เจียงเซิงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและมองเข้ากับกล้องวงจรปิดที่มีแสงสีแดงตรงมุม สรุปคือเธอถูกหลอกตั้งแต่แรกหรือว่าเธอตกหลุมพรางนี้โดยบังเอิญกันแน่?"คุณกำลังมองหาการยืนยันใบนี้อยู่หรือเปล่า?"ร่างที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมานั้นทำให้เจียงเซิงมีเหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก เธอมองไปที่ซือเย่เจ๋วที่ยืนอยู่นอกประตูพร้อมกับเอกสารปิดผนึกอีกฉบับด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนักเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ซือเย่เจ๋วได้รับผลการทดสอบที่ส่งมาจากเมืองจินเฉิงแล้ว เขาได้อ่านข้อมูลแล้ว มีตัวอักษรสีแดงที่พิมพ์ว่า "ยืนยันเป็นพ่อลูกทางสายเลือด" อย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่าเจียงเหยียนเหยียนและเจียงนวนนวนเป็นลูกของเขาจริงๆเป็นเวลาหกปีแล้ว เขาไม่เพียงแต่มีลูกสองคนเท่านั้น แต่เด็กทั้งสองคนนั้นยังอยู่รอบๆ ตัวเขาอีกด้วยถ้าไม่ใช่ว่าเขาตรวจสอบจริงๆ ได้ข้อสรุปยืนยันจริงๆ ขนาดคอยระมัดระวังไว้ด้วย แล้วเขาจะจับผู้หญิงคนนี้ออกมาได้อย่างไร?"คุณฉลาดมาก คุณคือคนที่เปลี่ยนผลการทดสอบก่อนหน้านี้มั้ง?""ฉันไม่รู้ว่าคุณซือกำลังพูดอะไรอยู่" เจียงเซิงพยายามสงบสติอารมณ์ เธอไม่สามารถตื่นตระหนกได้ซือเย่เจ๋วเดินไปหาเธอและหรี่ตาลง "คุณยังแกล้งทำตัวไม่รู้
เมื่อเห็นฉากนี้ เจียงเวยก็แทบคลั่งด้วยความอิจฉา!"เย่เจ๋ว!"ซือเย่เจ๋วค่อยๆ ปล่อยเจียงเซิงไป ใบหน้าของเขาบึ้งตึง ฮึ นี่คือเหตุผลที่ผู้หญิงคนนี้ริเริ่มอย่างกะทันหันเนี่ยนะเขาหันไปมองเธอ "คุณมาทำอะไรที่นี่"เจียงเซิงยกมือขึ้นเช็ดปากและเช็ดลิปสติกออกพอดี ลิปสติกที่ถูกเช็ดนั้นได้ติดในแก้มโดยบังเอิญ มันชวนให้ผู้คนคิดมากได้ง่ายเลยเธอดึงคอเสื้อของซือเย่เจ๋ว เลิกคิ้วแล้วเยาะเย้ย "ทักษะการจูบของคุณซือก็ธรรมดามากนะ"สายตาของซือเย่เจ๋วฉายแววความเย็นชาไม่พอใจเขาเหรอ?ขณะที่เจียงเซิงกำลังจะจากไป แต่จู่ๆ เจียงเซิ่น พ่อของเธอก็ปรากฏตัวออกจากด้านหลังเจียงเวย ซึ่งทำให้เจียงเซิงอึ้งไปเจียงเซิ่นพบว่าเจียงเซิงอยู่ในห้องทำงานกับซือเย่เจ๋วตามลำพังด้วยใบหน้าที่ "ไม่น่ามอง" และที่ริมฝีปากของซือเย่เจ๋วมีรอยกัดด้วย ทันใดนั้นเขาก็หน้าเขียวคล้ำถมึงทึงด้วยความโกรธ"เจียงเซิง เธอ... เธอกล้าดียังไง..." เจียงเซิ่นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จากนั้นก็หมดสติไป"พ่อ!"เมื่อมองดูเจียงเวยรีบวิ่งไปหาพ่อ เท้าที่เจียงเซิงกำลังจะเดินเข้าไปนั้นราวกับถูกมัดไว้อยู่กับที่เดิม**เจียงเซิงพิงผนังทางเดินของโรงพยาบาล มีสีหน้
หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็ออกจากห้องคนไข้โดยไม่หันกลับมามองอีกเมื่อเธอถึงทางเข้าลิฟต์ เจียงเวยก็ไล่ตามออกไป"เจียงเซิง เธอหยุดนะ!"เจียงเซิงหันไปมองเธอ "ทำไม คุณโน้มน้าวฉันไม่ได้ เลยจงใจพาพ่อไปที่ TG เพื่อให้ฉันกลับไวน์เนอร์เหรอ"เมื่อพูดถึงเรื่องที่เจียงเซิ่นโกรธจนเป็นลมนั้น เธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวด้วยเหรอ?เจียงเวยกัดฟันอย่างขมขื่น "เป็นพ่ออยากมาเกลี้ยกล่อมเธอเอง และเธอคือคนที่ทำให้พ่อเป็นลม!""เจียงเซิง ในสายตาของพ่อ เย่เจ๋วและฉันต่างหากเป็นเนื้อคู่กัน ถ้าเธอรู้ทันทางทีดีก็คือออกจาก TG ไปซะ ไม่งั้น ฉันจะให้ไอ้เด็กเวรสองคนนั้นหาย... ฮึ!"เจียงเซิงบีบคอของเธอและผลักเธอเข้ากับกำแพง ดวงตาของเธอเย็นชาอย่างน่ากลัว "ถ้ากล้าดีคุณก็ลองดู?""เธอคิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ ถ้าแน่จริงก็บีบคอฉันให้ตายเลย!" เจียงเวยหัวเราะอย่างโหดร้าย"ฉันจะไม่บีบคอคุณให้ตายหรอก เพราะมันง่ายเกินไปสำหรับคุณที่จะปล่อยให้คุณตาย" เจียงเซิงเข้ามาใกล้เธอ และยกมุมปากขึ้น "ฉันอยากเห็นเธอดิ้นรนด้วยความสิ้นหวัง ไม่ว่าจะเป็นบัญชีเมื่อหกปีก่อนหรือบัญชีที่ค้างกับลูกฉัน คุณต้องชดใช้หนี้พวกนี้ไม่ช้าก็เร็ว และเวลาที่ฉันเหลือให้เค
เขาส่งเสียงอย่างไม่แยแสเสียงหนึ่ง "ถ้าคุณว่าขู่งั้นก็ถือว่าขู่ก็แล้วกัน เพราะอยู่ภายใต้สายตาของผม คุณคิดว่าคุณหนีพ้นได้สำเร็จเหรอ?"เจียงเซิง "..."วันรุ่งขึ้นเจียงเซิงถึงบริษัทตามปกติ และทันใดนั้นก็เห็นซือเย่เจ๋วและหลัวเชว่เดินเข้ามาจากมุมทางเดินยังคงมีรอยกัดบนริมฝีปากของซือเย่เจ๋ว และมีแผลตกสะเก็ดเล็ก ๆ บนบาดแผล เห็นได้ชัดว่าเมื่อวานนี้เธอได้ออกแรงมากเดิมทีเธอกะว่าจะหลบหนีไปแต่มันก็ไม่ทันแล้วเจียงเซิงมองไปทางอื่นโดยพยายามไม่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และยิ้มอย่างเฉยเมยว่า "อรุณสวัสดิ์ คุณซือ"ซือเย่เจ๋วจ้องมองเธอครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเบาๆ ว่า "ผมคิดซะว่าคุณจะหลบหน้าผม""ภายใต้อาคารเดียวกัน มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอหน้ากัน ฉันไม่ได้ทำอะไรน่าละอายเลย แล้วทำไมฉันถึงต้องหลบหน้าคุณด้วยล่ะ" เจียงเซิงยิ้มซือเย่เจ๋วขมวดคิ้วเล็กน้อยแม้แต่รอยยิ้มของผู้หญิงคนนี้ก็ยังเสแสร้งเลย และการแสดงออกที่มีต่อเขาล้วนแต่ที่เธอเสแสร้งออกมา เขาไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเธอยิ้มมาก่อนแต่คนที่เธอยิ้มให้นั้นไม่ใช่เขาเขาจำได้ว่า "ผู้ชาย" ที่เธอพูดถึงในการโทรสองครั้งก่อนหน้านี้ คนๆ นั้นคือใครกันแ
หลังจากอดทนมาหลายวินาที ในที่สุดพนักงานพวกนั้นก็เดินออกไป เจียงเซิงยกมือที่ถูกเขาจับไว้อย่างไม่แยแสพร้อมกับยิ้มประชดประชันว่า "คุณซือ คุณชอบเล่นอะไรที่กระตุ้นอารมณ์แบบนี้งั้นเหรอ?"ซือเย่เจ๋วมองเธอครู่หนึ่ง สายตาฉายแววความเย็นชาออกมา "แล้วคุณอยากเล่นอะไรกระตุ้นอารมณ์มากกว่าน้ไหมล่ะ?"ใบหน้าของเจียงเซิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ชายคนนี้ำม่ใช่ว่า...จู่ๆ ซือเย่เจ๋วก็หันกลับมาและยื่นมือออกไปพยุงกำแพง โอบเธอไว้ในวงแขน"คุณซือ คุณอย่ามากเกินไปนะ!"เจียงเซิงกัดฟัน ทันใดนั้นเธอก็ยกขาขึ้นและงอเข่าในท่าจู่โจม อย่างไรก็ตาม มือใหญ่ของเขารีบจับขาที่ยกขึ้นของเธอ แล้วกดตัวของเธอแนบกับเธอ ใครจะรู้ว่าท่านี้น่าละอายขนาดไหน!"ซือเย่เจ๋ว ปล่อยฉันไปนะ!"ในดวงตาของเจียงเซิงเต็มไปด้วยความโกรธดวงตาของซือเย่เจ๋วหรี่ลง หลังจากลิฟต์หยุด จู่ๆ เขาก็หันหลังกลับและเปลี่ยนที่ยืนกับเธอประตูลิฟต์เปิดออก เมื่อพนักงานชายสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นอกลิฟต์นั้นเห็นฉากนี้ก็ตกใจมากจนเอกสารล้มลงกับพื้นเจียงเซิงหันกลับมาด้วยความตกใจเมื่อสบตาเข้ากับสายตาที่ประหลาดใจของทั้งสองคนนั้น พวกเขารีบหยิบเอกสารขึ้น และหยุดขึ้นลิฟต์!เ
เฟรด นักออกแบบอาวุโสของบริษัทจิวเวลรี่ฮัวไหลอีกอย่างเขายังรู้ด้วยว่าเธอคือผู้หญิงของซือเย่เจ๋ว ซึ่งทำให้เจียงเวยรู้สึกมีความสุขในใจใช่สิ ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็รู้ดีว่า ท่านเจ๋วมีแฟนแล้ว สำหรับบริษัทใหญ่อย่าง บริษัทจิวเวลรี่ฮัวไหล ถ้าเธอสามารถร่วมมือกับฮัวไหลได้ พ่อของเธอคงให้ความสำคัญกับเธอมากอย่างแน่นอนหลังจากพูดคุยกันประมาณสิบนาที เฟรดก็ยื่นต้นฉบับการออกแบบหลายฉบับให้เธอ "นี่คือต้นฉบับที่ผมออกแบบ และมันยังเป็นธีมการสร้างสรรค์ของผมในครั้งนี้ 'The light of life' คำแปลคือแสงสว่างแห่งชีวิต นี่คือการออกแบบแบบโกธิกเก่าที่ผมทำครั้งแรก"เจียงเวยมองไปที่ภาพวาดการออกแบบด้วยสีหน้าประหลาดใจ ถ้า ไวน์เนอร์มีการออกแบบเช่นนี้มาแต่แรก แล้วมันคงไม่ต้องตกอับอย่างตอนนี้!เฮอะ คิดว่าเจียงเซิงเธอเป็นคนเดียวที่มีความสามารถงั้นเหรอ?เฟรดคนนี้ก็สามารถเอาชนะเธออย่างง่ายดาย!หลังจากที่เจียงเวยเซ็นสัญญากับเฟรด เธอก็ไปหาพ่อพร้อมกับสัญญาเจียงเซิ่นเห็นว่าเจียงเวยสามารถโน้มน้าวนักออกแบบจากบริษัทจิวเวลรี่ฮัวไหลเพื่อร่วมมือกับเธอ และเขาก็ประทับใจในตัวเธอมาก "เวยเวยเก่งนะ เธอสมเป็นลูกสาวที่ดีของฉันจริงๆ ฉั
เพราะฉะนั้นมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยดวงตาของซือเย่เจ๋วอดไม่ได้ที่จะเย็นชาลง เจียงเซิงปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเป็นเธอในคืนเมื่อหกปีที่แล้วนั้น ที่เธอคอยระมัดระวังและต่อต้านเขาก็เป็นเพราะเจียงเวยหมด?ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอต่อต้านและรังเกียจเจียงเวยมากขนาดนั้นในตอนแรก เธอถูกเจียงเวยวางแผนทำร้าย หากผู้จัดการโรงแรมไม่ได้เอาคีย์การ์ดห้องผิดในคืนนั้น เกรงว่าผู้ชายที่เจียงเซิงต้องมีอะไรกันในคืนนั้นก็คือหลินเซียนยี่พอคิดได้ดังนั้น สีหน้าของซือเย่เจ๋วฉายแววอำมหิต"ใช่แล้ว ท่านเจ๋ว ผมสอบสวนได้ว่าเรื่องที่คุณหนูเจียงถูกวางยาในคลับนั้น คือคุณเจียงเวยพาเธอไปที่นั่น และคนที่เธอพบชื่อหลินเซียนยี่"หลัวเชว่รู้ว่าที่ซือเย่เจ๋วว่าหลินเซียนยี่เป็นเพียงบทบาทเล็กๆ แต่ด้วยความรอบคอบ หลัวเชว่จึงไปสอบสวนเรื่องเกี่ยวกับหลินเซียนยี่ด้วยตัวเองถ้าไม่สอบสวนก็คงไม่รู้ความจริงมันน่าตกใจขนาดไหน"หลินเซียนยี่เคยมีความสัมพันธ์ร่วมมือกับประธานเจียงมาระยะหนึ่งแล้ว ได้ยินมาว่าหลินเซียนยี่เป็นคนลามกมาก อดีตภรรยาของเขาหย่ากับเขาก็เพราะหลินเซียนยี่คบกับผู้หญิงนับไม่ถ้วน อีกอย่างเลือกแต่สาวที่มีอายุน้อย ผมเดาว่าเขาคงมุ่งเ
แก้มของเจียงเซิงแดงก่ำ เธอกลับโดนเขาแกล้ง!เธอสะบัดมือของเขาออกพลางพูดว่า "น่าเบื่อจัง"เธอหันหลังกลับและต้องการออกไป แต่ซือเย่เจ๋วดึงเธอกลับและผลักเธอเข้ากับกำแพงมือที่เธอจะต่อต้านนั้นถูกมัดไว้ เจียงเซิงเงยหน้ามองเขาด้วยความหวาดกลัว "ซือเย่เจ๋ว ถ้าคุณกล้าแตะต้องฉัน...""คุณบอกให้ผมสอนคุณไม่ใช่เหรอ?" ซือเย่เจ๋วเข้าหาเธอ และมือที่จับเอวของเธอเริ่มขยับไปที่หัวเข็มขัดด้านหลังเธอ และเขาก็ปลดมันออกอย่างอ่อนโยนฝ่ามือเย็นๆ ขยับไปมาบนร่างกายของเธอ ทำให้เจียงเซิงตัวสั่น เธอกัดฟันด้วยดวงตาสีแดง "ซือเย่เจ๋ว!"ซือเย่เจ๋วก้มศีรษะลงเพื่อจูบเธอโดยไม่ให้โอกาสเธอได้พูดอะไรแม่งเอ้ย!เจียงเซิงบิดตัวของเธออย่างต่อต้าน และเสื้อผ้าบนตัวของเธอก็ถูกเขาทำจนเละเทะ สิ่งที่แย่ที่สุดคือร่างกายของเธอไม่ได้ปฏิเสธมัน...ราวกับว่าเขารับรู้ได้ว่าเจียงเซิงอยากกัดเขาอีกครั้ง เขาจึงรีบถอดออกจากริมฝีปากของเธอซึ่งทำให้เธอเกือบจะกัดตัวเองเข้า ในช่วงเวลาที่ห่างออกไป เจียงเซิงยกมือขึ้นเพื่อตบเขาอย่างไรก็ตาม ข้อมือของเธอถูกเขาจับไว้เขาจับหลังส่วนล่างของเธอแล้วกดเธอเข้าหาเขา ริมฝีปากบางๆ ของเขาเม้มแน่นและถามว่า "
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ