“ข้าชงชามาให้ท่านพ่อเจ้าค่ะ ทำงานเหนื่อย ๆ อาจจะรู้สึกเมื่อยล้า ชานี้จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้ดีเจ้าค่ะ” น้ำเสียงที่เอ่ยขึ้นอย่างห่วงใยพร้อมกับถือชามาให้เขาอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยตอบรับคำ แต่นางก็ชงชามาให้เขาเสมอไม่เคยขาด บางครั้งนางถึงกับเอ่ยขอคนสนิทของเขาเพื่อฝนหมึกให้บิดาด้วยตัว
“มีเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าคิดมากถึงเพียงนี้” น้ำเสียงนั้นเอ่ยถามด้วยความห่วงใย ฟางเหนียงไม่ตอบ นางหันไปหน้าไปหาคนใช้ข้างกายพร้อมกับพยักหน้าให้บ่าวคนนั้นส่งรายงานบางอย่างให้สามี เซียวฟู่ซินรับรายงานนั้นมาก็มีสีหน้างุนงง เพราะรายงานเหล่านี้เกี่ยวกับเกี่ยวบัญชีของจวนซึ่งเป็นงานหลังบ้าน ที่ผ่านมาเซ
ในค่ำคืนหนึ่งที่พิษออกฤทธิ์ หวงหยางหมิงมองดูใบหน้าที่เจ็บปวดของเซียวเหม่ยอิง ในใจของเขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน“ทะ...ท่านพี่" น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกสามีตัวเองอย่างยากลำบากหลังจากที่นางได้กระอักเลือดออกมาก่อนหน้านั้น“ข้าอยู่นี่ ไม่เป็นอะไรแล้วนะ” น้ำเสียงนั้นเอ่ยอย่างห่วงใย มือของเขานั้นกุ
“แล้วเจ้ากับฮูหยินของเจ้าเล่า จะให้ข้าเลื่อนวันออกเดินทางไปก่อนหรือไม่ เผื่อจะมีหมอจากชาวเปอร์เชียผ่านมา”“ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ พระองค์อย่าได้เลื่อนวันเดินทางเพราะกระหม่อมเลย เรื่องบ้านเมืองนั้นสำคัญกว่า พวกเราเดินทางกลับแคว้นเร็วเท่าไร ยิ่งดีกับแคว้นเราพ่ะย่ะค่ะ” เหลียงซินเผิงพยักหน้าให้อย่างเข้าใจ“
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องทำได้เพราะอาอิงของข้าเก่งขนาดนี้” องค์หญิงถังซูลี่กล่าวด้วยความดีใจปนเอ็นดู ทันทีที่ถังซูลี่ได้รับรายงานจากคนรับใช้ที่นางให้ไปช่วยเหลือเซียวเหม่ยอิง ว่าสหายของนางนั้นหาทางแก้พิษได้สำเร็จแล้วก็รีบเดินทางมาพร้อมเหลียงซินเผิงที่เรือนรับรองของทั้งคู่ทันที“องค์หญิงกล่าวได้ถู
“นั่นสินะ พรุ่งนี้ข้าต้องเข้าไปรายงานกับฝ่าบาท” คิดถึงตอนนี้ใบหน้าของหวงหยางหมิงก็เปลี่ยนไป คล้ายกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง ใบหน้าของหวงหยางหมิงมีรอยยิ้มเล็กน้อย แต่แค่เล็กน้อยนั้น พ่อบ้านโจวกับจางชิงก็รู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล คราวนี้นายท่านของพวกเขามีแผนอะไรอีก! ทุกอย่างเป็นไปตามที่หวงหยางหมิงคาดก
“ท่านพี่จะถอดหน้ากากจริง ๆ หรือเจ้าคะ” เซียวเหม่ยอิงถามหวง หยางหมิงขณะที่กำลังแต่งตัวให้สามี“ทำไมรึ? หรือว่าเจ้าหึงหวงข้า?”“ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นเจ้าค่ะ”“แค่อิงเอ๋อร์บอกว่าหึงหวงข้า ข้าก็พร้อมที่จะกลับไปใส่หน้ากากเช่นเดิมแล้ว” เซียวเหม่ยอิงมองดูใบหน้าที่ยียวนกวนประสาทนาง ฝ่ามือถึงกับกระตุกฟ
'นั่นสินะ ยิ่งอยู่กับองค์รัชทายาท ความงามของทั้งสองคนราวกับเทพเซียนจุติลงมา''ว่าแต่มีผู้ใดรู้บ้าง สรุปแล้วชายคนนั้นคือคนตระกูลไหนกันแน่' เสียงพูดคุยกันของเหล่าสตรีที่ยืนอยู่บริเวณนั้นต่างพูดคุยเป็นเรื่องเดียวกัน ทำเอากลุ่มคนที่เพิ่งมาต่างพากันสนอกสนใจ“หงเอ๋อร์นั่นไง ชายผู้นั้นไงที่ผู้คนกำลังพูด
“เรื่องราวในตอนนั้นท่านจำมาได้ตลอดเลยหรือเจ้าคะ?”หวงหยางหมิงทำท่าครุ่นคิด “อืมมม คราแรกข้าก็ลืมเลือนไปบ้าง เพราะพวกเรายังเด็กทั้งคู่ มาจำได้ตอนที่เห็นเจ้ากำลังช่วยเด็กคนหนึ่งที่กำลังถูกจับตัวไป และข้าก็ไปช่วยเจ้าได้ทันพอดี” เซียวเหม่ยอิงฟังและนึกตามคำพูดของสามี ดวงตางามเบิกตากว้างด้วยความตกใจ คน
“ฮ่าฮ่าฮ่า สมแล้วที่เป็นบุตรสาวของเรา ช่างพูด และกล้าขอผู้ชายแต่งงานตั้งแต่เด็กเหมือนแม่ของเจ้าไม่มีผิด ฮ่าฮ่าฮ่า” หวงหยางหมิงหัวเราะออกมาอย่างอดกลั้นกับการกระทำของบุตรสาว มันเหมือนว่าเขาย้อนเวลากลับไปตอนที่เซียวเหม่ยอิงทำกับเขาในตอนนั้น สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน เหมือนกันจริง ๆ“ทะ ท่านพี่ ท่านหมายควา
วันนี้บรรยากาศภายในจวนของหวงหยางหมิงเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หวงจื่อหานอยู่รับประทานอาหารกับหลาน ๆ ของเขาอย่างมีความสุข หลังจากที่รับประทานอาหารและส่งหลานเข้านอนเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลากลับจวนตนเอง“ท่านพ่อนอนค้างที่จวนข้าก็ได้นะขอรับ”“ไม่เป็นไรหรอก เจ้าก็รู้นิว่าข้ามีเรื่องต้องกลับไปจัดการ”
“แล้วเหตุใดท่านถึงไม่เคยอธิบายให้ข้าฟังบ้างเลย”“ทั้งจวนมีแต่คนของหนิงซู ต่อให้พูดในที่ลับก็มีคนของนางแอบฟังอยู่ดี เฮ้อ ข้ายอมรับผิดที่ข้าเห็นแก่ตัว ที่เห็นอำนาจดีความถูกต้อง” ที่เขามาในวันนี้ไม่ได้มาเพื่อแก้ตัวแต่อย่างใด มันเป็นความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในใจมานานเกือบยี่สิบปี อีกอย่างอดีตผ่านมันมาแ
“ท่านพี่ ท่านปู่คือผู้ใดหรือเจ้าคะ”“เดี๋ยวแม่อธิบายให้ฟังเอง พวกเราเข้าไปในเรือนกันดีกว่า” เซียวเหม่ยอิงหันไปมองสามีอย่างรู้หน้าที่ นางจูงมือบุตรชายและบุตรสาวเข้าไปในเรือน เพื่อให้สามีของนางได้พูดคุยกับบิดาตามลำพัง หลังจากที่เซียวเหม่ยอิงได้พาลูก ๆ เข้าไปในเรือนแล้ว หวงหยางหมิงก็นั่งรอคนที่ก
“เจ้าคิดจะมีลูกกี่คนกัน?” องค์รัชทายาทเหลียงซินเผงอดถามสหายตนเองไม่ได้ เพราะหลังจากที่เซียวเหม่ยอิงคลอดบุตรคนแรกไปไม่ทันไร ตอนนี้สหายตัวดีของเขากำลังมีบุตรคนที่สองแล้ว “กระหม่อมเองก็ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ เพราะเรื่องนี้กระหม่อมไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ กระหม่อมเพียงทำตามความต้องการฮูหยินตนเองเท่านั้น” คำตอ
ดวงตางามค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาหลังจากที่พักผ่อนจนเพียงพอ ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบว่ามือของนางถูกกุมเอาไว้ด้วยมือของใครอีกคน ภายในใจของนางนั้นเต็มไปด้วยกระแสความอบอุ่นที่แล่นเข้ามา“ท่านพี่”“อิงเอ๋อร์ตื่นแล้วรึ เป็นอย่างไรบ้าง ค่อย ๆ ลุกนะ” หวงหยางหมิงคประคับประคองเซียวเหม่ยอิงให้ลุกขึ้นนั่งในท่าที่สบายท
หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเซียวลี่หงได้แต่งเข้าไปในฐานะอนุภรรยาของท่านอ๋องสาม เพราะนางใช้แผนสกปรก อีกทั้งชื่อเสียงของนางไม่มีดีเลยแม้แต่น้อย ชาวบ้านต่างพูดเรื่องนี้ราวกับว่าเป็นนิทานเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ พระชายาจึงให้นางเข้ามาในฐานะอนุภรรยาเท่านั้น และหลังจากที่จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่าน
ตอนนี้ผิงอันมีแต่ความกลัวเต็มไปหมด หากปากนางไม่ได้ถูกผ้ามัดเอาไว้นางก็คงพูดออกมาแล้ว ว่าแม่ทัพดูแลนางดีจริง ๆ สิ่งของเครื่องใช้เบี้ยหวัดนางก็ได้รับไม่เคยขาด แต่เพราะ...“เพราะเจ้าไม่ได้มีใจคิดดีกับข้าตั้งแต่แรก จึงได้วางแผนที่ไร้สมองแบบนั้นออกมา ข้าถามเจ้าหน่อยเถิด ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในจวน จะไม่