ตอนที่ 39
เย็นวันต่อมา…
ที่สนามบิน มธุรามองหาใครบางคนที่เธอแอบหวังว่าเขาจะเดินทางมาส่งเธอกลับประเทศไทย แต่มองหาหลายครั้งแล้วก็ไม่เห็น
‘ติดธุระหรือไปหาผู้หญิงกันแน่ ถึงไม่ยอมมาส่งแฟนตัวเอง อีตาบ้า มาส่งหน่อยก็ไม่ได้’ มธุราบ่นด้วยความน้อยใจระคนเสียใจ ก่อนจะตกใจกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะการตกลงเป็นแฟนกับคนหน้าโหด เธอจำใจตกลงเพราะหวังจะได้กลับไปพบหน้าครอบครัวก็เท่านั้น ไม่ได้หวังจะเป็นแฟนกันจริงๆ เสียหน่อย
‘อย่าบอกนะว่าเราหลงเสน่ห์คนหน้าโหดเข้าให้แล้ว’
“คุณแอนนี่ครับ ใกล้ได้เวลา ไปเตรียมตัวเถอะครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาพูดขึ้น
“ฉันรู้แ
ตอนที่ 40 วันต่อมา… ลิเบอร์นั่งหน้าเครียดหลังจากได้รับรายงานจากลูกน้องว่าบาบาร่าติดต่อกับแมทธิวบ่อยครั้ง และเมื่อคืนทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันที่อพาร์ทเม้นท์ของฝ่ายชายจนเช้าและตอนนี้บาบาร่าก็ยังไม่มาทำงาน“ลิเบอร์!” จีโอทั้งเรียกและตบโต๊ะทำงานเพื่อเรียกเลขาหนุ่ม ที่เขามายืนอยู่ครู่หนึ่งแล้ว แต่เลขาหนุ่มกลับไม่เห็น“จีโอ มาตอนไหน”“มาเมื่อครู่ แต่นายเป็นอะไร หน้าตาเคร่งเครียดน่าดู โดนเจ้านายดุมาหรือไง” ถามแล้วก็มองไปที่ห้องทำงานของเจ้านายเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาที่เลขาหนุ่ม“ไม่มีอะไร แล้วนี่แกมาหาเจ้านายแต่เช้ามีอะไร”“ก็มารายงานเรื่องคนรักของเจ้านายเหมือนทุกวัน”“งั้นก็เข้าไปได้เลย เจ้านายอยู่ในห้อง”“อืม” จีโอครางรับเบาๆ แล้วมองหาผู้ช่วยเลขาคนสวย “ผู้ช่วยนายยังไม่มาทำงานอีกเหรอ”
ตอนที่ 41ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์แล้วและทุกเช้าที่โต๊ะอาหาร มธุราจะนั่งเขี่ยข้าวในจานไปมา เพราะนับตั้งแต่เดินทางกลับบ้านเกิด จิตใจเธอไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัว ทั้งที่อาหารตรงหน้ามีแต่ของโปรดของเจ้าตัว ซึ่งก็ไม่ต่างจากคนเป็นพี่ที่ก็กินอะไรไม่ลงเหมือนกัน เพราะตอนนี้เขากำลังกลุ้ม ทั้งเรื่องหนี้สินก้อนโต ทั้งเรื่องที่น้องสาว ที่น้องสาวได้เล่าให้ฟัง หลังจากกลับจากอเมริกา ที่เขาเองก็แทบไม่เชื่อว่ามนลียาจะไปมีสัมพันธ์กับผู้ชายอายุคราวพ่อ แล้วฝ่ายนั้นก็มีครอบครัวอยู่แล้วจนเป็นเหตุให้น้องสาวของเขาถูกลักพาตัวไป ซึ่งก็โชคดีที่ความจริงปรากฏ ทำให้น้องสาวของเขาเดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัย“แอนนี่” ธารางกรูเอ่ยเรียกพร้อมทั้งยื่นมือไปตีแขนน้องสาวเบาๆ เมื่อเจ้าตัวยังเอาแต่นั่งเขี่ยข้าวไปมา“มีอะไรเหรอคะ” มธุราถามหน้าตาตื่น ก่อนจะมองหน้ามองหลังเหมือนหาใคร“เป็นอะไรไป แล้วมองหาใคร”“เปล่าค่ะ แอนนี่ไม่ได้มองหาใครเลย” หญิงสาวโกหกคำโต สาเหตุก็เพราะ
ตอนที่ 42“ก็วันที่เราไปคาสิโนกันไงค่ะ พี่หลอกว่าจะพาพี่แอนนี่ไปเจอแฟนของพี่ แต่พอได้จังหวะพี่ก็แยกตัวไปห้องน้ำ แล้วส่งคนมาหลอกให้แอนนี่ออกไปรอหน้าโรงแรม แล้วก็ให้คนมาจับแอนนี่ไป พี่รู้บ้างไหมว่าแอนนี่เกือบตายก็เพราะความเห็นแก่ตัวของพี่!”“แอนนี่! เธออย่ามาใส่ร้ายพี่นะ แล้วเรื่องจับตัวอะไรที่เธอพูดมา พี่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรนั้น” มนลียาเริ่มเสียงดังกลับไปบ้าง“พี่เล่นละครเก่งแบบนี้นี่เองแอนนี่ถึงได้เชื่อพี่” มธุราแค่นยิ้มสมเพชตัวเอง ที่ไม่เคยระแคะระคายเลยว่าคนที่รักเคารพเสมือนพี่สาวจะทำกับเธอได้ขนาดนี้“เธอหยุดต่อว่าพี่ซะทีแอนนี่ แล้วพี่ก็ขอยืนยันว่าพี่ไม่เคยหลอกเธอไปให้ใครต่อใครจับตัวไปทำอะไรทั้งนั้น แล้วพี่จะบอกให้ว่าคืนนั้นพอพี่ออกจากห้องน้ำพี่ก็ไม่เห็นเธอแล้ว พี่เลยไปถามพนักงาน เขาก็บอกว่าเธอรีบกลับไปดูเพื่อน เพราะเพื่อนของเธอโดนทำร้าย” ส่วนเรื่องที่เธอขอแยกตัวไปห้องน้ำก็เป็นเพราะแฟนของเธอส่งข้อความมาบอกให้แยกตัวออกไป เพราะตอนนี้คนของลูกชายกำลังจับตาด
ตอนที่ 43 มธุรานั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองภายในห้องรับแขก หลังจากมนลียากลับไปแล้ว ซึ่งเธอก็ได้เตือนไปว่าให้ระวังตัวเอาไว้ด้วย เพราะลูกชายของคุณไทร์เฟียโกรธมาก ทว่าความหวังดีของเธอกลับถูกเมินเฉย หนำซ้ำอีกฝ่ายยังย้ำเตือนให้เธอเอาตัวเข้าแลกเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ทำให้ในหัวของเธอตอนนี้มีแต่คำถามว่าจะทำอย่างไรดี มารดาถึงจะไม่ถูกฟ้องล้มละลาย ‘แม่ขา แอนนี่จะช่วยแม่ยังไงดี’ มธุราคิดอย่างเศร้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปหาพี่ชายในห้องหนังสือหลังนึกขึ้นได้ว่าพี่ชายรออยู่ แต่ไม่ทันเข้าไปในห้องพี่ชายก็เปิดประตุออกมาพอดี “แอนนี่มาแล้วเหรอ พี่กำลังจะไปตามพอดีเลย” “พี่มาร์ช” มธุราโผเข้ากอดพี่ชายแล้วร้องไห้ ธารางกรูก็กอดปลอบน้องสาวจนหยุดร้องจึงพากันเข้าไปค
ตอนที่ 44 สัปดาห์ต่อมา… หลังรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วไทร์เฟียก็เชิญบิดาของภรรยาผู้ล่วงลับออกไปนั่งคุยกันต่อในห้องรับแขก ที่เวลานี้ต่างฝ่ายต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียดพอๆ กัน หลังจากบิดาของภรรยาได้บอกว่าเคอร์ตินเอาเรื่องในอดีตมาข่มขู่ให้เปลี่ยนพินัยกรรม และหากไม่ทำตามจะบอกความจริงกับเคลย์ริก “แล้วเคอร์ตินรู้เรื่องนี้ได้ยังไง” ไทร์เฟียถามเสียงเครียด อดสงสัยไม่ได้ว่าเคอร์ตินไปรู้เรื่องมาได้อย่างไร “คืนที่เกิดเรื่องเคอร์ตินแอบเข้ามาในบ้านเพื่อขโมยของไปขาย แล้วเผอิญได้ยินเรื่องราวทั้งหมด” จบคำบอกเล่าของบิดาภรรยา ไทร์เฟียก็หวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามสิบกว่าปี เมื่อบิดาภรรยาของภรรยาจับได้ว่าลูกสาวแอบอยู่กินกับคริสโตเฟอร์ ชายไร้หัวนอนปลายเท้าจนมีลูกด้วยกันหนึ่
ตอนที่ 45 ช่วงบ่ายวันต่อมา… หลังจบการประชุมเคลย์ริกก็ออกจากห้องประชุมและเข้าห้องทำงานไปทันที แต่ไม่ทันได้นั่งพักก็รับโทรศัพท์จากบิดาที่โทรมานัดให้ไปรับประทานอาหารค่ำที่บ้าน ทีแรกเขาจะปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ยอมรับปากว่าจะไปเมื่อบิดาถามถึงเรื่องผู้หญิงที่เขากำลังคบหาอยู่ โดยท่านบอกว่าคุณตาเป็นคนบอกมา ‘คุณตารู้ได้ไง’ เคลย์ริกพึมพำ ก่อนจะสายหน้าไปมาให้เลิกคิดว่าใครเป็นคนคาบข่าวไปบอก เพราะเขาก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ต้องกันมธุราให้ออกห่างไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย แต่คงกันไม่ได้อีกแล้ว เพราะเมื่อวานลูกน้องแจ้งมาว่าแม่ตัวแสบกำลังเดินทางมาลาสเวกัส ก๊อกๆ “เข
ตอนที่ 46“อย่าโกรธผมเลยนะยาหยี ที่ผมทำไปก็เพราะผมเป็นห่วง แล้วก็หวงคุณนะยาหยี”“พอเลยไม่ต้องพูดแล้ว แล้วคุณก็ช่วยปล่อยฉันด้วย ฉันมีเรื่องสำคัญต้องเจรจากับคุณ” “เรื่องอะไรเหรอยาหยี” “คุณอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย” “ผมไม่รู้จริงๆ นะยาหยี” มธุราถอนหายใจดังพรืดให้กับความแกล้งซื่อของคนหน้าโหด ก่อนจะบอกเขาไปเสียงดังฟังชัด “ฉันรู้ว่าคุณส่งลิเบอร์ไปจัดการเรื่องภายในครอบครัวของฉัน แล้วที่ฉันมานี่ ฉันก็มาเพื่อจะขอเจราเรื่องเวลาชดใช้เงินกับคุณใหม่ เพราะเวลาแค่สามเดือน ฉันกับพี่ชายหาไม่ทัน” “แล้วทำไมยาหยีถึงคิดว่าเป็นผมล่ะ”&
ตอนที่ 47 เคลย์ริกรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยแววตาที่ค่อยๆ แดงก่ำ และในที่สุดเขาก็ไม่อาจข่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เมื่อได้รับรู้ความจริงแสนเจ็บปวด จากคนที่เขารักและเคารพมากที่สุดในชีวิต เป็นคนทำให้พ่อแท้ๆ ของเขาต้องตาย และทำให้มารดาของเขาตรอมใจจนล้มป่วยจนจากเขาและน้องๆ ไป “เคลย์ริก ตาขอโทษ” ผู้อาวุโสบอกหลานชายเสียงสั่นเครือ ท่านยื่นมือไปจะวางบนหลังมือของหลานชาย ทว่าเคลย์ริกที่เจ็บปวดกับสิ่งที่ได้รับรู้ลุกขึ้นและเดินออกมา “เคลย์ริก!! เคลย์ริก!!”ไทร์เฟียและเนอร์แมนพากันเอ่ยเรียก แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่กลับยิ่งเร่งฝีเท้าออกไป กระทั่งมาถึงห้องโถงซึ่งมธุราก็เดินหอบหนังสือออกมาพอดี ทั้งที่ความจริงเธอแค่อ้างเพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวแม็คแคลตันได้พูดคุยกันตามลำพัง แต่เผอิญไปเจอหนังสือที่อยากอ่านมานาน เธอจึงหอบเอามาด้วย&nbs
บทส่งท้าย สองปีต่อมา... คุณพ่อลูกหนึ่งเดินออกจากห้องพักไปยังห้องของลูกชาย ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ที่กำลังกล่อมลูกชายเข้านอน ที่วันนี้เจ้าตัวแสบไม่ยอมนอนเสียทีทั้งที่ตอนนี้ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เจ้าของร่างสูงยืนพิงประตูเฝ้ามองภรรยาและลูกน้อยด้วยความรักนานเป็นสิบนาที ก่อนจะเดินเข้าไปทิ้งสะโพกนั่งบนเตียงข้างภรรยาคนสวยที่กำลังค่อยๆ วางลูกน้อยบนที่นอน “พออุ้มกล่อมเข้าหน่อยก็หลับปุ๋ยเชียวนะตัวแสบ ลูกรักของแม่” มธุราพึมพำเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงหอมแก้มของลูกชาย ที่ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อ “หอมลูกแล้วก็หอมพ่อบ้างสิทูนหัว” เคลย์ริกโน้มเข้าไปกระซิบ “แก้มคุณฉันหอมจนเบื่อแล้ว อีกอย่างแก้มคุ
อวสาน หลังจบอาหารค่ำ ที่วันนี้ครอบครัวแม็คแคลตันก็เดินทางมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านศิริโชคธนาอีกครั้งเพื่อสร้างความสนิทสนิมแก่สองครอบครัวที่กำลังจะเกี่ยวดองกัน เคลย์ริกก็เดินกุมมือคนตัวเล็กออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้หน้าบ้าน ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ประหนึ่งว่ากำลังเป็นสักขีพยานในความรักของสองหนุ่มสาว ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด “ส่ายหน้าทำไมยาหยี” เคลย์ริกเอ่ยถามเมื่อคนตัวเล็กยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมา “ไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ฉันจำได้ว่าวันแรกที่เราพบกัน คุณกับฉันแทบจะฆ่ากันตาย” มธุราเงยหน้าขึ้นตอบคนตัวโต ส่วนคนที่ทำให้คนหน้าโหดเข้าใจผิด ตอนนี้เธอและครอบครัวของฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว แต่ก็รู้มาว่าพี่สาวคนสนิทกำลังจะแต่งงานกับนับธุรกิจชาวสิงค์โปร “ก็
ตอนที่ 52หลังกลับจากเยี่ยมผู้อาวุโสและอยู่รับประทานอาหารค่ำกันแล้ว เคลย์ริกก็พามธุราเดินทางกลับบ้านพัก ที่ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมผู้อาวุโส ที่ตอนนี้รักษาตัวจนหายป่วยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้เกือบสองสัปดาห์ และทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ท่านก็ถามเรื่องแต่งงานระหว่างเธอกับคนหน้าโหดทุกครั้ง ‘ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ คุณตาตัดชุดรอเลยนะครับ’ นั่นคือคำตอบขอบคนหน้าโหดที่ให้คำตอบกับผู้อาวุโสก่อนจะเดินทางกลับที่พัก เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้อาวุโสดูมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าหลานชายจะมีครอบครัว ส่วนเธอก็ยอมรับแหละว่าที่ผ่านมาเธอเปิดรับให้คนหน้าโหดเข้ามาจองพื้นที่ในหัวใจไปแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอยังไม่ได้บอกครอบครัว‘บอกพี่มาร์ชก่อน แล้วค่อยบอกคุณแม่ดีกว่า’ คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ จะกดโทรออกอยู่สองสามรอบก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายในที่สุด “แ
ตอนที่ 51 ก๊อกๆ “เจ้านายครับ” เสียงเคาะประตูและเสียงของจีโอดังขัดจังหวะการสนทนา ก่อนที่เคลย์ริกจะส่งเสียงบอกให้เข้ามา “มีอะไร” “คนที่บ้านคุณเนอร์แมนเพิ่งโทรมาแจ้งว่าคุณเคอร์ตินกลับมาที่บ้านครับ” เคลย์ริกฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาบอกให้มธุรารออยู่ที่นี่ ส่วนเขาและจีโอก็รีบเดินทางไปบ้านพักของผู้เป็นตา ที่เวลานี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนักเมื่อเคอร์ตินย้อนกลับมาหวังจะเอาทรัพย์สินไปใช้เพื่อการหลบหนี แต่คนเป็นพ่อบอกให้มอบตัวและยังหวังให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว “ไม่! ผมไม่อยากติดคุก” “เคอร์ติน พ่อขอร้อง แกวางปืนลงเถอะ แ
ตอนที่ 50 “ดีขึ้นไหมคะ” เธอถามหลังจากปล่อยให้เขากอดอยู่พักใหญ่ ด้านเคลย์ริกก็คลายมือออกแล้วมาจับคางมน “ผมขอโทษนะที่ต้องพาคุณมาเจอเรื่องร้ายๆ แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก คุณจะอยู่กับผมใช่ไหม ยาหยี” มธุราฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเดียว “ว่าไงยาหยี หรือคุณคิดจะไปจากผม” “ฉัน…เอ่อ…” “ผมผิดเองที่ทำให้การพบเจอกันของเราไม่ค่อยดี แล้วผมก็โง่เองที่ไม่สืบให้ดีๆ จนไปจับตัวคุณมา แต่ผมก็ดีใจที่จับมาผิดคน เพราะถ้าจับถูกคน ผมคงไม่ได้เจอกับคุณ” เคลย์ริกบอกเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่อ้ำอึ้ง ส่วนผู้หญิงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุทำให้มารดาตรอมใจจนล้มป่วยและจากไปนั้น หากมีโอกาสได้เจอกันเขาจะ
ตอนที่ 49 วันต่อมา… เหตุการณ์ร้ายเมื่อคืนกลายเป็นข่าวดังและผู้คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีการประโคมข่าวว่ามีคนในตระกูลแม็คแคลตันมีส่วนในเรื่องนี้ ก๊อกๆ “เข้ามา” เมื่อได้รับอนุญาตจีโอก็เปิดประตูเข้ามารายงานความคืบหน้าถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่พอเกิดเรื่องทั้งผู้เป็นตา บิดา และน้องชายฝาแฝด ต่างโทรมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดและเมื่อทุกคนรู้ว่าเคลย์ริกปลอดภัยก็โล่งใจไปตามๆ กัน “ได้เรื่องอะไรบ้าง” เคลย์ริกเอ่ยถามลูกน้องเสียงเรียบ ด้าน จีโอก็รายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายฟังอย่างไม่รีรอ ที่ตอนนี้ทางตำรวจแจ้งมาว่าฮาร์วี่ย์เริ่มซักทอ
ตอนที่ 48 “คุณเคลย์ริก คุณไม่กลัวเลยเหรอ” มธุราเอ่ยถามเสียงสั่น หลังสถานการณ์สงบลง โดยที่พวกคนร้ายก็พากันถูกจับ บ้างก็หนีรอดไปได้ ซึ่งตำรวจก็แยกย้ายกันไปตามจับกุม บางส่วนก็นอนเจ็บล้มตายเป็นที่น่าสยดสยองสำหรับคนที่เพิ่งประสบพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างมธุรา “แล้วคุณกลัวหรือยาหยี” “ฉันกลัวจนหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว นี่ถ้าตำรวจไม่มา ฉันคงตายอยู่ในรถไปแล้ว” “ผมไม่มีวันปล่อยให้เมียตัวเองตายหรอก เชื่อใจผมนะ ผมจะดูแลและปกป้องคุณเอง” “แล้วคุณคิดว่าเราจะรอดได้ทุกครั้งเหรอ” “ผมจะไม่ยอมให้พวกมันทำแบบนี้อีกแล้ว” “ค่ะ แล้วนี่ลูก
ตอนที่ 47 เคลย์ริกรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยแววตาที่ค่อยๆ แดงก่ำ และในที่สุดเขาก็ไม่อาจข่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เมื่อได้รับรู้ความจริงแสนเจ็บปวด จากคนที่เขารักและเคารพมากที่สุดในชีวิต เป็นคนทำให้พ่อแท้ๆ ของเขาต้องตาย และทำให้มารดาของเขาตรอมใจจนล้มป่วยจนจากเขาและน้องๆ ไป “เคลย์ริก ตาขอโทษ” ผู้อาวุโสบอกหลานชายเสียงสั่นเครือ ท่านยื่นมือไปจะวางบนหลังมือของหลานชาย ทว่าเคลย์ริกที่เจ็บปวดกับสิ่งที่ได้รับรู้ลุกขึ้นและเดินออกมา “เคลย์ริก!! เคลย์ริก!!”ไทร์เฟียและเนอร์แมนพากันเอ่ยเรียก แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่กลับยิ่งเร่งฝีเท้าออกไป กระทั่งมาถึงห้องโถงซึ่งมธุราก็เดินหอบหนังสือออกมาพอดี ทั้งที่ความจริงเธอแค่อ้างเพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวแม็คแคลตันได้พูดคุยกันตามลำพัง แต่เผอิญไปเจอหนังสือที่อยากอ่านมานาน เธอจึงหอบเอามาด้วย&nbs
ตอนที่ 46“อย่าโกรธผมเลยนะยาหยี ที่ผมทำไปก็เพราะผมเป็นห่วง แล้วก็หวงคุณนะยาหยี”“พอเลยไม่ต้องพูดแล้ว แล้วคุณก็ช่วยปล่อยฉันด้วย ฉันมีเรื่องสำคัญต้องเจรจากับคุณ” “เรื่องอะไรเหรอยาหยี” “คุณอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย” “ผมไม่รู้จริงๆ นะยาหยี” มธุราถอนหายใจดังพรืดให้กับความแกล้งซื่อของคนหน้าโหด ก่อนจะบอกเขาไปเสียงดังฟังชัด “ฉันรู้ว่าคุณส่งลิเบอร์ไปจัดการเรื่องภายในครอบครัวของฉัน แล้วที่ฉันมานี่ ฉันก็มาเพื่อจะขอเจราเรื่องเวลาชดใช้เงินกับคุณใหม่ เพราะเวลาแค่สามเดือน ฉันกับพี่ชายหาไม่ทัน” “แล้วทำไมยาหยีถึงคิดว่าเป็นผมล่ะ”&