"ในเมื่อเย่เจ๋วหมายปองแค่เธอ อาก็หวังว่าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เธออย่าแยกจากเย่เจ๋วไปง่าย ๆ"เจียงเซิงหยุดชะงัก ทำไมถึงมีความรู้สึกเหมือนว่าคุณท่านซือฝากฝังชีวิตของลูกชายของเขาให้เธอดูแลนะ?เธอยกริมฝีปากขึ้นแล้วยิ้ม: "วางใจเถอะค่ะ อาซือ หนู..."เธอเหลือบมองซือเย่เจ๋วที่นั่งอยู่ด้านข้างตัวเองอย่าง "เชื่อฟัง" แล้วพูดขึ้น: "ไม่มีทางแยกจากเขา"ซือเย่เจ๋วเลิกคิ้วเล็กน้อย พ่อของเขาเป็นกังวลเรื่องเขากับเซิงเซิงขนาดนี้ ต่อไปเขาต้องดีกับพ่อให้มากหน่อยแล้วคุณท่านซือพูดอย่างพึงพอใจ: "เอาล่ะ ส่วนเรื่องของคุณปู่ของเย่เจ๋วยกให้อาก็พอ พวกเธอวัยรุ่นสองคนก็ใช้ชีวิตของพวกเธอให้ดี อาเชื่อว่าต้องมีสักวันที่ปู่ของเย่เจ๋วจะยอมรับเธอ"หลังจากวางสายแล้ว เจียงเซิงก็ส่งโทรศัพท์คืนให้เขาซือเย่เจ๋วหรี่ตาลง ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดเหมือนกับจิ้งจองเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง: "ได้ยินแล้วยัง พ่อใช้ให้เธออย่าจากฉันไป"เจียงเซิงขมวดคิ้ว กำปั้นอ่อนนุ่มไร้เรี่ยวแรงต่อลงบนไหล่ของเขา: "อย่าได้คืบเอาศอก ฉันรับปากคุณอาซือ แต่ต่อไปถ้าคุณทำเรื่องที่ผิดต่อฉัน ฉันจะพาลูกไปแล้วแต่งงานใหม่!"แต่งงานใหม่!คำสองคำนี้ฝังลึกอยู่ในใจของเขา
ในที่สุดเจียงเซิงก็รู้แล้วว่าสาเหตุที่เธอหาเงินได้เท่าไหร่เจ้าตัวเล็กทั้งสามก็ยังรังเกียจที่เธอยากจน!เมื่อเทียบกับนายทุนแล้ว เธอจนจริง ๆ!โทรศัพท์มือถือของซือเย่เจ๋วดังขึ้น เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาดูเบอร์โทรที่แสดงขึ้น เป็นคุณปู่ของเขาเขาไม่ได้หลีกเลี่ยงเจียงเซิง รับสายแนบหูด้วยสีหน้าเฉยเมย “มีเรื่องอะไร?”ท่านผู้เฒ่าดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ดวงตาของเขาเคร่งขรึมลง เสียงเย็นชา "หึ ตอนนี้แม้แต่คนข้างกายผมคุณก็เข้าแทรกเหรอ? หลัวเชว่ล่ะ"เสียงของท่านผู้เฒ่าดังขึ้น "ฉันสั่งให้หลัวเชว่ไปตรวจการที่ต่างเมือง ทำไม หรือว่าจากความสามารถของหลิงโหรวยังแทนที่ตำแหน่งของเขาไม่ได้?"เจียงเซิงได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อยท่านผู้เฒ่าย้ายหลัวเชว่ไปจากข้างกายเขา จัดการให้ซูหลิงโหรวมาอยู่ข้างกายเขา ดูท่าท่านผู้เฒ่าอยากจะให้โอกาสกับซูหลิงโหรวในใจรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก"TGไม่ใช่องค์กรเย่เยี่ยน คุณไม่มีสิทธิ์จัดการ"การปฏิเสธของซือเย่เจ๋วทำให้ท่านผู้เฒ่าพูดอย่างโมโห: "ไอ้เด็กบ้า ฉันบอกแกให้นะ ถ้าแกไม่อยากให้ฉันลงมือต่อตระกูลเจียง ทางที่ดีให้หลิงโหรวอยู่เรียนรู้งานข้างกายแก"พูดจบก็วา
กุงหลี่หลี่นั่งลงบนโซฟาแล้วมองดูเธอ: "นั่งเถอะ หนูอยากถามฉันเกี่ยวกับเรื่องของแม่ของหนูสินะ?"หลังจากเจียงเซิงได้รับอนุญาติก็นั่งลงตรงข้ามกุงหลี่หลี่ และเจียงเซิงก็อยากรู้เรื่องของแม่ของเธอจริง ๆ จึงพยักหน้า"ม่านม่านก็คือน้องสาวแท้ ๆ ของฉัน หนูหน้าตาคล้ายคลึงกับม่านม่านอยู่บ้าง" กุงหลี่หลี่ยิ้มเย้ยหยันตัวเอง ตอนแรกถ้าเธอได้พบเจียงเซิงเร็วหน่อย บางทีเธออาจจะไม่ไปเชื่อเจียงเวย ถึงขั้นที่คิดว่าเจียงเซิงเป็นคนแบบนั้นจริง ๆเมื่อนึกอะไรได้ เธอก็ถามอีก: "แม่ของหนูเคยบอกกับหนูไหมว่าทำไมเธอถึงมาที่ประเทศ Z?"เจียงเซิงส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าเธอไม่รู้ กุงหลี่หลี่ก็มีความรู้สึกงงงวย: "แม้แต่เธอก็ไม่ได้บอกกับฉัน พูดตามตรงถ้าหากไม่ใช่กำไลหยกที่เจียงเวยสวมใส่ ฉันไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าเธอเคยมาที่ประเทศ Z""คุณก็ไม่รู้เหรอ?" เจียงเซิงกำลังนิ่งอึ้ง แม่ของเธอทำไมถึงออกจากตระกูลกุงแล้วมายังประเทศ Z ที่ไกลโพ้น แม้แต่กุงหลี่หลี่ก็ไม่รู้"อันที่จริงหนูไม่ต้องประหลาดใจ ตอนนั้นที่แม้ของหนูออกจากบ้าน ฉันคิดมาตลอดว่าเธอจะไปที่ประเทศ M""ไปประเทศ M?"ในดวงตาของเจียงเซิงเผยความสงสัย: "แม่ของฉันเคยไปที่ประ
"แต่ว่าเจียงเซิง ฉันทำได้แค่พูดเตือนเธอประโยคหนึ่ง อยู่ด้วยกันกับซือเย่เจ๋วหนูจะมีอันตรายถึงชีวิตได้ทุกเมื่อ ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะสายเลือดที่พิเศษของตระกูลซือ"**เซียวเถียนเถียนนั่งในห้องนั่งเล่นดื่มนมสดน้ำผลไม้ รออยู่ประมาณยี่สิบนาที ไม่รู้ว่าป้าลู่คุยเรื่องอะไรกับเซิงเซิงขณะที่เธอจิบนมสดและน้ำผลไม้ เธอก็สังเกตเห็นเงาดำเข้ามาใกล้ เมื่อเงยหน้าขึ้น รอยยิ้มที่มุมปากหายไปทันทีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เหยียดสายตามองเธอ: "เธอเองเหรอ?"โดยเฉพาะเมื่อเห็นบนริมฝีปากของเธอมีคราบนมสีขาวติดอยู่ ดวงตาเฉียบคมมีความรังเกียจแฝงอยู่เมื่อครู่เขาคิดว่าแม่ของตัวเองแนะนำผู้หญิงระเกะระกะมั่วซั้วอะไรมาที่บ้านให้เขาอีก ทำให้เขาตกใจอย่างมาก"นายคิดว่าฉันอย่างมากนักเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะเซิงเซิงฉัน......" เซียวเถียนเถียนกำลังจะพูดอะไร ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินลงมา ไม่นานนักในตอนที่เห็นเงาของเจียงเซิง เธอวางแก้วลงแล้วลุกขึ้นยืน"เซิงเซิง เธอคุยกับป้าลู่เสร็จแล้วเหรอ?"เจียงเซิงเห็นลู่ลี่เซินก็อยู่ในห้องรับแขก จึงพยักหน้าให้เขาเซียวเถียนเถียนผลักลู่ลี่เซินที่ขวางอยู่ด้านข้างออก จากนั้นมาตรงหน้าเจียง
เซียวเถียนเถียนหยุดชะงัก เห็นได้ชัดว่าปัญหาใหญ่ของเจียงเซิงก็ทำให้เธอหมดหนทาง "เอาเถอะ ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ นั่นแหละ"เจียงเซิงยกมือวางลงบนไหล่ของเซียวเถียนเถียน รอยยิ้มก็ทำให้คนลุ่มหลงไปด้วย "เถียนเถียน ฉันพบว่าเพื่อนที่รู้ใจฉันที่สุดก็มีแค่เธอ ไม่ว่าฉันจะมารยาอย่างไร ถูกคนใส่ร้ายอย่างไร เธอก็ไม่ทิ้งฉัน ตอนนั้นถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากเธอ ฉันคนเดียวไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร"เซียวเถียนเถียนสีหน้าสงสัย "เธอเมาแล้วเหรอ?""เธอน่ารำคาญจริง ๆ ฉันเหมือนคนเมาตรงไหน ฉันรู้สึกซาบซึ้งนะ" เจียงเซิงกอดไหล่ของเธอ "บางครั้งฉันอิจฉาเธอมาก มีพ่อที่ปกป้องเธออย่างดีทำให้ไม่ต้องผ่านเรื่องราวมากมาย และก็ไม่มีคนมาหาเรื่องเธอโดยไร้เหตุผล เป็นคุณหนูที่ได้รับความรักไร้ความกังวลใด ๆ ก็ดีมากเลยนะ"อย่างน้อย เถียนเถียนก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้ของเธอ"เธอใช้ตาข้างไหนเห็นว่าฉันไร้ความกังวล เป็นเพราะเธอยังไม่เห็นพ่อของฉันทุบตีฉัน!" เซียวเถียนเถียนพึมพำเสียงเบา "ฉันยังอิจฉาเธอเลยนะ ได้มีอะไรกับผู้ชายที่ผู้หญิงเมืองหลวงอยากจะมีอะไรด้วย แถมยังมีลูกน่ารักมากสามคน""งั้นเธอก็ไปมีอะไรกับสักคนก็มีลูกแล้วไม่ใช่
วันนี้การแต่งหน้าของซูหลิงโหรวดูหรูหรามากและเสื้อผ้าของเธอก็ดูอลังการขึ้นมา: "เย่เจ๋วไม่ได้บอกคุณเหรอ?"เจียงเซิงหยุดชะงัก: "บอกอะไร?"ซูหลิงโหรวมองไปที่เธอแล้วเอ่ยปากพูด "ตอนนี้ฉันเป็นผู้ช่วยของเย่เจวี๋ยแล้วเอ๊ะ? เย่เจ๋วไม่ได้บอกคุณเหรอ?"เจียงเซิงยิ้มเยาะและกอดอก "ที่แท้ก็เรื่องนี้เองเหรอ ฉันนึกว่าเรื่องใหญ่อะไรซะอีก"ได้เป็นผู้ช่วยของซือเย่เจ๋ว ก็มาโอ้อวดกับเธอแล้วเหรอ?"คุณเจียงอย่าคิดมากนะคะ ในเมื่อนี่เป็นการจัดการของคุณปู่ คุณปู่อยากให้ฉันเรียนรู้อยู่ข้างกายเย่เจ๋ว ดังนั้นฉันคิดว่าคุณเจียงคงจะไม่ถือสาหรอกนะคะ?" เธอยกท่านผู้เฒ่าออกมาก็แค่อยากให้เจียงเซิงรู้ว่าคนที่คุณปู่ให้ความสำคัญที่สุดก็คือเธอดราใดที่คุณปู่ยืนอยู่ข้างเธอหนึ่งวัน งั้นเจียงเซิงก็ไม่มีทางเข้าตระกูลซือได้!ไม่รู้ว่าซูหลิงโหรวกำลังรอคอยอะไรอยู่ เจียงเซิงรอยยิ้มสวยหยาดเยิ้ม: "ฉันจะคิดมากได้อย่างไร ก็แค่ผู้ช่วยเองไม่ใช่เหรอ ความสัมพันธ์เจ้านายกับลูกน้องก็เท่านั้น ไม่ต้องมารายงานฉันหรอกมั้งคะ?"ประโยคเพียงแค่ความสัมพันธ์เจ้านายกับลูกน้องก็เท่านั้น ทำให้รอยยิ้มที่มุมปากของซูหลิงโหรวค่อย ๆ แข็งทื่อ เธอใบหน้ายิ้ม
เด็กน้อยสองคนนี้ของเธอรู้จักประจบประแจงแล้วแฟรงค์พยักหน้าทันที: "เป็นแบบนี้เองเหรอ แต่นักแสดงยอดเยี่ยมช่วยพวกเราโปรโมทแบบนี้ ถึงแม้พวกเราพึ่งพาบารมีของเขา แต่จะใช้ประโยชน์เขาฟรี ๆ ไม่ได้""ค่ะ ฉันเข้าใจ" เจียงเซิงกอดอกยิ้มกริ่ม: "วันอื่นถ้ามีเวลาฉันดูว่าสามารถนัดนักแสดงยอดเยี่ยมกู้ทานข้าวได้หรือไม่"คนทั่วไปไม่กล้านัดนักแสดงยอดเยี่ยมกู้ทานข้าว แต่เธอจะเอาเปรียบเขาฟรี ๆ ไม่ได้ คิดไปคิดมา ทำได้เพียงใช้อาหารหนึ่งมือตอบแทนน้ำใจของเขาพูดถึงตอบแทนน้ำใจ เธอก็นึกถึงกู้ยี่ฟานที่ในค่ายฝึกอบรมพูดแล้วก็กลุ้มใจเธอยังติดหนี้บุญคุณสองพี่น้องตระกูลกู้โดยไม่รู้ตัวอีกด้วยตอนเที่ยง ทุกคนไปรับประทานอาหารกลางวัน ยกเว้นเจียงเซิงที่ยังคงออกแบบภาพวาดอยู่ในห้องเล็ก ๆ ของตัวเองจิตใจของเธอล่องลอยเป็นระยะ ๆ ทำให้แรงบันดาลใจของเธอหายไปทันที เธอขยำกระดาษแล้วโยนลงในถังขยะ ในถังขยะกองเต็มไปด้วยกำกระดาษเธอนวดศีรษะ ไปค่ายฝึกอบรมครึ่งเดือน กลับมายังไม่มีกระจิตกระใจสักนิดจนกระทั่งข้อความไลน์เด้งขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์[J ขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อน]เจียงเซิงคลิกที่ข้อมูล เต็มไปด้วยกลิ่นอายของชายแก่ที่เพิ่งเล่น
สายตาของซือเย่เจ๋วที่จ้องมองเธอแฝงไปด้วยความอ่อนโยน ในใจก็มีความรู้สึกพึงพอใจ แมวป่าของเขาถูกเขา "ใช้ร่างกายสั่งสอน" ออกมานะเขาดึงปลายนิ้วมือของเธอมาจูบ สายตาเผยความอันตราย "งั้นต่อไปยังจะกล้าไปบาร์อีกไหม? หืม?""ไม่กล้าแล้ว ไม่ไปแล้ว""จริง?"เจียงเซิงชักมือออกแล้วยิ้มอย่างโมโห “จริง ตอนนี้พวกเราทานข้าวได้แล้วยัง?”ก๊อกก๊อกประตูห้องทำงานถูกเคาะซือเย่เจ๋วสายตาเคร่งขรึมเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชา: "เข้ามา"ซูหลิงโหรวถือเอกสารผลักประตูเข้ามา อยากจะพูดอะไร แต่เห็นเจียงเซิงนั่งอยู่ข้างซือเย่เจ๋วและบนโต๊ะก็มีอาหารเลิศรสวางอยู่ ในดวงตาของเธอมีความเกลียดชังแวบผ่าน"มีธุระ?"ท่าทางที่ซือเย่เจ๋วมีต่อเธอยังคงเย็นชามากซูหลิงโหรวระงับความเกลียดชังในใจ ฝืนยิ้มออกมา: "ฉันแค่มารายงานว่าการประชุมโครงการของเยว่ซานกรุ๊ปเริ่มขึ้นแล้ว""รู้แล้ว"ซือเย่เจ๋วหันไปมองเจียงเซิง: "เซิงเซิง เธออยากไปร่วมการประชุมกับฉันไหม?"เจียงเซิง "???"ดวงตาซูหลิงโหรวแทบลุกเป็นไฟ เธอกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า "เย่เจ๋ว ถึงแม้ว่า คุณเจียงจะเป็นคนที่อยู่ภายใต้ TG แต่เธอก็ไม่ใช่พนักงานของ TG กรุ๊ป ไม่เหมาะสมที่จะไปเข้า
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ