แชร์

บทที่ 34 ส่งไปแค่ของก็พอ

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-09 12:40:08

บทที่ 34 ส่งไปแค่ของก็พอ

สองปีต่อมา...

ในที่สุดช่วงปฏิรูปก็ผ่านพ้นไป สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทางการอนุญาตให้เปิดการค้าเสรีได้บ้างแล้ว ทำให้ประชาชนสามารถเปิดร้านค้าของตัวเองเพื่อขายของ ทุกคนทำมาหากินได้อิสระขึ้น ในเมืองเริ่มกลับมาครึกครื้นแล้ว มีร้านค้าเพิ่มขึ้นมากมาย

แต่ว่าตลาดมืดก็ยังไม่หมดไป ยังคงมีพ่อค้าแม่ค้าบางกลุ่มเปิดร้านขายของอยู่ หลินเพ่ยหลันกับซ่งเฟยหลงก็ยังนำสินค้าจากมิติมาขายเหมือนกัน นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่มีพื้นที่ทำเลดีในการเปิดร้านขายของของตัวเอง จึงต้องอาศัยวิธีนี้ไปก่อน บรรดาลูกค้าก็ยังแวะเวียนมาซื้อของที่ตลาดมืดกันอย่างไม่ขาดสายเพราะมีของแปลกใหม่และราคาไม่แพง

อีกทั้งสินค้าแปลกใหม่แถมยังล้ำสมัยของหลินเพ่ยหลันก็ยังขายดิบขายดีในตลาดมืด

วันนี้เป็นวันตรุษจีน ที่บ้านซ่งมีการจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ภายในครอบครัวเพื่อที่จะกินดื่มกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ถึงเสียว่าเป็นการหยุดผ่อนคลายและฉลองที่ช่วงปฏิวัติได้ผ่านพ้นไปแล้ว

“เมื่อไรชุนเป้ยกับโหย่วอิ๋นจะมาถึงนะ นี่ก็เลยเวลาอาหารเย็นมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ชุนเหยาไปตามน้องหน่อยดีไหมว่าถึงไหนแล้ว พ่อละเป็นห่วงจริง ๆ” ซ่งตงลี่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 35 ซื้อตึกสร้างร้านค้า

    บทที่ 35 ซื้อตึกสร้างร้านค้าหลังจากพยุงภรรยามานั่งลงแล้วก็รีบปั่นจักรยานไปที่บ้านของหมอเหลียงทันที เพื่อไปรับเขามาตรวจดูอาการของภรรยาเมื่อตรวจดูอาการเรียบร้อยแล้วก็เป็นข่าวดีอย่างที่ซ่งชุนเป้ยพูดมา“ยินดีด้วยนะจ้าวจินเยว่ตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว” หมอเหลียงบอกอย่างยินดีด้วย สิ้นสุดคำบอกของหมอ คนบ้านซ่งต่างก็ดีใจกันมาก โดยเฉพาะนางหยางเจี่ยที่ดีใจจนน้ำตาไหล จากนั้นก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนหลังจากที่แยกย้ายกันแล้ว หลินเพ่ยหลันกับซ่งเฟยหลงก็ตัดสินใจที่จะเข้าไปในมิติ เพื่อปรึกษากันเรื่องหลังจากนี้ไปจะทำการค้าอย่างไรดีเพราะต่อจากนี้ไปจะเป็นยุคของการเปิดการค้าเสรีแล้ว ดังนั้นต้องวางแผนเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะคว้าโอกาสให้ได้ก่อนใครอื่น และที่ต้องเข้าไปคุยกันในมิตินั้น ก็เป็นเพราะว่าเวลาที่อยู่ในมิติหลินเพ่ยหลันสามารถมองเห็นได้ เวลาพูดคุยปรึกษากันก็จะสะดวกกว่า อีกอย่างสินค้าของพวกเขาล้วนก็อยู่ในมิติทั้งหมด การเข้ามาในมิตินั้น ไม่ว่าจะเข้ามาในเวลาไหน ที่นี่ก็สว่างไสวตลอด จึงไม่มีปัญหาหากทั้งสองจะเข้ามาในเวลาดึกดื่นแค่ไหนก็ตามทั้งสองมานั่งจิบชากันที่ร้านกาแฟที่เดิม ซ่งเฟยหลงเลือกที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 36 ไม่มีใครเชื่อว่าซื้อตึกแล้ว

    บทที่ 36 ไม่มีใครเชื่อว่าซื้อตึกแล้วหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าห้อง ซ่งเฟยหลงจับมือภรรยาเดินเข้ามาในห้องส่วนตัว จากนั้นก็ปิดประตูลงกลอนทันทีทั้งสองพากันเข้าไปในมิติอีกครั้งเพื่อที่จะเลือกสินค้าออกมาขาย ครั้งที่แล้วที่วางแผนกันเอาไว้คร่าว ๆ ว่าจะเอาอะไรออกไปขายบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้เลือกออกมาอย่างจริงจัง วันนี้จึงต้องเลือกใส่รถเข็นเอาไว้ก่อน เพราะพรุ่งนี้จะได้เอามาไว้ที่ร้านแต่เช้า“เราไปที่แผนกอาหารกันก่อนเถอะ สินค้าพวกนี้เป็นของจำเป็นที่ทุกคนจะต้องกินทุกวัน ฉันคิดว่าอย่างไรก็ต้องได้ขายดีแน่ ๆ” หลินเพ่ยหลันพูดขึ้น ก่อนจะเดินนำสามีตรงไปยังแผนกอาหาร“แล้วพวกอาหารสดนี่ล่ะจะทำอย่างไรดี ถ้าเอาออกไปวางขายข้างนอกจะเน่าเสียก่อนไหม” ซ่งเฟยหลงพูดขึ้นอย่างสงสัย พร้อมกับมองดูเนื้อหมูเนื้อไก่และผักในแผนกอาหารไปด้วย“ฉันคิดว่าจะเอาตู้เย็นออกไปหนึ่งหลังค่ะ เอาตู้ที่เป็นกระจกเหมือนแบบนั้น คนจะได้มองเห็นของข้างในด้วย” หญิงสาวตอบพร้อมกับชี้ไปที่ตู้แช่ที่มีในห้าง“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ว่าแต่ไฟฟ้าในเมืองน่ะไม่ขัดข้องจริง ๆ นะชายหนุ่มไม่มั่นใจในระบบไฟฟ้ามากนัก หากวันใดเกิดดับขึ้นมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 37 สารภาพรัก

    บทที่ 37 สารภาพรักผ่านช่วงปฏิรูปมาระยะหนึ่งแล้ว เศรษฐกิจก็เริ่มฟื้นตัวขึ้น ต่างชาติค่อย ๆ เข้ามาลงทุนกันมากขึ้น ทำให้การค้าของสองสามีภรรยาเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ สินค้าในร้านขายดิบขายดีจนพวกเขาขยายสาขาเพิ่มอีกสาขาตรงใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟ เพื่อที่จะได้สะดวกกับลูกค้าที่สั่งซื้อของจากต่างเมืองจนไม่นานก็ได้เอากำไรจากร้านค้าทั้งสองมาสร้างบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่โตขึ้น เพราะตอนนี้บ้านซ่งมีสมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน นั่นก็คือลูกชายของซ่งชุนเหยากับจ้าวจินเยว่ บ้านเดิมคับแคบเกินไป หลินเพ่ยหลันอยากให้มีที่สำหรับหลานไว้ทำกิจกรรมด้วย แล้วอีกอย่างในอนาคตเธอกับซ่งเฟยหลงเองก็คงต้องมีลูกเช่นกันชาวบ้านที่ก่อนหน้านี้เคยหัวเราะเยาะและดูถูกบ้านซ่ง ตอนนี้เห็นบ้านซ่งทำบ้านใหม่หลังใหญ่ ก็ถึงกับตะลึงตาค้างกันเป็นแถว พวกเขาหน้าชาราวกับว่าถูกตบหน้าด้วยเงินของบ้านซ่งอย่างไรอย่างนั้นวันนี้เป็นวันเกิดของหลินเพ่ยหลัน อากาศในหมู่บ้านนั้นเย็นสบายอย่างที่เคยเป็นในฤดูใบไม้ผลิ แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านยอดไม้ลงมาเปรียบเสมือนพรมที่ปูไปทั่วทุกแห่ง หญิงสาวตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกที่ดีในเช้านี้แต่เธอไม่รู้ว่าในขณะที่กำลังยุ่งอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 38 กิจการรุ่งเรือง

    บทที่ 38 กิจการรุ่งเรืองคืนที่เงียบสงบในหมู่บ้าน แสงจันทร์ส่องสว่างผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่อบอุ่น ซ่งเฟยหลงอุ้มหลินเพ่ยหลันกลับมาจากลานหลังบ้านด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุขชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกับพาเธอเข้าสู่ห้องนอนที่ประดับด้วยโคมไฟกระดาษให้แสงสว่างอ่อน ๆ จากนั้นจึงวางเธอลงบนเตียงที่ถูกปูด้วยผ้าห่มที่นุ่มนวล ก่อนจะขยับตามขึ้นไปโอบกอดเธอไว้ในอกอุ่น ๆ“เพ่ยหลัน คืนนี้เป็นคืนที่พิเศษมากสำหรับเรา พี่อยากให้มันเป็นคืนที่จะจดจำไปตลอดชีวิต ขอให้วันนี้เป็นวันเข้าหอของเราได้ไหมครับ” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูของภรรยา เขาจูบเธอเบา ๆ ที่หน้าผากและรอคำตอบอย่างคาดหวังหลินเพ่ยหลันไม่ได้ตอบเขาเป็นคำพูด แต่แสดงออกด้วยการกอดตอบและซุกตัวเข้าแนบชิดมากกว่าเดิม เป็นเพราะว่าตอนนี้หัวใจของเธอเต้นเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ รู้อยู่แก่ใจว่าคนที่เป็นสามีภรรยากันถึงอย่างไรวันนี้ย่อมมาถึง ทว่าก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดีเขาโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างนุ่มนวล พร้อมกับจับมือของเธอขึ้นมาและจูบเบา ๆ ที่ปลายนิ้ว“พี่รักเพ่ยหลันมาก และจะทำทุกอย่างเพื่อให้เพ่ยหลันมีความสุข เราเข้าหอกันนะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 39 ซื้อตึกเพิ่มอีกแล้ว

    บทที่ 39 ซื้อตึกเพิ่มอีกแล้ว“ทุกคนคะ พวกเราหาซื้อตึกอีกสักหลังดีไหม เอาที่ย่านการค้านี่แหละ แล้วก็เปิดขายพวกปุ๋ยและอุปกรณ์การเกษตรกัน ตอนนี้รัฐบาลจัดสรรที่ดินทำกินให้ชาวบ้านแล้ว เพราะฉะนั้นทุกบ้านก็ต้องซื้อของพวกนี้ หากเรานำมาขายก่อนคนอื่นต้องได้เปรียบแน่” หลินเพ่ยหลันพูดขึ้นในขณะที่นั่งทานอาหารเย็นร่วมโต๊ะกับทุกคนที่บ้าน“เป็นความคิดที่ดีเลย” ทุกคนในบ้านซ่งพูดพร้อมกัน“พี่เห็นด้วยกับเพ่ยหลันนะ แล้วเราต้องทำอะไรบ้าง”ซ่งเฟยหลงผู้ที่ไม่เคยขัดใจภรรยาก็พูดขึ้นอย่างเห็นด้วยทันทีหลินเพ่ยหลันยืดตัวตรงด้วยความดีใจที่ทุกคนเห็นด้วย ก่อนจะอธิบายต่อด้วยความมุ่งมั่น“ตอนนี้แต่ละบ้านอย่างน้อยก็เริ่มปลูกผักหรือเลี้ยงไก่เอาไว้กินไข่เองโดยที่ไม่ถูกจำกัดจำนวนเหมือนที่ผ่านมา อย่างน้อยก็ต้องใช้อุปกรณ์การเกษตรสักอย่าง แต่ในหมู่บ้านของเรานี่ก็มีตั้งหลายร้อยครัวเรือนแล้ว ยังไม่รวมที่อื่นอีกที่มีมากมาย ลองนับเล่น ๆ ดู สักห้าหมู่บ้าน หมู่บ้านละหนึ่งร้อยครัวเรือน ใช้ปุ๋ยเดือนละหนึ่งถุงต่อครัวเรือน หนึ่งเดือนพวกเราก็...“จริงด้วย นี่ถ้าพวกเราเปิดเป็นร้านแรก ๆ ก็จะต้องมีโอกาสมากกว่าคนอื่น” ซ่งเฟยหลงพูดขึ้นมาด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 40 ชายปริศนา

    บทที่ 40 ชายปริศนาหลินเพ่ยหลันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะอยู่ ๆ เสียงใครก็ไม่รู้ดังขึ้นที่ด้านข้าง จึงรีบใช้มือควานหาสามีแต่ไม่พบ เพราะเขากำลังช่วยกันขนปุ๋ยกับซ่งชุนเหยาและคนงานในร้านอยู่ เลยไม่ได้อยู่ข้างเธอ“คุณมาซื้อปุ๋ยเหรอคะ” หญิงสาวถามอย่างไม่แน่ใจเพราะสำเนียงของเขาไม่เหมือนกับคนแถวนี้“อ้อ...เปล่าครับ ผมแค่เห็นว่าคุณหน้าตาเหมือนน้องสาวของผมมาก ก็เลยมาถามดูเท่านั้น ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ” ชายคนนั้นยังคงถามต่อ เขามองหน้าหลินเพ่ยหลันอย่างพิจารณา ยิ่งมองเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอละม้ายคล้ายคลึงกับน้องสาวของเขาเท่านั้น“ฉันชื่อหลินเพ่ยหลันค่ะ เป็นเจ้าของร้านนี้ แล้วคุณ...” หลินเพ่ยหลันแนะนำตัวเอง จากนั้นก็คิดที่จะถามกลับ แต่จู่ ๆ ก็มีความไม่มั่นใจบางอย่างรั้งเธอไว้ไม่ให้ถามออกไป“ผม...ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมรู้สึกว่าคุ้นหน้าคุณมาก คุณเหมือนน้องสาวของผมที่หายตัวไป ผมเลยมาถามดู” เขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วชะงักไป ก่อนจะตอบกลับมาเท่านั้นหลินเพ่ยหลันมองไม่เห็นไปหน้าของชายคนนี้เลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร อีกอย่างในความทรงจำของเธอ ก็จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยมีพี่ชาย รู้ก็แต่ว่ามีน้องสาวต่างมารดาคนหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 41 ครอบครัวเดียวกัน

    บทที่ 41 ครอบครัวเดียวกันวันนี้สองสามีภรรยาปิดร้านเร็วหน่อย เพราะเมื่อกลางวันนางหยางเจี่ยบอกว่าซ่งชุนเป้ยกับสามีจะมากินอาหารเย็นด้วยกัน ดังนั้นหลินเพ่ยหลันจึงคิดว่าจะไปทำอาหารใหม่ ๆ ต้อนรับครอบครัวของซ่งชุนเป้ย อีกทั้งเธอยังอยากให้หลานชายตัวน้อยทั้งสองได้กินอาหารอร่อย ๆ อีกด้วยทำให้คิดไปถึงเมนูอาหารที่เคยกินเมื่อชาติที่แล้ว เมื่อก่อนเธอไปเดินแถวเยาวราชเข้าร้านอาหารกับเพื่อนก็นาน ๆ ครั้ง เป็นเพราะว่าอาหารแถวนั้นแพงมากจึงไปกินบ่อยไม่ได้แต่เมื่อได้กินอาหารที่ร้านแล้ว ทำให้เธอหาข้อมูลจากในอินเทอร์เน็ตดูว่าทำอย่างไร จากนั้นก็ทำกินเองบ่อย ๆ อาจจะไม่อร่อยเท่าที่ร้าน แต่ว่าก็พอแก้ขัดกันไปได้ แถมยังถูกกว่าเยอะ“พี่เฟยหลง วันนี้ฉันคิดว่าจะทำข้าวผัดปู หูฉลามน้ำแดง หอยเป๋าฮื้อผัดซอส ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ แล้วก็ผัดผักก๊งฉ่ายให้ทุกคนกิน แต่ว่าในมิติยังขาดวัตถุดิบบางอย่าง พี่พาฉันไปซื้อที่ตลาดหน่อยนะ” หลินเพ่ยหลันพูดกับสามีที่กำลังลากประตูปิดร้านอยู่“ได้สิ ว่าแต่มีอะไรที่ในมิติไม่มีอีกเหรอ” ซ่งเฟยหลงตอบรับและถามกลับด้วยความงุนงงมาก เขาเข้าใจว่าห้างสรรพสินค้าใหญ่ขนาดนั้นจะต้องมีของครบทุกอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 42 ซื้อตึกเปิดร้านอาหาร

    บทที่ 42 ซื้อตึกเปิดร้านอาหาร“งั้นเราเริ่มพรุ่งนี้ดีไหมคะ พรุ่งนี้เช้าชุนเป้ยกับโหย่วอิ๋นไปหาพี่กับพี่เฟยหลงที่ร้านนะ เดี๋ยวพวกเราไปดูตึกที่ย่านขายอาหารด้วยกัน อยู่ไม่ไกลจากย่านการค้าเท่าไร” หลินเพ่ยหลันบอกอย่างใจกว้าง“ได้ค่ะ ถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่โหย่วอิ๋น เขาก็คงดีใจมากแน่ ๆ” ซ่งชุนเป้ยพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มหลินเพ่ยหลันกับซ่งชุนเป้ยพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ซ่งเฟยหลงที่เห็นทั้งคู่คุยเรื่องนี้กันมาตั้งแต่ต้นแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ในใจก็คิดว่าภรรยาของตัวเองเป็นคนที่มีน้ำใจจริง ๆ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ก็ทำอะไรเพื่อบ้านซ่งอยู่เสมอ มีอะไรเธอก็จะเอาออกมาให้ โดยที่ไม่หวงแหนเลยแม้แต่น้อย ขายของหาเงินมาได้ก็เอามาให้แม่ของเขาเก็บเป็นเงินกองกลางของบ้าน และมาตอนนี้เธอก็ยังจะเปิดร้านอาหารให้กับน้องสาวของเขาอีก ภรรยาที่ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วถึงเวลาอาหารเย็น ทุกคนก็นั่งร่วงวงกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย“ทุกคนค่ะ ฉันมีข่าวดีจะบอก พี่สะใภ้สามจะลงทุนเปิดร้านอาหารให้ฉันนะคะ”พอซ่งชุนเป้ยเล่าว่าหลินเพ่ยหลันจะเปิดร้านอาหารให้ ทุกคนที่ได้ฟังต่างก็ยิ้มอย่างยินดี “จริงเหรอซุนเป้ย” เจียงโหย่วอิ๋นถามภรรยาด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ 5 ปีผ่านไปซ่งเจียหยวนกับซ่งเจียอี้ ตอนนี้อายุได้ห้าขวบแล้ว เป็นวัยที่เริ่มกระตือรือร้นและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พอที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก หลินเพ่ยหลันเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม จึงตัดสินใจชวนลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนไปเยี่ยมพ่อที่กองทัพเช้าวันนั้น หลินเพ่ยหลันเตรียมตัวอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างพร้อมสำหรับการเดินทาง จัดเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและอาหารว่างไว้ให้ลูก ๆ พร้อมทั้งเตือนพวกเขาให้ปฏิบัติตัวดี ๆ เมื่อไปถึงที่กองทัพ เป็นสิ่งที่เธอทำเองทั้งหมด ใช่แล้ว เธอเลี้ยงลูกแฝดทั้งสองคนด้วยตัวเอง แม้นายท่านผู้เฒ่าทั้งสองจะเคยส่งพี่เลี้ยงมาให้ แต่เธอก็ปฏิเสธไปเพราะอยากใกล้ชิดกับลูกๆ มากกว่าใคร ๆ “แม่ครับ เราจะได้เจอพ่อเมื่อไหร่ครับ” เสียงใส ๆ ของซ่งเจียหยวนถามด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้เขาอยู่ในชุดทหารที่ลุงๆ ซื้อมาฝาก“เย็นนี้ก็ได้เจอแล้ว พ่อจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่เห็นพวกเรามาเยี่ยม” หลินเพ่ยหลันตอบพร้อมกับยิ้มให้ลูกชายลูกชายทั้งสองของเธอดีใจกันมาก ที่ได้ยินข่าวว่าจะได้ไปเยี่ยมพ่อที่กองทัพ พวกเขาต่างกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ และไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นไว้ได้

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทส่งท้าย  ครอบครัวสมบูรณ์

    บทส่งท้าย ครอบครัวสมบูรณ์หลินตงยืนนิ่งไม่พูดอะไร เขารู้ว่าเขาคงไม่มีทางเลือก เขาต้องทำเพื่อเอาตัวรอดจากการถูกฆ่า“ต้องทำแบบนี้... ถ้าไม่ทำ... ฉันตายแน่ ฉันไม่ผิด” หลินตงพูดขึ้นมาเบา ๆ“ตายก็ยังดีกว่าทำแบบนี้!” นางหลิวอี้ตวาดเสียงดัง ก่อนจะวิ่งไปหยิบมีดที่วางอยู่บนโต๊ะในครัว แล้วตรงเข้ามาหาหลินตง“แกไม่รู้แกทำผิดหรืออย่างไร ลูกสาวตัวเองไม่ใช่ตัวช่วยที่จะเอามาขัดดอก แกตายซะเถอะ” นางหลิวอี้พูดจบก็เอามีดไล่ฟันไปที่สามีหลินตงตกใจและกระโดดหลบอย่างรวดเร็ว “นังบ้า จะฆ่ากันเลยเหรอ หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เขายืนสั่นด้วยความกลัวมีดในมือของภรรยา“แกทำให้ชีวิตของพวกเรามันพังหมดแล้ว พังหมด ไม่เหลืออะไร” นางหลิวอี้ยังคงกราดเกรี้ยว ทั้งที่มีดในมือสั่นไปตามอารมณ์ “แม้แต่กับลูกสาวของตัวเองแกก็ยังทำแบบนี้ได้ นี่แกเป็นพ่อประสาอะไร”“แล้วแกล่ะ ตั้งแต่แต่งกับฉันมา แกเคยช่วยอะไรฉันบ้างไหม มีแต่ใช้เงินไปวัน ๆ ที่เสี่ยวหรงมันต้องเป็นแบนี้ แกก็มีส่วนเหมือนกัน”หลินตงตะโกนสวนกลับ และขยับหลบมีดที่ภรรยาเหวี่ยงมาหาเขาอีกครั้ง “หากเป็นไปได้ ฉันก็จะไม่ทำแบบนี้เลย แต่มันไม่มีทางเลือก”นางหลิวอี้สบถคำหยาบคาย “แกจะหนี

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 64 จากลากันอีกครั้ง

    บทที่ 64 จากลากันอีกครั้งหลินเพ่ยหลันยิ้มบาง ๆ และพยักหน้าเล็กน้อยเธอรู้สึกโล่งใจที่ปัญหาในวันนี้จบลงได้โดยไม่เกิดความรุนแรง เธอหันกลับเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ซ่งเฟยหลงดูแลเรื่องราวที่เหลือซ่งเฟยหลงมองตามหลังภรรยาของเขาด้วยความรักและความห่วงใย เขารู้ว่าคนท้องไม่ควรเครียด และเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้หลินเพ่ยหลันได้มีความสุขและสบายใจในช่วงเวลานี้เมื่อหลินเพ่ยหลันเข้าไปพักผ่อนในบ้าน ซ่งเฟยหลงก็หันกลับมามองชาวบ้านที่ยังคงยืนอยู่รอบ ๆ เขายิ้มและกล่าวกับพวกเขาอย่างสุภาพ “ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและสนับสนุนครอบครัวของเรานะครับ ผมขอให้ทุกคนกลับบ้านกันอย่างสงบสุข”ชาวบ้านพยักหน้ารับและเริ่มทยอยกลับบ้าน บรรยากาศที่ตึงเครียดเริ่มกลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้งหลังจากที่เรื่องวุ่นวายทุกอย่างผ่านพ้น บ้านซ่งก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ทุกคนในครอบครัวรู้สึกโล่งใจและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุข ในช่วงเทศกาลตรุษจีน บ้านซ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่นพวกเขาใช้เวลาร่วมกันอย่างเต็มที่ ทั้งการไปไหว้พระที่วัด เพื่อขอพรให้ปีใหม่นี้เต็มไปด้วยความสุขและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งกินอาหารมงคลร่วมกัน แ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 63 จบปํญหา

    บทที่ 63 จบปํญหาเมื่อหลินตงเอ่ยปากขอเงินจากหลินเพ่ยหลัน แต่หญิงสาวกลับมีท่าทีลังเลไม่ตอบรับในทันที หลินเพ่ยหลันมองไปยังแม่เลี้ยงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล‘กลัวว่าเงินที่ให้ไป พ่อกับน้องของเพ่ยหลันจะไม่ได้ใช้น่ะสิ แม่เลี้ยงคนนี้คงจะยึดไปหมดแน่ ๆ’ เธอยืนคิดอยู่ในใจว่าจะให้ไปดีหรือไม่ นางหลิวอี้เห็นดังนั้นก็โวยวายขึ้นมาทันที“หลินเพ่ยหลัน แกมันคนอกตัญญู พ่อของแกมาขอเงินแค่นี้ก็ไม่ยอมให้เหรอ จะต้องให้พ่อและน้องของแกอดตายก่อนใช่ไหม” น้ำเสียงของนางหลิวอี้เต็มไปด้วยความโกรธและเกรี้ยวกราด เธอพูดเสียงดังเพื่อกดดันอีกฝ่าย“ทุกคนดูสิหลินเพ่ยหลันที่ทุกคนเคยชื่นชมนักหนา พอร่ำรวยแล้วก็ไม่ยอมให้เงินพ่อของตัวเองเลย พ่อของเธอไม่มีเงินจนจะอดตายอยู่แล้ว” นางหลิวอี้พูดเสียงดัง พรัอมกับหันไปมองชาวบ้านที่เริ่มมารวมตัวกันด้วยความสงสัยชาวบ้านบางคนเริ่มซุบซิบและมองไปทางหลินเพ่ยหลันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป“จริงเหรอ หลินเพ่ยหลันทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอ” เสียงพูดคุยเบา ๆ เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆหลินเพ่ยหลันรู้สึกอับอายและเสียใจมากที่ถูกแม่เลี้ยงของตัวเองใส่ร้ายเช่นนี้ เธอจึงพยายามจะอธิบาย “ฉันไม่ได้หมายความว่าอ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 62 บ้านหลินมาอีกแล้ว

    บทที่ 62 บ้านหลินมาอีกแล้ว“ขอบใจนะอาเฟยที่สานฝันแทนพ่อ แค่นี้พ่อก็ภูมิใจในตัวลูกมากแล้วล่ะ แต่ถ้าหากมันลำบาก ก็อย่าหักโหมเกินไปนักนะ ความก้าวหน้าสำคัญก็จริง แต่ว่าความสุขของตัวเองก็สำคัญเหมือนกันนะลูก” ซ่งตงลี่พูดขึ้นมาอย่างห่วงใย “ครับพ่อ” ซ่งเฟยหลงพยักหน้ารับคำ “แล้วเพ่ยหลันละ เป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นู่นสบายดีไหม” คราวนี้เป็นนางหยางเจี่ยที่หันมาถามลูกสะใภ้ โดยซ่งตงลี่ก็หันมาเพื่อรอฟังคำตอบด้วยหลินเพ่ยหลันยิ้มให้พ่อแม่ของสามี ก่อนจะเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง “ฉันสบายดีค่ะ อยู่ที่บ้านตระกูลจง ฉันได้ช่วยงานคุณตากับคุณลุงที่ห้างสรรพสินค้าของตระกูลด้วย ทุกอย่างก็ราบรื่นดีค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าพวกพี่ก็ไม่ค่อยได้พบกันบ่อยน่ะสิ คนหนึ่งอยู่ชายแดน คนหนึ่งอยู่ปักกิ่ง” ซ่งชุนเป้ยถามขึ้นมาอย่างกังวล เธอเห็นใจพี่ชายกับพี่สะใภ้ไม่น้อยที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน“ใช่แล้ว ช่วงแรก ๆ พี่เฟยหลงฝึกหนักมาก แล้วยังมีภารกิจที่ต้องไปทำนอกกองทัพอีก พวกเราก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร มีพักหลัง ๆ ที่พี่เฟยหลงพอจะว่างได้กลับมาปักกิ่ง และพี่ก็ไปหาพี่เฟยที่เมืองชายแดนบ้าง ตอนนี้คุณตาจัดรถพร้อมคนขับไว้ให้โดยเฉพาะ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 61 ท้อง 4 เดือนแล้ว

    บทที่ 61 ท้อง 4 เดือนแล้ว“แล้วนี่จะมาอยู่กี่วันล่ะ อยู่นาน ๆ นะ แม่จะทำของอร่อยให้กิน” นางหยางเจี่ยถามขึ้นมา เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรลูกชายกับลูกสะใภ้ก็ต้องกลับไปที่ปักกิ่ง แต่ก็อยากให้อยู่ด้วยกันสักหลายวันก่อน“นี่ก็เป็นเวลานานแล้วที่ผมกับเพ่ยหลันไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ตรุษจีนปีที่แล้วที่ไม่ได้กลับมา ก็เพราะว่าผมมีภารกิจที่ชายแดน ครั้งนี้พวกเราจึงตัดสินใจว่าจะพักอยู่ที่บ้านหลายวันหน่อย เพื่อเป็นการชดเชยให้กับครอบครัวครับ” ซ่งเฟยหลงตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ดี ๆ จะได้มาด้วยพี่ขายของด้วย เพราะตอนนี้ที่ร้านยุ่งมาก ฮ่า ๆ” ซ่งชุนเหยาพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุข“ที่ร้านยุ่งมากเหรอคะ” หลินเพ่ยหลันขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ“จะให้ไม่ยุ่งได้อย่างไรล่ะคะพี่สะใภ้ ตอนนี้พี่ใหญ่ขยายร้านค้าไปในเมืองใกล้ ๆ อีกสองสาขา แต่ละวันแค่วิ่งไปเติมสินค้าแต่ละสาขาก็แทบจะไม่มีเวลาแล้ว ยังดีที่ตอนนี้ซื้อรถยนต์แล้วและมีลูกจ้างที่ขยันและซื่อสัตย์ ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ท่าจะแย่” ซ่งชุนเป้ยเป็นคนตอบคำถามนี้ของพี่สะใภ้ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ตอนนี้กิจการของบ้านซ่งเป็นไปได้ดีมาก ซ่งชุนเหยาได้ขยายสาขาร

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 60 กลับมาเยี่ยมบ้าน

    บทที่ 60 กลับมาเยี่ยมบ้านพวกเขาอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันอยู่นาน ดื่มด่ำกับความรู้สึกของความคิดถึงที่รอคอยมานาน ขณะนั้นเสียงลมหายใจของทั้งสองคลอเคลียกันอย่างอบอุ่น“พี่รู้ไหมว่าเวลาไม่กี่เดือนสำหรับฉันแล้ว เหมือนมันนานเป็นหลายปีเชียวล่ะ” หลินเพ่ยหลันกล่าวเบาๆ“พี่เข้าใจ ต่อไปพี่จะพยายามกลับมาหาเพ่ยหลันให้มากขึ้น ถ้าทำภารกิจเสร็จ พี่ก็จะขอลาหยุดแล้วมาหาภรรยาเลยครับ” ซ่งเฟยหลงตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหลินเพ่ยหลันยิ้มทั้งน้ำตาและสัมผัสแก้มของซ่งเฟยหลงอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ ฉันอยากให้พี่ทุ่มเทให้กับหน้าที่การงานของพี่มากกว่า อยู่ทางนี้ต่อให้คิดถึงพี่มากแค่ไหน ฉันก็ทนได้”“ไม่ได้หรอก ถึงแม้ว่าหน้าที่จะสำคัญ แต่ว่าครอบครัวก็สำคัญเหมือนกัน ต่อไปนี้พี่จะพยายามทำทั้งสองอย่างให้ดีนะ” ซ่งเฟยหลงยืนยันด้วยความรักอันยิ่งใหญ่พวกเขานั่งลงข้างกันบนเตียง จับมือกันแน่น และแลกเปลี่ยนคำพูดหวาน ๆ ที่สะท้อนความรักและความผูกพันที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความคิดถึง หัวใจของทั้งคู่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกัน และรู้ว่าความรักที่มีต่อกันนั้น

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 59 ผู้กองซ่ง

    บทที่ 59 ผู้กองซ่งหลินเพ่ยหลันมาถึงห้างสรรพสินค้าตอนบ่ายกว่า ๆ ก็ตรงขึ้นมาที่ห้องประชุมเลย เธอบอกตัวเองอยู่เสมอว่าเป็นผู้น้อยไม่ควรจะมาสาย และให้เหล่าผู้บริหารอาวุโสรอนาน มาถึงเธอก็จัดแจงเรื่องสถานที่ประชุมต่าง ๆ อย่างเสร็จสรรพการประชุมครั้งนี้เป็นความคิดของเธอเอง ที่จะเสนอให้ห้างสรรพสินค้าของตระกูลจงไปเปิดสาขาที่เมืองอื่นด้วย ก่อนหน้าที่เธอยื่นเสนอเรื่องนี้ไป ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจงหยวนต้าและเหล่าผู้บริหารอาวุโสต่างก็เห็นด้วยและเชื่อใจเธอ เพราะผลงานที่ผ่านมาของเธอนั้นสร้างกำไรให้กับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มากมาย จึงได้มีการเปิดประชุมเพื่อชี้แจงแผนงานอย่างละเอียดในบ่ายวันนี้“สวัสดีค่ะผู้บริหารทุกท่าน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ฉันขอเข้าเรื่องเลยนะคะ อย่างที่ได้พูดคุยกันบ้างอย่างไม่เป็นทางการก่อนหน้านี้แล้วว่า ฉันอยากจะเสนอให้ห้างสรรพสินค้าของเราไปเปิดสาขาที่เมืองอื่น” หลินเพ่ยหลันเปิดการประชุมอย่างตรงไปตรงมา“ว่ามาเถอะเพ่ยหลัน พวกเราตื่นเต้นอยากฟังแล้ว” จงหวง ผู้มีศักดิ์เป็นลุงของเธอรอฟังอย่างใจจดใจจ่อหลินเพ่ยหลันบอกให้เลขาแจกจ่ายเอกสารที่เธอทำเป็นชุด ๆ ไว้ให้ผู้บริหารแต

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 58 เป็นที่ยอมรับของทุกคน

    บทที่ 58 เป็นที่ยอมรับของทุกคนหลินเสี่ยวหรงถึงแม้ว่าจะไม่ชอบหลินเพ่ยหลัน แต่ครั้งนี้ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดของแม่ตัวเอง จึงพูดออกมาว่า“จะบ้าเหรอแม่ ใครเขาจะรับพวกเราไปอยู่ด้วยกัน อย่าลืมสิว่าพวกเราไม่ได้ดูแลนังเพ่ยหลันดีสักเท่าไร แถมมันก็คงจะคิดว่าที่มันตาบอดเพราะพวกเราไม่สนใจไยดีพามันไปหาหมอ แล้วแบบนี้มีเหรอนังเพ่ยหลันมันจะยอมรับเรา มีเหรอคนตระกูลจงจะยอมให้พวกเราไปอยู่ด้วย”“แต่ตอนนี้มันรักษาตาจนกลับมามองเห็นแล้วนะ และถ้ามันจะอกตัญญูต่อพ่อก็ให้มันรู้ไปสิ ถ้าถึงขั้นจะทิ้งพ่อมันได้ลงคอ ก็คอยดูว่าฉันจะประจานมันยังไง” นางหลิวอี้พูดเสียงดังลั่น ทำให้ทั้งหลินตงและหลินเสี่ยวหรงต่างก็ส่ายศีรษะให้กับความดื้อดึงของนางหลิวอี้แต่ที่สุดแล้วหลินตงก็ทนความกดดันจากภรรยาไม่ไหว จนต้องเดินมาที่บ้านซ่งเพื่อขอที่อยู่ของหลินเพ่ยหลัน“แกจะเอาที่อยู่ของเพ่ยหลันไปทำอะไร” ซ่งตงลี่ถามหลินตงออกไป“ฉันก็แค่คิดถึงลูกสาวไม่ได้หรืออย่างไร เห็นว่าเพ่ยหลันไปรักษาตัวที่ปักกิ่ง ฉันก็จะเขียนจดหมายไปถามข่าว” หลินตงตอบกลับไปตามที่ได้ซักซ้อมกันมากับนางหลิวอี้“หึ อย่ามาโกหกเลย ฉันรู้หรอกว่าจะเขียนไปขอเงินเพ่ยหลันล่ะส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status