ช่วงค่ำ
บรรยากาศยามค่ำคืนอันเงียบสงบมีเสียงคลื่นซัดกระทบกันต่อเนื่อง สายลมพัดหวิวปะทะผิวเนื้อให้พอชุ่มชื้น หมู่ดาวเต็มท้องฟ้าอันมืดมิดที่มีแสงจันทร์สาดส่องแค่พอสว่าง
บรรดาสามหนุ่มหนึ่งสาวนั่งดื่มกินกันอย่างครื้นเครงบนเสื่อสีฟ้าสดใสโดยมีเสียงดนตรีดังมาจากกีตาร์ที่อยู่ในมือของภาคินและเสียงร้องอย่างไพเราะชวนฟังที่เปล่งออกมาจากปากของแทนไท
ส่วนเมฆาและนลินนั่งเป็นผู้ฟังที่ดี เมื่อเสียงเพลงจบลงเธอจึงปรบมืออย่างชื่นชม
แปะๆๆๆ
“เพราะจังเลยค่ะ” เธอเอ่ยชมเสียงหวาน
“ขอบคุณคร๊าบบ” แทนไทลุกขึ้นยืนแล้วโค้งขอบคุณอย่างทะเล้น สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี
“มาชนแก้วกัน” เมฆาพูดพร้อมชูแก้วเหล้าไปตรงหน้า เพื่อนๆ ต่างก็ยกแก้วขึ้นมารวมถึงหญิงสาวที่ยื่นเหล้าปั่นในมือออกไปชนกับเขาด้วย
หากเธออยู่กับพวกพี่ๆ เธอสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ถ้าหากไปกับเพื่อนๆ หญิงสาวต้องห้ามดื่มเด็ดขาด นี่เป็นข้อตกลงระหว่างเธอกับพี่ชาย หญิงสาวเองก็เข้าใจเพราะเธอรู้ตัวดีว่าตนเองคออ่อนดื่มนิดหน่อยก็ทรงตัวแทบไม่อยู่แล้ว
“เรามาถ่ายรูปกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวลินถือกล้องเอง” นลินพูดออกมาพร้อมเดินไปยังมุมที่จะได้เห็นครบทุกคน
“มาๆ ลินไปนั่งเดี๋ยวพี่ถือเอง เรานะแขนสั้น” แทนไทพูดหยอกหญิงสาวที่ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่
“พี่แทนอะ ว่าลินอีกแล้วนะ” เธอพูดพร้อมย่นจมูกอย่างน่ารัก
“โอ๋ๆ พี่ล้อเล่นน่า ไปๆ ลินไปนั่งข้างไอ้เมฆ ส่วนมึงไอ้คินเข้ามาใกล้ๆ กูหน่อย”
แล้วชายหนุ่มก็หยิบมือถือขึ้นมาเซลฟี่โดยที่ข้างๆ เขามีภาคินส่วนเมฆานั่งอยู่ข้างนลิน
แชะ!!
“ยิ้มหน่อยไอ้เมฆ อมขี้อยู่รึไง” แทนไทหันไปถลึงตาใส่อย่างล้อเล่น
“ฮ่าๆๆ” ทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะออกมา เมฆาจึงยิ้มหวานให้กล้อง
“เอ้อ พอมึงยิ้มก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย” ภาคินแซวเพื่อน
“กูก็หล่อเป็นปกติอยู่แล้วป่ะ”
“เออกูไม่เถียง” ภาคินพูดกับเพื่อนอย่างหมั่นไส้
เมื่อถ่ายรูปเสร็จทุกคนก็นั่งประจำที่แล้วดื่มกินกันต่อ
“ใกล้จะฝึกงานแล้วใช่ไหมลิน” ภาคินถามน้องสาว
“อีกประมาณสี่เดือนค่ะ”
“ไปฝึกที่บริษัทพี่ไหม หนุ่มๆ เยอะนะ เผื่อได้พาน้องเขยมาทักทายไอ้เหี้ยนี่” แทนไทถามขึ้นแกมหยอก
“ไอ้***” ภาคินสบถด่าแทนไทแล้วปาน้ำแข็งใส่
“หรือจะไปที่บริษัทพี่” เมฆาถามขึ้นมา
“ไปบริษัทไอ้เมฆก็ดีนะลิน” ภาคินพูดออกมาอย่างเห็นด้วย
“บริษัทกูไม่ดีตรงไหน” แทนไทพูดขึ้นอีกครั้ง
“ตรงที่มีมึงเป็นเจ้าของนี่แหละ” ภาคินพูดพร้อมกลั้วหัวเราะ
“ไว้ลินตัดสินใจอีกครั้งนะคะ” เธอพูดพลางยกเหล้าปั่นขึ้นดื่ม
อันที่จริงเธออยากไปฝึกงานที่ต่างประเทศเพราะอยากลองไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองดู ในเมื่อภาษาเธอก็ได้ เงินก็มีแต่ติดตรงที่เธอยังไม่ได้ขอพี่ชายและคิดว่าจะลองคุยดู
“พี่คินคะ สมมติถ้าลินจะไปฝึกงานที่ต่างประเทศจะได้มั้ยคะ” เธอถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ทำไมถึงอยากไปที่อื่น” เขาถามน้องสาวอย่างไม่เข้าใจ
“ลินอยากลองไปใช้ชีวิตดูแค่เวลาสั้นๆ เองค่ะ”
“ลินเป็นผู้หญิงจะไปอยู่คนเดียวได้ยังไง ป่วยไข้ใครจะดูแล”
“แต่ลินโตแล้วนะคะ”
“พี่ไม่อนุญาต” ภาคินพูดออกมาเสียงเข้มเป็นการตัดความหวังของหญิงสาว
“โอเคค่ะ” เธอตอบออกมาแล้วยิ้มอย่างฝืนๆ เธอก็คิดไว้แล้วว่าพี่ชายคงไม่อนุญาตแต่อย่างน้อยก็ได้บอกในสิ่งที่เธอต้องการออกไปแล้ว
แทนไทและเมฆานั่งมองสองพี่น้องคุยกันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะอยากให้เขาและเธอพูดคุยกันเองดีกว่า
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มมาคุแทนไทจึงคิดว่าควรจะหาอะไรเล่นจึงคิดเกมขึ้นมา
“เรามาเล่นเกมกันดีกว่า” แทนไทเสนอเพื่อน
“เกมไรว่ะ” เมฆาถามทันที
“เกมล่าความจริง”
“เกมเหี้ยไรเนี่ย” ภาคินถามแทนไท
“มึงสิเหี้ย ว่าเกมกู” แทนไท
“มึงแหละเหี้ย” ภาคิน
“มึงนะแหละเหี้ย” แทนไท
“หยุดนะไอ้พวกเหี้ย” เมฆาตวาดทั้งสองคนที่ด่ากันเป็นเด็ก
“มึงก็เหี้ย!!!” แทนไทและภาคินตะโกนใส่หน้าเมฆาพร้อมกันแล้วหัวเราะออกมาสนั่น
นลินที่นั่งอยู่ก็ขำออกมาจนหยุดไม่อยู่เช่นเดียวกัน
“พอๆ เดี๋ยวกูบอกวิธีเล่น เกมนี้จะมีคนหมุนขวดถ้าขวดไปหยุดที่ใครคนที่หมุนจะได้ถาม และคนที่ตอบต้องตอบความจริงเท่านั้น หากตอบไม่ได้ก็กระดกเหล้าเพียวๆ เข้าปากไป เกมนี้ต้องมีความซื่อสัตย์นะเว้ย ส่วนลินพี่ให้กินแค่ครี่งแก้วพอ” แทนไทบอกกติกาอย่างจริงจัง
ดีล ทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน
“กูขอก่อน” แทนไทพูดขึ้น
ติ้วๆๆ
ทุกคนนั่งลุ้นกันตัวเกร็งเพราะกลัวว่าจะหยุดที่ตัวเอง ขวดไปหยุดอยู่ที่ภาคินคนแรก แทนไทจึงถามขึ้น
“กูขอถามว่ามึงเสียซิงตอนอายุเท่าไหร่ กับใคร”
“เหี้ยไรเนี่ย สิบห้ากับพี่สาวข้างบ้าน” ภาคินสบถคิ้วขมวดแล้วตอบออกมา
“พี่สาวคนนั้นคงจะเอ็นดูหนอนน้อยของมึงแหละกูว่า” แทนไทพูดแล้วหัวเราะออกมาจนต้องกุมท้อง
“ฮ่าๆๆ” ทุกคนขำออกมาเช่นกัน
“พอๆ ถึงตากูหมุนแล้ว” ภาคินจึงหมุนเป็นคนต่อไป ขวดไปหยุดอยู่ที่แทนไท
“มึงจะเอาคืนกูเหรอ”
“กูขอถามว่าจูบแรกของมึงคือใคร”
“อืม แม่เลี้ยง” แทนไทครุ่นคิดแล้วตอบออกมา
“ไอ้เหี้ยยย มึงแม่ง ฮ่าๆๆๆ” ภาคินขำออกมาส่วนเมฆานั่งสายหัวให้เพื่อน
“งั้นกูหมุนต่อ” แทนไทหมุน ขวดไปหยุดที่นลิน
“พี่ขอถามเบาๆ นะคร๊าบ ลินมีคนที่ชอบหรือยังแล้วคนๆ นั้นเป็นใคร” แทนไทถามนลินที่นั่งยิ้มแห้งอยู่
“เอ่อ” นลินมีท่าทีลังเล
“น้องจะเล่า หรือจะเหล้า”
“ขอเหล้าดีกว่าค่ะ” นลินตอบพร้อมยื่นมือไปรับเหล้าที่มีอยู่ครึ่งแก้วแล้วกรอกเข้าปากไปทันที ความขมที่ไหลลงสู่กะเพาะเปลี่ยนเป็นสร้างความแสบร้อนได้เป็นอย่างดีจนหญิงสาวย่นจมูกขึ้น
“ใครจะเป็นผู้ชายโชคดีคนนั้นกัน” เมฆาพูดขึ้นพลางมองหน้านลินด้วยความเอ็นดู
นลินจึงเป็นคนหมุน และขวดไปหยุดที่เมฆา เธอครุ่นคิดคำถามสักพัก
“พี่เมฆพร้อมที่จะลืมพี่ตายังคะ”
นลินถามออกไปและรอฟังคำตอบอย่างตื่นเต้น แทนไทกับภาคินมองหน้ากันทันที
“ยัง” เขาตอบออกมาโดยไม่ต้องคิดพลางจ้องไปในดวงตาของหญิงสาวว่าเขาพูดจริง
หลังจากเล่นเกมกันเสร็จพวกเขาก็นั่งคุยกันต่อมีแต่นลินที่ขอตัวไปนอนเพราะเธอง่วงและรู้สึกเหมือนตัวเองจะมึนหัว หนุ่มๆ จึงนั่งดื่มกันจนเมาแล้วแยกย้ายกันเข้าห้อง เมฆาเข้าไปยังเตียงนอนแล้วทิ้งตัวลงนอนทันทีแต่กลับรู้สึกว่าข้างกายตัวเองมีสัมผัสอุ่นๆ จึงคว้าไปกอด
หญิงสาวรู้สึกว่ามีอะไรมารบกวนก็งัวเงียตื่นทันที เมื่อปรับสายตาได้แล้วเธอก็เห็นเมฆานอนกอดเธออยู่ ด้วยความตกใจเธอจึงรีบผลักเขาออกไปแต่ดูแล้วชายหนุ่มกลับมีแรงมากกว่า เขากระชับอ้อมกอดแน่นแล้วพึมพำออกมาแต่จับใจความไม่ได้เขาเห็นใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนคุ้นเคยไม่รอช้าเขาประกบริมฝีปากเธอทันที“อื้อส์”หญิงสาวพยายามผลักแผงอกแกร่งที่กำลังจู่โจมเธอด้วยริมฝีปากร้อนให้ออกไปจากตัว หลังจากที่เธอพยายามเรียกสติเขาอยู่เป็นเวลานาน“พะ..พี่เมฆ”เธอเรียกเมฆาอีกครั้งด้วยความรู้สีกที่ปะปนกันจนเมื่อชายหนุ่มเปล่งริมฝีปากเรียกชื่อคนนั้นออกมาเธอจึงเข้าใจ“ตา..พี่คิดถึงมากเลยรู้ไหม”ชายหนุ่มพึมพำออกมาเสียงแผ่ว พลางน้ำตารื้นขึ้นแล้วไหลลงมาด้วยหัวใจเจ็บปวด หญิงสาวที่พยายามสลัดเขาออกในตอนแรกหยุดชะงักลงทันที เธอไม่เห็นน้ำตาของชายหนุ่มตรงหน้ามานานมากแล้วและเธอจำได้ดีว่าเขาร้องไห้ปานจะขาดใจเมื่อห้าปีก่อน“พี่เมฆ นี่นลิน ไม่ใช่พี่ลิตา” เธอพยายามบอกชายหนุ่มอีกครั้งแล้วสลัดตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งเมฆาได้ยินร่างเล็กพึมพำออกมาแต่เขาไม่สามารถจับใจความได้ มีแต่ใบหน้าที่เขาจำได้ดีว่าเป็นหญิงสาวที่เขารักปรากฏอยู่ก็เท่านั้นและ
หนึ่งเดือนผ่านไปนลินตื่นขึ้นมาพร้อมอาการพะอืดพะอมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรู้สึกเวียนหัว น้ำลายในปากเหนียวหนืดและขมจนอยากจะอาเจียนออกมา เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงนุ่มพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อไล่อาการที่มีอยู่ให้ออกไปแต่มันไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอ จนต้องยกมือขึ้นปิดปากแล้ววิ่งไปอาเจียนทันที“อุ๊ป อ้วก” เธอโก่งคออาเจียนลงชักโครกอย่างหนักหน่วงจนในตาพร่าเบลอสายตาเหลือบไปเห็นผ้าอนามัยที่ยังไม่ได้แกะในห้องน้ำก็นึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอหายไปเดือนกว่าแล้ว แต่เธอคิดว่าเธอกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วและอยู่ในเวลาที่กำหนดก็ไม่น่าจะพลาด เธอคิดด้วยหัวใจสั่นไหวพร้อมความกลัวที่แล่นเข้ามาในจิตใจจนอยากจะร้องไห้เธอคงต้องตรวจดูก่อนบางทีมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดก็ได้ นลินพยายามคิดหาวิธีมาปลอบใจตัวเองเมื่อเธอรู้สึกดีขึ้นก็รีบขับรถสปอร์ตคันหรูของตัวเองออกไปยังร้านขายยาทันที โดยไม่ลืมที่จะสวมแว่นตาสีดำกับแมสเพราะเกรงว่าจะเจอคนรู้จักเธอเดินไปยังเคาน์เตอร์โดยที่ไม่เห็นว่าภายในร้านมีชายหนุ่มยืนอยู่ไม่ไกล เขาแวะมาซื้อยาแล้วโทรศัพม์มีสายเข้าจึงไปยืนคุยอยู่ด้านในของร้านและเขาคุยเ
“คนไข้ตั้งครรภ์ได้5สัปดาห์แล้วครับ ช่วงนี้เลยต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะอายุครรภ์ยังน้อยอยู่”หมออธิบายให้สามหนุ่มฟัง แต่ดูเหมือนว่าภาคินจะไม่มีสติมากพอที่จะฟังแล้วเขายืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่สักพักก็ทิ้งตัวลงบนพ้นเย็นอย่างหมดแรง เพื่อนๆ พยายามช่วยกันประคองเขา ทุกคนตกใจไม่แพ้กันและไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่คงต้องรอฟังคำอธิบายจากปากของนลินก่อน“มึงใจเย็นๆ นะเว้ย ไว้ถามลินก่อน มึงได้ยินสิ่งที่หมอพูดใช่ไหม” เมฆาหมายถึงห้ามให้นลินเครียด“ทุกอย่างมันจะมีทางออก พวกกูจะอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง” แทนไทพูดพร้อมแตะไหล่ภาคินเบาๆ อย่างให้กำลังใจภาคินนั่งเงียบไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากเขาแม้แต่คำเดียว...หลังจากภาคินนั่งเงียบอยู่กับเพื่อนเป็นเวลานาน นลินก็ถูกนำตัวไปยังห้องพักผู้ป่วยวีไอพีเขาจึงเดินเข้าไปหาเธอโดยที่เพื่อนทั้งสองนั่งรออยู่หน้าห้องภาคินเดินเข้าไปในห้องแล้วมองน้องสาวที่เขารักเหมือนแก้วตาดวงใจนอนหน้าซีดเผือดอยู่บนเตียงผู้ป่วย เขาพยายามนั่งทบทวนทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นเขาละเลยน้องจุดไหนไปบ้างหรือเขาดูแลน้องสาวได้ไม่ดีพอ แล้วไอ้คนนั้นมันเป็นใครที่กล้าทำน้องสาวเขาแบบนี้ น้องเขาเต็มใจหรือเปล่า เขาคิดมาก
เธอตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นเวลาบ่ายสองจึงเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงรู้สึกว่าอยากกินอะไรเปรี้ยวๆ เนื่องจากขมในปากและอยากกินมะยมจิ้มกะปิ แค่คิดเธอก็กลืนน้ำลายลงคออย่างต่อเนื่อง รีบออกไปจากห้องแล้วรีบเดินไปหยิบกุญแจรถทันทีเมื่อออกมาหน้าบ้านก็เห็นเมฆายืนพิงรถคันหรูในมือถือโทรศัพท์อยู่“อ้าวลินพี่กำลังจะโทรหาพอดี จะไปไหนเหรอ”“ไปซื้อของค่ะ” เธอตอบเขาเสียงเรียบเนื่องจากรู้สึกไม่ดีในเรื่องที่เคยคุยกับเขาที่โรงพยาบาลวันก่อน เธอรู้แล้วว่าเขาหายใจเข้าหายใจออกก็มีแต่ลิตา“เดี๋ยวพี่ขับรถให้” เขาพูดออกมาอย่างหวังดี“ไม่เป็นไรค่ะ ลินไปเองได้”นลินเดินไปที่รถของตัวเองโดยไม่สนใจชายหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นเมฆาจึงรีบเดินตามไปติดๆ เพราะเป็นห่วงหากเธอจะขับรถไปเองคนเดียว“ส่งกุญแจมาให้พี่” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังนลินมองหน้าเขาครู่หนึ่งจึงส่งกุญแจให้เขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอเปิดประตูแล้วนั่งลงยังเบาะที่ติดกับคนขับทันทีบรรยากาศในรถชวนอึดอัดได้เป็นอย่างดีจนขับมาสักพักชายหนุ่มก็ถามขึ้น“ลินจะไปซื้ออะไร”“มะยมจิ้มกะปิค่ะ”“หืม? มะยมเนี่ยนะ” เขาขมวดคิ้วแล้วถามเธออีกครั้ง แค่คิดเขาก็รู้สึกเข็ดฟันแล้ว“ก็ลินรู้สึกขมในป
สองอาทิตย์ผ่านไปเมฆาพยายามโทรหานลินหลายสายก็ไม่มีทีท่าว่าเธอจะรับด้วยความกังวลเขาจึงขับรถออกจากบ้านแล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านของหญิงสาวทันทีเพราะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอมาถึงบ้านนลินเขาก็รีบไขประตูเข้าไปที่เขามีกุญแจเพราะภาคินได้ให้ไว้เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน เมื่อเข้าไปก็เห็นหญิงสาวยืนทำอาหารอยู่ในครัว เขาจึงพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งใจ หญิงสาวที่เห็นท่าทางของชายหนุ่มก็ถามอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น“มีอะไรหรือเปล่าคะพี่เมฆ”“พอดีพี่โทรหาลินแล้วไม่รับสายเลยตกใจว่าเป็นอะไรหรือเปล่า”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มก็เป็นห่วงเธอเหมือนกัน“ลินทำกับข้าวอยู่ค่ะ ไว้ทานด้วยกันสิคะ”“ถ้างั้นพี่ขอยืมสายชาร์จหน่อยสิ พี่โทรหาลินจนแบตจะหมดแล้ว”“อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งในห้องค่ะ เข้าไปหยิบได้เลย” เธอบอกแล้วหันไปวุ่นอยู่กับอาหารตรงหน้าต่อชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องของหญิงสาว ภายในห้องของเธอตกแต่งด้วยสีขาวชมพูน่ารัก ดูสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบมาก เขาเดินผ่านเตียงนอนสีชมพูอ่อนก็เห็นไดอารี่เปิดอยู่และมีภาพของพวกเขาตอนถ่ายกันที่ทะเลเมื่อสองเดือนก่อนเขามองมันแล้วยิ้มออกมาเพราะคิดว่าหญิงสาวเขียนอะไรถึงพวกเขาแน่
เมื่อเห็นทั้งคู่เงียบภาคินจึงพูดต่อ“ไม่อย่างนั้นกูจะพาลินไปเอาเด็กออก”“พี่คิน!!”“ไอ้คิน!!”เมื่อเห็นแววจริงจังของเพื่อนเมฆายืนนิ่งพลางใช้ความคิดเพื่อตัดสินใจ“อืม งั้นกูจะจดทะเบียนสมรสกับลินก่อนก็ได้”“และมึงต้องคอยดูแลลินด้วยระหว่างที่กูไม่อยู่ เพราะกูต้องบินไปต่างประเทศบ่อย”“อืม” เมฆาหันไปมองหน้านลินที่ยืนก้มหน้าอยู่ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วจะให้เขาทิ้งลูกของตัวเองเขาก็ทำไม่ได้หรอกแม้ว่าจะยังสับสนและตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตาม ยังไงเขาก็ต้องรับผิดชอบนลินจนกว่าเธอจะคลอดลูกของเขา...หลังจากทั้งสองไปจดทะเบียนสมรสกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้ทำการขนของของนลินไปบ้านเมฆา เขาและเธอนั่งเงียบกันตลอดเส้นทาง ในรถมีแต่ความอึดอัดและตึงเครียดไม่มีใครพูดอะไรออกมาได้ยินแค่เสียงลมหายใจของอีกฝ่ายเท่านั้นเมื่อรถมาจอดอยู่หน้าบ้านสองชั้นสไตน์หรูหราและหลังใหญ่ของชายหนุ่มก็มีแม่บ้านออกมาต้อนรับอย่างดีแล้วยกกระเป๋าข้าวของของเธอไปบนห้องนอน“ลินนอนห้องข้างๆ พี่ มีอะไรก็เรียกพี่หรือเรียกใช้แม่บ้านได้ตลอด” หลังจากที่เงียบอยู่นานเมฆาจึงพูดขึ้น“ขอบคุณค่ะ” นลินเองก็ไม่มีอะไรจะพูดไปมากกว่านี้เช่นเดียวกันเธอเด
“ฝืนทานหน่อยนะ”เธอพยักหน้าเขาจึงประคองให้ลุกขึ้นนั่งและเดินไปหยิบถาดที่ใส่อาหารใช้ช้อนตักข้าวต้มแล้วจ่อไปที่ปากของเธอเมื่อได้กลิ่นอาหารที่โชยมาก็ชวนคลื่นเหียนอีกครั้ง เธอยกมือปิดปากแล้วลุกไปยังห้องน้ำทันที“อุ๊ปส์ อ้วก”เธออาเจียนลงชักโครก สิ่งที่ออกมามีแต่น้ำขมๆ เพราะเธอไม่ได้มีอาหารตกถึงท้องสักนิดเดียวเมฆารีบเดินเข้าไปลูบหลังพร้อมสีหน้ากังวลใจ เขาเองเมื่อเห็นอาการของเธอก็ทำอะไรไม่ถูกเมื่ออาเจียนเสร็จนลินพยุงตัวลุกขึ้นยืนเมฆาเองก็ประคองอยู่ไม่ห่าง เธอมีอาการหน้ามืดเล็กน้อย เขาจึงช้อนร่างเล็กเข้าแนบอก ใบหน้าของเธอจึงคลอเคลียอยู่กับแผงอกกำยำลมหายใจอุ่นร้อนปะทะผิวของเขาเธอสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้ง“พี่เมฆหอมจังเลยค่ะ” เธอพูดพร้อมซุกหน้านัวเนียกับแผงอกกว้าง“ละ..ลินทำอะไรเนี่ย พี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ” เขาถามออกไปเมื่อหญิงสาวสูดลมหายใจเข้าออกอย่างต่อเนื่อง เขาจึงพาร่างที่อ่อนปวกเปียกไปนั่งลงบนเตียงโดยที่หญิงสาวยังซุกหน้าอยู่อย่างนั้น“ลินชอบกลิ่นตัวพี่เมฆจังเลยค่ะ สดชื่น” เธอพูดออกมาเสียงแผ่วพร้อมความง่วงที่ถาโถมเข้ามาตอนนี้ชายหนุ่มนั่งตัวเกร็งไม่พูดอะไรออกมาหญิงสาวจึงพูดต่อ“ลิน ขอ
“รับเป็น...สเต๊กปลาแซลมอน สเต๊กเนื้อวากิวมีเดียมแรร์ แล้วก็น้ำแร่ครับ อ้อปลาแซลมอนขอแบบสุกนะครับ”เมื่อสั่งอาหารเสร็จเขาก็หันมาสบตาของเธอที่มองเขาอยู่“แล้วจะถามลินทำไมว่าอยากทานอะไร พอลินบอก พี่เมฆก็ไม่สั่งให้อยู่ดี”“แต่ลินต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูตัวเองสิผอมลงขนาดไหน”เธอจึงหันหน้าหนีเขาแล้วเสมองไปทางอื่นสายตาของเธอปะทะกับดวงตาคู่หนึ่งที่มองมาทางเธอพอดี เธอมองชายหนุ่มคนนั้นที่มีหน้าตาหล่อเหลา ผิวขาวจัด ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นมันช่างคุ้นเคย นลินมองแล้วพยายามนึกว่าเคยเห็นใบหน้านี้ที่ไหนชายหนุ่มคนนั้นก็มองเธอแล้วครุ่นคิดไม่ต่างกันกระทั่งทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันเบาๆ“พี่พอล”“น้องลิน”ทั้งคู่ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจนลินรีบลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติแล้วเดินไปหาชายหนุ่มทันที ทั้งสองสวมกอดกันแน่นอย่างลืมตัวหลังจากไม่ได้เจอกันมานานหลายปีพอลคือชายหนุ่มที่เคยอยู่ข้างบ้านนลินและเขาย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัวเมื่อหกปีก่อน ซึ่งทั้งสองสนิทกันมาก พอลเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอ ณ ตอนนั้น แม้อายุเขากับเธอจะห่างกันถึงเจ็ดปีก็ตาม หลังจากเขาย้ายไปและขายบ้านหลังนั้นเธอก็ไม่ได้ติดต่อเขาอีกเลย กระทั่
หกเดือนผ่านไป ณ ห้องคลอดโอ๊ย!!“ลองเบ่งอีกครั้งนะคะ”หนึ่ง สอง สาม อื้บบบ“คุณพ่อหยุดร้องไห้แล้วให้กำลังใจคุณแม่ก่อนค่ะ” คุณหมอพูดออกมาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นพ่อยืนร้องไห้อยู่สักพักแล้วเมฆาปาดน้ำตาแล้วก้มหน้าลงไปจุมพิตหน้าผากที่มีเหงื่อท่วมของนลินพร้อมกุมมือบางแล้วบีบมันเบาๆ อย่างให้กำลังใจ“ลินเก่งมากเลย พยายามอีกหน่อยนะครับเพื่อลูกของเรา” เมฆาพูดโดยที่เขาเองก็ตาแดงก่ำเพราะร้องไห้มาสักพักหญิงสาวพยักหน้าแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งพร้อมกำมือผู้เป็นสามีไว้แน่น เบ่งอีกครั้งจนสุดแรงฮึบบ แงๆๆๆไม่นานเสียงเด็กน้อยก็ร้องลั่นออกมา เมื่อเห็นลูกน้อยน้ำตาแห่งความสุขและความดีใจก็ไหลอย่างห้ามไม่อยู่“เก่งมากครับ เก่งที่สุด” เมฆาเอ่ยชมนลินไม่ขาดปาก“เด็กผู้หญิงนะคะ น้ำหนัก3020กรัมค่ะ” นลินพยักอย่างดีใจเพราะทั้งสองคนรอรู้เพศตอนคลอด เด็กทารกตัวแดงอวบอ้วนที่อยู่บนมือพยาบาลกำลังร้องไห้จ้าโดยมีพ่อและแม่มองตามตาไม่กระพริบ“สงสัยพี่คงต้องไว้หนวด พกปืนแล้วละ” คุณพ่อมือใหม่พูดแล้วมองหน้าภรรยาอย่างล้อเล่น“คุณพ่อมาตัดสายสะดือให้ลูกด้วยค่ะ” เมฆาเดินเข้าไปหาลูกสาวโดยมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา“ลูกผมจะไม่เจ
เสียงของภาคินดังขึ้นหน้าประตูพร้อมเสียงของภูผาที่ร้องออกมาระงม เมฆามองไปที่ประตูอย่างหัวเสียแล้วผละออกจากเธอรีบเดินไปหาชุดคลุมมาสวมร่างกายของทั้งสองเมื่อจัดการตัวเองเสร็จ เมฆาจึงเดินไปเปิดประตูด้วยใบหน้าอยากจะฆ่าเพื่อนรักเสียตอนนี้ แทนไทที่ได้ยินเสียงก็เปิดประตูออกมาเช่นเดียวกันภาคินมองเมฆากับนลินก็รู้ได้ทันทีว่าทั้งคู่พึ่งทำอะไรมาแต่ตอนนี้เขาต้องการตัวน้องสาวเพราะลูกเขาร้องไห้ไม่หยุดหลังจากพยายามอุ้มเดินมาเป็นหลายนาทีแล้ว“กูอยากจะฆ่ามึงจริงๆ” เมฆาพูดออกมาอย่างหัวเสีย“ภูผาเป็นอะไรคะ พี่คิน”“พี่ก็ไม่รู้ ร้องไห้มาสักพักแล้ว อุ้มเดินก็แล้วให้กินนมก็ไม่กิน” ภาคินพูดออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก“มาค่ะ เดี๋ยวลินอุ้มเอง” นลินจึงรับเด็กชายที่ร้องไห้งอแงแล้วใช้มือแตะหน้าผากตัวก็ไม่ร้อนจึงใช้มือแตะๆ ไปยังหน้าท้องของเด็กน้อยนลินเข้าไปในห้องแล้วใช้ยาสีดำทารอบสะดือของเด็กน้อยแล้วอุ้มสักพักแต่ก็ยังคงร้องงอแงอยู่แม้ว่าจะไม่ดังเหมือนตอนแรก“มาเดี๋ยวพี่ลองอุ้มดู” แทนไทบอกออกไปเมื่อเห็นหลานยังคงงอแงไม่หยุดก็อดที่จะสงสารไม่ได้เมื่อนลินส่งให้แทนไทหลานตัวน้อยก็มองหน้าเขาตาแป๋วไม่นานเสียงร้องก็สงบลง ทุกคนจ
“มาทำอะไรอีกคะ” นลินถามพร้อมเดินไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อทาครีมบำรุง“ขอนอนด้วยสิพี่อยากกอดลูก”“ไปนอนห้องเองเลยค่ะ” เธอพูดในขณะที่มือยังคงถูวนบนใบหน้าเพื่อให้ครีมซึมลงบนผิว“แต่ลินบอกว่าถ้าเกี่ยวกับลูกพี่สามารถทำได้ ตอนนี้พี่อยากกอดลูก ในเมื่อลูกอยู่กับลินพี่ก็ต้องกอดผ่านลินสิ”“พี่เมฆเจ้าเล่ห์”“หายโกรธพี่ได้แล้วนะครับ” เขาเดินเข้าไปแล้วกอดเธอเบาๆ จากด้านหลัง“ปล่อยค่ะ ลินอึดอัด” เธอพยายามผลักเขาออกแต่ชายหนุ่มกลับกอดเธอแน่นกว่าเดิมแล้วให้หญิงสาวหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา“ลิน พี่ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ” เขาพูดเสร็จประกบปากหนาลงบนปากอิ่มแล้วบรรจงจูบอย่างดูดดื่ม สอดแทรกควานหาความหอมหวานในโพลงปากอย่างไม่รู้เบื่อ ตอนนี้ความต้องการที่มากล้นทำให้เขาทรมานจนทนไม่ไหว...หญิงสาวเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสวาบหวามที่เขามอบให้แม้สมองจะบอกว่าไม่แต่ความรู้สึกกลับบอกว่าต้องการ เธอไม่มีแรงขัดขืนแม้แต่น้อยชายหนุ่มผละจากริมฝีปากเธอแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ เมื่อเห็นว่าครั้งนี้เธอเองก็ให้ความร่วมมือเขาเป็นอย่างดี จึงเริ่มซุกไซ้ลงบนซอกคอหอมกรุ่นแล้วสูดดมมันพร้อมขบเม้มเบาๆ จนเกิดรอยแดงจางๆเมื่อเห็นว่าหญิงสาวคล้อยตามไปเ
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” ภาคินหันไปทางแทนไทแล้วส่งสายตาว่าให้หุบปากแต่ดันมีสายโทรเข้ามา เมื่อภาคินกดรับสายก็มีเสียงเด็กร้องดังสนั่น จนเขาเองต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูแล้วเดินไปคุยสักพักก็กลับเข้ามาพร้อมสีหน้าเคร่งเครียด“เกิดอะไรขึ้นคะ ลินได้ยินเสียงเด็กร้อง”ภาคินมองหน้าน้องสาวแล้วจำใจพูดออกมา“ลิน คือความจริงแล้ว พี่พึ่งรู้ว่าตัวเองมีลูกและตอนนี้เด็กคนนั้นหนึ่งขวบแล้ว”“ว่าไงนะคะ ลูก” นลินถามออกมาอย่างตกใจ“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ เมื่อสองปีก่อนพี่เคยไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่ง และตอนนั้นเธอดันท้อง แต่ตอนนี้เธอเสียชีวิตแล้วด้วยโรคประจำตัว พี่เลยต้องเอาลูกมาเลี้ยงเนื่องจากฝ่ายนั้นเค้าอยากให้เด็กอยู่กับพ่อ” ภาคินร่ายยาวถึงเรื่องที่เขาเองก็รู้มาไม่นาน ตอนแรกเขาก็ตกใจมากเช่นเดียวกันนลินได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนทุกคนมองหน้ากันเพราะคิดว่าเธอคงโกรธพี่ชาย“ลินคงผิดหวังในตัวพี่ใช่ไหม”“เปล่าค่ะ ลินสงสารผู้หญิงคนนั้นกับหลานตัวน้อยๆ” เธอพูดพลางเช็ดน้ำตาจนเมฆาได้ทีเข้าไปโอบไหล่เธอเบาๆ“เดี๋ยวพี่เลี้ยงจะพาเด็กมาส่งเพราะเขาร้องไห้ไม่หยุดเลย” ภาคินพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดผ่านไ
“ไม่ค่ะ” เธอรีบปฏิเสธเสียงแข็งแม้ว่าความรู้สึกภายในใจจะตรงกันข้ามก็ตามชายหนุ่มมองหน้าเธออย่างอดใจและพยายามที่จะเข้าใจว่าเธอเองก็โกรธเขาอยู่ระหว่างอาบน้ำเขาพยายามจะอ่อยเธอหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ยังยืนยันคำเดิมจนชายหนุ่มต้องยอมแพ้ในที่สุดนลินรู้ดีว่าเขาต้องการอะไรและเธอเองก็มีความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันแต่ไม่อยากปล่อยให้เขาได้ใจไปมากกว่านี้เมื่อเธออาบน้ำแต่งตัวให้เขาเสร็จเรียบร้อยเหลือบมองดูเวลาก็ดึกมากแล้วและรู้สึกถึงความง่วงที่ถาโถมเข้ามาชายหนุ่มเห็นอาการของเธอก็พูดดักขึ้นเสียก่อน“นอนที่นี่แหละ ไม่ต้องกลับแล้ว”นลินพยักหน้าเห็นด้วยเพราะตอนนี้เธอง่วงมากจริงๆ เธอเดินเข้าไปในห้องของตัวเองที่ของทุกชิ้นยังวางอยู่เหมือนเดิมแล้วไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงนุ่มห่มผ้าผืนหนาไม่นานก็หลับไปอย่างง่ายดายชายหนุ่มแอบแง้มประตูมองก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้วจึงย่องเข้ามาในห้องเบาๆ พร้อมซุกตัวเองลงในผ้าห่มผืนหนาเช่นเดียวกัน เขานอนเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าเธอออกแล้วจุมพิตเบาๆ ลงบนหน้าผากเล็ก นอนมองใบหน้าหวานอย่างเคลิบเคลิ้มพร้อมคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขไม่นานเขาก็หลับไปเช่
“ช่างเขาเถอะค่ะ เราไปหลังร้านกันดีกว่า” นลินพูดพร้อมเดินเข้าไปหลังร้านอีกครั้งโดยมีพอลเดินตามไปเมฆามองตามทั้งสองคนอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาเองก็มีความผิดติดตัวอยู่เมื่อเห็นว่าทั้งสองเดินไปหลังร้านเขาก็เดินออกมาจากห้างแล้วมุ่งหน้าไปยังบริษัทเพื่อเคลียร์งานบ้างนลินพูดคุยกับพอลเสร็จก็ขับรถกลับคอนโดในช่วงค่ำ แต่มีสายจากแทนไทโทรเข้ามา ก่อนที่เธอจะถึงคอนโดในอีกห้านาที“ค่ะ พี่แทน มีอะไรหรือเปล่าคะ”[ลิน พี่จะโทรมาบอกว่า ไอ้เมฆมันเกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลXX พอดีพี่ติดคุยกับลูกค้าเลยไปหามันตอนนี้ไม่ได้ มันบอกว่าโทรหาลินแล้วแต่ไม่รับสาย ลินไปหามันหน่อยนะ]“โอเคค่ะ ลินจะไปเดี๋ยวนี้” เธอวางสายแล้วรีบวนรถกลับไปยังโรงพยาบาลที่แทนไทบอกอย่างกังวลใจเธอคิดไปต่างๆ นานาว่าชายหนุ่มจะเป็นอะไรมากหรือเปล่าจนร้องไห้ออกมา เมื่อมาถึงโรงพยาบาลเธอก็รีบไปหาชายหนุ่มและเห็นว่ามีพยาบาลทำแผลให้เขา แขนข้างขวามีเฝือกสวมอยู่ หลังจากเห็นสภาพของเขาเธอก็พลอยโล่งใจไปบ้างที่ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง“พี่เมฆ” เธอเรียกเมฆาเสียงแผ่วเมื่อไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา เมฆาเงยมองใบหน้าหวานที่มีคราบน้ำตาเปรอะอยู
“อย่าคิดว่ามันจะรอดได้ตลอดแล้วกัน ฉันจะฆ่ามันด้วยน้ำมือของฉันเอง เหอะ เมฆคงไม่คิดหรอกว่าฉันจะกล้าฆ่าลูกของเขาได้ลง”“พี่นี่มันเลือดเย็นจริงๆ เลวจนไม่รู้จะหาอะไรเปรียบ”เพี๊ยะ! ลิตาใช้มือยกขึ้นสะบัดใส่หน้านลินอย่างแรงจนเธอหน้าหันไม่ทันตั้งตัวพลั้ก ปัง!!ประตูถูกเปิดออกอย่างแรงจนหญิงสาวทั้งสองสะดุ้งเพราะตกใจ เมฆายืนถือโทรศัพท์แนบกับหูอยู่ปลายตามองลิตาอย่างโกรธจัดพร้อมเดินไปหาเธอแล้วกระชากแขนเล็กอย่างแรง จนเธอนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวด“เมฆ” เธอเรียกชื่อชายหนุ่มอย่างตกใจ แววตาเขาน่ากลัวจนเธอตัวสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่“คุณคิดจะฆ่าลูกของผมเหรอตา” เขาถามออกมาเสียงเย็นพร้อมส่งแรงบีบแรงขึ้น“โอ๊ย เมฆฟังตาก่อนนะ ตาอธิบายได้ เมฆกำลังเข้าใจผิด” เธอพยายามอธิบายเขาอย่างลุกลี้ลุกลน เธอรู้ดีว่าเมฆาถ้าโกรธและเกลียดใครเขาน่ากลัวขนาดไหน“ผมเข้าใจอะไรผิดเหรอ ผมได้ยินชัดเจนเต็มสองหู คุณกล้าเรียกลูกผมว่าเลือดชั่วๆ และจะฆ่าเขาด้วยน้ำมือของคุณเอง นี่เหรอที่ผมฟังผิด” เขาพูดออกมาเสียงลอดไรฟัน“คือ ตา... ตาขอโทษ ตาทำไปทั้งหมดเพราะตารักเมฆ”“ไม่หรอก ที่คุณทำไปทั้งหมดเพราะคุณมันรักตัวเอง คุณทิ้งผมไปมีคนอื่นแล้วตอนน
นลินมองออกไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอยจนพอลเองอดที่จะกังวลไม่ได้จึงต้องพูดขึ้น“ลินไม่ได้เสียอะไรไปเลย เขาต่างหากที่เสียคนที่รักเขาไป ลินยังมีลูกทั้งคน เข้มแข็งเพื่อลูกนะ”เมื่อพอลพูดจบเธอหันไปมองหน้าเขาแล้วร้องไห้ออกมาพร้อมสวมกอดชายหนุ่มแน่นอย่างต้องการที่พักพิง คำพูดของเขาปลอบประโลมใจที่เจ็บปวดของเธอได้เป็นอย่างดี พอลกอดเธอพร้อมลูบหลังเบาๆ อย่างให้กำลังใจ“ลินจะเข้มแข็งเพื่อลูกค่ะ” เธอคลายอ้อมกอดจากเขาแล้วใช้หลังมือปาดน้ำตาและยิ้มออกมาแม้ว่าใบหน้าจะแดงก่ำก็ตาม“คุณแม่เลิกร้องได้แล้วเดี๋ยวลูกออกมาขี้แยกันพอดี” เขาพูดแล้วลูบหัวเธออย่างเอ็นดู“ไม่ร้องแล้วค่ะ”“เก่งที่สุด แล้วนี่ลินจะไปนอนไหน”“ลินเปิดโรงแรมนอนแถวนี้ก็ได้ค่ะ ลินไม่ได้เอากุญแจบ้านมา”“ถ้าลินไม่รังเกียจ พี่มีห้องว่างพอดี ตอนนั้นซื้อไว้สองห้อง ลินสามารถเข้าไปอยู่ได้นะ ห้องอยู่ตรงข้ามกับพี่ เผื่อมีอะไรฉุกเฉินพี่จะได้ดูแลได้”นลินคิดสักพักจึงพยักหน้าตอบตกลงด้านเมฆาเขาออกไปจากบ้านหลังจากที่นลินออกไปไม่นานเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มดูแลลิตาสองวันเต็มโดยที่ไม่ได้กลับไปบ้าน เขาคิดว่านลินคงไปไหนได้ไม่ไกลและต้องกลับบ้านของเขาอย่างแน่นอนแต
พลั่กๆๆๆ กรี๊ดดด ตุ๊บ“ตา!!” เมฆาวิ่งไปหาลิตาแล้วมองนลินที่ยืนสีหน้าตกใจอยู่บันไดชั้นสองของบ้าน“เธอทำบ้าอะไรลงไปนลิน!!” เขาตวาดหญิงสาวจนเธอสะดุ้งแล้วหันไปสนใจลิตาที่นอนสลบอยู่ ศีรษะมีเลือดไหลออกมา เขาเงยมองหน้าของนลินด้วยอารมณ์โกรธแล้วรีบพาลิตาไปโรงพยาบาลทันทีป้าน้อยเห็นตั้งแต่ลิตาเดินตามนลินไปจนเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจึงรีบเดินไปหานลินที่นั่งลงบนพื้นกอดหน้าท้องตัวเองไว้อย่างหวงแหนเพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนทำก็ตาม“หนูลินเป็นยังไงบ้าง”“ลินไม่ได้ทำนะคะป้า”“ป้าเห็นค่ะ ป้าเห็น” เธอโผเข้ากอดป้าน้อยแน่นแล้วร้องไห้ออกมา“ไม่เป็นไรนะคะ โชคดีที่หนูลินไม่ได้ตกลงไป ไม่งั้น...” ป้าน้อยหยุดพูดแล้วก้มลงมองหน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อยของเธอ หากคนที่ตกลงไปเป็นนลินเด็กน้อยในท้องอาจไม่ได้ออกมาลืมตาดูโลกอย่างแน่นอน“แต่พี่เมฆคิดว่าลินเป็นคนทำไปแล้ว"“ป้าจะเป็นพยานให้หนูลินเองค่ะ”ป้าน้อยพูดให้หญิงสาวคลายกังวลลงหลังจากเมฆาส่งลิตาถึงมือหมอและรู้ว่าเธอปลอดภัยก็กลับบ้านมาทันที เพราะมีเรื่องต้องคุยกับนลินถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอเห็นว่าเธอกำลังนั่งอยู่บนเต