“เบาๆนะคะ พิชกลัวเจ็บ” พิชชาภาเอามือไปยันหัวของฟรานติดไว้ เมื่อเขากำลังจะเข้าไปหาร่องสาวของเธอ ก่อนจะมองเขาอย่างขอร้อง แล้วก็ไม่เป็นผลเมื่อเขาเอามือมาแบะร่องสาวของเธอแล้วแหวกร่องสาวของเธอออก“โอ้ย ซี๊ด” พิชชาภาร้องอย่างเสียวๆปนเจ็บแสบร่องสาว ก่อนจะมองฟรานติโน่มองร่องสาวของเธอแล้วนิ่งไป“ขอเอาคุณสักสองน้ำนะ แล้วผมจะให้คุณได้นอนพักจริงๆแล้ว หอยบวมหน่อยๆแต่น้ำเยิ้มเชียว แผล็บ แผล็บ” ฟรานติโน่มองร่องสาวอย่างสำรวจก็พูดออกไป ก่อนจะก้มลงไปเลียติ่งสวาทของพิชชาภาอย่างจงใจ เพราะเขาอยากจะสอดใส่ในตัวของเธอแล้ว“อ้ะ อ้ะ คุณฟรานขา พิชเสียวร่องจะตายอยู่แล้ว อ้ะ อ้ะ อย่าเลียแบบนี้ อ้ะ อ้ะ” พิชชาภาร้องครางกระเส่า ต่างจากฟานติโน่ที่เอาแต่เลียร่องสาวจนพิชชาภาต้องเด้งก้นหนีปากและลิ้นของเขาที่กระโจนเข้าใส่อย่างไม่ปราณี“แผล็บ แผล็บ แผล็บ” ฟรานติโน่เลียร่องสาวจนน้ำหวานไหลออกมาเต็มร่อง เขาก็ถอนปากและลิ้นออกมา ก่อนจะมองพิชชาภาที่เอาตัวเอนพิงกระจกอ่างล้างมืออยู่ออย่างทรมาน เขาก็คิดอะไรสนุกๆออกทันที จากนั้นก็อุ้มตัวร่างบางให้หันหน้าไปหากระจกแล้วเขาก็โอบกอดเธอจากด้านหลังแทน“ดูสิ คุณกำลังร่านขนาดไหน” ฟรานติโน่พ
“ไปอาบน้ำกัน” ฟรานติโน่พูดไปก็อุ้มร่างบางลงไปในอ่างอาบน้ำจากุซซี่ใหญ่ๆ แล้วเขาก็ล้างตัวทำความสะอาดให้พิชชาภาทุกซอกทุกมุมแบบเน้นๆ โดยเฉพาะจุดซ่อนเร้นของเธอที่เขาเน้นทำความสะอาดเป็นพิเศษ ก่อนจะเช็ดตัวให้เธอแล้วอุ้มร่างบางมานอนที่เตียงใหญ่ แล้วทำท่าโน้มหน้าจะลงไปสนุกกับเธออีกครั้ง“พอแล้วนะคะ พิชไม่ไหวแล้วจริงๆ พิชเหนื่อย” พิชชาภาบอกไปก็เอามือยันหน้าอกของเขาไว้ เพราะที่ในห้องน้ำเมื่อกี้ก็เอากันหนักมาพอสมควรแล้ว เขาควรจะหยุดตักตวงจากเธอได้แล้ว“เหนื่อยอะไรกัน แค่นอนเฉยเนี่ยนะ ผมสิที่ต้องเหนื่อย” ฟรานติโน่พูดไปก็พรมจูบไปทั่วร่างบางจนพิชชาภาที่พยายามห้ามเขาก็หมดแรงต่อต้านเขา เมื่อเขาหน้ามึนจะเอาเธอต่ออยู่ท่าเดียว“วันนี้ผมจะสอนทุกทุกท่าเลย ครั้งต่อๆไป คุณจะได้สนุกไปกับผม” ฟรานติโน่บอกไปก็ก้มลงไปเล่นสนุกกับร่องสาวอีกครั้ง แล้วใช้นิ้วเขี่ยปุ่มเสียววนกันไป จนเริ่มมีน้ำเยิ้มไหลออกมาอีกครั้ง ที่จริงเขาก็อยากจะให้เธอได้พัก แต่พอเห็นร่างกายของพิชชาภาแล้วร่างกายองเขามันก็แข็งขึ้นมาทุกที อย่างน้อยเขาให้เธอทานยาแล้ว เธอก็คงจะไม่เป็นอะไร“อ้ะ คุณฟราน อื้มส์” พิชชาภาร้องครางเสียงออกไปก็เอามือจิกที่นอนด
“ใครจะไปหน้าหนาเหมือนคุณล่ะ ไปใส่กางเกงดีๆก่อนไป แล้วค่อยมายืนคุยแบบนี้ แล้วอีกอย่างใครใช้ให้คุณเอาหมอมาตรวจฉันห้ะ แค่นี้ฉันยังอายไม่พอหรือไง” พิชชาภาพูดไปก็เอามือมาบังที่หน้า เพราะไม่อยากจะเห็นอะไรต่อมิอะไรของเขา แค่เมื่อคืนมันก็ติดตาติดปากของเธอมากพอแล้ว“หึๆ ก็เพราะผมอยากจะเอาคุณอีกไง ผมถึงอยากให้หอยฟิตๆของคุณหายไวๆ แล้วก็ไม่ต้องอายหรอกนะ เพราะคุณก็เคยทำมากกว่ามองมันมาแล้ว จริงไหม” ฟรานติโน่บอกไปก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ พร้อมกับกระโจนขึ้นไปบนเตียงแล้วจ่อท่อนเอ็นไปที่หน้าของพิชาภาอย่างแกล้งๆ จนเธอหันมาจะต่อว่าเขาจนท่อนเอ็นของเขาไปโดนปากของเธอเข้า"โอ้ย นี่คุณ” พิชชาภาจะต่อว่าเขาแต่ก็ต้องสะอึกเมื่อโดนท่อนเอ็นฟาดเข้าที่ปากจังๆ เกิดมาพึ่งเคยโดนท่อนเอ็นตบปากก็คราวนี้แหละ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น“พูดมากดีนัก ดูสิโดนน้องชายผมฟาดปากเลย สงสัยคงหยุดเถียงไปอีกนาน ฮ่าๆ” ฟรานติโน่หัวเราะออกมาอย่างสะใจ ก่อนจะมองท่าทางของพิชชาภาอย่างขำๆ เพราะเธอโดนท่อนเอ็นตีเข้าที่ปากเต็มๆพิชชาภาได้แต่กัดฟันข่มความโกรธไว้ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วล้มตัวนอนอย่างงอนๆ เพราะเขาทำให้เธออายจนแทบขะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว“นอนพักไปก
หลังจากนั้นฟรานติโน่และเมทีก็เดินทางไปทำงานที่บริษัทส่วนเมทินีก็กลับไปทำงานที่โรงพยาบาลต่อ ส่วนพิชชาภาก็นอนหลับจนเกือบเย็น เธอก็อยากจะกลับไปบ้าน เพราะกลัวว่าน้าของเธอจะเป็นห่วงเธอจึงโทรหาปัทมาและนภัทรมารับเธอที่บ้านสวนของฟรานติโน่ เพราะเธอไม่รู้จะขอร้องใครให้ช่วยเธอได้ และปัทมากับนภัทรคือเพื่อนที่เธอไว้ใจที่สุด“นี่แกโดนตั้มท่าไหนเนี่ยสภาพอย่างกับโดนรุมโทรมยัยพิช” ปัทมาพูดไปขณะเดินเข้าไปเจอเพื่อนสาวกับลังเดินออกมาที่ห้องรับแขกด้วยขาก้าวชิดก้าว ก่อนจะรีบเดินไปประคองเพื่อนสาวให้มานั่งที่โซฟา“แล้วต้นอ่ะ” พิชชาภาเอ่ยถามออกไป เมื่อเธอเห็นแค่ปัทมาเดินเข้ามา โดยไม่มีเพื่อนหนุ่มของเธอเดินเข้ามาด้วย“มันกลับรถรออยู่ข้างนอกอ่ะ กว่าแม่บ้านจะเปิดประตูให้ฉันกับไอ้ต้นเสียค่าปิดปากไปหลายพันเลยนะ แกเดินไหวไหมล่ะ ไปขึ้นรถข้างนอกกัน” ปัทมาเอ่ยบอกไปด้วยสีหน้าหงอยๆ เพราะแม่บ้านของฟรานติโน่ไม่ยอมให้นภัทรและเธอเข้ามา เธอจึงจ่ายเงินให้ห้าพันเป็นค่าปิดปาก จนแม่บ้านยอมเปิดประตูให้พวกเธอขับรถเข้ามาในบ้านสวนนี้ได้“อืม ไหวสิแก ของใจมากนะที่มารับฉัน” พิชชาภาบอกไปก็ลุกเดินออกไปด้านนอกโดยมีเพื่อนสาวคอยประคองอยู่
ด้านฟรานติโน่ก็นั่งทำงานจนนึกได้ว่าเขาปล่อยให้พิชาภาอยู่บ้านคนเดียว เขาจึงโทรไปหาแม่บ้านให้ไปดูแลเธอ แต่แม่บ้านกลับบอกว่าเธอให้เพื่อนมารับออกไปตั้งแต่เย็นแล้ว จนเขานึกอยากจะด่าตัวเองนักที่ปล่อยให้เธอไปแบบนั้นทั้งที่เขาควรจะดูแลเธอ จากนั้นเขาก็กระหน่ำโทรหาเธอตั้งแต่เย็นจนตอนนี้เกือบจะสองทุ่มแล้วเธอก็ยังไม่รับสายของเขา“ไปแรดอยู่ที่ไหนทำไมไม่รับสายวะ” ฟรานติโน่สบทบทออกมาขณะกดโทรศัพท์หาพิชชาภา ก่อนจะถอนหายใจอย่างไม่พอใจ เขาไม่เคยต้องโทรหาใครแบบนี้เลย พิชชาภากล้ามากที่ไม่รับสายของเขา“เขาจะไปแรดที่ไหนได้ล่ะครับคุณฟรานจัดหนักไปขนาดนั้น ถ้าไปต่อกับใครได้ก็สุดยอดแล้วล่ะครับ” เมทีเอ่ยพูดไปขณะขับรถไปส่งฟรานติโน่ที่บ้าน“เมที ขับรถไปที่บ้านพิชชาภาสิ ฉันอยากจะรู่ว่าเธอกลับไปนอนบ้านหรือว่าเธออกไปแรดข้างนอกกันแน่” ฟรานติโน่พูดออกไปอย่างจริงจัง เพราะเขาอยากจะเห็นกับตาว่าพิชชาภาอยู่ที่บ้านของเธอจริงๆ“หวงหรือว่าห่วงกันล่ะครับคุณฟราน” เมทีแซวออกไปก็ยิ้มมุมปากกับคนปากแข็ง ปากก็ด่าว่าเขาแรดแต่ก็อยากไปเจอเขา คุณฟรานนะคุณฟราน“ไม่ต้องพูดมาก ขับไปบ้านของพิชชาภาเดี๋ยวนี้เมที ไม่งั้นฉันจะหักเงินเดือนนาย” ฟร
“เราคงต้องเสียร้านให้ไอ้เสี่ยนี่แล้วจริงๆคุณพิม ยังไงผมก็ไม่ปล่อยยัยพิชให้ไอ้เสี่ยนั่นเด็ดขาด ส่วนเงินที่เหลือผมว่าเราขายบ้านหลังนี้แล้วย้ายไปอยู่ที่บ้านแม่ของคุณกันดีไหม อย่างน้อยเราจะได้มีเงินเหลือไปตั้งตัวอยู่บ้าง” โจเซฟบอกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะเขาคิดว่าไม่มีทางไหนดีกว่า พอพิชชาภาได้ยินเธอก็เดินกลับขึ้นไปบนห้องทันที ก่อนจะรีบหาเช็คเงินสดที่ฟรานติโน่ให้เธอมา“พิมว่าก็ดีเหมือนกันค่ะ ไปเปิดร้านนวดอยู่ที่เชียงใหม่ก็น่าจะได้ ส่วนเรื่องเรียนต่อของยัยพลอย พิมจะคุยกับลูกให้แกเรียนมหาลัยที่นี่เองค่ะ เพราะถึงยัยพิชจะช่วยอีกคน แต่ยัยพลอยเรียนตั้งสี่ปีเราจะหาเงินที่ไหนมาส่งแกกันคะ เฮ้อ” พิริมาพูดบอกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะเธอก็ไม่อยากทำลายความฝันของลูกสาว แต่ในเมื่อตอนนี้ครอบครัวกำลังมีปัญหาลูกสาวของเธอก็คงจะเข้าใจ“งั้นเดี๋ยวผมจะไปลงประกาศขายบ้านเราก็แล้วกัน ส่วนคุณก็ไปคุยกับลูกนะ”โจเซฟเอ่ยพูดก็เอามือตบไหล่ของภรรยาสาวอย่างเบามือก่อนยิ้มบางๆให้“น้าโจน้าพิม ไม่ต้องขายบ้านแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้พลอยหาเงินมาใช้หนี้ให้น้าโจกับน้าพิมได้แล้วนะคะ แล้วยัยพลอยก็จะได้ไปเรียนเมืองนอกเหมือนเดิม” พิชชาภาเดินเข้าม
“กว่าจะรับโทรศํพท์ผัวได้นะ นึกว่าจะอีดตายไปซะแล้ว ต่อไปถ้าคุณไม่รับสายของผมล่ะก็ ผมจะเอาคุณนับครั้งตามสายที่คุณไม่รับนั้นแหละ” ฟรานติโน่พูดไปด้วยเสียงห้วนๆ ก่อนจะแอบดีใจที่พิชชาภารับสายของเขาแล้ว หลังจากที่เขากระหน่ำโทรหาเธอตั้งแต่เมื่อเช้า“คุณฟรานติโน่” พิชชาภาได้ยินเสียงของฟรานติโน่ก็ดีดตัวขึ้นมาพร้อมกับตาเบกกว้างอย่างอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าเขาจะโทรมาหาเธออีก“ทำไม ห่างกันแค่สองวันจำผัวตัวเองไม่ได้หรือไง แล้วนี่ไม่สบายดีขึ้นรึยัง” ฟรานติโน่พูดไปก็ถามถึงอาการป่วยของเธอที่เขาได้ยินน้าสาวของเธอพูดเมื่อวาน“ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ คุณฟรานมีอะไรอีกรึเปล่าคะถึงโทรหาพิช” พิชชาภาถามไปตรงๆ เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาโทรมาเธอเพราะอะไร“ฉันจะไปดูงานที่ญี่ปุ่นสามสี่วัน เธออยากไปด้วยรึเปล่า” ฟรานติโน่ถามออกไปก็รอลุ้นว่าพิชชาภาจะตอบแบบไหน เพราะเขาเองห็ไม่อยากจะให้เธอหลงคิดว่าเขาอยากจะชวนเธอไปจนตัวสั่น“แล้วคุณอยากให้พิชไปไหมล่ะคะ” พิชชาภาพูดเสียงอ่อนหวานตอบไป หึก็อมยิ้มเขินอยู่บนเตียงเมื่อฟรานติโน่เอ่ยชวนถามออกมาแบบนั้น เธอจึงตอบไปอย่างเล่นลิ้นกับเขา“หึ เสียงแรดแบบนี้ก็คงจะไปสินะ งั้นก็เตรียมตัวไว้พรุ่งนี้ผมจะให
พอถึงวันเดินทางไปญี่ปุ่นพิชชาภาก็มาหาฟรานติโน่ที่สนามบินเพราะเขาส่งเมทีให้ไปรับเธอที่บ้าน“ใครใช้ให้เธอแต่งตัวโป๊แบบนี้ห้ะ ไปเปลี่ยนเดี่ยวนี้พิชชาภา” ฟรานติโน่ที่กำลังนั่งรออยู่เงยหน้ามองพิชชาภาอย่างไม่ชอบใจ เมื่อเธอใส่กระโปรงสั้นจนโชว์ขาอ่อนแล้วเสื้อที่เธอใส่ก็ยังเป็นเกาะอกอีก เขาจะไม่ยอมให้เธอใส่แบบนี้ไปเด็ดขาด“ก็สวยดีนิครับคุณฟราน เซ็กซี่นิดๆหน่อยๆเหมาะกับคุณพิชดีนิครับ” เมทีพูดไปตามที่เขาเห็นเพราะชุดนี้มันก็ไม่ได้โป๊อะไรเมื่อเทียบกับบรรดาสาวๆของฟรานติโน่“ตาถึงนะคะคุณที ฮ่าๆ” พิชชาภาพูดไปก็หัวเราะเขินๆออกมากับเมทีอย่างสนิทสนมกันจนฟรานติโน่อิจฉา“ผมไม่ตลก ไปเปลี่ยนซะก่อนที่ผมจะจับคุณเปลี่ยนซะเอง” ฟรานติโน่พูดเสียงจริงจังจนพิชชาภาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินลากกระเป๋าไปที่ห้องน้ำ โดยที่สองหนุ่มมองตามเธอไป“ผมว่าคุณฟรานหวงเธอมากเกินไปรึเปล่าครับ นั่นมันยังไม่ได้ครึ่งของผู้หญิงแต่ละคนของคุณฟรานเลยนะครับ”เมทีเอ่ยพูดไปก็มองตามพิชชาภาด้วยสายตาสงสาร ที่เธอต้องมารับมือกับความเอาแต่ใจของฟรานติโน่“มันเรื่องของฉันนายอย่ามายุ่ง แล้วก็จำไว้ซะว่าฉันไม่เคยหวงพิชชาภา แล้วฉันเปลี่ยนใจแล้วนา
ด้านแฟรงก์และพลอยลดาก็นั่งแอบอยู่ที่ห้องของแฟรงก์ เพราะว่าห้องนอนของแฟรงก์มันมีระเบียงมองไปที่สระว่ายน้ำแบบชัดเจน และพวกเขาก็เชื่อมสายไฟต่างๆให้มาอยู่ในห้องของแฟรงก์ เพื่อสะดวกต่อการเซอร์ไพร์สครั้งนี้ ส่วนคนที่แฟรงก์ให้มันจัดการ เขาก็ให้กลับตั้งแต่ครึ่งช่วโมงก่อนหน้านี้ไปหมดแล้วด้านฟรานติโน่ก็พาพิชชาภาเดินออกมาแล้วคอยพยุงเธอมาจนถึงสระว่ายน้ำที่ถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งพร้อมมีแสงสีหลากสีสวยงามอยู่รอบๆ ก่อนจะส่งสัญญาณบอกกับน้องชายที่อยู่กับพลอยลดาให้ทำตามแผน ด้วยการปิดไฟที่สระว่ายน้ำทั้งหมดเพื่อเขาจะเปิดตาของพิชชาภา“พี่ฟรานจะทำอะไรคะ เมื่อไหร่จะถึงสักที” พิชชาภาที่ถูกปิดตาเอ่ยถามออกไปอย่างตื่นเต้นว่าฟรานติโน่กำลังจะทำอะไรเธอถึงพาเธอปิดตาแล้วเดินมานานขนาดนี้“เดี๋ยวก่อนนะคนดี ยืนตรงนี้แปปนึงนะครับ” ฟรานติโน่พูดเสียงเพราะก็ยิ้มมุมปากก่อนจะมองไปรอบๆที่ไฟทั้งหมดถูกปิดแล้วจนมันมืด เขาก็เอามือเอื้อมไปปลดผ้าปิดตาของพิชชาภาออกมา“ลืมตาได้แล้วคนดี” ฟรานติโน่บอกไป พิชชาภาก็ค่อยลืมตามาก็เห็นฟรานติโน่ยืนยิ้มใส่เธออยู่“มีอะไรกันคะ ทำไมต้องปิดตาพิชด้วย” พิชชาภาเอ่ยถามอย่างสงสัย ก่อนจะเห็นว่ามันมืดมาก
พอเช้าของอีกวันฟรานติโน่และแฟรงก์ก็พาพิชชาภาเดินทางไปส่งพลอยลดาที่บ้านของอลิซ่าผู้ดูแลพลอยลดาที่นี่โดยรถสปอตคันหรู เพื่อเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ของพลอยลดาให้มาอยู่ในความดูแลของฟรานติโน่ แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น กว่าฟรานติโน่และแฟรงก์จะเคลียร์ปัญหากับอดัมและอลิซ่าเสร็จก็นานเป็นชั่วโมง จากนั้นก็ช่วยกันขนของใช้ส่วนตัวของพลอยลดาออกมาบางส่วน แล้วก็กลับมาที่บ้านของฟรานติโน่“ช่วงที่พี่ยังอยู่ที่นี่พลอยก็พักห้องนั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวถ้าพี่กับพิชกลับไทยไป พลอยก็ค่อยย้ายมาอยู่ห้องนี้ก็แล้วกันนะ ส่วนเรื่องที่พักเดี๋ยวพี่จะให้ไอ้แฟรงก์มันจัดการให้ ไม่ต้องห่วงนะ พิชพาน้องเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ” ฟรานติโน่บอกทั้งสองสาวไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เพราะวันนี้เด็กสาวเจอแต่เรื่องไม่ดี เขาจึงพยายามพูดดีกับเธอให้เหมือนพี่ชายคนหนึ่งควรจะทำ“ไปกันเถอะยัยพลอย มาพี่ช่วยถือ” พิชชาภาเอ่ยพูดไปเสียงอ่อน ก็ช่วยน้องสาวที่ใบหน้าเศร้าเดินเข้าไปที่ห้องของน้องสาว พอแฟรงก์เห็นสองสาวเดินเข้าไปให้ห้องแล้ว เขาก็เอ่ยถามพี่ชายทันที“อ่าวเฮีย ทำไมเฮียไม่ไปจัดการเองอ่ะ ผมก็มีงานต้องทำนะครับ ไม่ได้มีเวลาไปทำอะไรให้ใคร โ
หลังจากนั้นทั้งสองก็หลับพักผ่อนจนเกือบเย็น ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะหกโมงเย็นกว่าทั้งสองจะออกมาหาแฟรงก์และพลอยลดาที่ในบ้านหลังนี้ด้วย“อ่าวยัยพลอยทำไมมานั่งคนเดียว แล้วพี่แฟรงก์ล่ะ” พิชชาภาเดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่ห้องโถงกลางบ้านก็เจอน้องสาวกำลังนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ จึงเอ่ยถามออกไป“ไม่รู้สิคะ ป่านนี้คงนอนอืดตายแล้วมั้งคะ” พลอยลดาเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะยิ่งเธอนึกถึงตอนที่เขามาแอบมองเธอเล่นน้ำ แล้วเขาก็เล่นกับเจ้านั่นของเขา ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายเธอก็อดโมโหไม่ได้“ยัยพลอย พี่แฟรงก์เขาแก่กว่าเราตั้งกี่ปี เคารพเขาบ้างสิเราน่ะ อีกอย่างต่อไปเราต้องอยู่กับพี่แฟรงก์ที่นี่ เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวดีๆกับพี่เขา เข้าใจไหม” พิชชาภาเอ่ยดุน้องสาวไปอย่างเตือนๆ เพราะยังไงแฟรงก์ก็อายุมากกว่าน้องสาวของเธอ“เคารพคนแบบนั้นไปทำไมล่ะคะ พี่พิชรู้ไหมว่าอีตานั่นมัน” พลอยลดาที่โมโหอยุ่พูดออกไปอย่างลืมตัว ก่อนจะหยุดพูดไปเพราะกลัวว่าพี่สาวจะเป็นห่วงมากกว่าเดิม“ทำไม พี่แฟรงก์ทำอะไรเรา บอกพี่มานะ” พิชชาภาเริ่มทำหน้าเครียดแบบจริงจัง พร้อมกับจ้องมองน้องสาวอย่างจับผิด“เปล่าค่ะ เขาก็แค่ชอบพูดกวนพลอย
ด้านฟรานติโน่ที่เขามารอพิชชาภาในห้องก็กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเขาคิดแผนอะไรดีๆออกแล้ว ว่าเขาควรจะเอาเวลาที่อยู่ที่นี่ทำอะไรดี แต่ก่อนที่เขาจะโทรหาเมที เขาจึงแอบส่งข้อความให้น้องชายช่วยดูแลน้องสาวของพิชชาภาระหว่างที่พวกเขาจะพักผ่อน จากนั้นเขาก็เดินไปล็อคประตูห้องแล้วเลือกที่จะโทรหาเมทีทันที“ว่าไงครับคุณแฟรงก์ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” เมทีรับสายแล้วกรอกเสียงพูดไปอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะคิดในใจว่าเจ้านายของเขาคงจะมีงานด่วนให้เขาทำแน่ๆถึงโทรมาเร็วขนาดนี้ ทั้งที่พึ่งจะกำลังถึงอเมริกา“มีแน่ๆ ฉันจะเซอร์ไพร์สขอเมียฉันแต่งงานที่นี่” ฟรานติโน่เอ่ยบอกออกไปก็คิดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายออกมาอย่างอดไม่ได้ว่าพิชชาภาจะมีความสุขขนาดไหนถ้าเขาทำอะไรมุ้งมิ้งแบบนี้ให้เธอ“อะไรนะครับ นี่คุณฟรานจะขอคุณพิชแต่งงานที่นั่นเหรอครับ แต่คุณฟรานกับคุณพิชแต่งงานกันแล้วนิครับจะขอแต่งงานกันไปทำไมล่ะครับ ยังไงก็จดทะเบียนกันแล้วนิครับ” เมทีเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะทั้งสองก็จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว ทำไมต้องมาทำเซอร์ไพร์สอะไรอีก“ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงไม่มีเมียจนถึงอายุปูนนี้ ไม่มีความโรแมนติกเลยนะแกเนี่ย ถึงฉันกับพิชจะจดท
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็นั่งรถเดินทางไปยังบ้านของฟรานติโน่ที่อยู่ในเมืองฮอลลีวูดซึ่งมันเป็นเมืองที่อยู่ในลอสแองเจลิสอีกที แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน นั่งรถมาครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านที่อยู่ริมทะเล“นี่บ้านเหรอคะเนี่ย ใหญ่เวอร์วังไปอีก” พลอยลดาลงจากรถคันหรูก็มองบ้านของพี่เขยอย่างอึ้งๆ เพราะมันเรียกว่าบ้านไม่ได้ มันต้องเรียกว่าคฤหาสน์แล้ว ยิ่งอยู่ติดทะเลแบบนี้พี่เขยเธอคงจะรวยน่าดู เพราะคนที่นี่ถ้าไม่รวยจริงอยู่ติดทะเลแบบนี้ไม่ได้แน่“นี่บ้านของพี่ฟรานจริงๆเหรอคะ” พิชชาถาเองก็อึ้งไม่ต่างจากน้องสาว เพราะบ้านของเขาที่ไทยก็ใหญ่มากแล้ว แต่พอเจอที่นี่ไปบ้านที่ไทยดูธรรมดาไปเลย“ พี่กับไอ้แฟรงก์พึ่งซื้อได้ไม่นานเท่าไหร่ มันสวยดีพี่ก็เลยซื้อเก็บไว้เผื่อมาทำงานที่นี่จะได้มีบ้านนอนสบายๆ ” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก็จูงมือของพิชชาภาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ริมทะเล เขาเลือกซื้อที่นี่ไว้เพราะทำงานที่อเมริกาแต่ละครั้งก็หลายเดือน ซื้อบ้านไว้น่าจะสะดวกกว่า“จะไม่เข้าบ้านเหรอ มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ได้ ไม่ร้อนไง” แฟรงก์พูดไปก็มองหน้าของเด็กสาวอย่างกวนๆ ก่อนจะเดินตามฟรานติโน่และพิชชาภาเข้าไปในบ้าน“หืม ไอ้บ้
ด้านพิชชาภาก็เดินทางมาถึงอเมริกาก็เกือบสิบโมงเช้า พอได้เห็นเมืองที่น้องสาวอยู่ก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวได้มาเรียนที่นี่ นั่นก็คือเมืองลอสแองเจลิสที่อยู่ในรัฐแคลิฟอเนียซึ่งอยู่ในแทบทะเลถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเมืองหนึ่งในอเมริกา“ไงเราตื่นเต้นละสิ ตาลุกวาวเลยนะ” แฟรงก์เอ่ยพูดกับพิชาภาอย่างแซวๆ เมื่อเธอยิ้มหน้าบานแถมยังทำท่าตื่นเต้นจนออกนอกหน้า ซึ่งต่างจากเขาและพี่ชายที่มาที่นี่บ่อยแล้วเพราะมีธุรกิจอยุ่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่“เมืองนี้สวยมากเลยอ่ะพี่แฟรงก์ ตอนเครื่องลงพิชมองดูวิวแล้วนะ เริสมาก เดี๋ยวต้องไปอ้อนพี่ฟรานให้พาเที่ยวหน่อยแล้วล่ะค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะหันไปหาฟรานติโน่ที่ยืนส่ายหัวใส่เธออยู่ข้างๆแฟรงก์“นี่มาหาน้องสาวไม่ใช่เหรอเรา ยังไม่ทันไรก็จะให้พี่พาเที่ยวเหรอ เคลียร์เรื่องน้องสาวเราให้จบก่อนเถอะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับเก็กท่าหล่อใส่พิชชาภาจนพิชชาภามองเขาอย่างเบะปากแบบหมั่นไส้“เคลียร์แน่ค่ะ นี่ก็บอกว่าถ้าส่งงานอาจารย์แล้วจะมารอรับที่สนามบิน ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้” พิชชาภาพูดบอกไปก็แลสายตามองหาน้องสาว เพราะน้องสาวของเธอบอกจะมารอรับ เพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว
“เฮ้อ เบื่อพวกข้าวใหม่ปลามันจริงๆ ถ้าเฮียเป็นห่วงน้องพิชเดี๋ยวผมไปส่งน้องพิชเขาก่อนก็ได้ เพราะผมว่างงานมากเลยเฮีย ไม่ได้มีงานเต็มโต๊ะแบบเฮีย” แฟรงก์พูดไปอย่างกวนๆก็มองทั้งสองพูดคุยกันต่อ“มันจำเป็นต้องไปขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ได้พี่จะให้พิชไปอเมริกา” ฟรานติโน่พูดไปอย่างไม่สนใจน้องชาย ก่อนจะยอมแพ้ลูกอ้อนของพิชชาภา เพราะแค่เห็นสายตาของเธอเขาก็สยบแทบเท้าของเธอแล้ว“เออโว้ย ยอมง่ายดีจริงพี่กู คนกลัวเมียสองพันสิบแปดชัดๆ” แฟรงก์พูดออกมาเบาๆอย่างงงๆ เมื่อกี้พี่ชายเขายังทำท่าแข็งขืนอยุ่เลย ตอนนี้กลับยอมง่ายๆ“พี่จะไปกับพิชด้วย ไปพรุ่งนี้ใช่ไหม พี่จะให้เมทีหาตั๋วเครื่องบินให้” ฟรานติโน่พูดออกไปจนพิชชาภายิ้มออกมาอย่างดีใจ“ขอบคุณนะคะ พี่ฟรานน่ารักที่สุดเลยค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็เอามือบีบแก้มของฟรานติโน่อย่างน่ารัก“อ่าวเฮียไหนบอกมีงานเยอะปลีกไปไม่ได้ไง แล้วงานที่นี่ใครจะทำเล่า” แฟรงก์เอ่ยถามออกไปอย่างงงๆ ปากอ้างว่ามีงานเยอะแต่พอพิชชาภาพูดว่าจะไปอเมริกาเท่านั้นแหละ พี่ชายของเขากลับเปลี่ยนใจทันที แบบนี้มันน่าน้อยใจจริงๆ“มันเรื่องของฉัน แกเองก็ไปเตรียมตัวด้วย เราจะไปอเมริกาพร้อมกัน” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก
“อดัมพ่อเลี้ยงของอลิสค่ะพี่พิช เขาจะลวนลามพลอย อือๆ พลอยไม่จะทำยังไงดีคะ พลอยไม่กล้าบอกเจกับอลิสด้วย พลอยไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว พลอยอยากกลับบ้าน พี่พิชช่วยพลอยนะคะ อือๆ” พลอยลดาเอ่ยบอกพี่สาวด้วยเสียงสะอื้น เธอพยายามอดทนมานานแล้ว แต่วันนี้อดัมพยายามลวนลามเธอจนเธอทนไม่ได้แล้ว แล้วเธอก็ไม่รู้จะบอกอลิซ่าแม่ของอลิสยังไง เธอกลัวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อเธอ“ใจเย็นๆนะพลอย เดี๋ยวพี่จะจัดการเรื่องนี้เองแล้วเราก็พยายามอยู่ห่างๆอดัมไว้อย่าไปใกล้เขา ถ้ามีอะไรก็เรียกให้เจช่วยนะพลอย แล้วก็ล็อคห้องดีๆ เข้าใจไหม เราไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ยอมให้เราอยู่ที่นั่นอีกต่อไป” พิชชาภาเอ่ยบอกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว เธอไม่คิดเลยว่าน้องสาวของเธอจะเจอเรื่องแบบนี้ ขออย่าให้น้องสาวเธอโดนไอ้แก่อดัมนั่นทำอะไรเลย พิชชาภาคิดไปอย่างกังวล“ค่ะพี่พิช พลอยรู้นะคะว่าพ่อกับแม่ไม่มีเงินให้พลอยไปพักอยู่ที่อื่นหรอก เพราะที่พลอยมาเรียนที่นี่ได้ก็เพราะเงินของพี่พิช แต่ตอนนี้พลอยยอมกลับไปเรียนที่ไทยก็ได้ค่ะ แต่พลอยขอพี่พิชบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้นะคะ พลอยไม่อยากให้พวกท่านเป็นห่วงพลอยค่ะ” พลอยลดาบอกไปอย่างท้อใจ เพราะเธอเจอเรื่องแบบนี้แล้วมัน
“อ่าส์ พิช เจ็บไหม พี่ทำแรงไปหน่อย” ฟรานติโน่เอายถามออกไปก็มองพิชชาภาอย่างสงสาร เพราะวันนี้เขาเผลอเอาเธอแรงไปหน่อย“ไม่ค่ะ เพื่อลูกของเราพิชทนได้” พิชชาภาบอกไปก็ยิ้มละมุมใส่ฟรานติโน่“บล็อก อ่าส์ แดงเชียว” ฟรานติโถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวก็นั่งยองๆดูร่อร่องสาวของพิชชาภาที่แดงเผือก ก่อนจะเห็นน้ำรักของเขาไหลออกมาจากรูเล็กๆนั่น เขาก็เอื้มมือไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบน้ำรักของเขาออกไป“เดี๋ยวพิชทำเอง พี่ฟรานจัดการของตัวเองเถอะค่ะ” พิชชาภาเอ่ยบอกไปก็ลุกขึ้นแล้วดึงกระโปรงของเธอลง ก่อนจะมองหากางเกงชั้นในของตัวเองที่วางอยู่ขอบโต๊ะทำงานของฟรานติโน่ เธอก็ลุกขึ้นไปหยิบมาทันที“งั้นไปพร้อมกันนั่นแหละ” ฟรานติโน่บอกไปก็จูงมือพาพิชชาภาไปเข้าห้องน้ำในห้องทำงานของเขาที่อยู่ในห้องทำงานทันทีหลังจากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันทำความสะอาดของกันและกันจนเสร็จ ฟรานติโน่ก็มานั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน ส่วนพิชชาภาก็ไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับฟรานติโน่แล้วเธอก็เอามือท้าวคางมองฟรานติโน่ทำงานอย่างหลงใหล“คนอะไร ยิ่งดูยิ่งหล่อ ยิ่งดูยิ่งน่าเอา” พิชชาภาพูดไปก็มองฟรานติโน่ไป จนฟรานติโน่ที่กำลังอ่านเอกสารถึงกับเงยหน้ามามองพิชชาภาอ