“จำเอาไว้ น้ำรักนี้กินได้ เอ็งจะสาวและสวยตลอดไป แพง... มองข้า”
ดวงตาสุกใสปนเขินอายที่ช้อนขึ้นสบแทบทำให้พระสรเดชฯ หยุดลมหายใจ สิ่งใดหนอที่ทำให้ท่านเกิดจิตพิศวาสนางแพงได้มากขนาดนี้ หรือจะเพราะความร้อนแรงที่ซ่อนซุกอยู่ในดวงตาคู่นี้ หรือจะเป็นที่ความไร้เดียงสาไม่ต่างจากแม่พิศในวันวาน หรือจะเป็นที่ท่านปรารถนาเรือนร่างอวบอิ่มนี้จนแทบหยุดยั้งไม่ได้
“นี่มันไม่ใช่สิ่งน่าละอายดอกนะ เอ็งมารับใช้ข้า มาเป็นเมียข้า คนเป็นผัวเมียเขาก็ทำเยี่ยงนี้กันทั้งนั้น สิ่งใดที่เอ็งชอบข้าจะทำให้ และสิ่งใดที่ข้าชอบ เอ็งจะทำให้ข้าได้รึไม่ ว่าอย่างไรล่ะ”
“เจ้าค่ะ บ่าวจะทำทุกอย่างที่คุณท่านต้องการ บ่าวอยากให้คุณท่านมีความสุข”
&nb
แรงบีบรัดจากโพรงดอกไม้ไร้แมลงชอนไชทั้งแน่นและอึดอัดจนพระสรเดชฯ แทบจะทานทนแรงเสียดสีจากความคับแน่นนั้นไม่ไหว ทว่าก็ทำได้เพียงเคลื่อนกายเนิบนาบไปอย่างช้าๆ เพราะหากรัวเร็วหรือว่ารุนแรงมากกว่านี้เห็นทีท่านคงทานทนความอ่อนหวานตรงหน้านี้ไม่ไหวแน่ และยิ่งเห็นใบหน้าอ่อนหวานสะบัดไหวพร้อมกับเปล่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปนซ่าน ท่านก็ยิ่งจะอดใจไว้ไม่ได้ ความฉ่ำชื้นที่ถูกขับออกมาชโลมความแข็งแกร่งจนเข้าออกได้ง่ายมากขึ้นก็ทำให้ท่านต้องรีบเร่งจ้วงแทงความร้อนรุ่มกระหน่ำใส่โพรงดอกไม้ฉ่ำน้ำของนางแพงไม่ยั้ง “อูย... คุณท่านเจ้าขา... อา... แพงไม่ไหวแล้ว ไม่ไหว... แพงไม่ไหว... คุณท่านเจ้าขา... คุณท่าน! กรี๊ดดดดด...” จวบจนดอกไม้กลีบบอบบางตอดกระตุกรัดความแข็งแกร่งของท่านอย่างรุนแรง พร้อมๆ กับเสียงกรีดร้องฟังไม่รู้คำของนางแพงดังระรัวซาบซ่านสะท้านไปทั้งร่าง นางแพงก็รับรู้ว่าส
ทว่าลิ้นใครก็ไม่ทำให้แม่พิศร่อนร้อนได้เท่าลิ้นของไอ้ทาสหนุ่มแน่นคนนี้ เพราะไม่เพียงปลายลิ้นที่ทั้งยาวทั้งสาก ทว่าบุญทิ้งยังมีลีลาที่ทำให้แม่พิศต้องกรีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความซ่านเสียวอย่างสุดกู่ อย่างเช่นขณะนี้ เมื่อดอกไม้แสนสวยของแม่พิศกำลังบานเด่นอยู่ตรงหน้าบุญทิ้ง และลิ้นยาวๆ นั้นกำลังไล้เลียตวัดขึ้นพร้อมกับชอนไชปลายลิ้นลงแทรกไปตามรอยแยกของกลีบดอกไม้ “อา... บุญทิ้งจ๋า... เธอจะฆ่าฉันให้ตายหรืออย่างไร อูย... เสียวอะไรเยี่ยงนี้ อูย... ซี้ด... ซี้ด... บุญทิ้งจ๋า... โอว... โอว...” แม่พิศแหงนใบหน้าขึ้นสูง ริมฝีปากอ้าครวญครางอย่างลืมอาย ท่อนแขนเกี่ยวกระหวัดรัดต้นเสาเอาไว้ ขณะที่สะโพกโยกไหวอยู่บนใบหน้าของบุญทิ้งไม่หยุด เพราะขณะนี้แม่พิศรู้สึกไม่ต่างกำลังล่องลอยขึ้นสู่สวรรค์&nbs
ความซ่านเสียวที่ได้รับมากมายเสียจนบุญทิ้งต้องหันหาสิ่งที่จะช่วยบรรเทาเบาบางได้บ้าง และดอกไม้งดงามที่ลอยเด่นอยู่เบื้องหน้าก็คือจุดหมาย ฝ่ามือรั้งบั้นท้ายงอนงามของคุณนายพิศเข้าใกล้ ปลายลิ้นแลบออกยาวอย่างที่สุด ก่อนจะตวัดเลียไล้เกสรดอกไม้ที่สะท้านไหว ในทันทีที่ปลายลิ้นแตะสัมผัส เสียงครวญครางของคุณนายพิศก็ยิ่งทำให้บุญทิ้งเมามันที่จะชอนไชเข้าออกให้สุดทาง “อูว... บุญทิ้ง... เสียว... เสียวจ้ะเสียว... อืม...” ยิ่งบุญทิ้งระรัวเร็วปลายลิ้น แม่พิศก็ยิ่งทำตามอย่างไม่ยอมแพ้ ปลายลิ้นเล็กๆ ตวัดเลียไล้ความแข็งแกร่งของไอ้ทิ้งน้อยตั้งแต่โคนยันปลาย ก่อนจะไล้วนปลายยอดไปทั่ว จากนั้นก็ลากลิ้นลงต่ำ เกลี่ยสะบัดโบกพัดปลายลิ้นจนบุญทิ้งส่งอัดไอ้ทิ้งน้อยร่อนบั้นท้ายแกร่งไม่ติดฟูก&nbs
“โธ่... คุณนายขอรับ คุณนายก็รู้ว่าไอ้ทิ้งคนนี้ทั้งรักทั้งหลงคุณนายมากแค่ไหน ไม่อย่างนั้นนังเรียมมันคงไม่...” บุญทิ้งชะงักคำพูดซึ่งก็ทำให้แม่พิศรู้สึกไม่ต่างกัน ฝ่ามือเอื้อมหยิบผ้าเนื้อนุ่มขึ้นมาปกปิดเนื้อกายที่เปล่าเปลือย เพราะเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ แม่พิศก็หมดความกระสันอยากในเนื้อตัวของบุญทิ้งไปอย่างดื้อๆ ด้วยความว้าวุ่นในเรื่องของนางเรียมยังติดตามหลอกหลอน เพราะจะรู้ได้อย่างไรเล่าว่าวันหนึ่งนั้นนางเรียมจะไม่กลับมา “บุญทิ้งแน่ใจแล้วรึ ว่านังเรียมมันหนีไปจริงๆ” แม่พิศถามอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ แม้ว่าคำตอบของบุญทิ้งจะคือมั่นใจ แต่หล่อนกลับไม่มีความมั่นใจในสิ่งนั้นเลย เพราะหากนางเรียมหนีไปจริงเหตุอันใดไม่บอกแม่บอกเชื้อ ในเมื่อมันเป็นบ่าวในเรือนคุณพระตั้งแต่อ้อนแต่ออก แม่พิศก็ไม่คิดว่านางเรียมจะไปรู้จ
เสียงไก่ขันเจื้อยแจ้วทำให้ร่างที่นอนซุกซบอยู่กับอกแกร่งต้องผงกหัวขึ้น เป็นความเคยชินในทุกเช้าตรู่ที่ต้องตื่นขึ้นมาช่วยงานครัว หากแต่ว่าวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว นางแพงกรอกตามองไปโดยรอบห้องก่อนจะมาหยุดที่ใบหน้าคมคร้ามของท่านเจ้าของเรือน ที่บัดนี้ได้ชื่อว่าเป็น ‘ผัว’ ของมันแล้ว และตัวมันเองก็ได้เป็นอีกหนึ่งเมียของท่านอย่างไม่ต้องสงสัย ณ ขณะนี้ ฝ่ามือใหญ่และอบอุ่นยิ่งนักก็ยังกอดกระชับรอบบั้นเอวของมันเอาไว้ ราวกลับกลัวว่ามันจะเร้นกายหลบหนีหายไป และเพียงมันขยับกายจะลงจากเตียง สัมผัสเสน่หาที่ตะปบและบีบเคล้นที่หน้าอกอวบก็ทำให้นางแพงต้องวูบวาบไปทั้งร่างจากกระแสเลือดที่สูบฉีดตลอดทั้งตัว “จะไปไหนเล่าแพง ยังเช้าอยู่เลยนะ” พระ
เป็นไปตามที่แม่พิศคาดคิดไว้ คุณพระหลงใหลนางแพงอย่างที่สุด บัดนี้บ่าวไพร่และข้าทาสทั้งเรือนต้องเรียกว่า ‘แม่แพง’ ตามศักดิ์ที่คุณพระท่านยกแม่แพงให้ขึ้นเป็นเมียท่านอีกหนึ่งคน แม่พิศจึงเปิดทางให้คุณพระไปค้างกับแม่แพงที่เรือนเล็กได้ทุกคืนวัน ด้วยเหตุผลที่ว่าแม่แพงยังสาวยังแส้ ไม่นานเกินเดือนคุณพระอาจได้ข่าวดีมีลูกไว้สืบสกุลก็เป็นไปได้ สิ่งที่แม่พิศทำก็ยิ่งทำให้คุณพระทั้งรักและเกรงอกเกรงใจมากยิ่งขึ้น ทั้งแม่แพงก็เทิดทูนแม่พิศอย่างที่สุด ไม่ว่าคุณนายใหญ่จะบอกกล่าวหรือสอนสั่งอย่างไร แม่แพงก็พร้อมจะทำตามอย่างไม่มีโต้แย้ง พระสรเดชฯ ทอดสายตามองเมียรักทั้งสองด้วยความแช่มชื่น ด้วยท่านมีเมียดีอย่างแม่พิศ แล้วแม่พิศก็ยังจัดแจงให้แม่แพงได้มาเป็นเมียของท่านอีกคน ให้ท่านมีความสุขทุกคืนวัน ใครเล่าจะสุขได
“คุณเจ้าขา มิเห็นต้องให้แม่แพงทำเลยเจ้าค่ะ บ่าวก็ทำให้ได้ แม่แพงจะได้ไม่ต้องลำบาก” “ลำบากอะไรกันเล่าอิ่ม เอ็งนี่ก็พูดแปลก คุณพี่อยู่เรือนข้า ข้าก็เป็นคนทำให้คุณพี่เอง เอ็งทำรึ นี่คุณพี่ไปอยู่เรือนแม่แพง แม่แพงก็ต้องเป็นคนจีบพลูเจียนหมากให้คุณพี่น่ะสิ หน้าที่นี้น่ะเหมาะสำหรับเมียเป็นคนทำให้ผัว หรือเอ็งอยากจะเลื่อนขึ้นมาเป็นเมียคุณพระท่านอีกคนเล่าอิ่ม ข้าจะได้บอกคุณพระท่านให้รับเอ็งอีกคน” แม่พิศปรายตามองนางอิ่มอย่างปรามอยู่ในที เพราะรู้ว่านางอิ่มไม่ชอบใจแม่แพงนักแต่ก็ไม่สมควรที่จะแสดงออกนอกหน้า อีกทั้งยังแปลกใจด้วยก่อนหน้านี้ก็ดูว่านางอิ่มจะชื่นชอบแม่แพงอยู่มาก เหตุใดเล่าแค่แม่แพงเป็นที่ถูกใจคุณพระท่าน นางอิ่มก็กลับกลายเป็นไม่ชอบใจขึ้นมาได้ ทั้งเมื่อคราวของแม่เรียมก็ไม่เห็นว่านางอิ่มจะตั้งแง่ได้มากขนาดนี้..หลังจากที่แม่แพงติดตามคุณพระลงเรือนไป ท่าทีของนางอิ่มที่ยังดูตึงพร้อมสายตาที่ปรายมองแม่
“อูย... แม่แพงจ๋า... อูย... เมียจ๋า... ผัวเสียวที่สุด อูย...” แม่แพงช้อนสายตาร้อนแรงขึ้นมองท่าน ก่อนจะละเลียดไล้ปลายลิ้นไปกับความเอร็ดอร่อยนั้นไม่หยุด ครั้งแรกที่ได้ร่วมกับคุณพระ คือความประหม่าปนความหวาดหวั่นอย่างที่สุด แต่เมื่อมีครั้งที่ 2, 3, 4, 5 ตามมาจนนับครั้งไม่ถ้วน แม่แพงเรียนรู้ได้อย่างหมดจดแล้วว่า สิ่งใดที่คุณพระท่านชอบและสิ่งใดที่คุณพระท่านไม่ชอบ รวมทั้งคุณพระเองก็เช่นกัน เมื่อท่านยังคงสร้างความซ่านเสียวให้กับแม่แพงอย่างไม่หยุดยั้ง จนแม่แพงไม่รู้สึกเขินอายอีกต่อไปแล้ว การทำรักระหว่างแม่แพงกับคุณพระในทุกค่ำคืน จึงกลายเป็นสวรรค์ที่แม่แพงไม่อยากให้ใครมาพรากไป แม้นว่าป้าอิ่มบ่าวคนสนิทของคุณนายพิศจะมากระแนะกระแหนที่แม่แพงไม่คิดจะค้านในยามที่คุณนายพิศเอ่ยให้รับใช้คุณพระทุกค่ำคืน แม่แพงก็ไ
แม่จันทร์สะอื้นฮึกฮัก เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าความเจ็บปวดร้าวรวดดั่งถูกมีดแหลมคมปักกรีดอยู่กึ่งกลางร่างกายนี้ จะมลายคลายลงได้อย่างไร เมื่อมันเจ็บเสียจนหล่อนไม่กล้าที่จะร่ำร้อง ด้วยกลัวว่าเพียงร่างกายขยับ ความเจ็บปวดนั้นจะทวีทบเท่า แลถึงตอนนั้นร่างกายนี้อาจตายเสียก็ได้ ทว่าแม้นเจ็บเพียงใด สัญชาตญาณก็ยังร้องสั่งให้แม่จันทร์มอง เพื่อให้รู้ที่มาของความเจ็บนั้น และสิ่งที่แม่จันทร์เห็นก็ทำให้ริมฝีปากต้องอ้าค้างมากขึ้น ด้วยไม่ใช่มีดพร้าที่ทิ่มตำร่างกาย แต่กลับเป็น ‘ท่อนเนื้อ’ ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากกึ่งกลางกายของท่านกำลังทิ่มตำที่โพรงดอกไม้ สีหน้ารวดร้าวของท่านและคำสอนของแม่ที่แว่วมาในความคิดทำให้แม่จันทร์ต้องยิ้มทั้งที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เพราะนี่คงเป็นลำดับขั้นสุดท้ายก่อนที่หล่อนจะพานพบกับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เมื่อริมฝีปากของท่านทาบลงมาบนกลีบปากนุ่มก่อนจะบดเบียดยั่วเย้าอย่างอ่อนโยน ตามติดมาด้วยปลายลิ้นร้อนที่เกลี่ยไล้ไปมาอยู่บนกลีบปาก นั่นทำให้แม่จันทร์ถึงกับตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก “เจ้าคุณอา...” พระยาสรเดชฯ อมยิ้มในสีหน้า ดวงตาคมเข้มเต็มเปี่ยมไปด้วยกาลเวลาทอดมองหญิงสาวที่สั่นประหม่าไปทั้งร่าง จนลืมเลือนไปเสียสิ้นว่าต้องรักษากิริยาและต้องเรียกท่านว่าเช่นไร ทว่าสิ่งที่แม่จันทร์เป็นอยู่นี้ก็ช่างน่าเอ็นดูนัก “ที่ไม่ให้เรียกเยี่ยงนั้น เพราะพี่อยากให้แม่จันทร์เรียกพี่ว่า ‘เจ้าคุณพี่’ จะได้รึไม่” “เจ้าค่ะ เจ้าคุณพี่”
เสียงมโหรีขับขานท่วงทำนองกล่อมหอดังแผ่วแว่วมาในห้อง ส่งผลให้ผู้เป็นเจ้าสาวที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงต้องกระชับฝ่ามือเข้าหากันแน่นด้วยประหม่านัก เพราะอีกไม่นานเจ้าบ่าวซึ่งออกไปส่งผู้หลักผู้ใหญ่และขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานก็จะกลับเข้ามา และเมื่อนั้นลำดับขั้นของงานวิวาห์จึงจะถือว่าสัมฤทธิ์ผล เจ้าสาวคนสวยชำเลืองมองที่นอนหนานุ่มขึงผ้าปูสีชมพูปักลวดลายดอกไม้กระจิริดดูอ่อนหวาน ทั้งข้าวของที่ใช้ทำ ‘พิธีเรียงหมอน’ ก็ยังวางเรียงรายกันอยู่อย่างสงบนิ่ง ฟักเขียว แมวคราว ไก่ขาว ไม้เท้า ถ้วยน้ำ และหินบดยา ถูกวางอยู่มุมซ้ายของเตียง ถุงเงินและถุงทอง ที่บรรจุถั่วเขียว งาดำ ข้าวตอก ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ถูกเปิดและหยิบเอาถั่ว งา และดอกไม้เหล่านั้นออกมาโปรยบนที่นอนเพื่อเป็นมงคล เมื่อนึกถึงเหตุที่เพิ่งผ่านไปเจ้าสาวก
ฟาววววววว... ควับ! “กรี๊ดดดดด...” สิ้นสุดเสียงกรีดร้องร่างที่สะบักสะบอมไปด้วยบาดแผลของนางแพงก็มีอันสิ้นสติไปด้วยความเจ็บปวด แต่คุณพระท่านก็ยังไม่หนำใจ ทั้งที่ตนเองก็หอบตัวโยนด้วยลงแรงไปกับหวายทั้งตัว คุณพระท่านร้องสั่งให้ข้าทาสไปนำเกลือเม็ดละลายน้ำเอามาสาดใส่บาดแผลของนางแพงให้มันฟื้นคืนขึ้นมาอีก เพื่อจะให้เรือนร่างนี้ได้รับความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง ให้สาสมกับสิ่งที่มันทำเอาไว้ เพราะมันเจ็บกาย แต่ท่านนั้นเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ รักมากก็แค้นมาก หวงมากก็อยากจะให้ตายคามือด้วยความทรยศ “สาดเข้าไป! เอาให้มันเจ็บมันแสบ มันจะได้รู้ว่าใครอย่าบังอาจมาทำเรื่องอัปรีย์จัญไรบนเรือนกูอีก ไอ้อีหน้าไหนที่มันกล้า มันจะต้องโดนเยี่ยงน
ฉาด! ฝ่ามือกระทบใบหน้าของนางแพงอีกครั้งให้หันไปตามแรงตบ เมื่อนางแพงเอาแต่ยิ้มและหัวเราะขันกับคำพูดของตนเอง มันทำความเสื่อมเสียเพียงผู้เดียวยังไม่พอ ยังจะริปากดีป้ายสีให้แม่พิศเมียรักต้องมัวหมองไปด้วย “ตบอีกสิเจ้าคะ ตบให้อีแพงมันตายไปเลย ไม่ต้องรอหวายแล้วเจ้าค่ะ แค่น้ำมือคุณท่าน อีแพงก็แทบจะตายคามืออยู่แล้ว แต่ก่อนตายขออีแพงได้พูดให้หมดเปลือกเถิด อีแพงคบชู้ อีแพงยอมรับ แต่หากคุณนายพิศคบชู้เล่าเจ้าคะ คุณท่านจะทำเช่นไร จะลงโทษคุณนายเทียบเท่ากับอีแพงรึไม่ หรือจักส่งคุณนายไปให้กองโปลิศตัดสิน ให้ประณามหยามเหยียดไปทั่วพระนคร ว่าลูกสาวบ้านนี้สัญชาติคบชู้สู่ชาย บ้านใดนำไปเป็นลูกเป็นเมีย ก็รังแต่จะเสื่อมเสียคบชู้อยู่ร่ำไป” “อีแพง!” 
“เอ็งช่างกล้าพูดนักนังแพง...” น้ำเสียงเอ่ยออกมาด้วยความเข่นเครียด ยิ่งเห็นเรือนร่างอวบอิ่มของเมียสาวคราวลูกสั่นสะท้านไปด้วยแรงสะอื้น คุณพระท่านยิ่งสะท้อนไปถึงหัวใจ เพราะนางแพงเมียทาสผู้นี้ ท่านสนิทเสน่หามันยิ่งนัก กลับมาคืนเรือนครั้งนี้ ท่านก็หวังจะโอ้โลมมันให้มีความสุข เพราะทิ้งร้างให้เปล่าเปลี่ยวอยู่นาน จนต้องสั่งให้เจ้าเข้มมาแจ้งข่าวกับแม่พิศว่าท่านจะคืนเรือนในวันนี้ ให้นางแพงได้เตรียมตัวต้อนรับท่านเถิด แต่กลับกลายเป็นว่านางแพงมันมีความสุขจนแทบจะสำลักอยู่แล้ว แม้จะรู้ว่าท่านคืนเรือนวันนี้ มันก็ยังกล้าที่จะพาไอ้บุญทิ้งไปร่วมรักกันบนเรือน บนเตียงที่ทับรอยของท่าน รวมทั้งคำรักที่มันพร่ำพลอดแก่กันและกันนั้น แปลว่านางแพงผู้นี้ไม่เคยเห็นท่านอยู่ในสายตาสักนิด มันไม่คิดถึงความสุขสบายที่ท่านปรน
ริมฝีปากยังคงแนบชิดแต่ท่อนแขนช้อนเรือนร่างอวบอิ่มขึ้นโอบอุ้มพาก้าวเดินไปสู่เตียงสี่เสาที่มีม่านลูกไม้สีขาวประดับอยู่ ร่างงดงามถูกวางไว้บนฟูกนุ่มที่ขึงเรียบตึงด้วยผ้าปูเตียงสีชมพูอ่อน กอปรกับแสงไฟสีนวลจากตะเกียงก็ช่วยส่งขับให้ผิวกายสีน้ำผึ้งนวลเนียนนี้ให้ยิ่งนวลน่าลูบไล้ฝ่ามือลงไปสัมผัสมากยิ่งขึ้น “พี่บุญทิ้งจ๋า... แพงรักพี่เหลือเกิน” “พี่ก็รักแม่แพงยิ่งนัก” แม่แพงคล้องฝ่ามือรอบลำคอแกร่งของไอ้ทาสวัยหนุ่มพลางรั้งใบหน้าคมเข้มนั้นเข้าหาตัว ความแข็งแกร่งนี้ที่หล่อนปรารถนา ความเข้มแข็ง ดุดัน ของคนรุ่นหนุ่ม หาใช่ความแก่ชราของชายวัยคราวพ่อเฉกเช่นคุณพระท่าน และเมื่อใบหน้าคมเข้มนั้นเคลื่อนเข้าใกล้ แม่แพงก็หลับตาพ
“อา... บุญทิ้งจ๋า... กระแทกลงมาแรงๆ เลย บุญทิ้งจ๋า...” “ขอรับคุณท่าน ไอ้ทิ้งจะกระแทกให้แหลกคา...” ขาดคำของบุญทิ้ง ไอ้ทิ้งน้อยก็โจนทะยานไปข้างหน้า ทะลวงเข้าไปในโพรงฉ่ำน้ำของคุณนายพิศอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อคุณนายกรีดร้องด้วยความสุข ไอ้ทิ้งน้อยก็พ่นพิษร้อนออกมาอย่างท่วมท้นเช่นเดียวกัน โพรงดอกไม้ตอดตุบจนบุญทิ้งต้องซุกซบใบหน้าลงไปที่เต้าอวบอิ่มของคุณนายพิศ พร้อมทั้งจูบซับปลายยอดงอนงามด้วยความซ่านเสียวและพิศวาส ความร้อนแรงของคุณนายเจ้าของเรือนยังมีให้มันอย่างไม่หยุดหย่อน ตราบจนเสียงไก่ขันดังแว่วมา ไอ้ทิ้งน้อยจึงจำต้องอำลาโพรงน้ำหวานกลับไป เพื่อทำหน้าที่ทาสในเรือนเฉกเช่นเดิม.. 
“ขอบใจแพง” “ใช่ ข้าขอบใจที่แม่แพงจะไม่นำเรื่องของบุญทิ้งไปบอกคุณพระท่าน” “เอ่อ... เจ้าค่ะ” แม่แพงก้มหน้าไม่กล้าสบสายตาคุณนายพิศ ด้วยไม่รู้ว่าคุณนายรู้เรื่องมากไปกว่านี้รึไม่ และคำพูดต่อมาของคุณนายก็ทำให้แม่แพงเข้าใจว่าคุณนายพิศไม่ได้รู้เรื่องระหว่างตนกับบุญทิ้ง “ข้าหลงผิดไปเอง ต่อแต่นี้ไปข้าจะไม่กระทำผิดเยี่ยงนั้นอีก” เสียงสะอื้นของคุณนายพิศทำให้แม่แพงต้องมองคุณนายใหญ่เจ้าของเรือนด้วยความเห็นใจและสะท้อนในหัวอกตัวเองอย่างที่สุด เพราะสิ่งที่คุณนายพิศตั้งมั่นว่าจะไม่ทำผิดนั้น บัดนี้ตัวของแม่แพงเองนั่นแหละที่กร