Share

15

Author: Champeehom
last update Last Updated: 2024-12-09 20:06:30

ขบวนของอ๋องพยัคฆ์เร่งเดินทาง โชคดีที่ตอนนี้เดินทางเข้ามาเกินกึ่งกลางของแคว้นเจี๋ยแล้ว ทำให้มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ทั่วไป แต่ยังต้องแข่งกับเวลาอยู่ดี วันหนึ่งพยายามเดินทางให้ไกลที่สุดเท่าที่กำลังของม้าจะไปได้

อ๋องพยัคฆ์ถึงกับให้เปลี่ยนม้าในบางเมืองที่มีค่ายทหาร โดยฝากม้าศึกไว้ให้กลับกับขบวนกองทัพที่จะตามมา ผ่านมาสามวันพวกเขาก็เข้าใกล้เมืองหลวงแล้ว และควรจะถึงเมืองหลวงก่อนค่ำวันรุ่งขึ้น

ด้วยปราณของอ๋องพยัคฆ์ที่ถ่ายทอดสู่ฟ่านลู่อี่ทุกวันไม่สามารถทำให้อาการดีขึ้นได้ พระชายานอนนานขึ้นทุกที อ๋องพยัคฆ์ถึงกับตื่นมาตรวจดูอาการของของเขาทุกครึ่งชั่วยาม จนตนเองตาแดงก่ำใบหน้าซูบตอบ

"เทียนเฉิน นี่มิใช่ความผิดของท่าน อย่าได้ทรมานตัวเองเช่นนี้" ฟ่านลู่อี่นอนอยู่ในวงแขนของท่านอ๋อง มือที่แทบจะไร้เรี่ยวแรงสัมผัสใบหน้าของเขา ไม่กล้าบอกว่าตอนนี้มองอะไรแทบไม่เห็น กลัวเหลือเกินที่จะไม่ได้อยู่กับคนตรงหน้าอีก

"ข้ามิได้ทรมานเลยสักนิด เจ้าอดทนอีกคืนเดียว พรุ่งนี้เราจะถึงวังหลวงแล้ว เจ้าจะหายดีแล้วเราจะเข้าพิธีสยุมพรกัน" น้ำตาลูกผู้ชายหล่นโดนแก้มไร้สีเลือดของฟ่านลู่อี่

"ท่านเปิดลิ้นชักล่างให้ข้าหน่อย" ฟ่านลู่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   16

    ทั้งหมดสลัดกลุ่มนักฆ่าที่ตามมาได้ในที่สุด พวกเขาควบม้าเลี่ยงทางหลวงเข้าไปในป่าลึก จนมาถึงถ้ำที่มิดชิดแห่งหนึ่งก็หยุดยั้งลง "เราจะพักสักครู่ พวกเจ้าจัดการอาการบาดเจ็บของตัวเองซะ" คนสั่งลงจากหลังม้า โจวหงเจินใช้ผ้าจากกระเป๋าข้างอานม้าปู และช่วยปลดลู่อี่ลงจากหลังอ๋องพยัคฆ์ คนงามยังคงไม่ได้สติใบหน้าสวยซีดเซียว ปากที่เคยชมพูระเรื่อแทบไม่มีสีเลือด ดีที่ซินเกาเล่อสั่งมิให้ปลดอานม้าออกเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้พวกเขามีของใช้จำเป็น น้ำและอาหารแห้งที่จะต้องมีติดอยู่ในกระเป๋าข้างอานม้า ทั้งโจวหงเจินและจ้าวอี้หานมีสีหน้าเคร่งเครียด "เสี่ยวถงจะปลอดภัย หมอซูไม่ใช่คนโง่ ข้าสั่งให้พวกเขาหลบซ่อนตัว พวกมันคงหาเขาไม่เจอ หมอซูจะพาเสี่ยวถงกลับเมืองหลวงได้" อ๋องพยัคฆ์มองทั้งคู่อย่างเห็นใจ บางทีการที่จะมีความรู้สึกดีกับผู้ใดสักคนหนึ่งอาจจะใช้เวลาไม่นาน "ท่านอ๋องพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ พวกข้าจะผลัดกันอยู่เวรยามเอง" โจวหงเจินทูล "เราจะออกเดินทางตั้งแต่ยามเหม่า พวกเจ้าก็จงผลัดกันพักผ่อน" เหลือเวลาให้พักเพียงไม่ถึงสองชั่วยาม อ๋องพยัคฆ์โอบฟ่านลู่อี่แนบกายหวังใช้ร่างกายตัวเองเพิ่มความอบอุ่น เขารู้

    Last Updated : 2024-12-12
  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   17.1

    ด้านกองกำลังของอ๋องพยัคฆ์ ออกเดินทางตั้งแต่ยามเหม่า อ๋องพยัคฆ์มัดลู่อี่ไว้แนบอก ควบม้านำขบวนลัดเลาะไปในป่า พวกเขาคาดว่านักฆ่าอาจจะไปดักอยู่บนทางหลวงจึงเลี่ยงมาใช้ทางด่านที่ไม่ค่อยมีใครใช้ อาหลานหมอบบนหลังม้ากับจ้าวอี้หาน ออกจะลำบากนิดหน่อยแต่ฝีเท้าอาหลานไม่สามารถวิ่งนานๆ ได้แบบม้า จากจุดที่พวกเขาอยู่ ถ้าม้าวิ่งเต็มที่ไปเมืองหลวงใช้เวลาสี่ชั่วยาม พวกเขาเลาะทางด่านย่อมเสียเวลามากขึ้น ก่อนเดินทางอ๋องพยัคฆ์ปลุกฟ่านลู่อี่มารับประทานเนื้อแห้งรองท้อง แต่คนถูกพิษร้ายไม่ยอมรับประทานสิ่งใดนอกจากน้ำ ทำให้เขากังวลใจอยู่มาก เมื่อเจอน้ำพุร้อนอ๋องพยัคฆ์จึงสั่งหยุดพัก เพราะอยากให้ฟ่านลู่อี่แช่น้ำร้อนสักนิด ไม่เช่นนั้นอาการคงจะทรุดลง ยาที่ควรจะรับประทานก็ไม่มี ทั้งหมดกระจายกำลังคุ้มกันหันหลังให้น้ำพุร้อน อ๋องพยัคฆ์เปลื้องเสื้อผ้าของตัวเอง และฟ่านลู่อี่อย่างรวดเร็ว พอลงน้ำได้ก็ถ่ายทอดลมปราณให้ทันที "ท่านอ๋อง ให้ข้าช่วยถ่ายทอดลมปราณให้องค์ชายหรือไม่" ซินเกาเล่อถามทั้งที่ไม่ได้หันมา อ๋องพยัคฆ์รู้ตัวดีว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาก็ไม่อาจสู้ศัตรูได้เต็มที่แต่ผู้อื่นก็มิได้พักเช่นเดียวกัน "ขอบใจ แต่ลู่อ

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   17.2

    อ๋องพยัคฆ์ควบม้าไปทางใดล้วนมีเศษเลือดเนื้อสาดกระจาย แต่พวกมันกลับไม่กลัวตายหนุนเนื่องกันเข้ามาไม่ได้หยุด ทางซินเกาเล่อก็ไม่น้อยหน้า ฟาดคนที่เข้าใกล้ด้วยง้าวจนร่างขาดเป็นสองส่วน โจวหงเจินกำลังต้านศัตรูให้จ้าวอี้หานเตรียมอะไรบางอย่าง จนเขาจุดชุดไฟที่หัวธนูได้สำเร็จ ขึ้นไปยืนบนหลังม้ายิงธนูไฟเข้าใส่กลุ่มศัตรู และยิงต่อเนื่องเป็นแนวยาวไปตึง กรึ้ม บึ้ม... เสียงระเบิดดังกึกก้อง ฝุ่นฟุ้งกระจาย จ้าวอี้หานใช้ธนูหัวระเบิดเปิดทาง แม้ไม่มีอานุภาพทำลายล้างแต่สร้างความชะงักงันได้ชั่วเวลาหนึ่ง อดีตรองแม่ทัพของซินเกาเล่อ ควบม้าเปิดทางตามทางระเบิด อ๋องพยัคฆ์กระตุ้นม้าตามเข้าไปคนที่เหลือปิดท้าย เข่นฆ่าจนเป็นเส้นทางเลือด แต่ศัตรููที่ยกมามีจำนวนถึงหนึ่งพันคนคงเลี่ยงเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้ไม่ได้แล้ว "ไม่เป็นไรนะคนดี ข้าจะพาเจ้าไปรักษาตัว" อ๋องพยัคฆ์กระชับลู่อี่บนหลังสายตาทอแววเข่นฆ่า เสียงร้องโอดโอยดังแว่วมาแสดงว่าอาหลานเริ่มจัดการพลธนูที่ซุ่มอยู่แล้ว อ๋องพยัคฆ์มีสองรองแม่ทัพคอยระวังหลัง คนทั้งหมดค่อยๆคืบหน้าไปอย่างช้าๆ ม้าศึกยังดีดศัตรูหลายคนหน้าผากเปิดกระโหลกยุบ "ปล่อยให้เป็นแบบนี้นานไปคงจะไม่

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   18.1

    "มาช้านะท่านพี่" อ๋องพยัคฆ์แสยะยิ้มชักม้าออกจากที่กำบัง ผู้มาใหม่คืออดีตองค์ชายรองหรือฮ่องเต้ของแคว้นเจี๋ยหลิวเทียนจินนั่นเอง "ข้าต้องรอหมอหลวงต้มยา แถมกว่าจะเด็ดผลมังกรอัคคีได้ข้าถึงกับถูกน้ำในธารเดือดกระเด็นใส่เป็นรอยพุพองทีเดียวนะ" คนพูดคลำแขนตัวเองเหมือนเจ็บมากแต่ถูกคนที่มาด้วยขัดคอ "รอยพองเท่าเหรียญอีแปะถึงกับอาบน้ำเองมิได้ยกตะเกียบมิไหวต้องให้ข้าป้อนข้าวอยู่หลายมื้อเยี่ยงนั้นรึ" เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ใบหน้าเนียน คิ้วเฉียง ดวงตาแฝงความทระนงองอาจ แม้มิได้บึกบึนเช่นทหารส่วนใหญ่แต่ร่างกายแฝงด้วยกล้ามเนื้องดงามสมส่วน "เจ้าดูพี่สะใภ้เจ้าสิ ปรนนิบัติสามีนิดหน่อยก็บ่น" คนพูดทำปากยื่น "ยา" อ๋องพยัคฆ์พูดแค่คำเดียว ฟ่านลู่อี่ของเขาอาการหนักมากแล้ว คนพวกนี้ยังมาเล่นปาหี่ให้เขาดูอีก "เจ้าน้องคนนี้นี่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย ข้าหวังจะได้เห็นใบหน้าอื่นของเจ้าแท้ๆ เจ้าส่งน้องสะใภ้ให้ฮองเฮาเถอะ เขาจำเป็นต้องกลับไปแช่น้ำร้อนที่วัง ข้าเตรียมคนและรถม้าไว้ให้แล้ว ส่วนเจ้าต้องไปจับมุสิกกับข้า" คนสั่งแฝงอำนาจของผู้นำทำให้อ๋องพยัคฆ์จนใจ เรื่องบ้านเมืองก็สำคัญ เขาจำใจส่งฟ่านลู่อี่ให้บุรุษอี

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   18.2

    อ๋องพยัคฆ์สำรวจรอบๆ ด้วยสายตา ที่นี่คงเป็นค่ายของพวกกบฏ ไม่คิดเลยว่าจะอยู่ใกล้เมืองหลวงมากขนาดนี้ พวกมันคงจะรู้ตัวแล้วจึงถอนค่ายหนีอย่างรีบร้อนเช่นนี้ "ไม่เหลือสิ่งใดเลยพ่ะย่ะค่ะนอกจากเตาหลอม พวกมันน่าจะลักลอบผลิตอาวุธกันในถ้ำ" "มีรอยเกวียนมุ่งหน้าไปในป่า รอยล้อกดลึกบ่งบอกว่าบรรทุกของหนัก พ่ะย่ะค่ะ" นายกองอีกผู้หนึ่งรายงาน "ตามไปดูว่ารอยเกวียนนั้นสิ้นสุดลงที่ใด ส่งผู้หนึ่งไปแจ้งฮ่องเต้ให้เคลื่อนทัพต่อไป บอกให้สังเกตทางเกวียนทางด้านขวาที่ออกจากป่า ข้าคาดว่าถ้าเราไปตามทางน่าจะไปบรรจบกันด้านหน้า" เหล่าทหารที่ฝึกมาอย่างดีแยกกันไปทำตามคำสั่ง พวกเขาตามรอยมาจนยามซวี หรือประมาณหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม จึงได้ตามทัน เส้นทางเกวียนนำมาถึงเชิงเขาของเมืองโหย่วกวาน เสียงดาบกระทบกันดังมาจากด้านหน้า อ๋องพยัคฆ์เห็นเหล่าทหารม้าของเขาสู้อยู่กับกองกำลังของถางจินเข่อ ทหารม้ามีจำนวนคนน้อยกว่ามากจึงเริ่มเพลี่ยงพล้ำ "วางดาบคนเป็น จับดาบคนตาย!" อ๋องพยัคฆ์ชูดาบตะโกนก้อง ตามด้วยเสียงคำรามของอาหลานทำให้กองกำลังของถางจินเข่อที่ได้ยินก็ขวัญเสีย พวกมันเข้าร่วมเป็นกบฏด้วยเห็นแก่ลาภยศเมื่อมาได้เจออ๋องพยัคฆ์ตัวจริ

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   19.1

    ฮ่องเต้นำกองทัพไปล้อมจับเจ้าเมืองโหย่วกวาน ได้ตัวตอนกำลังหลบหนีออกทางหลังจวน ขุนนางละโมบพยายามขนทรัพย์สินเงินทองไปด้วยจำนวนมากทำให้หนีไม่พ้น ไห่เสียงเตะมันล้มกลิ้งมาถึงหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ "เราเลี้ยงดูขุนนางไม่ดีรึ เจ้าจึงคิดกบฏ" ฮ่องเต้ถามทั้งที่ใบหน้ายังยิ้มอยู่แต่รอยยิ้มไปไม่ถึงแววตา "โปรดเมตตาด้วย กระหม่อมผิดไปแล้ว" คนโขกหัวจนหน้าผากแตกน้ำมูกน้ำตาไหลด้วยความกลัว"หึ" ฮ่องเต้ยิ้มหยัน คืนนั้นขุนนางที่อยู่ในรายชื่อว่าสมคบกับพวกกบฏของเมืองโหย่วกวานถูกฉุดกระชากลงมาจากเตียงยามดึก ครอบครัวบ่าวไพร่ถูกต้อนไปรวมกันที่หน้าศาลาว่าการประจำเมือง ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่นตกใจ คบไฟถูกจุดสว่างไปทั้งเมือง ดุจดั่งกลางวัน เสียงซัดทอดความผิดดังระงม ฮ่องเต้เรียกหัวหน้ากองธงมาสองคน มอบหมายให้สอบสวนครอบครัวและบ่าวไพร่ของขุนนางเหล่านั้น ส่วนพวกคนในจวนเจ้าเมืองเป็นอีกสองกองธงจัดการสอบสวน ตัวเจ้าเมืองถูกล่ามขื่อทั้งที่โลหิตไหลท่วมหน้า "เงียบ!" ราชองครักษ์ผู้หนึ่งตวาด เกิดความเงียบครู่เดียวก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอีก อาหลานคงทนไม่ไหว มันกระโดดขึ้นไปยืนบนหลังกำแพงส่งเสียงขู่คำรามอันทรงพลังก้องไปทั้งเน

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   19.2

    ฮ่องเต้หลิวเทียนจินเป็นองค์ชายรองในรัชกาลก่อน หลังจากองค์ชายใหญ่ก่อกบฏ องค์ชายรอง องค์ชายห้าและองค์ชายแปดหนีตายไปหาแม่ทัพติงผู้เฒ่าผู้เป็นบิดาของแม่ทัพติงคนปัจจุบันที่ยามนั้นเป็นรองแม่ทัพอยู่กองทัพเดียวกับบิดา แม่ทัพติงยามนั้นเฝ้ารักษาชายแดนทางตะวันออกของแคว้นเจี๋ย เขาเป็นคนที่จงรักภักดีมากจึงได้รับความไว้วางพระทัยให้ไปรักษาชายแดน โดยหลานสาวของเขาติงสุ่ยเซียนที่อายุน้อยกว่าองค์ชายรองสองปีก็ได้หมั้นหมายกับองค์ชายรองตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่เจอหน้ากันปีละครั้งยามแม่ทัพติงเข้ามาอวยพรวันพระราชสมภพของฮ่องเต้ เด็กทั้งคู่นับว่ามีไมตรีที่ดีต่อกัน ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เสกสมรสกันก็เกิดกบฏขึ้นเสียก่อน แม่ทัพติงอยู่ชายแดนห่างไกลยกทัพมาช่วยไม่ทัน จึงแยกตัวออกจากราชสำนักรวบรวมกำลังคนเตรียมกลับไปช่วยฮ่องเต้พระบิดาขององค์ชายรอง เหล่าองค์ชายที่หนีตายมาพึ่งพาแม่ทัพติงมิได้ปล่อยเวลาสูญเปล่า พวกเขาถูกเคี่ยวกรำให้ฝึกการต่อสู้อย่างหนัก แม่ทัพติงทั้งคู่ มิได้อ่อนข้อให้พวกเขาแม้แต่น้อย พวกเขามีติงหยุนมู่พี่ชายของติงสุ่ยเซียนเป็นพี่เลี้ยง เขาแก่กว่าองค์ชายรองสองปีจึงสนิทสนมกันมาก ด้วยความที่ติงหยุนมู่แก่กว่า

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   20.1

    อ๋องพยัคฆ์แทบจะวิ่ง ขันทีนำทางคงรู้อารมณ์เขาจึงเร่งฝีเท้านำเขาไป เปิดประตูห้องให้ พอเข้าไปได้อ๋องพยัคฆ์ก็พุ่งตัวไปหาฟ่านลู่อี่ที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง มือหนาลูบใบหน้างามอย่างทะนุถนอม คนป่วยยังซีดเซียวอยู่ แต่ก็ดูดีขึ้น "เจ้าไม่คิดจะทักพี่สาวคนนี้เลยรึ" เสียงสตรีดังขึ้น อ๋องพยัคฆ์จึงเพิ่งรู้สึกว่ามีผู้อื่นอยู่ในห้องด้วย "คารวะพี่หยุนมู่ พี่สุ่ยเซียน" อ๋องพยัคฆ์คารวะเร็ว "อาการของเขาเป็นอย่างไรบ้าง" เขานั่งลงข้างเตียง หยิบมือเย็นมาแนบแก้มสากด้วยหนวดที่ขึ้นไรครึ้ม "ป้อนยาที่ข้าปรุงทุกหนึ่งชั่วยามกับให้แช่น้ำร้อน เสริมด้วยปราณกรุยจุดชีพจรอีกวันละสองรอบ ข้าคิดว่าอาการน่าจะหายในเจ็ดวันนะ" สุ่ยเซียนตอบยิ้มๆ "เจ้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนเถิด พวกเราเพิ่งป้อนยาน้องสะใภ้ไปไม่นาน เจ้าค่อยกลับมาก็ได้" หยุนมู่พูดอย่างใจดี คนที่อ๋องพยัคฆ์เชื่อฟังมากที่สุดคือหยุนมู่นี่เอง สำหรับฮ่องเต้ เชื่อฟังนั้นก็เชื่ออยู่ แต่ก็ตีกันบ่อยเช่นกัน อ๋องพยัคฆ์เดินสวนกับอาหลาน มันเดินขึ้นเตียงไปนอนข้างฟ่านลู่อี่แต่ถูกสุ่ยเซียนดุ "อาหลาน ตัวเจ้ามีแต่กลิ่นคาวเลือดไปให้เทียนเฉินอาบน้ำให้เลยนะ ไม่อย่างนั้นข

    Last Updated : 2024-12-25

Latest chapter

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   20.2

    "ผิดละ ข้าปล่อยปละละเลยพวกเจ้าสองคนพี่น้องมากเกินไปต่างหาก พวกเจ้าจึงคิดแผนการชั่วร้ายนี้ขึ้นมาได้ ออกไป แล้วอย่ามาให้ข้าเห็นหน้า" "แต่ว่าหยุนมู่.." เสียงคนยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงโครมดังขึ้นประดุจห้องทลาย ฟ่านลู่อี่ที่อยากจะลืมตาดูแต่ก็ลืมไม่ขึ้นได้แต่นอนน้ำตาไหลเงียบๆ เขาเป็นได้แค่ตัวหมากกระนั้นหรือ คนที่เขาเริ่มมีใจให้กลับเห็นเขาเป็นหมากตัวหนึ่ง เขาตั้งใจว่าจะร้องไห้เป็นครั้งสุดท้าย ... จะต้องหลุดพ้นจากวังวนนี้ให้ได้"พี่หยุนมู่ ข้าขออยู่เฝ้าลู่อี่เถอะนะ" อ๋องพยัคฆ์อ้อนวอน แต่กลับมีเสียงโครมใหญ่อีกครั้งแทน มีเพียงสุ่ยเซียนเท่านั้นที่เป็นพยานว่าฮ่องเต้และอ๋องพยัคฆ์ถูกฮองเฮาเตะกระเด็นทะลุประตูออกจากห้องไปอัดเสาฝั่งตรงข้าม "ทหาร!" หยุนมู่ตะโกนเรียก เหล่าทหารยามวิ่งมารวมแถวอย่างเป็นระเบียบต่อหน้าหยุนมู่ "พ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮา" "ถ่ายทอดคำสั่ง ปิดตำหนักห้ามฮ่องเต้และอ๋องพยัคฆ์เข้ามาเด็ดขาด แม้แต่คนของพวกเขาก็ห้าม เข้าใจหรือไม่" "พ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮา" "ดี ผู้ใดขัดคำสั่งข้า" หยุนมู่ทำมือปาดคอตัวเอง ใครจะกล้าขัดคำสั่งพวกเขายังรักชีวิตตัวเองอยู่นะ ไม่มีใครสนใจสองพี่น้องที่ยืนหน้าละห้อยอยู่ "

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   20.1

    อ๋องพยัคฆ์แทบจะวิ่ง ขันทีนำทางคงรู้อารมณ์เขาจึงเร่งฝีเท้านำเขาไป เปิดประตูห้องให้ พอเข้าไปได้อ๋องพยัคฆ์ก็พุ่งตัวไปหาฟ่านลู่อี่ที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง มือหนาลูบใบหน้างามอย่างทะนุถนอม คนป่วยยังซีดเซียวอยู่ แต่ก็ดูดีขึ้น "เจ้าไม่คิดจะทักพี่สาวคนนี้เลยรึ" เสียงสตรีดังขึ้น อ๋องพยัคฆ์จึงเพิ่งรู้สึกว่ามีผู้อื่นอยู่ในห้องด้วย "คารวะพี่หยุนมู่ พี่สุ่ยเซียน" อ๋องพยัคฆ์คารวะเร็ว "อาการของเขาเป็นอย่างไรบ้าง" เขานั่งลงข้างเตียง หยิบมือเย็นมาแนบแก้มสากด้วยหนวดที่ขึ้นไรครึ้ม "ป้อนยาที่ข้าปรุงทุกหนึ่งชั่วยามกับให้แช่น้ำร้อน เสริมด้วยปราณกรุยจุดชีพจรอีกวันละสองรอบ ข้าคิดว่าอาการน่าจะหายในเจ็ดวันนะ" สุ่ยเซียนตอบยิ้มๆ "เจ้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนเถิด พวกเราเพิ่งป้อนยาน้องสะใภ้ไปไม่นาน เจ้าค่อยกลับมาก็ได้" หยุนมู่พูดอย่างใจดี คนที่อ๋องพยัคฆ์เชื่อฟังมากที่สุดคือหยุนมู่นี่เอง สำหรับฮ่องเต้ เชื่อฟังนั้นก็เชื่ออยู่ แต่ก็ตีกันบ่อยเช่นกัน อ๋องพยัคฆ์เดินสวนกับอาหลาน มันเดินขึ้นเตียงไปนอนข้างฟ่านลู่อี่แต่ถูกสุ่ยเซียนดุ "อาหลาน ตัวเจ้ามีแต่กลิ่นคาวเลือดไปให้เทียนเฉินอาบน้ำให้เลยนะ ไม่อย่างนั้นข

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   19.2

    ฮ่องเต้หลิวเทียนจินเป็นองค์ชายรองในรัชกาลก่อน หลังจากองค์ชายใหญ่ก่อกบฏ องค์ชายรอง องค์ชายห้าและองค์ชายแปดหนีตายไปหาแม่ทัพติงผู้เฒ่าผู้เป็นบิดาของแม่ทัพติงคนปัจจุบันที่ยามนั้นเป็นรองแม่ทัพอยู่กองทัพเดียวกับบิดา แม่ทัพติงยามนั้นเฝ้ารักษาชายแดนทางตะวันออกของแคว้นเจี๋ย เขาเป็นคนที่จงรักภักดีมากจึงได้รับความไว้วางพระทัยให้ไปรักษาชายแดน โดยหลานสาวของเขาติงสุ่ยเซียนที่อายุน้อยกว่าองค์ชายรองสองปีก็ได้หมั้นหมายกับองค์ชายรองตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่เจอหน้ากันปีละครั้งยามแม่ทัพติงเข้ามาอวยพรวันพระราชสมภพของฮ่องเต้ เด็กทั้งคู่นับว่ามีไมตรีที่ดีต่อกัน ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เสกสมรสกันก็เกิดกบฏขึ้นเสียก่อน แม่ทัพติงอยู่ชายแดนห่างไกลยกทัพมาช่วยไม่ทัน จึงแยกตัวออกจากราชสำนักรวบรวมกำลังคนเตรียมกลับไปช่วยฮ่องเต้พระบิดาขององค์ชายรอง เหล่าองค์ชายที่หนีตายมาพึ่งพาแม่ทัพติงมิได้ปล่อยเวลาสูญเปล่า พวกเขาถูกเคี่ยวกรำให้ฝึกการต่อสู้อย่างหนัก แม่ทัพติงทั้งคู่ มิได้อ่อนข้อให้พวกเขาแม้แต่น้อย พวกเขามีติงหยุนมู่พี่ชายของติงสุ่ยเซียนเป็นพี่เลี้ยง เขาแก่กว่าองค์ชายรองสองปีจึงสนิทสนมกันมาก ด้วยความที่ติงหยุนมู่แก่กว่า

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   19.1

    ฮ่องเต้นำกองทัพไปล้อมจับเจ้าเมืองโหย่วกวาน ได้ตัวตอนกำลังหลบหนีออกทางหลังจวน ขุนนางละโมบพยายามขนทรัพย์สินเงินทองไปด้วยจำนวนมากทำให้หนีไม่พ้น ไห่เสียงเตะมันล้มกลิ้งมาถึงหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ "เราเลี้ยงดูขุนนางไม่ดีรึ เจ้าจึงคิดกบฏ" ฮ่องเต้ถามทั้งที่ใบหน้ายังยิ้มอยู่แต่รอยยิ้มไปไม่ถึงแววตา "โปรดเมตตาด้วย กระหม่อมผิดไปแล้ว" คนโขกหัวจนหน้าผากแตกน้ำมูกน้ำตาไหลด้วยความกลัว"หึ" ฮ่องเต้ยิ้มหยัน คืนนั้นขุนนางที่อยู่ในรายชื่อว่าสมคบกับพวกกบฏของเมืองโหย่วกวานถูกฉุดกระชากลงมาจากเตียงยามดึก ครอบครัวบ่าวไพร่ถูกต้อนไปรวมกันที่หน้าศาลาว่าการประจำเมือง ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่นตกใจ คบไฟถูกจุดสว่างไปทั้งเมือง ดุจดั่งกลางวัน เสียงซัดทอดความผิดดังระงม ฮ่องเต้เรียกหัวหน้ากองธงมาสองคน มอบหมายให้สอบสวนครอบครัวและบ่าวไพร่ของขุนนางเหล่านั้น ส่วนพวกคนในจวนเจ้าเมืองเป็นอีกสองกองธงจัดการสอบสวน ตัวเจ้าเมืองถูกล่ามขื่อทั้งที่โลหิตไหลท่วมหน้า "เงียบ!" ราชองครักษ์ผู้หนึ่งตวาด เกิดความเงียบครู่เดียวก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอีก อาหลานคงทนไม่ไหว มันกระโดดขึ้นไปยืนบนหลังกำแพงส่งเสียงขู่คำรามอันทรงพลังก้องไปทั้งเน

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   18.2

    อ๋องพยัคฆ์สำรวจรอบๆ ด้วยสายตา ที่นี่คงเป็นค่ายของพวกกบฏ ไม่คิดเลยว่าจะอยู่ใกล้เมืองหลวงมากขนาดนี้ พวกมันคงจะรู้ตัวแล้วจึงถอนค่ายหนีอย่างรีบร้อนเช่นนี้ "ไม่เหลือสิ่งใดเลยพ่ะย่ะค่ะนอกจากเตาหลอม พวกมันน่าจะลักลอบผลิตอาวุธกันในถ้ำ" "มีรอยเกวียนมุ่งหน้าไปในป่า รอยล้อกดลึกบ่งบอกว่าบรรทุกของหนัก พ่ะย่ะค่ะ" นายกองอีกผู้หนึ่งรายงาน "ตามไปดูว่ารอยเกวียนนั้นสิ้นสุดลงที่ใด ส่งผู้หนึ่งไปแจ้งฮ่องเต้ให้เคลื่อนทัพต่อไป บอกให้สังเกตทางเกวียนทางด้านขวาที่ออกจากป่า ข้าคาดว่าถ้าเราไปตามทางน่าจะไปบรรจบกันด้านหน้า" เหล่าทหารที่ฝึกมาอย่างดีแยกกันไปทำตามคำสั่ง พวกเขาตามรอยมาจนยามซวี หรือประมาณหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม จึงได้ตามทัน เส้นทางเกวียนนำมาถึงเชิงเขาของเมืองโหย่วกวาน เสียงดาบกระทบกันดังมาจากด้านหน้า อ๋องพยัคฆ์เห็นเหล่าทหารม้าของเขาสู้อยู่กับกองกำลังของถางจินเข่อ ทหารม้ามีจำนวนคนน้อยกว่ามากจึงเริ่มเพลี่ยงพล้ำ "วางดาบคนเป็น จับดาบคนตาย!" อ๋องพยัคฆ์ชูดาบตะโกนก้อง ตามด้วยเสียงคำรามของอาหลานทำให้กองกำลังของถางจินเข่อที่ได้ยินก็ขวัญเสีย พวกมันเข้าร่วมเป็นกบฏด้วยเห็นแก่ลาภยศเมื่อมาได้เจออ๋องพยัคฆ์ตัวจริ

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   18.1

    "มาช้านะท่านพี่" อ๋องพยัคฆ์แสยะยิ้มชักม้าออกจากที่กำบัง ผู้มาใหม่คืออดีตองค์ชายรองหรือฮ่องเต้ของแคว้นเจี๋ยหลิวเทียนจินนั่นเอง "ข้าต้องรอหมอหลวงต้มยา แถมกว่าจะเด็ดผลมังกรอัคคีได้ข้าถึงกับถูกน้ำในธารเดือดกระเด็นใส่เป็นรอยพุพองทีเดียวนะ" คนพูดคลำแขนตัวเองเหมือนเจ็บมากแต่ถูกคนที่มาด้วยขัดคอ "รอยพองเท่าเหรียญอีแปะถึงกับอาบน้ำเองมิได้ยกตะเกียบมิไหวต้องให้ข้าป้อนข้าวอยู่หลายมื้อเยี่ยงนั้นรึ" เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ใบหน้าเนียน คิ้วเฉียง ดวงตาแฝงความทระนงองอาจ แม้มิได้บึกบึนเช่นทหารส่วนใหญ่แต่ร่างกายแฝงด้วยกล้ามเนื้องดงามสมส่วน "เจ้าดูพี่สะใภ้เจ้าสิ ปรนนิบัติสามีนิดหน่อยก็บ่น" คนพูดทำปากยื่น "ยา" อ๋องพยัคฆ์พูดแค่คำเดียว ฟ่านลู่อี่ของเขาอาการหนักมากแล้ว คนพวกนี้ยังมาเล่นปาหี่ให้เขาดูอีก "เจ้าน้องคนนี้นี่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย ข้าหวังจะได้เห็นใบหน้าอื่นของเจ้าแท้ๆ เจ้าส่งน้องสะใภ้ให้ฮองเฮาเถอะ เขาจำเป็นต้องกลับไปแช่น้ำร้อนที่วัง ข้าเตรียมคนและรถม้าไว้ให้แล้ว ส่วนเจ้าต้องไปจับมุสิกกับข้า" คนสั่งแฝงอำนาจของผู้นำทำให้อ๋องพยัคฆ์จนใจ เรื่องบ้านเมืองก็สำคัญ เขาจำใจส่งฟ่านลู่อี่ให้บุรุษอี

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   17.2

    อ๋องพยัคฆ์ควบม้าไปทางใดล้วนมีเศษเลือดเนื้อสาดกระจาย แต่พวกมันกลับไม่กลัวตายหนุนเนื่องกันเข้ามาไม่ได้หยุด ทางซินเกาเล่อก็ไม่น้อยหน้า ฟาดคนที่เข้าใกล้ด้วยง้าวจนร่างขาดเป็นสองส่วน โจวหงเจินกำลังต้านศัตรูให้จ้าวอี้หานเตรียมอะไรบางอย่าง จนเขาจุดชุดไฟที่หัวธนูได้สำเร็จ ขึ้นไปยืนบนหลังม้ายิงธนูไฟเข้าใส่กลุ่มศัตรู และยิงต่อเนื่องเป็นแนวยาวไปตึง กรึ้ม บึ้ม... เสียงระเบิดดังกึกก้อง ฝุ่นฟุ้งกระจาย จ้าวอี้หานใช้ธนูหัวระเบิดเปิดทาง แม้ไม่มีอานุภาพทำลายล้างแต่สร้างความชะงักงันได้ชั่วเวลาหนึ่ง อดีตรองแม่ทัพของซินเกาเล่อ ควบม้าเปิดทางตามทางระเบิด อ๋องพยัคฆ์กระตุ้นม้าตามเข้าไปคนที่เหลือปิดท้าย เข่นฆ่าจนเป็นเส้นทางเลือด แต่ศัตรููที่ยกมามีจำนวนถึงหนึ่งพันคนคงเลี่ยงเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้ไม่ได้แล้ว "ไม่เป็นไรนะคนดี ข้าจะพาเจ้าไปรักษาตัว" อ๋องพยัคฆ์กระชับลู่อี่บนหลังสายตาทอแววเข่นฆ่า เสียงร้องโอดโอยดังแว่วมาแสดงว่าอาหลานเริ่มจัดการพลธนูที่ซุ่มอยู่แล้ว อ๋องพยัคฆ์มีสองรองแม่ทัพคอยระวังหลัง คนทั้งหมดค่อยๆคืบหน้าไปอย่างช้าๆ ม้าศึกยังดีดศัตรูหลายคนหน้าผากเปิดกระโหลกยุบ "ปล่อยให้เป็นแบบนี้นานไปคงจะไม่

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   17.1

    ด้านกองกำลังของอ๋องพยัคฆ์ ออกเดินทางตั้งแต่ยามเหม่า อ๋องพยัคฆ์มัดลู่อี่ไว้แนบอก ควบม้านำขบวนลัดเลาะไปในป่า พวกเขาคาดว่านักฆ่าอาจจะไปดักอยู่บนทางหลวงจึงเลี่ยงมาใช้ทางด่านที่ไม่ค่อยมีใครใช้ อาหลานหมอบบนหลังม้ากับจ้าวอี้หาน ออกจะลำบากนิดหน่อยแต่ฝีเท้าอาหลานไม่สามารถวิ่งนานๆ ได้แบบม้า จากจุดที่พวกเขาอยู่ ถ้าม้าวิ่งเต็มที่ไปเมืองหลวงใช้เวลาสี่ชั่วยาม พวกเขาเลาะทางด่านย่อมเสียเวลามากขึ้น ก่อนเดินทางอ๋องพยัคฆ์ปลุกฟ่านลู่อี่มารับประทานเนื้อแห้งรองท้อง แต่คนถูกพิษร้ายไม่ยอมรับประทานสิ่งใดนอกจากน้ำ ทำให้เขากังวลใจอยู่มาก เมื่อเจอน้ำพุร้อนอ๋องพยัคฆ์จึงสั่งหยุดพัก เพราะอยากให้ฟ่านลู่อี่แช่น้ำร้อนสักนิด ไม่เช่นนั้นอาการคงจะทรุดลง ยาที่ควรจะรับประทานก็ไม่มี ทั้งหมดกระจายกำลังคุ้มกันหันหลังให้น้ำพุร้อน อ๋องพยัคฆ์เปลื้องเสื้อผ้าของตัวเอง และฟ่านลู่อี่อย่างรวดเร็ว พอลงน้ำได้ก็ถ่ายทอดลมปราณให้ทันที "ท่านอ๋อง ให้ข้าช่วยถ่ายทอดลมปราณให้องค์ชายหรือไม่" ซินเกาเล่อถามทั้งที่ไม่ได้หันมา อ๋องพยัคฆ์รู้ตัวดีว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาก็ไม่อาจสู้ศัตรูได้เต็มที่แต่ผู้อื่นก็มิได้พักเช่นเดียวกัน "ขอบใจ แต่ลู่อ

  • ดวงใจอ๋องพยัคฆ์ (พีเรียดจีน)   16

    ทั้งหมดสลัดกลุ่มนักฆ่าที่ตามมาได้ในที่สุด พวกเขาควบม้าเลี่ยงทางหลวงเข้าไปในป่าลึก จนมาถึงถ้ำที่มิดชิดแห่งหนึ่งก็หยุดยั้งลง "เราจะพักสักครู่ พวกเจ้าจัดการอาการบาดเจ็บของตัวเองซะ" คนสั่งลงจากหลังม้า โจวหงเจินใช้ผ้าจากกระเป๋าข้างอานม้าปู และช่วยปลดลู่อี่ลงจากหลังอ๋องพยัคฆ์ คนงามยังคงไม่ได้สติใบหน้าสวยซีดเซียว ปากที่เคยชมพูระเรื่อแทบไม่มีสีเลือด ดีที่ซินเกาเล่อสั่งมิให้ปลดอานม้าออกเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้พวกเขามีของใช้จำเป็น น้ำและอาหารแห้งที่จะต้องมีติดอยู่ในกระเป๋าข้างอานม้า ทั้งโจวหงเจินและจ้าวอี้หานมีสีหน้าเคร่งเครียด "เสี่ยวถงจะปลอดภัย หมอซูไม่ใช่คนโง่ ข้าสั่งให้พวกเขาหลบซ่อนตัว พวกมันคงหาเขาไม่เจอ หมอซูจะพาเสี่ยวถงกลับเมืองหลวงได้" อ๋องพยัคฆ์มองทั้งคู่อย่างเห็นใจ บางทีการที่จะมีความรู้สึกดีกับผู้ใดสักคนหนึ่งอาจจะใช้เวลาไม่นาน "ท่านอ๋องพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ พวกข้าจะผลัดกันอยู่เวรยามเอง" โจวหงเจินทูล "เราจะออกเดินทางตั้งแต่ยามเหม่า พวกเจ้าก็จงผลัดกันพักผ่อน" เหลือเวลาให้พักเพียงไม่ถึงสองชั่วยาม อ๋องพยัคฆ์โอบฟ่านลู่อี่แนบกายหวังใช้ร่างกายตัวเองเพิ่มความอบอุ่น เขารู้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status