แม่ออกมาจากห้องผ่าตัดได้หลายวันแล้ว ช่วงนี้เพราะฉันไม่ต้องไปเรียนฉันเลยมีเวลาอยู่กับแม่ได้อย่างเต็มที่ เอแคลร์ที่รู้เรื่องก็โทรมาร้องไห้กับฉัน เธอบอกว่าตัวเองไม่อยากทำร้ายฉันเลย แต่พวกยัยทรายบังคับ ซึ่งฉันก็เข้าใจดีเลยไม่ได้ว่าอะไรส่วนแม่ ฉันทิ้งให้ท่านนอนพักผ่อนและออกมาหาอะไรดื่มแก้ง่วงกับชิดภู บังเอิญว่าเขามาหาพี่ชายที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลนี้พอดี เลยแวะมาเยี่ยม“นายมีพี่ชายเป็นหมอด้วยเหรอ ดีจังนะ”ฉันจิบกาแฟไปคุยไประหว่างที่เดินกลับขึ้นตึก ในมือก็ถือถุงเค้กพะรุงพะรังไปหมด เพราะเงินที่ได้มาวันนั้นมันยังเหลืออยู่นิดหน่อย ฉันเลยสามารถเจียดเงินร้อยสองร้อยไปเปย์ตัวเองได้โดยไม่รู้สึกผิดเมื่อก่อนอย่าว่าแต่เค้กเลย ข้าวราดแกงจานละห้าสิบบาทยังต้องเป็นรางวัลที่ฉันให้ตัวเองนานๆ ครั้ง ส่วนใหญ่จะได้กินข้าวฟรีที่ป้าแม่บ้านของโรงพยาบาลเอามาให้ตอนเช้า ส่วนมื้อเย็นก็มีสวัสดิการพนักงานที่คลับทำให้ไม่ต้องเสียเงินค่าข้าว แต่ก็นั่นแหละ หลายครั้งฉันเองก็อยากกินอะไรที่คนอื่นได้กินเหมือนกัน“อืม ลูกพี่ลูกน้องน่ะ ก็ไม่ใช่พี่ที่สนิทอะไรมากหรอก แต่ย่าติดต่อพี่ไม่ได้ อยากให้กลับไปคุยเรื่องงานหมั้น เลยวานฉันมา”
[Navin’s part]ทรายแก้ว กฤตินันทสกุล ลูกสาวคนเดียวของ ภูดิน อธิบดีมหาวิทยาลัยเอกบูรพา ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ว่ามีความเหมาะสม แต่คนเดียวที่ไม่ได้ลงชื่อในครั้งนี้คือ ผมทั้งที่หุ้นส่วนใหญ่ที่สุดของที่นี่คือผมเอง แต่กลับไม่เคยได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการประชุมเลยสักครั้งเดียว เมื่อก่อนผมไม่ได้สนใจเพราะแค่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น แต่ส่วนใหญ่ย่าจะเข้ามาดูแลมากกว่า แต่เรื่องที่มีคนถูกไล่ออกเพราะมีปัญหากับลูกสาวอธิบดี เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ผมต้องเข้าไปจัดการด้วยตัวเอง“ขออนุญาตครับท่านผอ.”จาเรด คนของคามินทร์ที่ผมยืมตัวมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ผมสั่งให้เขาไปติดต่อที่มหา’ลัยเพื่อจัดการประชุมขึ้นมาให้ แต่ไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้“ว่าไง”“เรื่องที่คุณดานิกาถูกไล่ออก ทางอธิบดีแจ้งว่ายังไม่ได้เซ็นอนุมัติครับ แต่ได้ชื่ออาจารย์ที่ยื่นเรื่องมาแล้ว”ทำงานได้รวดเร็วสมเป็นคนของคามินทร์ นอกจากจะได้เรื่องแล้วยังได้ประวัติของอาจารย์คนที่ว่ามาด้วย“อาจารย์สมศรี สอนด้านการออกแบบเสื้อผ้าและตัดเย็บ เป็นคนที่ดุและชอบพูดจาไม่สุภาพกับนักศึกษา โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้มีทุนทรัพย์มากมาย เน
[Danica’s part]อา...ปวดหัวชะมัดเลย แล้วก็ยังปวดเนื้อปวดตัวไปหมด เนื้อตัวมันร้อนผะผ่าวจนต้องขยับด้วยความไม่สบายตัว ทว่าพอลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกเจ็บจี้ดที่แขนท่อนล่างก็แผ่เข้ามาจนต้องขมวดคิ้วมุ่น สายตาที่ปรับเข้ากับแสงภายในห้องทำให้ฉันเห็นว่าตอนนี้แขนตัวเองกำลังมีสายน้ำเกลือปักอยู่เดี๋ยวนะ สายน้ำเกลืออะไร แล้วห้องนี้มัน...“ตื่นแล้วเหรอ อยู่นิ่งๆ จนกว่าน้ำเกลือจะหมดนะถึงจะออกไปได้”ห้องทำงานคุณนาวินทร์? ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ล่ะ ในสภาพที่มีเสาน้ำเกลือขนาบข้าง แล้วยังนอนบนโซฟาพร้อมกับมีเสื้อสูทตัวนอกของเขาห่มตัวอยู่ด้วย“หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”“ก็ไม่สบาย เลยพามาให้ยา”นั่นเหมือนจะตอบไม่ตรงคำถามนะ เขาเอาแต่นั่งทำงานโดยไม่สนใจฉันเลยสักนิด ฉันเลยเอาเสื้อของเขาออกแล้วไปพาดไว้ที่พนักพิง ก่อนจะหย่อนเท้าลงที่พื้นเพื่อจะเดินกลับไปห้องพักของแม่แต่ยังไม่ทันได้ลุกก็ถูกเขาห้ามก่อน“ไม่ต้องไป”“หนูต้องไปหาแม่ค่ะ”“ตัวเองไม่สบาย จะเอาไข้ไปติดแม่เพิ่มหรือไง”ที่เขาพูดมันก็มีเหตุผล ฉันเลยจำต้องนั่งลงที่เดิมอย่างไม่เต็มใจนัก“งั้นหนูต้องอยู่ที่นี่นานแค่ไหนคะ”“ก็จนกว่าจะหาย”“แต่หนูยังปวดเนื้อปวดตัว
คอนโดที่เขาส่งโลเคชั่นมาให้กำลังทำให้ฉันถึงกับอ้าปากค้าง พอเปิดประตูเข้ามาด้วยคีย์การ์ดที่เขาฝากไว้หน้าเคาน์เตอร์ สภาพห้องนี่แทบจะทำให้ฉันไม่กล้าขยับตัวออกจากตรงนี้เลย กลัวว่าจะเผลอทำอะไรแตกหรือหล่นเข้า ไม่อย่างนั้นฉันคงจะหาเงินมาชดใช้ไม่ไหวตั้งแต่ห้องที่ดูกว้างจนไม่รู้ว่าจะเดินดูรอบในวันนี้หรือเปล่า ตัวห้องนั้นตกแต่งด้วยโทนสีเทาขาว ผนังทุกด้านต่างก็มีการตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์และไม่ล้าสมัย บนผนังมีโคมไฟระย้าที่ทำเลียนแบบกิ่งไม้ให้ความรู้สึกสบายใจเมื่อได้มองทว่าสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันไม่สบายใจ คือไม่รู้ว่าตอนนี้คุณกระต่ายอยู่ที่ไหน เขาจะยังอยู่ในนี้หรือเปล่า แล้วตั้งใจนัดฉันมาทำอะไรกลางวันแสกๆ แบบนี้กันแน่“มีผ้าปิดตาวางอยู่ในกล่องเหนือชั้นรองเท้า เอาผูกตาแล้วเดินเข้ามา”จู่ๆ ก็มีเสียงพูดดังมาจากข้างในห้องทำให้ฉันถึงกับสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าเขาจะส่งเสียงมาโดยไม่ยอมแม้แต่จะโผล่หน้ามาให้เห็น ฉันเดินไปยังชั้นวางรองเท้าตามที่เขาว่า ก่อนจะพบกับถุงกระดาษของแบรนด์หรูสีส้มที่ใส่ของที่เขาว่าเอาไว้ในนั้นนี่มัน...ผ้าเช็ดหน้านี่นา ของแพงซะด้วย แค่จะให้ผู้หญิงปิดหน้าเข้ามาหาตัวเองก็ต้องใช้ของแบรนด์เ
[Navin’s part]ในอ้อมกอดของผมมีหญิงสาวนอนหลับตาพริ้มอยู่เป็นครั้งที่สอง ผ่านช่วงเวลาที่เราต่างก็มีความสุขด้วยกัน เสียงครางของเธอยังคงดังอยู่ในหัวของผมแม้ว่าข้างนอกฟ้าจะมืดแล้วก็ตามผมนอนมองใบหน้าของหญิงสาวที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่ที่ข้างกาย เธอมีอาการไข้ขึ้นหน่อยๆ คงมาจากครั้งนี้ผมทำรุนแรงเกินไปบวกกับก่อนหน้านี้เธอยังมีไข้อยู่ แต่จะโทษผมก็คงไม่ได้ เพราะเรือนร่างของเธอมันยั่วยวนเสียจนผมห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ ขนาดที่ว่าต่อให้เสร็จไปหลายครั้งก็ยังอยากที่จะกอดก่ายกันอยู่อย่างนั้นผมไม่ได้อยากที่จะรั้งเธอไว้ข้างกายให้เธอต้องรู้สึกฝืนใจ แต่พอคิดว่ามีผู้ชายคนอื่นเข้ามาป้วนเปี้ยนโดยที่เธอมองผมเป็นแค่คุณหมอในสายตาเธอที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร จู่ๆ ภายในใจก็เกิดความรู้สึกอยากจะเห็นแก่ตัวมากขึ้นอีกหน่อย“อือ”เสียงครางน้อยๆ จากคนที่หลับตาอยู่ทำให้ผมสะดุ้ง เพราะตอนนี้ผมได้เอาผ้าปิดตาของเธอออกเพื่อให้เธอหลับสบาย ที่จริงผมจะเปิดเผยใบหน้าต่อเธอเลยก็ได้ แต่ผมแค่ไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าผมเป็นคนอย่างนั้น ผมอยากเป็นใครสักคนในชีวิตที่เธอรู้สึกปลอดภัย ไม่ใช่คนที่บังคับให้เธอทำในสิ่งที่ไม่อยากทำจะว่าไป ทั้งที่ไ
[Danica’s part]ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าข้างนอกนั่นฟ้าใกล้จะมืดแล้ว ภายในห้องคอนโดที่ก่อนหน้านี้ฉันได้เห็นเพียงเสี้ยวเดียวของมัน ทว่าตอนนี้กลับไร้ผ้าเช็ดหน้าปกปิดดวงตาเอาไว้ ฉันมองไปรอบๆ ห้องด้วยความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ที่นี่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นสีดำ เทา และขาวเป็นหลัก ตัวผนังนั้นก็ทาด้วยสีเทาเข้ม แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของฉันก็คือผนังที่ทำนูนขึ้นมาเป็นรูปมังกรสีทองบริเวณตรงข้ามกับปลายเตียง มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกจะว่าไป เขาเป็นคนเอาผ้าปิดตาฉันออกอย่างนั้นเหรอ นั่นก็แสดงว่าเขาคงออกไปจากห้องนี้แล้วสินะฉันพาตัวเองลงจากเตียงเพื่อจะไปหยิบมือถือที่อยู่ในกระเป๋าเหนือชั้นวางรองเท้า ทว่าเพียงแค่ขยับตัว ทั้งร่างก็เจ็บร้าวไปหมดจนต้องนั่งพักสักครู่นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉันทำกับเขา แต่ทำไมร่างกายมันยังเจ็บเหมือนครั้งแรกไม่มีผิด ครั้งนั้นฉันต้องฝืนอย่างมากเพื่อจะกลับไปหาแม่ที่โรงพยาบาล แต่ครั้งนี้ฉันไม่ต้องรีบขนาดนั้นเพราะมีพี่แพรวาดูแลให้แล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะมีเวลานอนต่ออีกหน่อย ที่ด้านนอกนั่นฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฉันเองต้องรีบไปทำงานไม่อย่างนั้นโดนเจ๊น้ำหวาน
[Danica’s part]ฉันถูกคุณนาวินทร์ลากตัวออกมายังทางออกด้านหลังสำหรับพนักงานซึ่งจะเชื่อมไปที่ลานจอดรถ เขาไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งมือที่จับแขนฉันอยู่นั้นเริ่มแน่นขึ้นฉันรู้สึกเจ็บจนทนไม่ไหว เลยได้แต่ร้องบอกให้เขาหยุด“โอ๊ย คุณหมอ หนูเจ็บนะ!!!”เขาได้ยินเสียงฉันจึงได้คลายมือออกหลวมๆ พอแค่ให้ฉันไม่เจ็บจนเกินไป ทว่าก็ยังไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ“คิดจะทำอะไรของเธอ”ทั้งหน้าตาและน้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าไม่พอใจฉันอย่างมาก ฉันทำอะไรผิด หรือว่าจะด่าฉันเรื่องที่หาเรื่องทรายเมื่อกี้นั่นสินะ พวกเขาเหมือนจะรู้จักกันด้วยนี่ มันคงไม่แปลกที่เขาจะโมโหถ้าฉันไปหาเรื่องลูกค้าของพี่ชายเขา ซ้ำทรายยังเป็นคนที่เขารู้จัก หรือที่ยิ่งไปกว่านั้น บางทีเขาอาจจะกำลังกิ๊กกั๊กกับทรายอยู่ก็ได้ ส่วนฉันก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่เป็นอะไรไม่รู้ในชีวิตเขา“เงียบทำไม ไม่ได้ยินที่ถามหรือไง”“หนูไม่ได้เงียบค่ะ แค่ไม่รู้จะตอบอะไร”ไม่รู้ว่าฉันกำลังเป็นอะไรกันแน่ ทั้งที่ฉันกำลังโมโหเรื่องของทรายจนไม่มีกะจิตกะใจจะคิดอย่างอื่น ทว่าพอคิดถึงเรื่องที่เขาโมโหฉันเพราะไปว่าทราย จู่ๆ ก้อนสะอื้นก็จุกขึ้นมาที่ลำคอจนพูดไม่ออก ขอบตา
[Danica’s part]‘ฉันจะรอเปิดประตูก่อนเที่ยงคืน ถ้ามาช้ากว่านั้นโดนปรับสามหมื่น เข้าใจตรงกันนะ’คำพูดของเขาทำให้ฉันยืนหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ที่หน้าห้อง เพราะตอนนี้เวลาก็เที่ยงคืนสามสิบนาทีแล้ว ใครจะไปรู้ว่าจากคอนโดของเอแคลร์มาที่นี่จะใช้เวลานานขนาดนี้ แม้ว่าลุงคนขับจะเร่งให้แล้วเพราะกลัวแฟนฉัน (ในความคิดแก) โกรธ แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดีมะเหมียวดานิกา : มาถึงหน้าห้องแล้วนะคะฉันส่งข้อความไปบอกเขาร่วมห้านาทีแล้ว แต่พบว่าเขาอ่านแล้วไม่ตอบ ตอนนี้หัวใจฉันมันเต้นรัวเหมือนเด็กที่กลัวความผิด คิดไม่ออกเลยว่าถ้าเข้าไปแล้วจะโดนอะไรบ้างหรือว่าฉันจะหนีไปตอนนี้เลยดี“จะเปิดประตูแล้วนะ ปิดตาเอาไว้”เสียงชายหนุ่มดังมาจากข้างในห้องพร้อมกับลูกบิดที่ค่อยๆ ขยับอย่างช้าๆ คราวนี้ไม่ได้มีอะไรมาปิดตาฉันเอาไว้ ทว่าฉันกลับหลับตาตามคำสั่งของเขาอย่างไม่รีรอภายใต้ความมืดมีเสียงประตูถูกเปิดออกหลังจากที่ฉันได้หลับตาลง หลังจากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้จนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ลมหายใจของฉันเป่ารดบางสิ่งจนสะท้อนกลับมาที่ใบหน้าของตัวเอง บ่งบอกว่าเขาอยู่ใกล้มากๆ ใกล้จนฉันได้กลิ่นกายที่มีกลิ่นเหงื่ออยู่จางๆ และมีกลิ่นแ
[Navin’s part]‘แม่อยากให้ลูกของแม่มีความสุขที่สุด อย่าโกรธพ่อกับย่า แค่นั้น...วินทร์ทำให้แม่ได้ไหมลูก?’มันเป็นคำพูดสุดท้ายที่แม่ทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะจากผมไป แม่เป็นผู้หญิงที่หวังดีกับคนอื่นเสมอ แม้แต่คนที่ทำให้แม่ต้องเจ็บปวดหัวใจ แม่ก็ยังไม่โกรธพวกเขาเลยสักนิดเดียวผมยังคงคิดถึงวันเวลาที่เราต่างก็ร้องไห้ไปกับช่วงเวลาเลวร้ายในวาระสุดท้ายของชีวิตแม่ ผมลืมเรื่องนั้นไม่ได้ และไม่กล้าที่จะให้อภัยคนที่ทำร้ายพวกเราจนกระทั่งวันหนึ่ง ผมเจอหญิงสาวอีกคน หญิงสาวที่ทำให้ผมรู้ว่า นี่คือความรักแสนใจดีที่ผมต้องรักษามันเอาไว้ให้ดีที่สุดถึงแม่ที่อยู่บนสวรรค์แม่ครับ...ผมนาวินทร์ ลูกชายของแม่ ตอนนี้แม่สบายดีไหมครับ ที่ตรงนั้นคงจะเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ความคิดถึง และเสียงร้องไห้ของผมที่ส่งไปให้แม่ แต่วันนี้ลูกชายคนเล็กของแม่คนนี้ไม่ร้องไห้แล้วนะครับ ผมเป็นคนที่เข้มแข็งมากพอที่จะดูแลผู้หญิงที่ผมรัก และสามารถให้อภัยย่าได้แล้ววันนี้ผมพาดานิกามาหาย่าครับแม่ ผมเคยพาเธอไปไหว้หลุมศพแม่สองสามครั้ง แม่จำเธอได้ไหมครับ ดานิกาเป็นคนที่มีรอยยิ้มสดใส เธอเป็นแรงใจให้ผมได้ทุกครั้งที่ได้มอง ในวันนั้นที่แม่จากผมไป เธอ
เคยไหม ความรู้สึกที่รักเขา คิดถึงเขา เจอกันทุกวัน...แต่กลับไปรักกันไม่ได้แล้วฉันยังคงมาอยู่ที่หน้าห้องพักของแม่ จ้องมองประตูบานนั้นที่ฉันเคยเปิดเข้าไปเจอแม่อย่างทุกครั้ง ความทรงจำทั้งสุขและทุกข์ที่เราเคยผ่านด้วยกันมา ทำให้ฉันต้องหยุดมองทุกครั้งที่เดินผ่านมันเป็นเรื่องที่เจ็บปวด แต่ฉันก็ยังชอบที่จะมายืนจ้องหน้าห้องพักเดิมของแม่อยู่อย่างนี้และเหมือนว่าเขาจะรู้...พี่วินทร์สั่งปิดชั้นนี้ไม่ให้มีใครขึ้นมา และย้ายผู้ป่วยทั้งวอร์ดไปไว้ตึกใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ เพื่อไม่ให้ใครขึ้นมารบกวนฉันที่มักจะเหม่อถึงแม่...ฉันรู้ว่าเขารักและหวังดีกับฉันเสมอ แต่ว่านะ...เรากลับไปรักกันเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เราเดินสวนทางกัน เป็นฉันที่พยายามมองหน้าให้เขาจ้องตอบกลับมาแม้สักนิด แต่สุดท้ายเขาก็ยังทำเหมือนกับว่าฉันไม่มีตัวตนเขาไม่ได้บอก...แต่ฉันรู้ว่าเขากำลังพยายามทำให้ฉันไม่รู้สึกอึดอัดแต่ทั้งที่ฉันเป็นคนบอกเลิกเขาเองแท้ๆ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นฉันที่ยังโหยหา ยังคิดถึง แต่ก็ไม่สามารถที่จะเดินไปบอกเขาได้ตรงๆ“เอสเปรสโซ่ไม่หวานหนึ่งแก้วครับ”ฉันมักจะได้ยินอย่างนี้ในทุกเช้าเสมอ คุณหมอหนุ่มที่มักจะ
[Danica’s part]‘แม่คะ ทำไมแม่ถึงตั้งชื่อหนูว่าดานิกาเหรอคะ?’‘ดานิกา แปลว่าดวงดาวในรุ่งอรุณลูก หนูเป็นเด็กที่มีรอยยิ้มสดใส เหมือนกับดวงดาวที่เปล่งประกายในยามรุ่งเช้าไงลูก’‘งั้นหนูจะยิ้มทุกวันเลย ให้สมกับชื่อดานิกา ดีไหมคะ?’จบแล้วเหรอ...จบลงง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ...ทุกอย่างที่ฉันพยายามมา ความหวังที่ว่าสุดท้ายแล้วแม่จะหายดีและกลับไปอยู่กับฉันอย่างมีความสุขอีกครั้ง เราจะไปเที่ยวด้วยกัน มองฉันเป็นดีไซเนอร์มากฝีมืออย่างที่แม่ใฝ่ฝัน ทั้งการทำงานอย่างหนัก ต่อสู้กับคำพูดและสายตาของคนทั้งมหา’ลัย พาตัวเองขึ้นประมูลซิง ทุกอย่างมันจบลงแล้วใช่ไหมฉันเดินกลับเข้ามาในห้องที่ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างวิ่งกันจ้าละหวั่นเพื่อช่วยชีวิตของแม่ ทว่าสุดท้ายแล้วความตายก็ยังชนะความพยายามพวกนั้น พยาบาลคนสุดท้ายได้ออกไปจากห้องนี้แล้ว เหลือเพียงฉันและร่างที่แน่นิ่งของแม่ที่นอนอยู่บนเตียง“แม่คะ...”แม่มักจะยิ้มให้ฉัน บอกฉันว่าไม่เป็นไร ไม่ว่าฉันจะกลับมาดึกแค่ไหนแม่จะตื่นขึ้นมา ลูบใบหน้าที่เปื้อนเหงื่อแล้วบอกให้ฉันไปอาบน้ำ แต่วันนี้ภายในห้องนี้...เหลือเพียงความเย็นยะเยือก เงียบเหงา บรรยากาศอึมทึมจนฉันอยากจะร้องไห้ออกม
[Navin’s part]“คนไข้นอนทับสายน้ำเกลือค่ะ แล้วก็สายออกซิเจนหลุด เลยขาดอากาศหายใจไปช่วงหนึ่ง ตอนนี้พยายามปั๊มหัวใจแล้ว แต่อาการไม่ดีเลยค่ะท่านผอ.”พยาบาลที่ผมว่าจ้างมาดูแลแม่ของดาเอ่ยเสียงสั่นทำอะไรไม่ถูก ผมแน่ใจว่าเธอเป็นคนที่รอบคอบและทำงานดีมากคนหนึ่ง ไม่มีทางหรอกที่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้จะเกิดขึ้นได้แล้วผมก็คิดถึงคนที่โทรมาบอกดาเอแคลร์...“เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วมีใครเข้าออกห้องนี้บ้าง”“ก็...มีเพื่อนคุณดาค่ะ ที่ชื่อชิดภู มาตอนเย็นแล้วไม่เจอ ก็เลยฝากขนมกับน้ำไว้ให้”“แค่นั้นเหรอ มีใครอีก”ชิดภูไม่ทำหรอก ต่อให้มันจะปากหมาใจกล้าเกินคน แต่ก็จริงใจกับดาอยู่พอสมควร“เอ่อ...” พยาบาลทำท่านึก แต่นานจนผมร้อนใจทนไม่ไหวตวาดออกไปเสียงดัง“เร็วสิ ถามว่าใครอีก!”“มะ...มีผู้หญิงอีกคนค่ะ เข้ามาก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วโมงได้ ตอนนั้นดิฉันอยากเข้าห้องน้ำ เลยฝากคนไข้ไว้ค่ะ”ผมเปิดมือถือ เข้าไลน์ของย่าที่มักจะชอบส่งรูปต่างๆ มาให้ และในนั้นก็มีรูปของเอแคลร์ด้วย“คนนี้หรือเปล่า”“ชะ...ใช่ค่ะท่านผอ. คนนี้เลย ดิฉันจะมีความผิดอะไรหรือเปล่าคะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะที่ดูแลคนไข้ไม่ดีทำให้เกิดเรื่องแบ
“เจ๊!!!”“ยัยดา กรี๊ด!!!”ฉันกับเจ๊น้ำหวานเจอกันก็ไม่ต่างอะไรกับชะนีสองตัวที่วนเจอในกิ่งเดียวกัน เจ๊นี่ดีดสุดอะไรสุด ทิ้งเครื่องสำอางทิ้งทุกอย่างมากอดฉันอย่างไว เรากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งมีคนหวงดึงฉันออก“พอแล้ว จะกอดให้ละลายตัวติดกันไปเลยหรือไง”พี่วินทร์หน้างอคอหักตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว ก็มาเที่ยวผับทั้งทีฉันก็ต้องแต่งตัวให้มันเข้ากับสถานที่ เลยใส่เป็นกางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อครอปแขนกุด เขาเองมองฉันหัวจรดท้าตั้งแต่ออกมาจากห้องแต่งตัว แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร“แหมคุณหมอคะ อย่ามาทำเป็นหวงไปหน่อยเลย ทีเมื่อก่อนมาฝากไว้กับเจ๊ เจ๊ก็ดูแลให้อย่างดีเลยนะคะ”“เอามาฝากอะไรเหรอคะ?”เหมือนว่าฉันจะเจอเรื่องที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว พอเจ๊น้ำหวานพูดแบบนั้นฉันก็หันไปมองพี่วินทร์ด้วยความสงสัย“ก็แหม เมื่อก่อนคนที่บอกเจ๊ว่าให้ติดต่อน้องดาไปคือคุณหมอเนี่ยแหละ เขารักเขาหวงมาตั้งแต่แกจะรู้ว่าเขามีตัวตนด้วยซ้ำนะ คลั่งรักนะเนี่ย”“จริงเหรอคะ?”เรื่องที่ได้ยินยิ่งทำให้ฉันมองหน้าเขาหนักยิ่งกว่าเดิม มีเรื่องอะไรอีกบ้างนะของเขาที่ฉันยังไม่รู้ สำหรับผู้ชายคนนี้ในสายตาฉันเขาคือคุณหมอที่แสนจะเพอร์เฟค ไม่มีว
[Danica’s part]ช่วยด้วยค่ะ ตอนนี้พบคนแก่ไม่อยากไปทำงานหนึ่งอัตรา ตั้งแต่กลับมาจากสวนสนุกเมื่อวานเขาก็เอาแต่ขลุกอยู่ในห้อง เล่นมือถือบ้าง คอมฯบ้าง จนฉันทนความอึดอัดไม่ไหวต้องออกมาทำกับข้าวข้างนอกแต่ยังออกมาไม่ทันถึงสามนาที แครอทยังปอกไม่หมดด้วยซ้ำ ก็มีอ้อมกอดอุ่นเข้ามากอดจากทางด้านหลัง พร้อมทั้งคางแหลมๆ ของเขาวางลงที่หัวของฉัน“ทำอะไรครับเนี่ย”“ทำกับข้าวง้อคนค่ะ”ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่กำลังมองลงมาเช่นกัน แต่ไม่คิดว่าจะถูกคนตัวสูงขโมยจูบไปหนึ่งที“อื้อ...แกล้งหนูอะ”ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ชินกับการชอบสกินชิพของเขาแบบนี้สักที หน้ามันยังคงร้อนผะผ่าวทุกครั้งที่ถูกเขาจูบ เขาหอม เขา...พอแล้วๆ ไม่คิดแล้วดีกว่า“ง้อเรื่องอะไรครับ พี่ไม่ได้งอนหนูซะหน่อย”แล้วก็เรื่องที่เขาเรียกฉันว่า หนู ตั้งแต่กลับมาจากสวนสนุกก็ไม่ได้ยินชื่อฉันจากปากเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าซ้อมไว้เผื่อเรียกกิ๊กแบบไม่ให้ฉันจับได้หรือเปล่า“ไม่ได้งอนนะคะ แต่หน้างอเลย เป็นอะไรคะ หรืองอนเรื่องที่หนูไม่เปิดตัวกับเพื่อนเมื่อวันก่อน?”“รู้ทันอีก”ฉันรู้หรอกน่าว่าเขากำลังนอยด์เรื่องอะไร เลยเลือกจะทำอาหารง้อหลัง
[Eclair’s part]“กรี๊ด!!!! อีดา อีเวร อีเปรต มึงกล้าดียังไง กรี๊ด!!!!”“ไม่เอานะคะคุณหนู เจ็บเปล่าๆ พอเถอะค่ะ”“กูไม่สน ไปหาอะไรมาให้กูปา ไป๊!!!”ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลย ไม่มีเลยสักอย่าง ทำไมคนอย่างอีดาถึงได้ทุกอย่างที่ฉันอยากได้ มันก็เป็นแค่กะหรี่จนๆ ที่ไม่มีใครเอา ทำไมๆๆๆๆ“กรี๊ด!!!!”ถึงจะกรี๊ดจนแสบคอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด ตอนนี้ฉันอยากจะพุ่งไปกระชากหน้ากากตอแหลของนังนั่นออกมาให้รู้แล้วรู้รอด แฟนอย่างนั้นเหรอ มันคิดว่ามันมีสิทธิ์อะไรฉันเอาความโกรธทั้งหมดระบายไปกับข้าวของที่มันเคยให้มา มีแต่ของขยะ ของทำมืออะไรกัน ไม่มีค่าเลยสักนิด ดูแต่ละอย่างที่ฉันให้มันสิ เครื่องประดับราคาแพง น้ำหอมแบรนด์หรู แล้วมันล่ะให้อะไรฉันบ้างนอกจากเกาะฉันไปวันๆ“เกิดอะไรขึ้นน้องแคลร์ ทำไมทำลายข้าวของอย่างนี้ลูก”คนที่เปิดประตูเข้ามาก็คือแม่ แต่ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะทำตัวเป็นลูกสาวที่แสนดีอะไรหรอก ตอนนี้ฉันอยากจะร้องไห้ พี่หมอเป็นของฉัน แต่ทำไมถึงกลายเป็นนังดาที่ได้เขาไป“น้องแคลร์...”“ไหนแม่บอกว่าหนูจะได้แต่งงานกับพี่วินทร์ไงคะ แล้วทำไมปล่อยให้นังผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้านั่นมาเกาะแกะพี
“เราเล่นอะไรก่อนดีคะ หนูไม่เคยเล่นนะแต่ว่าอันนี้คนต่อแถวเยอะมากเลย”ฉันชี้ไปยังเครื่องเล่นไวกิ้งที่ตั้งอยู่ทางซ้ายมือของสวนสนุก มันกำลังเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาและมีเสียงกรี๊ดดังมาเป็นระยะ ฟังแล้วน่ากลัวจนฉันไม่อยากจะขึ้นเล่นมันแล้ว“ไม่เอาแล้วดีกว่าค่ะ เราไปเล่นอะไรที่ไม่ตื่นเต้นเถอะ”“มาสวนสนุกแต่ไม่เล่นอะไรที่มันตื่นเต้น จะเรียกว่ามาสวนสนุกได้ไง”“ไม่เอาค่ะ หนูไม่เล่น กรี๊ดดดดดด”ฉันถูกเขาลากเข้าเครื่องเล่นนั้นเครื่องเล่นนี้ตามใจจนกรี๊ดเจ็บคอไปหมด รู้งี้ฉันขอเขาแลกเงินเองตั้งแต่ทีแรกดีกว่า เพราะเขามีบัตรอยู่ในมือเยอะเกินไปจนเล่นไม่หมด มันเลยเป็นเวรกรรมตกมาถึงฉัน“แฮ่กๆ พอแล้วนะคะ หนูไม่เล่นแล้ว หัวใจจะวาย”ฉันวิ่งลงมาจากเครื่องเล่นแล้วหายใจหอบด้วยความเหนื่อย นอกจากจะเหนื่อยจากการเล่นเครื่องเล่นแล้วฉันยังเหนื่อยจากการกรี๊ดด้วย แค่การเล่นเครื่องเล่นไม่กี่ชิ้นมันทำให้ฉันเปลืองพลังงานอย่างหนักหน่วง ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะน้ำตาลตก หน้ามืด จะเป็นลมส่วนคนที่พาฉันขึ้นไปเล่นนั้นแค่เดินล้วงกระเป๋าเข้ามาพลางหัวเราะกับท่าทางของฉัน“ฮ่าๆๆ แค่นี้ก็ร่วงแล้วเหรอ?”“พี่อย่ามาหัวเราะนะ หนูจะอ้วก...แหวะ”อาห
[Danica’s part]“เล่าได้ไหมว่าทำไมพี่วินทร์ถึงเลิกเป็นหมอ”ในเมื่อชิดภูบังคับให้ฉันต้องกลับมาเรียน ฉันเองก็จะใช้เขานี่แหละเป็นฐานข้อมูลใหญ่ ช่วงนี้ฉันคิดมากเรื่องที่เขาพูดมาวันนั้น เพราะฉะนั้นเขาต้องรับผิดชอบ“จะอยากรู้ไปทำไม ไหนบอกคบกัน ก็ไปถามเฮียเองดิ”“จะเล่าไหม ไม่เล่าฉันกลับ”ฉันทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนี้จริงๆ จนเข้าต้องลุกขึ้นมาดึงฉันกลับที่เดิม“อะๆๆๆ เล่าก็เล่า แต่อย่าไปหาถามเฮียนะ เรื่องนี้ความลับของตระกูล เหยียบเอาไว้เลย”“ถ้านายเล่าให้ฉันฟังก็ไม่เป็นความลับแล้วสิ”“งั้นไม่ฟัง?”“ฟัง!!!”เพราะความรั้นของฉันและความคันปากของเขา ทำให้ชิดภูเริ่มเล่าเรื่องของพี่ชายตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ ฉันฟังเขานานมากๆ จับใจความได้ว่าเมื่อก่อนแม่ของทั้งสามแฝดแต่งงานเข้ามาโดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากย่า เนื่องจากพ่อของพวกเขามีคู่หมั้นที่ทางบ้านหาให้อยู่แล้ว แต่ด้วยความรักทั้งคู่เลยตัดสินใจแต่งงานและหนีไปด้วยกัน ทำให้ย่าโกรธมากๆหลังจากนั้นไม่กี่ปี ทั้งสองคนก็กลับมาบ้านพร้อมลูกแฝดสาม ทำให้ย่าเริ่มคลายความโกรธลงบ้างเพราะทั้งรักทั้งหลงหลาน แต่ความโกรธเกลียดนั้นก็ไม่ได้หายไป“เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้