ฉันเดินออกมานอกผับก็เจอข้าวหอมที่ยืนร้องไห้อยู่ในซอยมืดข้างๆผับ ฉันจึงเดินเข้าไปหาแล้วหยิบทิชชู่ยื่นให้"ให้ฉันทำไม" ข้าวหอมถามพลางสูดน้ำมูกแล้วกอดอกทำท่าเชิ่ดๆใส่ฉัน "เอาไว้เช็ดน้ำตาน่ะสิ ไม่ได้เป็นห่วงหรอกนะ แค่ให้ในฐานะเพื่อนร่วมโลกที่ผ่านมาเจอก็แค่นั้น" ฉันตอบกลับแล้วยิ้มอย่างเชิ่ดๆเช่นกัน "เหอะ ใครอยากได้" ข้าวหอมพูดแบบนั้นแต่ยื่นมือมารับทิชชู่ของฉันไว้และมองสำรวจใบหน้ากับร่างกายฉันสักครู่ จากนั้นจึงพูดว่า"คลิปนั้นไม่ใช่เธอจริงๆด้วย" ฉันจึงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ข้าวหอมมองหน้าฉันแล้วพูดว่า"ที่คอของผู้หญิงในคลิปจะมีรอยแผลเป็นเล็กๆอยู่ ถ้าใครไม่ได้สังเกตก็ไม่เห็นหรอกซึ่งฉันดูแล้วเธอไม่มีรอยแผลเป็นนั้น" "สังเกตขนาดนั้นเลยเหรอ?" ฉันถามนางด้วยความสงสัย"ก็ประมาณนั้น อย่างที่เธอพูดแหละ ฉันมันเป็นคนประเภทชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน" ข้าวหอมพูดจบก็ทำสีหน้าภูมิใจก่อนจะขมวดคิ้วและบอกฉันว่า "อยู่ห่างๆไว้ก็ดี ฉันหมายถึงไอ้สารเลวนั่นน่ะ " "หมายถึงไอ้กันใช่ไหม" "เออ มันนั่นแหละ" "ทำไม เธอรู้อะไร" ฉันดึงข้าวหอมเข้ามาใกล้แล้วถามด้วยสีหน้าจริงจัง "ไม่มีอะไรหรอก" ข้าวหอมพูดแล้วสะบัดแขนให้หลุดจากก
ช่วงสายวันต่อมาฉันตื่นขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดนักศึกษาฉันแต่งหน้าเพื่อกลบดวงตาบวมเปล่งที่ดูก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก "คุณดีขึ้นหรือยัง" คุณวาคินที่นั่งอยู่บนเตียงถามฉันที่ยืนแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก"ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่แพรยังรู้สึกหน่วงๆในใจอยู่นิดหน่อย" ฉันตอบเขาพลางทำสีหน้าเศร้าสร้อย "เลิกคบเถอะเพื่อนแบบนี้" "แพรไม่เข้าใจว่าทำไมใบบัวถึงทำกับแพรแบบนี้เพราะว่าที่ผ่านมาเราก็รักกันสนิทกันมาตลอดเลย" "ใจคนเราอยากแท้หยั่งถึง" "ช่วงนี้แพรดวงตกหรือเปล่าคะ ไหนจะมีคนปล่อยคลิป ไหนจะเกือบโดนข่มขืน ไหนจะเรื่องเพื่อน เฮ้อ แพรล่ะท้อใจจริงๆ" "ไม่ได้ดวงตกหรอกมันคือจังหวะชีวิตน่ะ ไม่มีใครใช้ชีวิตอย่างราบรื่นไร้อุปสรรคหรอก" "เฮ้อ" "เรื่องอย่างอื่นไม่ดี แต่เรื่องความรักดีนะ ว่าไหมล่ะ" เขาพูดแล้วมองหน้าฉันยิ้มๆ ส่งผลให้ฉันหน้าแดงระเรื่อ "ชิ ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลย" ฉันพูดกลบเกลื่อนแล้วทำท่าย่นจมูกให้เขา "จริงเหรอ ถ้าผมหายไปจริงๆคุณจะว่าไง?" "คุณจะไปไหน!!!!" ฉันทำสีหน้าตกใจร้องตะโกนลั่นห้องทันที "หึ ทำไม ไม่อยากให้ผมหายไปล่ะสิ" เขาพูดแล้วยิ้มล้อเลียนฉัน ฉันทำหน้ามุ่ย ตอนนี้เขาก็ยังส่
เมื่อถึงมหาลัยฉันกับกรก็ไปซื้อข้าวแล้วมานั่งกินที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่เดิม "เมื่อคืนมึงไปไหนวะ ทิ้งกูให้ไปผับคนเดียวเนี่ย" ฉันพูดเปิดประเด็นพลางทำสีหน้างอนๆใส่มัน มันมองหน้าฉันแล้วทำหน้างงๆ"มึงพูดเรื่องอะไรวะแพร" "เมื่อคืนกูไปผับกับไอ้ใบบัวแล้วก็เพื่อนๆมัน ใบบัวมันบอกว่าชวนมึงแล้วแต่มึงไม่ว่าง" "ชวนตอนไหนวะ กูก็นอนเล่นเกมส์มือถืออยู่ที่บ้าน ไม่เห็นจะมีหมาตัวไหนโทรมาสักสาย" ฉันขมวดคิ้วกับคำตอบของกรแล้วเหลือบไปมองหน้าคุณวาคิน เขาจึงยื่นมือลูบหลังฉันเบาๆเป็นการปลอบใจ "กูมีอะไรจะเล่าให้มึงฟัง" ฉันบอกไอ้กรและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มันฟัง มันขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า "มึงไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม" "มึงก็ลองสังเกตเองแล้วกัน ไม่เชื่อกูก็ไม่เป็นไร" "แน่ะ มีงอนอีก กูไม่ได้พูดว่าไม่เชื่อมึง แต่พวกมึงสองคนเป็นเพื่อนกู กูอยากจะบอกให้มึงใจเย็นๆก่อน ไอ้ใบบัวมันอาจจะอยากเที่ยวแบบผู้หญิงๆเลยไม่ชวนกูไปก็ได้" "ผู้หญิงบ้าอะไรล่ะ ไอ้กันมันก็มา" "เฮ้ย พูดจริงเหรอวะ ใบบัวมันก็รู้นี่ว่าไอ้กันมันทำอะไรมึงไว้" กรพูดพลางทำสีหน้าไม่ชอบใจ "สวัสดี ทำอะไรกันอยู่เหรอ" ใบบัวเดินมาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ณ หอพัก "มึงจะให้กูอยู่เป็นเพื่อนไหม" กรถามฉันด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่รถมาจอดที่หน้าหอพักของฉันแล้ว "ไม่เป็นไรมึง ขอบคุณมาก" ฉันพูดแล้วยิ้มเพื่อให้มันคลายกังวล "มึงยังมีกูนะเว้ย.....โอ๊ย" กรพูดแล้วยื่นมือจะมาจับมือฉันแต่โดนคุณวาคินเขกกะโหลกไปหนึ่งที มันลูบหัวป้อยๆพลางทำสีหน้าหวาดกลัว "ไอ้แพร กูถามจริง....มึงมีผีคอยคุ้มครองป่ะวะ กูจะแตะตัวมึงทีไรรู้สึกเหมือนโดนตบหัวทุกที" "ฮ่าฮ่าๆ คงงั้นแหละ เคยได้ยินไหมคนดีผีคุ้ม" ฉันพูดพลางหัวเราะร่วน ส่วนคุณวาคินจ้องไอ้กรเขม็ง "มึงรีบขึ้นห้องไปเลย ถ้ามีอะไรก็โทรหากูได้ตลอด24ชั่วโมง" "เออๆ ขอบคุณที่มาส่งนะ" ฉันลงจากรถแล้วโบกมือบ๊ายบายกร จากนั้นจึงเดินเข้าไปในหอพัก เมื่อเข้ามาในห้องแล้วฉันเดินตรงไปที่เตียงและนอนคว่ำหน้าร้องไห้คร่ำครวญส่วนคุณวาคินก็นั่งข้างเตียงแล้วลูบหัวฉันอยู่อย่างนั้น "นที" คุณวาคินเรียกใครบางคน ฉันชะงักแล้วเงยหน้ามามองเขาทันที "ครับนาย" ร่างของนทีตอบรับผู้เป็นนายและปรากฎกายขึ้น "ว้ายยยย" ฉันกรีดร้องออกมารีบกระเด้งตัวมากอดคุณวาคินด้วยความตกใจกลัว "ไม่ต้องกลัวหรอก นทีคือลูกน้องของผมเอง" "สะ.....สวัสดีค่ะ" ฉันพูดตะกุกตะ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ช่วงนี้กำลังมีคลิปที่ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งมหาลัย มันคือคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ใบบัวฉี่แตกแถวๆหน้าห้องของตัว ฉันได้ยินเพื่อนๆปี4พูดกันว่าคนในคอนโดที่อยู่ชั้น13 ได้กลิ่นฉี่เหม็นคละคลุ้งที่หน้าห้องของตัวเองเลยโมโหจึงไปขอดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าจู่ๆใบบัวก็วิ่งออกมาแล้วนั่งฉี่พลางหัวเราะด้วยความสะใจที่ได้ทำแบบนั้น คนในคอนโดจึงพากันแบนและต่อว่าใบบัวว่าเป็นพวกโรคจิตจะไล่ใบบัวออกจากคอนโด และบังเอิญว่าข้างๆห้องของใบบัวมีคนที่เรียนมหาลัยเดียวกันด้วย จึงปล่อยคลิปนี้ด้วยความโมโห ฉันไม่เห็นหน้าใบบัวมาเกือบอาทิตย์แล้วสันนิษฐานว่ามันน่าจะอายจึงไม่กล้ามาเรียน ฉันเห็นคลิปของมันดังในกระทู้มหาลัยแถมคนมาคอมเม้นท์ก็ด่าใบบัวแรงอยู่"มึงคิดยังไงกับเรื่องของไอ้ใบบัว" กรพูดขึ้นเมื่อมานั่งที่โต๊ะหินอ่อนที่ประจำมันเพิ่งกลับจากการไปซื้อข้าว "ไม่คิดอะไรทั้งนั้น มันไม่ใช่เพื่อนกูแล้ว" ฉันตอบพลางทำหน้านิ่งๆ "แบบนี้เรียกว่ากรรมตามสนองป่ะวะ มันปล่อยคลิปมึงแล้วตอนนี้มันก็โดนปล่อยคลิปแทน" "คงงั้นแหละ.....ว่าแต่มึงจะใส่หมวกกันน็อคไว้ทำไม วันนี้มึงขี่มอเตอร์ไซค์มาเหรอ" ฉันถามกรด้วยความสงสัยเพราะวันนี้มั
"เฮีย.....แพรไม่ไหวแล้ว.....อื้อ" ฉันโผกอดเขาแล้วผลักเขานอนบนพื้นบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ จากนั้นจึงขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวเขา "เฮ้ย....." เขาอุทานด้วยความตกใจเล็กน้อย มือของฉันลูบไล้ไปทั่วร่างกายเขา ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าที่กลีบกุหลาบฉ่ำแฉะ ฉันใช้ลิ้นเลียที่แก้มของเขาและไล่มาเรื่อยๆจนถึงซอกคอก่อนที่จะขบเม้มเบาๆ "เฮ้อ....ช่วยไม่ได้นะ ผมกำลังช่วยคุณอยู่ ถ้าสติกลับคืนมา100%อย่ามาโกรธผมแล้วกัน" เขาจับใบหน้าฉันให้เงยขึ้นสบตาเขาแล้วพูด จากนั้นจึงอุ้มฉันไปไว้บนเตียงแล้วคร่อมฉันไว้ "ไม่เอา....แพรอยากอยู่ข้างบน" ฉันพูดจบก็ดึงเขามานอนบนเตียง ฉันขึ้นไปคร่อมเขาอีกครั้ง เขามองหน้าฉันพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม ฉันก้มลงไปจูบเขาอย่างร้อนแรงด้วยฤทธิ์ของน้ำมันราคะ "จ๊วบๆ" ปากเล็กๆดูดปากใหญ่ราวกับจะกลืนกินและใช้ลิ้นดูดดึงพันเกี่ยวกับลิ้นของเขา เมื่อจูบจนพอใจแล้วฉันก็ใช้ลิ้นเลียลากตั้งแต่ปลายคางของเขามายังซอกคอแล้วดูดเม้มจนเกิดเป็นรอย ส่วนมือก็ลูบไล้หน้าอกเขาพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเขา จากนั้นฉันจึงผละจากซอกคอมามองดูรูปร่างเขา ซิกแพคแน่นๆหุ่นดีจนฉันต้องกลืนน้ำลายและกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ"อดใจไม่ไหวล่ะสิ หึหึ" เขาพูดแ
ตอนเย็น "โอ๊ยยยยยย" ฉันส่งเสียงออกมาเมื่องัวเงียตื่นขึ้นแล้วเจ็บที่ใจกลางความเป็นสาว ทันใดนั้นภาพที่ฉันและคุณวาคินมีอะไรกันก็ลอยเข้ามาในสมองเหมือนกำลังดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง "โอ๊ย นี่ฉันตกเป็นเมียผีแล้วเหรอวะ" ฉันพูดพร้อมเอามือทั้งสองข้างมาปิดหน้า ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงเพราะเมื่อวานฉันก็รู้สึกมันส์..เอ้ย...รู้สึกมีความสุข แต่พอคิดว่าเขาเป็นผีไม่ใช่คนก็รู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูก เฮ้อ ฉันควรจะทำยังไงดี "อ่ะนี่" เขายื่นชามโจ๊กหมูใส่ไข่มาให้ฉัน ฉันรับไว้แต่ไม่กล้ามองหน้าเขาเพราะรู้สึกอาย⁄(⁄ ⁄•⁄-⁄•⁄ ⁄)⁄ "กินก่อนแล้วเดี๋ยวจะอาบน้ำให้" "ค่ะ" ฉันรับชามมาแล้วตักโจ๊กกินด้วยความหิว เมื่อหมดชามเขาก็รับไปวางและยื่นน้ำดื่มกับยาให้ "กินยาแก้ไว้ก่อน ครั้งแรกก็โดนเอาไปหลายยก ผมกลัวคุณไม่สบาย" "ผีหื่นอย่างคุณมันฉวยโอกาสที่สุดเลย" ฉันพูดแล้วมองหน้าเขาด้วยความโกรธปนเขินอาย"ไม่ได้ฉวยโอกาส ผมกำลังช่วยคุณต่างหาก รู้ไหมว่าคุณโดนอะไร คุณโดนน้ำมันราคะสาดใส่ทั้งแก้ว ถ้าผมไม่ทำแบบนี้วันนี้คุณคงกลายเป็นผีเหมือนผมไปแล้ว" เขาพูดแล้วทำสีหน้าโกรธๆ "หืม น้ำมันราคะเหรอคะ มันคืออะไรอ่ะ?" "คล้ายๆยาปลุกเซ็กส์แหละ แต
"ข้าวหอมเหรอ...แล้วเธอล่ะมาทำอะไรที่นี่" ฉันถามข้าวหอมกลับด้วยความสงสัย ข้าวหอมทำหน้าเลิ่กลั่กแล้วพูดว่า "มาเดินเล่นน่ะ" "โกหกให้มันเนียนกว่านี้หน่อยสิ" ฉันพูดพร้อมจับผิดข้าวหอมหรือว่ายัยนี่จะเป็นพวกเดียวกับไอ้คนที่วิ่งหนีมาเมื่อกี้ "มะ...ไม่ได้โกหก...แล้วเธอล่ะมาทำอะไร" ข้าวหอมถามฉันแล้วมองฉันอย่างจับพิรุธ"มาเดตกับแฟน" "ตรงนี้เนี่ยนะ" "ใช่ เธอมาขัดจังหวะทำไมล่ะ" ฉันพูดแล้วคล้องแขนคุณวาคินอย่างแนบชิดสนิทสนม ข้าวหอมจึงมองแล้วพยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนจะพูดว่า "โรงแรมตรงนั้นก็มีนะ ราคาถูกด้วย ดีกว่ามาตากยุงและมาทนเหม็นในซอยแคบๆแบบนี้" "คิดอะไรของเธอเนี่ย" ฉันพูดพลางค้อนใส่ข้าวหอม "ไม่ต้องอายน่าเรื่องปกติ" ข้าวหอมพูดยิ้มๆ แต่ยิ้มด้วยรอยยิ้มจริงใจไม่ได้ยิ้มเหยียดๆเหมือนครั้งนั้นที่เจอกัน "อ๊ากกกกกก" เสียงผู้ชายร้องขึ้นท่ามกลางความมืดมิด ส่งผลให้คุณวาคินจับมือฉันวิ่งไปตามเสียงนั้นและข้าวหอมก็วิ่งตาม เมื่อมาถึงก็เห็นผู้ชายคนนั้นเหมือนกำลังปัดป่ายมือไปมากับอากาศคล้ายกำลังหนีสิ่งที่มองไม่เห็น "ปล่อยกู ปล่อยกู ปล่อยกู" ผู้ชายคนนั้นพูดพลางทำสีหน้าหวาดกลัว "นี่มันอะไรกันเนี่ย" ข้าวหอมพ
หนึ่งปีต่อมา วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉันกับพี่นที ตอนนี้ฉันเปลี่ยนมาเรียกเขาว่าพี่แล้วเพราะเขาอายุห่างกับฉัน10ปี โดยเราจัดงานแต่งงานกันที่สวนในคฤหาสน์ของคุณวาคิน โดยจัดเป็นงานเล็กๆ มีคุณวาคินกับแพรเป็นแม่งาน ภายในงานตกแต่งด้วยดอกไม้และมีรูปของฉันกับพี่นทีติดอยู่ทั่วงาน คนร่วมงานมีพี่อิงฟ้า พี่ข้าวสวยและไอ้กัน เซ็ตเดิมเหมือนงานแต่งของไอ้แพรกับคุณวาคินนั่นแหละ "กูดีใจว่ะ ที่มึงกับคุณนทีแต่งงานกัน อย่างที่กูบอกไงเหมือนชาติที่แล้วเป๊ะๆ" แพรยิ้มให้ฉันพร้อมจับมือฉันไปเขย่าด้วยความดีใจ "ไอ้แพรมึงจะพูดเรื่องผีอีกแล้วเหรอวะ กูกลัวนะเว้ย" ไอ้กันพูดขึ้นพร้อมกับลูบแขนตนเองไปมา "คุณนทีคะ ข้าวสวยฝากดูแลน้องสาวด้วยนะคะ" พี่ข้าวสวยพูดกับพี่นทีที่เดินเข้ามาหาฉัน "แน่นอนอยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วงนะ" พี่นทีตอบพี่ข้าวสวยพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้ฉัน ฉันจึงยิ้มตอบอย่างเขินๆ "สองคนนี้เปลี่ยนแนวเหรอวะ หวานกันเฉย ตอนจีบกันกูเห็นฮาร์ดคอร์กันจะตาย" ไอ้กันหันไปกระซิบกับไอ้แพร ฉันจึงเขกหัวมันเบาๆและพูดว่า "กูได้ยินนะเว้ย" ทุกคนจึงหัวเราะออกมา "อาตมามาทันใช่ไหม ยินดีกับโยมนทีและโยมข้าวหอมด้วยนะ" หลวงปู่เดินเข้าม
"พี่ข้าวสวย ทำไมต้องพาอีตาบ้านี่มาด้วย" ฉันดึงแขนพี่ข้าวสวยมาใกล้และกระซิบถามเมื่อเห็นพี่ข้าวสวย พี่อิงฟ้าและอีตาบ้านทีเดินเข้ามาในร้านด้วยกันซึ่งฉันนั่งรอที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้พวกเราอยู่กันที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่เป็นร้านชิลๆมีดนตรีสดและมีดีเจคอยเปิดเพลง บางโต๊ะก็ลุกขึ้นมาเต้นอย่างสนุกสนาน ภายในร้านมี1ชั้นพื้นที่ค่อนข้างกว้าง "ข้าวหอมน้องรักอย่าบ่นไปเลยน่า คนยิ่งเยอะยิ่งสนุก"พี่ข้าวสวยกระซิบตอบแล้วนั่งลงข้างฉัน พี่อิงฟ้าจึงนั่งตรงข้ามกับพี่ข้าวสวย "ชิ"ฉันเบะปากและส่งเสียงออกมาเบาๆเพราะคนที่นั่งตรงข้ามกับฉันก็คืออีตาบ้านทีน่ะสิ "เส้นกระตุกเหรอครับ?" เขาถามฉันพร้อมเหยียดยิ้มที่มุมปาก กวนประสาทสุดๆเลยคนสวยอารมณ์เสีย"ไม่ต้องมายุ่ง" ฉันตอบเขาและหันไปคุยกับพี่ข้าวสวยกับพี่อิงฟ้าว่าจะเอาเมนูอาหารอะไรเพิ่มเติมเพราะฉันสั่งของกินเล่นมากินก่อนแล้ว "คุณนทีอยากกินอะไรคะ?"พี่ข้าวสวยหันไปถามเขาที่นั่งเยื้องกันอยู่ฝั่งตรงข้าม "ผมเหรอ อยากกิน...ข้าวหอม" เขาตอบแล้วมองหน้าฉันก่อนจะยักคิ้วอย่างกวนๆให้หนึ่งข้าง "ข้าวหอมบ้าบออะไรล่ะ อยากโดนต่อยป่ะ" ฉันหันไปพูดกับเขาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์และกำหมั
เดือนต่อมา ประจำเดือนของฉันไม่มาฉันจึงไปหาหมอก็พบว่าฉันตั้งครรภ์ได้สามสัปดาห์แล้ว เฮียดีใจจนแทบจะวิ่งรอบโรงพยาบาล เมื่อกลับมาถึงบ้านก็บอกข่าวดีกับพี่ข้าวสวย คุณนที คุณเอิงฟ้าและลูกน้องของเฮีย พวกเขาแสดงความยินดีและดีใจที่จะมีเด็กๆมาเพิ่มสีสันให้กับคฤหาสน์หลังนี้ฉันโทรบอกไอ้กรและไอ้ข้าวหอมพวกมันสองคนก็ตื่นเต้นและก็พากันทายว่าหลานจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายจะหน้าตาเหมือนใคร ส่วนเฮียวาคินก็คิดว่าจะให้ลูกนอนห้องไหน เรียนที่โรงเรียนอะไร เอ่อ ลูกยังเป็นวุ้นอยู่เลยจ้ะ=_= "แพร....เฮียบอกว่าให้อยู่เฉยๆไง" เฮียทำหน้าดุใส่ฉันเมื่อฉันเดินไปหยิบน้ำที่ตู้เย็นมาดื่ม "เฮียคะ แพรแค่ท้องนะคะ" ฉันหันไปมองหน้าเฮียแล้วยื่นปากใส่เขา"นั่นแหละ ถ้าแพรหกล้มขึ้นมาล่ะจะว่ายังไง มานี่เลยนะ" เฮียพูดจบก็เดินมาอุ้มฉันไปวางบนเตียงอย่างทะนุถนอม "เฮียคะ เฮียจะให้แพรนอนเฉยๆอย่างเดียวไม่ได้นะคะ แพรเบื่อ" ฉันงอแงใส่เขา"แพรอยากทำอะไรล่ะครับ" "แพรอยากไปเดินห้าง อยากกินชาบู" "ก็ได้ครับ เดี๋ยวเฮียพาไป" เฮียพูดจบก็เดินมาพยุงฉันให้ลุกจากเตียงและเดินจับมือฉันเดินลงมาข้างล่างเพื่อเดินไปลานจอดรถและเปิดประตูให้ฉันขึ้นไปนั่ง
สองอาทิตย์ต่อมา วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉันกับเฮียวาคินก่อนหน้านี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว เฮียอยากมีรูปสวยๆไว้เก็บเป็นความทรงจำ เราจึงจัดงานแต่งในสวนภายในคฤหาสน์ ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีและจะขาดไปไม่ได้เลยก็คือดอกฟอร์เก็ตมีน็อตนั่นเอง ภายในงานมีรูปภาพฉันกับเฮียวาคินที่ถ่ายรูปกันในสตูดิโอวางไว้ด้านหน้างานโดยคนมาร่วมงานก็เป็นแค่คนสนิทเท่านั้น พิธีการยังคงเนินไปเรื่อยๆจนถึงช่วงเวลาที่ต้องกล่าวคำสาบาน"ผมว่าคิน....สัญญาว่าจะรักและดูแลแพรตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่" เฮียพูดด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมจับมือฉัน ฉันจึงส่งยิ้มให้เฮียแล้วพูดประโยคเดียวกัน "แพรก็สัญญาค่ะ ว่าจะรักและดูแลเฮียวาคินตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่" "จูบเลยๆๆๆๆ" ข้าวหอมตะโกนและส่งเสียงหัวเราะอย่างชอบใจ "ไม่ต้องบอกก็จะจูบอยู่แล้ว หึหึ" เฮียวาคินบอกข้าวหอมจึงทำให้ข้าวหอม คุณนที พี่ข้าวสวย คุณอิงฟ้า ไอ้กรและบรรดาลูกน้องของเฮียส่งเสียงโห่ร้องอย่างชอบใจ เฮียดึงรั้งท้ายทอยของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงมาจูบอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ฉันจึงจูบเขาตอบเช่นกัน ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงแล้วสินะ รอคอยมาตั้งหลายชาติได้อยู่ด้วยกันจริงๆสักที ฉันรู้สึกอิ่มเ
"แพรรักเฮียนะ" "แพรก็มีความสุขที่ได้อยู่กับเฮียค่ะ" "เฮีย...ต่อไปนี้เรามาใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขกันเถอะค่ะ" "เฮียรักแพรไหมคะ" "โอ๊ยยยยย ฝันอีกแล้วเหรอวะเนี่ย" ร่างสูงบ่นแล้วทำหน้าตาหงุดหงิดตื่นขึ้นมาบนเตียง เขาฝันถึงผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยจนตอนนี้เขาอายุ30ก็ยังคงฝันอยู่ ทุกเรื่องราวทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาจำได้ทั้งหมดแต่ที่เขาหงุดหงิดก็คือเขาไม่เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นต่างหาก "แพรวา....เธอเป็นใครกันแน่" ร่างสูงขมวดคิ้วแล้วพึมพำกับตัวเอง ณ ผับxxx "ไอ้แพรมึงระวังโต๊ะนั้นไว้ให้ดี ดูแล้วแม่งจะเล่นมึงว่ะเห็นมองมาทางมึงเป็นพันรอบแล้วมั้ง" ข้าวหอมเพื่อนสาวสุดที่รักของฉันพูดขึ้นพลางใช้มือชี้ที่ห้องวีไอพีห้องหนึ่ง ฉันกับข้าวหอมมาเที่ยวผับด้วยกันเพื่อฉลองวันเกิดของฉัน วันนี้ฉันอายุครบ22ปีแล้ว "มึงด้วยแหละไอ้ข้าวหอม มึงดูสายตาของพวกมันดิโคตรหื่น" ฉันบอกข้าวหอม "รู้แบบนี้น่าจะชวนไอ้กันมา" ข้าวหอมคร่ำครวญ "แล้วทำไมไม่ชวนมาล่ะ" "ก็มึงชอบเล่าเรื่องความฝันเพี้ยนๆของมึงอ่ะ ที่บอกว่ามีแฟนเป็นผีที่ชื่อวาคินอะไรนั่นน่ะ ไอ้กันมันก็กลัวน่ะสิแถมมึงเล่าเรื่องนี้ตั้งแต่ปีหนึ
สามเดือนต่อมาฉันเดินทางไปคฤหาสน์โดยรถของกรซึ่งฉันตัดสินใจกับคุณวาคินว่าฉันกับเขาจะใช้ชีวิตคู่กันที่นี่ โดยเราจะรีโนเวทแค่ภายในคฤหาสน์บางส่วนโดยที่ภายนอกเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของผู้คนถึงแม้ว่าจะไม่มีค่อยมีคนกล้ามาก็เถอะ โดยจ้างกรและผีในคฤหาสน์เนี่ยแหละให้ช่วยๆกัน กรได้เงิน บรรดาผีทั้งหลายได้ส่วนบุญ "อยู่ที่นี่ไม่มีพวกขโมยใช่ไหม กูเป็นห่วงว่ะผู้หญิงตัวคนเดียว" กรพูดกับฉันด้วยความห่วงใย "ตัวคนเดียวบ้าอะไร ผัวมันก็อยู่ มึงคิดว่าคุณวาคินจะให้แพรมีอันตรายเหรอ" ข้าวหอมพูดแล้วชี้นิ้วไปทางคุณวาคินที่นั่งสมาธิอยู่กับบรรดาผีทั้งหลาย "นั่นสิ ไม่ต้องห่วงหรอกมึง เวลามีคนอื่นบุกรุกก็เจอผีบริวารของเฮียจัดการก่อนเลย วิ่งป่าราบกันทุกราย" ฉันพูดแล้วยิ้มให้กร "บรื๊อ~ คิดแล้วกูก็สยอง" กรทำท่าขนลุกซู่ ยังคงไม่ชินกับผีสักเท่าไหร่ "นี่มึงยังกลัวผีอยู่เหรอ" ข้าวหอมถามกร กรมันจึงพยักหน้ารับ "ไม่ลองมีแฟนเป็นผีบ้างล่ะ แบบกูกับข้าวหอมไง" ฉันแกล้งถามมัน มันส่ายหน้ารัวๆ "ไม่ไหวว่ะ ทุกวันนี้แค่เจอผีคุณอิงฟ้ากับผีพี่ข้าวสวยกูก็จะเป็นลมแล้ว ขยันแกล้งกูกันเหลือเกิน" มันพูดแล้วทำหน้าซีดลงเล็กน้อย "
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา "เรื่องวุ่นๆจบสักทีนะเฮีย" ฉันหันมาพูดกับเขา ตอนนี้ฉันกับเขากำลังแต่งตัวออกไปเที่ยวด้วยกัน เราจะไปเที่ยวสวนน้ำที่เปิดใหม่ที่ฉันเห็นในโซเชียล"ใช่ พวกเราจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุขสักทีไม่มีพวกคนบ้าๆมายุ่งอีกแล้ว" เขาตอบแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มฉัน พวกเราใส่เสื้อคู่เป็นเสื้อยืดสีดำที่ปักลายหัวใจสีชมพูตรงกลาง ของฉันหัวใจครึ่งซ้ายของเขาหัวใจครึ่งขวาพอมายืนด้วยกันก็จะต่อกันเป็นรูปหัวใจพอดี "ไปกันเถอะ" ฉันพูดแล้วเดินออกจากห้องแต่เขาจับฉันไว้ก่อน "ขอดูชุดก่อน" "ก็ชุดธรรมดาเนี่ยแหละค่ะ" ฉันตอบแล้วดึงแขนเขาออกจากห้อง พวกเราขึ้นแท็กซี่ไปสวนน้ำราวๆครึ่งชั่วโมงก็มาถึง ดีนะที่เป็นช่วงสายคนเลยไม่ค่อยเยอะมาก ฉันเดินไปซื้อตั๋วสองใบ ใบละ900บาทจากนั้นจึงไปหยอดตู้ล็อกเกอร์แล้วเอาของใส่ไว้ "จะหายไหมเนี่ย" ฉันบ่นเบาๆ "ไม่หายหรอก เดี๋ยวเฮียฝากผีแถวนี้เฝ้าไว้แลกกับการแบ่งส่วนบุญให้" เขาตอบแล้วเดินไปหาผู้ชายที่ยืนอยู่แถวๆนั้น บรื้อ~ ฉันยังไม่ชินสักที ฉันขนลุกซู่แล้วรีบไปเปลี่ยนชุด ฉันใส่เสื้อคู่เหมือนเดิมแต่ท่อนล่างเป็นกางเกงขาสั้นขาบานเล็กน้อยใส่แล้วเย็นสบายสุดๆ จากนั้นเขาก็ตา
ช่วงสายวันต่อมา "โอ๊ยยยยยยย" ฉันร้องคร่ำครวญพลางลุกจากที่นอน คุณวาคินจึงมาประคองฉันไว้และถามว่า"เป็นอะไรเนี่ย ไม่สบายเหรอ" "ใช่ แพรไม่สบาย ไม่สบายสุดๆเลยด้วย" ฉันตอบพร้อมทำหน้างอง้ำใส่เขาและเดินกระเผลกเข้าห้องน้ำ เมื่อคืนเขาจัดหนักจัดเต็มมาก คลั่งแบบไม่ไหว สภาพฉันถึงเป็นแบบนี้(TT) "เฮียขอโทษ ก็เฮียคิดถึงแพรนี่ครับ" เขาเดินมากอดจากทางด้านหลังและอุ้มฉันเข้าห้องน้ำและอาบน้ำให้ จากนั้นฉันก็แต่งตัวแล้วออกไปทำงานที่ร้านกาแฟของข้าวหอมส่วนคุณวาคินก็ไปนั่งเฝ้าฉันเหมือนเดิมวันนี้เป็นวันก่อนเทศกาลปีใหม่ทางร้านจึงตกแต่งอย่างสวยงาม ฉันกับข้าวหอมใส่มงกุฎและชุดกระโปรงสีขาวดูเหมือนนางฟ้าและแจกลูกอม คุ๊กกี้และขนมอีกหลายอย่างเป็นของสมนาคุณให้แก่ลูกค้าที่หน้าร้าน"เดี๋ยวมานะ ไปเข้าห้องน้ำแป็บนึง" ข้าวหอมพูดแล้วรีบวิ่งเข้าไปในร้าน"น้องแพร วันนี้สวยจังเลยนะครับ" เสียงไอ้กันทักฉันขึ้นแล้วทำหน้าตาหื่นๆ คุณวาคินจึงรีบลอยมาประกบข้างฉันทันทีแต่เขาไม่ได้ปรากฏกาย"มีอะไรหรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีรบกวนหลบทางลูกค้าหน่อยค่ะมันเกะกะ" ฉันพูดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจเล็กน้อย ไอ้บ้านี่ก็หน้าด้านจริงๆ ยังมาทำลอยหน้าลอยตาอยู
หนึ่งเดือนต่อมา ฉันยังคงไปที่คฤหาสน์และซอยที่มีทางผีผ่าน ไปคนเดียวบ้าง ไปกับกรบ้าง ไปกับข้าวหอมบ้างเพราะฉันยังคงหวังว่าสักวันจะเจอเขา ส่วนดอกไม้ที่เขาส่งให้ฉันทุกวันฉันก็ไม่ได้รับมันอีกเลย เวลามีคนมาเคาะประตูฉันจะตื่นเต้นและคาดหวังว่าจะเป็นเขาฉันยังคงไปทำงานที่ร้านกาแฟของข้าวหอมอยู่ เพิ่งไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เองเพราะก่อนหน้านั้นสภาพฉันเละเทะมาก ข้าวหอมจึงให้ฉันคงสถานะการเป็นพนักงานไว้แล้วแบ่งเงินฉันไปให้สามคนที่เหลือแทนซึ่งฉันก็ตกลงเพราะยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ฉัน ข้าวหอม กร เรียบจบแล้ว พวกเราจึงนัดกันมาถ่ายรูปชุดครุยที่มหาลัย "มีคนฝากน้ำให้ครับ" พนักงานในร้านน้ำที่โรงอาหารยื่นนมชมพูมาให้ฉัน ฉันรับมาแต่ไม่กินเพราะเข็ด ไม่มีเฮียอยู่ด้วยฉันไม่กล้าเสี่ยง "มีคนจีบมึงเหรอวะไอ้แพร ร้ายนะมึง" ไอ้กรพูดแล้วมองหน้าฉันอย่างหยอกล้อ "ไม่รู้ไม่สนใจ" ฉันตอบพลางทำหน้าเซ็ง "มึงไม่เปิดใจรับคนใหม่บ้างล่ะ คุณวาคินเขา.....โอ๊ยยยยย" กรพูดไม่ทันจบประโยคก็ลูบหัวตัวเองป้อยๆ "สมน้ำหน้า" ฉันพูดแล้วหยิบมือถือมาถ่ายรูปเล่น "ผมลืมครับ เขาฝากอันนี้ให้พี่ด้วย" พนักงานร้านน้ำวิ่งกลับมาแล้วยื่นดอกไม้ให้ฉัน ฉันมอ