Home / LGBTQ+ / ชายาอ๋องอำมหิต / ตอนที่8.ที่ห้องนอนของฉินอ๋องหลี่อี้

Share

ตอนที่8.ที่ห้องนอนของฉินอ๋องหลี่อี้

last update Last Updated: 2025-02-08 06:29:26

คืนนั้น...

ที่ห้องนอนของฉินอ๋องหลี่อี้...ไป๋หยงคุกเข่าลงคำนับฉินอ๋องที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างโต๊ะน้ำชา "ขอบพระคุณท่านอ๋อง ที่เมตตาครอบครัวของข้าน้อยขอรับ"

     "อืมม์" ฉินอ๋องทำเสียงในลำคอ ก่อนจะกล่าวว่า "ดังนั้น เจ้าจะต้องตอบแทนพระคุณของข้าอย่างตั้งใจ ลุกขึ้นมานวดข้า อย่าอู้งาน"

     ไป๋หยงจึงลุกขึ้นเดินอ้อมไปยืนด้านหลังของฉินอ๋อง แล้วลงมือนวดไหล่แกร่งอย่างตั้งอกตั้งใจ

     "ข้าสั่งให้พ่อบ้านจัดหาคนที่ฉลาดหลักแหลมรอบคอบและซื่อสัตย์คนหนึ่ง ส่งไปเป็นพ่อบ้านของท่านแม่ยาย เขาจะไปทวงคืนทรัพย์สินของท่านแม่ยายที่ถูกครอบครัวลุงเจ้ายึดไปกลับคืน และซื้อหาข้าทาสคนรับใช้ให้ พร้อมทั้งดูแลทุกอย่าง และจัดหาอาจารย์มาสอนหนังสือน้องชายของเจ้า" ฉินอ๋องกล่าว

     "อาจารย์สอนหนังสือคงไม่ต้องหรอกขอรับ" ไป๋หยงตอบเสียงเบา

     "เพราะอะไร?" ฉินอ๋องถาม

     "ท่านแม่รู้หนังสือขอรับ ท่านแม่สอนหนังสือให้ข้าน้อยและน้องหยูขอรับ"

     "แค่นั้นยังไม่พอ" ฉินอ๋องกล่าว "เป็นน้องพระชายาฉินอ๋องจะมาทำขายหน้าไม่ได้ จะต้องมีความรู้ความสามารถระดับราชบัณฑิต...ไม่เพียงแค่น้องของเจ้า ตัวเจ้าเองก็ด้วย"

     "ข้าน้อยหรือขอรับ?"

     "ข้าสั่งพ่อบ้านให้หาอาจารย์เก่งๆ มาสอนหนังสือเจ้าแล้ว"

     ไป๋หยงลอบกลืนน้ำลาย...เขาไม่ได้เกลียดการเรียนหนังสือหรอกนะ แต่ความรู้ความสามารถระดับราชบัณฑิตนั้น จะต้องขยันหมั่นเพียรเล่าเรียนหนังสือหนักขนาดไหน ที่สำคัญก็คือ...จะต้องมีสติปัญญาเหนือคนธรรมดาด้วย... เหตุผลข้อหลังนี่แหละ ที่เด็กหนุ่มหนักใจ!

     "นอกจากเรียนหนังสือแล้ว เจ้ากับน้องยังจะต้องเรียนวรวรยุทธ์ด้วย"

     ไป๋หยงไม่เคยเรียนวรวรยุทธ์มาก่อน ไม่รู้ว่ามันเรียนยากแค่ไหน?

     แต่ในเมื่อฉินอ๋องสั่ง เขาก็ต้องทำอย่างสุดความสามารถ

     "ขอรับ"

     "เจ้ามาข้างหน้านี่"

     ไป๋หยงจึงหยุดนวด แล้วเดินอ้อมมายืนสงบตรงหน้าอีกฝ่ายในระยะพอสมควร

     "เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องในวันนี้?" ฉินอ๋องถามเหมือนหยั่งเชิง

     "คือ...ข้าน้อยไม่กล้าคิดอะไรขอรับ" ไป๋หยงอ้อมๆ แอ้มๆ

     "พูดมา...อย่างซื่อตรง" เสียงสั่งเข้มงวด

     "ข้าน้อยคิดว่า..." ต่อหน้าฉินอ๋อง ไป๋หยงไม่กล้าปิดบัง "ท่านอ๋องเอาคืนท่านลุงที่บังอาจเปลี่ยนตัวเจ้าสาวขอรับ"

     "คนที่หมิ่นเกียรติข้า จะต้องได้รับโทษอย่างสาสม"

     "ท่านลุงได้รับโทษหนักมากแล้วขอรับ"

     "ยัง...ยังไม่เพียงพอ" ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเรียบๆ

     ไป๋หยงลอบขนลุกเกรียว...คำเล่าลือที่ว่าฉินอ๋องนั้นอำมหิต ไม่น่าจะผิดซักนิด!

     "ข้าจะให้เขาหลุดจากอำนาจวาสนา"

     ไป๋หยงได้แต่เงียบกริบ

     ฉินอ๋องมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง แล้วล้วงอกเสื้อหยิบเอาขวดหยกใบเล็กๆ ออกมา เทผงสีดำในขวดลงในถ้วยทองคำใบหนึ่ง แล้วเทน้ำจากกาทองคำลงไป แกว่งถ้วยเบาๆ แล้วส่งให้ไป๋หยง

     เด็กหนุ่มรับถ้วยทองคำมาถือ มองน้ำสีดำในถ้วย พลางถามว่า "นี่อะไรขอรับ?"

     "ยาพิษ"

     ฉินอ๋องหลี่อี้ซึ่งแต่งกายเรียบร้อยแล้ว ยืนอยู่หน้าเตียงนอน มองไป๋หยงที่ยังคงหลับสนิทอยู่บนนั้น แล้วนึกขันในใจ...

     เด็กหนุ่มพอดื่มยาพิษถ้วยนั้นลงไปตามคำสั่งของเขา ก็เข่าอ่อนทรุดลงนั่งกับพื้นแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นเบาๆ อย่างเศร้าโศกเสียใจ...ร้องจนเหนื่อย แล้วก็หลับไป

     เดือดร้อนเขาต้องอุ้มมานอนให้เรียบร้อย แถมนอนกรนจนตะวันโด่ง ยังไม่ยอมตื่นอีก!

     "เสี่ยวหยง..."

     "อึมม์...ข้าตายแล้ว" เด็กหนุ่มเอ่ยงึมงำทั้งๆ ที่ไม่ลืมตา

     "เสี่ยวหยง!" ฉินอ๋องส่งเสียงดัง "ยังไม่รีบไสหัวลุกขึ้นมากินข้าวอีก"

     "หา!" ไป๋หยงอุทาน สะดุ้งตื่น ตาลีตาเหลือกลุกขึ้นนั่ง "ขะ ข้า ยังไม่ตายหรือ?"

     "เจ้าอยากตายนักหรือ? เดี๋ยวจัดให้"

     "ไม่ ไม่...ขอรับ" ไป๋หยงตอบ แล้วมองฉินอ๋องอย่างซาบซึ้ง

     "ไม่ต้องใช้สายตาแบบนี้มองข้า" ฉินอ๋องเอ่ยเสียงห้วน "ข้าไม่ได้ใจดีกับเจ้าหรอก"

     "แต่ท่านอ๋องมิได้ประทานยาพิษให้ข้าน้อยกินจริงๆ นี่ขอรับ" ไป๋หยงยิ้มจนแก้มกลม

     "ผู้ใดว่า?"

     "ของสิ่งนั้นมิใช่ยาพิษ...มิใช่หรือ?"

     "มันคือยาพิษ"

     "แต่ข้าน้อยยังไม่ตาย" สีหน้าไป๋หยงยิ่งกว่างงในงง

     "ยาพิษ...ไม่จำเป็นต้องกินแล้วตายทันที มันมียาพิษที่ออกฤทธิ์ช้า" ฉินอ๋องกล่าวด้วยน้ำเสียงมิได้ล้อเล่น "ยาพิษที่ข้าให้เจ้ากิน จะกำเริบทุกเดือน เจ้าจะต้องได้รับยาถอนพิษจากข้าทุกเดือน ถ้าเจ้าภักดีกับข้า ข้าถึงจะมอบให้ ไม่เช่นนั้นเจ้าก็ตายอย่างทรมาน"

     "ข้าน้อยไม่เข้าใจ...ข้าน้อยเป็นดั่งมดปลวกด้อยค่าตัวหนึ่งเท่านั้น ทำไมท่านอ๋องถึงได้...?"

     "ทำไมถึงลงแรงวางยาพิษเจ้านะหรือ? ก็เพราะว่าเจ้าอยู่ใกล้ชิดข้ามาก ข้าจะต้องให้เจ้าได้รู้ความลับบางอย่างของข้า ซึ่งข้าจะวางใจได้ต่อเมื่อเจ้าภักดีต่อข้าเท่าชีวิต และวิธีที่ทำให้เจ้าภักดีต่อข้าเท่าชีวิต ก็คือกุมความเป็นความตายของเจ้าเอาไว้"

     ก็เลยวางยาพิษข้า!

     เหอะ...ข้าไม่ได้อยากจะรู้ความลับของท่านเลยแม้แต่นิดเดียว

     แล้วไม่ต้องให้ข้าอยู่ใกล้ชิดท่านก็ได้...

     ไป๋หยงร่ำร้องในใจ

     "เจ้าไม่ต้องโอดครวญในใจ...เจ้าส่งตัวเองมาเป็นพระชายา เจ้าก็ต้องรับกรรมอันนี้"

     กล่าวพลางถอดหน้ากากทองคำบนดวงหน้าออก...

     ไป๋หยงอ้าปากค้าง...ดวงหน้าบุรุษหนุ่มที่เห็น ไม่ได้อัปลักษณ์อย่างที่ร่ำลือ

     ตรงกันข้าม...งดงามราวเทพเซียน!

     "ท่านงดงามยิ่ง" เด็กหนุ่มกล่าวจากใจจริง

     มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย "ย่อมแน่นอน...ท่านแม่ของข้าเป็นสตรีงามอันดับหนึ่งของแผ่นดิน...ดังนั้นเจ้าจะต้องระวัง อย่ามาหลงรักข้า"

"หา...ผู้ใดจะเสียสติหลงรักบุรุษด้วยกัน...แล้วอีกอย่างข้าน้อยก็มีนางในดวงใจอยู่แล้ว"

     โพล่งออกไปแล้ว...หัวใจของไป๋หยงก็ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ยกสองมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้แน่น!

Related chapters

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่9. ท่านอ๋องอย่ากินข้า

    หึ่มมม...ฉินอ๋องหลี่อี้ส่งเสียงคำรามในลำคอ ไป๋หยงในสายตาของเขา แม้จะมิใช่อิสตรี แต่ก็ขาวๆ นุ่มๆ ดูน่ารักมิใช่น้อย ที่สำคัญ...เขายังไม่ได้ขย้ำ แต่เจ้าเด็กโง่จะวิ่งไปให้ใครขย้ำ! "ใคร?" ไป๋หยงส่ายหน้ารัวๆ ทั้งที่ยกสองมือปิดปากอยู่ "ไม่มี...ไม่มี..." ฉินอ๋องหน้าบูดบึ้ง "เจ้าเป็นพระชายา จะไปมีอะไรกับใครอื่นไม่ได้ นอกจากข้า" "ท่านหรือ? ท่านตัวออกโต ข้ากินไม่ไหวหรอก" "ใครให้เจ้ากินข้า เป็นข้าต่างหากที่จะเป็นฝ่ายกินเจ้า!" "อ๊าาาา...ท่านอ๋องอย่ากินข้าาาาา" ที่นอกห้องนอนของฉินอ๋อง...ขันทีฟางหยวน และสองสาวใช้ เสี่ยวจู เสี่ยวหง ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้อง สาวใช้นางหนึ่งก็เดินมาหา และคำนับ "เรียนกงกง (คำเรียกขันทีอย่างยกย่อง) ชายาและอนุชายามาขอคารวะน้ำชาพระชายาเจ้าค่ะ" "บอกพวกนางให้รอก่อน...พระชายากำลังถูกท่านอ๋องจับกินอยู่" ขันทีคนสนิทฟางหยวนตอบ "เจ้าค่ะ" สาวใช้รับคำแล้วรีบไปทำตามคำสั่ง ดังนั้น...กว่าเหล่าชายาและอนุชายาจำนวนสิบสองนาง จะได้มีโอกาสเข้าพบและคารวะน้ำชาพระชายาไป๋หยงก็เป็นเวลาสายมาก พระชายาไป๋หยงนั่งบนเก้าอี้ด้วยสี

    Last Updated : 2025-02-08
  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่10. สำนึก

    ฉินอ๋องหลี่อี้พยักหน้ารับรู้ จดจำข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ พลางถามบัณฑิตหลิวฮั่วว่า "บัณฑิตหลิว ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?" "ข้าน้อยคิดว่า หากสามารถเข้าทำงานราชการได้ แม้เป็นชั้นผู้น้อยถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่ถ้าขยันขันแข็งได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้า ข้าน้อยจะไม่เอาเปรียบลูกน้อง เป็นการทำให้วงจรการเอาเปรียบค่อยๆ หมดไปขอรับ" "ท่านอายุสิบเก้าแล้ว ทำไมจึงยังมิได้แยกครอบครัว?" ฉินอ๋องเปลี่ยนเรื่องถาม "คือ...ว่า..." หลิวฮั่วยังไม่ทันตอบ หลิวไฮ่ก็รีบชิงกล่าวว่า "เขาโตจนป่านนี้ยังเกาะข้ากินอยู่เลยขอรับ" "ทั้งบ้านทั้งกิจการล้วนตกทอดจากบิดาของพวกท่านมิใช่หรือ?" "ขอรับ" หลิวไฮ่เอ่ย "แต่ข้าน้อยจัดการทำกิจการของครอบครัวต่อจากบิดามานานถึงสิบปี ข้าน้อยจึงสมควรเป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวขอรับ" "ท่านกล่าวยังไม่ถูกนัก ท่านใช้สมบัติที่บิดาสร้างไว้ให้ในการทำธุรกิจ ดังนั้นสมบัติทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมาได้ ล้วนสมควรเป็นของพวกท่านสามคนพี่น้องท้องเดียวกัน แต่ท่านแม่ยายแต่งงานออกเรือนและได้รับแบ่งสินเดิมออกมาแล้ว จึงไม่มีส่วนในมรดกของท่านตา แต่บัณฑิตหลิวยังมิไ

    Last Updated : 2025-02-08
  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่11.โยนเผือกร้อน

    "ท่านลุง..." ไป๋หยงกล่าวอย่างไตร่ตรอง "พี่มู่ตานเป็นคุณหนูผู้สูงส่ง นางได้ปฏิเสธท่านอ๋องและตำแหน่งพระชายาเอกแล้ว ข้าไม่บังอาจฝืนใจนางให้มาเป็นชายา หรือชายารอง หรืออนุชายา ของท่านอ๋องได้อีก เพราะเป็นการไม่สมควร ดังนั้นข้าคิดว่า นางสมควรอยู่อย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งใจและกายตลอดชีวิต...ท่านอ๋องคิดว่าที่ข้าน้อยกล่าวมานี้ถูกต้องหรือไม่ขอรับ?" ท้ายประโยค...ไป๋หยงน้อมถามฉินอ๋อง ท่านโยนเผือกร้อนให้ข้า ข้าก็โยนมันคืนท่าน ฉินอ๋องหลี่อี้คลี่ยิ้ม "เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง สมเหตุสมผลแล้ว" ฉินอ๋องเอ่ยพลางคว้ามือของไป๋หยงไปกุมเอาไว้ หยอดท้ายว่า "เมียรัก!" ทำเอาไป๋หยงแทบสะดุ้งโหยง! อำมาตย์ไป๋หลงผิดหวังจากจวนฉินอ๋อง ก็ให้รถม้ามุ่งหน้าไปยังจวนราชครูมู่สงบิดาของพระสมนเอกซูเฟยมู่ยวนยาง แต่พอคนรับใช้ไปบอกคนเฝ้าประตูรั้วจวนของราชครูมู่ กลับได้รับคำตอบว่า "ท่านราชครูไม่อยู่ ไม่รับแขก" อำมาตย์ไป๋หลงที่นั่งอยู่ในรถม้าได้ยินชัดเจน เพราะคนเฝ้าประตูรั้วจวนราชครูตอบแบบตะโกน เขาแค้นใจจนกำมือแน่น เขาถูกหลอกใช้...ราชครูสู่สงและพระสนมเอกซูเฟยมู่ยวนยาง วางแผนให้เขาสับเ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่12.วันสมรสของฉินอ๋อง

    หลังจากวันสมรสเก้าวัน... ฉินอ๋องหลี่อี้พาพระชายาไป๋หยงเข้าวังไปทำพิธีถอดหน้ากาก ซึ่งโหราจารย์ที่หอบรรพกษัตริย์จัดให้ พิธีการเริ่มด้วยการบูชาบรรพกษัตริย์ด้วยผลไม้มงคลเจ็ดชนิด เหล้าชั้นเลิศเจ็ดจอก ธูปเทียนและเครื่องบูชาอื่นๆ โหราจารย์วัยห้าสิบ แต่งชุดนักพรตสีขาวสกาว ทำการสวดคาถาพลางสั่นกระดิ่งทองคำดังกรุ๊งกริ๊ง พอสวดเสร็จก็เชิญฉินอ๋องและพระชายาถวายธูป แล้วนักพรตผู้ช่วยในชุดนักพรตสีเขียวสองคนก็เข้ามา คนหนึ่งถือถาดทองคำที่มีเข็มเงินอันใหญ่วางอยู่ อีกคนหนึ่งก็บอกเสียงเบาว่า "พระชายาโปรดเอาเข็มเงินแทงที่นิ้วชี้มือขวา แล้วแต้มเลือดบนหน้ากากทองคำตรงกลางระหว่างคิ้วขอรับ" ไป๋หยงพยักหน้าแล้วทำตาม ในระหว่างนั้น...โหราจารย์ก็สวดคาถาและสั่นกระดิ่งทองคำ ทันทีที่เลือดจากปลายนิ้วของไป๋หยงแตะถูกหน้ากากทองคำของฉินอ๋อง เปรี้ยงงงง...เสียงฟ้าผ่าดังกึกก้อง! ไป๋หยงสะดุ้ง อดหน้าเสียไม่ได้ "พระชายาถอดหน้ากากให้ท่านอ๋องขอรับ" นักพรตผู้ช่วยบอก ไป๋หยงทำตาม...ดวงหน้าหล่อเหลาราวเทพเซียนของฉินอ๋องปราศจากสิ่งบดบัง พระชายาหนุ่มน้อยรู้สึกดีใจที่ตนเคยเห็นมาก่

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่13.เด็กหรือ?

    งานฉลองเรือนหลังใหม่ของนางหลิวซื่อ ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จและตกแต่งเรียบร้อยไม่นาน ที่โต๊ะกินเลี้ยงของฉินอ๋องหลี่อี้ อนุญาตให้พระชายาไป๋หยง ฟูเหรินหลิวซื่อ (ท่านแม่พระชายา) และฟูเหรินผู้เฒ่าจางซื่อ (ท่านย่าพระชายา) และไป๋หยู (น้องชายพระชายา) เท่านั้นที่ร่วมโต๊ะ มีเด็กชายอายุสิบสาม หน้าตางดงามจิ้มลิ้ม รูปร่างบอบบาง สวมใส่อาภรณ์สวยงามสีเขียวอ่อนด้านในทับด้วยเสื้อสีชมพูด้านนอก กำลังนั่งบรรเลงกู่เจิงสำเนียงไพเราะเสนาะหู เพื่อขับกล่อมฉินอ๋องและบรรดาแขกเหรื่อทรงเกียรติ ไป๋หยงได้ยินเสียงกู่เจิงไพเราะยิ่งนัก ยิ่งฟังยิ่งเคลิบเคลิ้ม จึงหันไปมองคนบรรเลง แล้วหันมาบอกฉินอ๋องเบาๆ "ท่านอ๋อง เด็กชายคนนั้นบรรเลงกู่เจิงได้ไพเราะยิ่งนัก" "เด็กหรือ?" "ขอรับ" "เขาน่าจะมีอายุราวๆ สิบสาม...ส่วนเจ้าสิบสี่ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้วหรือ?" "เอ้อ..." ไป๋หยงอ้าปากค้าง ฉินอ๋องคีบเนื้อปลาหิมะย่างเกลือชิ้นหนึ่งใส่ปากของไป๋หยง "กินมากๆ จะได้โตไวๆ" ไป๋หยงคัดค้านในใจว่า...ข้าโตแล้วนะ...แต่ไม่กล้าเถียงออกจากปาก ทำได้อย่างมากก็คือเคี้ยวอาหารในปากแล้วกลืน...เพิ่มเติมคือทำปากข

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่14.สะดุ้งโหยง

    ฉินอ๋องหลี่อี้มองพระชายาไป๋หยงอย่างหมั่นไส้ พลางส่งเสียงกระแอม "อะแฮ่ม!" ไป๋หยงสะดุ้งโหยง รีบเก็บสายตาทันที "นางเป็นหลานสาวของข้าน้อย" อำมาตย์หวงฟงกล่าวกับฉินอ๋องด้วยกิริยาประจบประแจง "อายุเพิ่งจะสิบห้า บิดามารดาก็จากไป ข้าน้อยจึงรับนางมาอุปการะ วันนี้ได้เห็นสง่าราศีของท่านอ๋อง ข้าน้อยจึงอยากจะฝากหลานสาวคนนี้ให้เป็นอนุชายาคอยรับใช้ท่านอ๋องขอรับ" ฉินอ๋องใช้ปลายรองเท้าเตะที่หน้าแข้งไป๋หยงเบาๆ ทีหนึ่ง ไป๋หยงส่งเสียง "เอ๊ะ..." แล้วนึกขึ้นได้ว่าฉินอ๋องสั่งให้เขาเป็นคนปฏิเสธ จึงกล่าวเสียงดังว่า "ไม่ได้" ฉินอ๋องทำสีหน้าแบบว่า...ช่วยไม่ได้ เมียไม่อนุญาต! อำมาตย์หวงฟงหันมายิ้มประจบไป๋หยง "พระชายา มีอาลี่อีกคน จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของพระชายานะขอรับ" ไป๋หยงจินตนาการบรรเจิด...ถ้ามีหวงหมิงจูที่งดงามราวเทพธิดามาอยู่ใกล้ แล้วท่านอ๋องเกิดพึงพอใจขึ้นมา ท่านอ๋องจะได้ไปอยู่ห่างๆ เขา ไม่มากลั่นแกล้งเขาก่อนนอนเพื่อความสนุก คงดีไม่น้อย เพราะมัวแต่คิด จึงไม่ได้ฟังที่อำมาตย์หวงฟงกล่าวเกลี้ยกล่อมยืดยาวแทบไม่หยุดหายใจ ไป๋หยงหันไปมองฉินอ๋อง เห็นจ้องมาเขม็ง จึงรีบ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่15.โกหกหลอกลวง

    ที่ห้องนอนของไป๋มู่ตาน...หลังจากที่ไป๋มู่ตานปลอมตัวเป็นสาวใช้ไปแอบดูฉินอ๋องหลี่อี้ที่ห้องโถงจัดเลี้ยงกลับมา ก็เอาแต่นั่งร้องไห้ อาปี้สาวใช้คนสนิทจะปลอบโยนอย่างไร นางก็ไม่ยอมหยุดร้อง เอาแต่พร่ำเพ้อว่า "ทำไม...ทำไมทุกคนจึงได้หลอกลวงข้า" นางพร่ำพูดซ้ำไปซ้ำมา "คุณหนูเจ้าคะ อย่าร้องไห้เลยเจ้าค่ะ" อาปี้พยายามปลอบโยน แต่กลับถูกไป๋มู่ตานแว้กเอาว่า "ไม่ใช่เจ้านี่ที่ถูกทำร้าย ถูกทรยศ แต่เป็นข้า เป็นข้าได้ยินหรือไม่?" พอดีนางหม่าซื่อที่มาหาบุตรสาว ได้จินเสียงเอะอะโวยวาย ก็เปิดประตูเข้าห้องมาว่า "มู่ตาน... เอ้อ...ซู่ซู่ เกิดอะไรขึ้นหรือลูก?" "ท่านแม่โกหกหลอกลวงข้า" ไป๋มู่ตานที่เปลี่ยนชื่อเป็น ซู่ซู่ ว่ามารดา "แม่โกหกเจ้าเรื่องอันใดหรือ?" นางหม่าซื่อกล่าว พลางนั่งลงบนเตียงข้างๆ บุตรสาว "ท่านแม่บอกข้าว่า ฉินอ๋องหน้าตาอัปลักษณ์ จิตใจอำมหิต ชอบฆ่าคน...แต่ที่ข้าเห็น ฉินอ๋องหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสง่าผึ่งผาย เขาอ่อนโยนต่ออาหยู รักใคร่อาหยง กระซิบกระซาบจนแทบจะหอมแก้มกัน...ท่านแม่ ท่านหลอกข้า หลอกให้ข้าไม่แต่งงานกับฉินอ๋อง แต่ส่งอาหยงไปแต่งงานแทนข้า ท่านรักอาหยงมากกว่าข

    Last Updated : 2025-02-10
  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่16. เดี๋ยวข้าจัดให้เอง

    พระชายาไป๋หยงจึงตัดสินใจจะสนทนากับฉินอ๋องหลี่อี้อย่างซื่อตรงจริงใจ "ท่านอ๋องขอรับ ข้าน้อยจะจงรักภักดีต่อท่านอ๋องตราบจนข้าน้อยหมดลมหายใจขอรับ" ฉินอ๋องเหยียดยิ้ม คิดในใจ...เหมือนเจ้ากำลังบอกรักข้าเลย แต่น่าเสียดาย ที่เด็กซื่อบื้ออย่างเจ้า ความรักหน้าตาเป็นอย่างไร ก็คงยังไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำ! จึงกระซิบถามว่า "อะไรทำให้เจ้าคิดแบบนี้?" ไป๋หยงกระซิบตอบ "ข้าน้อยตระหนักแล้วขอรับว่า พอตบแต่งเป็นพระชายาของท่านอ๋อง ชีวิตของข้าน้อย ท่านแม่ ท่านย่า และอาหยู ล้วนผูกพันอยู่กับความรุ่งเรืองหรือตกอับของท่านอ๋อง ท่านอ๋องรุ่งเรือง ข้าน้อยและครอบครัวล้วนมีเกียรติสุขสบาย หากท่านอ๋องตกอับ ข้าน้อยและครอบครัวล้วนหนีไม่พ้นเคราะห์กรรม...ข้าน้อยจึงสมควรจงรักภักดีต่อท่านอ๋องเท่าชีวิตขอรับ" "เจ้ากล่าวมาเช่นนี้ ข้าก็ยินดี" ไป๋หยงแย้มยิ้มจนแก้มกลมตาปิด "เจ้าต้องระมัดระวังในการพูดความสัมพันธ์ในห้องหอของพวกเรา" "ขอรับ" "หากผู้ใดถามถึง...เจ้าไม่ต้องตอบอะไร เพียงเงียบหรือยิ้มเล็กน้อยก็พอ หากผู้ถามถึงต่ำต้อยกว่า เจ้าก็ดุเขาว่า อย่าได้สอดรู้สอดเห็น" "ขอรับ...แต่ข้าน้อยคิด

    Last Updated : 2025-02-12

Latest chapter

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่66. ตอนพิเศษ3.

    องครักษ์ซ้ายเจาหู่มาขอพบพระชายาไป๋หยงเป็นการส่วนตัว “มีธุระอะไรกับข้าหรือ?” พระชายาไป๋หยงถาม พลางใช้ช้อนสามง่ามทองคำจิ้มผลไม้ที่ปอกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำอย่างสวยงามพูนจาน เข้าปากอย่างชื่นใจ “น้อมเรียนพระชายา คือข้า…ข้าน้อยอยากจะขอกู้เงินพระชายาขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่พูดตะกุกตะกัก “ต้องการเท่าไหร่?” “ห้าร้อยตำลึงเงินขอรับ” “เอาไปทำอะไร?” พระชายาหนุ่มน้อยวางช้อนสามง่ามทองคำในมือลง “คือว่า…ข้าน้อยชอบเซียวมี่ขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่เอ่ยแล้วยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก “ชอบเซียวมี่?” “ขอรับ” “แล้วเกี่ยวอะไรกับเงินห้าร้อยตำลึง?” “คือว่า…เดิมทีเซียวมี่เป็นคนในจวนราชครูมู่สง ต่อมาราชครูมู่สงยกเซียวมี่ให้เป็นบ่าวของพระชายา แต่บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ยังคงเป็นบ่าวอยู่ในจวนราชครู พอตระกูลมู่ของราชครูต้องโทษประหารทั้งครอบครัว บ่าวไพร่ถูกขายทอดตลาด บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ก็ถูกขายทอดตลาดด้วย ทางการให้พ่อค้าทาสเหมาทั้งหมดไปขายอีกต่อหนึ่ง ข้าน้อยไปเจรจากับพ่อค้าทาสแล้ว เขาจะยอมขายยกครอบครัวให้ข้าน้อยในราคาห้าร้อยตำลึงขอรับ

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่65. ตอนพิเศษ2.

    องครักษ์บู๊สงพาองค์ชายหกหลี่เฟิง เดินทางมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ค่ำไหนนอนนั่น คืนนี้…ทั้งสองพักในศาลเจ้าร้าง บู๊สงได้หากิ่งไม้แห้งจากรอบ ๆ ศาลเจ้า มาก่อกองไฟเล็ก ๆ เพื่อให้ไออุ่น องค์ชายหกมองเทวรูปดินปั้นที่ตั้งอยู่ด้านในสุด แล้วคุกเข่าลงพนมมืออธิษฐาน…ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็อธิษฐานเสร็จ “องค์ชาย…ท่านอธิษฐานอะไร?” บู๊สงถาม เพราะตลอดหลายวันมานี้องค์ชายเอาแต่ร้องไห้ ทว่าวันนี้กลับไม่มีน้ำตา องค์ชายวัยสิบสองเม้มปากตอบว่า “ข้าอธิษฐานว่า…ขอให้ข้าตายง่าย ๆ ตายไว ๆ” บู๊สงอึ้ง “ทำไมถึงได้อธิษฐานเช่นนี้?” “ข้าสับสนมาก…แต่ก่อนเสด็จแม่บอกกับข้าว่า คนอื่นล้วนเป็นคนไม่ดี ทว่าพอข้าถูกกักบริเวณ ทั้งขันที ทั้งนางกำนัล ล้วนกล่าวว่าเสด็จแม่เป็นคนไม่ดี แม้แต่…เสด็จย่า…ก็ว่าเสด็จแม่ไม่ดี“ องค์ชายน้อยเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ข้าอยากรู้ความจริง ว่าตกลงเสด็จแม่เป็นคนไม่ดีจริง ๆ หรือ?” “องค์ชาย…สตรีที่เข้ามาอยู่ในวังหลัง ก็เปรียบเสมือนบุรุษออกสู่สมรภูมิ ต่างต้องช่วงชิงการมีชีวิตรอด ไม่เป็นตัวของตัวเอง…ข้าไม่อาจบอกต่อองค์ชาย ว่าฮองเฮาหยางเซียงร้ายหรือดี เพราะว่าข้าเพียงได้ฟังเขาเล่าต

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่64. ตอนพิเศษ1.

    หลังจากเรื่องราวในบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ฮ่องเต้น้อยหลี่เจินขึ้นครองราชบัลลังก์ โดยมีฉินอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และมหาเสนาบดียกทัพปราบหม่าฟู่เจ้าเมืองชิงซานแล้วเสร็จ สีไคก็จะเดินทางกลับแคว้นเว่ย ซึ่งเป็นแคว้นตอนใต้ของอาณาจักรต้าเป่ยและอยู่ทางทิศเหนือของอาณาจักรจงกั๋วฉินอ๋องจึงจัดงานเลี้ยงส่ง…โดยมีแขกผู้รับเชิญเป็นครอบครัวของท่านแม่ยายนางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู และอาโหยว ส่วนท่านย่านั้น นางขอตัวเพราะไม่สะดวก (อยากนอนพักกลางวัน) และท่านน้าบัณฑิตหลิวฮั่ว ซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นอำมาตย์ตรี หัวหน้ากองเอกสารของกรมการค้า ฉินอ๋องจึงถือโอกาสจัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งให้อำมาตย์หลิวฮั่วด้วย อำมาตย์หลิวฮั่วได้พาฟูเหรินเย่หว่านมางานด้วย ฟูเหรินเย่หว่าน (หว่านหว่าน) นั้นกำลังตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ดวงหน้างดงามอิ่มเอิบ อาหยูน้อยที่ได้นั่งข้างๆ เย่หว่าน มองท้องที่นูนขึ้นของนาง แล้วถามอย่างสงสัยว่า “พี่หว่านหว่าน…” อาหยูน้อยยังไม่ได้ถามต่อ ก็ถูกนางหลิวซื่อว่ากล่าว “อาหยู…ต้องเรียกว่าท่านน้าสะใภ้ ไม่ใช่พี่หว่านหว่าน” “ไม่เป็นไรค่ะ” เย่หว่านตอบนางหลิว

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่63. กลับจวน

    นางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู อาโหยว และเฉียวซาน (อาจารย์และองครักษ์ของอาหยูอาโหยว) ถูกรับมาอยู่จวนของฉินอ๋องตั้งแต่ตอนบ่าย พอวันรุ่งขึ้น…กองทัพขององค์ชายห้าหลี่เหิงตีเข้าเมืองหลวงมา ก็แยกเป็นสองขบวน ขบวนหนึ่งโจมตีวังหลวง อีกขบวนหนึ่งโจมตีจวนฉินอ๋อง ครั้นประตูจวนต้านไม่อยู่ ทหารของราชครูมู่สงบุกเข้ามา…ไป๋หยงก็ตรวจนับคนที่ตนจะพาออกไปทางลับด้วยกัน ก็เห็นว่าขาดอาเหยียนกับป้าไช่ จึงถามนางฮัวซื่อว่า “ท่านน้า…พี่เหยียนอยู่ไหน?” (ตั้งแต่รู้ว่า อาเหยียนเป็นบุตรของทั่นฮวาเฉินอวี้ ไป๋หยงก็เรียกนางฮัวซื่อว่าท่านน้า แทนที่ท่านป้าสะใภ้รอง) “อาเหยียนไปตามหาป้าไช่ที่โรงครัว” “ทำไมมาแยกตัวออกไปตอนหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ด้วย” ไป๋หยงบ่นอย่างไม่พอใจ แต่ก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไปตามพี่เหยียนกับป้าไช่ ทุกคนรออยู่ในห้องนอนใหญ่อย่าได้แยกย้ายไปไหนเป็นอันขาด” แล้วคว้ากระบี่ติดมือ มุ่งหน้าตรงไปยังโรงครัวทันที แต่ระหว่างทางพบเข้ากับราชครูมู่สง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น “ข้าจะจับพระชายาไปแขวนที่กำแพงเมืองให้ฉินอ๋องดู” ไป๋หยงไม่ตอบว่าอะไร แต่ตั้งอกตั้งใจใช้เพลงก

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่62. ที่จวนโหราจารย์

    ที่จวนของโหราจารย์ คืนนั้น…โหราจารย์รู้สึกจิตใจไม่สงบ เขาได้รู้ข่าวการตายอนาถของขันทีปลอมเกาซ่ง ฮองเฮาถูกปลดจากตำแหน่งและขังอยู่ที่ตำหนักเย็น เขาก็เกรงว่าภัยจะมาถึงตัว แล้วพอเข้าห้องนอน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นเงาร่างสูงใหญ่ของคนผู้หนึ่งยืนรออยู่ในห้องนอนด้วย “ใคร?” โหราจารย์ถาม “คนที่เจ้าทำนายว่า…เกิดใต้ดาวพิฆาตอย่างไรล่ะ” “ฉิน…อ๋อง…” เสียงของโหราจารย์สั่นสะท้าน “ความจำของเจ้ายังดีอยู่” ฉินอ๋องตอบ “ท่านอ๋อง…ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ ท่านมาหาข้าน้อย ต้องการจะให้ทำนายเรื่องใดหรือขอรับ?” “ไม่มีอะไร…ข้าเพียงแค่มาส่งเจ้าเดินทางไกล (ตาย) เท่านั้น” ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเย็นยะเยียบ โหราจารย์จึงตัดสินใจวิ่งหนี แต่ช้าเกินไป เพราะเพิ่งจะขยับตัว ก็ถูกสะกัดจุดเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว และไม่สามารถพูดออกเสียงได้ ได้แต่ขยับปาก โดยไร้สุ้มเสียง… พอรุ่งเช้า…บ่าวรับใช้ในเรือนของโหราจารย์ที่มีหน้าที่เข้ามาจะปรนนิบัติ ก็พบว่าโหราจารย์ได้แขวนคอตายอยู่ในห้องนอน! สามวันต่อมา… อดีตฮองเฮาหยางเซียงก็ได้รับพระราชทานยาพิษจากไทเฮา พร้อมกันนั้น คนตระกูล

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่61.พังพินาศ

    เวลาบ่าย…สนมหม่าซู่ซู่ได้เชิญเสด็จฮ่องเต้ออกมาพักผ่อนที่อุทยานหลวง เกาซ่งขันทีคนสนิทของฮองเฮา ซึ่งหายจากอาการบาดเจ็บราวเจ็ดส่วน (เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์) ได้รับข่าวจากสายของตน ก็รีบนำมารายงานฮองเฮา “เหนียงเหนียง (พระนาง) ยามนี้ฮ่องเต้เสด็จลงอุทยาน นับเป็นโอกาสอันดีพ่ะย่ะค่ะ” “โอกาสอะไร?” ฮองเฮาตรัสถาม “ปกติสนมคนโปรดจะกีดกันผู้ที่จะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่พระตำหนักหลวง แต่ในอุทยาน เหนียงเหนียงหาโอกาสเข้าเฝ้า แล้วทูลขอตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อจะได้ว่าราชการหลังม่าน ซึ่งฮ่องเต้จะได้มีเวลาพักผ่อนตามสบายพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “เวลานี้ไทเฮาก็ทรงทำหน้าที่นี้อยู่มิใช่หรือ?” “เหนียงเหนียง อย่าลืมสิ ว่าพอไทเฮาออกว่าราชการ ฉินอ๋องกับพรรคพวกก็กำจัดองค์หญิงเหลียนฮัว แล้วเป้าหมายต่อไปของพวกเขาต้องไม่พ้นเหนียงเหนียงอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “ชิงลงมือก่อนได้เปรียบนะพ่ะย่ะค่ะ” “ถูกต้อง…คนแรกที่เราจะต้องกำจัดก็คือฉินอ๋อง” ฮองเฮาขบฟันตรัสแต่แผนการณ์ของฮองเฮาพังพินาศ…เพราะหม่าซู่ซู่เสแสร้งว่าถูกฮองเฮาผลักล้มและเกือบแท้งบุตร หม่าซู่ซู่และหม่าเต้า (หม่าเต้าเป็น

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 60. พวกเจ้าเป็นใคร?

    ดังนั้น…พอฉินอ๋องเสนอกลางท้องพระโรงว่า ให้เชิญไทเฮาออกว่าราชการแทนฮ่องเต้ เหล่าขุนนางก็มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย จึงมีการนับคะแนนเสียง ซึ่งปรากฏว่า…ขุนนางที่เห็นด้วยมีมากกว่า จึงมีการเข้าชื่อถวายฎีกาไทเฮา ผู้ที่นำฎีกาเข้าไปถวายไทเฮาที่พระตำหนักของไทเฮา คือฉินอ๋อง มหาเสนาบดี และเจ้ากรมพิธีการ ไทเฮาตรัสถามว่า “ฮ่องเต้ไม่เสด็จออกว่าราชการนานเท่าไหร่แล้ว?” “กว่าสามเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฉินอ๋องทูลตอบ ไทเฮาจึงทรงเรียกหมอหลวงมา แล้วเสด็จไปยังพระตำหนักหลวงที่ประทับของฮ่องเต้ พร้อมด้วยฉินอ๋อง มหาเสนาบดี เจ้ากรมพิธีการ และหมอหลวง ขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ไม่กล้าขัดขวางไทเฮา ไทเฮาจึงนำทุกคนเข้าไปถึงห้องบรรทม เห็นฮ่องเต้บรรทมหลับอยู่บนพระแท่นบรรทม “หมอหลวงจงตรวจพระอาการของฮ่องเต้” ไทเฮาทรงออกคำสั่ง หมอหลวงทำการตรวจพระวรกายของฮ่องเต้ แล้วทูลไทเฮาว่า “ฮ่องเต้ทรงพระประชวรพ่ะย่ะค่ะ เพราะพระชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอ ทั้งพระวรกายยังมีกลิ่นสมุนไพร เหมือน…” หมอหลวงทูลไม่ทันจบ…ฮ่องเต้ก็ทรงตื่นบรรทม และทรงเอะอะลั่น “พวกเจ้าเป็นใคร?” “แม่เอง” ไทเฮาตรัส “แ

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่59.ถอดเสื้อผ้า

    อาเหยียนเตรียมพร้อมรับมือ…พอราชทูตเหอหู่เข้ามาในรัศมีของแขนปุ๊บ อาเหยียนก็ทิ่มนิ้วเข้าใส่ดวงตาที่เป็นจุดอ่อนของอีกฝ่ายปั๊บ แต่ราชทูตเหอหู่นั้นมีวรยุทธ์ จึงหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย ซ้ำคว้าข้อมืออาเหยียนแล้วกระชากให้เซถลาเข้ามาในอ้อมอก กะจะกอดรัดให้หนำใจ ทว่าไหล่ของราชทูตเหอหู่กลับถูกมือแกร่งกระชากไปด้านหลังและทุ่มลงกับพื้น ตามมาด้วยตีนใหญ่ๆ ของนางกำนัลร่างยักษ์เหยียบอยู่บนหลัง ทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อน ส่วนร่างบอบบางที่ถลาเพราะแรงกระชาก ก็ถูกสีไคคว้าไปกอดเอาไว้ด้วยมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งลูบไล้แผ่นหลัง “โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวน้า เมียจ๋า” “ปล่อยข้า” อาเหยียนตวาดเบาๆ “แหม…แค่นิดเดียวเอง” สีไคบ่นเล็กน้อย แต่ก็ยอมปล่อยอาเหยียนโดยดี “เจ้าๆๆ…” ท่านราชทูตใต้ฝ่าเท้าส่งเสียง “ยังไม่รีบปล่อยข้าอีก” “ทำไมข้าต้องปล่อยเจ้าด้วย?” “ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายข้า คนของข้าข้างนอกกระโจม จะต้องเข้ามาสับเจ้าเป็นร้อยเป็นพันชิ้น” “อุ๊ยต๊ายตาย…กลัวซะที่ไหน” สีไคเอ่ย “คนของเจ้าถูกคนของข้าสังหารหมดแล้ว ไม่เชื่อเจ้าก็ลองเรียกดู” “ทหารๆๆๆ…” ไม่มีใครโผล่เข้ามาแม้แต่คนเดียว

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่58.รู้สึกขัดอกขัดใจ

    ในพระราชวังหลวง…ที่เรือนของท่านชายเฉินเหยียน… เจ้ากรมพิธีการหวงฟงได้พาราชทูตแห่งซีเซี่ยเหอหู่ มาเยี่ยมคำนับท่านชายเฉินเหยียน พอแนะนำตัวและคารวะกันเรียบร้อยแล้ว เจ้ากรมพิธีการหวงฟงก็เป็นคนเริ่มเปิดฉากสนทนาก่อน “ท่านชายเฉินเหยียน…ฝ่าบาทมีพระบัญชาให้ท่านชายเดินทางไปซีเซี่ยพร้อมกับท่านราชทูตเหอหู่ เพื่อสมรสกับองค์หญิงอันอัน เป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีของสองประเทศ…นี่ขอรับราชโองการ” กล่าวจบ เจ้ากรมพิธีการหวงฟงก็ยื่นม้วนราชโองการให้อาเหยียน “ข้าต้องทำเช่นไร?” อาเหยียนถาม เขาไม่ได้ตกใจ เพราะว่าสีไคได้นำเรื่องนี้มาบอกแก่เขาก่อนแล้ว “ท่านชายก็แค่ทำใจให้สบายและเตรียมตัวให้พร้อมเท่านั้นขอรับ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนเครื่องประดับมีค่าและเงินทองที่จำเป็น ทางกรมพิธีการจะจัดการให้ขอรับ” หวงฟงตอบ “แล้วจะออกเดินทางเมื่อไหร่?” อาเหยียนถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ “อีกเจ็ดวันขอรับ” ราชทูตเหอหู่เป็นผู้ตอบขึ้น “ทำไมเร็วอย่างนี้” “ฮาๆๆ…หากท่านชายได้เห็นองค์หญิงอันอัน จะตำหนิว่าช้าไปเสียด้วยซ้ำ” ราชทูตเหอหู่พลางยื่นม้วนภาพวาดให้แก่อาเหยียน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status