Share

บทที่ 84

Author: มู่อวิ๋นเฉิง
เมื่อเห็นเขาไม่มีความเห็นอื่น เมิ่งจิ่นเหยาจึงวางใจ ยอมรับการทำดีด้วยของเขาไว้อย่างสบายใจ เพียงแต่ในใจก็ยังถูกทำให้หวั่นไหวเล็กน้อยเช่นกัน นางเบิกตากว้างมองเขาอยู่ช่วงสองลมหายใจ จากนั้นจึงได้หลุบตาไป

นอกจากท่านตากับท่านปู่แล้ว ยังไม่เคยมีผู้ใดเต็มใจจับจ่ายเงินเพื่อนางเช่นนี้ กู้จิ่งซีนับเป็นคนแรก

พูดไปแล้วก็น่าขำนัก แม้แต่บิดาที่เลี้ยงดูนางมาหลายปี เงินที่หลายปีมานี้ใช้ไปบนตัวนางรวมกันแล้วยังไม่ถึงสองพันตำลึงเลย ทว่า สามีที่ไม่มีความรู้สึกใดต่อนางแม้แต่น้อยผู้นี้ เพียงครั้งเดียวก็มอบเงินให้นางไปจัดแจงเองถึงสามหมื่นตำลึง

หากมิใช่เพราะปัญหาเรื่องฐานะ จะให้นางเปลี่ยนบิดา มาเป็นลูกสาวของกู้จิ่งซีเสียเดี๋ยวนี้ นางก็เต็มใจอย่างยิ่งเลยล่ะ

โถงโซ่วอัน

คนของบ้านใหญ่และบ้านรองมาถึงกันพร้อมหน้าแล้ว กำลังคุยเล่นเป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่ากู้

แม้ฮูหยินผู้เฒ่ากู้จะเป็นมารดาเอก ที่ไม่ได้ปฏิบัติต่อบ้านใหญ่และบ้านรองเฉกเช่นบุตรชายในอุทร ทว่านางก็ไม่เคยปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างโหดร้าย กับหลานชายหลานสาวที่มิได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับนาง ก็ยังนับได้ว่าโอบอ้อมอารี

ในเวลานี้ มีสาวใช้เข้ามารายงาน “เรียนฮู
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 85  

    เมื่อเห็นคนในครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง อารมณ์ของฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็ปลอดโปร่งสบายใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นเมิ่งจิ่นเหยาที่อยู่ข้างกายบุตรชายแท้ๆ ซึ่งเป็นทายาทสายตรงของตน ยามสาวน้อยพูดคุยกับเย่าหลิงนั้นดูอ่อนโยนเป็นอย่างมากด้วยความเบิกบาน นางจึงมอบรางวัลให้สะใภ้ทุกคนเป็นปิ่นปักผมคนละด้ามอย่างเท่าเทียมโดยมิได้ลำเอียง ทุกชิ้นล้วนเป็นของที่สลักเสลาจากหยกน้ำงาม ปิ่นทุกด้ามมีมูลค่าไม่น้อยเลยนางจางและนางเฉินล้วนตกใจต่อความเมตตานี้ พวกนางเคยได้รับของขวัญพบหน้าจากแม่สามี แค่ในตอนที่ไปยกน้ำชาให้แม่สามีในวันที่สองหลังแต่งเข้ามาเท่านั้น ยามอื่นแม่สามีก็ไม่เคยมอบรางวัลใดให้พวกนางอีกเลย แต่ลูกของพวกนางกลับเคยได้รับรางวัลอยู่“สะใภ้ขอบพระคุณท่านแม่เจ้าค่ะ”คนทั้งสามขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่ากู้อย่างพร้อมเพรียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มฮูหยินผู้เฒ่ากู้มองพวกนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “สะใภ้ข้างบ้านของพวกเราคอยแก่งแย่งชิงดีกันทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ทำเอาในบ้านวุ่นวายไปหมด จนพวกผู้ชายไม่มีแก่ใจจะไปต่อสู้เพื่ออนาคต โชคดีที่สะใภ้ของสกุลเราล้วนเป็นสะใภ้ที่ดี เมื่อเห็นพวกเจ้า ในใจของแม่ก็รู้สึกปลาบ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 86

    เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้า ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยทั่วไป “เรื่องมารดาเลี้ยงยึดครองสินเดิมของลูกเลี้ยงมีอยู่ไม่น้อย ข้าเพียงบังเอิญโชคร้ายเข้าเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด แค่ทวงคืนกลับมาได้ก็พอแล้ว”นางจางกล่าวอย่างกระอักกระอ่วนอยู่บ้างว่า “นั่นสิ โชคดีนะที่น้องสะใภ้สามทวงกลับมาได้แล้ว”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็ยกจอกชาขึ้นมาจิบอีกคำ หากนางอายุน้อยกว่านี้อีกสองสามปี ไม่แน่ว่าจะรู้สึกอับอาย รู้สึกว่าน่าขายหน้า แต่บัดนี้ นางไม่สนใจเรื่องเหล่านี้แล้ว ดังนั้นไม่ว่าผู้ใด ก็ไม่อาจมาสร้างความระคายใจให้นางได้เดิมฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็พอใจในตัวลูกสะใภ้คนนี้อยู่แล้ว ยามนี้เมื่อเห็นว่านางใช้คำพูดไม่กี่คำก็คลี่คลายสถานการณ์ชวนขายหน้าไปได้ ก็รู้สึกพึงพอใจยิ่งกว่าเดิม แม่นางที่ดีงามเช่นนี้ เจ้าเด็กดื้อซิวหมิงนั่นไม่คู่ควร คู่กับเย่าหลิงจึงดีที่สุดฮูหยินผู้เฒ่ากู้ถอนใจเบาๆ ทีหนึ่ง “พออายุมากแล้วก็ใช้การไม่ค่อยได้ ยังไม่ทันไรก็รู้สึกเหนื่อยเสียแล้ว พวกเจ้าจงกลับไปกันเถอะ”เมื่อนางกล่าวจบ นางจางก็รู้สึกประหม่ากังวลขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อครู่ยังดีอยู่เลย เหตุใดเพียงครู่เดียวก็เหนื่อยเ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 87

    เพียงแค่ช่วงเช้าของวันเดียว เมิ่งจิ่นเหยาก็คำนวณรายได้ของโรงนาและร้านค้าในหลายปีมานี้ออกมาได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ แม้ฐานะของสกุลโจวจะไม่ดีเท่าจวนหย่งชางป๋อ แต่ก็ไม่ด้อยเลย มารดาของนางเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของสกุลโจว ที่บ้านจึงมอบสินเดิมให้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ดินหรือร้านค้า รายได้ล้วนไม่เลวส่วนจวนหย่งชางป๋อนอกจากจะมีผีพนันที่ติดการพนันแบบอารองของนางแล้ว ยังเป็นเพราะมีท่านย่าของนางคอยให้ท้าย ทำให้เขาแพ้พนันจนสูญเสียทรัพย์สินไปไม่น้อย รวมกับที่หลายปีมานี้จวนหย่งชางป๋อตกต่ำลง จึงเป็นสินสอดของท่านแม่นาง ที่ช่วยพยุงเกียรติยศของจวนหย่งชางป๋อมาตลอดหลายปีรายได้จากที่ดินและร้านค้าพวกนั้น ตอนอยู่ในมือของนางซุนก็ถูกใช้ออกไปกว่าครึ่งแล้วหนิงตงดูยอดรวมที่ผู้เป็นนายคำนวณออกมา ก็พูดอย่างตะกุกตะกักว่า “พวกเขา…พวกเขาทำเกินไปแล้ว จวนหย่งชางป๋ออันใหญ่โตนั่น ใช้เงินของฮูหยินคนก่อนหล่อเลี้ยงให้อยู่รอดหรืออย่างไร? ”เมิ่งจิ่นเหยาหัวเราะเบาๆ “ท่านพ่อที่แสนดีคนนั้นของข้ารักศักดิ์ศรีหน้าตา ใช้จ่ายมือเติบ ย่อมสิ้นเปลืองเงินทองน่ะสิ”เพียงครู่เดียว ชุนหลิ่วก็ถือถาดเข้ามา แล้วหยิบขนมจานนั้นออกมาว

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 88

    รอจนชุนหลิ่วจากไป เมิ่งตงหย่วนก็คลี่จดหมายออกดู ทันใดนั้นความโมโหก็พุ่งขึ้นมา เขาถีบเก้าอี้ที่อยู่เบื้องหน้าจนพลิกคว่ำไปในเท้าเดียว จากนั้นก็คำรามอย่างโมโหว่า “นังลูกอกตัญญู!”นางซุนเพิ่งมาถึงก็ได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธนี้เข้าพอดี ทำเอาตกใจจนคอหด ทว่าอย่างรวดเร็วก็ได้สติขึ้นมาว่า สามีน่าจะกำลังด่าทอเมิ่งจิ่นเหยา จึงรีบก้าวเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว แล้วส่งเสียงถามว่า “ท่านพี่ระงับโทสะเถิดเจ้าค่ะ ระวังจะโมโหจนเสียสุขภาพ ที่แท้เกินเรื่องใดขึ้นกันแน่”เมิ่งตงหย่วนโมโหจนใบหน้าแดงก่ำลำคอแข็งเกร็ง เขายื่นจดหมายในมือให้นาง โมโหอย่างที่สุดว่า “เจ้าดูเจ้าลูกอกตัญญูนี่สิ นางคิดจะบีบบังคับบ้านมารดาจนตาย ตอนนั้นทำไมคนที่ตายถึงเป็นนางโจวไม่ใช่นางนะ? เลี้ยงนางมาจนโตขนาดนี้ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณก็ช่างแล้ว นี่ยังจะมาทวงหนี้กับบ้านมารดาของตัวเองอีก”เมื่อนางซุนได้ยิน ก็รีบรับจดหมายไปดูอย่างละเอียดทีหนึ่ง พบว่าเป็นจดหมายทวงหนี้ฉบับหนึ่ง ในตอนที่เห็นจำนวนบนนั้น นางก็แทบจะหน้ามืดหมดสติไปทันทีครอบครัวของพวกนางใช้สินเดิมของนางโจวไปมากขนาดนั้นเชียวหรือ?นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย ต่อให้นำสินเดิมทั้งหมดข

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 89

    วันนี้เป็นวันที่แสงอาทิตย์อบอุ่น รัศมีแห่งฤดูใบไม้ผลิเปล่งประกายอย่างสดใสวันหยุดช่วงแต่งงานของกู้จิ่งซีได้จบลงแล้ว ยามเหม่าสี่เค่อเขาก็ออกจากบ้านแล้ว จวบจนพลบค่ำในยามจุดไฟจึงกลับมา ถึงตอนนั้นก็เป็นช่วงเวลาอาหารค่ำพอดีเมิ่งจิ่นเหยาได้พบเขาเพียงช่วงจุดคบไฟเท่านั้น และมีบางครั้งที่ถึงเวลาจุดไฟแล้วก็ยังไม่เห็นคน รอจนนางหลับไปแล้ว กู้จิ่งซีจึงกลับมาจากการทำงานอย่างดึกดื่นมืดค่ำ ทว่านางก็มิได้สนใจ เพียงทำเรื่องของตนเองให้ดีเท่านั้นเวลานี้ เมิ่งจิ่นเหยากำลังพลิกดูสมุดบัญชีทรัพย์สินส่วนตัวพวกนั้นของกู้จิ่งซี ทำความเข้าใจว่าแต่ละปีเขามีรายรับเท่าใด จะได้ทำหน้าที่ดูแลเรือนให้เขาในฐานะภรรยาชุนหลิ่วนำเทียบฉบับหนึ่งเข้ามามอบให้เมิ่งจิ่นเหยาอย่างนอบน้อม “ฮูหยินเจ้าคะ นี่เป็นเทียบเชิญที่จวนหรงกั๋วกงส่งมาเจ้าค่ะ”ความเคลื่อนไหวในการพลิกสมุดบัญชีของเมิ่งจิ่นเหยาชะงักลง นางแต่งเข้าจวนฉางซินโหวได้ครึ่งเดือนกว่าแล้ว ยังคงเป็นครั้งแรกที่ได้รีบเทียบเชิญจากสกุลอื่น คิดว่าคนพวกนั้นคงยึดท่าทีรอดูก่อน เมื่อเห็นว่าจวนฉางซินโหวปฏิบัติต่อนางไม่เลว จึงได้เชิญนางไปเป็นแขกนางรับเทียบเชิญมาดู เป็นงานเลี้ยงน

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 90

    นางคิดว่าตนเองไม่นับว่ามาสาย แต่เมื่อไปถึงแล้วจึงพบว่าตนเองไปสายนัก ในห้องโถงมีฮูหยินของขุนนางและเหล่าคุณหนูสูงศักดิ์รวมกันอยู่ไม่น้อยแล้วเดิมทุกคนก็คิดว่านางไม่กล้าออกจากบ้านมาเช่นกัน ดังนั้นคงไม่มีทางมาแล้ว ดังนั้นในตอนที่นางปรากฏตัว คล้ายกับทุกสายตาล้วนมารวมอยู่ที่ตัวนาง ในสีหน้ามีทั้งความตะลึงและประหลาดใจ จากนั้นก็เป็นการมองสำรวจนางก็เห็นนางสวมกระโปรงจีบลายหยกสมปรารถนาสีเขียวอ่อนอมฟ้าของธารน้ำ เส้นผมดำขลับมวยสูงเป็นทรงก้นหอย บนศีรษะประดับด้วยปิ่นระย้าฝังไข่มุกมรกต หูส่วมต่างหูมุกระย้า แม้มิได้ประทินโฉมอย่างซับซ้อน ทว่ารูปโฉมของนางเลอลักษณ์ บริสุทธิ์งดงาม สง่างามและภูมิฐานยามที่นางโค้งริมฝีปากแย้มยิ้มนั้น เจิดจรัสจนทำให้ตาพร่า หมู่ผกาสิ้นแสง นับเป็นหญิงงามที่หาได้ยากอย่างแท้จริงไม่แปลกเลยที่ฉางซินโหวผู้ให้ความสำคัญกับกฎธรรมเนียมมาตลอดจะแต่งนางเป็นภรรยา หากมีภรรยาที่งดงามเช่นนี้อยู่เคียงข้าง ต่อให้ต้องถูกคนทั้งแผ่นดินเย้ยหยันแล้วอย่างไร? เดิมเพราะฉางซินโหวมีโรคที่บอกผู้อื่นไม่ได้ จึงไม่มีสตรีสูงศักดิ์นางใดเต็มใจแต่งด้วย ยามนี้บุตรชายหนีวิวาห์ ทำให้เขาเก็บผลประโยชน์ครั้งใหญ่ได

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 91

    เรื่องนี้เมิ่งจิ่นเหยาก็เคยได้ยินมาเช่นกัน แต่นางกลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจ จวนหย่งชางป๋อนั้นเน่าเละไปถึงฐานรากแล้ว ในเมื่อพวกเขากล้าใช้สินเดิมของมารดานาง แล้วจะไม่กล้าใช้ของนางซุนได้อย่างไร? ดังนั้นการบีบให้นางซุนใช้สินเดิมมาอุดรอยรั่วนี้ก็เป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญอย่างมากเลยล่ะนางซุนต้องสละทุกสิ่งที่มี แล้วยังขาดอีกเท่าใด จวนหย่งชางป๋อค่อยจ่ายเสริมเข้าไปทว่า ฮูหยินผู้นี้กลับเตือนนางให้นึกได้ว่า วันนี้เป็นเส้นตายวันสุดท้าย แต่นางออกจากจวนมาแต่เช้า จึงไม่รู้ว่าจวนหย่งชางป๋อได้ส่งเงินมาให้นางแล้วหรือยังนางวางจอกชาในมือลง ยกยิ้มขึ้นมาบางๆ ตอบอย่างไม่เร่งร้อนไม่ลนลานว่า “ดูท่าน่าจะเป็นเรื่องจริง ทว่าติดหนี้ย่อมต้องใช้คืน นี่เป็นหลักการอันแน่แท้ เงินในมือของนางไม่พอ จะนำสินเดิมไปจำนำเพื่อมาใช้คืนข้า ก็เป็นเรื่องธรรมดา”ได้ยินน้ำเสียงนางราบเรียบ แม้สิ่งที่กล่าวมาจะมีเหตุผล แต่คำพูดที่ดูสมเหตุสมผลพวกนี้กลับแฝงความไร้ไมตรี ดูท่าจะเป็นผู้ที่จิตใจเย็นชาเป็นแน่ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างเงียบงัน มีบุตรสาวบ้านใดที่ปฏิบัติต่อคนบ้านมารดาเช่นนี้บ้าง?จิตใจเช่นนี้ออกจะโหดร้ายไปบ้างแล้ว ต่อให้ทำไม่ถ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 92

    ฮูหยินท่านหรงกั๋วกงรีบเข้ามาพูดเปลี่ยนบรรยากาศ “กู้ฮูหยิน ในเมื่อเป็นความเข้าใจผิด เช่นนั้นก็อย่าคุยเรื่องนี้อีกเลย ดอกไม้ในสวนด้านหลังของจวนเรากำลังบานสวยพอดี มิสู้พวกเราไปชมดอกไม้กันดีหรือไม่? ”ฮูหยินท่านอื่นก็แสดงความสนใจออกมาเช่นกัน คนทั้งกลุ่มจึงออกจากโถงนั่งเล่น ย้ายไปที่สวนดอกไม้ด้านหลังแทนเพิ่งออกจากโถงนั่งเล่น เมิ่งจิ่นเหยาก็เห็นชุนหลิ่วกำลังเร่งฝีเท้าเข้ามาหานาง จากนั้นก็กระซิบข้างหูนางประโยคหนึ่ง ดวงตาของนางสว่างไสวในทันที หันกายไปกล่าวกับฮูหยินท่านหรงกั๋วกงว่า “ฮูหยินท่านกั๋วกง ที่บ้านข้ามีธุระนิดหน่อย ต้องขอตัวก่อนแล้วเจ้าค่ะ”ฮูหยินท่านหรงกั๋วกงพยักหน้าว่า “ในเมื่อกู้ฮูหยินมีธุระที่จวน เช่นนั้นก็เชิญเถิด ครั้งหน้าพวกเราค่อยนัดกันใหม่เมื่อมีเวลา”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าเบาๆ ถือโอกาสกล่าวคำอำลาฮูหยินท่านอื่น จากนั้นก็พาชิงชิว หนิงตง และชุนหลิ่วจากไปหลังจากพวกนางสี่นายบ่าวจากไป ฮูหยินท่านอื่นก็เริ่มกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาทันทีอย่างอดไม่ได้“เดิมข้าคิดว่าวันนี้นางไม่มีทางมาแน่ คิดไม่ถึงว่าจะมาแล้ว”“ผู้ใดว่าไม่ใช่ล่ะ? แค่แต่งกับบิดาของคู่หมั้นตัวเอง ก็สร้างคว

Latest chapter

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 274

    ท่านหญิงจิ้งหนิงเห็นนางมองดูลิ้นจี่อย่างตะลึงงัน ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอันใด จึงกล่าวอย่างไม่ได้สนใจว่า “เจ้าบอกว่าชอบมิใช่หรือ? ข้าได้รับมาจากเสด็จย่าเมื่อวานตอนบ่าย ให้เจ้าทั้งหมดเลย”เมิ่งจิ่นเหยาตกตะลึงเล็กน้อย มิน่าเล่าเมื่อวานนางกินอาหารกลางวันเสร็จแล้วจึงรีบร้อนจากไป ที่แท้ก็เข้าไปในวังนี่เอง ไปหาไทเฮาเพื่อขอลิ้นจี่มาให้นาง ดูแล้วลิ้นจี่นี้น่าจะสักสี่ห้าชั่งได้ ฝ่าบาทพระราชทานให้แก่ขุนนางเพียงแค่หนึ่งชั่งกว่าเท่านั้น สี่ห้าชั่งนี้ช่างล้ำค่ายิ่งนักเมิ่งจิ่นเหยาจ้องมองไปที่สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกอยู่ในภวังค์ หัวใจถูกปกคลุมไปด้วยไออุ่น ภายในใจรู้สึกอบอุ่นนัก จึงถามด้วยเสียงอ่อนโยน “อาเหยียน ให้ข้าหมดแล้ว เจ้ากินอันใด?”ท่านหญิงจิ้งหนิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก “ข้ากินทุกปี ปีนี้กินไปหลายลูกแล้ว กินจนหายอยาก ตอนนี้ไม่ได้สนใจเท่าใดแล้ว พอดีเจ้าชื่นชอบ จึงเอามามอบให้เจ้า”เมิ่งจิ่นเหยาเม้มริมฝีปาก “ขอบใจมากนะอาเหยียน”ท่านหญิงจิ้งหนิงยิ้มอย่างขัดเขิน “ไม่ต้องเกรงใจ ก่อนที่ข้าจะนำมา ได้ใช้น้ำแข็งรักษาความสดไว้ด้วย เจ้าให้คนไปเอาน้ำแข็งมาสักหน่อย มิเช่นนั้นอากาศร้อนแล้ว มันจะเสียได้ง

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 273

    ถือโอกาสที่ตอนนี้แสงอาทิตย์ยังไม่แรงเกินไป เมิ่งจิ่นเหยาพาท่านหญิงจิ้งหนิงไปเดินเล่นภายในจวนเพียงแต่ ดูเหมือนกับท่านหญิงจิ้งหนิงจะคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายในจวน จึงรู้ว่าด้านใดมีสะพาน ด้านใดมีศาลา และริมสระน้ำด้านใดเย็นมากกว่ากันเมิ่งจิ่นเหยาประหลาดใจเล็กน้อย “อาเหยียน ดูเหมือนว่าเจ้าจะคุ้นเคยกับจวนท่านโหวอยู่บ้าง”ท่านหญิงจิ้งหนิงตอบตามความจริง “ข้ามาที่จวนฉางซินโหวหลายครั้งแล้ว ตอนที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่า ดังนั้นจึงคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายในจวนอยู่บ้าง” นางกล่าว แล้วหันไปมองเมิ่งจิ่นเหยา “ใช่แล้ว ตอนที่เจ้าแต่งงาน ข้าก็อยู่ด้วย ข้ามาดื่มสุรามงคลกับท่านแม่”เมิ่งจิ่นเหยาเข้าใจ “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง”ท่านหญิงจิ้งหนิงกล่าวอีกว่า “วันนี้ข้ามาอย่างหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ ยังไม่ได้ไปเยี่ยมคารวะฮูหยินผู้เฒ่าเลย”มาเป็นแขกที่เรือนของผู้อื่น ไปทักทายผู้อาวุโสเสียหน่อย เป็นมารยาทพื้นฐานเมิ่งจิ่นเหยากล่าวตอบ “เช่นนั้นเจ้าก็มาผิดจังหวะแล้วละ เมื่อวานแม่สามีของข้าไปพักอยู่ที่วัดเป็นการชั่วคราว คาดว่าอีกสองสามวันถึงจะกลับมา”ท่านหญิงจิ้งหนิงก็ไม่ได้แปลกใจ เพียงแค่พยักหน

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 272

    กู้จิ่งซีมองใบหน้าที่หลับใหลอย่างสงบของแม่นางน้อย ท่าทางไร้การป้องกันแม้แต่น้อย ทันใดนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองคิดมากเกินไป เดิมทีพวกเขาก็เป็นสามีภรรยากัน ทำตามใจชอบบ้างก็ไม่เป็นไร ระมัดระวังตัวมากเกินไปกลับไม่เหมือนสามีภรรยากันเสียด้วยซ้ำ แม่นางน้อยคิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาตลอดไปจริง ๆ ถึงได้เป็นเช่นนี้……วันต่อมาเมิ่งจิ่นเหยาเพิ่งจะกินข้าวเช้าเสร็จได้ไม่นาน กำลังเตรียมตัวไปอ่านหนังสือเพื่อฆ่าเวลาเสียหน่อย ก็มีสาวใช้เข้ามารายงานว่าท่านหญิงจิ้งหนิงมาที่นี่นางตะลึงเล็กน้อย รู้สึกจับต้นจนปลายไม่ถูกนิดหน่อย ไม่รู้ว่าอยู่ ๆ ท่านหญิงจิ้งหนิงมาหานางทำไม จึงรีบกำชับว่า “รีบไปเชิญท่านหญิงจิ้งหนิงเข้ามาเร็วเข้า”ผ่านไปไม่นาน สาวใช้ก็พาท่านหญิงจิ้งหนิงมาที่เรือนเวยหรุยเซวียนเมื่อเมิ่งจิ่นเหยามองเห็นท่านหญิงจิ้งหนิง ก็มองสำรวจอย่างละเอียด เห็นนางดูท่าทางสบายดี และก็ดูไม่ได้มีเรื่องอันใดเช่นกันเมื่อเห็นดังนั้น ท่านหญิงจิ้งหนิงก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความสงสัย “นั่นมันสายตาอันใดของเจ้า? ไม่ยินดีต้อนรับข้ากระนั้นหรือ?”เมิ่งจิ่นเหยาเกรงว่านางจะเข้าใจผิด จึงรีบส่าย

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 271

    เมิ่งจิ่นเหยาลอบมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด กล่าวคำพูดที่ทำให้ผู้อื่นตกใจไม่หยุด “หรือว่าวันที่อากาศร้อนเช่นนี้ ยังจะให้ข้าปิดไว้อย่างมิดชิดเหมือนตอนฤดูหนาวอีกหรือเจ้าคะ? ในเมื่อท่านใส่ใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของตนเอง ไยถึงไม่คิดที่จะปกป้องตัวเองบ้างเล่า? บางทีข้าอาจจะทำอันใดท่านก็ได้นะเจ้าคะ?”นางขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง กำลังโมโหกู้จิ่งซีที่รบกวนการนอนของนาง อยู่ดีไม่ว่าดีมาห่มผ้าห่มให้นาง สุดท้ายทำให้นางร้อนจนตื่น ตอนนี้อยากนอนก็นอนไม่หลับแล้วเพียงแต่คำพูดที่นางพูดเมื่อครู่ล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ไม่ต้องพูดว่ากู้จิ่งซีทำไม่ได้ ไม่สามารถที่จะทำอันใดนางได้ แม้ว่ากู้จิ่งซีจะทำได้ นางก็ไม่มีทางปฏิเสธ ถึงอย่างไรตอนนี้ก็เป็นสามีภรรยากันแล้วร่วมเรียงเคียงหมอนมานานถึงเพียงนี้ นับจากนี้ต้องใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกัน เพียงแค่นอนหลับเท่านั้นเอง ยังต้องยึดติดว่าสวมเสื้อผ้าหนาพอหรือไม่? เดิมทีฤดูร้อนก็ไม่เหมาะที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาอยู่แล้ว จะอึดอัดและทำให้ป่วยเอาได้เพราะคำพูดนี้ของนาง ในเวลานี้บรรยากาศจึงได้แข็งค้าง กู้จิ่งซีตะลึงงัน การเคลื่อนไหวของพัดก็หยุดชะงักลง ห

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 270

    เคยลิ้มรสชาติของชีวิตที่ขื่นขม พอตอนนี้กำลังมีชีวิตที่ดี กินดีอยู่ดี ยังมีอันใดที่ต้องพิถีพิถันกัน? ตอนนี้เป็นแบบนี้ นางก็พึงพอใจมากแล้วเมื่อกินอาหารเย็นเสร็จ เมิ่งจิ่นเหยาก็เคลื่อนไหวเล็กน้อยอยู่ภายในเรือนเพื่อย่อยอาหาร หลังจากนั้นก็อาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวพักผ่อนว่ากันว่า สามีภรรยาอยู่ร่วมกันมานาน ก็จะยิ่งปลดปล่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ระมัดระวังตัวมากเกินไปเหมือนตอนที่แต่งงานกันใหม่ ๆกู้จิ่งซีรู้สึกว่าคำพูดนี้สมเหตุสมผล ทว่าคนที่ปลดปล่อยไม่ใช่เขา แต่เป็นแม่นางน้อยต่างหาก ตอนที่เพิ่งแต่งงานกันยังระมัดระวังตัว นอนหลับอย่างสงบเสงี่ยม เกรงว่าจะสัมผัสร่างกายของเขาโดยไม่ทันได้ระวังน่าจะเป็นเพราะทุกวันนี้ เขาไม่ได้ทำอันใดที่เกินเลย แม่นางน้อยจึงยิ่งปฏิบัติต่อเขาอย่างวางใจหรือจะบอกว่า แม่นางน้อยไม่ได้มองว่าเขาเป็นบุรุษก็ได้เหมือนดังเช่นตอนนี้ เขาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ กลับมาที่ห้องนอน ก็มองเห็นแม่นางน้อยกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เพราะว่าชอบอากาศหนาว จึงไม่ได้ห่มผ้าห่ม สวมเพียงชุดนอนที่บางเบาเท่านั้น ผ้าที่ทำจากไหมนั้นบางเบามาก ถึงขนาดสามารถมองเห็นชุดซับในสีชมพูรากบัวที่อยู่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 269

    กู้จิ่งซีรู้สึกแค่เพียงไม่คาดคิดเท่านั้น เดิมทีไม่ได้คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทว่าเมื่อเห็นแม่นางน้อยอับอายเสียจนหน้าแดง สีหน้าท่าทางขัดเขินไม่กล้ามองตนเองอย่างไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี คำพูดที่กล่าวออกมาจึงแฝงไปด้วยการหยอกเย้า “ฮูหยินใช้ข้าเป็นสาวใช้แล้วหรือ”เมื่อได้ฟังดังนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็มองไปทางเขาอย่างฉับพลัน บุรุษผู้นั้นยิ้มมุมปาก ดวงตามองตนเองอย่างหยอกล้อ รู้สึกละอายใจและขุ่นเคืองขึ้นมาในทันที อดไม่ได้ที่จะตอกกลับ “มิใช่ว่าท่านพี่อยากเป็นสาวใช้หรอกหรือ? ข้าก็ทำตามความปรารถนาของท่านพี่แล้วมิใช่หรือเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีรู้ว่าเมื่อใดควรหยุด หากทำให้แม่น้อยร้องไห้ขึ้นมาก็คงจะจบไม่สวยเท่าใดนัก จึงตอบรับด้วยรอยยิ้ม “อืม ฮูหยินพูดถูกแล้ว ข้าเต็มใจเอง ตอนนี้ข้ายังมีธุระต้องไปจัดการ ฮูหยินกินเองเถิด”เขาพูดพลางเอาเปลือกกับเมล็ดของลิ้นจี่วางไว้บนโต๊ะ แล้วหยิบผ้าสีเหลี่ยมสีน้ำเงินขึ้นมาเช็ดมือ เตรียมที่จะจากไปเมิ่งจิ่นเหยาเหลือบมองลิ้นจี่ที่เหลืออยู่พลางถามว่า “ท่านพี่ไม่ถือโอกาสกินตอนที่ยังสดใหม่อยู่สักหน่อย แล้วค่อยไปทำงานหรือเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีส่ายศีรษะ “ฮูหยินกินเถิด ข้าไม่ค

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 268

    เขาเอื้อมมือไปหยิบที่ปอกเปลือกแล้วมาหนึ่งลูก จากนั้นก็ยื่นไปที่ปากของแม่นางน้อย พลางกล่าวอย่างหยอกเย้า “ฮูหยิน เพียงแค่มองดูอย่างเดียวลิ้มลองรสชาติไม่ได้ ลองชิมดูก่อนดีหรือไม่?”เมิ่งจิ่นเหยาได้สติกลับมา ก็เห็นเขาแย้มยิ้มมองตนเอง ดวงตาอันอ่อนละมุนคู่นั้นช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก จึงอ้าปากรับการป้อนของเขาโดยไม่รู้ตัว กัดหนึ่งคำเบา ๆ เนื้อของลิ้นจี่ราวกับผิวที่เนียนนุ่ม อ่อนนุ่มและสดชื่น มีรสหอมหวานในปาก กลิ่นหอมกรุ่น หวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย รสชาติดีเยี่ยม ทำให้ชวนนึกถึงรสชาติที่เหลืออยู่ในปากเมื่อเห็นนางหรี่ตาลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ ถึงขั้นทำให้หวนนึกถึง กู้จิ่งซียิ้มพลางถามว่า “อร่อยขนาดนั้นเชียวหรือ?”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้า “อร่อยเจ้าค่ะ ผ่านมานานหลายปีได้กินอีกครั้ง ยังเป็นรสชาติที่อยู่ในความทรงจำอยู่เลยเจ้าค่ะ” เมื่อนับเวลาจากที่นางกินลิ้นจี่ครั้งที่แล้ว ก็คือสิบปีก่อน ตอนนั้นท่านปู่ได้รับลิ้นจี่มาจากสหายนิดหน่อย ลูกเดียวยังทำใจกินไม่ลง นำกลับมาป้อนใส่ท้องนางทั้งหมด เวลานั้นนางยังไม่เข้าใจความล้ำค่าของลิ้นจี่ รู้เพียงแต่ว่าอร่อยเท่านั้น ต่อมาท่านปู่เสียชีวิตไป นางก็ไม่ได้กินอีกเ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 267

    จวนฉางซินโหว เรือนเวยหรุยเซวียนเมิ่งจิ่นเหยานั่งอยู่บนตั่งกุ้ยเฟย กำลังฟังชุนหลิ่วกับหนิงตงอ่านบันทึกเรื่องเล่าแปลกประหลาด ชุนหลิ่วรับผิดชอบอ่านบทบรรยาย ส่วนหนิงตงอ่านบทสนทนาชิงชิวอยู่ด้านหนึ่งคอยปอกเมล็ดแตงให้เมิ่งจิ่นเหยา ส่วนเซี่ยจู๋ก็คอยพัดวีให้เมิ่งจิ่นเหยาอยู่อีกด้านหนึ่งวันนี้ไม่ถือว่าร้อนนัก ในช่วงไม่กี่ชั่วยามที่ร้อนที่สุด ภายในห้องจะวางตู้น้ำแข็งเอาไว้เพื่อลดอุณหภูมิ เมื่อผ่านยามเซินไปแล้วจะไม่ร้อนเท่าใดนัก ก็จะนำตู้น้ำแข็งออก ภายในห้องยังหลงเหลือความเย็นสบายอยู่เล็กน้อย แค่พัดสักนิดหน่อยก็พอแล้วเมิ่งจิ่นเหยาหรี่ตาลงอย่างสบาย ช่างสำราญใจยิ่งนักเมื่อกู้จิ่งซีกลับมา ก็มองเห็นฉากนี้ เขาตะลึงงันเล็กน้อย แม่นางน้อยที่อยู่แต่ในเรือนมิดชิดช่างรู้จักเพลิดเพลินใจยิ่งนัก เขาไม่เคยให้สาวใช้สองสามคนมาปรนนิบัติเช่นนี้เสพสุขขนาดนี้มาก่อน “ท่านโหว”เมื่อสาวใช้ทั้งสี่คนมองเห็นกู้จิ่งซี ก็รีบคารวะให้เขาเมิ่งจิ่นเหยาเงยหน้ามอง บุรุษในชุดขุนนางสีแดงเข้มกำลังก้าวเท้าเดินมาทางนาง จึงส่งเสียงเรียกออกมา “ท่านพี่” เมื่อสังเกตเห็นกล่องอาหารที่ถืออยู่ในมือของเขา ก็เอ่ยถามอีกว่า “ท่านพี

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 266

    กู้จิ่งซีกล่าว “ร่างกายของสตรีเทียบไม่ได้กับบุรุษ ยิ่งต้องระวังสุขภาพให้ดี อย่าสัมผัสความเย็น หากความเย็นเข้าสู่ร่างกายจะได้รับความทรมานได้ หากว่าง่วงนอนก็กลับไปนอนที่เตียง ระวังจะเป็นหวัดเอา”เมิ่งจิ่นเหยาตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อคิดถึงสุขภาพของตนเอง ดวงตาก็หม่นลง หันมาพยักหน้าแผ่วเบาพลางกล่าวว่า “เจ้าค่ะ ข้ารู้แล้ว” กล่าวจบ นางก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ตอนนี้ท่านพี่มีเวลาหรือไม่เจ้าคะ? มิสู้พวกเรามาเดินหมากกันสักตาดีไหมเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีตอบรับอย่างยินดี “ได้”เมิ่งจิ่นเหยาไปเอากระดานหมากมา ทั้งสองคนเดินหมากกันผ่านไปราว ๆ ครึ่งชั่วยาม แพ้ชนะก็ได้ถูกตัดสิน ผลลัพธ์ไม่เกินความคาดหมายแม้แต่น้อย เมิ่งจิ่นเหยาพ่ายแพ้แล้ว นางกำลังมองดูกระดานหมาก แม้เสียใจก็สายไปแล้วกู้จิ่งซีเห็นนางขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ ท่าทางแทบอยากจะย้อนเวลากลับไปในทันที มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อยจนยากที่จะมองเห็น พลางกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “ฮูหยิน เมื่อวานข้าก็บอกเจ้าแล้ว การระแวดระวังนั้นเป็นเรื่องดี แต่หากระมัดระวังมากเกินไปจะเสียเรื่องได้ง่าย ตอนนี้แพ้ชนะได้ถูกตัดสินแล้ว เสียใจไปก็ไร้ประโยชน์”เมิ่งจิ่นเหยาไม่ย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status