ฉันแทบจะเป็นลมคาแขนเรย์จิอยู่แล้ว!!! 😱
ไม่ใช่แค่เพราะไอ้มาเฟียบ้านี่มัน ‘คลั่งรัก’ แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม…
แต่เพราะตอนนี้…
ฉันกำลังจะถูกเปิดตัวเป็น ‘แฟน’ ของเขาต่อหน้าแก๊งมาเฟียทั้งหมด!!!!! 😱
งานเลี้ยงของแก๊งคุโรซาวะ
ในห้องจัดเลี้ยงสุดหรูที่เต็มไปด้วยเหล่ามาเฟียระดับสูงที่แต่งตัวเนี๊ยบชนิดที่ฉันไม่กล้าหายใจแรง…
โคมไฟแชนเดอเลียระยิบระยับ ตกกระทบกับคริสตัลบนโต๊ะอาหาร บรรยากาศทั้งหรูหราและเต็มไปด้วยแรงกดดัน ราวกับฉันกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่าที่พร้อมจะขย้ำทุกเมื่อ
และที่สำคัญ…
ฉันกำลังยืนจับมืออยู่กับ ‘หัวหน้าแก๊ง’ ที่โคตรจะอันตราย!!!!
“ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก…”
เสียงทุ้มต่ำของเรย์จิดังขึ้น พร้อมกับดวงตาคมกริบที่กวาดมองไปทั่วทั้งห้อง ออร่าเจ้าพ่อมาเฟียระดับสูงแผ่กระจายไปทั่วจนทุกคนต้องเงียบกริบ
ฉันรู้สึกถึงแรงกดดันจากมือที่จับฉันไว้…
เรย์จิกระชับมือฉันแน่นขึ้น ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“นี่คือแฟนของฉัน—”
“แค่แฟนเหรอครับ นายท่าน?”
!!!??? 😳💥💀
เสียงกวนๆ ดังขึ้นจากมุมห้อง ฉันหันไปมองก็เห็นว่าเป็นไอ้คินที่ยืนกอดอกยิ้มกริ่มอยู่!!!
“หืม?” เรย์จิเบือนสายตาไปมองคินที่ยังคงทำหน้ากวนประสาท
“ผมนึกว่าท่านจะแนะนำเธอว่าเป็น ‘เมีย’ ซะอีก”
คินพูดเสียงเรียบ...แต่น้ำเสียงแม่งโคตรกวนตีน!!!
“เห็นหวงขนาดนั้น”
พรืดดดดด!!!!!!!
ฉันแทบพ่นเลือดออกมา!
ไอ้บ้าาาาา!!! พูดอะไรออกมาฟะ!!!!
“เหอะ!” ฉันหันไปแยกเขี้ยวใส่คินทันที
“อย่ามากวนตีนฉันนะเว้ย!!”
“หืม?”
คินยิ้มกวนๆ พลางดันกรอบแว่นขึ้นเบาๆ (โอ๊ย! ฉันอยากจะปาแก้วไวน์ใส่หมอนี่!!!)
“ผมแค่พูดตามความจริง”
“ไอ้—!”
หมับ!
มือของเรย์จิกระชับแน่นขึ้นราวกับจะห้ามฉันไว้
“ฉันก็อยากจะแนะนำแบบนั้นอยู่หรอกนะ”
“!!??”
ฉันหันขวับไปมองหน้าเขาทันที
เฮ้ยๆๆๆ! ไอ้บ้านี่มันคิดอะไรอยู่ฟะ!!
ฉันยังคงช็อกสุดขีด หลังจากที่เรย์จิพูดประโยคทำลายระบบประสาทฉันไปเมื่อกี้!!!
“แต่กลัวว่าเธอจะเขินจนหนีไปก่อน” เรย์จิพูดต่อด้วยสีหน้าโคตรจริงจัง
“......”
ไม่ใช่ ‘กลัว’ แล้วโว้ยยย!!! ฉันอยากหนีจริงๆ แล้วววว!!!!
และก่อนที่ฉันจะทำอะไรได้—
“โฮ่ง!!” 🐶
เสียงเห่าของไทกะดังขึ้นทันที พร้อมกับที่มันเดินมาหยุดอยู่ข้างฉัน
…เอ่อ ไม่สิ มันเดินตามติดฉันแทบจะเงาตามตัวเลยต่างหาก!!!
ฉันหันไปมอง ก่อนจะเห็นเจ้าหมาตัวแสบยืนตัวตรง ดวงตาจ้องเขม็งไปทั่วงานราวกับกำลังประกาศว่า ‘เจ้าของข้าอยู่ตรงนี้!!!’
“เห้ยๆๆ! แล้วไอ้หมานี่มันเข้ามาในงานได้ไงฟะ!?” ฉันสะดุ้งเฮือก
“มันตามเธอมาเอง”
เรย์จิตอบหน้าตาย ราวกับเป็นเรื่องธรรมดาสุดๆ (เฮ้ย! นี่มันงานเลี้ยงมาเฟียนะเว้ย! ไม่ใช่งานโชว์สุนัข!!!)
“แต่นี่งานเลี้ยงนะเว้ย!!”
“แล้วไง?”
“ก็… มันควรอยู่ข้างนอกไม่ใช่เหรอ!?”
ฉันหันไปมองไทกะ ที่ตอนนี้กำลังนั่งลงข้างๆ ฉันอย่างสงบเสงี่ยม …แต่ตาของมันกลับจ้องคนรอบๆ ตัวฉันแบบพร้อมจะขย้ำสุดๆ!!!
โอ๊ยยย!! หมานี่มันคิดว่าฉันเป็นเจ้าของจริงๆ ไปแล้วใช่ไหมฟะ!!!
ฉันกำลังจะหันไปอ้อนวอน (?) ให้เรย์จิเอาหมานรกนี่ออกไปข้างนอกสักที แต่แล้ว—
“ฉันให้มันอยู่ข้างใน… เพราะมันต้องคอยดูแลเธอ”
เสียงเรียบๆ ของเรย์จิดังขึ้น น้ำเสียงนิ่งสนิท แต่กลับแฝงความอันตรายแปลกๆ
ฉันรู้สึกเหมือนอุณหภูมิในห้องลดลงไป 5 องศาในทันที!!!
“……”
“และถ้าใครคิดจะเข้าใกล้เธอโดยไม่ได้รับอนุญาต…”
“……”
“ฉันจะปล่อยมันกัด”
“!!!!!!!!!!”
เฮ้ยยย!!! ไอ้บ้านี่มันเอาหมามาขู่คนทั้งงานเลยเรอะ!!!
ฉันหันไปมองไทกะด้วยความสิ้นหวัง และแน่นอน…
มันกระดิกหางเบาๆ แต่ตาของมันยังคงจ้องแขกในงานเหมือนจะบอกว่า…
‘ใครแตะเจ้าของข้า = ข้าจะงับ!!!’ 🐶
ฉันแทบจะกรีดร้องออกมา โอ๊ยยย!!! ฉันไม่ต้องการบอดี้การ์ดเป็นหมาาาาา!!!!
“โอ๊ยยย! ไอ้หมาบ้า! เลิกทำตัวเหมือนเป็นบอดี้การ์ดฉันได้แล้ววว!!”
ไทกะกระดิกหาง แต่ยังคงทำหน้าเหมือนบอดี้การ์ดสุดเท่ของฉันต่อไป
…และที่แย่ที่สุดคือ—
“หึ…”
เสียงหัวเราะเบาๆ ของเรย์จิดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากของเขาที่โคตรจะเจ้าเล่ห์!!!
ให้ตายเถอะ!!!
ทั้งเจ้านายทั้งหมามันคลั่งรักขนาดนี้
ฉันจะหนีไปไหนได้อีกกกกก!!! 😱
ขณะที่ฉันกำลัง วุ่นวายกับไอ้หมาไทกะ ที่ทำตัวเป็นบอดี้การ์ดเกินเบอร์…
ฉันก็เหลือบไปเห็นภาพที่ทำให้ฉันต้องหันขวับ!!!
“เฮ้ย! พวกแกสองคนยืนทำอะไรฟะ!?”
ฉันอ้าปากค้าง เมื่อเห็นคินกับอัยย์กำลังยืนจ้องหน้ากันเงียบๆ!!!
“…”
“……”
ความเงียบแปลกๆ ปกคลุมระหว่างสองคนนี้
บรรยากาศรอบข้างราวกับตกอยู่ในมิติส่วนตัว เหมือนพวกเขากำลังคุยกันผ่านจิตวิญญาณ (?) โดยไม่ต้องใช้คำพูด!!!
“ฉันแค่แปลกใจ”
เสียงเรียบๆ ของคินดังขึ้นก่อน
“แปลกใจอะไรอีกล่ะ?”
อัยย์ขมวดคิ้ว ใบหน้ายังคงมีท่าทางหงุดหงิดตามสไตล์เธอ แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความสงสัย
“เธอสวยกว่าที่ฉันคิด”
“พรืดดดด!!!”
เฮ้ยๆๆๆ!!! ทำไมไอ้คินมันพูดเหมือนพวกพระเอกซีรีส์วะ!!!
“ปกติฉันไม่ค่อยเห็นเธอแต่งตัวจัดเต็มแบบนี้”
คินยิ้มบางๆ สายตาที่มองอัยย์เหมือนกำลังสำรวจรายละเอียดของเธออย่างตั้งใจ…
โอ๊ยยย!!! หมอนี่มันพูดจริงหรือกวนประสาทฟะเนี่ย!!!
อัยย์สะดุ้งไปเสี้ยววินาที…
ก่อนจะรีบสะบัดหน้าหนี แต่ว่า… แก้มของเธอแดงแปร๊ดเป็นมะเขือเทศไปแล้ว!!!!
“หุบปากไปเลย!”
“หืม… เขินเหรอ?”
เสียงของคินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์!!!
“ฉันไม่เขินเว้ย!!!”
“หึ…”
และในจังหวะนั้นเอง—
คินโน้มตัวเข้าไปใกล้อัยย์… ใกล้มากจนแทบจะกระซิบข้างหูเธอ!!!
“เขินจริงๆ แหละ ดูก็รู้”
“!!!!!!”
อัยย์ชะงักตัวแข็งเป็นหิน ใบหน้าที่แดงอยู่แล้ว กลายเป็นระเบิดสีแดงเข้มระดับแม็กซ์!!!
เฮ้ยยย!!! ทำไมฉันรู้สึกว่าอัยย์กำลังจะต่อยคินฟะ!!?
อัยย์กะพริบตาถี่ๆ เหมือนกำลังประมวลผลว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตตัวเอง…
ก่อนที่เธอจะสะบัดหน้าพรืดออกมา อย่างคนที่กำลังหนีความจริงสุดชีวิต!!!
“เหอะ!”
“ฉันแค่รำคาญนายเฉยๆ!”
“แล้วทำไมหน้าแดง?”
คินยังคงยิ้มกวนๆ หน้าตายสุดๆ
“เพราะอากาศร้อนเฟ้ย!!”
“แอร์ในนี้ 20 องศา”
“ไอ้—!!!” 😡
โอ๊ยยยย!!! ไอ้สองคนนี้มันกัดกันน่ารักเกินไปแล้วววว!!!
ฉันที่ยังมึนกับเหตุการณ์ระหว่าง ‘ไอ้หมานรกไทกะ’ กับ ‘คู่กัดสุดฟิน’ อย่างคินกับอัยย์
ก็รู้สึกได้ว่า…
เรย์จิกำลังจ้องฉันอยู่
ฉันกลืนน้ำลายเอื๊อก รู้สึกได้ถึงแรงกดดันล่องหนที่หนักขึ้นเรื่อยๆ
ฉันค่อยๆ หันไปมองเขาช้าๆ …
…และก็พบว่า เขายืนอยู่ใกล้กว่าที่คิด ดวงตาคมสีนิลกำลังจ้องฉัน แบบโคตรจริงจัง!!!
“…อะไรฟะ?”
ฉันถามอย่างระแวงสุดๆ (เฮ้ย! อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้มั้ยวะ!!!)
เรย์จิไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่จ้องฉันนิ่งๆ
สายตาอ่านไม่ออกแบบนั้น ทำให้ฉันเริ่มลนลานขึ้นมาแปลกๆ!!!
“…ฉันดีใจนะ”
“หา?”
“ที่เธอยอมมา”
“!!!!”
ฉันสะดุ้งเฮือก— หัวใจเต้นกระตุกวูบอย่างไม่มีเหตุผล!!!
เขายังคงจ้องฉันนิ่งๆ ไม่กะพริบตา ราวกับต้องการให้คำพูดของเขาฝังลึกเข้าไปในใจฉัน
“ฉันนึกว่าเธอจะหาทางหนีไปซะก่อน”
น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ฟังดูโคตรลึกซึ้ง...
ฉันรีบสะบัดหน้าหนี พยายามจะไม่ให้ตัวเองเผลอไหลไปกับคำพูดของหมอนี่อีกแล้ว!!!
“ฉันก็อยากหนีอยู่หรอก!” ฉันเบะปาก ก่อนจะทำหน้ามุ่ยสุดชีวิต
“แต่ติดที่ว่าฉันไม่มีทางรอดจากนายไง!”
ฉันพูดไปกอดอกไป โอ๊ย! คนบ้าอะไรคลั่งรักขนาดนี้ฟะ!!!
“ดีแล้ว”
เรย์จิพูดเสียงเรียบ
ก่อนที่ฉันจะตั้งตัวได้—
เขาโน้มตัวลงมาใกล้… ใกล้มาก… ใกล้จนฉันได้กลิ่นน้ำหอมโทนเย็นเฉียบจากตัวเขา!!!
เฮ้ยๆ ๆ!!! ใกล้ไปแล้วโว้ยยย!!!
…และก่อนที่ฉันจะกระโดดหนี—
ริมฝีปากของเขาก็กระซิบที่ข้างหูฉัน
“เพราะฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่”
“!!!!!!!!!!!”
โลกทั้งใบของฉันสั่นสะเทือนเป็นริกเตอร์ 9.5!!!
หัวใจฉันแทบหยุดเต้น ใบหน้าร้อนฉ่าราวกับถูกไฟเผา!!!
ฉันรีบดีดตัวออกห่างสุดแรง!!!
เฮ้ยยย!!! มาเฟียบ้านี่มันคลั่งรักเกินไปแล้วววว!!!
ขณะที่พวกเรายืนคุยกันอย่างปกติ แต่สายตาคนรอบข้างมันโคตรจะไม่ปกติ!!!ฉันรู้สึกได้ว่า…ตอนนี้พวกเราดูเหมือน ‘คู่รักมาเฟียที่รักกันสุดๆ’ ในสายตาของทุกคนในงาน!!!เฮ้ยๆ ๆ ๆ!! ไอ้บ้าเรย์จิ! แค่จับมือฉันไว้แบบนี้มันก็เป็นข่าวฉาวในวงการมาเฟียได้แล้วไหมฟะ!!!ในจังหวะนั้นเอง—“โอ้ น่าเสียดายจริงๆ นะครับ คุณเรย์จิ”!!!??? 😳เสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยแรงกดดันดังขึ้นจากอีกฝั่งของห้องจัดเลี้ยงฉันรีบหันไปมอง…และก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากผู้ชายในชุดสูทเนี้ยบแต่โคตรน่ากลัว ยืนขนาบข้างด้วย ลูกน้องชุดดำหลายคน!!!เขามีสายตาแบบนักล่า… แผ่ออร่าอันตรายเต็มพิกัด!!!ข้างๆ เขามีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่…เธอสวยมาก…ผมดำยาวสลวย ดวงตาคมเย็นชา ใส่ชุดเดรสรัดรูปดูหรูหราแต่ปัญหาคือ —แต่สายตาที่เธอมองฉัน โคตรจะน่าขนลุก!!!“โอ้…”เสียงกระซิบข้างหูดังขึ้น ฉันหันไปมอง ก็พบว่าอัยย์กำลังทำตาเป็นประกายวิบวับ“ฉันได้กลิ่นสงครามล้าววว”“ไม่ต้องพูดเลยนะเว้ยยย!!!” ฉันกระซิบกลับไปทันทีฉันอยากจะหนีออกไปจากตรงนี้แล้วโว้ยยย!!! ทำไมฉันต้องมาเป็นตัวเอกในสงครามนางร้าย (?) มาเฟียด้วยฟะ!!!เรย์จิหรี่ตามองผู้ชายตรงหน้าเล็กน้อย ก
หลังจากงานเลี้ยงสุดอลหม่านจบลง…ฉันคิดว่าฉันจะได้กลับบ้านไปนอนกอดจอยเกมแบบสงบสุขเสียที…แต่เปล่าเลย!!🚗 บนรถหรูของเรย์จิฉันนั่งข้างเรย์จิ ส่วนอัยย์กับคินนั่งข้างหลังรถคันนี้มันหรูเกินไป!!เบาะหนังนุ่มสุดๆ แถมยังมีไฟในรถโทนสีอุ่นๆ ให้บรรยากาศเหมือนหนังมาเฟียสุดหรู...แต่ปัญหาคือ...ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมาเฟียไปด้วยแล้วโว้ยยย!!“เฮ้อออ!! ในที่สุดก็จบซะที!”เสียงบ่นแบบหมดพลังของอัยย์ดังขึ้นจากเบาะหลังเธอบิดขี้เกียจสุดชีวิต แล้วเอนตัวพิงเบาะเหมือนคนที่ผ่านสงครามโลกมา“ฉันว่าฉันหมดแรงไปหมดละ!”“อืม” คินพยักหน้า “วันนี้เธอก็ดูตื่นเต้นดีนะ”“เฮ้ยๆๆ!! อย่ามาพูดเหมือนฉันสนุกกับงานเลี้ยงมาเฟียสิวะ!”อัยย์หันไปแยกเขี้ยวใส่คินแบบไม่ไว้หน้า“หืม?” คินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย“ดูเธอจะชอบเวลาทะเลาะกับฉันนะ”“ไอ้—!!”!!!???โอ๊ยยย!! พวกมันกัดกันอีกแล้วววว!!ฉันหันไปมอง เรย์จิ ที่นั่งข้างๆ … หมอนี่หลับตาเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่แต่แล้ว…เสียงเขาก็ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย“ดึกมากแล้ว” เรย์จิพูดขึ้น“คืนนี้พวกเธอค้างที่บ้านของฉันเถอะ”“......”“ห๊าาาาาาา!?!?!”ฉันเบรกตัวเองจนแทบจะพุ่งออกนอกหน้า
หลังจากที่ฉันถูกบีบให้เลือกระหว่าง ‘นอนกับเรย์จิ’ หรือ ‘นอนกับไทกะ’...ฉันก็—“ฉันจะนอนกับไทกะ!!!!”ฉันประกาศลั่นแบบไม่ลังเล!!!ยังไงก็ไม่นอนกับไอ้มาเฟียบ้านี่เด็ดขาด!!!…แต่เหมือนฉันจะลืมไปว่า…ไทกะเป็นหมาของใครและไอ้เจ้าของหมานี่...มันโคตรเอาแต่ใจ!!!!!คฤหาสน์คุโรซาวะ – ห้องนอนสุดหรู“เฮ้ย! เดี๋ยวสิวะ!! ทำไมฉันต้องมานอนที่นี่!!!??”ฉันยืนตัวแข็งอยู่กลางห้องนอนสุดหรูระดับโรงแรมห้าดาวของคฤหาสน์คุโรซาวะ!!!???แชนเดอเลียร์ระยิบระยับ โซฟากำมะหยี่สุดแพง วิวจากระเบียงที่มองเห็นเมืองทั้งเมือง—นี่มันห้องนอนมาเฟียหรือเพนต์เฮาส์เวกัสฟะ!!!?แต่ที่ทำให้ฉันช็อกกว่าอะไรทั้งหมดคือ…เรย์จิถอดสูทออกแล้ว!!!…และกำลัง ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบน!!!!!!???“หืม?”เขาหันมามองฉันนิ่งๆ ก่อนจะพูดหน้าตาย“เธอเป็นแฟนฉัน นอนกับฉันก็ถูกแล้ว”“ไอ้มาเฟียบ้าาาาาาา!!!!”“เธอบอกจะนอนกับไทกะ แต่มันนอนที่ห้องฉัน”“!!!!”พรืดดดดดด!!! ฉันแทบล้มทั้งยืน!!!นี่มันแผนของหมากับเจ้าของใช่มั้ยฟะ!!!!?“ทำหน้าตกใจทำไม?” เรย์จิปรายตามองฉันก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียงซึ่งใหญ่มากกกกกก!!!นี่มันเตียงระดับ VIP ที่นอนได้ 4 คนสบายๆ!!!โอ
🖤 [Part พิเศษ – ความในใจของเรย์จิ]ในห้องนอนเงียบสงัดภายใต้แสงไฟสลัวนวลอุ่นที่ไล้ผนังห้องหรูไปอย่างเนิบช้าร่างบางของมินาเอะนอนหลับอย่างสงบเธอขดตัวเล็กๆ อยู่ในอ้อมกอดของชายที่เธอทั้งหวาดกลัวและ...อาจกำลังเริ่มวางใจแต่เรย์จิ—มาเฟียหนุ่มผู้เป็น ‘มังกรดำแห่งคุโรซาวะ’ คนนี้...กลับยังไม่หลับไม่ใช่เพราะเสียงรบกวน ไม่ใช่เพราะคิดเรื่องงาน ไม่ใช่เพราะระวังภัย…แต่เพราะคืนนี้ผู้หญิงที่เขารักอยู่ข้างกายเขาจริงๆ เป็นครั้งแรกเขาหลุบตามองใบหน้าเล็กๆ ที่ซุกอยู่ตรงอกแกร่งของเขาอย่างแผ่วเบาสายตาคมเย็นที่ใครๆ ต่างหวาดกลัว—ในเวลานี้กลับอ่อนโยนจนน่าตกใจมือใหญ่เลื่อนขึ้นไปอย่างช้าๆปลายนิ้วไล้เส้นผมนุ่มของเธอราวกับกลัวจะทำให้ตื่น“เธอ… ช่างอันตรายเหลือเกิน”เขาคิดในใจอย่างเงียบงัน…ไม่ใช่อันตรายเพราะเธอถือปืนแต่เพราะเธอถือ ‘หัวใจเขา’ ไว้โดยไม่รู้ตัวเรย์จิเคยผ่านผู้หญิงมากมายเคยนอนกับผู้หญิงทุกคน...โดยไม่รู้สึกอะไรแต่คืนนี้กลับต้อง…อดทนและมากกว่านั้น…ห้ามใจตัวเองแทบตาย“ฉันไม่อยากให้เธอเกลียดฉัน”เสียงในใจเขาเอ่ยเบา ๆถ้าเป็นเมื่อก่อน—เขาคงจะไม่ลังเลแม้แต่นิดจะกอดแรงๆ จะจูบ จะครอบครองอย
ในค่ำคืนที่ไม่สงบ (เลยสักนิด)“เฮ้ย!! ออกไปนะเว้ย!!”เสียงโวยวายของอัยย์ดังลั่นห้องขณะที่เธอยืนชี้นิ้วกราดใส่คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเหมือนเดินเข้าห้องตัวเอง“นี่มันห้องฉัน!!”และไอ้คนหน้าด้านคนนั้น—ก็คือคิน มือขวาแห่งแก๊งคุโรซาวะ ผู้มีหน้าตาหล่อเนี๊ยบ กวนตีนขั้นโปร…ที่ตอนนี้กำลังยืนกอดอกในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนสุดเท่ แล้วกวาดตามองห้องอย่างสบายใจสุดชีวิต“จริงเหรอ?” คินเอียงคอนิดๆ“ประตูมันเปิดถึงกันง่ายขนาดนี้… แสดงว่าเป็นห้องคู่ของคนสนิทนะ”“ไม่มีคำว่า ‘คนสนิท’ โว้ย!!!”อัยย์หน้าแดงแปร๊ด! ทั้งเพราะโกรธและเพราะ—เขาอยู่ใกล้เกินไป!!“แต่นายท่านเรย์จิจัดห้องให้แบบนี้เองนะ” คินผลักแว่นขึ้นอย่างเท่ๆ ก่อนพูดต่อเสียงเรียบ“จะให้ฉันไปนอนโซฟาแข็งๆ ก็ใจร้ายไปหน่อยนะ”“ใจร้ายตรงไหน! นายมันมาเฟียนะเว้ย!!!”“ฉันเป็นบอดี้การ์ดของเธอด้วยนะ”เสียงนิ่งๆ แฝงความเจ้าเล่ห์ ทำเอาอัยย์อยากเอาหมอนฟาดหัวเขาให้รู้แล้วรู้รอด!แล้วเขาก็…เดินดุ่มๆ ไปวางหมอนอีกใบลงบนเตียงของเธอราวกับว่าเป็น ‘ห้องของตัวเอง’ ตั้งแต่ชาติปางก่อน!!!🛏️ สมรภูมิเตียงที่ไม่มีใครยอมใคร!?“หยุดเลยนะ!!”อัยย์รีบคว้าหมอนมากั้นไว้ตรงกลาง
แสงแดดนวลอ่อนยามเช้า ส่องลอดผ้าม่านสีขาวบางเบาเข้ามาแตะผิวแก้มของฉันอย่างแผ่วเบา ราวกับจะปลุกให้ลืมตาตื่นขึ้นมาสู่เช้าวันใหม่ที่สงบ…...ถ้าหากมัน สงบจริง ๆ น่ะนะแต่ปัญหาคือ—ฉันไม่ได้ตื่นมาพร้อมนอนอยู่คนเดียวบนเตียง!!!!ฉันตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอยู่ในอ้อมกอดของมาเฟียสุดหล่อ!!!ฉันรู้สึกตัวตื่นแบบงัวเงีย…สิ่งแรกที่ฉันเห็นทันทีที่ลืมตาคือ…ใบหน้าของเรย์จิอยู่ใกล้ฉันแบบระยะประชิด!!โคตรใกล้! ใกล้ชนิดที่ลมหายใจของเขาระบายมาโดนหน้า!กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเขาทำฉันมึนไปสามวิจมูกโด่งเรียว… ขนตายาวระริก… และริมฝีปากที่แนบสนิทแต่ที่ช็อกกว่าคือ…แขนของเขา กำลังโอบเอวฉันแน่นแบบไม่ยอมปล่อย!!!!“ว๊ากกกกกกกก!!!!”ฉันร้องลั่นแบบไม่รู้ตัว พร้อมดิ้นพรวดถอยหนีจากอ้อมกอดตุ้บ!“โอ๊ยยยยยยยยยยย!!!! เจ็บบบบ!!!”ฉันลงไปกองอยู่บนพรมหนานุ่มข้างเตียง กุมก้นตัวเองด้วยสีหน้าสิ้นหวังพอเงยหน้ามองขึ้นไปบนเตียง—เรย์จิก็ลืมตาพอดีเขายกตัวลุกขึ้นช้า ๆ สายตายังดูง่วงนิดๆ แต่…ก็โคตรหล่อใบหน้าเงียบขรึมของเขาหันมามองฉันที่กำลังนั่งงออยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“หืม… ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำถามเบาๆ“นาย!!! นายกอดฉ
สถานที่: คฤหาสน์คุโรซาวะ – เวลา 14:48 น.บ่ายวันหนึ่ง ที่ควรสงบเหมือนทุกวันในรั้วคฤหาสน์มาเฟีย…แต่ทันใดนั้น—เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก็ดังขึ้นจากรั้วหน้าวรู๊มมมมมมมมมมมมมมมม—!!เสียงท่อแต่งของมอเตอร์ไซค์สไตล์คัสตอมกระแทกโสตประสาทอย่างจังรถยนต์กันกระสุนของแก๊งคุโรซาวะที่จอดอยู่เรียงรายถึงกับสั่นสะเทือนเล็กน้อยตามจังหวะเบรกหัวทิ่มของขบวนชายหนุ่มที่ขี่นำ ถอดหมวกกันน็อกอย่างช้าๆผมสีเงินซีดถูกลมตีปลิวพลิ้วเบาๆ เหมือนฉากเปิดตัวของวายร้ายที่สาวๆ พร้อมจะตกหลุมรักในทันทีนัยน์ตาสีอำพันทอแสงแหลมคม—เหมือนเหยี่ยวที่มองเป้าหมายแม้จะอยู่ไกลหลายไมล์ซัน… เดินอย่างไม่เร่งรีบ ท่ามกลางสายตาระแวดระวังของบอดี้การ์ดเกือบสิบชีวิตเขายกมือขึ้นเหมือนจะบอกว่า ‘ใจเย็น’แต่รอยยิ้มบางบนใบหน้านั้น… กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบอกว่า ‘ถ้ายิงมา… ฉันจะสวนหมด’เสียงกระซิบของคนเฝ้าระวังดังในวิทยุ:“บุคคลตรงหน้า…คือ ‘วายุ ซัน’ หัวหน้าแก๊งวายุ ย้ำ—หัวหน้าแก๊งวายุ กำลังเข้าพื้นที่!!”💥 [Flashback สั้น]📍 หลายปีก่อน - ในวงล้อมการฝึกงานของโลกใต้ดินเรย์จิ และ ซัน เคยยืนเคียงข้างกัน—ไม่ใช่เพราะศรัทธา แต่เพราะผลประโยช
ในร้านราเมนญี่ปุ่นบรรยากาศอบอุ่นกลางเมือง โต๊ะไม้สีเข้มเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นน้ำซุปทงคตสึหอมฉุยลอยอ้อยอิ่งไปทั่วโต๊ะริมหน้าต่างที่ห่างจากลูกค้าคนอื่น ถูกจองไว้ล่วงหน้าโดยชายในชุดดำขรึม ผู้ที่ใครในร้านต่างเหลียวมองอย่างไม่กล้าเข้าใกล้—แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว“นี่มันอะไรกันฟะ…”ฉันมองกระจกในร้านราเมนร้านโปรดของตัวเอง พลางพึมพำเบาๆฉันนั่งอยู่ริมหน้าต่างโต๊ะสองที่ (บวกอีกหนึ่งจานชามสำหรับหมา)ใส่เสื้อฮู้ดตัวเก่ง ผูกผมลวกๆ แบบเนิร์ดประจำตัวแต่ปัญหาคือ—ไอ้คนตรงข้ามฉันน่ะ… แม่งแต่งตัวหล่อจัดเต็มระดับพระเอกซีรีส์มาเฟียเวอร์ชั่นดาร์ก!!เรย์จิในชุดเชิ้ตดำ กางเกงสเลคเรียบกริบ เสื้อนอกตัวบางพาดไหล่นั่งไขว่ห้าง… กำลังเปิดเมนูราเมนเหมือนกำลังประชุมกับแก๊งมาเฟียในร้านชิลล์ๆและที่ข้างเก้าอี้ของฉัน—เจ้าหมาชิบะอินุตัวกลมที่ชื่อ ไทกะนั่งอย่างสง่างาม (?) พิงขาฉันอยู่มีจานอาหารหมาพิเศษของทางร้านอยู่ตรงหน้าพร้อมถ้วยน้ำ และพนักงานสาวที่ถ่ายรูปรัวๆ เพราะ “คุณหมาน่ารักมากกกก!”“โฮ่ง~”มันหันมามองฉันแล้วกระดิกหาง เหมือนจะบอกว่า“เธอนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้าของอย่างเรย์จิ พามาเดทด้วย!”เงียบบบบ!!
บ้านไม้โบราณหลังใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนชาเขียวขจี แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายสิบปี แต่ทุกเส้นสายของสถาปัตยกรรมยังถูกดูแลไว้ราวกับหยุดเวลาเอาไว้ที่วันแรกกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบชาถูกต้มจนเดือดเบาๆ คลุ้งไปทั่วห้องชายชราร่างผอม ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยนั่งอยู่หลังชุดน้ำชา มือที่เคยแน่นิ่งกลับสั่นเล็กน้อยขณะรินชา แต่เสียงของเขายังคงราบเรียบ แม้จะฟังดูคล้ายกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่“...ไม่คิดเลยนะ ว่าแกจะยอมกลับมาเหยียบที่นี่อีก”น้ำเสียงแหบพร่า แฝงทั้งแปลกใจและไม่ไว้ใจ ขณะที่ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ยกถ้วยชาขึ้นมาหมุนเบาๆ ในมือเขาเป็นชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีดำสนิท ติดกระดุมเรียบร้อยถึงลำคอ ราวกับจงใจปิดทุกความรู้สึกไว้ใต้ความสุภาพแต่แค่สบตา... ก็รู้ได้ทันทีว่า‘สุภาพ’ ไม่ได้แปลว่า ‘ปลอดภัย’ดวงตาสีเทาน้ำเงิน ของเขาดูจะขัดกับบรรยากาศสงบสุขของห้องเพราะในแววตาคู่นั้น... มีรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่เหมือนงูเห่า—เงียบ แต่พร้อมฉกเสมอซันชายหนุ่มผู้หายสาบสูญจากวงการมาเฟียไปนานเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาวันนี้... เขากลับมาแล้วพร้อมกับลมหายใจของสายลมแปลกประหลาด ที่ไม่ได้หอบเพียงความคิดถึง...แต่หอบภัยมาด้วย
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ลอดผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ บรรยากาศเย็นสบายชวนให้อยากหลับต่อแต่สิ่งที่ทำให้อัยย์ต้องค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา...คือวงแขนของใครบางคนที่ยังโอบรอบเอวเธอไว้แน่นไม่ปล่อยร่างกายของเธอแนบชิดอยู่ในอ้อมอกของเขา แผ่นอกอุ่นแน่นที่เธอนอนซุกหน้าอยู่…กลิ่นกายเขาอ่อนๆ ยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูกและที่สำคัญที่สุดคือ—ทั้งเธอและเขา… เปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนนั้นอัยย์ตัวแข็งทื่อทันทีหัวใจเต้นแรงเหมือนจะหนีออกจากอกแขนแกร่งของคินพาดอยู่บนเอวเธอมือของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น…แน่นในแบบที่เหมือนกลัวว่าเธอจะหายไป ถ้าเผลอหลับอีกครั้งเสียงลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ ช้า… อบอุ่น… และใกล้มาก มากจนเธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเบาๆ เคล้าไปกับของตัวเองอัยย์รู้สึกเหมือนทั้งร่างจะระเบิด ไม่ใช่เพราะตกใจแต่เพราะความเขินมันพุ่งจนแทบกลายเป็นไอ!!!นี่เรานอนแบบนี้กับเขาทั้งคืนเลยเหรอ!?โอ๊ยยยย… แค่คิดก็หน้าร้อนจนแทบระเบิดเป็นพลุ!เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสายตาเธอเลื่อนขึ้นไปมองใบหน้าของเขา ใบหน้าหล่อเข้มที่ดูสงบขณะหลับ ขนตาเรียงสวย ริมฝีปากนิ่งเฉย และแววตาที่ยังปิดอยู่เขาหล่อชะมัด...ยิ่งนอน
🌙 ค่ำคืนนั้น... อากาศเย็นลงเล็กน้อยลมพัดเอื่อยๆ ผ่านม่านหน้าต่างที่เปิดอยู่อัยย์เดินกลับขึ้นห้องเงียบๆ หลังเพิ่งคุยกับมินาเอะเสร็จ...เรื่องแม่ของเรย์จิ ที่ทำเพื่อนของเธอเครียดจนน้ำตาแทบจะไหลและพอคุยจบแล้ว… อัยย์ก็เผลอบ่นออกมาทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งง่วง ในคราวเดียวกันแต่เพียงไม่ถึงสิบนาทีต่อมา—เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาก็อก... ก็อก...อัยย์ชะงัก เงยหน้าจากมือถือ แล้วเดินไปเปิดประตูด้วยความสงสัย...และภาพที่เธอเห็นตรงหน้าก็ทำให้เธอต้องหยุดนิ่งไปทันทีคิน ยืนอยู่ตรงนั้นในมือถือกล่องข้าวสีเรียบๆ กล่องหนึ่ง“นี่นาย… มาทำไม” เธอขมวดคิ้ว แต่ถามเสียงเบากว่าปกติ“เธอบ่นว่าหิว” คินพูดเสียงเรียบ แล้วยื่นกล่องข้าวให้เธอ“ฉันแค่…จำได้เฉยๆ”อัยย์ชะงักไปไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาหวานหรือทำให้ใจละลายแต่เพราะคำพูดของเขา... ไม่เคยหวานเลยและนั่นแหละ...ที่ทำให้หัวใจของเธอสะดุดมากกว่าเดิม🥣สุดท้าย—เธอก็ต้องยอมให้เขาเข้ามานั่งในห้องและตอนนี้ทั้งสองคนก็กำลังนั่ง ‘กินข้าวด้วยกัน’ แบบงงๆคินนั่งพิงขอบโซฟาด้วยท่าทางสบายๆมือหนึ่งถือแก้วกาแฟร้อน อีกมือวางไว้บนเข่าข้างหน้าเขามีกล่องขนมเล็
หลังจากคืนนั้น...ฉันกับอัยย์ก็ไม่ได้กลับไปที่คอนโดของตัวเองอีกเลยเรย์จิเหมือนตัดสินใจไปแล้วแบบไม่ถามใครเขาสั่งลูกน้องหน้าโหดของเขา—ซึ่งโหดจนแค่เดินเฉียดก็กลั้นหายใจแล้ว ไปขนของทั้งหมดของฉันกับอัยย์มาไว้ที่คฤหาสน์หลังโตของเขาเรียบร้อยฉัน... นอนกับเรย์จิในห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีเจ้าหมาไทกะตัวแสบจอมขโมยหมอนนอนด้วยส่วนอัยย์—นางก็โดนจัดให้นอนห้องติดกับไอ้คิน (แบบบังเอิญ... ที่ตั้งใจมากกกก)และจากประสบการณ์การสังเกตมาหลายวันฉันขอยืนยัน ณ จุดนี้ว่าสองคนนี้... ต้องมีซัมติงกันแน่นอน!!! 😏ชีวิตในคฤหาสน์...หรูหราอย่างกับหลุดเข้ามาอยู่ในซีรีส์เกาหลีตระกูลมาเฟียระดับเวิลด์คลาสฉันกับอัยย์แทบไม่ต้องทำอะไรเดินไปทางไหนก็มีแม่บ้านคอยรับใช้ หันไปอีกมุมก็เจอบอดี้การ์ดที่หน้าตาเหมือนหลุดออกมาจากเกม GTA คอยยืนขรึมๆ กันเป็นแพ็คฉันใช้ชีวิตอย่างกับ ‘ควีนแห่งโลกมาเฟีย’ในห้องนอนมีเครื่องเกมทุกเครื่องที่เคยฝันถึงคอมพิวเตอร์สเปกเทพสำหรับทำงานชุดนอนผ้านุ่มระดับพรีเมียม และหมอนที่นุ่มกว่าชีวิตฉันทั้งชีวิตรวมกัน...คือถ้าจะให้ออกจากที่นี่ตอนนี้คงต้องลากฉันไปทั้งเตียงแต่ในวันที่ชีวิตกำลังชิลๆ อย่างบ้าคล
ลมบนยอดเขายังคงพัดเอื่อยเบา เย็นเฉียบแต่ไม่หนาวเกินใจจะทนแสงไฟจากเมืองเบื้องล่างยังส่องสว่างราวกับโลกทั้งใบไม่มีคำว่าหลับใหลมือของเขายังคงกุมมือฉันไว้แน่น—อุ่น... และมั่นคงและฉัน... ก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ถอย... ไม่หนีทั้งที่ควรจะวิ่งหนีไปให้ไกลแต่กลับอยากอยู่ใกล้เขาอีกนิดเดียวแค่... อีกนิดเดียวก็ยังดี“หนาวเหรอ?”เสียงเขาดังขึ้นเบาๆ ข้างหูฉันสะดุ้งเล็กน้อย สั่นนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าหนาว หรือหัวใจมันเต้นแรงจนร่างกายเบาหวิว“อืม… นิดหน่อย” ฉันตอบกลับเสียงเบาทันใดนั้น—ฟึ่บเขาถอดเสื้อสูทนอกของตัวเอง แล้วเอามาคลุมบ่าฉันไว้อย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร… แค่ทำแค่นั้น…แค่นั้นจริงๆแต่กลับทำให้ใจฉัน... เหมือนจะหลอมละลาย ฉันหันไปมองเขาช้าๆ แล้วก็พบว่าเขามองฉันอยู่ก่อนแล้ว…สายตาคมคู่นั้น ไม่แข็ง ไม่เย็นชา และไม่น่ากลัวเหมือนตอนเจอกันครั้งแรกมันดูอ่อนโยน...และจริงใจจนฉันรู้สึกว่าโลกทั้งใบเงียบไปเลยเรายืนใกล้กันแค่คืบเดียว ไม่รู้ว่าฉันขยับไปหาเขา หรือเขาขยับเข้ามาใกล้ฉันแต่เมื่อระยะห่างนั้นแคบลงจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น...ตุบๆ อยู่ข้างหูเขาก็เอ่ยออกมาช้าๆ นุ่มนวลและจริงจัง“ขอโทษนะ…
ในร้านราเมนญี่ปุ่นบรรยากาศอบอุ่นกลางเมือง โต๊ะไม้สีเข้มเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นน้ำซุปทงคตสึหอมฉุยลอยอ้อยอิ่งไปทั่วโต๊ะริมหน้าต่างที่ห่างจากลูกค้าคนอื่น ถูกจองไว้ล่วงหน้าโดยชายในชุดดำขรึม ผู้ที่ใครในร้านต่างเหลียวมองอย่างไม่กล้าเข้าใกล้—แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว“นี่มันอะไรกันฟะ…”ฉันมองกระจกในร้านราเมนร้านโปรดของตัวเอง พลางพึมพำเบาๆฉันนั่งอยู่ริมหน้าต่างโต๊ะสองที่ (บวกอีกหนึ่งจานชามสำหรับหมา)ใส่เสื้อฮู้ดตัวเก่ง ผูกผมลวกๆ แบบเนิร์ดประจำตัวแต่ปัญหาคือ—ไอ้คนตรงข้ามฉันน่ะ… แม่งแต่งตัวหล่อจัดเต็มระดับพระเอกซีรีส์มาเฟียเวอร์ชั่นดาร์ก!!เรย์จิในชุดเชิ้ตดำ กางเกงสเลคเรียบกริบ เสื้อนอกตัวบางพาดไหล่นั่งไขว่ห้าง… กำลังเปิดเมนูราเมนเหมือนกำลังประชุมกับแก๊งมาเฟียในร้านชิลล์ๆและที่ข้างเก้าอี้ของฉัน—เจ้าหมาชิบะอินุตัวกลมที่ชื่อ ไทกะนั่งอย่างสง่างาม (?) พิงขาฉันอยู่มีจานอาหารหมาพิเศษของทางร้านอยู่ตรงหน้าพร้อมถ้วยน้ำ และพนักงานสาวที่ถ่ายรูปรัวๆ เพราะ “คุณหมาน่ารักมากกกก!”“โฮ่ง~”มันหันมามองฉันแล้วกระดิกหาง เหมือนจะบอกว่า“เธอนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้าของอย่างเรย์จิ พามาเดทด้วย!”เงียบบบบ!!
สถานที่: คฤหาสน์คุโรซาวะ – เวลา 14:48 น.บ่ายวันหนึ่ง ที่ควรสงบเหมือนทุกวันในรั้วคฤหาสน์มาเฟีย…แต่ทันใดนั้น—เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก็ดังขึ้นจากรั้วหน้าวรู๊มมมมมมมมมมมมมมมม—!!เสียงท่อแต่งของมอเตอร์ไซค์สไตล์คัสตอมกระแทกโสตประสาทอย่างจังรถยนต์กันกระสุนของแก๊งคุโรซาวะที่จอดอยู่เรียงรายถึงกับสั่นสะเทือนเล็กน้อยตามจังหวะเบรกหัวทิ่มของขบวนชายหนุ่มที่ขี่นำ ถอดหมวกกันน็อกอย่างช้าๆผมสีเงินซีดถูกลมตีปลิวพลิ้วเบาๆ เหมือนฉากเปิดตัวของวายร้ายที่สาวๆ พร้อมจะตกหลุมรักในทันทีนัยน์ตาสีอำพันทอแสงแหลมคม—เหมือนเหยี่ยวที่มองเป้าหมายแม้จะอยู่ไกลหลายไมล์ซัน… เดินอย่างไม่เร่งรีบ ท่ามกลางสายตาระแวดระวังของบอดี้การ์ดเกือบสิบชีวิตเขายกมือขึ้นเหมือนจะบอกว่า ‘ใจเย็น’แต่รอยยิ้มบางบนใบหน้านั้น… กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบอกว่า ‘ถ้ายิงมา… ฉันจะสวนหมด’เสียงกระซิบของคนเฝ้าระวังดังในวิทยุ:“บุคคลตรงหน้า…คือ ‘วายุ ซัน’ หัวหน้าแก๊งวายุ ย้ำ—หัวหน้าแก๊งวายุ กำลังเข้าพื้นที่!!”💥 [Flashback สั้น]📍 หลายปีก่อน - ในวงล้อมการฝึกงานของโลกใต้ดินเรย์จิ และ ซัน เคยยืนเคียงข้างกัน—ไม่ใช่เพราะศรัทธา แต่เพราะผลประโยช
แสงแดดนวลอ่อนยามเช้า ส่องลอดผ้าม่านสีขาวบางเบาเข้ามาแตะผิวแก้มของฉันอย่างแผ่วเบา ราวกับจะปลุกให้ลืมตาตื่นขึ้นมาสู่เช้าวันใหม่ที่สงบ…...ถ้าหากมัน สงบจริง ๆ น่ะนะแต่ปัญหาคือ—ฉันไม่ได้ตื่นมาพร้อมนอนอยู่คนเดียวบนเตียง!!!!ฉันตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอยู่ในอ้อมกอดของมาเฟียสุดหล่อ!!!ฉันรู้สึกตัวตื่นแบบงัวเงีย…สิ่งแรกที่ฉันเห็นทันทีที่ลืมตาคือ…ใบหน้าของเรย์จิอยู่ใกล้ฉันแบบระยะประชิด!!โคตรใกล้! ใกล้ชนิดที่ลมหายใจของเขาระบายมาโดนหน้า!กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเขาทำฉันมึนไปสามวิจมูกโด่งเรียว… ขนตายาวระริก… และริมฝีปากที่แนบสนิทแต่ที่ช็อกกว่าคือ…แขนของเขา กำลังโอบเอวฉันแน่นแบบไม่ยอมปล่อย!!!!“ว๊ากกกกกกกก!!!!”ฉันร้องลั่นแบบไม่รู้ตัว พร้อมดิ้นพรวดถอยหนีจากอ้อมกอดตุ้บ!“โอ๊ยยยยยยยยยยย!!!! เจ็บบบบ!!!”ฉันลงไปกองอยู่บนพรมหนานุ่มข้างเตียง กุมก้นตัวเองด้วยสีหน้าสิ้นหวังพอเงยหน้ามองขึ้นไปบนเตียง—เรย์จิก็ลืมตาพอดีเขายกตัวลุกขึ้นช้า ๆ สายตายังดูง่วงนิดๆ แต่…ก็โคตรหล่อใบหน้าเงียบขรึมของเขาหันมามองฉันที่กำลังนั่งงออยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“หืม… ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำถามเบาๆ“นาย!!! นายกอดฉ
ในค่ำคืนที่ไม่สงบ (เลยสักนิด)“เฮ้ย!! ออกไปนะเว้ย!!”เสียงโวยวายของอัยย์ดังลั่นห้องขณะที่เธอยืนชี้นิ้วกราดใส่คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเหมือนเดินเข้าห้องตัวเอง“นี่มันห้องฉัน!!”และไอ้คนหน้าด้านคนนั้น—ก็คือคิน มือขวาแห่งแก๊งคุโรซาวะ ผู้มีหน้าตาหล่อเนี๊ยบ กวนตีนขั้นโปร…ที่ตอนนี้กำลังยืนกอดอกในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนสุดเท่ แล้วกวาดตามองห้องอย่างสบายใจสุดชีวิต“จริงเหรอ?” คินเอียงคอนิดๆ“ประตูมันเปิดถึงกันง่ายขนาดนี้… แสดงว่าเป็นห้องคู่ของคนสนิทนะ”“ไม่มีคำว่า ‘คนสนิท’ โว้ย!!!”อัยย์หน้าแดงแปร๊ด! ทั้งเพราะโกรธและเพราะ—เขาอยู่ใกล้เกินไป!!“แต่นายท่านเรย์จิจัดห้องให้แบบนี้เองนะ” คินผลักแว่นขึ้นอย่างเท่ๆ ก่อนพูดต่อเสียงเรียบ“จะให้ฉันไปนอนโซฟาแข็งๆ ก็ใจร้ายไปหน่อยนะ”“ใจร้ายตรงไหน! นายมันมาเฟียนะเว้ย!!!”“ฉันเป็นบอดี้การ์ดของเธอด้วยนะ”เสียงนิ่งๆ แฝงความเจ้าเล่ห์ ทำเอาอัยย์อยากเอาหมอนฟาดหัวเขาให้รู้แล้วรู้รอด!แล้วเขาก็…เดินดุ่มๆ ไปวางหมอนอีกใบลงบนเตียงของเธอราวกับว่าเป็น ‘ห้องของตัวเอง’ ตั้งแต่ชาติปางก่อน!!!🛏️ สมรภูมิเตียงที่ไม่มีใครยอมใคร!?“หยุดเลยนะ!!”อัยย์รีบคว้าหมอนมากั้นไว้ตรงกลาง