Share

บทที่ 89

last update Huling Na-update: 2025-02-21 20:29:57

หลานซือเยว่อุ้มสิงโตตัวน้อยเข้ามาในห้องบรรทม ใช้ผ้าที่อบจนอุ่นบรรจงเช็ดขนให้เจ้าตัวน้อยอย่างใส่ใจ สวีเฟยหลงถูกภรรยาปรนนิบัติรู้สึกอุ่นสบายไปทั้งตัว นอนหมอบอยู่บนตัก อ้าปากหาวหวอด ซุกไซ้ศีรษะกับต้นขานุ่มหาที่นอน ดูน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งในสายตาของหลานซือเยว่

“จะนอนทั้งอย่างนี้เลยหรือ ระวังจะอดกินเนื้อในมื้อค่ำนะเจ้าตัวเล็ก” หลานซือเยว่แกล้งเขี่ยใบหูนิ่มของลูกสิงโตทองเล่น เห็นใบหูเล็กๆ นั่นกระดุกกระดิกหลบหลีกนิ้วมือเรียวไปมา ไหนจะเสียงครางประท้วงคล้ายถูกก่อกวนอย่างหนัก ทำเอาหลานซือเยว่หัวเราะคิกคักชอบใจ

“อืมมม เรียกแต่เจ้าตัวเล็กๆ ลืมไปว่าเจ้ายังไม่มีชื่อนี่น่า ข้าตั้งชื่อให้เจ้าดีไหม เอาชื่ออะไรดีนะ” หลานซือเยว่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตั้งแต่เก็บมันมาเลี้ยงยังไม่เคยตั้งชื่อให้มันเลย ดวงหน้าหวานซึ้งฉายแววครุ่นคิด ละมือจากใบหูนิ่มไม่ก่อกวนเจ้าสิงโตตัวน้อยอีก

สวีเฟยหลงผงกศีรษะมองภรรยาอย่างคาดหวัง ส่งกระแสแห่งรักให้หลินเสวี่ยเฟิ่งไม่ขาดสายด้วยหวังว่าภรรยาจะเรียกชื่อเขาถูก เพราะว่าคะนึงหาเขาอยู่เสมอ

‘อาหลง เสวี่ยเอ๋อร์เรียกข้าว่า อาหลงสิ’

เฉินเทียนอี้ออกมาจ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 90

    ทางด้านตำหนักปีกข้าง หลังจากเฉินซือหยางเล่นพลิกผ้าห่มกับจ้าวลี่หมิงจนเหนื่อยอ่อน ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยให้คนตัวเล็กนอนหลับสักงีบ เมื่อเห็นว่าเย็นมากแล้วกลัวว่าจ้าวลี่หมิงจะพลาดอาหารมื้อเย็นจึงปลุกเด็กน้อยของเขามาอาบน้ำชำระกาย “ชีชี เย็นมากแล้ว ตื่นเถอะคนดี” “อื้อออ ได้เวลามื้อค่ำแล้วหรือ” จ้าวลี่หมิงงึมงำถาม ปิดปากหาวหวอดอย่างเกียจคร้าน พลิกตัวไปอีกทางแล้วเอาหน้าซุกผ้าห่ม ตั้งใจว่าจะหลับต่ออีกสักหน่อย “เด็กขี้เกียจ ลุกขึ้นมาอาบน้ำได้แล้ว” เฉินซือหยางกระซิบชิดใบหูนิ่ม ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดริมหูจนจ้าวลี่หมิงขนลุกซู่ไปหมด แล้วแบบนี้เขาจะหลับลงได้อย่างไร “ขี้เกียจอ่ะ หยางหยางอาบให้หน่อยสิ” จ้าวลี่หมิงอ้อนตาปิด แขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่งหลวมๆ ร่างกายเหลวกองอยู่บนเตียงนุ่มราวกับไร้กระดูก

    Huling Na-update : 2025-02-22
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 91

    “ว้า! ไปซะแล้ว” จ้าวลี่หมิงรำพึงรำพันสุดแสนเสียดายไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศมาคุในตอนนี้เลยสักนิด เขายังชื่นชมคนงามได้ไม่จุใจเลยก็พากันจากไปเสียแล้ว แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่าหยาดน้ำค้างยามเช้าพอแสงอาทิตย์แผดเผาล้วนมลายหายสูญแต่ทำไม ‘พระอาทิตย์’[1] ดวงนั้นถึงได้ทำหน้าถมึงทึงมองเขาอย่างนั้นเล่า “เสียดายมากงั้นหรือ ข้าคงงามไม่พอสินะ เจ้าถึงได้ไม่ชายตาแล เช่นนั้นข้าระบำให้เจ้าชมเป็นบุญตาสักเพลงดีไหม เผื่อเจ้าจะหันมาสนใจข้าบ้าง” เฉินซือหยางถามเสียงเย็น คำพูดหนักเน้นดั่งขุนเขากดทับจ้าวลี่หมิงจนแทบหายใจไม่ออก แค่นึกภาพร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นในชุดนางระบำกำลังร่ายรำอยู่ตรงหน้า จ้าวลี่หมิงก็ถึงกับตัวสั่น ภาพน่าหวาดกลัวเช่นนั้นอย่าให้เขาเห็นเป็นอันขาดเชียว “อย่าเลย! ขอร้องล่ะ แค่ท่านนั่งอยู่เฉยๆ ก็สง่างามกว่านางระ

    Huling Na-update : 2025-02-23
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 92

    อยู่ดีๆ จ้าวลี่หมิงก็โดนหางเลขหันขวับไปมองหน้าเฉินเทียนอี้แบบงงๆ ฝ่าบาทเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ จะให้เขาเนี่ยนะออกไปแสดงความสามารถ แค่เมื่อครู่เขาไม่เชียร์เฉินซือหยางจนเวทีพังก็บุญแล้วไหม “เอาจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ” “แน่สิ ไม่งั้นงานเลี้ยงไม่กร่อยแย่หรือ” จ้าวลี่หมิงสมองหมุนเร็วจี๋ คิดว่าจะแสดงอะไรดีที่ไม่ทำลายข้าวของภายนอกระเบียงแห่งนี้ โดยเฉพาะพื้นหินอ่อนขาวนวลใต้ร่างเขานี่ “เอ่อ... เช่นนั้นกระหม่อมขอวาดภาพได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ” “หวังกงกงนำกระดาษ พู่กัน และจานหมึกเข้ามา” จ้าวลี่หมิงส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้หยางหยาง แต่คราวนี้ชายหนุ่มกลับนิ่งเฉยมองดูเขาปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มยิ้มๆ เป็นการลงโทษที่ก่อนหน้านี้เขาไปเจ๊าะแจ๊ะกับสตรีอื่น จ้าวลี่หมิงสิ้นหวังเลยหันไปฝากความหวังสุดท้ายกับเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากของตัวเอง “งั้นข้าช่วยเสี่ยวชีแต่งบทกลอน

    Huling Na-update : 2025-02-24
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 93

    พระราชวังต้องห้ามไม่เคยหลับใหล ถึงแม้ว่าองค์จักรพรรดิจะไม่ทรงประทับอยู่ที่ตำหนักหลักแต่ก็ยังเข้มงวดกวดขันในเรื่องความปลอดภัย หัวหน้าองครักษ์หลวงนำกำลังพลเดินตรวจตรารอบๆ เขตพระราชฐานชั้นใน แต่ถึงจะเข้มงวดกวดขันเพียงใดก็ยังมีจุดบอดที่ตรวจตราได้ไม่ทั่วถึง ทำให้บุคคลกลุ่มหนึ่งแฝงตัวเข้าออกในเขตพระราชฐานได้อย่างง่ายดาย เงาร่างสูงใหญ่อาศัยแสงจันทร์รางเลือนสำรวจตำหนักที่ถูกทิ้งร้างมานานปี นับตั้งแต่เฉินเทียนมิ่งองค์ชายใหญ่ในพระเจ้าเฉินหย่งเล่อจากไป ตำหนักฉีเทียนแห่งนี้ก็ร้างไร้ผู้เป็นนายมาเนิ่นนาน สิ่งของภายในตำหนักหล่นกระจัดกระจาย บ้างก็แตกหักเสียหายฝุ่นเกาะหนาบ่งชัดว่าไม่เคยมีผู้ใดเหยียบย่างเข้ามาในที่แห่งนี้มานานแล้ว หานจางหมิ่นกวาดตามองห้องบรรทมซึ่งตกอยู่ในความมืดสลัว ดวงตามัวหม่นไม่รู้ว่าคิดสิ่งใดอยู่ในใจ มือหนาลูบไปตามขอบเตียงอย่างเหม่อลอย พยายามจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ในความทรงจำ

    Huling Na-update : 2025-02-25
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 94

    เมื่อคืนพวกเฉินซือหยางวิ่งไล่กันอย่างเมามันมากเกินควร เล่นเอาทุกคนหอบหนักไม่อยากจะขยับเขยื้อนเคลื่อนกายไปไหน จึงพร้อมใจนอนชมดาวบนระเบียงกว้าง ร่ำสุราเคล้าแสงจันทร์กันจนเมามาย ก่อนที่ทุกคนจะผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น เดือดร้อนจางกงกงและหวังกงกงต้องคอยใช้ผ้าปัดยุงให้เจ้านายทั้งหลายทั้งคืนจนดวงตาดำคล้ำราวกับสยงเมา[1]สภาพที่ปรากฏในตอนเช้าไม่ต้องบอกก็รู้ว่าน่าอเนจอนาถมากเพียงไร ส่วนบรรดานายท่านที่หลับสบายโดยสร้างเรื่องลำบากให้ผู้อื่นน่ะหรือ ลองกวาดตาดูสิว่ามีคนไหนไม่หลับฝันหวานบ้าง จ้าวลี่หมิงนอนทับอยู่บนตัวเฉินซือหยาง มือบางซุกเข้าไปในอกเสื้อที่เลื่อนหลุดของคนร่างสูงอย่างคลุมเครือ ไหนจะเสียงหัวเราะอย่างมีเลศนัยตอนที่อีกฝ่ายละเมออยู่นั่น ยังมีน้ำลายไหลหยดบนอกกว้างเป็นย่อมๆ อีก หลักฐานมัดตัวขนาดนี้ พวกเรารู้นะว่าเมื่อคืนท่านฝันลามกอะไร! ขันทีเฒ่าทั้งสองเบนสายตาหนีจากภาพน่าอับอายนั่น ก็มาเจอกับร่างสูงของเฉินเทีย

    Huling Na-update : 2025-02-26
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 95

    “วาดอะไรอยู่หรือเห็นยุ่งง่วนตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว” เหล่าหวังถามสหาย พวกเขาเป็นจิตรกรที่อาศัยปลายพู่กันในการหาเลี้ยงชีพ ทุกวันทั้งคู่จะออกมาตั้งแผงขายภาพวาดที่ตลาดยามเช้าหรือไม่ก็แวะเวียนไปตามบ้านของหญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน เพื่อวาดภาพหญิงงามตามการว่าจ้างของบรรดาแม่สื่อ ด้วยความที่พวกเขามีฝีมือมากพอตัวประกอบกับราคาค่างวดที่ต้องจ่ายก็นับว่าย่อมเยา คุณภาพเกินราคา กิจการจึงเจริญรุ่งเรืองดียิ่ง วันนี้พวกเขามาเยือนวัดหานซิงก็นับว่าไม่เสียเที่ยว เพราะตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายคล้อยมีบรรดาหญิงสาวมาอุดหนุนกันอย่างเนืองแน่น เหล่าหวังและเหล่าเวินผู้เป็นสหายจึงยุ่งกันมือเป็นระวิง แต่เพราะวาดภาพเหมือนจนชำนาญเพียงสะบัดปลายพู่กันไม่กี่คราภาพหญิงงามและวิวทิวทัศน์รอบด้านก็ปรากฏบนผืนผ้าราวกับมีชีวิต หลังจากยุ่งง่วนกันอยู่ทั้งบ่าย เมื่อเห็นว่าใกล้ค่ำแล้วจึงเตรียมลงจากวัดหานซิงกลับบ้านพักผ่อน จิตรกรแซ่หวังเก็บข้าวของเสร็จ พอหันมาอีกทีก็พบว่าสหายที่ควรจะเตรี

    Huling Na-update : 2025-02-27
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 96

    หลานซือเยว่ไม่รับรู้ถึงบรรยากาศมาคุระหว่างคนกับสิงโต ฝ่ายเฉินซือหยางก็สะกิดจ้าวลี่หมิงยิกๆ พยักพเยิดให้คนหัวทึบดูหลินเสวี่ยเฟิ่งเป็นตัวอย่าง “พระชายาป้อนข้าบ้างสิ” “หือ?ขนมก็อยู่ในมือท่านไง กินเองสิ” “เจ้าอุตส่าห์มอบหัวใจดวงนี้ให้ ข้าจะตัดใจกินมันลงได้อย่างไร” ไม่พูดเปล่าเขายังใช้กระดาษซับมันห่อขนมเฉียวกั๋วแล้วเก็บไว้ในอกเสื้ออย่างดี ทำแบบนี้ไม่กลัวจะโดนมดกัดหรือยังไงนะ จ้าวลี่หมิงสงสัยแต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอันใด ยอมป้อนขนมอีกฝ่ายแต่โดยดี “น่ารักที่สุด” เฉินซือหยางหยิกแก้มอวบ ทั้งคณะเดินเล่นไปตามถนนชมงานเทศกาลสองฟากฝั่งตรงกลางเป็นแม่น้ำสายเล็กตัดผ่านกลางเมืองหานโจว มีเรือลำน้อยล่องผ่านเป็นระยะ ด้านหน้าและทางที่พวกเขาเดินผ่านมามีสะพานข้ามฟากหลายแห่ง ด้านข้างสะพานมีท่าเรือให้ผู้คนสัญจรไปมา

    Huling Na-update : 2025-02-28
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 97

    ภาพเงาร่างสูงสง่าของเฉินเทียนอี้ยืนเคียงข้างหลินเสวี่ยเฟิ่งตกอยู่ภายใต้สายตาคมลึกคู่หนึ่ง เฝิงไห่เหม่อมองเงาร่างที่กำลังโอบประคองกันของทั้งสองด้วยสายตาหม่นมัว คลื่นอารมณ์มากมายกระเพื่อมไหวในดวงตาคู่คม ทั้งความสับสน ยินดี ผิดหวัง ทดท้อ โศกศัลย์ แต่ที่มากกว่านั้นคือความเจ็บปวดซึ่งบีบคั้นอยู่ภายในอก จนเขาแทบหายใจไม่ออกปะปนกันไม่อาจบรรยายได้ “ท่านลุงเฝิงมัวยืนเหม่ออะไรอยู่ พวกเราจะกลับกันแล้วนะ” จ้าวลี่หมิงโบกมือเรียกเฝิงไห่เสียงดัง รอยยิ้มสว่างสดใสของเขาเรียกสติของเฝิงไห่กลับมาในที่สุด “รอก่อนพ่ะย่ะค่ะ องครักษ์กำลังนำรถม้ามา” เฝิงไห่สูดลมหายใจลึกข่มกลั้นอารมณ์พลุ่งพล่านในอกเปลี่ยนสีหน้ารวดเร็วจนไม่มีใครทันสังเกตเห็นถึงความปั่นป่วนภายในจิตใจของเขา “หาที่นั่งรอกันก่อนดีกว่า” เฉินซือหยางเสนอแนะ

    Huling Na-update : 2025-03-03

Pinakabagong kabanata

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทสัมภาษณ์พิเศษ

    ‘เปิดตำหนักลับฉบับวายป่วง’ สำนักข่าวเถียนเถียนรายงานสดจากตำหนักจินหลวน นักข่าวนิรนาม : “มีคนบ่นว่าพระเอกเรื่องนี้ไม่เหมือนพระเอกจริงหรือไม่ขอรับ” สวีจิ้งเฟิ่ง : “ผู้ใดบอกให้นักเขียนผู้นั้นให้บทเด่นกับท่านพ่อมากเกินไปเล่า” สวีจิ้งเฟิ่งแบมืออย่างช่วยไม่ได้ นักเขียน : “C £ C!!” ถึงกับเลิ่กลั่ก นักข่าวนิรนาม : “คุณแย่งซีนบุตรชายเช่นนี้ รู้สึกผิดหรือไม่ขอรับ” สวีเฟยหลง : “แย่งซีนคืออันใด” ไป่ชิงถง : “กินได้หรือไม่” หลินเสวี่ยเฟิ่ง : “ข้าว่าน่าจะไม่ใช่ของ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 4

    ด้วยความเพียรพยายามมุมานะอุตสาหะกกไข่แทนภรรยาของสองพ่อลูกแซ่สวี ในที่สุดไข่ใบน้อยก็เริ่มกะเทาะเปลือกออกมาแล้ว "อีกนิด ลูกทำได้ เจาะเปลือกบนหัวออกก่อนแบบนั้นแหละ" เสียงพ่อลูกแซ่สวีให้กำลังใจลูกน้อยดังขึ้นเป็นระยะ ไม่นานหงส์ทองตัวน้อยกับมังกรเหมันต์ก็โผล่ศีรษะเล็กๆ ออกมา ดวงตาใสแจ๋วสองคู่มองคนนั้นทีคนนี้ที "เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่าเขาจะต้องเป็นมังกรเหมือนข้า" สวีเฟยหลงคีบบุตรชายมาอวดภรรยาด้วยความภาคภูมิใจ "ชีชี เจ้าดูลูกของเราสิ น่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ" สวีจิ้งเฟิ่งประคองลูกหงส์ขนอุยในมือให้ภรรยาเห็นชัดๆ "พวกท่านเห่อลูกให้น้อยลงหน่อยจะได้หรือไม่" ไป่ชิงถงกับหลินเสวี่ยเฟิ่งเอ็ดคนทั้งคู่ รับบุตรชายตัวน้อยของตนมาดูแลบ้าง "เสด็จพ่อตั้งชื่อน้องชายว่าอะไรหรือ"

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 3

    กาลเวลาล่วงเลยไปดั่งสายน้ำไหลไม่อาจหวนคืน วันเวลาของเทพเซียนนั้นช่างแสนยาวนานจนน่าเบื่อหน่าย ไป่ชิงถงจึงหางานอดิเรกทำแก้เซ็ง นั่นก็คือการตระเวนกินของอร่อยไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดน "อืม ปลาเก๋าเก้าครีบราดพริกไฟนรกร้านนี้สุดยอดเลย เผ็ดจัดจ้านถึงใจข้ายิ่งนัก" ไป่ชิงถงกินไปปาดเหงื่อไป ถึงจะเผ็ดแค่ไหนก็ไม่ยอมแพ้ กินจนริมฝีปากบวมเจ่อก็ยังหยุดกินไม่ได้ "เคยมีอะไรไม่ถูกปากเจ้าด้วยหรือ" สวีจิ้งเฟิ่งยิ้มขำนอนตะแคงมองภรรยาเพลินๆ ระหว่างรออีกฝ่ายทานมื้อกลางวัน "ไม่มี ข้ากินได้หมดทุกอย่างแหละ ข้าถือคติคนกินห้ามบ่น ไม่ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรก็ต้องบอกอร่อยไว้ก่อนเพราะเราไม่ได้เป็นคนทำอาหาร หากเจ้าทำกินเองจะบ่นอย่างไรก็ได้ไม่มีผู้ใดว่ากล่าว แต่ถ้าพ่อครัวทำให้ทานจำไว้แค่ว่าต้องกล่าวคำขอบคุณกับอร่อยเท่านั้น นั่นแหละถึงจะเรียกว่านักกิน

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 2

    หยาดน้ำฝนโปรยปรายผ่านหน้าต่างบานเล็ก บรรยากาศเย็นสบายชวนให้ง่วงงุน “เราหายมาโดยไม่บอกกล่าวผู้ใด ทุกคนจะไม่ตามหาแย่หรือ” ไป่ชิงถงถามเสียงงัวเงีย กระชับผ้าห่มผืนหนาบนร่างคลายความหนาวเย็น "งานเลี้ยงฉลองยังมีอีกหลายวันไม่มีผู้ใดสนใจเราหรอก" ริมฝีปากหนาจุมพิตเคล้าคลอหัวไหล่เปลือยเปล่าขาวผ่องที่โผล่พ้นชายผ้าห่ม จนปรากฏร่องรอยสีกุหลาบน่าหลงใหล "อย่ากวนน่า ทั้งคืนยังไม่พออีกหรือไง" มือบางปิดปากหนาก่อนจะโฉบเข้ามารังแกเขาอีก "บอกแล้วไงข้าไม่มีวันอิ่มเอมในตัวเจ้า" สวีจิ้งเฟิ่งจูบฝ่ามืองามหนักๆ ลิ้นสากไล้เล็มนิ้วงามดุจลำเทียนเล่น จนไป่ชิงถงรู้สึกชาหน่อยๆ "ให้จริงเถอะ" ไป่ชิงถงชักมือกลับ จู่ๆ กลิ่นหอมติดปลายจมูกก็หายวับไ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   ตอนพิเศษ 1

    คงโหวหัวหงส์เก้าชั้นฟ้า[1] บรรเลงบทเพลงแว่วหวานเคล้าคลอสายลมยามค่ำคืน เสียงสรวลเสเฮฮา และจอกสุรากระทบกันฟังดูครื้นเครงดังแว่วถึงตำหนักแสงดาว เรือนหอที่วิจิตรตระการตาที่สุดในสี่ทะเลแปดดินแดนของไท่จื่อพระองค์ใหม่ งานอภิเษกสมรสขององค์ไท่จื่อ และไท่จื่อจวินจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แต่บรรยากาศครึกครื้นภายในงานไม่รบกวนเจ้าสาวในห้องหอเลยแม้แต่น้อย ไป่ชิงถงในชุดแต่งงานลายหงส์ นั่งหยุกหยิกบนเตียงหยกปูลาดด้วยผ้าห่มยวนยางผืนหนานุ่ม ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาอยู่ไม่สุขเช่นนี้ก็มาจากกลิ่นหอมเตะจมูกลอยตลบอบอวลอยู่ทั่วห้อง จนเขาอดสูดดมเข้าปอดแรงๆ ไม่ได้ ดวงตากลมโตจ้องมองอาหารละลานตาบนโต๊ะเบื้องหน้าตาเป็นมัน ลอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ต้องบอกก่อนว่าเมื่อครั้นยังเป็นมนุษย์เขาก็เป็นนักกินตัวยง แม้การคืนร่างเดิมกลายเป็นเทพเซียนจะไม่รู้สึกหิวโหยอีกต่อไป แต่เมื่อมีอาหารน่าทานมายั่วน้ำลายเช่นนี้ผู้ใดเล่าจะอดใจ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทส่งท้าย

    ด้านสวีจิ้งเฟิ่ง หลังจากเขากับไป่ชิงถงแยกตัวออกมา เซียนรับใช้ก็พาทั้งสองเดินชมทิวทัศน์ด้านหลังตำหนักใหญ่ที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ แต่ที่สะดุดตาเป็นที่สุดเห็นจะเป็นดอกอู๋ถงสีขาวบริสุทธิ์ชูช่อเบ่งบานเต็มผืนป่า “ว้าว! ต้นอู๋ถงเต็มไปหมดเลย” ไป่ชิงถงดวงตาเปล่งประกาย ดีใจมากถึงกับถลาเข้าไปถามไถ่เพื่อนฝูงอย่างสนิทชิดเชื้อ “สวัสดีต้นนี้เป็นลูกของเจ้าหรือ เขาน่ารักยิ่ง ต่อไปต้องเติบโตอย่างแข็งแรงแน่นอน” มือเรียวแตะสัมผัสอู๋ถงต้นน้อยอย่างเบามือ ก้านใบน้อยๆ ส่ายไหวสัมผัสมือบางกลับเหมือนตอบรับคำอวยพรของไป่ชิงถง ต้นอู๋ถงโดยรอบต่างกิ่งก้านส่ายไหว ยินดีที่ราชาของพวกเขามาเยี่ยมเยือน ดอกอู๋ถงโปรยปรายรอบกายคนตัวเล็ก บางส่วนติดตามเรือนผมยาวสลาย ยิ่งขับเน้นให้คนตรงหน้าน่ามองยิ่งกว่าสิ่งใด งดงามจนทัศนียภาพรอบกายจืดชืดไร้

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 127

    หลังเหตุการณ์เลวร้ายผ่านพ้นเรื่องน่ายินดีก็บังเกิด ข่าวเรื่องอดีตองค์ไท่จื่อสวีเฟยหลงคือเทพมังกรบรรพกาลแพร่สะพัดไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดน และที่สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กัน ก็คงหนีไม่พ้นสวีจิ้งเฟิ่ง หงส์ทองเพียงหนึ่งเดียวแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ยิ่งได้รู้ว่าเขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเทพมังกรบรรพกาล ผู้คนยิ่งตื่นเต้นคึกคัก จัดขบวนต้อนรับทั้งสองพระองค์กลับสู่แดนสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่ คดีใส่ร้ายอดีตองค์ไท่จื่อว่าเป็นผู้นำกบฏในสงครามเทพมารเมื่อคราก่อนก็ได้รับการคลี่คลาย หลินหลิงจึงประกาศความจริงออกไปให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อสลายความเข้าใจผิด และชำระมลทินให้กับสวีเฟยหลง เหล่าผู้คนที่เคยกล่าวร้ายท่านเทพต่างก็แพ้ภัยตนเอง ทั้งสวีหนิงหลงที่ร่างกายแหลกสลายไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยววิญญาณ หรือแม้แต่สวีจวินอดีตเทียนตี้ผู้ปกครองสวรรค์ยังถูกทำลายตบะ ก่อนจะถูกส่งตัวไปคุมขัง ณ ห้วงอนธการ จนกว่าอายุขัยของเทพเซียนจะสูญสิ้น หลินหลิงมองส่ง

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 126

    เหล่าเทพเซียนที่รายล้อมอยู่รอบตัวสวีจวินแตกฮือรีบหนีตาย เมื่อสวีจวินก่อกรรมทำเข็ญเข่นฆ่าผู้คนโดยไม่เลือกหน้า จนสวีเฟยหลงต้องเข้ามาหยุดยั้งอีกฝ่ายเอาไว้ สวีหนิงหลงอาศัยจังหวะที่ผู้คนไม่ได้สนใจในตัวเขาลอบหลบหนี แต่กลับถูกสวีจิ้งเฟิ่งขวางหน้า “จะหนีไปไหน อยู่เล่นเป็นเพื่อนข้าก่อนสิเสด็จอา” สวีจิ้งเฟิ่งยิ้มเย็น หนี้แค้นที่อีกฝ่ายติดค้างบิดา เขาจะเป็นคนทวงคืนให้เอง! กระบี่เกล็ดเหมันต์วูบไหว บินเฉียดลำคอแกร่งของสวีหนิงหลงไปเพียงแค่เส้นยาแดงผ่าแปดแต่ปราณกระบี่คมกริบกลับกรีดเฉือนผิวหนังหนาๆ ของสวีหนิงหลงจนได้เลือด สวีหนิงหลงเจ็บแปล๊บบริเวณลำคอ คลำดูแล้วเห็นเลือดสีแดงฉานไหลเต็มฝ่ามือ อยู่ห่างเงามัจจุราชเพียงแค่เอื้อมทำให้สวีหนิงหลงโมโหหนัก “แก! รนหาที่ตาย!!” สวีหนิงหลงลงมือหนักหน่วง มวลน้ำวนดุจพายุหมุนห้าสายสูงเสียด

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 125

    หลินเสวี่ยเฟิ่งร้องห้ามเสียงดังลั่น สวีเฟยหลงลืมตาพรึ่บ พลังแห่งเทพบรรพกาลระเบิดออกอย่างรุนแรง จนภูผาวารีสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น กระแทกเงาร่างของศัตรูในรัศมีร้อยลี้จนตัวปลิว ผู้ที่มีพลังตบะอ่อนด้อยต่างเลือดออกทั้งเจ็ดทวารตายคาที่ แม้แต่สวีหนิงหลง และจอมมารหลัวเหยียนที่เข้าร่วมสนามรบยังถูกพลังอันมหาศาลจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวจนกระอักเลือดออกมากองใหญ่ มังกรเกล็ดทองอร่าม ลำตัวยาวเหยียดราวกับจะโอบล้อมทั้งสามภพไว้ในอุ้งมือกู่ร้องเสียงดังกึกก้อง ร่างกายใหญ่โตทะยานสู่ฟากฟ้ายามสุริยันกระจ่างแจ้ง เมฆมงคลไหลเรื่อย แสงเงินแสงทองส่องประกายวาววับ ไอมงคลสีทองระยับโปรยปรายดุจสายฝนฉ่ำริน นำพาไอวิเศษอันแสนอบอุ่นอ่อนโยนโอบล้อมทุกหมู่เหล่า วัชระม่วงครามซึ่งเป็นทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุดตอบรับเสียงเรียกร้องแห่งบรรพกาล ผ่าฟาดลงบนแท่นมังกรวัชระ ปลุกจิตวิญญาณของอาวุธเทพให้ตื่นฟื้น อาวุธเทพหลับใหลมานานดั่งได้พานพบนายเก่า ส่งสายฟ้าสีม่วงครามต

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status