แต่ซูหลิงโหรวไม่ได้สนใจ เธอถือปืนจ่อไปที่ศีรษะของซือเย่เจ๋ว "ซือเย่เจ๋ว ตอนนั้นฉันไม่ได้อยากจะลงมือกับคุณจริง ๆ แต่ทำไมคุณถึงใจร้ายกับฉันแบบนี้นะ?"เธอน้ำตาคลอเบ้า มุมปากกลับเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา "เมื่อก่อนฉันออมมือ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ในเมื่อฉันไม่ได้ งั้นฉันก็จะทำลายทิ้งซะ ฉันจะให้นังสารเลวนั่นได้เห็นว่า สุดท้ายคุณก็ยังถูกเธอฆ่าตาย!"เจียงเหยียนเหยียนดิ้นมือหลุดจากออกจากเชือกจู่ ๆ ก็พุ่งเข้าไปกระแทกซูหลิงโหรวจนล้ม ปืนที่อยู่ในมือกระเด็นออกไป"เหยียนเหยียน!"เจียงเหยียนเหยียนรีบเตะปืนไปที่เท้าซือเย่เจ๋ว ซือเย่เจ๋วก็หยิบปืนขึ้นมาซูหลิงโหรวที่คลานอยู่บนพื้นสายตาดุดัน เธอชูรีโหมตขึ้นมา และตะโกนท่ามกลางสายลม "พวกแกไม่มีใครหนีไปได้ทั้งนั้น!""ปัง!"ซือเย่เจ๋วรีบยิงไปที่มือของเธอ ก่อนที่รีโหมตจะหลุดออกจากมือของเธอ เธอกลับกดรีโหมตตั้งนั้นแล้ว ระเบิดที่ผูกติดอยู่บนตัวของเธอเริ่มนับเวลาถอยหลังอย่างรวดเร็วซูหลิงโหรวโผเข้าไปกอดซือเย่เจ๋วไว้อย่างบ้าคลั่ง และผลักเขาลงไปในทะเล"แด๊ดดี้!""เย่เจ๋ว!"“ซือเย่เจ๋ว!”เจียงเซิงที่ตามมามองเห็นภาพนี้ และจะพุ่งขึ้นไปบนเรือ แต่กลับถูกหลัวเ
"แม่ของผมล่ะ?" ซือเย่เจ๋วรู้สึกหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาเลิกผ้าห่มจะลุกขึ้น หลัวเชว่จับเขาดันกลับไป "ท่านเจ๋ว คุณบาดเจ็บยังไม่หายดี"เจียงเซิงเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย ซือเย่เจ๋วเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ เขาชะงักงันเล็กน้อยหลัวเชว่หันไปมองเธอ "คุณเจียง คุณมาแล้วเหรอครับ ตอนนี้คุณก็เห็นแล้ว ท่านเจ๋วเขาอาจจะ..."“ฉันรู้” เจียงเซิงเดินไปที่ขอบเตียงแล้วโน้มตัวไปมองซือเย่เจ๋ว ด้วยรอยยิ้มบาง ๆซือเย่เจ๋วสีหน้านิ่งเฉย "คุณเป็นใคร?"“ฉันเหรอ?” เจียงเซิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันคือภรรยาที่คุณแต่งงานตอนอายุสามสิบสองปี”หลัวเชว่มองเจียงเซิงด้วยความประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ความทรงจำของท่านเจ๋วในตอนนี้เหลือเพียงก่อนอายุสิบเจ็ดปี ถึงแม้จะพูดว่าภายหลังจะสามารถฟื้นฟูได้ แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ทำได้แค่นี้แล้วซือเย่เจ๋วมองเธอด้วยสีหน้านิ่งเฉย ใบหน้าที่เย็นชากลับไม่มีความรังเกียจ และความต่อต้านการเข้าใกล้จากคนแปลกหน้าถึงขั้นที่เมื่อเธอขยับเข้าใกล้ เขาก็รู้สึกใจสั่นตอนที่เขายกมือขึ้นมาลูบแก้มของเธอโดยไม่รู้ตัว กลับถูกเธอจับข้อมือเอาไว้แล้วยิ้มพูด "ฉันเป็นภรรยาในอนาคตของคุณ ไม่ใช่ตอนนี้สักหน่อย ดังน
"ตอนนี้คุณเป็นเด็กน้อยอายุสิบเจ็ดปี ไม่เรียกฉันว่าพี่แล้วเรียกอะไร?" เธอลูบศีรษะของเขาซือเย่เจ๋วปัดมือของเธอออก "แต่ผมก็เป็นผู้ชาย""อายุสิบเจ็ดนับว่าเป็นผู้ชายเหรอ?""คุณ..." ซือเย่เจ๋วพูดไม่ออก จากนั้นเบือนหน้าหนีไม่มองเธอ "ผมชอบคุณได้อย่างไร เพียงแค่เพราะคุณหน้าตาสวยเหรอ?"เจียงเซิงชักมือกลับและไม่ได้โมโห "ใช่น่ะสิ คุณบอกว่าเห็นแก่ความสวยของฉัน และก็ตามตื้อฉันไม่เลิก ฉันถึงได้แต่งงานกับคุณ"เขาเลิกเปลือกตาขึ้นมองเธอ "ผมความคิดตื้นขนาดนี้เลยเหรอ?" แต่เมื่อพูดจบ และมองดูใบหน้าที่ทั้งสวยเพริศพริ้งทั้งบริสุทธิ์นี้ เขาหมดคำพูดไปโดยสิ้นเชิง เป็นสไตล์ที่เขาชอบไม่ผิดเจียงเซิงกะพริบตา ริมฝีปากขยับเข้าใกล้เขาจนระยะห่างแค่ 1 เซนติเมตร ใกล้จนลมหายใจร้อนผสมเข้าด้วยกัน "ตื้นหรือไม่ตื้นฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่า คุณรักฉันมาก"ซือเย่เจ๋วเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ อาการบาดเจ็บที่หลังของเขาดีขึ้นมากแล้ว แต่ความทรงจำของเขาไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นฟูเลยเจียงเซิงยื่นเอกสารที่หลัวเชว่จัดแจงออกมาปึกใหญ่ไปให้เขา เอกสารมีหลายเล่มมาก ข้างในบันทึกเรื่องราวทั้งหมดที่ไม่มีในความทรงจำของเขา
เจียงเซิงก้มหน้า และอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา จำเธอไม่ได้ แต่มีความหึงหวงเธอเสวี่ยเยว่ฉีกยิ้ม "ฉันแค่ล้อเล่นเอง จริงจังขนาดนี้ทำไมน้องชาย"ซือเย่เจ๋วกัดฟัน "เรียกใครว่าน้องชาย คิดว่าผมจำคุณไม่ได้เหรอ?""หึ คุณยังจำเรื่องนี้ได้อีก" เสวี่ยเยว่นำหมอนไปวางไว้บนเตียง "เอาล่ะ คุณยังหายใจได้ งั้นคุณย่าเธอก็คงจะวางใจได้แล้ว"ขณะพูด ก็ยกมือขึ้นวางบนไหล่ของเจียงเซิง "งั้นก็รบกวน...""เอามือของคุณออกซะ!" ซือเย่เจ๋วเอ่ยปากอย่างเนิบนาบ เสวี่ยเยว่ที่ถูกขัดจังหวะก็ยกมือขึ้น และแบมือ "ได้ งั้นผมกลับก่อนนะ รบกวนคุณเจียงดูแล 'วัยรุ่น' ที่อายุมากท่านนี้หน่อยนะครับ"หลังจากเสวี่ยเยว่กลับไป ซือเย่เจ๋วก็กอดอกและหน้าตาบึ้งตึงขึ้นมา ใบหน้าเคร่งขรึมที่แน่นิ่งคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ตั้งแต่ที่ความทรงจำหยุดอยู่ที่อายุสิบเจ็ดปี แม้แต่อารมณ์ก็เก็บซ่อนไว้ไม่อยู่จริงสินะ ความจำของซือเย่เจ๋วในตอนนี้เป็นเพียงแค่ความทรงจำสมัยวัยรุ่นอายุสิบเจ็ด จิตใจเร่าร้อนฮึกเหิมเจียงเซิงเดินไปนั่งลงข้างเตียง และขยับไปชิดกับเขา "โกรธเหรอ?"ซือเย่เจ๋วไม่สนใจเธอเจียงเซิงประคองหน้าของเขา แล้วจูบลงบนริมฝีปากของเขาเพียงแค่ผิวเผิน เป็
ซือเย่เจ๋ว "..."รถขับไปยังคฤหาสน์ฉางต่าวช้า ๆ ระหว่างทาง ซือเย่เจ๋วไม่รู้ว่าจะทำความคุ้นเคยกับลูกชายคนนี้ของตัวเองอย่างไรดี แต่ในใจก็มีความรู้สึกที่อยากจะกระชับความสัมพันธ์กับเขาโชคดีที่เจียงเหยียนเหยียนไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจในช่วงเวลานี้ และเป็นฝ่ายเริ่มพูดคุยกับเขาก่อน ซือเย่เจ๋วมีแค่ความทรงจำก่อนอายุสิบเจ็ด อยู่ด้วยกันกับเด็กอายุแปดขวบครึ่งจึงพูดคุยกันได้อย่างรวดเร็วเจียงเซิงหันไปมองสองพ่อลูก แล้วถามหลัวเชว่เสียงเบา "ซือเย่เจ๋วที่อายุสิบเจ็ดเป็นแบบนี้เหรอ?"หลัวเชว่พยักหน้า "ใช่ครับ" เขาก็รู้สึกคิดถึงเล็กน้อย "เมื่อก่อนท่านเจ๋วเป็นแบบนี้จริงๆ ครับ ถ้าหากคุณนายไม่ได้เกิดเรื่องขึ้น"เจียงเซิงไม่ได้พูดอะไร จากนั้นมองไปที่ซือเย่เจ๋ว ซือเย่เจ๋วในตอนนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกห่างเหินที่ดุดันและเย็นชา แต่กลับดูเข้าถึงได้ง่ายมาก บางทีอาจเป็นเพราะสาเหตุที่สูญเสียความทรงจำไปส่วนหนึ่ง แต่อย่างน้อยจิตใต้สำนึกของเขา ก็ยังมีสัดส่วนของพวกเขาอยู่ไม่ว่าเขาจะกลายเป็นแบบไหน สุดท้ายเขาก็ยังเป็นซือเย่เจ๋วความทรงจำของซือเย่เจ๋วไม่คุ้นเคยต่อคฤหาสน์ฉางต่าว เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ เขากวาดตามองรอบ ๆ อยู่เ
เจียงเซิงงุนงงเล็กน้อย และเห็นแค่คุณย่าเสวี่ยพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน "เรื่องของประเทศ S ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาไม่มีทางเข้าแทรกแน่นอน"คำพูดประโยคนี้ทำให้เจียงเซิงประหลาดใจ แต่เมื่อลองคิดให้ดี ตอนที่เพิ่งรู้จักซือเย่เจ๋ว เขาไม่เคยพูดเรื่องที่มาของภูมิหลังครอบครัวมาก่อน เขาเป็นเพียงแค่เจ้าของTG กรุ๊ป เพียงแค่นั้นแต่เขาเริ่มเข้าแทรกตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? เป็นเพราะเริ่มตั้งแต่แม่ของเธอมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลกุง หรือว่าเริ่มตั้งแต่ที่สงสัยว่า "ความแค้น" ระหว่างตระกูลกุงกับตระกูลซือมีปัญหาคุณย่าเสวี่ยมองดูเธอ "ฉันรู้ว่าคุณคือหลานสาวของกุงเห้อ"คฤหาสน์ฉางต่าว ซือเย่เจ๋วเดินลงมาจากชั้นบน ตอนที่หลัวเชว่เข้ามาและเห็นเขา ก็หยุดชะงักทันที "ท่านเจ๋ว?"ซือเย่เจ๋วเดินผ่านห้องรับแขก เฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขกใหม่เอี่ยมเกือบทั้งหมด ไม่มีกลิ่นอายของชีวิตสักนิด "พวกเราอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?"หลัวเชว่ลูบหน้าแล้วพูด "ไม่กี่เดือนละมั้งครับ"เขาขมวดคิ้ว “แค่ไม่กี่เดือนเหรอ?”"ใช่ครับ อ่อท่านเจ๋วลืมไปแล้วสินะครับ" หลัวเชว่เพิ่งจะนึกออก "เมื่อไม่กี่เดือนก่อนคุณเพิ่งมาที่ประเทศ S จากนั้นก็ซื้อคฤหาสน์หล
สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่บนโต๊ะ "แต่หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับเขา ฉันถึงได้พบจุดที่ซือเย่เจ๋วแตกต่างจากคนอื่น ถึงแม้เขาจะเผด็จการ ชอบคิดเล็กคิดน้อยและขี้หึง บางครั้งก็ซื่อบื้อจนน่ารัก แต่ช่วงเวลาสำคัญก็ปกป้องฉันโดยไม่สนใจสิ่งใด แถมยังช่วยฉันไว้โดยไม่สนใจตัวเอง ผู้ชายที่รักฉันแบบนี้ ฉันไม่มีทางปล่อยมือไปค่ะ"คุณย่าเสวี่ยมองไปที่ประตูและไม่พูดอะไรเจียงเซิงสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง เมื่อหันไปก็เห็นซือเย่เจ๋ว ไม่รู้ว่ายืนอยู่ที่หน้าประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอชะงักงัน คำพูดที่พูดเมื่อสักครู่ เขาได้ยินหมดแล้วเหรอ?"คุณย่าเสวี่ยยิ้ม "ไม่พักผ่อนให้เต็มที่สักสองสามวันก็รีบตามมาอย่างเร่งรีบ กลัวว่าฉันจะกลั่นแกล้งเธอเหรอ?"ซือเย่เจ๋วเคลื่อนย้ายสายตาออกจากตัวเจียงเซิง ใบหน้าที่นิ่งเฉยมีความอึดอัดเล้กน้อย แต่กลับแสร้งทำเป็นสงบ "คุณย่า ทำไมคุณย่าผมหงอกเยอะขนาดนี้ครับ?"คุณย่าเสวี่ยรู้ดีว่าความทรงจำของซือเย่เจ๋วในตอนนี้มีปัญหาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ายังหยุดอยู่ในตอนที่เธอเจอในปีนั้น "คนแก่แล้ว ร่างกายไม่เหมือนกับตอนอายุน้อย ๆ แล้ว"เธอค่อย ๆ ยืนขึ้น "เย่เจ๋ว นายต้องทะนุถนอมภรรยาคนนี้ของนายให้ดีน
"คุณ..." ซือเย่เจ๋วนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลของความต้องการของร่างกาย และไม่สามารถควบคุมได้เขาปล่อยเธอออก และกุมหน้าผากอย่างจนปัญญา "โทษผมได้เหรอ?"ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนจูบเขาก่อน เธอเองที่ปลุกเร้า! โดยสรุปแล้ว เมื่อสัมผัสเธอ เขาก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้เจียงเซิงดึงแขนของเขาเอาไว้ "เอาเถอะ ฉันไม่แกล้งคุณเล่นแล้ว พวกเรากลับบ้านกันเถอะ"กลับบ้าน......ซือเย่เจ๋วในดวงตาเผยความตกตะลึง เหมือนกับว่าสองคำนี้เมื่อพูดออกมาจากปากเธอ มีความเหมาะสมอย่างมาก ถึงกับมีความรู้สึกคุ้นเคยเจียงเซิงคล้องแขนเขา ในสายตาของคนอื่น พวกเขาก็เหมือนกับคู่รักที่สวยงามมาก ไม่มีความขัดแย้งแม้แต่นิดเมื่อกลับถึงคฤหาสน์ฉางต่าว ก็เห็นท่านผู้เฒ่าตำหนิบอดี้การ์ดเหล่านั้นที่ดูแลได้ไม่รอบคอบเพราะความเป็นห่วงจนกระทั่งซือเย่เจ๋วปรากฏตัวขึ้น เขาถึงสงบลง และก็รู้สึกโมโห "นายออกไปข้างนอกก็ไม่รู้จักบอกสักหน่อย"เขาสูญเสียความทรงจำก็ช่างเถอะ ยังจะกล้าออกไปวิ่งเพล่นพ่าน เขาที่เป็นคนแก่แบกรับไม่ไหวซือเย่เจ๋วพูดขึ้นช้า ๆ "ผมไปหาคุณย่ายังต้องบอกคุณด้วยเหรอ?""นาย..." ท่านผู้เฒ่าชะงักงั
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ