แชร์

ตอนที่ 08 แม่ค้าขายของ

ผู้เขียน: Jiraiyajung
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-11 13:50:30

เมื่อเช้ามืดระบบก็อัพเกรดสำเร็จ หลานเสวี่ยจึงเข้าไปสำรวจดูว่า 500 คะแนนที่เสียไปได้อะไรมาบ้าง นอกเหนือจากที่ระบบเคยบอกไว้ก็มีพื้นที่สำหรับเพาะปลูกเพิ่มขึ้นห้าตารางเมตร และเพิ่มแถบเมนูมาใหม่ นี่คือความสามารถพิเศษ เช่นทำให้ฝนตก พายุถล่ม แผ่นดินไหว พยากรณ์อากาศ .... 

บางอันก็มีประโยชน์อยู่บ้างเช่นพยากรณ์อากาศ หลานเสวี่ยเคยใช้เมื่อครั้งก่อน เป็นคำแนะนำจากระบบที่ช่วยให้นางแก้ไขปัญหาได้ ตอนนี้นางมี 500 คะแนน +1000 สำหรับการอัพเกรดระบบ นับว่าได้มากกว่าเสีย 1500 คะแนน นางเลือกซื้อของในร้านเช่นครีมอาบน้ำ และทำให้กลายเป็นของใช้ในยุคนี้ด้วยระบบเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ ใช้ไป 1 คะแนน 

แม้จะเสียดายคะแนนแต่นี้ก็เป็นการลงทุน อีกอย่างนางจะได้รับเงินทองมากมายในครั้งนี้ เมื่อนึกถึงสินค้าของตัวเองมีชื่อเสียงในวังหลังนางก็ยิ้มอย่างพอใจ คราวนี้แหละต้องเป็นมหาเศรษฐีในยุคนี้ให้ได้

ตำหนักสนมหานผิน

หานหลงยิ้มอย่างพอใจเมื่อเดินเข้าในงานเลี้ยงน้ำชาของเหล่านางสนม ทันทีที่นางเดินผ่าน พวกนางสนมรุ่นเดียวกันที่เคยแย่งชิงความดีความชอบด้วยกันต่างสูดดมกลิ่นหอมจากตัวนางที่แผ่ออกไป 

นางสนมพวกนี้คงไม่เคยรู้จักกลิ่นหอมเช่นนี้สินะ พวกนางต่างมองมาด้วยความสงสัย กลิ่นหอมบนตัวหานหลง นั้นหอมเย้ายวนเหลือเกิน ถ้าเข้าใกล้ฝ่าบาทคงต้องพอพระทัยในตัวพวกนางเป็นแน่ ทำให้นางสนมพวกนั้นเริ่มประจบประแจงเพื่อตีสนิท

“น้ำหอมของท่านพี่หานช่างหอมเสียจริง บอกข้าได้หรือไม่ว่ามันคือน้ำหอมอันใดกัน ข้าอยากจะเอาไปฝากไทเฮาเสียหน่อย” หลี่ผิน กล่าวถามอย่างตรงไปตรงมา แถมยังเอาไทเฮามาอ้างอีก

“กลิ่นหอมเช่นนี้ ข้าไม่เคยรู้จักมาก่อน ถ้าได้ลองสักครั้งคงจะทำให้ฝ่าบาทโปรดปรานข้ามากขึ้นแน่ ๆ” เมื่อเห็นว่าหานหลงไม่ยอมพูด จางผิน สนมที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดก็หล่าวขึ้น 

ส่วนนางสนมที่ต่ำกว่าขั้นผินไม่มีผูใดกล้าถาม เพราะกลัวจะถูกตำหนิ จึงได้แต่รับฟัง เผื่อตัวเองจะได้โอกาสใช้ของล้ำค่าเช่นนั้นบ้าง

“ใจจริงข้าก็อยากบอกพวกท่านนะ แต่พอดีจ้าเองยังไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร เพราะมีพ่อค้าเร่เอามาขายให้ ตอนนี้พ่อค้าคงเดินทางไปเมืองอื่นแล้วกระมัง” นางไม่ยอมบอกหรอก ถ้าบอกไปก็ไม่เท่ายื่นอาวุธให้ศัตรูเหรอ

หลี่ผิน กับจางผินยิ้มมุมปากเพราะคิดเอาไว้แล้วว่านางไม่บอกแน่นอน แต่พวกนางก็จะสืบหาข้อมูลมาให้จงได้

“ได้ข่าวว่าฝ่าบาทจะทำพิธีขอฝนในอีกเจ็ดวันข้างหน้า ผู้ใดกันนะจะได้เป็นคนเต้นระบำบวงสรวงในพิธีครั้งนี้ ท่านพี่ทั้งสองคิดว่ามีสิทธิ์หรือเปล่าเจ้าคะ?”

หลี่ผิน แสร้งถามทั้งที่รู้ดีว่าตนเองจะได้รับสิทธิพิเศษนั้น เพราะนางเป็นหลานสาวของไทเฮา มีเหรอจะยอมให้โอกาสดี ๆ หลุดมือไปแม้จะตำแหน่งเท่ากันแต่นางไม่ได้มองว่าสองคนนั้นอยู่ในที่เดียวกันกับตนเองสักครั้ง

หานผินยิ่งไม่ชอบนางเข้าไปอีก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่อย่างไรก็ดี  นางก็มีครีมอาบน้ำที่หอมขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะแพ้ หลี่ผินไปแน่ “ข้าไม่สนตำแหน่งนั้นหรอก แค่ใช้เรือนร่างก็พอแล้ว ใช่ไหมน้องจาง” 

“ใช่แล้วท่านพี่ พวกเรามีความงามเป็นอาวุธก็ต้องถนัดเรื่องนี้ แต่ดูแล้วน้องหลี่คงไม่เคยใช้ เพราะตั้งแต่เข้ามาถูกเรียกตัวไม่ถึงสามครั้งเสียด้วยซ้ำ” 

สองพี่น้องต่างสายเลือดหัวเราะเบา ๆ นับว่าการจับมือกันครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งนัก ทำให้หลี่ผินกัดฟันเดินออกไปได้ด้วยสีหน้าพ่ายแพ้เช่นนี้ก็ดีเกินคาดแล้ว

แต่นางก็ไม่เสียเวลาอยู่เช่นกัน จึงรีบเข้าไปในครัวหลวงหาของว่างให้ฝ่าบาทในยามที่ฟ้ามืดดื่มชาร้อน ๆ สักหน่อยคงดี นางยิ้มกว้างให้กับความคิดตัวเอง

หานผินกับขันทีรับใช้ และนางกำนัลอีกสองคนเดินมาถึงตำหนักอันกง ก็หยุดที่หน้าประตู ก่อนจะถูกเชิญให้เข้าไป ทันทีที่นางเดินผ่านทหารยามก็มองตามด้วยความหยาดเยิ้ม

ใครจะต้านทานความหอมเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะกับสตรีที่โดดเด่นอย่างหานผิน

“ฉ่างกงกง ข้าน้อยเอาของว่างมาให้ฝ่าบาท ช่วยกราบทูลด้วยเจ้าค่ะ” 

“ช่วยรอสักครูข้าน้อยจะไปกราบทูลให้”

ขันทีของนางรีบยื่นถุงเงินให้กับฉ่างกงกง เพราะเป็นเรื่องปกติที่ทำกัน แบบนี้จะทำให้นางเข้าพบฝ่าบาทได้อย่างสบาย

ไม่นานฉ่างกงกงก็เดินออกมา “เข้าไปได้” 

หานผินยิ้มอย่างพอใจก่อนจะยกชุดน้ำชากับของว่างเจ้าไป 

"หม่อมฉันหานผิน ขอถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ" คุกเข่าทำความเคารพตามธรรมเนียม

“ทำตัวตามสบายเถิด” เสียงเรียบนิ่ง 

หานผินยกชุดน้ำชาเจ้าไปถวายบนโต๊ะ พร้อมกับเดินสะบัดตัวแรง ๆ เพื่อให้กลิ่นหอมส่งไปถึงฝ่าบาท ไม่นานฉ่างกงกงก็เอาเข็มเงินมาตรวจพิษในอาหารที่เอามา เมื่อไม่มีสิ่งใดก็ออกไปยืนข้าง ๆ ฝ่าบาท

หานผินนั่งเงียบ ๆ สายตาจับจ้องที่พระพักตร์ตรวจสอบดูว่าฝ่าบาทชอบกลิ่นน้ำหอมนี้หรือเป่ลา ทว่าไม่นานก็เดินมาทางนี้ก่อนจะนั่งลงตรงหน้า

“ฝ่าบาทหม่อมฉันรินชาให้เพคะ” 

“ชาดี ขอบใจเจ้ามาก” 

หานผินยิ้มร่าเมื่อได้รับคำขอบใจ ก่อนจะทำหน้าเศร้า แล้วเอ่ยคำอันหวานล้ำออกมา 

“นานเท่าใดแล้วที่ฝ่าบาทไม่ได้มาหาหม่อมฉัน พระองค์คงจะทรงงานหนักใช่ไหมเพคะ” 

“งานรัดตัวเช่นนี้คงไปไหนไม่ได้ ภัยแล้งหนักหนา ผู้คนหิวโหยข้าจะมัวนึกถึงความสุขตัวเองอย่างไร”

“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ” 

“เจ้ากลับไปก่อนเถอะ คืนนี้หากทำงานเสร็จเร็วข้าจะไปเยี่ยมเอง” 

หานผินดีใจจนออกนอกหน้า เมื่อฝ่าบาทรับปากเช่นนี้แล้ว มีหรือจะไม่มา นางจึงไม่กวนใจอีก ตอนนี้กลับไปอาบน้ำเตรียมตัวรอดีกว่า

“เช่นนั้นหม่อมฉันขอทูลลา”

“ไปเถอะ” 

หานผินมาถึงตำหนักก็รีบให้คนเอาโคมไฟไปไว้ตรงมุมกำแพง เพื่อส่งสัญญาณ ไม่ว่ายังไงนางจะเหมาสินค้ามาให้หมด เดี๋ยวจะตกไปในมือคนอื่นเสียก่อน

“เรียบร้อยแล้วพระสนม” ไป๋กงกง รายงานความคืบหน้า 

“ดี แล้วถ้าหากซื้อขายกันอย่าทำให้นางกำนัลผู้นั้นไม่พอใจเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นข้าจะลงโทษพวกเจ้าแน่”

“ข้าน้อยจะจำไว้ขอรับ” 

ตกเย็นหลานเสวี่ยก็ออกมาตามนัด แม้ว่าวันนี้อากาศจะเหน็บหนาวเท่าใด แต่นางก็มีเสื้อกันความหนาวในตัว ชุดนางกำนัลของระบบชางคุ้มค่าจริง ๆ เดินมาถึงทางไปตำหนักของสนมหานผิน นางก็มองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินออกไป หลานเสวี่ยมารอที่ศาลาริมน้ำตรงมุมกำแพง 

ไม่นานก็เห็นร่างอ้วนท้วนของไป๋กงกง เดินออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เพราะยามนี้อากาศหนาวมาก

“ข้าน้อยไป๋กงกง มาแล้วขอรับ” 

“เช่นนั่น เจ้านายของท่านคิดเห็นอย่างไร” หลานเสวี่ยเปิดประเด็นไม่อยากยืดยาว

“พระสนมหานผินพอใจอย่างมาก นางบอกว่าขอเหมาหมด จะขอซื้อขวดละ 100 ตำลึงทอง ท่านคิดว่าราคานี้เหมาะสมหรือไม่” 

หลานเสวี่ยพูดไม่ออก ไม่คิดว่าราคาจะสูงถึงขั้นนี้ ที่นางคิดไว้คือ 1-2 ตำลึงทองเท่านั้น แต่โดดมาถึง 100 ตำลึงก็ไม่ขอปฏิเสธ

“ปกติแล้ว ราคาจะอยู่ที่ 110 ตำลึงทอง เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจข้าจะลดให้ 100 ตำลึงก็ได้ อีกอย่างเอาสิ่งนี้ไปด้วย มันเรียกว่า ลิป ใช้ทาริมฝีปากให้แดงสวย มีกลิ่นหอมหวาน แถมยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย นี้เป็นขนาดทดลอง”

“ขอบใจกูเหนียง” 

หลานเสวี่ยได้เงินมาแล้วก็รีบออกมาจากตรงนั้น 300 ตำลึงทอง เทียบเป็นเงินยุคปัจจุบันน่าจะราว ๆ 3-4 ล้านหยวน ก็ไม่น้อยเลย ดีที่ได้มาเป็นตั๋วเงินจึงไม่ต้องยุ่งยากในการเคลื่อนย้าย ไม่งั้นคงแขนหักกว่าจะเอากลับไปได้ 

เมื่อเดินมาถึงทางแยกนางก็ต้องก้มหน้ามองพื้น เพราะขบวนของฮ่องเต้กำลังจะผ่านมา เขาจะไปหาสนมหานผินแน่ ๆ หลานเสวี่ยคิดในใจ เพราะเขาคงชอบกลิ่นหอมบนตัวนาง และนั้นคือเหตุผลว่าทำไมสนมหานผินจึงเหมาครีมอาบน้ำไปหมด หลานเสวี่ยยิ้มมุมปากยกนิ้วให้แผ่นการของสนมหานคนนี้

หลานเสวี่ยโค้งคำนับอยู่ริมทาง เมื่อขบวนเกี้ยวของฮ่องเต้กำลังผ่านมาถึง แต่แล้วขบวนก็หยุดอยู่ตรงหน้าเสียอย่างนั้น ทำเอารู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที

“เงยหน้าขึ้นสิ” เสียงรับสั่งของเขา ทำให้เธอไม่อาจขัดขืน

หลานเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์ด้วยดวงตาคู่สวยดูเปล่งประกาย ริมฝีปากสะท้อนแสงจากโคมไฟระยิบระยับ หลงเยี่ยนถึงขั้นกลืนน้ำลายเมื่อมองนางอีกครั้ง

“เป็นเจ้าอีกหรือ มาทำอันใดยามวิกาลเช่นนี้”  

“ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันมาทำธุระตามรับสั่งเพคะ” ก้มหน้าพูดจะถามอะไรหนัก ยิ่งกลัวจะถูกจับได้อยู่

“เช่นนั้นหรือ ไปได้”  หลงเยี่ยนมองนางด้วยหางตา เพราะได้กลิ่นหอมจากตัวนางก็เลยสงสัย นิดหน่อย เดี๋ยวสั่งให้ตามสืบก็คงรู้เรื่องไม่ช้า

เมื่อขบวนของฮ่องเต้ผ่านไปหลานเสวี่ยก็เบะปากใส่ พร้อมกับคำด่าในใจ คนอะไรทิ้งเมียหลวงให้ลำบากปางตาย ส่วนตัวเองใช้ชีวิตกับเมียน้อยอย่างสุขสบาย สวรรค์ทำไมไม่ลงโทษเขาบ้างนะ

คิดแล้วปวดหัว หลานเสวี่ยหยิบซาลาเปามาทานให้หายปวด ไม่รู้ว่าช่วยได้หรือเปล่า แต่ของอร่อยดีต่อใจเสมอ

ในที่สุดก็มาถึงส่วนหลวง แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น มีทหารยามที่หน้าทางเข้าเต็มไปหมด ทำให้หลานเสวี่ยไม่สามารถเข้าไปในตำหนักเย็นได้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าระบบมีความสามารถพิเศษหายตัวได้ก็คงดี 

ถ้าอยู่แบบนี้ต้องถูกจับได้แน่ หลานเสวี่ยจึงเข้ามาในมิติ ดูสวนผักดีกว่า มันฝรั่งใบเขียวสวยงามมาก ไม่นานคงจะได้เก็บเกี่ยว อยู่ข้างในก็สะดวกสบายดี มีครบทุกอย่าง ลืมบอกไปว่า ระบบมอบของขวัญพิเศษสำหรับการอัพเกรดใหม่นั่นคือ กระท่อมไม้ อย่างน้อยก็สามารถนอนพักได้ มีเตียงนุ่ม ๆ ให้ด้วย

“วันนี้คงต้องนอนในมิติ ระบบช่วยปลุกด้วยนะเมื่อพวกเขาไปแล้ว” 

(รับทราบ หัก 1 คะแนน) 

ระบบจะขี้เหนียวเกินไปแล้วนะ แค่ปลุกเอง ช่างเหอะ นอนดีกว่ากินซาลาเปาไปหลายลูกแล้วง่วงขึ้นมาเลย 

ด้านนอกมิติ มีหญิงวัยสี่สิบกว่านั่งชมดอกไม้อยู่บนที่นั่งพิเศษในสวนหลวง รอบข้างมีทหารคอยคุ้มกัน กับสาวใช้จำนวนมาก และ ขันทีอาวุโสที่ยืนข้าง ๆ 

“ไทเฮาเพคะ นี้ก็ดึกแล้วทรงเสด็จกลับเถิด พระวรกายของพระองค์ยิ่งไม่สู้ดี อาจจะทรุดหนักเอาได้” หัวหน้านางกำนัลอาวุโส พูดด้วยท่าทางนอบน้อม

“อีกสักประเดี๋ยวค่อยกลับ นานแล้วที่ไม่ได้มาที่นี่ ถ้าร่างกายยังแข็งแรงดี คงจะดีไม่น้อย”  แม้อายุจะเข้าสี่ แต่ผิวพรรณยังคงงดงาม ดูอ่อนเยาว์ ใบหน้าเปื้อนยิ้มมองดูดอกไม้ไม่ละสายตา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 09 กลายเป็นนางกำนัลของฝ่าบาท

    หลานเสวี่ยงัวเงียลุกขึ้นจากเตียงนอน ทั้งที่กำลังฝันหวานถึงพระเอกในดวงใจของตน แต่ต้องมาตื่นเพราะเสียงระบบที่ดังจนนึกว่ามีสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นแล้วในมิติ นางจึงออกมาจากกระท่อมหลังเล็ก ก่อนจะตรวจดูมันฝรั่งใบเขียวสวยของตนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อได้ฟังจากปากของเหมย และหยาง นางก็อดสงสารไม่ได้ ผู้คนในยามนี้อดอยากปากแห้ง บางคนมีเงินทองแต่จะซื้ออะไรได้ ต้องอดมื้อกินมื้อ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหล่าคนยากไร้ที่รอความช่วยเหลือจากฮ่องเต้ ถ้าเป็นในยุคปัจจุบันพวกเขาคงกลายเป็นข่าวใหญ่ไปแล้ว ทำให้ทางการต้องรีบช่วยเหลือ แต่ในยุคนี้ปากเสียงถูกปิด พูดอะไรไม่ได้มาก หลานเสวี่ยพอรู้ว่าในยุคนี้ขุนนางเลวมีเยอะอย่างกับดอกเห็ด บางทีทางการอาจจะช่วยเหลือแต่ถูกพวกนั้นเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ส่วนที่เหลือก็ไม่พอความต้องการแม้ในตอนนี้มันฝรั่งที่ปลูกได้จะเยอะขึ้นแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอถ้าเป็นเช่นนั้น อีกอย่างเพิ่มพื้นที่การผลิตสูงสุดแล้ว จนคะแนนไม่พอ เพราะราคาจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ได้มา สี่สิบตารางเมตร คะแนนคงเหลือ 100 จะทำอะไรคงต้องระวังตัวมากกว่าเดิม แต่ปัญหาหลักอีกอย่างคือถุงมิติที่ใกล้จะเต็มแล้วตอนนี้นางออกจากมิต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 10 ขายตรง

    กลายเป็นว่า เพราะนางตื่นสายทำให้ทำงานเสร็จช้า ฝ่าบาทจึงหารือกับขุนนางช้า พอไทเฮามาถึงจึงไม่สามารถเข้าพบได้ หลานเสวี่ยรู้สึกผิดอยู่บ้างแต่ ต้นเหตุคือหลี่ผิน ที่วางอำนาจบาตรใหญ่ เพราะมีไทเฮาถือท้ายให้จึงไม่กลัวใครจะว่าไปนั่นก็เป็นแม่สามีของหลานเสวี่ยเหมือนกันถ้าหากลูกชายของนางไม่เป็นคนใจดำอำมหิตเช่นนั้นนะ ยืนเหม่ออยู่ตั้งนานนางก็ถูกหัวหน้านางกำนัลเรียกตัวให้ไปทำงาน แต่ก่อนจะไปนางได้มอบขวดน้ำจากมิติขวดเล็กให้กับหัวหน้า“ใช้ทาที่ใบหนาของท่าน มันจะหายในไม่ช้า ไม่ต้องกลัวหรอกมันไม่อันตรายอย่างที่คิด” “ข้าจะรับไว้ เจ้ารีบไปเถอะ อย่าสร้างเรื่องอะไรอีกล่ะ”“เจ้าคะ” เมื่อนางรับไว้เท่านี้ก็พอแล้ว หลานเสวี่ยเข้ามารับใช้ที่ห้องหนังสือเช่นเดิม พอเข้ามาก็เห็นฝ่าบาทนั่งอ่านฎีกาด้วยท่าทางสง่า พอมองดูดี ๆ ในหนังที่นางเคยดูกับตอนนี้ดูแตกต่างมาก ฮ่องเต้ในตอนนี้ดูน่าเกรงขามราวกับมีพลังวิเศษบางอย่าง หรือเป็นเพราะที่แห่งนี้เป็นโลกเวทมนตร์กันนะ นางเอกก็ไม่เข้าใจ แต่ชายผู้นี้ไม่ใช่คนปกติทั่วไป หรือเขาเป็นเทพเซียน อย่างตำนานของฮ่องเต้ที่บอกว่า เป็นสายเลือดของเทพ หลานเสวี่ยคิดไปเรื่อยเปื่อย“ยืนเหม่ออันใดอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 11 เคลือบแคลงใจ

    หลานเสวี่ยเดินออกมาจากสวนด้วยความโมโห คุณหนูจางเสี่ยวหลงในชาติก่อน มีชีวิตสุขสบาย ใครจะกล้ารังแกเธอ ดูตอนนี้เป็นแค่พระชายาที่ผัวไม่รัก แถมยังถูกเมียน้อยรังแกอีก จะสงสารหลานเสวี่ย หรือสงสารตัวเองดีนะ“มาแล้วหรือ นางกำนัลจาง เข้าไปเถอะฝ่าบาทกับเหล่าขุนนางรอเจ้าอยู่ข้างใน” “รอข้าหรือ ไม่ใช่ว่ามีแต่ฝ่าบาทหรอกหรือ” “ฝ่าบาททรงอยากให้ขุนนางรู้ข้อมูล จะได้จัดเตรียมความพร้อมให้เหมาะสม ท่านก็รีบไปเถอะ” “เจ้าคะ ฉ่างกงกง”นางรีบเดินเข้ามาในห้องหนังสือ ก็พบขุนนางสองคนนั่งรอตรงที่นั่งต่ำกว่าฮ่องเต้ ในความทรงจำของหลานเสวี่ย ทำให้รู้ว่าสองท่านนี้คือ เจ้ากรมพระคลัง กับเจ้ากรมโยธา ที่รับหน้าที่สำคัญในการรับมือกับภัยแล้งพอหลานเสวี่ยมาถึงทั้งสองคนก็มองไม่ละสายตา สีหน้าบ่งบอกถึงความสงสัย และไม่มั่นใจว่าแค่นางกำนัลตัวเล็ก ไปจะสามารถทำเรื่องใหญ่โตเข่นนี้ได้สำเร็จ แม้แต่ผู้มีความรู้อันดับหนึ่ง และผู้มีชื่อเสียงยังใช้เวลาเป็นร้อยปีกว่าจะติดต่อหาคนจากแดนเซียน เพื่อมาสั่งสอนคนในราชวงศ์ แค่ปีละครั้งเท่านั้นเองแต่นี้นางถึงกับติดต่อซื้อขายโดยตรง ทำให้ชายชราสองคนไม่เชื่อ และรวมถึงฮ่องเต้ก็เช่นกัน เขาไม่เชื่อเลย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 12 มากด้วยเล่ห์

    ฮ่องเต้หนุ่มหยิบตะเกียบทองขึ้นมา คีบเอาแท่งมันฝรั่งทอดเข้าปาก ก่อนจะเคี้ยวเบา ๆ ตามแบบของผู้ดี แต่สีหน้ายังคงนิ่งเฉยมาก แล้วเปลี่ยนเป็นมันฝรั่งเผาที่ยังมีอายร้อนลอยออกมาอยู่ คำเล็กถูกเอาเข้าปากหนาแต่สีหน้ายังเป็นเช่นเดิม สุดท้ายมันฝรั่งบด ก็ยังเป็นเช่นเดิม“เป็นเช่นไรบ้างเพคะ” “ก็ดี นับว่ารสชาติใช้ได้เลย อีกอย่างคุณค่าทางอาหารที่เจ้าบอกก็คงไม่เกินจริง เพราะข้าชิมเท่านี้ยังรู้สึกอิ่ม และมีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที” “เช่นนั้นหม่อมฉันก็โล่งใจ” หลานเสวี่ยหายใจได้เต็มปอด แม้เขาจะไม่แสดงท่าทางออกมาแต่ก็คงอร่อยอยู่แล้ว “พวกท่านก็ลองชิมดู อีกประเดี๋ยวค่อยมาหาลือกันต่อ ข้าจะคุยเรื่องสำคัญกับนางกำนัลจางเสียหน่อย” “ขอบพระทัยฝ่าบาท” ทั้งสองคนรีบยกอาหารออกไปข้างนอก เหลือแต่หลานเสวี่ยกับฮ่องเต้ ทำให้บรรยากาศแตกต่างจากเมื่อก่อนมากเลย นางรู้สึกกลัวยังไงไม่รู้เมื่ออยู่กับเขาสองคน“ว่ามาเถอะ เรื่องเสบียงติดต่อได้เมื่อไหร่” น้ำเสียงนิ่ง ทำให้คนฟังรู้สึกถึงอารมณ์ และความรู้สึกของเขาได้อย่างดี“หม่อมฉันได้รับการตอบกลับแล้วเพคะ ท่านเซียนผู้นั้นส่งจดหมายด้วยผีเสื้อวิญญาณ หม่อมฉันจึงได้รับมาแล้ว” “รวดเร็วยิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 13 รวยแล้ว

    หลานเสวี่ยเดินตามเจ้ากรมทั้งสองมาจนถึงกรมคลัง ตรงหน้าเป็นตำหนักขนาดใหญ่แต่ไม่เท่าตำหนักอันกง ในนั้นมีขุนนางน้อยใหญ่ที่ยังทำหน้าที่ของตน เมื่อเห็นเจ้ากรมก็รีบเดินมาหาทันที“คารวะ ท่านเจ้ากรมกวน ท่านเจ้ากรมหยาง มิทราบว่ามีธุระอันใดให้ผู้น้อยรับใช้หรือไม่” “ข้ามีธุระสำคัญมาก เจ้ารีบไปทำหนังสือเบิกเงินค่าเสบียง แล้วให้คนไปเตรียมคลังเก็บของจำนวน 6000 ชั่งให้เร็วหน่อย นี้ก็ใกล้มืดแล้ว”เจ้ากรมกวนสั่งลูกน้อง ก่อนจะพาหลานเสวี่ย และเจ้ากรมหยางไปที่ห้องรับรอง“เชิญนั่งตามสบายเถิดแม่นางจาง”“เจ้าค่ะ” นางรู้สึกปวดเมื่อยไปหมด ตั้งแต่เช้าก็ได้แต่ยืน และเดินจากตำหนักอันกงมาถึงนี้เกือบสองกิโลเมตร ตอนนี้เธอนั่งดื่มชาโดยไม่สนใจเจ้ากรมสองคนที่นั่งคุยกันอยู่ พวกเขากำลังเถียงกันเรื่องเตรียมรถม้าไปรับของ เมื่อมาถึงหูของนางก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกว่า มันฝรั่งทั้งหมดอยู่ในถุงมิติเล็ก ๆ นี้“ข้าว่าเสบียงเยอะเช่นนี้ควรเอาทหารไปเยอะ ๆ หรือจะให้ท่านแม่ทัพเฉินเป็นคนคุ้มกันก็ยิ่งดี” “แต่ข้าว่าให้คนของข้าไปด้วยน่าจะดีกว่า เพราะคุ้นเคยเส้นทางดี อีกอย่างเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น คนของข้าก็มีประโยชน์กว่า” “ช้าก่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 14 เงินที่ไร้ค่า

    “นี้คือสิ่งใด ได้รับเป็นของรางวัลหรือ” “เหมือนพระราชโองการเลย” หัวหน้านางกำนัลมาพอดี ทุกคนหันไปมองเพื่อหาคำตอบจากนาง“ใช่แล้ว นี้คือพระราชโองการจากฝ่าบาท”“ถ้าพวกเจ้าอยากรู้เดี๋ยวข้าอ่านให้ฟัง.... เป็นอย่างไรบ้าง” หลานเสวี่ยอ่านให้ทุกคนฟัง ทำเอานางกำนัลน้อยใหญ่ต่างรีบแสดงความยินดี แถมยังบอกอีกว่าอิจฉานางที่ได้อยู่ใกล้ฮ่องเต้ ใครล่ะอยากจะอยู่ใกล้ “ข้าบอกแล้วว่านางเป็นคนโปรดของฝ่าบาท ไม่แน่นะพี่จางของเราอาจได้เป็นพระสนมกับเขาก็ได้” “ข้าก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น ถึงขั้นดึงตัวมาจากตำหนักอื่นก็มีแต่พีจางเท่านั้นแหละที่จะได้รับความโปรดปราน”“ได้ดีแล้วอย่าลืมพวกเรานะ”นางกำนัลพวกนี้พูดกันสนุกปากเลย ชอบแต่งเรื่องกันจริง ๆ “ไม่ใช่หรอก ฝ่าบาทคงไม่คิดแบบนั้นหรอก คงเห็นว่าข้าทำงานได้ดีจึงตกรางวัลให้” “ในเมื่อท่านได้เลื่อนขั้นเทียบเท่าหัวหน้านางกำนัลแล้ว ก็ต้องให้ของขวัญเล็กน้อยให้พวกเราบ้างสิเจ้าคะ” จูหยิน นางกำนัลที่พูดเก่งที่สุดในนี้รีบเอ่ยปาก สายตาหวานมองมาที่หลานเสวี่ย ดูเหมือนคนอื่นจะทำตามด้วย“พวกเจ้าก็อย่าไปขอนางเลย ห้าสิบตำลึงทองที่ได้ไปยังไม่พออีเหรอ รีบไปทำงานได้แล้ว” “ไม่เป็นไรหรอก ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 15 เป็นนางกำนัลส่วนพระองค์ไม่ง่าย

    หลานเสวี่ยต้องตื่นแต่เช้ามืด เพื่อรับใช้ฮ่องเต้ หลังจากเมื่อคืนที่นางกลับตำหนักเย็น และกลับมาตำหนักอันกงในตอนหลัง ดีที่นางได้ห้องส่วนตัวทำให้พวกตัวยุ่งอย่าง จูหยิน ที่ชอบบอกคนอื่นว่าเธอเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ ถ้าเห็นกลับดึกคงบอกว่านางไปพบใครแน่นอนตำหนักอันกงยามนี้เงียบงัน มีเพียงฉ่างกงกงยื่นรอที่หน้าห้อง หลานเสวี่ยแอบคิดว่า กงกงผู้นี้ได้นอนบ้างหรือเปล่า ทำไมมาเมื่อไหร่ก็เจอแต่เขาตลอดเวลา แต่นางไม่กล้าถาม“คารวะ ฉ่างกงกง”“เข้าไปเถอะ ฝ่าบาทมีประชุมตอนเช้า”“เจ้าคะ” นางเปิดประตูเข้ามาในห้องบรรทมของฮ่องเต้ ก่อนจะเดินไปที่เตียงนอน บนเตียงของเขามีชายหนุ่มใบหน้านิ่ง ริมฝีปากหยักได้รูป ถ้าเขาเป็นคนในยุคปัจจุบันคงเป็นดาราชายที่โด่งดังไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่นางรู้สึกทึ่งมากคือท่านอนของเขาดูเป็นระเบียบ อย่างกับไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว แตกต่างจากหลานเสวี่ยที่นอนดิ้นนิดหน่อย“มาถึงแล้วก็ควรปลุกข้าสิ ไม่ใช่เอาแต่จ้องหน้าแล้วยิ้มเช่นนี้” “ขอประทานอภัยฝ่าบาท หม่อมฉันกลัวว่าพระองค์จะทรงบรรทมหลับไม่เพียงพอ จึงยังไม่ปลุกเพคะ”หลานเสวี่ยสะดุ้งโหยงในตอนที่เขาพูด สายตาคมของเขายามที่มองเธอแทบจะหายใจไม่ออก รู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 16 ข้าเป็นนางกำนัลผู้บอบบาง

    เมื่อคนพวกนั้นเข้ามาใกล้หลานเสวี่ยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตัดไพ่ใบสำคัญออกมาสู้ อันที่จริงรอเวลานี้มานานแล้วเช่นกัน นางยกป้ายที่กงกงให้ไว้ เขาบอกว่ามันจะช่วยเธอได้“ช้าก่อน ผู้ใดเห็นตราสัญลักษณ์นี้แล้วยังกล้าเข้ามาอีก จะถือว่าผู้นั้นต่อต้านพระบัญชาของฝ่าบาท มีโทษเช่นไรหม่อมฉันไม่พูดทุกคนก็คงทราบดี”“เนื่องจากยามนี้ฝ่าบาทบรรทมหลับอยู่ หม่อมฉันไม่อาจให้เข้าพบได้ แต่ถ้าพระองค์ตื่นจากบรรทมหม่อมฉันจะนำทางไปทันทีเพคะไทเฮา”หลานเสวี่ยพูดต่อเมื่อไม่มีใครกล้าเข้ามา ตอนแรกเห็นทำหน้าใหญ่โต พร้อมจะบดขยี้เธอ ดูสีหน้าของหลี่ผินตอนนี้ ไม่ต่างจากตัวตลก“ดีเหลือเกินนะ เป็นแค่นางกำนัลแต่กล้าทำถึงขนาดนี้ ไทเฮาจะเข้าเฝ้าฝ่าบาทยังต้องทรงขอนางกำนัลเช่นเจ้า ใครไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเป็นใหญ่ในวังหลังแล้วกระมัง” “หามิได้ หม่อมฉันทำตามพระประสงค์ของฝ่าบาทเพคะ” “ช่างเถอะ รอไปก่อนเดี๋ยวฝ่าบาทคงตื่นบรรทมเอง” ไทเฮาไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายได้ถ้ายังดันทุรัง จึงยอมให้หลานเสวี่ยหลานเสวี่ยเชิดหน้ายิ้ม มองหลี่ผินที่เดือดดาลอย่างมีความสุข ก่อนจะจัดแจงให้ทุกอย่างเข้าที่ เพราะตอนนี้เหล่านางสนมค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11

บทล่าสุด

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 48 ปากแข็งยิ่งนัก

    หลังจากเดินทางมายาวนานก็มาถึงเมืองหลวง หลานเสวี่ยที่ไม่มีอะไรทำมาหลายวันก็ตรงไปที่หอการค้าร้านสะดวกซื้อทันที ทว่าเมื่อนางมาถึงก็ทำให้ผู้คนตามสองข้างทางมองตามไม่กะพริบตา สตรีที่งดงามเช่นนี้มีในเมืองหลวงด้วยหรือ ทุกสายตาต่างสงสัยผู้คนรายล้อมมองดู ต่างก็ไม่รู้ว่านางเป็นคนตระกูลไหน การมาถึงของหลานเสวี่ยทำให้พ่อสื่อแม่สื่อมีงานล้นมือเป็นแน่ เพราะเหล่าชายโสดต่างติดต่อถามไถ่ถึงนางกันทั่วหน้า หลานเสวี่ยเดินไปไม่สนสายตาของผู้คน เหล่าชายหนุ่มตระกูลสูงศักดิ์หรือสามัญชนคนธรรมดาก็ไม่อยู่ในสายตา เพียงแค่นางก้าวเดินคนก็พร้อมจะเปิดทางให้อย่างเต็มใจ จนมาถึงหอการค้าของตน คนคุ้มกันก็ยืนทำหน้าที่อย่างทุกวันแต่วันนี้คนคุ้มกันตกตะลึงจนหันไปมองตาม แค่นางเข้ามาในร้านยิ่งดูโดดเด่น เสี่ยวเอ้อร์ในร้านต่างก็มาให้การบริหารอย่างเต็มใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม พวกเขาถามกันไปมาว่าแม่นางผู้นี้เป็นคุณหนูบ้านไหนกัน เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนเลย“แม่นางต้องการสิ่งใดบอกข้าน้อยได้เลยขอรับ” หลานเสวี่ยยิ้มอย่างเบาบางแต่ไม่ตอบอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของหยางในการเปิดเผยเรื่องนี้ “ทุกคนมารวมตัวกันตรงนี้ ข้ามีเรื่องจะแจ้ง” หยางได้ส่งจดหมายใ

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 47 ผู้อยู่เบื้องหลัง

    ในสายตาของผู้ฝึกเซียนขั้นสี่ พวกนางจะทำอะไรได้ ส่วนคนคุ้มกันก็แค่พอถ่วงเวลา งานนี้ไม่ยากเย็นนัก มือสังหารเดินเข้ามาตรง ๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นผู้คุ้มกันไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปขวาง แต่หลานเสวี่ยห้ามเอาไว้ก่อน“ก็แค่มดปลวก ข้าจัดการเอง พวกเจ้าถอยไปก่อน” นางพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ และหนักแน่น แววตาคู่สวยแสดงออกถึงความจริงจัง ทำให้หยางกับเหมยถอยออกมา รวมถึงผู้คุ้มกันที่กำลังตัวสั่นเพราะความกลัว “ถ้าเช่นนั้นก็ฝากแม่นางด้วย” เขาโค้งศีรษะอย่างนอบน้อม แม้จะมองไม่ออกว่าหลานเสวี่ยจะใช้อะไรเอาชนะผู้ฝึกเซียนระดับนี้ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ เขาจึงเลือกที่จะเชื่อนาง และขอให้นางสามารถจัดการได้ เขายังไม่อยากทิ้งครอบครัวให้ลำบาก“แค่มดปลวกหรือ ปากดีเสียจริงนะ คำพูดนี้เป็นข้าทีต้องพูดออกมา ลนหาที่ตายนัก ได้...ข้าจะส่งเสริมเจ้าให้ตายเร็วขึ้นเอง” “อย่าเอาแต่พูดเลย อยากเข้ามาก็มาได้ตลอด ข้ารอเจ้าอยู่ เจ้ามาสิ” หลานเสวี่ยยืนกอดอกมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น ทำเอาผู้ฝึกเซียนถึงกับเหงื่อซึม เมื่อสัมผัสพลังบางอย่างจากตัวนาง เขาไม่มั่นใจนักว่ามันคือสิ่งใด แต่สัญชาตญาณของเขาบอกให้ถอย เมื่อยั

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 46 นิราศชางเฟิง

    ตลอดหลายวันที่ผ่านมานางต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพราะเรื่องต่าง ๆ มากมายให้จัดการ เร่งด่วนจนไม่มีเวลาพัก หลายวันนี้แม้แต่ระบบยังห้ามไม่ให้นางใช้น้ำวิเศษเพราะจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าดี เหตุก็เพราะว่านางดื่มน้ำเกือบห้าสิบครั้ง แต่ละครั้งคือร่างกายนางเหนื่อยล้าเต็มที่ โดยเฉพาะยามกลางคืน ที่หลานเสวี่ยจะยังอยู่หอการค้า เพราะรออนุมัติ ไม่ก็รอตอบจดหมายเร่งด่วน ขอความเห็นจากสาขาอื่นที่ส่งออกไป เป็นเรื่องที่แม้ว่าคนอื่นจะรอได้ แต่นางไม่สามารถรอได้ร่างเพรียวบางนอนราบบนเตียงนุ่ม อ่อนล้าไปทั้งตัว ขอบตามีรอยดำคล้ำเล็กน้อย กับความรู้สึกปวดร้าวทั้งร่างกาย ใบหน้าของนางซีดเชียว และซูบผอมลง เพราะไม่ได้หลับเต็มอิ่มมาเกือบอาทิตย์ “ลูกแม่ ทำไมถึงทำงานหนักเช่นนี้ เงินทองใช่ว่าจะสำคัญทุกอย่าง ตอนนี้เราไม่ได้ขาดเงิน เจ้าจะรีบร้อนทำไมหรือ” ผู้เป็นแม่เข้ามาบีบนวดให้นางทุกวัน ทำให้หลานเสวี่ยรู้สึกดีขึ้นมาก ๆ ฝีมือของท่านแม่ดีจริง ๆ ช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิม นางได้แต่ยิ้มให้หลานฮูหยิน“ลูกไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ผอมลงนิดเดียว อีกอย่างไม่ได้แต่งงานกับบุตรชายเสนาบดี เท่านี้ก็พอใจแล้วเจ้าค่ะ” นางพูดด้วยความร่าเริง เม

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 45 หนึ่งเดือนก่อนจาก เป็นหรือตายขึ้นอยู่กับตัวนาง

    หลานเสวี่ยกำลังยุ่งอยู่กับระบบ เพราะตั้งแต่ที่เปิดร้าน ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน คะแนนรวมของนางคือหก แสนคะแนนจากระบบ และ แสนห้าหมื่นคะแนนความดีที่เพิ่มขึ้น เมื่อก่อนนางมีคะแนนจากระบบเจ็ดแสน แต่เพราะอัปเดตระบบเป็นเวอร์ชันสุดท้าย ใช้ไป 1 แสนคะแนน ทำเอาหลานเสวี่ยแอบสงสัยว่าทำไมถึงใช้เยอะแบบนี้ แต่นางก็ยอมเพราะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะอัปเดต“ระบบ ทำไมถึงใช้คะแนนเยอะมากกว่าทุกครั้งละ หรือว่ามีของรางวัลดี ๆ”(เป็นเพราะว่านี้คือระบบเวอร์ชันสุดท้าย ที่สำคัญจำเป็นต่อผู้ใช้เช่นกัน....)“เดี๋ยวก่อน ทำไมเงียบไปละ” ระบบไร้เสียงตอบ ทำเอาหลานเสวี่ยตกใจไม่น้อย แต่ก็จัดการ ส่งคำสั่งเพาะปลูกได้เป็นปกติ ถึงมิติก็ยังใช้ได้ จึงคิดว่าระบบคงขัดข้องชั่วคราว แต่นางแอบสังเกตนิดหน่อยเพราะช่วงนี้ระบบแปลกไปจากเดิมมาก อย่างเช่น น้ำในลำธารของระบบลดลงจนสังเกตได้ และแสงสว่างในนี้ก็ลดลงเช่นกัน อยากจะถามระบบแต่ก็มาหายตัวไป สงสัยคงกำลังอัพเดทชุดใหญ่ นางจึงไม่สนใจระบบ แล้วไปทำอย่างอื่นต่อ แต่ละวันนางจะใช้คะแนนแลกของขายดี อย่างเช่นเครองสำอาง ที่สตรีร่ำรวย และขุนนางใช้กัน นี้เป็นรายรับสามส่วนของนางก็ว่าได้ ช่วยให้จัดกา

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 44 มื้ออาหารกับครอบครัว

    หลานเสวี่ยกลับมาที่จวนในตอนสาย พอมาถึงสายตาของบิดามารดาก็มองนางด้วยความสงสัย บุตรสาวของตนไปค้างที่ใดมา แม้จะมีคำถามมากมายอยู่ในอกของทั้วสอง แต่พักนี้รู้สึกว่านางดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แถมยังเฉลียวฉลาดมากกว่าเดิม ท่าทางก็เปลี่ยนไป ทำให้ทั้งสองไม่กล้าที่จะถามตรง ๆ หลานฮูหยินรีบออกมารับบุตรสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนใต้เท้าหลานเดินตามหลังมาด้วย“กลับมาแล้วหรือ หิวไหมแม่จะไปทำกับข้าวให้เจ้า” “ลูกินอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ตอนขากลับแวะซื้อของอร่อยตามทางมาด้วย นี้เจ้าต่ะ” หลานเสวี่ยยกสิ่งของรุงรังในมือขึ้นมา รวมถึงบ่าวทั้งสองคนก็แทบจะแขนลาก เพราะเป็นคนถือของให้นาง ดีที่แข็งแรงหน่อย“ทำไม่ซื้อมามากมายเช่นนี้ จะกินหมดหรือ ดูสิผิวพรรณ.. เนียนสวยเสียจริง ดูแล้วลูกแม่สวยขึ้นเป็นกองเชียวนะ” มารดาของนางเมื่อสำรวจดี ๆ จึงรู้ว่านางดูเปร่งประกายราวกับถูกเคลือบด้วยออร่า แม้เมื่อก่อนนางจะงดงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่วันนี้ยิ่งแตกต่าง ผิวพรรณผุดผ่อง สัมผัสนุ่มนวล ไหนจะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่โดดเด่น ทำให้หญิงวัยย่างเข้าสี่สิบสนอกสนใจกว่าเดิม ดวงตาคู่นั้นก็มองด้วยความสงสัย เพราะมีเรื่องแปลกประหลาดมากมายอย่างเช่น เมื่อวานท

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 43 คืนฝนพรำ

    หลานเสวี่ยถูกอุ้มเข้าไปในห้องนอน มือเรียวยังคงปิดหูตัวเองเอาไว้แน่น เพราะกลัวเสียงฟ้าร้อง ทันทีที่เข้ามาข้างในเสียงต่าง ๆ ก็เงียบไปอย่างมหัศจรรย์ หญิงสาวลืมตาขึ้นด้วยความประหลาดใจ และพบว่าตนเองอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าของหลานเสวี่ยแดงระเรื่อ เธอหลุบตาลงต่ำด้วยความเขินอายเมื่อสบสายตาคมคายที่มองตรงมา ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองถูกอุ้มเข้ามาในห้องเสียแล้ว“เจ้าไม่ต้องกลัวหรอก ที่นี่ไม่มีเสียงฟ้าร้องเหมือนด้านนอก เพราะข้าใช้สมบัติวิเศษป้องกันเอาไว้” น้ำเสียงทุ้ม พูดพลางวางเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ พร้อมกับห่มผ้าให้ และลงไปนอนรวบตัวนางเอาไว้แน่น“เจ้าค่ะ...แต่” หลานเสวี่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านแม่ทัพจะกอดข้าน้อยแบบนี้ทั้งคืนหรือ ชายหญิง...”ปากน้อย ๆ ของนางกำลังจะพูดเรื่องยาว แต่ถูกมือใหญ่ปิดเอาไว้อย่างรู้ทัน เขาไม่ปล่อยโอกาสอันดีให้เสียเปล่า เป็นวัวเป็นม้าให้นางแล้ว ต้องได้รางวัลเสียหน่อยถึงจะถูก“สามีภรรยาอยู่ด้วยกันจะเป็นไรไป หากเจ้ายังดื้อดึงอีก ข้าจะไม่หักห้ามใจแล้วนะ” พูดเสียงสั่นเครือ เพราะกำลังหักห้ามใจตัวเองหลานเสวี่ยรู้สึกถึงหัวใจของตนเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก จึงก้มหน้ามองแผ่นอกกว

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 42 ฟ้าฝนเป็นใจ

    รอจดหมายจากพระองค์เกือบสองถ้วยชา แต่นางยังไม่เห็นจะมีวี่แววจะออกมาเลย เขียนร้อยฉบับหรืออย่างไรกันแน่ ร่างเล็กเดินไปมาอยู่ในห้องรับรอง ก่อนจะเดินออกมามองดูนอกหน้าต่าง ตอนนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายฝนจะตก นางยิ่งร้อนใจ ขาเรียวไม่รอช้าอีกต่อไป เดินออกจากห้องรับรองไปที่ห้องทำงานของท่านแม่ทัพโดยตรง ก่อนจะเห็นท่านแม่ทัพเดินมาจากข้างนอก ทำเอานางรู้สึกงุนงงอย่างมาก “ท่านแม่ทัพเจ้าคะ! ท่านคงไม่ลืมจดหมายของข้าหรอกนะ” น้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความไม่พอใจ แม่นางจะพยายามเก็บความรู้สึกหงุดหงิดเอาไว้“ข้าจะลืมได้อย่างไร เมื่อครู่ข้ามีธุระด่วนไม่คิดว่าเจ้าจะรีบร้อนอย่างนี้” ยืนตัวตรง มองนางด้วยสายตามีเลศนัย“หาใช่แบบนั้นเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะกล้าเร่งรัดท่านแม่ทัพได้อย่างไร” “เช่นนั้นก็มาฝนหมึกให้ขาเถิด” หลงเยี่ยนเดินนำไปก่อน ทิ้งให้หลานเสวี่ยมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความไม่พอใจเล็ก ๆหลานเสวี่ยเดินตามไปพร้อมกับบ่นพึมพำในใจ ทำไมแค่จดหมายฉบับเดียวต้องดึงเวลาให้ยุ่งยากแบบนี้ด้วยนะ แต่นางจะทำอันใดได้ ยามนี้ได้แต่ก้มหน้าก้มตาฝนหมึกให้ได้เยอะ พระองค์จะได้เร่งเขียนให้เสร็จ ทว่าไม่นานเสียง “กร๊อก" ดังขึ้นใบหน้าสวย

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 41 ไม่อ้อมค้อม

    ทหารหนุ่มวิ่งหน้าตั้งออกมาจากกำแพงใหญ่ แล้วสั่งให้รถม้าของหลานเสวี่ยเข้าไปได้ ทำเอาเหล่าคุณหนูที่มารอตั้งนานแทบจะตาลุกเป็นไฟด้วยความริษยา แม้จะรู้ว่านางถูกปลดแล้ว แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของฝ่าบาทย่อมสูงส่งกว่าสตรีทั่วไป “พวกเจ้าก็รอต่อไปเถิด เห็นทีคงต้องรอจนหัวหงอกกระมัง” หลานเสวี่ยพูดทิ้งท้ายก่อนจะให้คนขับรถม้าขับออกไป ทำเอาบ่าวสองคนยิ้มอย่างสะใจที่ได้เอาคืนพวกนั้นเมื่อมาถึงขาวในจวนนางเดินตามทหารยามเข้าไปในจวน ที่นี่ไม่ได้หรูหราเหมือนจวนแม่ทัพที่เมืองหลวง เพราะเป็นที่พักชั่วคราวใช้ยามจำเป็น แต่ก็เรียบง่ายดี สีสันไม่โดดเด่น ส่วนมากจะเป็นข้าวของที่ทำจากไม้ สวยอยู่ไม่น้อย“รอก่อนนะขอรับข้าน้อยจะไปแจ้งท่านแม่ทัพให้” ทหารหนุ่มสีหน้าซีดเซียว แม้จะรู้ว่าตราไว้ชีวิตมีไว้ทำอันใด แต่เขาเกรงว่าครั้งนี้จะตัดสินใจพลาดจนถูกแม่ทัพลงโทษ หรือถ้าหากเกิดเขาปล่อยแขกของท่านแม่ทัพไป เกรงว่าจะยิ่งถูกลงโทษหนัก สถานการณ์เช่นนี้เลือกทางไหนก็ไม่รอด นอกจากท่านแม่ทัพจะให้ความสำคัญกับแขกคนนี้ทหารหนุ่มยืนอยู่ต่อหน้าประตูห้องทำงานส่วนตัว เมื่อเช้าเขาได้รับคำสั่งว่าไม่ให้ผู้ใดมารบกวน แต่ตอนนี้เขาลังเลว่าจะรอดต

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 40 พบท่านแม่ทัพช่างยากเย็น

    มือเรียวยกกาน้ำชาขึ้นมารินให้บิดาอย่างเรียบร้อย จึงเลื่อนไปรินให้มารดาที่นั่งยิ้มให้กับนาง ทั้งสองคนดีใจจนยิ้มไม่หุบ ที่บุตรีสุดที่รักกลับมาให้เอ็นดูอีกครั้ง นับตั้งแต่พี่สาวของนางออกเรือน จวนตระกูลหลานก็เงียบเกินไป จะดีแค่ไหนหากพวกนางสองคนมีหลานให้พวกเขาทั้งสอง แม้ว่าหลานเสวี่ยจะไม่มีโอกาสแล้วก็ตาม เรื่องนี้ทั้งสองรู้ดี แต่พี่สาวนางกำลังจะได้รับข่าวดี จวนจะได้ครึกครื้นไม่เงียบเหงาอีก “กลับมาไม่นาน ลูกปรับตัวได้หรือยัง ที่นี่ค่อนข้างห่างไกลเมืองหลวงไม่ค่อยมีอันใดให้เพลินตานัก” มารดาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม“ลูกปรับตัวได้เจ้าค่ะ อีกอย่างที่เมืองหลวงไม่ค่อยมีอันใดให้ลูกดูมากนัก ที่นี่น่าดูมากกว่า” “ถ้าเช่นนั้นพ่อจะสั่งคนทำห้องให้เจ้าใหม่ จะได้อยู่สบายขึ้น รออีกสักสามเดือนพี่สาวเจ้าก็จะมาเยี่ยมแล้ว ตอนนี้ลูกคงไม่รู้ว่าพี่สาวของเจ้าตั้งครรภ์แล้วนะ” ใต้เท้าหลานพูดด้วยน้ำเสียงปีติ แสดงออกมาชัดเจน“จริงหรือ เป็นเรื่องดีแท้ ๆ ท่านทั้งสองจะได้ไม่เหงามาก ลูกเองก็จะมาเยี่ยมบ่อย ๆ เจ้าค่ะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นสองสามีภรรยาก็มองหน้ากันอย่างสงสัย ทั้งที่คิดไว้ว่านางจะมาอยู่ด้วยกันที่นี่“ลูกไม่มาอยู่ที่

DMCA.com Protection Status