“อาสาม ท่านแม่ข้ายังไม่กลับมาอีกหรือเจ้าคะ”“ยังหรอก แม่เจ้าเพิ่งจะไปไม่กี่ชั่วยามเอง แต่นางทำอาหารอร่อยๆ ไว้ให้เจ้ากับพี่ชายด้วยนะ”เซี่ยฉงอวิ๋นนอนฟังเสียงพูดคุยที่ค่อยๆ ห่างออกไป พลางนิ่วหน้าเล็กน้อย สตรีนางนั้นเข้าตำบลไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างนางจะยังกลับมาอีกไหมนะ…“เสี่ยวเกอเจ้าบอกว่ามีคนอยู่ที
“ในเมื่อรู้ตัวว่าเสียมารยาท แล้วเจ้าจะยังยืนอยู่ต่อทำไมอีก ไม่รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าคุณชายข้าเล่า”รอยยิ้มบนใบหน้าเซี่ยหว่านหรูยังไม่ทันจางหาย เสียงเข้มๆ ของลู่จิ่วก็ดังขึ้น“มาเยือนเรือนผู้อื่น ไม่ทันกล่าววาจาเรียกเจ้าของบ้าน ก็แล่นเข้ามาในห้องของคนอื่น นี่ไม่ถือว่าเสียมารยาทหรอก แต่เจ้าก็แค่ไม่มีมาร
“น่ะ…นี่” คนจัดยาแสดงความลังเล มองเยว่อวิ๋นที มองท่านหมอของร้านที ตั้งแต่แม่นางผู้นี้เข้ามา ก็สั่งให้เขาจัดยาเป็นรายการยาว แต่ละชื่อที่เอ่ยออกมาล้วนไม่มีผิดเพี้ยน แสดงให้เห็นชัดเจนว่านางมีความรู้และเชี่ยวชาญในด้านนี้“ผู้หญิงคนนี้เจ้าพูดอะไรของเจ้า” คนจัดยายังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ เสียงตะคอกดุดันของหมอ
เยว่อวิ๋นมองห่อผ้าลายปักหรูหราในมือเฉียนซานครู่หนึ่ง ก่อนจะคว้ามาแกะออกดู นางคลี่ผ้าแผ่ออกกว้าง สายตามองดูเข็มเล็กเรียวบางที่วางเรียงรายบนผืนผ้าสีแดงอย่างพึงพอใจ“เท่าไร”“เอ่อ… เข็มเงินชุดนี้ราคาแปดสิบตำลึงขอรับ”แปดสิบตำลึงสำหรับคนทั่วไปถือเป็นจำนวนมหาศาล ขนาดข้าวสารยังจิน [2] ละแค่ไม่กี่อีแปะ ทว่
เยว่อวิ๋นที่ไม่รู้ความคิดในใจชิงหลัว ยังคงเดินซื้อของอย่างบ้าคลั่ง ทุกร้านที่นางไปเยือนล้วนมีข้าวของกองโตกองอยู่หน้าร้านไม่ต่างกัน โชคดีที่แต่ละร้านมีน้ำใจให้คนช่วยยกไปส่งยังที่จอดเกวียนของเซี่ยต้าจวง หญิงสาวจึงไม่ต้องแบกของเหล่านั้นจนหลังแอ่น“พี่สะใภ้ ยังต้องการจะซื้ออะไรเพิ่มอีกหรือไม่” ชิงหลัวหั
เยว่อวิ๋นไม่สนใจท่าทางโศกเศร้าอันไม่รู้ที่มาของชิงหลัว นางสอดส่ายสายตามองหาร้านของกิน ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับแผงขายเกี๊ยวน้ำด้านข้าง“ไปเถอะน้องสะใภ้ ข้าจะเลี้ยงอาหารเช้าเจ้า” พูดจบไม่รอให้ชิงหลัวตอบ ก็เดินนำหน้าไปยังเก้าอี้ตัวเตี้ยด้านหน้าร้านทันที“เถ้าแก่ เกี๊ยวน้ำสองชาม” เยว่อวิ๋นร้องสั่ง เถ้าแก่วั
“เจ้า!นางหญิงบ้านี่” จูจ้งสบถเสียงลั่น อยากลุกมาทุบตีคนที่ลงมือทำร้ายตนเองใจแทบขาดทว่าความเจ็บปวดจากกระดูกนิ้วที่บิดเบี้ยวทำให้เขาทรมานแทบตาย ไม่ต้องให้เยว่อวิ๋นลงมือซ้ำ เขาก็ร่ำไห้กรีดร้องขอความเมตตาไม่หยุดปากแล้ว“แม่นาง ท่านหมอจูเสียมารยาทจึงถูกสั่งสอนก็สมควรแล้ว แต่เรื่องของคุณหนูพวกเรานั้นหมดห
ดวงตาเยว่อวิ๋นพลันหรี่ลงอย่างไม่ชอบใจ คนที่ชี้หน้านางคือสตรีผู้อุ้มเด็กที่นางพบเมื่อเช้านั่นเอง อีกฝ่ายสวมชุดสีชมพูดอกท้อสดใส รูปลักษณ์อ่อนหวานน่ารักประดุจดอกไม้แรกแย้ม เพียงแต่ความเป็นปรปักษ์ของแม่นางผู้นี้จะพุ่งเป้ามาที่นางอย่างโจ่งแจ้งเกินไปไหม“ข้าบอกตอนไหนกันว่าเด็กคนนี้หมดหนทางรักษา” ดวงตาคมกร
ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร
อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา
ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ
“สงสารนางหรือ” ต้าเป่าที่ก้มหน้าได้ยินคำถามก็เงยหน้าขึ้นทันที“ไม่ขอรับ นางสมควรได้รับแล้ว” เขาจะสงสารนางได้อย่างไร สะใภ้ใหญ่จ้าวผู้นั้นมีเจตนาร้ายต่อมารดาเรื่องข่าวลือเสียหายคราวก่อนก็เป็นนางที่รับเงินสวีเหยามาใส่ร้ายท่านแม่ ตอนที่พวกเถี่ยโกว่มาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเขาก็จดชื่อนางไว้ในบัญชีแค้นแล้วต
ผู้ใหญ่บ้านเพิ่งพูดจบก็หันมาพบกับเยว่อวิ๋นยืนอุ้มเสี่ยวอวี้อยู่ ใบหน้าชายชราพลันเผยแววกระอักกระอ่วนให้เห็นวูบหนึ่ง คำพูดใดๆ ล้วนติดอยู่แค่ในลำคอแต่ยังโชคดีที่เยว่อวิ๋นนั้นสำเร็จวิชาขั้นสูงแล้ว คำพูดค่อนขอดลอยๆ ของผู้ใหญ่บ้านจึงไม่สามารถโจมตีทะลุผิวหน้าหนาๆ ของนางไปได้หญิงสาวเพียงยกมือลูบจมูกเบาๆ น
“แล้วกันไป ง่ายดายแบบนี้เลย แล้วชื่อเสียงลูกชายข้าล่ะ จ้าวฮวา คนเริ่มก่อนเป็นบ้านเจ้า ถึงตอนนี้ป้ายอุจจาระใส่ศีรษะต้าหว่างของข้าจนเหม็นแล้วคิดจะสะบัดก้นกันไปง่ายๆ งั้นหรือ ฝันไปเถอะยายแก่เจ้าเล่ห์!”“แล้วเจ้าจะเอาอย่างไร” ป้าจ้าวชักสีหน้าหงุดหงิด ต้าหว่างเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง โดนด่านิดด่าหน่อยจะเป็นอะไ
อีกทั้งสาเหตุที่นางขอให้เถี่ยโกว่กับต้าหว่างปิดบังเรื่องนี้ สาเหตุแท้จริงก็ไม่ใช่เพราะเรื่องสิ่งของเสียหน่อยสกุลฟางมีบุตรสาวถึงสามคน ส่วนบุตรชายกลับมีแค่คนเดียวเท่านั้น บิดามารดาของฟางฮัวจึงรักถนอมเขามาก ทว่าความรักที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี ฟางเฉาที่ถูกตามใจมาแต่เล็กก็เช่นกัน เขาโตมาจนอายุขนาดนี้กลั
หญิงที่อยู่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นกรีดร้องร่ำไห้สภาพน่าเวทนายิ่งนัก ทว่าหญิงสูงวัยผู้ลงมือกลับมิได้ผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ซึ่งเยว่อวิ๋นจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าสตรีสองนางนี้ไม่ใช่คนที่นางกับเซี่ยฉงอวิ๋นพูดถึงเมื่อวานนี้ฟางฮัวกับแม่สามีของนางนั่นเอง…“นางแพศยา เจ้าแต่งมาเป็นสะใภ้บ้านจ้าวเรา กินดื่มล้
เรื่องไม่เหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย ทว่าเยว่อวิ๋นที่นานทีจะเกิดเมตตาจิตไม่ได้เปิดโปงอีกฝ่ายออกไป ที่นางมาถามข่าวกับเฉียนซานก็แค่อยากจะประเมินความร้ายแรงของเรื่องนี้เท่านั้น และก็จริงดังที่คาดไว้เสียด้วยหากหลีจวินเป็นเพียงทายาทตระกูลชั้นสูงที่มาเที่ยวเล่น ตำบลซานซีทั่วไป มีหรือที่คนในพื้นที่จะไม่รู้เรื่อ