ทั้งสามคนเดินไปที่ห้องไอซียูของชายชราตระกูลลู่ด้วยกันลู่เซียวเซียวมองไปที่ชายชราตระกูลลู่ที่สวมหน้ากากออกซิเจนในหน้าต่าง น้ำตาก็เริ่มเตรียมท่วมอีกครั้งเธออาศัยอยู่กับคุณปู่และพี่ชายตั้งแต่เด็ก สองคนนี้เป็นคนที่เธอสนิทมากที่สุดตอนนี้เห็นคุณปู่เป็นแบบนี้ ในใจต้องรู้สึกไม่ดีแน่ ๆหลินตงรีบปลอบใจอย่างรวดเร็ว "เซียวเซียว! ไม่ต้องเป็นห่วง พี่หลินตงจะช่วยปู่ของคุณกลับมาเอง"เขาทนไม่ไหวที่จะเห็นสาวน้อยร้องไห้อีกต่อไป"อืม!!! ขอบคุณค่ะ! พี่หลินตง" ลู่เซียวเซียวมองหลินตงและกล่าวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งหลินตงปวดหัวเล็กน้อยละสายตาจากลู่เซียวเซียวเขารู้สึกว่าถ้าตอนนี้ตัวเองช่วยชายชราตระกูลลู่และตระกูลลู่อีก สาวน้อยคนนี้จะทุ่มเทให้กับเขามากกว่านี้อีกไหม?เป็นไปได้มาก!!!แต่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ช่วยก็ไม่ได้จะทำยังไงดี???หลินตงปวดหัวมาก!!!ปวดหัวมาก ๆ!!!ตอนนี้เขารู้สึกจริง ๆ ว่าการเป็นคนดีเกินไปไม่ใช่เรื่องดีบางคนเขาสามารถปฏิเสธได้อย่างชัดเจนแต่มีบางคนเขาก็ใจแข็งไม่ได้จริง ๆลู่เซียวเซียวเป็นหนึ่งในนั้นช่างเถอะ! ไม่คิดแล้ว!ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ!ป
"ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอันดับหนึ่งเจียงเฉิงของพวกคุณ""ผู้... ผู้อำนวยการหลิว???" พยาบาลตกตะลึงก่อนอุทานเสียงดังในเวลานี้โทรศัพท์ของลู่เฉินก็เชื่อมต่อแล้ว"หลิวชวน! มาที่ห้องปู่ผมหน่อยสิ"ลู่เฉินพูดจบก็วางสายโทรศัพท์ทันที"พวก... พวกคุณรู้จักผู้อำนวยการหลิวจริง ๆ เหรอ?" พยาบาลถามอย่างกังวลใจ"แน่นอน! จำเป็นต้องหลอกคุณด้วยเหรอ?" หลินตงกล่าว"เอ่อ... เอ่อ ต้องขอโทษทุกท่านด้วย เมื่อกี้ฉันพูดจาไม่ค่อยดี แต่... แต่ห้องไอซียูเข้าออกตามใจชอบไม่ได้จริง ๆ" พยาบาลพูดอย่างสับสนเล็กน้อยในใจเธอสับสนมากจริง ๆปล่อยพวกเขาเข้าไปและหากมีอะไรผิดปกติกับคนไข้ เธอจะไม่สามารถเป็นพนักงานประจำได้อย่างแน่นอนและจะถูกไล่ออกแต่ถ้าไม่ให้พวกเขาเข้าไปและทำให้ผู้อำนวยการหลิวขุ่นเคือง ผลที่ตามมาก็จะเหมือนเดิมทำยังไงดี? ? ?หรือว่าฉันถูกลิขิตให้ไม่สามารถทำงานที่ชอบนี้ได้เหรอ?นี่เป็นโรงพยาบาลแห่งที่สามที่เธอฝึกงานแล้วผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งแรกเป็นคนนิสัยไม่ดีและมักจะลงไม้ลงมือกับเธอ สิ่งเหล่านี้เธออดทนหมดแล้ว สุดท้ายบอกเธอว่าถ้าอยากเป้นพนักงานประจำต้องนอนกับเขาคืนหนึ่งนี่เป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้อย่าง
หลินตงเข้าไปในห้องไอซียูและมองดูชายชราตระกูลลู่ที่นอนใส่หน้ากากออกซิเจนอยู่บนเตียงวางมือไว้บนมือชายชราตระกูลลู่ เริ่มใช้วิชาการแพทย์แผนโบราณต้าเซี่ย สังเกตอย่างละเอียดไม่นานเขาก็ทราบอาการป่วยของชายชราตระกูลลู่คล้ายกับที่เขาคาดเดาไว้คือบาดแผลที่ทิ้งไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน ปัจจุบันเริ่มมีปัญหาอย่างช้า ๆ เมื่ออายุมากขึ้นตอนอายุน้อยยังปราบปรามได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็เริ่มปราบปรามไม่ได้บ้างแต่ชายชราตระกูลลู่ยังไม่แก่เกินไป ยังมีทางรอดอายุเฉลี่ยของมนุษย์ในปัจจุบันสามารถสูงถึงประมาณแปดเก้าสิบปี และซ่งซือหมินมีความแข็งแกร่ง แถมยังมักจะใช้สนามแม่เหล็กเพื่อปรับสภาพร่างกายและมีชีวิตอยู่ถึงร้อยสามสิบปีหลังจากตรวจอาการแล้วหลินตงก็พอรู้แล้วยังดีที่สมุนไพรที่จำเป็นไม่ได้แพงมากเป็นพิเศษ ด้วยความสามรถของตระกูลลู่ทุกวันนี้น่าจะหาได้ไม่ยากหลินตงวางมือของชายชราตระกูลลู่ลงหันกลับมาทำท่าทางให้พวกลู่เฉินสามคนออกไปข้างนอก แล้วออกจากห้องไอซียูอย่างเงียบ ๆตอนนี้ร่างกายชายชราตระกูลลู่อ่อนแอมาก ดังนั้นอย่ารบกวนเขาจะดีกว่าเมื่อมาถึงทางเดิน พยาบาลก็กลับไปที่ตำแหน่งของเธอแล้วแต่เมื่อเห็นพว
เขาแค่รวบรวมสมุนไพรให้เรียบร้อย สุดท้ายไม่ว่าชายชราตระกูลลู่จะช่วยกลับมาได้หรือไม่ โรงพยาบาลอันดับหนึ่งของเขาก็ไม่น่าจะต้องรับผิดชอบแล้วมั้ง!"ได้! งั้นก็รบกวนคุณแล้ว หลิวชวน! แต่คุณต้องรีบหน่อย ถ้าตระกูลลู่ของผมสามารถผ่านความยากลําบากนี้ไปได้ จะไม่ลืมคุณเลย" ลู่เฉินส่งกระดาษให้หลิวชวนแล้วพูด"ขอบคุณครับนายน้อยลู่! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้! พวกคุณรอสักครู่!"หลิวชวนพูดจบก็รีบถือกระดาษวิ่งเหยาะ ๆ ออกไปประโยคนี้ของลู่เฉินทำให้หัวใจที่ปิดผนึกไว้เป็นเวลานานของเขากลับมาอบอุ่นอีกครั้งหลิวชวนอายุเพียงห้าสิบกว่าปี เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลอันดับหนึ่งมาเกือบสิบปีแล้วเคยมีโอกาสเลื่อนขั้น แต่เพราะครอบครัวต่ำต้อย ไม่มีภูมิหลัง สุดท้ายถูกคนที่มีคุณสมบัติต่ำกว่าเขาแย่งไปก่อนหากได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลลู่ เขาจะสามารถปีนขึ้นไปได้อย่างแน่นอนจริง ๆ แล้วเขาไม่อยากได้เงินทองสาวสวย เขาแค่หวังที่จะยืนอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นและมองทิวทัศน์ด้านบนก่อนจะเกษียณคำพูดของลู่เฉินจุดประกายความหวังอันไม่มีที่สิ้นสุดในตัวเขาอย่างไม่ต้องสงสัย"พวกเราไปรอที่ห้องผู้ป่วยของคุณกันเถอะ! ถือโอกาสเล่าเรื่องตระกู
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง...หลินตงรู้สึกว่าเวลานั้นพอสมควรแล้วก็ผลักประตูเดินเข้าไป ลู่เฉินสองพี่น้องรีบวิ่งตามหลังมาเมื่อชายชราตระกูลลู่ได้ยินเสียงเปิดประตูก็ลืมตาขึ้นเช่นกัน รู้สึกอย่างเห็นได้ชัดว่าผิวพรรณแตกต่างไปหลินตงดึงเข็มเงินออกจากตัวชายชราตระกูลลู่แล้วถามว่า "ชายชราตระกูลลู่! รู้สึกยังไงบ้าง?""ดีขึ้นมาก! ขอบคุณคุณนะ หลินตง!" ลู่รุ่ยกล่าวแม้ว่าเขาจะเพิ่งฟื้นคืนสติได้ไม่นาน แต่เขาก็ยังมองออกว่าเป็นหลินตงที่ช่วยชีวิตเขาไม่คิดว่าการเดิมพันที่วางไว้เมื่อหลายเดือนก่อนจะถูกจริง ๆและยังได้ผลลัพธ์เร็วขนาดนี้ชายชราตระกูลลู่ก็เต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย"ชายชราตระกูลลู่ไม่ต้องเกรงใจครับ! นี่คือสิ่งที่ผมควรทำ!"หลินตงพูดจบก็หันไปมองลู่เฉินกับลู่เซียวเซียวแล้วพูดว่า "ร่างกายของชายชรายังอ่อนแอมาก พวกคุณมีอะไรก็รีบพูดเถอะ! พยายามให้เขาพักผ่อนให้เยอะ ๆ ใช้ยาทุกสี่ชั่วโมง ภายในสามวันเขาน่าจะหายเป็นปกติ""ขอบคุณค่ะ! พี่หลินตง!" ลู่เซียวเซียวร้องไห้พูด"ขอบคุณ!!!" ลู่เฉินก็ขอบคุณเขาเช่นกัน"เวลาที่เหลือพวกคุยกันเถอะ! ฉันจะออกไปก่อน!"หลินตงพูดจบก็ออกจากห้องผู้ป่วย หลิวชวนตั้งส
ต่อไปก็ไม่มีเรื่องอะไรของเขาแล้ว แค่รอก็พอแล้วไม่จำเป็นต้องให้เขาเตรียมอะไรด้วย!รอถึงวันเกิดของชายชราตระกูลลู่ค่อยปรากฏตัวก็พอแค่ตระกูลเล็ก ๆ อย่างตระกูลข่งเท่านั้นจุดสูงสุดของรายการมังกรแล้วไงล่ะ???แค่ตัวละครที่เหมือนขยะ มีผู้พิทักษ์ระดับเทพอย่างเขาอยู่ มาเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์หลังจากพักผ่อนเป็นเวลาสองวันจนมีชีวิตชีวาแล้ว หลินตงก็เตรียมออกจากเจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนลไปหาฟางเจิ้งกั๋วผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนานตระกูลข่งที่เป็นตระกูลซ่อนเร้นต้องการควบคุมเมืองเจียงเฉิง แม้กระทั่งควบคุมมณฑลเจียงหนานทั้งหมด เขาเป็นผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนานจะไม่สนใจอะไรเลยเหรอ?แล้วจะมีผู้ว่าราชการอย่างเขาไปทำไม?นี่คืออาณาเขตของต้าเซี่ยไม่ว่าจะเป็นตระกูลที่ซ่อนเร้นหรือนิกายที่ซ่อนเร้น เป็นถึงมังกรก็ต้องขดไว้ให้ฉัน หรือจะเป็นเสือก็ต้องหมอบให้ฉันฟางเจิ้งกั๋วไม่สนใจ!!!เขาหลินตงจะจัดการเอง!!!ขับรถบูกาติมังกรบินของตัวเองที่จอดทิ้งไว้สองสามเดือน หลินตงออกจากเจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนลเอารถไปล้างที่บริเวณใกล้เคียงเรียกเสียงฮือฮาจากที่ล้างรถทันทีรถคันนี้มีความโดดเด่นสูงด
"คุณผู้ชาย! คุณผู้ชาย! กรุณาหยุดก่อนครับ!" ชายหนุ่มรีบตามไปหลินตงไม่สนใจเขา หลังจากพลังจิตวิญญาณของเขาเต็มเปี่ยมแล้ว เขาพบกลิ่นอายที่เป็นของยอดฝีมือรายการมังกรน่าจะเป็นฟางเจิ้งกั๋วครั้งที่แล้วที่เมืองชูเฉิง เขาเคยเจอกับฟางเจิ้งกั๋วหลังจากขึ้นไปที่ชั้นสองแล้ว หลินตงก็ตรงไปที่ห้องทำงานของฟางเจิ้งกั๋วชายหนุ่มตามหลังหลินตงมาโดยตลอดเมื่อมาถึงประตูห้องทำงานของฟางเจิ้งกั๋ว หลินตงก็เปิดประตูเข้าไปข้างในหลังจากเข้าไปในห้องแล้ว สิ่งแรกที่เห็นคือผู้ชายสุภาพในวัยสามสิบที่สวมแว่นตา"เลขาเฉิน! คุณผู้ชายท่านนี้บอกว่าเขาเป็นเพื่อนของผู้ว่าฟาง และจะขึ้นมาให้ได้! ผมหยุดเขาไม่ได้!" ชายหนุ่มกล่าว"คุณลงไปก่อนเถอะ!!!" เลขาเฉินพูด"ครับ!!! เลขาเฉิน!!!"ชายหนุ่มพูดจบก็หันหลังกลับและออกไป จากนั้นก็ปิดประตูเบา ๆ"คุณเป็นใคร? ชื่ออะไร? มาหาผู้ว่าฟางเรื่องอะไร?" เลขาเฉินพูดกับหลินตงหลินตงไม่ตอบและตะโกนตรงเข้าไปในห้องด้านในโดยตรง "ฟางเจิ้งกั๋ว ออกมาพบผม!""คุณนี่มันอวดดีจริงๆ!!!" เลขาเฉินลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธชี้ไปที่หลินตงแล้วพูด"โอ้? ผมอวดดีหรือว่าคุณอวดดี?" หลินตงพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
สมองของเลขาเฉินทำงานอย่างรวดเร็วต้องรักษางานของตัวเองไว้ให้ได้ ออกจากฟางเจิ้งกั๋วไม่ได้ไม่เช่นนั้นเขาก็จบแล้ว!!!ห้องทำงานฟางเจิ้งกั๋ว"ท่านสมาชิกสภาหลิน! เชิญดื่มชา!" ฟางเจิ้งกั๋วชงชาให้หลินตงด้วยตัวเองตอนนี้ไม่มีใครแล้ว แม้แต่คำเรียกฟางเจิ้งกั๋วก็เปลี่ยนหลินตงรับถ้วยชามา จิบแล้ววางลงบนโต๊ะชา ฟางเจิ้งกั๋วรู้ตัวตนของเขานั้นไม่ใช่เรื่องแปลกไม่อย่างนั้นคงไม่เคารพตัวเองมากขนาดนี้แน่นอน"ฟางเจิ้งกั๋ว! ผมมีเรื่องจะถามคุณ!" หลินตงกล่าว"ท่านสมาชิกสภาหลินเชิญพูด!""เรื่องตระกูลหวังแห่งเจียงเฉิงคุณรู้ไหม?""ท่านหมายถึงเรื่องของตระกูลหวังที่ร่วมมือกับตระกูลข่งที่เป็นตระกูลซ่อนเร้น?" ฟางเจิ้งกั๋วถาม"ใช่! เรื่องนี้แหละ!""รู้แน่นอน!""งั้นคุณในฐานะผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนาน คุณปล่อยให้ตระกูลซ่อนเร้นมาก่อกวนในดินแดนต้าเซี่ยของผมเช่นนี้? ผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนานของคุณไม่อยากทำแล้วใช่ไหม?""ท่านสมาชิกสภาหลินไม่รู้อะไร ไม่ใช่ว่าผมฟางเจิ้งกั๋วไม่ทำอะไรเลย ตอนนี้ต้าเซี่ยหกสิบหกมณฑล อย่างน้อยครึ่งหนึ่งมีตระกูลและนิกายซ่อนเร้นร่วมมือกับตระกูลท้องถิ่น ตระกูลและนิกายซ่อนเร้นเหล่านี้มีค