แชร์

อดห่วงไม่ได้

ผู้เขียน: อิ่น เยว่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-29 16:08:44

“ขอบคุณนะคะ” เธอพูดเสียงแผ่วเบา

ฉินป๋อหลินคลี่ยิ้มอ่อน ๆ ให้ “ไม่เป็นไร พักผ่อนเยอะ ๆ นะ”

เขาเฝ้าดูแลเหว่ยเฟิงจนเธอหลับไป พอเห็นว่าหญิงสาวไข้ลดแล้ว ชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ เขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร แต่รู้ว่าเขาไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไปว่าเขาอาจจะกำลังมีใจให้กับเหว่ยเฟิง

หลังจากวันที่เหว่ยเฟิงหายป่วย ฉินป๋อหลินก็พบว่าตัวเองอดไม่ได้ที่จะคอยแอบมองเธออยู่ห่าง ๆ เขาแอบเฝ้ามองเธอทำงาน เฝ้ามองเธอหัวเราะ เฝ้ามองเธอขมวดคิ้วเมื่อพบเจอปัญหา

วันหนึ่ง ขณะที่หญิงสาวกำลังง่วนอยู่กับงานจนลืมเวลา ฉินป๋อหลินสังเกตเห็นว่าแก้มของเธอเริ่มแดงระเรื่อ หน้าผากมีเหงื่อซึมเล็กน้อย เขาจึงตัดสินใจเดินไปหยิบขวดน้ำเย็นจากตู้แล้วเดินไปหาเธออย่างเงียบ ๆ

“นี่ครับ” เขาพูดเสียงเบาพลางยื่นขวดน้ำให้

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มออกมาบาง ๆ

“ขอบคุณค่ะ” เธอรับขวดน้ำจากเขา แล้วเปิดดื่มทันที

เหว่ยเฟิงเองก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในท่าทีของฉินป๋อหลิน จากที่เคยหาเรื่องชวนทะเลาะ หรือแกล้งต่อว่าเธอเรื่องงานอยู่เสมอ บัดนี้กลับกลายเป็นความเอาใจใส่ที่เธ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   อาหารเย็น

    เช้าวันต่อมา เหว่ยเฟิงตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า เธอพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ก็ไม่อาจสลัดความคิดเกี่ยวกับฉินป๋อหลินออกไปได้ เธอเริ่มสังเกตเห็นท่าทีของเขาที่มีต่อเธอมากขึ้น และยิ่งทำให้เธอสับสนมากขึ้นไปอีกเหว่ยเฟิงรู้ว่าเธอต้องหาคำตอบให้กับความรู้สึกของตัวเอง ได้แต่หวังว่าเวลาจะช่วยให้เธอเข้าใจความรู้สึกพวกนี้มากขึ้นหวังว่า คงจะมีความสุขในสักวัน...แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องเข้ามาทางหน้าต่าง สาดส่องไปทั่วเคาน์เตอร์ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบสดใหม่ เหว่ยเฟิงในชุดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อน กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเย็น กลิ่นหอมของเครื่องเทศลอยฟุ้งไปทั่วห้อง บ่งบอกถึงความตั้งใจและความรักที่เธอใส่ลงไปในทุกขั้นตอนวันนี้เหว่ยเฟิงตั้งใจจะทำอาหารจานโปรดของฉินป๋อหลิน อย่าง 'เป็ดพริกไทยดำ' ซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะของตระกูลเหว่ย ที่ใครกินบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หอม นุ่มลิ้น ไม่มีกลิ่นคาว และไม่ได้แม้แต่กลิ่นเหม็นสาบเหว่ยเฟิงจำได้ว่าครั้งหนึ่ง หวังซู่หลินเคยพูดให้ฟังว่านี่คืออาหารที่ลูกชายของเธอโปรดปรานที่สุด เหว่ยเฟิงจึงอยากจะใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อเขา แม้จะเป็นเพียงการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ทลายกำแพง

    ทุกเย็น ทั้งคู่จะนั่งทานอาหารด้วยกันบนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ด้วยกันทุกวัน คล้ายกับว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ อีกทั้งบรรยากาศที่เคยเย็นชาเริ่มอบอุ่นขึ้นทีละน้อย ฉินป๋อหลินเริ่มเปิดใจคุยกับเหว่ยเฟิงมากขึ้น เขาเล่าเรื่องการทำงานให้เธอฟัง ถามไถ่ถึงความเป็นไปในไร่องุ่น และบางครั้งก็แชร์เรื่องราวของเขาให้เธอฟังบ้าง ซึ่งตรงนี้เขาไม่เคยเอ่ยปากพูดกับใครมาก่อน อย่างพ่อแม่เขาก็ไม่เคยเล่าเรื่องราวในที่ชีวิตในต่างประเทศให้ท่านฟังเหว่ยเฟิงรับฟังเขาอย่างตั้งใจ เธอพยายามทำความเข้าใจในตัวเขา และมองเห็นความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีแข็งกร้าว เธอรู้ว่าเขาแบกรับความกดดันไว้มากมาย ทั้งจากธุรกิจของครอบครัว และจากความคาดหวังของคนรอบข้างยิ่งใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นเท่าไหร่ ฉินป๋อหลินก็ยิ่งมองเห็นความดีและความจริงใจของเหว่ยเฟิงมากขึ้นเท่านั้น เขาเริ่มรู้สึกขอบคุณเธอที่คอยอยู่เคียงข้างเขา คอยดูแลเขา และคอยทำให้เขายิ้มได้วันหนึ่ง ขณะที่ทั้งคู่นั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน ฉินป๋อหลินเงยหน้าขึ้นมองเหว่ยเฟิงด้วยแววตาอ่อนแสง“ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกอย่าง” เขาพูดเสียงเบาเหว่ยเฟิงยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเต็มใจทำให้คุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ฝ่าฟันอันตราย 1/2

    และแล้วไร่องุ่นที่มีข่าวว่าถูกวางยาพิษก็แพร่กระจายไปทั่วบริเวณราวกับไฟลามทุ่ง ฉินป๋อหลินยืนมองต้นองุ่นที่เคยเขียวขจี กลับเหี่ยวเฉาและแห้งตายเป็นจำนวนมาก“ใครกันที่ทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้!” ชายคำรามเสียงดัง ความเครียดและความกดดันถาโถมเข้าใส่อย่างหนัก หยางกวงไม่ใช่แค่ธุรกิจของครอบครัว แต่มันคือทั้งชีวิตของพ่อ เขาไม่สามารถปล่อยให้ใครมาทำลายมันได้ทางด้านเหว่ยเฟิงก็รีบวิ่งมาหาฉินป๋อหลินทันที เมื่อได้ยินข่าวการวางยาในไร่องุ่น เธอเห็นใบหน้าซีดเผือดของเขา และรับรู้ได้ถึงความทุกข์ในใจของเขาเช่นกัน“ป๋อหลิน” เธอเอ่ยเรียกเขาเบา ๆ พร้อมกับวางมือบนไหล่หนา “ใจเย็น ๆ นะคะ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”ฉินป๋อหลินหันมามองเธอ ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธและความสิ้นหวัง“ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายไร่องุ่นของเรา ผมจะต้องหาตัวคนร้ายให้ได้”เหว่ยเฟิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ค่ะ ฉันจะช่วยคุณเอง เราจะร่วมมือกันหาทางแก้ไขปัญหาครั้งนี้ผ่านไปให้ได้นะคะ”“ขอบคุณนะ เหว่ยเฟิง” ฉินป๋อหลินพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาหลังจากเหว่ยเฟิงแยกจากสามี หญิงสาวก็เริ่มต้นการสืบสวนด้วยการตรวจสอบอย่างละเอียดในไร่องุ่น เธอใช้ความรู้ด้านพืชผลแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ฝ่าฟันอันตราย 2/2

    ในที่สุดเขาก็พบเธอ เธอทรุดตัวลงอยู่ที่มุมห้อง สภาพอ่อนแรงและสำลักควันไฟ“เหว่ยเฟิง เธอได้ยินฉันไหม”ป๋อหลินโอบอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพาเธอวิ่งฝ่าเปลวเพลิงออกมาทันทีที่ออกมาจากโกดัง ป๋อหลินก็เห็นหย่าจือและคนงานกำลังวิ่งหนีไป เขาตะโกนเรียกให้พวกเขาหยุด แต่คนพวกนั้นกลับวิ่งเร็วขึ้น“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ป๋อหลินตะโกนลั่น พร้อมให้คนงานทั้งหมดตามจับสองคนนั้นกลับมาฉินป๋อหลินหันกลับมามองเหว่ยเฟิงที่นอนหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาขอบคุณสวรรค์ที่ช่วยให้เธอปลอดภัย เขาจะไม่มีวันยกโทษให้ตัวเองถ้าเขาหากว่าเธอตายจากไปหย่าจือและคนงานถูกจับได้ในที่สุด พวกเขาพยายามปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ป๋อหลินไม่หลงกล เขาเปิดเผยหลักฐานทั้งหมดที่เหว่ยเฟิงรวบรวมได้ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้หย่าจือหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นหลักฐาน เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถหนีความผิดไปได้อีกต่อไป จึงต้องยอมจำนนต่อสิ่งที่มัดตัวทั้งหมด“จับพวกมันไป!” ป๋อหลินสั่งเสียงเย็นชาหย่าจือและคนงานถูกนำตัวไปสถานีตำรวจ พวกเขาทั้งหมดจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย และไร่องุ่นของคู่แข่งก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในไร่องุ่นหยางกวงทั้งหมดเปลวเพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   เงาอดีต

    วันหนึ่ง ขณะที่ป๋อหลินกำลังตรวจดูผลผลิตในไร่องุ่น ร่างบอบบางหนึ่งที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าคนคนนั้นคือม่านชิงชิง อดีตคนรักที่ทิ้งเขาไปอย่างไร้เยื่อใยเมื่อหลายปีก่อนม่านชิงชิงยังคงสวยสง่าราวกับภาพวาด เธอสวมชุดเดรสสีขาวที่พลิ้วไหวไปตามสายลม ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นอย่างหลวม ๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามหมดจด ดวงตากลมโตยังคงเป็นประกายสดใส แต่แฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยบางอย่าง“หลินหลิน” เธอเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาป๋อหลินรู้สึกเหมือนเวลาหยุดนิ่ง เขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบเธออีกครั้ง“ชิงชิง” เขาตอบรับเสียงแหบพร่า “คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”ม่านชิงชิงเดินเข้ามาใกล้ “ฉันมาเพื่อขอโทษคุณ สำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต”ป๋อหลินมองเธออย่างไม่เข้าใจ “ทำไมคุณถึงมาขอโทษผมเอาตอนนี้?”“ฉันรู้ว่ามันสายเกินไป” ม่านชิงชิงก้มหน้าลง “แต่ฉันอยากให้คุณรู้ว่า ฉันเสียใจจริง ๆ นะ หลินหลิน”ฉินป๋อหลินไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี เขาเคยโกรธเธอที่ทิ้งเขาไป แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังคงฝันถึงเธออยู่บ่อย ๆ“ไม่หรอก ผมขอไม่เชื่อในสิ่งพูดเหรอ” ฉินป๋อหลินคล้ายกับพูดกับตัวเอง “ผมขอตัวก่อนนะ”“ยังไงคุณก็หนีฉันไปไหนไม่ได้หรอก ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   พายุเริ่มก่อตัว

    เวลาผ่านไปเกือบปี นับตั้งแต่วันที่เขาแต่งงานกับเหว่ยเฟิง ฉินป๋อหลินได้ใช้เวลากับเหว่ยเฟิงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้เห็นด้านต่าง ๆ ของเธอที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเหว่ยเฟิงไม่ใช่แค่หญิงสาวที่ฉลาดและมีไหวพริบ เธอเป็นคนจริงใจ ตรงไปตรงมา และมีความเข้มแข็งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางอ่อนโยนยิ่งเขาได้รู้จักเธอมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้เธอ เหว่ยเฟิงเป็นคนที่หัวแข็งก็จริงแต่เธอเป็นคนว่าง่าย ไม่เคยเรียกร้องความสนใจจากเขา ไม่งี่เง่าโดยไร้เหตุผล และนั่นทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่กับเธอ“ผมมีความสุขที่สุดเลย”แสงจันทร์สาดผ่านม่านโปร่งบางเข้ามาในห้องนอน สาดส่องผิวเนื้อเปลือยเปล่าของฉินป๋อหลินและเหว่ยเฟิงที่กำลังนอนกอดกันกลมบนเตียงกว้าง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่และไออุ่นจากร่างกายของทั้งคู่ผสมผสานกันจนอบอวลไปทั่วทั้งห้อง“ฉันก็รู้สึกมีความสุขอย่างที่คุณกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้ค่ะ”เหว่ยเฟิงซบหน้าลงบนแผ่นอกกว้างของฉินป๋อหลิน ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มือเรียวลูบไล้แผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาอย่างแผ่วเบาฉินป๋อหลินกระชับอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   หยามเกียรติ

    พอสองสามีภรรยาพยุงฉินหลงเจ๋อเข้าบ้านก็เห็นว่าหวังซู่หลินกำลังนั่งพูดคุยกับแขกสาวอย่างเป็นกันเองเหว่ยเฟิงเองมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธออดกังวลไม่ได้ว่าการมาของม่านชิงชิงรอบนี้จะนำพาปัญหาอะไรมาสู่ไร่องุ่นแห่งนี้บ้างและความกังวลของเหว่ยเฟิงก็เป็นจริงอย่างรวดเร็ว เมื่อม่านชิงชิงเริ่มแสดงธาตุแท้ออกมาทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในไร่องุ่นในเวลาแค่ไม่กี่วัน โดยที่เธอทำตัวราวกับเป็นเจ้าของที่แห่งนี้ สั่งคนงานไปทั่วราวกับเป็นนางพญา และที่ร้ายไปกว่านั้น เธอผูกมิตรกับแม่ของฉินป๋อหลินอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งสองร่วมมือกันกลั่นแกล้งเหว่ยเฟิงสารพัด หากหญิงสาวก็ไม่ได้ปริปากบ่นหรือเล่าให้ฉินป๋อหลินฟัง เพราะแค่งานในไร่ก็ปวดหัวมากพอแล้ว เธอจึงพยายามเก็บความรู้สึกอึดอัดเอาไว้ในใจเฮ้อ ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหนวันหนึ่ง ขณะที่เหว่ยเฟิงกำลังเก็บองุ่นอยู่ ม่านชิงชิงก็เดินเข้ามาพร้อมกับแม่ของฉินป๋อหลิน“นี่เธอ ทำงานให้มันดี ๆ หน่อยสิ เก็บองุ่นแบบนี้เดี๋ยวก็ทำองุ่นเสียหายหมดหรอก” ม่านชิงชิงพูดเสียงดัง ทำให้คนงานคนอื่น ๆ หันมามองเหว่ยเฟิงรู้สึกโกรธ แต่พยายามข่มอารมณ์ไว้ “ฉันทำอย่างระมัดระวั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   คำสัญญาที่ว่างเปล่า

    บ้านพักคนงานที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากคฤหาสน์ตระกูลฉินราวกับเป็นโลกคนละใบ กลายเป็นที่พักพิงใจของเหว่ยเฟิงในยามนี้ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ตลอดทาง พรั่งพรูออกมาทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในห้องเล็ก ๆ ที่คุ้นเคย เสียงสะอื้นของเธอทำให้เหว่ยเซินที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงสะดุ้ง“เฟิงเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นลูก?” เหว่ยเซินรีบซ่อนขวดยาที่อยู่ในมือลงใต้เตียงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นไปประคองลูกสาวที่กำลังร้องไห้โฮเหว่ยเฟิงโผเข้ากอดบิดาแน่น ราวกับเด็กน้อยที่ต้องการหาที่ปลอดภัยเธอเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนเช้าให้พ่อฟัง เสียงสะอื้นของเธอทำให้เหว่ยเซินรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย เขาไม่เคยเห็นลูกสาวอ่อนแอเช่นนี้มาก่อน“ไม่เป็นไรนะลูก พ่ออยู่ตรงนี้” เหว่ยเซินลูบผมลูกสาวแผ่วเบา พยายามปลอบโยนเธอด้วยคำพูดที่อบอุ่น“หนูไม่อยากกลับไปที่นั่นอีกแล้วค่ะพ่อ” เหว่ยเฟิงพูดเสียงสั่นเครือเหว่ยเซินถอนหายใจ เขาเข้าใจความรู้สึกของลูกสาวดีว่าคนในตระกูลฉินนั้นไม่ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับลูกสาวของเขา“เฟิงเอ๋อร์ พ่อรู้ว่ามันยากสำหรับลูก แต่ลูกต้องเข้มแข็งไว้นะ” เหว่ยเซินพูดอย่างหนัก“พ่อจะอยู่ข้าง ๆ ลูกเสมอนะ” เหว่ยเซินยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29

บทล่าสุด

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ฉันก็รักคุณค่ะ

    “คืนนี้เป็นของเรา” ป๋อหลินพูดเบา ๆ ขณะที่เขากอดเธอไว้แน่นเสียงหัวใจของทั้งคู่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน เสียงกระซิบและเสียงหัวเราะเบา ๆ ก่อเกิดเป็นบทเพลงแห่งความรักที่พวกเขาร่วมบรรเลงอย่างสมบูรณ์ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความรักและความสุข ลืมความทุกข์โศกและความสูญเสียในอดีต เหลือเพียงความรักที่แท้จริงและความผูกพันที่ไม่มีวันจางหายเช้าวันหนึ่ง เหว่ยเฟิงรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยสบายตัวนัก เธอมีอาการคลื่นไส้และเวียนศีรษะเล็กน้อย ตอนแรกเธอคิดว่าอาจเป็นเพราะทำงานหนักเกินไป แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปหาหมอในเมืองเมื่อผลตรวจออกมา เหว่ยเฟิงแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เธอตั้งครรภ์! ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในใจ ทั้งความดีใจ ความตื่นเต้น และความกังวลเล็ก ๆ เธอจะบอกข่าวดีนี้กับฉินป๋อหลินอย่างไรดีนะ?เขาจะตื่นเต้นดีใจกับข่าวดีนี้หรือเปล่าและทันทีที่กลับถึงบ้าน เหว่ยเฟิงก็ตรงไปหาฉินป๋อหลินที่กำลังจัดการเอกสารอยู่ในห้องทำงาน“ป๋อหลินคะ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณค่ะ” เหว่ยเฟิงพูดเสียงแผ่วฉินป๋อหลินเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยความเป็นห่วง “มีอะไรหรือ เฟิงเอ๋อร์? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”เหว่ยเฟิงสูดหายใจเ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   แสงสว่าง

    และมาวันนี้ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาถึง ในที่สุดฉินหลงเจ๋อก็จากไปอย่างสงบจากโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย แม้ความโศกเศร้าจะเกาะกุมหัวใจ ฉินป๋อหลินและเหว่ยเฟิงก็พยายามยิ้มให้กันพวกเขาเข้าใจดีว่าตอนนี้ฉินหลงเจ๋อจากไปอย่างสงบ ปราศจากความเจ็บปวดทรมาน และที่สำคัญที่สุด ท่านจากไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข“พ่อคงไม่อยากเห็นพวกเราเศร้านักหรอกค่ะ” เหว่ยเฟิงเอ่ยเสียงแผ่ว ปลอบประโลมฉินป๋อหลินที่ยังคงมีน้ำตาคลอหน่วยฉินป๋อหลินพยักหน้ารับ “ใช่แล้วเฟิงเอ๋อร์ พ่อคงอยากให้พวกเรามีความสุข”หลังจากนั้นฉินป๋อหลินก็รับช่วงต่อธุรกิจไร่องุ่นหยางกวงแทนบิดาอย่างเต็มตัว เขาและเหว่ยเฟิงก็ช่วยกันทำงานร่วมกันอย่างมุ่งมั่นและขยันขันแข็งวันเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า ไร่องุ่นที่เคยเจอปัญหาและความท้าทายกลับเริ่มเติบโตและประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นด้วยความร่วมมือของสองสามีภรรยา ทำให้พวกเขากลายเป็นคู่รักที่แข็งแกร่ง ทั้งในเรื่องงานและชีวิตครอบครัวยามเช้าในไร่องุ่นเต็มไปด้วยความสดชื่น แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านใบไม้เขียวขจี เหว่ยเฟิงและฉินป๋อหลินเดินเคียงข้างกันท่ามกลางแปลงองุ่นที่กำลังสุกงอม มือของทั้งสองจับกันไว้แน่น สายลมเบา ๆ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ให้อภัย

    เมื่อเหว่ยเฟิงและฉินป๋อหลินเดินทางมาถึงโรงพยาบาลจิตเวช ภาพของม่านชิงชิงที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เธอแทบจำไม่ได้ หญิงสาวที่เคยงดงามและเย่อหยิ่ง บัดนี้เหลือเพียงร่างกายที่ผ่ายผอมและดวงตาที่ว่างเปล่าหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเหว่ยเฟิงกับฉินป๋อหลินอย่างเลื่อนลอย ไม่มีวี่แววของความเกลียดชังหรือความอาฆาตใด ๆ หลงเหลืออยู่“เธอจำฉันได้หรือไม่” เหว่ยเฟิงเอ่ยถามเสียงเบาม่านชิงชิงส่ายหน้าช้า ๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม “ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ ฉันจำอะไรไม่ได้จริง ๆ”เหว่ยเฟิงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเวทนา นี่คือผลลัพธ์ของความแค้นที่ม่านชิงชิงเคยปลูกฝังไว้ในใจ“ม่านชิงชิง ฉันให้อภัยเธอ” เหว่ยเฟิงเอ่ยออกมาจากใจม่านชิงชิงมองเหว่ยเฟิงด้วยความประหลาดใจ เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำเหล่านี้จากปากของใครสักคน“ขอบคุณ” ม่านชิงชิงกระซิบ ถึงแม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่เหว่ยเฟิงพูดก็ตามที“ฉันสงสารม่านชิงชิงจังค่ะ ป๋อหลิน ถึงเธอจะเคยทำร้ายฉันยังไง ฉันก็ไม่เคยโกรธเธอเลย” เหว่ยเฟิงเอ่ยกับสามี ระหว่างเดินทางกลับบ้านด้วยกัน“ทุกอย่างมันเกิดจากการกระทำของเธอเอง ไม่มีใครทำเธอเลย”“นั่นสิคะ”การไปเยี่ยมม่านชิงชิงครั้งนี้ทำให้เหว่ยเฟิงได้เรียนรู้

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   กรรมตามสนอง

    ข่าวการจับกุมชายฉกรรจ์ที่บ้านพักท้ายไร่แพร่กระจายไปทั่วเมืองต้าหลี่อย่างรวดเร็ว การสอบปากคำของพวกเขาชี้ชัดไปที่ม่านชิงชิงในฐานะผู้บงการอยู่เบื้องหลังการพยายามลักพาตัวและทำร้ายเหว่ยเฟิง ตำรวจไม่รอช้าออกหมายจับเธอทันทีขณะเดียวกันตำรวจก็มาแจ้งกับฉินป๋อหลิน ถึงการตามตัวหาม่านชิงชิงตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์แล้ว ก็พบว่าบ้านหลังนั้นถูกธนาคารยึดทรัพย์ และถูกศาลฟ้องล้มละลายพอทุกคนได้ฟังเช่นนั้นก็ตกใจเช่นกัน พร้อมกับปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดหวังซู่หลินเองที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ได้ฟังที่ตำรวจแจ้งก็ร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ ไม่คิดเลยว่าม่านชิงชิงจะหลอกลวงนางได้ในวันเดียวกันนั้น ม่านชิง ๆ ก็ได้ข่าวว่าตำรวจจะนำกำลังมาจับกุม ม่านชิงชิงรู้ตัวทันทีว่าเธอไม่มีทางหนีรอดจากเรื่องนี้ได้อีกต่อไป เธอรู้ว่าไม่สามารถปฏิเสธความผิดที่ตัวเองก่อไว้ได้ ทุกอย่างกำลังพังทลายลงตรงหน้าในห้องที่เงียบงัน ม่านชิงชิงทำการเก็บข้าวของเท่าที่จำเป็นอย่างลวก ๆ ตอนนี้เธอไม่มีเวลามากนัก เพราะตำรวจอาจมาถึงตัวเธอได้ทุกเมื่อ“ฉันจะทำยังไงดี... ฉันจะหนีไปไหนได้บ้าง?” ม่านชิงชิงพึมพำกับตัวเองเสียงสั่น ขณะเร่งก้าวเด

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   เมื่อแผนการล้มเหลว

    เหว่ยเฟิงมาถึงบ้านพักท้ายไร่ตามที่ม่านชิงชิงนัดหมายโดยบอกว่าจะขอปรับความเข้าใจ เพราะเธอนั้นจะขอยอมแพ้กับรักครั้งนี้แล้ว ทั้งเจ้าตัวยังบอกอีกว่าจะยอมถอยกลับไปปักกิ่งตอนแรกเหว่ยเฟิงมีความลังเลว่าจะไปตามที่ม่านชิงชิงเอ่ยปากร้องขอดีหรือไม่ แต่ในที่สุดเธอก็ตกลงที่จะไปตามนัดด้วยอยากไปเคลียร์ใจกันให้จบเช่นนั้นเหว่ยเฟิงจึงเดินเข้าไปในบ้านพักท้ายไร่เพียงลำพัง“ม่านชิงชิง ฉันมาแล้ว”แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากภายใน เหว่ยเฟิงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอตัดสินใจผลักประตูเข้าไปช้า ๆภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้เธอแทบหยุดหายใจ ชายฉกรรจ์ร่างกำยำหลายคนยืนออกันอยู่กลางห้อง พวกเขาทั้งหมดจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย“นี่มันอะไรกัน!?” เหว่ยเฟิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เธอพยายามตั้งสติ ถอยหลังไปช้า ๆ แต่ก็สายเกินไป ชายฉกรรจ์คนหนึ่งพุ่งเข้ามาจับตัวเธอไว้แน่น“ปล่อยฉันนะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน!” เหว่ยเฟิงดิ้นรนสุดแรง แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของชายฉกรรจ์ได้ เธอรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่กำลังกัดกินหัวใจ เธอตะโกนสุดเสียง“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!”ทว่าเสียงของหญิงสาวจมหายไปในความเงียบงันของบ้านพักท้ายไร่ท

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   กำจัดเหว่ยเฟิงด้วยกัน

    “ม่านชิงชิง พอได้แล้ว!” ฉินป๋อหลินที่เดินเข้ามาในห้องของหญิงสาวพูดเสียงเข้ม “ผมรู้นะว่าคุณกำลังคิดจะทำอะไรโง่ ๆ ผมจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายเหว่ยเฟิงอีกแล้ว”ม่านชิงชิงหน้าถอดสี เธอไม่คิดว่าฉินป๋อหลินจะรู้ทันแผนการของเธอ เธอพยายามแก้ตัว “คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่...”“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” ฉินป๋อหลินขัดจังหวะ “ผมรู้จักคุณดีพอ ม่านชิงชิง ผมเคยหลงเชื่อคำพูดของคุณ แต่ตอนนี้ผมตาสว่างแล้ว ผมจะไม่ยอมให้คุณมาทำลายความสุขของผมกับเหว่ยเฟิงอีก”ม่านชิงชิงกำมือแน่นด้วยความโกรธและผิดหวัง เธอไม่คิดว่าฉินป๋อหลินจะปกป้องเหว่ยเฟิงขนาดนี้ เธอรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังพังทลายลงต่อหน้าต่อตา“แล้วคุณจะเสียใจ” เธอพูดเสียงสั่น “เหว่ยเฟิงจะต้องหายไปจากที่นี่...”“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ฉินป๋อหลินตวาดเสียงดังคำพูดของฉินป๋อหลินเหมือนคมมีดกรีดลึกเข้าไปในใจของม่านชิงชิง เธอรู้สึกหวาดกลัวเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องสู้เพื่ออนาคตของตัวเอง ม่านชิงชิงจึงรีบหันหลังวิ่งหนีไป ทิ้งให้ฉินป๋อหลินยืนอยู่คนเดียวฉินป๋อหลินรู้ดีว่าสิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการกลับไปพูดกับแม่อย่างจริงจัง เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าเขาจะไม่ยอมให้ม่านชิงชิงอยู่ในบ้านน

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   เสแสร้ง

    ฉินหลงเจ๋อยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เขาดีใจที่ได้เห็นเธออีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน“พ่อดีใจที่ลูกกลับมา ไม่ว่าใครหน้าไหนจะพูดอะไรก็ตาม แต่เธอเป็นลูกสะใภ้คนเดียวที่พ่อยอมรับ” เขาพูดเสียงสั่นเครือเหว่ยเฟิงได้ยินประโยคของท่านแล้วก็ก้มลงจูบมือที่เหี่ยวย่นจนเหลือแต่กระดูก “พ่อไม่ต้องคิดเรื่องของเราสองคนนะคะ หนูจะอยู่ดูแลพ่อที่นี่เองค่ะ”ในเวลานั้น เหว่ยเฟิงไม่สนใจว่าใครในไร่จะคิดอย่างไรกับเธอ เธอรู้แค่ว่าเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยฉินหลงเจ๋อ พ่อสามีที่เธอรักและเคารพ เธอจะอยู่เคียงข้างเขาจนถึงวินาทีสุดท้าย แม้ว่ามันจะหมายถึงการต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและความไม่แน่นอนในอนาคตก็ตามฉินป๋อหลินที่เห็นบิดามีเหว่ยเฟิงคอยดูแล ชายหนุ่มจึงได้เดินย้อนกลับไปที่ห้องครัวเพื่อสั่งงานคนรับใช้เกี่ยวกับเรื่องอาหารของบิดาที่จะนำมาเสิร์ฟให้ท่าน ส่วนเหว่ยเฟิงนั้นอาสาดูแลเช็ดตัวให้พ่อสามี ในขณะที่เหว่ยเฟิงเปิดประตูห้องเพื่อออกมาเตรียมของใช้นั่นเอง หวังซู่หลินที่ยืนรออยู่หน้าห้องก็จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังราวกับจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้หวังซู่หลินรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง คนที่เ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   หวนกลับไปที่เดิม

    ภายในคฤหาสน์ตระกูลฉินอันโอ่อ่า ทุกอย่างดูสงบสุขจากภายนอก แต่ภายในนั้น หวังซู่หลินกำลังเก็บงำความลับเอาไว้เธอปิดบังเรื่องการแยกกันอยู่ของฉินป๋อหลินกับเหว่ยเฟิงจากฉินหลงเจ๋อผู้ซึ่งกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งตับระยะสุดท้ายจนกว่าจะแน่ใจว่าป๋อหลินและเหว่ยเฟิงได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะยุติชีวิตคู่กันจริง ๆหากทั้งสองคนหย่าขาดจากกันโดยสมบูรณ์ แม้แต่ฉินหลงเจ๋อก็ไม่อาจก้าวก่ายหรือเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของพวกเขาได้อีกต่อไปแต่ความลับมักไม่ถูกเก็บงำไว้ได้นาน ในคฤหาสน์ใหญ่โตเช่นนี้ ข่าวคราวก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว แม้หวังซู่หลินจะพยายามปิดบังความจริงมากเพียงใด แต่เธอก็ไม่อาจควบคุมทุกอย่างได้ความจริงที่ว่าป๋อหลินและเหว่ยเฟิงกำลังจะหย่าร้างกัน ค่อย ๆ เล็ดลอดออกไปทีละน้อย จนในที่สุดก็มาถึงหูของฉินหลงเจ๋อ ผู้ซึ่งกำลังอ่อนแอทั้งกายและใจฉินหลงเจ๋อที่กำลังนอนซมอยู่บนเตียงด้วยโรคร้าย ได้รับรู้ความจริงอันน่าตกใจว่า ภรรยาของเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจากไปของเหว่ยเฟิง ลูกสะใภ้ที่เขารักและเอ็นดู“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ซู่หลิน!” เสียงของฉินหลงเจ๋อดังขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ผมจะเชื่อทุกอย่างที่คุณพูด 2/2

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เหว่ยเฟิงตอบรับพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆหลังจากที่เธอขึ้นรถ ฉินป๋อหลินก็ขับพาเธอไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักของหญิงสาวเท่าไหร่ เห็นเธอบอกว่าร้านนี้เป็นร้านโปรดของเหว่ยเฟิงที่เธอมักจะแวะมาทุกเช้าก่อนเข้าออฟฟิศฉินป๋อหลินรู้ดีว่าเหว่ยเฟิงชอบดื่มกาแฟในยามเช้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะมุมสงบในร้านกาแฟ กลิ่นหอมของกาแฟอุ่น ๆ ลอยฟุ้งไปทั่วบรรยากาศ“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม เฟิงเอ๋อร์?” เขาถามขึ้นหลังจากจิบกาแฟคำแรก แม้คำถามจะฟังดูธรรมดา แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้รู้ว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไรบ้างในช่วงที่ผ่านมาเหว่ยเฟิงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “ก็พอได้นอนบ้างค่ะ”การสนทนาดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความจริงใจจากทั้งสองฝ่าย หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ ฉินป๋อหลินก็ไปส่งเหว่ยเฟิงที่ออฟฟิศของเธอทั้งสองขึ้นรถพร้อมกันอีกครั้ง เส้นทางจากร้านกาแฟไปยังออฟฟิศก็ไม่ได้ไกลนัก แต่บรรยากาศในรถนั้นเต็มไปด้วยความเงียบงันที่ไม่ได้อึดอัด แต่เป็นความสงบที่ทั้งคู่นั้นใช้เวลาไตร่ตรองถึงสิ่งที่อยู่ในใจเหว่ยเฟิงรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน เธอไม่เคยคิดว่าฉินป๋อหลิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status