บทที่ 6 เหลี่ยมมาเหลี่ยมกลับ
“นี่มันจะเกินไปแล้วนะ!! เธอจะขูดเลือดฉันไปถึงเมื่อไหร่”
“อะไรนะคะ ฉันขูดเลือดจากคุณแม่เมื่อไหร่กันตั้งแต่จำความได้คุณแม่ไม่เคยให้เงินฉันใช้สักหยวน อย่างนี้ใครกันแน่ที่เสียเปรียบหากคุณแม่ไม่อยากให้ฉันก็ไม่มีทางเลือกไปกันเถอะอ้ายเยว่วันนี้เราคงจะต้องไปที่อำเภอเรียกร้องความไม่ยุติธรรมในครั้งนี้เสียหน่อย” ชิงเถาทั้งโมโหทั้งโกรธที่ไม่สามารถเอาชนะซูเม่ยได้เลย
“ก็ได้!! ฉันจะให้เธอเพิ่มอีกสักหน่อยเพราะอย่างไรอีกไม่กี่วันเธอจะไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ให้ฉันรำคาญใจแล้ว” ชิงเถาล้วงเงินออกมาเพิ่มอีก 30 หยวนทั้งหมดเป็น 40 หยวนยื่นให้แก่ซูเม่ยรอบนี้เธอรีบรับทันทีพร้อมคิดตามคำพูดของแม่สามี
“อย่างนี้ค่อยสมน้ำสมเนื้อหน่อย ว่าแต่เมื่อครู่คุณแม่พูดว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้แล้วอย่างนั้นหรือ?ดีเหมือนกันฉันเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่หรอกช่วยโทรเลขบอกท่านนายพลกลับมาหย่าเร็ว ๆ นะคะฉันเองก็เบื่อเต็มทน” อ้ายเยว่ใบหน้าเศร้าสลดอีกครั้งเมื่อได้ยินผู้ใหญ่ทั้งสองพูดคุยกันเขาไม่อยากให้แม่ไปอยู่ที่อื่นเลย
ซูเม่ยอุ้มอ้ายเยว่เดินมาที่ห้องกินข้าวก่อนจะวางตัวของอ้ายเยว่ให้นั้งที่เก้าอี้ เธอสังเกตตั้งแต่เมื่อครู่เห็นสีหน้าของอ้ายเยว่เปลี่ยนไป เด็กตัวเท่านี้ต้องมาเจอเรื่องปวดสมองของคนโตคงต้องมีปมแน่นอน
“อ้ายเยว่ทำไมลูกถึงมีสีหน้าอย่างนั้นล่ะ หรือว่าเรื่องที่แม่ทะเลาะกับคุณย่าเมื่อครู่”
“แม่ครับ...เรื่องที่แม่กับคุณย่ากันเมื่อครู่หมายถึงอะไรที่แม่จะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วแม่จะทิ้งอ้ายเยว่ไปหรือครับ แม่ไม่รักอ้ายเยว่ไม่ต้องการอ้ายเยว่แล้วหรือครับ” เด็กชายเอ่ยถามน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาเริ่มคลอแดงจับมือของซูเม่ยแน่นอย่างคาดหวังคำตอบ เธอจ้องมองเด็กน้อยอย่างน่าสงสารก่อนจะใช้มืออีกข้างลูบหัวของเด็กชายเบา ๆ
“เรื่องที่แม่กับย่าคุยกันเมื่อครู่น่าจะหมายถึงเรื่องการหย่า แม่จะหย่ากับพ่อของลูกแต่ไม่ได้หมายความว่าแม่ไม่รักอ้ายเยว่นะ และแม่จะเอาอ้ายเยว่ไปอยู่กับแม่ด้วยแม่ไม่มีวันทิ้งอ้ายเยว่แน่นอน แม่สัญญา” อ้ายเยว่ซึ้งใจคำพูดของคนเป็นแม่น้ำตาไหลรินออกมาอย่างกลั่นไม่อยู่ คิดว่าแม่จะไม่ต้องการเขาเสียแล้ว เธอรีบเช็ดน้ำตาให้เด็กชายด้วยความตื้นตันใจ เธอเองเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานที่รับเลี้ยงเด็กรู้ดีว่าความรู้สึกขาดความอบอุ่น ความว้าเหว่เป็นอย่างไรในเมื่อตอนนี้เธอทะลุมิติมาเป็นแม่ของเด็กชายคนนี้เธอไม่มีทางทำให้เด็กชายต้องมาเจอแบบเดียวกับเธอ เธอจะมอบความรักความอบอุ่นให้เขาไม่ขาดเลย
“ผมรักแม่นะครับ”
“แม่ก็รักอ้ายเยว่เหมือนกันจ้ะ แม้ว่าวันข้างหน้าจะลำบากลูกไม่กลัวใช่มั้ย?”
“ครับไม่ว่าแม่จะพาอ้ายเยว่ลำบากแค่ไหนอ้ายเยว่ไม่กลัว "ทั้งสองโอบกอดกันแน่นก่อนจะพากันกินอาหารเช้าและเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปทำอย่างที่เธออยากทำ ซูเม่ยพาอ้ายเยว่เลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ พาเด็กชายเที่ยวเล่นกินอาหารนอนบ้านอย่างสนุกสนานและไม่ลืมที่จะเข้าร้านเสริมสวยที่มีให้เลือกเพียงไม่กี่ร้าน ซูเม่ยเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ทั้งทำสีผมทั้งทาเล็บมือดูต่างจากซูเม่ยคนก่อนอย่างมากมาย อ้ายเยว่ได้ของเล่นใหม่จึงไม่รบกวนไม่งอแงระหว่างรอเธอทำความสวย
เมื่อซูเม่ยทำเสร็จแล้วก่อนจะกลับเวลาได้ล่วงเลยมาบ่ายคล้อยเธอจึงพาอ้ายเยว่กินข้าวนอกบ้านเลย เธอเดินเข้ามาที่ภัตตาคารหรูย่านที่เธอเสริมสวย จึงเลือกเข้าไปกินข้าวที่ร้านนั้น
“อ้ายเยว่วันนี้เรากินข้าวจากด้านนอกเข้าไปกันเถอะลูกอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะวันนี้มีแต่เราสองคนแม่ตามใจลูกเต็มที่”
“อ้ายเยว่เลือกได้หรือครับ?ดีใจจังเลยแม่ใจดีที่สุดอย่างนั้นวันนี้ผมขอกินปูได้มั้ย”
“ได้สิ” ซูเม่ยคิดว่าเขาอยากกินอะไรเป็นพิเศษเสียอีกแค่เพียงปูทำไมเธอจะซื้อให้กินไม่ได้อีกอย่างตอนนี้ยังเหลือเงินอยู่อีกมาก ทั้งสองเดินเข้ามาที่โต๊ะมีพนักงานเดินเข้ามาต้อนรับ พาทั้งสองไปที่โต๊ะยังว่างก่อนยื่นหนังสือให้เลือกอาหาร ซูเม่ยเธอไม่ค่อยรู้จักอาหารในยุคนี้เท่าไหร่นัก โชคดีที่มีรูปภาพให้เธอได้ดูจึงตัดสินใจเลือกไม่ยาก และไม่ลืมที่จะสั่งเมนูปูมาให้อ้ายเยว่
ระหว่างนั่งรออาหารอ้ายเยว่นั่งเล่นของเล่นที่แม่ซื้อให้อย่างเพลิดเพลินซูเม่ยกวาดตามองสำรวจภัตตาคารแห่งนี้ จัดตกแต่งได้อย่างสวยงามตามยุคสมัยเลย แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงบทสนทนาของโต๊ะข้าง ๆ ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานหัวเราะคิกคัก
“นี่ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ ทำไมคนสวย ๆ อย่างเธอต้องรอท่านนายพลนั่นด้วย ทำไมไม่เลือกหาคนหล่อ ๆ รวย ๆ นักลงทุนดูล่ะเธอเองก็มีการศึกษาที่ดี ฉันจำได้ว่านายพลจิ่นเฉาจื่อมีภรรยาและลูกแล้วไม่ใช่หรือไง” เสียงเล็กแหลมได้พูดขึ้น หูของซูเม่ยผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อของนายพลจิ่นเฉาจื่น นั่นไม่ใช่สามีเธอหรอกหรือ?แล้วทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้รอด้วย
“แหม ๆ เธอไม่เคยเห็นท่านนายพลสินะถ้าเป็นฉันฉันก็รอ ใบหน้าคมเข้มริมฝีปากอมชมพูไม่เหมือนทหารนั้นอีก ร่างกายก็บึกบึนเพียงแค่เห็นภายนอกฉันยังใจสั่นหวิว ถ้าได้เห็นเขาเปลื่อยกายจะเป็นอย่างไรกันนะ ยูร์เหยาฉันล่ะอิจฉาเธอจริง ๆ เลย เมื่อไหร่ที่เธอสมหวังเข้าห้องหอกับท่านนายพลอย่าลืมมาเล่าให้ฉันฟังด้วยล่ะว่าข้างล่างแข็งแกร่งเหมือนร่างกายหรือเปล่า” อีกคนพูดขึ้นทั้งหัวเราะคิกคัก
“พวกเธอพูดอะไรก็ไม่รู้ ฉันเป็นผู้หญิงนะอีกอย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่เฉาจื่อจะหย่ากับภรรยาของเขา แต่ว่าเมื่อเช้านี้ฉันได้รับโทรเลขจากคุณป้าว่าพี่เฉาจื่อจะกลับมาในเร็ว ๆ แถมคุณป้าบอกว่าเขาจะกลับมาหย่าด้วยล่ะ ฉันยังจะพอมีหวังมั้ยนะ” เสียงนุ่มนวลอ่อนหวานของหญิงสาวที่ชื่อว่ายูร์เหยาได้พูดออกมาอย่างนอบน้อมถ่อมตน
“นี่เธอจะไปคิดมากอะไร แม่สามีชอบใจขนาดนี้อย่างไรเธอจะต้องได้เป็นภรรยาท่านนายพลแน่นอน ฉันได้ยินมาว่าเขากับภรรยาไม่ได้รักกันไม่ใช่เหรอ?ผู้หญิงคนนั้นช่างเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจอ่อยจนท่านนายพลหลงลากเธอเข้าห้องและทำเป็นว่าตัวเองเป็นคนโดนกระทำเรียกร้องให้นายพลจิ่นเฉาจื่อรับผิดชอบไม่ใช่หรือ เด็กนั่นก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกแท้ ๆ ของท่านนายพลหรือเปล่า”
“นี่อย่าพูดดังสิ!! คนอื่นมาได้ยินเข้าจะทำอย่างไง” ยูร์เหยารีบห้ามปรามเพื่อนไม่ให้พูดเสียงดัง แต่ทว่าในใจเธอกลับชอบใจที่คนอื่นเข้าใจตัวตนของภรรยาของพี่เฉาจื่อผิด ๆ
“ก็ฉันเห็นใจนายพลนี่น่า” บทสนทนาทั้งหมดถูกคนอีกโต๊ะได้ยินเข้า เธอถอนหายใจยื่นมือลูบหัวของอ้ายเยว่อย่างน่าสงสาร ทำไมต้องถูกคนอื่นพูดถึงอย่างนี้ด้วย เธออยากจะลุกขึ้นไปด่าให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่อยากมีเรื่องต่อหน้าอ้ายเยว่อีกอย่างที่เธอได้ยินเมื่อครู่คือนายพลหรือสามีของซูเม่ยกำลังกลับมาเพื่อหย่า นี่คงเป็นโอกาสของเธอแล้วที่จะได้ออกจากบ้านหลังนี้ เป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเองและเธอจะไม่ยอมยกลูกชายให้เขา เธอจะทำทุกวิถีทางที่จะได้เด็กชายคนนี้ออกไปกับเธอด้วย
บทที่ 7 ฉันไม่หย่า"อาหารที่สั่งมาแล้วครับ " เสียงพนักงานบอกกล่าวว่าตอนนี้อาหารที่ซูเม่ยสั่งได้จัดเตรียมยกมาเสิร์ฟแล้ว อ้ายเยว่วางมือจากของเล่นเหลียวมองอาหารอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นปูนึ่งที่ซูเม่ยสั่งมาให้ เธอไม่ได้สนใจโต๊ะข้าง ๆ อีก หันกลับมาสนใจลูกชายตัวน้อยแทนหลังจากที่ทั้งสองเพลิดเพลินกับการกินอาหารจนอิ่มหนำสำราญซูเม่ยจัดการจ่ายเงินและพาอ้ายเยว่กลับบ้าน ตอนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ผู้คนพากันเดินทางกลับจากการทำงาน วันนี้เธอพาอ้ายเยว่ออกมาเที่ยวเล่นทั้งวันจริง ๆ ทั้งสองเดินมาถึงหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจที่เห็นรถยนต์ที่ไม่คุ้นเคยจอดนิ่งอยู่ที่โรงจอดรถ"แม่ครับนั่นรถใครกัน""นั่นสิแม่เองก็ไม่รู้หรือว่าจะมีแขกมาที่บ้านกัน " ซูเม่ยคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยแต่ไม่ทันให้ได้ได้คาดเดาก็เห็นเจ้าของรถกำลังยืนหน้าบูดบึ้งอยู่หน้าประตูเสียแล้ว ชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดทหารร่างกายบึกบึนหน้าอกกว้างสง่าผ่าเผย ใบหน้าคมเข้มจมูกโด่งเป็นสันดวงตาเฉียบแหลม ซูเม่ยเดาได้ทันทีเพราะใบหน้าเขาคล้ายอ้ายเยว่ไม่มีผิด นั่นคือจิ่นเฉาจื่อสามีของซูเม่ย'ว๊าวว หน้าตาหล่อเหลาใช้ได้รูปร่างก็สูงโปร่งบึกบึนดีไม่แปลกเลยที่พวกผู้หญิงพ
บทที่ 8 พูดไปก็เหนื่อยเปล่าในตอนแรกเฉาจื่อตั้งใจจะกลับบ้านในวันหยุด จู่ ๆ มีคำสั่งมาจากเบื้องบนว่าให้เขาหยุดได้ในวันนี้ถึงสามวัน เพราะวันหยุดที่จะมาถึงมีงานที่จะต้องทำ เขาจึงตัดสินใจกลับมาอย่างเร่งด่วนเขามาถึงบ้านก็บ่ายแล้วกลับมาคิดว่าจะได้พบกับอ้ายเยว่และผู้หญิงที่เขาจำหน้าแทบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอมีหน้าตาอย่างไร นี่มันก็ 5 ปีแล้วไม่รู้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน แต่เมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเขาเดินออกมายืนคอยที่หน้าประตูได้รู้ว่าจากคุณแม่ว่าวันนี้เธอพาอ้ายเยว่ออกไปข้างนอก คุณแม่บอกเธอมักจะออกไปทุกเช้ากลับมาอีกทีก็มืดค่ำ ปกติจะไม่เอาอ้ายเยว่ไปด้วย ทำให้เขาสงสัยเหลือเกินหรือว่าเธอจะมีคนที่เธอรักอยู่แล้ว และแล้วเขาได้ยินเสียงเด็กชายที่กำลังพูดคุยกับผู้หญิงอย่างสนุกสนานหัวเราะคิกคัก เฉาจื่อคิดในใจอ้ายเยว่ลูกชายของเขาคงมีความสุขมาก ๆ ที่แม่ผู้ที่ไม่เคยสนใจเลี้ยงดูพาออกไปเที่ยวเล่นด้านนอกครั้นนั้นสองคนได้เดินเข้ามาสายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ ผู้หญิงที่เขาลืมไปแล้วว่าใบหน้าเป็นอย่างไร ไม่คิดว่าการพบกันครั้งนี้จะได้เห็นว่าเธอนั้นงดงามแค่ไหน เป็นผู้หญิงที่งดงามปราดเปรียววงหน้ารูปเมล็
บทที่ 9 ทำตามที่ฉันสั่งชิงเถามานั่งรอที่โต๊ะอาหารอย่างอารมณ์ดีเธอให้สาวใช้ไปแอบฟังหน้าห้องของลูกชายได้ยินเสียงทั้งสองมีปากเสียงกัน เธอคิดว่าทั้งสองคงพูดคุยกันเรื่องหย่า ยิ่งทำให้เธอมีความสุขสุด ๆ"ว๊าววว วันนี้อ้ายเยว่หลานย่ามีพ่ออุ้มลงมาด้วย นั่งลงสิวันนี้ย่าให้พ่อครัวทำอาหารที่หลานชอบด้วยล่ะ" เธอเห็นลูกชายอุ้มหลานชายลงมาใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เฉาจื่อวางอ้ายเยว่ลงที่เก้าอี้ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ หันซ้ายหันขวาเหมือนมองหาใคร"มองหาใครกัน" ชิงเถาถามลูกชายอย่างสงสัย"ซูเม่ยล่ะครับเธอไม่มานั่งกินข้าวด้วยกันหรือไงไม่มีมารยาทที่สุด ""คุณพ่อครับ คุณย่าครับวันยี้อ้ายเยว่กับคุณแม่กินข้าวมาจากข้างนอกแล้วครับ ตอนนี้ผมอิ่มมาก ๆ เลย คุณแม่ซื้อปูให้กินด้วยอร่อยสุด ๆ ไปเลย วันนี้คุณแม่คงไม่มากินข้าวด้วยอีกอย่างคุณแม่ไม่เคยมานั่งกินข้าวที่โต๊ะนี้ไม่ใช่หรือครับ" อ้ายเยว่บอกทุกคนด้วยใบหน้าชื่นบานก่อนจะคิ้วขมวดหันไปตอบคุณย่าเรื่องที่แม่ของเขาไม่เคยมานั่งร่วมโต๊ะเลยสักครั้งเพราะหากซูเม่ยมานั่งด้วยก็ถูกชิงเถาไล่ออกไปเสมอ และไม่ยอมให้เธอมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกันให้เธอไปกินทีหลังทุกคนในครัว"อะไรนะค
บทที่ 10 ความจริงฝั่งด้านเฉาจื่อเมื่อออกมาจากห้องของซูเม่ยเขาได้เก็บเอาคำพูดของเธอมาคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินที่เธอเคยพูดไหนจะเรื่องที่เธอถูกคุณแม่ของเขาคอยรังแก หรือว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริงไม่ว่าจะพูดอย่างไรเธอก็ยังคงดึงดันคำพูดเดิมไม่หยุดหย่อน เรื่องนี้เขาจะต้องสืบความจริงให้ได้ว่าเธอเกลียดแม่ของเขามากจนเสียต้องใส่ร้ายหรือแม่ของเขาทำอย่างนั้นจริง ๆ เขาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ปรับสีหน้าของตัวเองให้ดีขึ้นก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนหาอ้ายเยว่ที่รอเขาอยู่"อ้ายเยว่พ่อมาแล้วขอเข้าไปด้านในได้มั้ย"เด็กชายกำลังนั่งเล่นของเล่นที่แม่ซื้อให้วันนี้เมื่อได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นพ่อเด็กน้อยรีบวางของเล่นทันทีเดินออกมารับพ่อด้วยใบหน้าแจ่มใส"ได้ครับ พ่อไปหาคุณแม่มาแล้วใช่มั้ยครับผมดีใจจริง ๆ ที่ต่อจากนี้คุณพ่อคุณแม่อ้ายเยว่จะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา "ยิ่งเขาเห็นว่าลูกชายมีความสุขเขายิ่งอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ระหว่าง 5 ปีที่ผ่านมา"อ้ายเยว่ลูกอยากให้พ่อกับแม่อยู่พร้อมหน้าลูกต้องบอกความจริงพ่อแล้วล่ะ" เขาจูงมืออ้ายเยว่ไปที่เตียงพร้อมเอ่ยถามเรื่องของซูเม่ย"อ้ายเยว่ไม่เคยโกหกเพราะคุณแม่สอนเอ
บทที่ 11 แขกของคุณแม่แต่ทว่าสายตาของเฉาจื่อที่จ้องมองไปยังยูร์เหยากลับเย็นชาแถมคิ้วยังขมวดเข้าหากันอีกด้วย"คนนี้เป็นแขกของคุณแม่หรือครับ อย่างนั้นผมขอพาอ้ายเยว่ไปกินข้าวเช้าก่อนนะครับวันนี้จะพาอ้ายเยว่ออกไปเที่ยวข้างนอก "สีหน้าของยูร์เหยาซีดเซียวเมื่ออีกคนจำตนเองไม่ได้ ชิงเถาเห็นอย่างนั้นรีบเข้ามาตีเข้าที่แขนของเฉาจื่อ“ทำไมถึงขี้ลืมอย่างนี้หนูยูร์เหยาอย่าน้อยใจไปเลยนะ เฉาจื่อคงทำแต่งานคงเลอะ ๆ เลือน ๆ ใครจะไปลืมหนูยูร์เหยาได้ใช่มั้ยล่ะ หนูเองยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาสินะไปนั่งกินข้าวด้วยกัน เฉาจื่อน้องนำของมาให้รีบรับไว้สิ” ซูเม่ยยืนอยู่หัวเราะคิกคักรู้สึกสะใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเฉาจื่อจำคนที่แม่อยากได้เป็นลูกสะใภ้ไม่ได้ ชิงเถาเห็นรีบเดินเข้าไปใกล้ดันกายของซูเม่ยออกเพื่อให้ยูร์เหยาเดินเคียงข้างไปกับลูกชายของตนเองเฉาจื่อรับของเล่นของอ้ายเยว่ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอาหารสายตาของเขาจ้องมองมายังซูเม่ย เขาคิดว่าเธอจะไม่ลงมาตามที่สั่งเสียอีก วันนี้เขาตั้งใจจะพาเธอกับอ้านเยว่ออกไปเที่ยวเล่นด้านนอก ชดใช้เวลาที่ผ่านมาให้แก่เธอแต่ทว่าเมื่อเขาลงมาได้เห็นหญิงสาวที่เขาเองแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำมาว่าเป็นใคร ด
บทที่ 12 ขนมอร่อยหลังจากที่ซูเม่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเธอเดินลงมาด้านล่างเห็นชิงเถากับยูร์เหยามานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นทั้งสองจ้องมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจอย่างมากก่อนที่แม่สามีจะลุกเดินมาหาเธอ“แหม แหมแต่งตัวอย่างนี้คิดจะยั่วยวนให้เฉาจื่อลูกชายของฉันไม่ยอมหย่ากับเธอใช่ไหม ไหนปากบอกว่าจะหย่ากับลูกชายของฉันเมื่อเขากลับมาอย่างไรล่ะ”"ฉันเองก็อยากจะหย่ามาก ๆ ค่ะ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรลูกชายของคุณแม่ไม่ยอมหย่าสักที คุณแม่ไม่ลองพูดเรื่องนี้กับลูกชายเองละคะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าไม่ว่าจะแต่งแบบไหนถ้าเขาไม่สนใจก็ไม่สามารถดึงดูดเขาได้หรอกคะ " ซูเม่ยพูดก่อนจะเดินออกไปรอด้านนอกเห็นท่าทางของชิงเถาที่อยากขับไล่เธออกจากบ้านเต็มทน จนเธอไม่อยากจะมีปากเสียงด้วยไม่นานเฉาจื่อได้เดินลงมาด้านล่างพร้อมอ้ายเยว่เด็กน้อยเห็นคุณย่ารีบวิ่งไปหาเธอทั้งรอยยิ้ม"คุณย่าครับวันนี้คุณย่ามีแขกเลยไม่ได้ไปเที่ยวกับอ้ายเยว่แต่คุณย่าไม่ต้องเสียใจไปนะครับเดี๋ยวผมจะซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากเอง " ชิงเถาที่ยืนอารมณ์เสียอยู่เมื่อได้ยินคำพูดของหลานชายเธอใบหน้ายิ้มแย้มทันที"โธ่ ๆ หลานชายของย่าทำไมถึงจิตใจดีอย่างนี้นะเที่ยวให้สนุกนะ " เธอล
บทที่ 13 เริ่มวางแผน'คิดอะไรของเขากันนะ ไหนที่ในบันทึกว่าเขาเกลียดซูเม่ยไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้สายตาของเขาถึงได้เปลี่ยนไปอย่างนี้ หรือว่าเขาเพียงแค่แสดงต่อหน้าอ้ายเยว่กันใช่ต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน เฮอะ! คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงฉันเป็นนักแสดงนะย่ะ ' ซูเม่ยไม่ได้ใจเต้นแรงเพียงแค่คำพูดและการกระทำของเขาหรอกนะ เธอนะเป็นนักแสดงหากจะให้เล่นเป็นครอบครัวอบอุ่นเรื่องแค่นี้ง่ายมากสำหรับเธอ"พ่อครับที่นี่มันไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่นัก หากวันหน้าอ้ายเยว่อยากมาจะมาได้มั้ยครับ ""ได้สิหากจะมาลูกก็บอกให้แม่พามาสิ""อ้ายเยว่กลัวคุณย่าไม่ให้คุณแม่พามานะสิครับ วัน ๆ คุณแม่แทบไม่ได้ออกไปไหนเลยด้วยซ้ำคุณพ่อช่วยพูดเรื่องนี้กับคุณย่าให้หน่อยได้มั้ยครับ""ได้สิก่อนกลับพ่อจะจัดการเรื่องในบ้านให้เรียบร้อยลูกวางใจเถอะนะจะไม่เกิดเรื่องขึ้นอีก" เฉาจื่อลูบหัวอ้ายเยว่อย่างเอ็นดูและนึกสงสารลูกชาย"ไม่ยากหรอกหากอยากจัดการให้ถูกต้อง คุณเพียงแค่ไปอำเภอกับฉันและหย่าให้เรื่องเท่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ต่อให้คุณบอกว่าคุณจะจัดการให้แต่เมื่อคุณกลับไปคิดหรือว่าจะไม่เกิดเรื่องอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "จู่ ๆ เธอก็ได้พูดออกอย่างลื
บทที่ 14 เกิดเรื่องใหญ่ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงเครื่องจักยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องอ้ายเยว่ตื่นขึ้นมามองดูอากาศรอบ ๆ อย่างตื่นตาเช่นเคย"ดูอ้ายเยว่สักครู่นะเดี๋ยวฉันกลับมา ลูกอยู่กับแม่ก่อนนะพ่อขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่""พ่อครับผมเองก็อยากเข้าห้องน้ำขอไปด้วยได้มั้ย ""อย่างนั้นมาเถอะพ่อจะจับมือลูกไปเอง อยู่ได้ใช่มั้ย? " เขาจับมือของอ้ายเยว่ก่อนจะหันมาถามซูเม่ยที่ต้องนั่งคอยอยู่เพียงลำพัง"ไม่ต้องห่วงฉันดูแลตัวเองได้" เฉาจื่อพาอ้ายเยว่ไปเข้าห้องน้ำระหว่างนั้นซูเม่ยทอดสายตามองไปนอกหน้าต่างดูดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนต่ำลง"สาวสวยอย่างนี้เดินทางคนเดียวคงเหงามากเลยสินะให้พวกฉันนั่งเป็นเพื่อนมั้ยรับรองว่าจะลืมความเหงาจนกว่ารถไฟจะหยุดที่สถานีเลย" เสียงของชายฉกรรจ์ดังขึ้นซูเม่ยหันขวับมามองใจเต้นแรงระรัว จ้องมองชายที่เดินเข้ามานั่งกับเธอถึงสามคนใบหน้าของแต่ละคนค่อนข้างน่ากลัวแถมร่างกายยังสักลายเต็มตัวอีกด้วย ความหวาดกลัวเริ่มก่อเกิดในใจยิ่งยุคนี้แล้วทุกคนช่างน่ากลัวจริง ๆ"ออกไปนะ ฉันไม่ได้มาคนเดียวสักหน่อยไม่ต้องการให้คนไม่รู้จักมานั่งเป็นเพื่อนด้วย”“แหมน้องสาวอย่าเล่นตัวนักเลยให้เรานั่งเป็นเพื่อนก
บทที่ 35 ความสุข1 ปีผ่านมา“อ้ายเยว่ไปโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อรอลูกอยู่ด้านล่างเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ” ซูเม่ยเดินเข้ามาในห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จเห็นอ้ายเยว่นั่งอยู่บนเตียงนอน“คุณแม่ครับอ้ายเยว่ไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ขออยู่กับเยว่ผิงได้มั้ยครับ ดูสิน้องยิ้มให้อ้ายเยว่ด้วยคงอยากให้อยู่เล่นด้วย” เด็กชายจับมือน้อย ๆ หยอกล้อไปมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์“ไม่ได้หลานจะขาดเรียนสองวันติดต่อกันไม่ได้นะ เยว่ผิงไม่หนีไปไหนหรอกนะตอนเย็นกลับมาก็ได้มาเล่นกับน้องหากหลานอยากเป็นพี่ชายที่ดีจะต้องทำตัวดีให้น้องได้เห็น เย่วผิงจะได้ภาคภูมิใจที่มีพี่ชายที่ดีและรักเธอมากขนาดไหน ”“ก็ได้ครับคุณย่า อย่างนั้นพี่ไปเรียนก่อนนะเยว่ผิง พี่จะรีบกลับมาเล่าเรื่องที่เรียนมาวันนี้ให้ฟัง” อ้ายเยว่ก้มลงหอมแก้มเล็ก ๆ อวบขาวคล้ายซาลาเปาไม่แปลกใจเลยที่เขาตัวติดน้องไม่อยากห่างไปไหนหลังจากวันนั้นที่เฉาจื่อกับซูเม่ยเข้านอนด้วยกันเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา อ้ายเยว่ดีใจมากที่จะมีน้องสาวชิงเถาดูแลเอาอกเอาใจซูเม่ยเป็นอย่างดีไม่ว่าอะไรที่เขาว่าดีต่อคนท้องก็หามาหาเธอกินทุกอย่าง ซูเม่ยมีความสุขมาก ๆ หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายจบลง เธ
บทที่ 34 เฉาจื่อบาดเจ็บการต่อสู้ด้วยหมัดได้เริ่มขึ้นและแล้วลูกน้องของเหวินฉิงได้พ่ายแพ้ต่อเฉาจื่อที่เป็นนายพลร่างกายของเขาฝึกอยู่ทุกวันต่างจากลูกน้องของเหวินฉิงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาทำให้ทั้งสองล้มลงที่พื้นได้ เมื่อเหวินฉิงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้จึงล้วงปืนขึ้นมายิงเข้าที่ขาของเฉาจื่อปัง!“นี่แก แกมันเล่นตุกติกแกมันไม่มีสัจจะ” “ฮ่า ฮ่า ไม่เคยได้ยินคำนี้หรือไงไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เหวินฉิงสะใจที่เห็นร่างกายแข็งแกร่งของเฉาจื่อล้มลงต่อหน้า เลือดที่ขาเริ่มไหลรินออกมาจนขากางเกงเปียกไปด้วยเลือด สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือกความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย“คนอย่างแกไม่สมควรที่จะปกครองคนมากมาย เพราะแกมันเลวยิ่งเลวเสียอีก”“พูดไปเถอะก่อนจะไม่ได้พูด ยังไงการฆ่านายพลจิ่นเฉาจื่อเป็นความต้องการแต่แรกของฉันอยู่แล้ววันนี้ฉันจะทำให้มันเป็นจริง ฉันจะแก้แค้นแทนน้องรักของฉันเขาจะได้ตายตาหลับ เมื่อจัดการแกได้ก็ไม่มีใครในมณฑลนี้กล้าท้าทายต่ออำนาจของแก๊งมังกรดำอีกต่อไป ” ปลายปืนชี้ตรงมาที่หัวของเฉาจื่อหวังยิงครั้งเดียวให้ตายคาที แต่ทว่าเรื่องราวไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเพราะเขาไม่ทันได้เหนี่ยวไกรปืน ถูกลอบยิงจากด้านหล
บทที่ 33 ต่อสู้“คุณย่าครับคุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยครับ? อ้ายเยว่กลัวจังเลย” เด็กน้อยตัวสั่นเทาจ้องมองไปหาซูเม่ย ชิงเถาจับตัวอ้ายเยว่มากอดแน่นพร้อมกระซิบข้างหู“อ้ายเยว่แม่ของลูกต้องไม่เป็นอะไรย่าเชื่อว่าเราต้องรอด หากหลานกลัวหลับตาเอาไว้นะ ” อ้ายเยว่พยักหน้าหลับตาปี๊“น่าเสียดายหากจะฆ่าทิ้งไป เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามหรือว่าเราจะมาเล่นสนุกกับภรรยาของนายพลก่อนดี ฮ่า ฮ่า ดูสิผิวขาวเนียนเชียว ได้ข่าวว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมานายพลไม่เคยกลับบ้านเลยด้วยซ้ำปล่อยสาวสวยอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ก่อนฆ่าทิ้งเรามามีความสุขกันก่อนมั้ยคนสวย”“อย่าแตะต้องเธอนะ” เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อดังขึ้นเมื่อมือของเหวินฉิงกำลังแตะลงที่ใบหน้าของซูเม่ย เธอหวาดกลัวยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับ“โอ๊ะ! นี่ท่านนายพลหวงภรรยาก็เป็นหรือนี่ เอาน่าให้ฉันได้ลิ้มลองบ้างว่าภรรยาของท่านนายพลจะเด็ดขนาดไหน” เหวินฉิงดึงกายของซูเม่ยเข้ามาใกล้ตนยามนั้นนั่นเองเสียงปืนดังสนั่นแขนของเหวินเทียนถูกใครสักคนยิงหวังให้เขาเจ็บปัง!!! ทุกคนแตกตื่นยกอาวุธเข้าไปป้องกันเหวินฉิง“โอ๊ย!! ใครกันมันกล้าลงมือในที่ของฉันแบบนี้เหยียบจมูกกันเกินไปแล้วหรือว่าจะเป็นแกนายพ
บทที่ 32 ค่าตอบแทน"พี่เหวินฉิงอยู่ไหน " ยูร์เหยาออกมาจากห้องรีบถามหาเหวินฉิงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง"ตอนนี้ลูกพี่อยู่ที่ห้องส่วนตัวครับ เชิญทางนี้" ลูกน้องนำทางพายูร์เหยาไปหาเหวินฉิงที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอได้เดินเข้าไปประตูก็ปิดทันที เหวินฉิงดื่มเหล้าด้วยท่าทางสบายใจและอารมณ์ดี เห็นยูร์เหยาเข้ามาหาเขาวางแก้วเหล้าไว้ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา"เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้พี่จัดการยังไง""พี่เหวินฉิง พี่ไม่ได้ทำตามที่ฉันขอไว้เลย ทำไมต้องจับตัวคุณป้ากับลูกชายของพี่เฉาจื่อมาด้วยฉันบอกให้พี่จับมาแค่นางซูเม่ยไม่ใช่หรือไง แล้วเรื่องที่พี่เฉาจื่อจะมาที่นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามไม่หยุดย่อน เธอตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เหวินฉิงแสยะยิ้มมุมปากยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ยูร์เหยาใช้มือจับที่ไหล่ของเธอให้นั่งลงที่โซฟา"ใจเย็น ๆ ก่อนสิทำไมถึงได้โมโหง่ายอย่างนี้ล่ะใบหน้าสวย ๆ จะเกิดริ้วรอยเอาได้นะ ""เฮ้อ!!อย่างนั้นพี่ก็รีบบอกมาสิว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไมมันเกินที่ฉันขอร้องแล้วนะ"เขานั่งลงข้าง ๆ เธอมือของเขาไม่อยู่นิ่งจับปลายผมของยูร์เหยาม้วนไปมาก่อนจะตอบคำ
บทที่ 31 เป็นฝีมือเธอสินะสายตาที่จ้องมองซูเม่ยทำให้เธอขนลุกซู่ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายคนนี้ต้องสงสัย ใครกันคือที่รักของเขาแล้วเธอไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอไม่เคยไปก่อเรื่องหรือมีเรื่องกับใครสักคน จะมีแต่ยูร์เหยา!!!‘อะไรน่ะ คนที่ชายคนนี้เรียกที่รักคือยูร์เหยาหรอกเหรอ?เฮอะน่าตลกชะมัดเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอถึงกับสั่งให้แก๊งมังกรดำจับตัวของมา’ ซูเม่ยคิดในใจพรางมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ครั้นนั้นเธอคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองมากกว่า ยูร์เหยาเป็นลูกของนายอำเภอมายุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยไม่ดีทำไมกัน หรือว่าเรื่องรับส่วยไม่ใช่แค่นายตำรวจเล็ก แม้แต่นายอำเภอยังเป็นคนของพวกแก๊งมังกรดำหรือเนี่ย!!!“ใช่ฉันเป็นภรรยาของเฉาจื่อ แต่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ใครหากคนที่คิดแค้นฉันคนเดียวก็ให้คนนั้นมาจัดการฉันสิ จับคุณแม่กับลูกชายของฉันมาทำไมกัน ““ว๊าววว ปากดีจริง ๆ อีกไม่นานที่รักของฉันคงเดินทางมาถึงดูสิว่าที่รักของฉันกับนายพลจิ่นเฉาจื่อใครจะมาถึงก่อนกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่ะ เพราะวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลนายพลหน้าโง่ ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจของแก๊งมังกรดำ ถ้าอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หลับ
บทที่ 30 ไล่ล่าตงฉวนพยายามขับรถยนต์เข้ามาตามซอยเล็ก ๆ เพื่อหลบหนีคนของแก๊งมังกรดำแต่ทำยังไงคนพวกนั้นก็ตามมาติด ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดหนทาง เขาไม่อาจจะพาคุณนายทั้งสองและอ้ายเยว่หนีได้อีกต่อไปเมื่อขับรถด้วยความเร็วไปด้านหน้าแต่ทว่ากลับเป็นทางตัน“ตงฉวนนั้นมันทางตัน” เสียงของซูเม่ยร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะรถยนต์เคลื่อนมาด้วยความเร็ว ตงฉวนเหยีบนเบรกทันทีทำให้รถที่มาด้วยความเร็วล้อท้ายปัดรถสะบัดหมุนไปชนกำแพงปูนที่เป็นทางตันเอี๊ยด...!! โคร้ม!!!กรี๊ดดดด.....เสียงร้องกรีดของชิงเถาดังสนั่นแม้เธอจะกลัวแต่แขนของเธอยังคงโอบกอดอ้ายเยว่ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนซูเม่ยกับตงฉวนหัวของทั้งสองได้กระแทกเข้าด้านหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หัว ซูเม่ยรู้สึกเจ็บทีหัวมึนไปชั่วขณะก่อนจะตั้งสติหันไปมองอ้ายเยว่ด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่อ้ายเยว่เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”“คุณแม่อ้ายเยว่ไม่เจ็บแต่ว่าที่หัวของคุณแม่มีเลือดด้วย อึก อึก คุณแม่เจ็บมั้ยครับ” เด็กน้อยเห็นแม่ของตัวเองเริ่มสั่นเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น“นั่นสิเธอคงเจ็บมากใช่มั้ย ฉันกับอ้ายเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บร่างกายเล็กน้อย”“เจ็บแค่นี้ไม่เท่
บทที่ 29 นวดหลังเฉาจื่อใจเต้นแรงแทบจะกระโดดออกมาเต้นอยู่ข้างนอก ร่างกายของเขาตื่นตัวร้อนผ่าวไปหมด อาบน้ำพรางคิดเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ท่อนเอ็นของเขาตั้งผงาดขึ้นมา“อะไรกันแค่คิดยังไม่ได้ทำเสียหน่อยทำไมถึงได้มีอารมณ์อย่างนี้นะ!! อย่าเป็นอย่างนี้สิเธอจะคิดว่าฉันเป็นคนยังไง แกนอนเดี๋ยวนี้เลยนะเดี๋ยว” เขาบ่นพึมพำจับน้องชายของตัวเองกดหัวลงให้หลับใหล แต่เมื่อเขาพูดออกมาอย่างนั้นน้องชายของเขากลับแข็งตั้งผงาดสู้มือเขามากกว่าเดิม เมื่อจู่ ๆ ใบหน้าของซูเม่ยลอยเข้ามาเนินอกที่อวบอิ่มขาวเนียน ขาเรียวน่าสัมผัสเขาไม่อาจจะทนได้อตี่กอไปค่อย ๆ ใช้มือสาวอย่างช้า ๆ อารมณ์ของเขาพุ่งพล่านสองมือค่อย ๆ เพิ่มแรงสาวให้เร็วมากกว่าเดิม ครั้นนั้นเขาเผลอเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของซูเม่ยในความคิด สองชักแท่งร้อนขึ้นสุดลงสุดจนกระทั่งถึงความรู้สึกเสียวซ่านได้ปะทุออกมา น้ำขาวขุ่นพุ่งกระจายเต็มห้องเสียงหอบเหนื่อยของเขาเคล้าไปด้วยเสียงน้ำรินไหล“แฮ่ก แฮ่ก ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ทำไมต้องตื่นเต้นจนต้องช่วยตัว เฮ้อ!!สงบแล้วสินะอย่างนี้ฉันค่อยกล้าออกไปหาเธอหน่อย” เขาจัดการล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดเมื่อแท่นร้อนสงบลงด
บทที่ 28 เริ่มเคลื่อนไหวหลังจากนั้นทั้งสองอยู่ในงานสักพักและขอตัวกลับบ้าน ภายในรถมีเพียงความเงียบปกคลุมตงฉวนมองกระจกหลังเห็นใบหน้าทั้งสองที่หันไปคนละทางคิดเขาเกิดความสงสัย เพราะเขาไม่ได้เข้าไปร่วมในงานเลี้ยงคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ข้างนอก หากจะเอ่ยถามคงไม่ใช่เรื่องของตัวเอง จึงได้พูดเรื่องที่เขาได้รับรู้มาบอกแก่เฉาจื่อให้ได้รู้“ท่านนายพลครับ สายสืบเรามีเรื่องมารายงานตอนนี้ที่ท่านเข้าไปในงานเลี้ยงเป็นเรื่องสำคัญแต่ว่าจะให้ผมพูดตอนนี้เลยมั้ยครับ” เฉาจื่อจ้องมองไปยังซูเม่ยก่อนจะตอบตงฉวนให้เขาพูดอกมาได้“พูดมาเถอะ”“สายของเราแจ้งมาว่าเรื่องที่ท่านนายพลย้ายมาประจำการที่นี่เป็นการขัดขาของแก๊งมังกรดำ ครั้งที่แล้วที่ท่านนายพลจัดการคนของแก๊งมังกรดำทำให้เหวินฉิงหัวหน้าแก๊งโกรธมาก ผมคิดว่าเรื่องที่ท่านย้ายมาที่นี่แก๊งนั้นคงไม่ยอมอยู่เฉยแน่ ๆ สายของเราบอกว่าตอนนี้เหมือนคนพวกนั้นกำลังซุ่ทำอะไรบ้างอย่าง ”“อื้ม ...เรื่องนั้นฉันคิดไว้แล้วและที่ฉันย้ายมานี่ไม่ได้จะมาอยู่ใกล้ครอบครัวเท่านั้น ฉันจะมาจัดการกับแก๊งมังกรดำให้สิ้นซาก ชาวบ้านจะได้อยู่อย่างสบายใจไม่ว่าใครที่ร่วมจับมือกับแก๊งมังกรดำฉันจะไม่ปล
บทที่ 27 ธาตุแท้มาถึงงานเขาทำอย่างที่เขาบอกจริง ๆ ไม่ว่าจะเดินไปทางใดเขาโอบเอวเธอตลอดทำให้ซูเม่ยเขินอายคนทั้งงานไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างที่พูด จนกระทั่งเขาพาเธอเดินทักทายแขกในงานและได้พบกับนายอำเภอตงหนานที่เดินเคียงคู่มากับภรรยาของเขาและยูร์เหยาที่เดินตามมาข้างหลัง วันนี้เธอตั้งใจแต่งตัวเต็มที่แต่ทว่าคนในงานกลับพากันพูดถึงแต่เรื่องของซูเม่ยเอ่ยชมไม่ขาดปากทำให้เธอไม่พอใจมากกว่าเดิม ยิ่งเห็นเธอเดินเคียงข้างมากับเฉาจื่อเธอยิ่งเจ็บใจไม่น้อย ที่เขาโอบกอดเธอตลอดเวลาจนเผลอคิดหากวันนี้คนที่เคียงข้างเขาเป็นเธอจะเป็นอย่างไร“ยินดีด้วยนะครับท่านนายพลที่ได้ย้ายมาประจำการที่นี่”“ครับ วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติมากที่นายอำเภอตงหนานมาร่วมยินดีของผม ดื่มกินให้เต็มที่นะครับ” "จะไม่มาต้อนรับได้อย่างไรครับ นายพลเป็นคนที่ลูกสาวของผมพูดถึงทุกวันต้องมาให้ได้อยู่แล้ว คนที่เคียงคู่มาในวันนี้คงเป็นคุณนายเล็กสินะครับ งดงามมากจริง ๆ ถึงว่าแต่งงานตั้งนานไม่พามาออกงานเพราะอยากเก็บความสวยไว้ดูคนเดียวนี่เอง"ซูเม่ยยืนยิ้มให้นายอำเภอตงหนานก่อนจะหันไปเห็นสายตาที่จ้องมองเธออยู่ด้านหลังผู้เป็นพ่อ"ตอนแรกคิดว่ามาที่นี่จะอึดอ