้น เธอแอบมองจากด้านในเห็นทหารมากมายในชุดดำกำลังจับสองพี่น้องที่ไม่มีทีท่าว่าจะร้
ตอนที่ 93 ความหลังของเพ่ยเพ่ยตู้ม!!แต่ไม่รู้ว่าเป็นเคราะห์ซ้ำหรือกำซัด ทันทีที่ก้นของเธอแตะที่ปุยเมฆขาวนุ่มฟูนั้นร่างกายของเธอก็ได้ตกลงไปในสระน้ำแห่งหนึ่งจนเนื้อตัวเปียกปอนฟู่ว~ทันทีที่เธอนั้นตะเกียกตะกายขึ้นโผล่พ้นน้ำ ริมฝีปากบางได้พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเพื่อฮุบเอาอากาศด้านบน สายตาของเธอกวาดมองไปรอบกายเห็นกระท่อมที่คุ้นตา เฟยหลงจดจำกระท่อมหลังนี้ได้แม่นยำอย่างไม่มีวันลืม"ทำไมจู่ ๆ ถึงได้กลับมาที่กระท่อมกลางป่าอีกแล้ว" แม้ว่าจะสงสัยอยู่ไม่น้อย แต่บัดนี้หลี่เฟยหลงกำลังตะเกียกตะกายให้ตัวเองขึ้นมาจากในสระ ทันทีที่ร่างกายที่เปียกปอนของเธอปะทะเข้ากับสายลมที่พัดเข้ามาไม่ขาดสายทำให้รู้สึกหนาวเหน็บอยู่ไม่น้อย สองเท้าค่อย ๆ เดินขึ้นไปทางกระท่อมหลังนั้น ทุกอย่างดูไม่ผิดปกติจากที่เธอเห็นก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ เพียงแต่ที่แห่งนี้กลับรู้สึกว่ามีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อคราวที่เธอมาในครั้งนั้นอยู่มาก"ท่านยาย.. ยาบำรุงนี้ปรุงอย่างนี้ใช่หรือไม่" ยังไม่ทันที่เธอจะผลักประตูเข้าไป หลี่เฟยหลงได้ยินเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้นภายในกระท่อมหลังนั้น"ไม่ใช่! สมุนไพรชนิดนี้ไม่สามารถเป็นยาบำรุงได้เจ้าไปเอาชิ้นน
ตอนที่ 92 ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอท่านได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ทั้งสองเมื่อได้รับการพ้นโทษจึงได้เร่งเดินทางกลับเข้าจวนทันที ระหว่างทางที่เธอและเขาผ่านนั้น ทั้งคู่พบว่ามีประกาศว่าสกุลเจิงเป็นผู้บริสุทธิ์ทำให้ทั้งสองรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากทั้งสองเดินทางมาจนถึงหน้าจวน เฟยหลงมองไปยังประตูที่ช่างดูเงียบเหงาจนหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ อวี้เจินปรายตามองใบหน้าของเธอเล็กน้อยส่งยิ้มให้เธอก่อนจะใช้มือหนาคว้าข้อมือของเธอไว้ เขาใช้อีกอีกข้างดันเพื่อเปิดประตูหน้าของจวนสกุลเจิง ทันทีที่ประตูจวนเปิดออก ภาพที่เขาเห็นนั้นทำให้ทั้งสองยิ้มกว้างออกมาด้วยความยินดี ท่านแม่ทัพใหญ่เจิงเถาฮ่วน สหายเจิงเจียอวี่ พร้อมด้วยข้ารับใช้ในจวนทั้งหมดกำลังยืนต้อนรับทั้งสอง อยู่ก่อนแล้ว"ยินดีต้อนรับกลับจวนขอรับท่านพ่อ น้องรอง และทุกท่านด้วย" เจิงอบุตรีจินเอ่ยกับทุกคนด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม"ยินดีต้อนรับแม่ทัพน้อยเจิงกลับบ้าน" และเป็นเสียงของผู้เป็นบิดาของจวนเอ่ยต้อนรับเขาเช่นกัน"ยินดีต้อนรับแม่นางที่พ้นโทษ.. ได้รับคืนความบริสุทธิ์" ก่อนที่แม่ทัพใหญ่จะหันมาพูดกับเธอด้วยใบหน้าที่นึกขอบคุณไม่เพียงเท่านั้
ตอนที่ 91 ปิดคดีเฟยหลงเอ่ยออกมากับตัวเองเบา ๆ เมื่อยามที่เธอนั้นนั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำมองดูดอก บัวด้วยสายตาที่ไม่ยินดียินร้ายเดิมทีแล้วท่านยายบอกว่าร่างกายของอาเพ่ยนั้นจะอยู่ได้อีกหนึ่งเดือน แต่สิ่งที่เธอทำผิดพลาดอีกครั้ง คือพลังของเธอไม่สามารถขับพิษในร่างกายของฮ่องเต้ได้จนหมด หากเป็นเช่นนั้นร่างกายของฮ่องเต้ที่เคยชินกับพิษนี้ จะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ใหม่ สิ่งที่จะทำให้พระองค์หายขาดได้จึงไม่ใช่การขับออก แต่เป็นการดึงพิษทั้งหมดเข้ามาในร่างของเธอต่างหาก"เจ้าอยู่ในวังเบื่อหรือไม่" เสียงของเจิงอวี้เจินดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้เธอนั้นรีบหันไปมองชายอันเป็นที่รักพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มให้เขา ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ"ข้าเบื่อมาก" เธอเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายก่อนจะใช้สองมือเล็กกอดรอบแขนของเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน ใช้ใบหน้าหวานซุกไปที่ทรวงอกของเขาก่อนค่อย ๆ ช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าของบุรุษผู้นี้อวี้เจินหันมองรอบกายซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็วแล้วผละออก"ท่านทำอะไรเนี่ย""ก็ที่เจ้าออดอ้อนข้าเช่นนี้ไม่ใช่อยากให้ข้าทำเช่นนี้งั้นหรือ""ท่านไปร่ำเรียนความหน้า
ตอนที่ 90 นับเวลาถอยหลังกับชีวิตที่เหลืออยู่"ความยากลำบากที่หม่อมฉันได้รับ! เด็กสาวที่เคยร่าเริง.. ชื่นชอบการอ่านตำรา ปักผ้า ทำอาหาร มีความสุขกับครอบครัว.. เพียงแค่ชั่วข้ามคืน! ต้องกลายเป็นสตรีที่ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน! ไม่สามารถบอกใครได้ว่ามาจากตระกูลไหน!”“ทำได้เพียงขอข้าวขอน้ำดั่งขอทานข้างถนน! ไม่มีผู้ใดเหลียวแล.. ซุกหัวนอนตามรางหญ้า บางคราก็ต้องแย่งข้าวกับสุนัขเพื่อประทังชีวิต! โดนทำร้ายหยามเหยียดจนแทบไม่เหลือความเป็นคน! พระองค์รู้หรือไม่กว่าที่หม่อมฉันจะเข้ามาทำให้พระองค์สะดุดตาได้มิใช่เรื่องง่าย ความแค้นที่สุมอยู่ในอกของหม่อมฉันมันเกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว.. หากว่านางหมอพิษผู้นั้นไม่หักหลังหม่อมฉัน! ป่านนี้พระองค์ได้ลงไปเฝ้ายมโลกแล้วกับท่านพ่อหม่อมฉันไปแล้ว!""ข้าว่าเจ้าเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว.. ข้ามีเหตุผลของข้า หากเมื่อครานั้นพ่อของเจ้าไม่คิดก่อกบฏข้าย่อมไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์เป็นแน่""โกหก! พระองค์อย่ามาโกหกกับหม่อมฉัน! พ่อของหม่อมฉันไม่มีทางคิดก่อกบฏเป็นแน่! ท่านใส่ร้ายครอบครัวข้า ฆ่าครอบครัวข้าล้างตระกูลยังไม่พอ.. เวลานี้พระองค์ยังคิดจะใส่ร้ายตระกูลข้า! ท่านยังมีความเป็นคนอยู่หรือ