ในตอนนั้น คนของตระกูลหลานยังเป็นมิตรกับฉัน พวกเขาให้ยากับฉันหนึ่งหลอด บอกฉันว่าเป็นวัคซีนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ เป็นเพราะความเชื่อใจที่ฉันมีต่อคนตระกูลหลาน และฉันก็เป็นห่วงลูกสาว ดังนั้นจึงซื้อยาหลอดนั้นเอาไว้ด้วยเงินมหาศาล และใช้มันกับลูกสาวของฉัน"กุงเห้อกำหมัดแน่นและกัดฟัน "แต่คิดไม่ถึงว่าลูกสาวของฉันก็ยังคงติดเชื้ออยู่ดี ไม่แปลกใจที่หลังจากนั้นหนึ่งปีจู่ ๆ เธอก็แยกจากตระกูลกุง ไปประเทศ M กับเซียว คิดไม่ถึงว่าคนพวกนั้นจะหลอกฉัน แถมหลอกฉันมาหลายสิบปี!และยาหลอดนั้นไม่ใช่วัคซีนอะไรด้วยซ้ำ แต่เป็นเชื้อไวรัส พวกเขาหลอกฉันใช้ลูกสาวของฉันทำการทดลอง!"ภายในห้องทำงาน บรรยากาศเงียบสงัดชั่วครู่หนึ่ง ซือเย่เจ๋วรินน้ำชาให้ตัวเอง และพูดอย่างเรียบเฉย "ไวรัสคือการทดลองของพวกเขา?"ที่ประเทศ S เรเวียร์ได้บอกกับเขาแล้วว่า พวกเขาทำให้เขาติดเชื้อเป็นแค่ขั้นตอนแรก ความคุ้มคลั่งของกุงเห้อเป็นเพราะเขารู้ถึงความจริงที่ว่ากุงม่านม่านลูกสาวของตัวเองฉีดวัคซีนแล้วแต่ก็ยังคงติดเชื้อกุงเห้อไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป "เรื่องขององค์หญิงใหญ่ อันที่จริงที่พ่อของฉันเลือกถอนตัวออกจากการถกเถียงภายในราชวงศ์
สองมือของซือเย่เจ๋วที่วางอยู่ข้างหน้าตัวกระชับแน่น ริมฝีปากที่เม้มแน่นเปิดออกเล็กน้อย "พวกเขายังทำการทดลองอยู่"กุงเห้อหยุดชะงัก จากนั้นถามขึ้นประโยคหนึ่ง "นายรู้ได้อย่างไร?""เพราะผมติดเชื้อแล้ว" สายตาของเขามองไปที่แก้วน้ำชาอย่างนิ่งเฉย "ครั้งนี้ไม่มีระยะฟักตัว เป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่""เจียงเซิงรู้ไหม?""เธอไม่รู้"กุงเห้อประหลาดใจ ไม่พูดจาอยู่เป็นเวลานานซือเย่เจ๋วมองดูเขา "แม่ของเซิงเซิงติดเชื้อไวรัส คิดว่าน่าจะเคยใช้อะไรบางอย่าง ดังนั้นเซิงเซิงไม่มีเค้าลางที่จะติดเชื้อ และเลือดก็พิเศษมาก"กุงเห้อหายใจเข้าลึก ๆ เขาถือแก้วน้ำชาแต่กลับไม่ดื่มเข้าไปสักที ส่วนซือเย่เจ๋วก็พูดขึ้นช้า ๆ "ผมจะหย่าร้างกับเจียงเซิง"กุงเห้องมองไปที่ซือเย่เจ๋วอยู่นาน จากจุดนี้ เขามองออกว่าซือเย่เจ๋วใส่ใจหลานสาวของเขาจริง ๆ เขาวางแก้วน้ำชาลง "ฉันเข้าใจแล้ว""คุณช่วยผมเก็บเป็นความลับด้วยนะครับ""นายไม่อยากมีชีวิตอยู่เหรอ?" กุงเห้อถามเขาอย่างเงียบสงบซือเย่เจ๋วดวงตาสั่นคลอนเล็กน้อย ไม่ได้ตอบเขากลับโดยตรง "มีคุณกับเรเวียร์ปกป้องเธอ ผมเอาหุ้นส่วนครึ่งหนึ่งของ TG ให้เธอ ต่อให้ผมตายไป ตระกูลซือก็ไม่มีทางล้
ตกกลางคืน เจียงเซิงไปรับเซียวเถียนเถียนเซียวเถียนเถียนสวมชุดเดรสสายเดี่ยว ผูกหางม้าสองข้าง ทั้งดูสดใสจนน่าหวั่นไหวทั้งมีความเท่ เธอขึ้นรถ รัดเข็มขัดนิรภัย "ทำไมจู่ ๆ เธอถึงนัดฉันดื่มเหล้าได้ล่ะ?"เจียงเซิงสตาร์ทรถแล้วขับออกไป เธอทำได้แค่ฝืนยิ้ม "อารมณ์ไม่ดี""เธอกับท่านเจ๋ว ทะเลาะกันหรือว่ายังไง?" เซียวเถียนเถียนสังเกตุเห็นถึงอารมณ์ของเธอ "ก่อนที่พวกเธอสองคนจะไปประเทศ S ยังดี ๆ กันอยู่ไม่ใช่เหรอ?"เจียงเซิงขนตาสั่น สุดท้ายก็พูดคำว่า "พวกเราจะหย่าร้างกัน" ออกมาไม่ได้เธอไม่อยากพูด บางทีอาจจะยังอยากรักษาสถานะแต่งงานนี้ต่อหน้าคนอื่นต่อไป ต่อให้หลอกตัวเองเป็นตุเป็นตะช่วงหนึ่งก็ยังดีมาถึงร้านเหล้าเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ทั้งสองคนต่างสั่งค็อกเทลมา เซียวเถียนเถียนใช้หลอดคนเครื่องดื่ม จากนั้นหันหน้ามองเธอ "เซิงเซิง เธอมีเรื่องอะไรในใจใช่ไหม?"เจียงเซิงหยุดชะงัก แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย "เธอคิดจะยื้อเรื่องการแต่งงานกับคุณชายลู่เหรอ?"เซียวเถียนเถียนเหลือบมองเธอแล้วพูดพึมพำ "ฉันก็ไม่อยาก แต่พ่อของฉันกับป้าลู่และยังมีคุณป้าของฉันต่างคาดหวังกับการแต่งงานครั้งนี้ เธอก็รู้ว่า ฉันไม่อยากแต่งงานเกี่ย
"พี่ลี่ พี่เรียกคู่หมั้นของพี่มาดื่มเหล้าด้วยเหรอ หาดูได้ยากนะเนี่ย" หานถังถือแก้วไวน์ จากนั้นสายตามองไปทางลู่ลี่เซิน และยิ้มหยอกล้อลู่ลี่เซินไม่ตอบเขาเซียวเถียนเถียนโยนเมล็ดแตงโมที่ตกอยู่บนโต๊ะไป "นายพูดจาซี้ซั้วอะไรน่ะ?"หานถังหลบออกและยิ้มพูด "เราทุกคนอยู่ในแวดวงเดียวกัน ใครบ้างที่ไม่รู้เกี่ยวกับการหมั้นหมายระหว่างตระกูลเซียวกับตระกูลลู่?"การหมั้นหมายระหว่างตระกูลเซียวกับตระกูลลู่ คนในแวดวงชั้นสูงไม่มีใครที่ไม่รู้ และก็เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว ต่อให้เซียวเถียนเถียนไม่ยอมรับ แต่ก็หนีไม่พ้นแล้วเสิ่นตงตงที่นั่งอยู่ด้านข้างลู่ลี่เซินก็ยิ้มพูดหยอกล้อกู้เฉินกวางขึ้นมา "อาเฉิน นายยังไม่คิดเรื่องแต่งงานของนายอีกเหรอ?"กู้เฉินกวางวางแก้วไวน์ลง "ฉันไม่รีบ""ยังไม่รีบอีก นายอายุเท่า ๆ กับท่านเจ๋วนะ ว่าแต่ ท่านเจ๋วไม่ได้ออกมารวมตัวกันนานแล้วนะ?"หานถังมองเสิ่นตงตง “เขามีครอบครัวแล้ว จะไปเหมือนกับนายที่ออกมาม่อสาวทั้งวันได้เหรอ?”"ชิ ตาข้างไหนของนายที่เห็นว่าฉันม่อสาว? นายอย่าใส่ความฉันนะ นี่ยังมีสาวสวยคนอื่นอยู่ด้วย" เสิ่นตงตงพูดจบ สายตาของพวกเขาก็มองไปทางเจียงเซิงเจียงเซิงหยิบแก้
เธอก็ไม่อยากอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว กำลังจะหยิบกระเป๋า เมื่อหันหน้าไปก็เห็นโทรศัพท์ของเจียงเซิงบนโซฟา“เห้อ เธอทำไมถึงได้……”ตอนที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นก็สัมผัสโดนหน้าจอ เมื่อหน้าจอสว่างถึงได้เห็นข้อความที่ไม่ได้อ่าน เห็นได้ชัดว่าเห็นเนื้อหาในข้อความสีหน้าตกตะลึงลู่ลี่เซินมองไปที่เธอ "โทรศัพท์มือถือของเจียงเซิง?"เซียวเถียนเถียนไม่ตอบกลับ เธอหยิบกระเป๋าแล้วรีบตามออกไป"พี่ลี่ นี่พวกเขา..."เสิ่นตงตงถาม อีกสองคนที่เหลือก็งุนงงเล็กน้อย ลู่ลี่เซิน สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วลุกขึ้นยืน "พวกนายดื่มไปก่อน ฉันไปดูหน่อย"เซียวเถียนเถียนเพิ่งเดินออกจากร้านเหล้า ลู่ลี่เซินก็เข้ามาดึงเธอเอาไว้ จากนั้นเอ่ยปากอย่างไม่รีบร้อน "โทรหากู้เฉินกวางถามเขาว่าอยู่ไหน"เซียวเถียนเถียนยังคงเหม่อลอยอยู่ลู่ลี่เซินคิดว่าเธอไม่ได้ยิน ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เซียวเถียนเถียนจู่ ๆ เงยหน้ามองเขา “ท่านเจ๋วจะหย่าร้างกับเซิงเซิง”เจียงเซิงนั่งอยู่บนม้านั่งข้างน้ำพุไฟนีออน รอให้กู้เฉินกวางมาถึง ในสวนสาธารณะเหลือเพียงแค่เธอตัวคนเดียวกู้เฉินกวางเดินไปหาเธอ “ดึก ๆ ดื่น ๆ? คุณผู้หญิงตัวคนเดียวอยู่ในสถานที่แบบนี
"อืม ผมอิจฉาที่เขามีพ่อแม่ที่รักเขา และก็อิจฉาในความเป็นตัวของตัวเอง" กู้เฉินกวางยิ้มบางความเปล่าเปลี่ยนในดวงตาทำให้เจียงเซิงสัมผัสได้ว่า เขาอิจฉาซือเย่เจ๋วจริง ๆ และเขาก็พูดอย่างเรียบเฉยอีก "ในอดีตเคยมีคนบอกผมว่า คนเราถ้าหากไม่มีความฝัน ไม่กล้ามีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง รู้จักแต่ใช้ชีวิตอยู่ในระเบียบแบบแผนซ้ำ ๆ ทุกวัน นั่นต่างหากที่จะน่าเศร้า"เขาหันหน้าไปมองเธอ "คนที่พูดแบบนี้กับผมก็คือแม่ของซือเย่เจ๋ว คุณน้าเย่ยู"เจียงเซิงอ้าปาก แต่กลับไม่พูดอะไรส่วนเขาพูดขึ้นช้า ๆ "ผู้อาวุโสในบ้านของผมเข้มงวดมาก ตอนเด็ก ๆ ผมนอกจากต้องเรียนมารยาท กฎระเบียบ และยังต้องอ่านหนังสือมากมายเพิ่มความรู้ ไปโรงเรียนเอกชน สิ่งที่ผมต้องเรียนรู้ก็เปลี่ยนไปเยอะมากขึ้น ไม่มีเวลาเหลือเฟือที่จะให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย ถึงขั้นที่ไม่กล้าหวังว่าจะได้มีเพื่อน"เจียงเซิงเข้าใจ เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ฐานะสูงส่งมีกินมีใช้ แต่กฎระเบียบแต่ละข้อกลับเคร่งครัดถึงที่สุด"งั้นคุณรู้จักกับซือเย่เจ๋วได้อย่างไร?" เจียงเซิงเหมือนว่าฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จู่ ๆ ก็อยากรู้เรื่องที่เกี่ยวกับซือเย่เจ๋วในอดีตและกู้เฉินกวางก็บอกกับเธอ "เป
เจียงเซิงไม่ได้พูดอะไรแล้วเธอเคยได้ยินมาจากหลัวหยิง ตอนนั้นถ้าหากกู้หมิงหยวนไม่ได้ทอดทิ้งเย่ยูเพราะที่บ้าน บางที อาจจะไม่มีซือเย่เจ๋วในตอนนี้ ถึงขั้นที่กู้เฉินกวางก็ไม่ใช่กู้เฉินกวางในตอนนี้ทุกอย่างถูกกำหนดไว้ตั้งนานแล้ว ตอนนั้นถ้าหากไม่ได้เปลี่ยนแปลงพวกเขา บางทีตอนนี้ ในชีวิตของเธอก็คงไม่ได้พบกับซือเย่เจ๋วความเหลวไหลและความทุกข์ระทมเมื่อหกปีก่อน การท้องก่อนแต่ง หกปีต่อมากงจักรแห่งโชคชะตาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง พวกเขาได้พบกัน นี่เป็นทางเลือกของเธอเองทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ ตอนนั้นถ้าหากไม่ได้เลือกกลับมาแย่งชิงไวน์เนอร์ จิวเวลรี่กลับ แต่เลือกที่จะเสพสุขกับชื่อเสียงเกียรติยศที่ประเทศ S ชีวิตนี้บางทีเธออาจจะไม่ได้พบกับพ่อของลูก"กู้เฉินกวางมองดูนาฬิกาข้อมือ "ดึกมาแล้ว ผมไปส่งคุณกลับดีกว่า"เจียงเซิงฟังเรื่องมากมายขนาดนี้ อารมณ์ก็ไม่ได้กลัดกลุ้มใจขนาดนั้นแล้ว เธอลุกขึ้นยืน "ขอบคุณนะคะ""ไม่ต้องเกรงใจผม ในเมื่อได้รู้จักกัน งั้นก็คือเพื่อนกัน" กู้เฉินกวางยิ้มบางเจียงเซิงกับกู้เฉินกวางเดินออกจากสวนสาธารณะ แต่กลับเห็นซือเย่เจ๋วยืนอยู่ที่หน้ารถมองดูพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเจียงเซิงไม่ได
"ซือเย่เจ๋ว คุณ..." ลู่ลี่เซินอยากจะพุ่งเข้าไปกระทืบเขาอย่างหนักสักยก แต่เห็นว่าเซียวเถียนเถียนดึงเขาไว้ไม่ยอมปล่อย เขาจะวู่วามสะบัดเธอออกไปก็ไม่ได้น้อยครั้งที่ลู่ลี่เซินจะอารมณ์ร้อน ยิ่งไม่มีทางลงมือกับคนอื่นโดยไร้เหตุผล แต่ซือเย่เจ๋วทำเกินไปจริง ๆ"พอแล้ว"เจียงเซิงสีหน้าค่อย ๆ สงบลง ถึงขั้นที่เงียบสงัด เหมือนกับเถ้าที่ดับมอดไป มองไม่ออกถึงความรู้สึกใด ๆ มือที่กำอยู่บีบแน่น เย็นเยือกเล็กน้อย และกำลังสั่นเทาเธอเงยหน้ามองซือเย่เจ๋ว สุดท้ายตาก็แดงก่ำ เหมือนกับน้ำตาที่อยู่ในเบ้าตาจะไหลออกมาแล้วแต่ซือเย่เจ๋วกลับไม่มองเธอเพราะไม่กล้ามอง"ซือเย่เจ๋ว ถ้าหากฉันไม่หย่า คุณจะทำอะไรฉันได้?" จริงด้วย เธอต่ำต้อยถึงขั้นนี้แล้ว เธอยังหวังที่จะยื้อเอาไว้ เธอยอมถอยแล้ว เธอไม่หย่า ต่อให้เขาไล่เธอไป เธอก็ไม่อยากไปที่ประเทศ S ผู้ชายที่ปกป้องตัวเองโดยไม่คิดชีวิต เธอจะเชื่อได้อย่างไรว่าเขาไม่รักเธอ? และจะเชื่อได้อย่างไรว่าเขาเบื่อหน่ายเธอแล้ว?"เจียงเซิง เธอไม่ได้ยินเหรอว่าเขาพูดอย่างไร หย่าร้างกับผู้ชายแบบนี้ เธอยังมีตัวเลือกที่ดีกว่า" ลู่ลี่เซินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเริ่มตั้งแต่ที่เธอเรียกเขาว
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ