ซือเย่เจ๋วอึ้งไปเล็กน้อย เด็กสองคนนี้ฉลาดมากทีเดียวแต่เมื่อเขามองไปที่เจียงเหยียนเหยียน กลับพบว่าสายตาที่เจียงเหยียนเหยียนมองเขาค่อนข้างเยือกเย็นซือเย่เจ๋ววางหนวนหนวนลงและเดินไปหาเจียงเหยียนเหยียน"ท่านเจ๋ว คุณก็มาแล้วเหรอคะ?" แองเจล่าตะลึง หรือว่ามาเพื่อเด็กสองคนนี้เลยเหรอ?ซือเย่เจ๋วพยักหน้าและยกมือขึ้นเพื่อลูบหัวของเจียงเหยียนเหยียนนั้น แต่เจียงเหยียนเหยียนหลบไป "คุณอย่าแตะต้องผม ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เราคงไม่ถูกลักพาตัว"ซือเย่เจ๋วขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่เจียงเหยียนเหยียนโดยไม่พูดอะไร เป็นเพราะเขาที่พวกเขาถูกลักพาตัวเหรอ?เจียงนวนนวนวิ่งไปจับมือของเจียงเหยียนเหยียน "พี่ชาย พี่อย่าพูดแบบนั้นสินะ""ก็มันเรื่องจริงไง ผมได้ยินคนลักพาตัวสองคนโทรคุย เพราะผู้หญิงของเขา!"เมื่อเห็นดวงตาของเจียงเหยียนเหยียนเต็มไปด้วยความโกรธและน้ำตา ซือเย่เจ๋วก็สะดุ้งเล็กน้อยสีหน้าของหลัวเชว่ค่อนข้างซับซ้อน ผู้หญิงของท่านเจ๋ว หรือว่าคือ...คุณเจียงเวย?ซือเย่เจ๋วค่อยๆ ลดตัวลงลงเพื่อมองเขาอยู่ในระดับเดียวกัน แม้ว่าดวงตาของเด็กน้อยตรงหน้านี้จะเป็นสีแดง แต่เขาก็ยังคงมีความอำมหิตและดื้อรั้นเล็กน้อ
เซียวหลาน เจียงเวย พวกคุณบีบบังคับฉันก่อน!ณ คฤหาสน์ตระกูลซือรถขับช้าๆ บนเส้นทางสีเขียวซึ่งข้างๆ ถนนเรียงรายไปด้วยต้นมะเดื่อ และสามารถเห็นน้ำพุประติมากรรมที่อยู่ตรงกลางจัตุรัสทรงกลมอย่างไม่ค่อยชัดเจนด้านหลังน้ำพุประติมากรรมมีอาคารวิลล่าสไตล์ยุโรปที่มีลักษณะคล้ายปราสาทโบราณตั้งตระหง่านขึ้นมาจากพื้นดิน"คุณลุง ลุงอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ด้วยคนเดียวเหรอ"เจียงนวนนวนมองไปที่อาคารวิลล่าสุดหรู ซึ่งใหญ่กว่าบ้านของพวกเขาตั้งไม่รู้กี่เท่าเลย!ซือเย่เจ๋วครุ่นคิด "อืม ถ้าพวกหนูอยากอาศัยอยู่ที่นี่ก็ได้นะ"เพราะอีกไม่นานพวกเขาก็ต้องมาอยู่ที่นี่อยู่ดีเจียงเหยียนเหยียนหน้าหนี "เราไม่มาอยู่ที่นี่หรอก"ซือเย่เจ๋วยิ้มเบาๆ และไม่พูดอะไรรถจอดอยู่ด้านนอกทางเข้าหลัก พ่อบ้านที่รออยู่ข้างนอกก็ก้าวออกมาเปิดประตูเบาะหลัง แต่เมื่อเห็นเด็กสองคนอยู่ในรถ พ่อบ้านก็ตกตะลึงทันทีเด็กทั้งสองคนลงจากรถทีละคน พ่อบ้านมองดูพวกเขา จากนั้นก็มองยังซือเย่เจ๋วที่กำลังลงจากรถ แล้วกวาดสายตามองพวกเขาอีกครั้ง"ท่านเจ๋ว พวกเขา..."ซือเย่เจ๋วไม่ตอบ และตามพวกเขาเข้าไปหลัวเชว่เดินไปหาพ่อบ้านแล้วพูดว่า "ลุงเฉิน ค
เซียวหลานเริ่มตื่นตระหนก เพราะเจียงเซิงนังตัวดีนั่นพูดจริงทำจริงเลยเจียงเวยกัดริมฝีปากของเธอ "คงไม่มั้ง แต่ถ้าตายแล้วก็ไม่เห็นเป็นอะไร... ""แบบนี้ได้ยังไง!"เซียวหลานเดินไปหาเธอ "นังนั่นบอกว่าถ้าเด็กสองคนนั้นตาย เธอก็จะบอกเรื่องทั้งหมดที่เกิดในเมื่อหกปีที่แล้วกับท่านเจ๋ว แถมยังจะแย่งชิงท่านเจ๋วไป อย่าลืมนะ ตอนนี้เธอรู้แล้วท่านเจ๋วเป็นผู้ชายในคืนนั้นเมื่อหกปีที่แล้ว"เจียงเวยกำมือของเธอแน่น ให้ตายเถอะ เดิมทีเธอแค่อยากจะข่มขู่เจียงเซิงสักหน่อย แต่ตอนนี้งานเข้าจริงๆ เรื่องทุกอย่างยิ่งซับซ้อนมากขึ้นไปหมด!"ไม่งั้น ให้ฉันไปหาเย่เจ๋วเถอะ ฉันแค่บอกข่าวนี้ให้เขาทราบ และปล่อยให้เย่เจ๋วหาพวกมัน บางทีเย่เจ๋วก็จะไม่สงสัยฉันแล้วก็ได้!"เจียงเวยคิดว่านี่เป็นทางออกทางหนึ่งเซียวหลานเองก็คิดว่ามันใช้ได้ เลยเร่งให้เธอไปทำบนโต๊ะทานอาหารสีขาวยาวในคฤหาสน์ตระกูลซือ เด็กทั้งสองมองอาหารตะวันตกชั้นเลิศเต็มโต๊ะ และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเข้าใจว่าอะไรคือ "มีทุกอย่าง""คุณลุง ปกติลุงกินของเยอะบนโต๊ะยาวๆ แบบนี้ด้วยคนเดียวตลอดเหรอ?" เจียงนวนนวนพูดด้วยสีหน้าเหลือเชื่อซือเย่เจ๋วนั่งอยู่หัวโต๊ะ ตัดสเต็
หลัวเชว่รู้สึกเศร้าใจกับ IQ ของเธอจริงๆเธอริเริ่มมาที่นี่เพื่อมาช่วยงาน แถมยังรู้เรื่องเกี่ยวกับเด็กสองคนนี้ถูกลักพาตัวด้วย นี่ไม่เท่ากับว่าเธอยอมรับว่าเธอเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงหรือ?ดวงตาของซือเย่เจ๋วเปลี่ยนเป็นเฉยเมย "คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับพวกเขา""ฉัน...""คุณรู้จักแม่ของพวกเขาเหรอ"ใบหน้าของเจียงเวยเปลี่ยนไปเล็กน้อย ให้ตายเถอะ เธอจะลืมได้อย่างไรว่าซือเย่เจ๋วยังไม่รู้เรื่อง!"เย่เจ๋ว ฉันไม่รู้จัก ฉันแค่ได้ยินเรื่องนี้จากคนอื่นมา""จากใคร?"ซือเย่เจ๋วเผยความหมดอดทนอย่างเห็นได้ชัดเจียงเวยตัวสั่น และริมฝีปากของเธอก็ค่อยๆ ซีดลง " เย่เจ๋ว นี่คุณกำลังสงสัยในตัวฉันเหรอ? คุณรู้จักฉันดีที่สุดนะ ฉันไม่มีทางที่จะทำแบบนี้!"จริงสิ ก่อนหน้านี้เขามักรู้สึกว่าเธอเป็นคนอ่อนแอและขี้กลัว จะไม่มีทางกล้าทำอะไรที่เกินเหตุเกินผลออกมาได้แต่คนที่อยู่ข้างกายเขามาหกปี ธาตุแท้ที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากอันขี้กลัวและอ่อนแอของผู้หญิงคนนี้จะเป็นยังไงกันแน่ ถึงโหดร้ายจนลงมือทำร้ายเด็กได้ลงคอ?"ต่อไปคุณไม่ต้องมาที่นี่อีก"คำพูดนี้ทำให้เจียงเวยตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ดูเหมือนไม่อยากเชื่อมาก "เย่
ชายวัยกลางคนดูตื่นตระหนก แต่เขารับเงินห้าล้านจากเซียวหลานไปแล้ว หากเขาทรยศเธอ เขาจะ..."คือ...คือคุณเจียงเวยครับ"บอดี้การ์ดชุดดำเตะเขาล้มลงจากด้านหลัง ก่อนหยิบปืนออกมาแล้วชี้ไปที่หัวของเขาชายวัยกลางคนตื่นตระหนกมากราวกับสายธนูที่ถูกดึงจนสุด และหัวใจของเขาก็เต้นรัว เขาคิดอยู่ว่าถ้าของที่อยู่บนหัวดังขึ้น เขาคงต้องไปพบเจ้าแห่งนรกเข้าแล้ว!เขายังสนใจเรื่องเงินห้าล้านนั้นทำไมกัน!เขาสั่นไปทั้งตัว ปากเปิดครึ่งหนึ่ง และเขาหวาดกลัวจนพูดตะกุกตะกักว่า "คืนนั้นคือ...คือคือ..."เมื่อได้ยินเสียงคลิกที่ด้านหลังศีรษะ กางเกงของชายวัยกลางคนก็เปียกโชกไป "คืนนั้นไม่ใช่คุณเจียงเวย แต่แต่ๆ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นผู้หญิงคนไหนครับ!"เขาบอกตามความจริงเพราะเขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นเลย รู้แค่ว่า หลังจากส่งผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในห้องแล้ว จากนั้นท่านเจ๋วก็เข้าไปข้างในด้วยเมื่อเขาได้ยินว่าไม่ใช่เจียงเวย ซือเย่เจ๋วก็ไม่สนใจคำตอบที่เหลือเพราะความจริงก็เกือบจะชัดเจนแล้วเขาวางขาลง เปลี่ยนท่านั่ง และโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อมองเขา "เมื่อหกปีก่อน นายบอกฉันว่าคือ เจียงเวย""ผมโกหกคุณ แต่ผมก็ถูกบังคับจริงๆ... คุณน
"ไวน์เนอร์เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันให้เธอรับช่วงต่อไวน์เนอร์ เพราะฉันหวังว่าเธอจะสามารถเรียนรู้การบิหารบริษัทได้ ฉันยังให้ทรัพยากรมากมายแกับเธอด้วย มันหายไปไหนหมด"เจียงเซิ่นโยนเอกสารลงบนโต๊ะ วันนี้ตอนที่บัญชีโทรหาเขา เขาโกรธมากแทบจะระเบิดออกแล้วขาดทุนตั้งสามสิบล้านเต็มๆ!ท่านเจ๋วทุ่มห้าสิบล้านให้ไวน์เนอร์ แต่ยังขาดทุนสามสิบล้านเลยเหรอ?เซียวหลานเดินไปข้างๆ เจียงเวย และมองไปดูเจียงเซิ่น "ที่รัก คุณจะมาโทษเวยเวยได้อย่างไร คุณก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้เวยเวยไม่ค่อยถนัดกับอุตสาหกรรมเครื่องประดับ แล้วเธอถูกหลอก มันจะโทษเธอได้รึ?""ฉันไม่ได้ให้เธอเรียนรู้เหรอ ทุกอย่างที่เธอได้เรียนรู้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ล้วนไร้สาระรึไง?" เจียงเซิ่นดุอย่างจริงจังเจียงเวยกำหมัดแน่น เธอเศร้าหมองมามากพอแล้วในช่วงสองวันที่ผ่านมา แต่เธอไม่คาดคิดว่าจะถูกพ่อของเธอดุแบบนี้อีก เธอจะทนไหวที่ไหนกันเซียวหลานเห็นหน้าลูกสาวของเธอจึงรีบพูดกับเจียงเซิ่นว่า "ถ้าคุณคิดว่าเวยเวยทำได้ไม่ดีพอ แล้วทำไมคุณไม่เรียกเซิงเซิงกลับมาไวน์เนอร์ล่ะ ตอนนี้เซิงเซิงเป็นนักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ ชื่อโซรานะ ถ้ามีเธออยู่ ไวน์เนอร์จะไม่ขาดทุ
เจียงเซิงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและมองเข้ากับกล้องวงจรปิดที่มีแสงสีแดงตรงมุม สรุปคือเธอถูกหลอกตั้งแต่แรกหรือว่าเธอตกหลุมพรางนี้โดยบังเอิญกันแน่?"คุณกำลังมองหาการยืนยันใบนี้อยู่หรือเปล่า?"ร่างที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมานั้นทำให้เจียงเซิงมีเหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก เธอมองไปที่ซือเย่เจ๋วที่ยืนอยู่นอกประตูพร้อมกับเอกสารปิดผนึกอีกฉบับด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนักเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ซือเย่เจ๋วได้รับผลการทดสอบที่ส่งมาจากเมืองจินเฉิงแล้ว เขาได้อ่านข้อมูลแล้ว มีตัวอักษรสีแดงที่พิมพ์ว่า "ยืนยันเป็นพ่อลูกทางสายเลือด" อย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่าเจียงเหยียนเหยียนและเจียงนวนนวนเป็นลูกของเขาจริงๆเป็นเวลาหกปีแล้ว เขาไม่เพียงแต่มีลูกสองคนเท่านั้น แต่เด็กทั้งสองคนนั้นยังอยู่รอบๆ ตัวเขาอีกด้วยถ้าไม่ใช่ว่าเขาตรวจสอบจริงๆ ได้ข้อสรุปยืนยันจริงๆ ขนาดคอยระมัดระวังไว้ด้วย แล้วเขาจะจับผู้หญิงคนนี้ออกมาได้อย่างไร?"คุณฉลาดมาก คุณคือคนที่เปลี่ยนผลการทดสอบก่อนหน้านี้มั้ง?""ฉันไม่รู้ว่าคุณซือกำลังพูดอะไรอยู่" เจียงเซิงพยายามสงบสติอารมณ์ เธอไม่สามารถตื่นตระหนกได้ซือเย่เจ๋วเดินไปหาเธอและหรี่ตาลง "คุณยังแกล้งทำตัวไม่รู้
เมื่อเห็นฉากนี้ เจียงเวยก็แทบคลั่งด้วยความอิจฉา!"เย่เจ๋ว!"ซือเย่เจ๋วค่อยๆ ปล่อยเจียงเซิงไป ใบหน้าของเขาบึ้งตึง ฮึ นี่คือเหตุผลที่ผู้หญิงคนนี้ริเริ่มอย่างกะทันหันเนี่ยนะเขาหันไปมองเธอ "คุณมาทำอะไรที่นี่"เจียงเซิงยกมือขึ้นเช็ดปากและเช็ดลิปสติกออกพอดี ลิปสติกที่ถูกเช็ดนั้นได้ติดในแก้มโดยบังเอิญ มันชวนให้ผู้คนคิดมากได้ง่ายเลยเธอดึงคอเสื้อของซือเย่เจ๋ว เลิกคิ้วแล้วเยาะเย้ย "ทักษะการจูบของคุณซือก็ธรรมดามากนะ"สายตาของซือเย่เจ๋วฉายแววความเย็นชาไม่พอใจเขาเหรอ?ขณะที่เจียงเซิงกำลังจะจากไป แต่จู่ๆ เจียงเซิ่น พ่อของเธอก็ปรากฏตัวออกจากด้านหลังเจียงเวย ซึ่งทำให้เจียงเซิงอึ้งไปเจียงเซิ่นพบว่าเจียงเซิงอยู่ในห้องทำงานกับซือเย่เจ๋วตามลำพังด้วยใบหน้าที่ "ไม่น่ามอง" และที่ริมฝีปากของซือเย่เจ๋วมีรอยกัดด้วย ทันใดนั้นเขาก็หน้าเขียวคล้ำถมึงทึงด้วยความโกรธ"เจียงเซิง เธอ... เธอกล้าดียังไง..." เจียงเซิ่นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จากนั้นก็หมดสติไป"พ่อ!"เมื่อมองดูเจียงเวยรีบวิ่งไปหาพ่อ เท้าที่เจียงเซิงกำลังจะเดินเข้าไปนั้นราวกับถูกมัดไว้อยู่กับที่เดิม**เจียงเซิงพิงผนังทางเดินของโรงพยาบาล มีสีหน้
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ