หลังจากที่ทุกคนตกตะลึง สายตาก็เปลี่ยนไปเมื่อมองที่จางฮั่นเซินมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้เป็นผู้สนับสนุน จางฮั่นเซินถือว่าไร้ศัตรูแล้วไม่ต้องพูดถึงว่าหลินตงไม่กล้าฆ่าเขา ไม่มีใครในต้าเซี่ยกล้าฆ่าเขาไม่สิจะบอกว่าไม่กล้าไม่ได้ แต่คือไม่จำเป็น!เนื่องจากการฆ่าจางฮั่นเซินจะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับได้"เซียวเหล่าเอ้อ นายพูดพล่ามอีกทีสิ? หากนายไม่รู้อิทธิพลของจอมทรราชย์ของลุงฉัน สามารถกลับบ้านและถามคนที่บ้านของนายได้" จางฮั่นเซินพูดกับเซียวเฉิงฉวนอย่างประชดประชันส่วนเซียวเฉิงฉวนก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกินแมลงวันตัวหนึ่งเข้าไป กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกไม่ต้องกลับบ้านไปถาม เขาก็รู้อิทธิพลของจอมทรราชย์การเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งรายการมังกร ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ไม่ต้องพูดถึงการมีพลังของกองทหารรับจ้างกระหายเลือด และครอบครองสถานที่เชิงกลยุทธ์เช่นมุมมืดจ้าวซือเต้าพูดในเวลานี้"ฮั่นเซิน งั้นนายต้องการอะไร?""ผมอยากเป็นหัวหน้าคนที่สองของแก๊งอันธพาลนี้ ไม่ทราบว่าพี่จ้าวคิดยังไง?" จางฮั่นเซินกล่าวตอนนี้เขาไม่เรียกหัวหน้าด้วยซ้ำ คิดว่าตัวเองสามารถเท่าเทียมกับจ้าวซือเต
เดิมสัญญาสิบปีอาจทำขึ้นเพื่อมู่หรงฉิงเกอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ว่าเป็นการต่อสู้เพื่ออันดับหนึ่งในบรรดาคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ย ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างสองตระกูลมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆตระกูลจ้าวเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ในจิงตูตระกูลจูเก่อซึ่งเคยเป็นหนึ่งในตระกูลมหาเศรษฐีชั้นนำอันดับต้น ๆ ในจิงตู ตอนนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในหมอตูนับตั้งแต่จูเก่อชางโฉงเข้ามาเป็นหัวหน้าในหมอตูเมื่อกว่าสิบปีก่อน ตระกูลจูเก่อก็ย้ายออกจากจิงตูไปที่หมอตูเนื่องจากภูมิหลังที่ลึกซึ้งของตระกูลจูเก่อ พวกเขาจึงตั้งหลักในหมอตูได้ในระยะเวลาอันสั้น และร่วมกับอีกสามตระกูลมหาเศรษฐีในท้องถิ่นของหมอตู พวกเขาจึงเรียกรวมกันว่าสี่ตระกูลใหญ่ของหมอตูเรื่องนี้ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อความชอบธรรมอย่างง่าย ๆ อีกต่อไปเป็นการปะทะกันของสองยักษ์ใหญ่ดังนั้นจ้าวซือเต้าจึงไม่สามารถแพ้ได้!!!ถ้าแพ้ตระกูลจ้าวจะต้องอับอาย และเขาจะอยู่ภายใต้เงามืดของจูเก่อชางโฉงตลอดไป"เอาล่ะ! งั้นวันนี้แค่นี้ ถ้าทุกคนไม่มีเรื่องอะไรก็แยกย้ายกันเถอะ! ฮั่นเซินอยู่ก่อน!" จ้าวซือเต้ายืนขึ้นและพูดราชา
ครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วเดิมทีหลินตงเตรียมที่จะไปยังดินแดนแห่งความวุ่นวายภายในประมาณสิบวัน เพื่อพบกับเปลวไฟที่ก่อตั้งโดยเซียวพ่อจวินแต่เนื่องจากความแต้มศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงพอ จึงล่าช้าไปหลายวันระหว่างนั้นเซียวพ่อจวินก็เร่งเร้าเขาหลายครั้งเช่นกัน ให้เขารีบไปเนื่องจากการสนับสนุนเงินไม่จำกัดของหลินตง เปลวไฟจึงพัฒนาอย่างรวดเร็วและเร็วมาก เนื่องจากสำหรับทหารรับจ้างเหล่านี้ที่เลียเลือดจากปลายมีด มากกว่าเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ทำเพียงเพื่อเงินที่ไหนมีเงิน มีผลประโยชน์ ที่นั่นก็มีพวกเขายิ่งเปลวไฟพัฒนาเร็วเท่าไรก็ยิ่งมีคนมากขึ้นและแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ความแข็งแกร่งของเซียวพ่อจวินที่อยู่รายการเสือระดับกลาง ไม่เพียงพอที่จะปราบปรามทหารรับจ้างที่กบฏเหล่านี้หากไม่ใช่เพราะเงินจำนวนมหาศาลในมือของเขา คงเข้ามาแทนที่เซียวพ่อจวินไปนานแล้วอย่างไรก็ตามเมื่อเปลวไฟแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เซียวพ่อจวินก็รู้สึกว่าเขาในฐานะรักษาการแทนกัปตันไม่สามารถอยู่ได้นานกว่านี้มากนักผู้ที่แข้งแกร่งหลายคนเริ่มรวมตัวกันเป็นแก๊ง พยายามแทนที่เขาและควบคุมเปลวไฟอาจกล่าวได้ว่าเปลวไฟในปัจจุบันถูกเซียวพ่อจวิ
ที่ตั้งกองทหารรับจ้างเปลวไฟนี่คืออาคารร้างที่ผ่านสงครามมาหลังจากทำความสะอาดง่าย ๆ ก็มีเต็นท์หลายสิบหลังถูกตั้งไว้ด้านนอกเซียวพ่อจวินนั่งอยู่บนที่นั่งหลักในห้องนั่งเล่น เว่ยโหย่งและหลี่กั๋วปิงยืนอยู่ข้างหลังเขา มีคนมากกว่าสิบคนในชุดต่าง ๆ นั่งอยู่ข้างใต้ แต่พวกเขาทั้งหมดแสดงท่าทีเหยียดหยามเสียงอึกทึกครึกโครมทั่วห้องโถง ต่างคนต่างคุยเรื่องของตัวเอง ดูเหมือนจะไม่เห็นเซียวพ่อจวินผู้รักษาการแทนกัปตันในสายตาเลยทางด้านขวามือของเซียวพ่อจวินมีชายหนุ่มอายุสามสิบปีคนหนึ่งนั่งอยู่ ตอนนี้เขาหลับตาและไม่พูดอะไรสักคำ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาเซียวพ่อจวินก็ปวดหัวเช่นกัน ในเวลาเพียงยี่สิบวัน สมาชิกหลายพันคนที่ได้รับคัดเลือกจากเปลวไฟถูกแบ่งออกเป็นทีมเล็ก ๆ มากกว่าสิบทีมโดยคนเหล่านี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หัวหน้าทีมเล็ก ๆ เหล่านี้แต่ละคนแข็งแกร่งกว่าเขา ในเขตที่วุ่นวายนี้ซึ่งให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งโดยสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งในรายการเสือระดับกลางของเขาไม่เพียงพอจริง ๆถ้าไม่ใช่ว่าทุกคนต้องรับเงินจากเขา ตำแหน่งของเขาคงไม่รู้ว่าถูกครอบครองโดยใครไปแล้ว"รองกัปตันเซียว กัปตันจะมาเมื่อไรกัน
ตราบใดที่มีผลประโยชน์ก็จะเป็นเหมือนแมลงวัน บินมาจากทุกทิศทุกทางด้วยความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถสั่นสะเทือนคนกลุ่มนี้ได้ทำไมนายน้อยหลินยังไม่มา? ??ถ้ายังไม่มาตัวเองก็จะฝืนต่อไปไม่ไหวแล้วเดิมทีคุยกันไว้ว่าจะมาภายในยี่สิบวัน แต่ตอนนี้ก็เกือบจะยี่สิบห้าวันแล้วในขณะที่เซียวพ่อจวินหมดหนทางหลัวซาที่หลับตาอยู่ก็พูดว่า "นั่งลงให้หมด รอกัปตันมาค่อยว่ากัน""หลัวซา ที่นี่มีแต่นายคนเดียวที่อยากแก้แค้น พวกเราทุกคนทำเพื่อเงินเท่านั้น นายอยากตาย อย่าลากพวกเราไปด้วย แม้ว่านายจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถหยุดพวกเราทุกคนที่นี่ได้" หน้าบากพูด"ฉันจะพูดอีกครั้ง!!! นั่งลง รอกัปตัน!!!""นาย..."หน้าบากอยากจะพูดอะไรอีกหลัวซาลืมตาขึ้นมามองอย่างรวดเร็วหน้าบากรู้สึกเพียงแสงเย็นส่องเข้ามา ทำให้เขาตัวสั่นไปทั้งตัวตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซาอย่างแน่นอน!!!นี่เป็นความคิดแรกของเขา"เอาล่ะ ฉันเห็นแก่นาย จะรอจนถึงเที่ยง!!!"หลังจากที่หน้าบากพูดจบก็นั่งลง คนอื่นก็นั่งตามไปด้วยเซียวพ่อจวินถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลินตงบอกเขาล่วงหน้าว่าเขาจะมาถึงวันนี้หวังว่านายน้อยหลินจะมาทันเวลามาถึงเที่
"พวกนายอยากไม่เกรงใจใคร???"เสียงดังขึ้นในห้องโถงที่กว้างขวาง!!!ทุกคนมองตามเสียงนั้นและเห็นชายหนุ่มสวม เห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งสวมหน้ากากเงินครึ่งหน้ายืนอยู่ที่ประตูห้องโถงในที่สุดนายน้อยหลินก็มาทันพวกเซียวพ่อจวินสามคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลัวซาลืมตาขึ้นและมองไปที่ร่างที่ประตู ไม่รู้สึกถึงรัศมีของบุคคลที่แข็งแกร่งจากตัวเขาเลย"นายเป็นใคร? หาเรื่องตาย?" หน้าบากมองไปที่หลินตงและด่าว่า"ปากเหม็นจริง ๆ!!! ตบปาก!!!"หลินตงเพิ่งพูดจบ"เพียะ!!!"เสียงหนึ่งดังขึ้นในห้องโถงทุกคนเห็นแต่หน้าบากใบหน้าครึ่งหนึ่งบวมแล้วคนอยู่ไหน???ทุกคนมองไปรอบ ๆ จึงพบว่าหลินตงกำลังนั่งอยู่ในที่นั่งของเซียวพ่อจวินแล้ว และเซียวพ่อจวิ ก็ยืนอยู่ข้างหลังเขานี่? ? ?เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น???ทุกคนงงกันหมด!!!ได้ยินเพียงประโยคเดียวว่า "ปากเหม็นจริง ๆ! ตบปาก!" ใบหน้าของหน้าบากก็บวมขึ้นและชายสวมหน้ากากเมื่อกี้ยังอยู่ที่ประตู ตอนนี้ได้นั่งที่นั่งหลักแล้วความเร็วนี้???เป็นสิ่งที่คนทำออกมาได้???หน้าบากในขณะนี้ยังปิดหน้าด้วยมือหนึ่ง มองไปที่หลินตงซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งหลักด้วยสายตาที่น่าหวาดกลัว
แค่ร่างกายของหลินตงถึงขีดจำกัดเหนือมนุษย์ก็เทียบเท่ากับจุดสูงสุดของรายการมังกรแล้ว ควบคู่ไปกับขีดจำกัดของพลังจิตวิญญาณ ความแข็งแกร่งของเขาได้แซงหน้าจุดสูงสุดของรายการมังกรไปแล้ว และก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งอย่าดูถูกก้าวเล็ก ๆ นี้ มันแสดงถึงอีกระดับหนึ่งแล้ว ขอบเขตที่เหนือกว่ารายการมังกร แต่อยู่ห่างจากระดับถัดไปอีกครึ่งก้าวนี่เป็นอาณาจักรที่หลายคนที่อยู่ในระดับสูงสุดของรายการมังกรใฝ่ฝันเพราะเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว การก้าวข้ามด่านต่อไปก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นพลังนี้ถูกปล่อยออกมาด้วยกำลังทั้งหมดของเขาห้องโถงอาคารทั้งหมดสั่นสะเทือนเล็กน้อยทุกคนในห้องโถงถูกหลินตงตั้งเป็นเป้าหมายในการกดดัน ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกแช่แข็งในก้อนน้ำแข็งทันทีไม่เพียงแต่ร่างกายจะหนาวเย็นเท่านั้น แม้แต่ขยับนิ้วก็ทำไม่ได้ด้วยซ้ำนี่เป็นการปราบปรามสองเท่าทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ ในขณะนี้พวกเขาเผชิญหน้ากับหลินตง เหมือนพวกเขาเผชิญหน้ากับศัตรูตามธรรมชาติในห่วงโซ่อาหาร พวกเขาไม่สามารถเกิดความคิดที่จะต่อต้านได้เลยในวงการศิลปะการต่อสู้ แม้ว่าพลังจะแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้มาก แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุการ
"ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้!!!" หลัวซาตอบอย่างกัดฟัน"เล่าสิ!!!"หลังจากหลินตงฟังเรื่องของหลัวซาจบ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมองเขาสูงเล็กน้อยลูกคนรวยที่มีชีวิตดีมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่ถูกกองทหารรับจ้างกระหายเลือดปล้นฆ่า เพื่อแก้แค้นให้พ่อแม่ เขามาที่ดินแดนวุ่นวายเพียงลำพัง สิบกว่าปีถึงเติบโตมาถึงจุดนี้ระหว่างนี้ได้ผ่านอันตรายเป็นตายมามากแค่ไหน เกรงว่าจะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้คนแบบนี้สมควรได้รับความชื่นชมจากเขาจริง ๆนี่ไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่ง!!!แต่เป็นจิตวิญญาณ!!!"ได้เลย!!!" หลินตงกล่าวเรื่องแบบนี้เขาไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ ตราบใดที่ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม กระบวนการไม่สำคัญเขาไม่มีความแค้นกับจอมทรราชย์ ฆ่าเขาเพียงเพื่อให้ตระกูลจางสูญเสียเครื่องมือปกป้องนี้ไป เพื่อลงมือกับตระกูลจางเพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วจอมทรราชย์จะตายด้วยมือใครก็เหมือนกันและจอมทรราชย์นี้ดูเหมือนจะเป็นคนที่ทำสิ่งชั่วร้ายมากมายจริง ๆ แล้ววงการทหารรับจ้างก็ไม่ได้เป็นคนชั่วทั้งหมด ทหารรับจ้างหลายคนรับหน้าที่เหมือนบอดี้การ์ดเพื่อปกป้องนายจ้างให้ปลอดภัยเช่นเดียวกับทีมเล็ก ๆ ของเซียวพ่อจวินที่เคยทำ"ข
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน
พวกมันก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอีกต่อไป"หลินตง! ในเมื่อแกรู้แล้ว ก็จงคิดให้ดีและมอบศาสตราเทพมายาในมือของแกมา ด้วยวิธีนี้ แกจะยังสามารถรักษาชีวิตของแกได้ อย่ารอให้พวกเราลงมือ มิฉะนั้นแล้ว แม้ว่าแกจะอยู่ในอาณาจักรนิรันดร แกก็จะไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีของผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นเราได้""ใช่แล้ว! หลินตง ตราบใดที่แกมอบศาสตราเทพมายาในมือของแก เราสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายแกและจะส่งแกออกจากอสูรกาแล็กซีอย่างปลอดภัย ไม่อย่างนั้นก็อย่าโทษเราที่หยาบคาย""มอบศาสตราเทพมายามา แล้วจะไว้ชีวิตแก!!!"กลุ่มปรมาจารย์ทรงพลังแห่งอาณาจักรนิรันดรพูดขึ้นบังคับให้หลินตงส่งมอบดาบกำราบมารในมือของเขาหยวนหมิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติถ้าหลินตงส่งมอบศาสตราเทพมายาจริงๆ เขาจะได้รับอนุญาตให้ออกจากอสูรกาแล็กซีได้หรืออย่างไรแล้วมังกรเก้าหัวของเขาจะเกิดอะไรขึ้น?ไม่เพียงแต่พวกเขาต้องเสียหายอย่างหนักเท่านั้น แถมยังปล่อยเสือกลับเข้าป่าอีก เท่ากับว่าทิ้งปัญหาไว้ให้ระเบิดทีหลังไม่แน่นอน!!!ไม่สามารถปล่อยให้หลินตงมอบศาสตราเทพมายาได้!ในขณะนั้น หลินตงก็พูดขึ้นอย่างกะทันหัน "ถ้าพวกแกทุกคนต้องการดาบเล่มนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็
"พี่หง หลินตงจะตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า? ได้โปรดช่วยหลินตงด้วยพี่หง" หวงฝู่ซีเยว่พูดเสียงดังคำพูดของเธอทำให้ยุนซีและคนอื่นๆ นึกขึ้นได้คนเดียวที่สามารถช่วยหลินตงได้ในตอนนี้ คงจะเป็นไป๋หลี่เหยียนหงผู้แสนจะลึกลับทุกคนพูดขึ้นเพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอ"พี่หง ได้โปรดช่วยหลินตงด้วย""ใช่แล้ว! พี่หง! ได้โปรดช่วยหลินตงด้วย...."เมื่อทุกคนรีบร้อนขอความช่วยเหลือเสียงของไป๋หลี่เหยียนหงก็ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน"ไม่ต้องกังวล ในเมื่อมีจื่อหานอยู่ที่นี่ หลินตงก็จะไม่เป็นไรแน่นอน พวกเขาไม่มีความกล้าที่จะทำร้ายหลินตง"เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋หลี่เหยียนหงทุกคนสามารถคลายความกังวลได้ชั่วคราวอย่างไรก็ตาม พวกเธอยังคงจ้องมองร่างของหลินตงข้างหน้าด้วยความกังวลหลินตงมองไปที่อสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวรอบตัวเขาอย่างอธิบายไม่ถูกสถานการณ์แบบนี้มันอะไรกัน?เมื่อสักครู่ไม่มีใครสนใจคำพูดของหยวนหมิงทำไมทุกคนถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน?อาจเป็นเพราะการโจมตีก่อนหน้านี้ของเขามีรัศมีกว้างเกินไปงั้นเหรอ?แต่จากข้อมูลที่หลินตงได้รับมาอาณาจักรนิรันดรอันสูงส่งเหล่านี้ไม่สนใจความเป็นหรือความตายของสิ่งมีชีวิ
คนแบบเดียวกันมักจะดึงดูดกันเองเผ่ามังกรเก้าหัวก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนักไม่ต้องพูดถึงสองคนนี้หากอยู่บนโลก คงทำให้เด็กๆ กลัวจนร้องไห้กลางดึกแน่ๆ แถมอาจใช้เป็นยันต์กันเลยทีเดียวหยวนหมิงมองอสูรยักษ์สีทองทั้งสองตัว ที่เข้าร่วมสนามรบด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองในใจพวกเขาคงมาถึงนานแล้ว แต่เพิ่งจะลงมือตอนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะหลินตงหยิบศาสตราเทพมายาออกมา ก็ยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะปรากฏตัวหรือไม่!ล้วนเป็นพวกเลวทรามทำได้ทุกอย่างถ้าแลกกับผลประโยชน์แต่หยวนหมิงลืมคิดไปว่ามังกรเก้าหัวก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?ต่างก็ไม่มีใครดีไปกว่าใครสถานการณ์ปัจจุบันกลายเป็นสี่ต่อสามแม้ว่าหยวนเซิงจะได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ก็ยังมีแรงเหลือพอสู้ได้แม้ว่าในใจจะไม่พอใจ แต่หยวนหมิงก็พูดอย่างสุภาพว่า "ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ! หากวันนี้ฉันฆ่าศัตรูได้ มังกรเก้าหัวของฉันจะตอบแทนคุณอย่างงาม""ฮ่าๆ พี่หยวนหมิงไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ สองเผ่าของเราเป็นเพื่อนเก่ากัน เผ่ามังกรเก้าหัวของคุณกำลังมีปัญหา เราจะยืนดูเฉยๆ ได้อย่างไร!" หมาป่านรกสามหัวหัวเราะและพูด"พี่หมาป่า! มิตรภาพก็ส่วนมิตรภาพ แต่บุญคุณก็ต้องชดใช้ให้ชัด
หลินตงใช้ศาสตราเทพมายาโจมตีเพียงครั้งเดียว จนทำให้มังกรเก้าหัวได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซ้ำยังทำให้พวกเขาเสียหน้าหนักมากในอสูรกาแล็กซี“หลินตง! แกดูถูกกันเกินไปแล้ว!!! ที่นี่คืออสูรกาแล็กซี ไม่ใช่กาแล็กซี่ทางช้างเผือก แกอยากจะจุดชนวนสงครามหรือไง?” หยวนหมิงจ้องเขม็งไปยังหลินตงที่ยืนอยู่ไกล พูดพร้อมกัดฟันด้วยความโกรธหลินตงเหวี่ยงดาบกำราบมารในมือเป็นวง และเก็บเข้าฝักไป เขาหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นตอบกลับด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า "หยวนหมิง! แกเลิกขู่ได้แล้ว! คิดว่าตัวเองเป็นแทนอสูรกาแล็กซีทั้งหมดเหรอ! แล้วที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ฉันก็แค่ป้องกันตัวเท่านั้นเอง ส่วนผลที่ตามมา ไม่ใช่ความผิดของฉัน แต่เป็นพวกแกต่างหาก ที่แกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง"“แก…”หยวนหมิงถึงจุกจนพูดไม่ออก เมื่อโดนหลินตงตอกกลับจากนั้นหันไปยังความว่างเปล่า ตะโกนดังเสียงหนักแน่นว่า "ทุกท่าน! หลินตง ไอ้คนนอกผู้นี้ ได้กระทำการอุกอาจในอสูรกาแล็กซีของฉัน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้มังกรเก้าหัวของฉันตายเจ็บนับไม่ถ้วน เพื่อชำระแค้นให้แก่พี่น้องของฉัน และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของอสูรกาแล็กซีแห่งนี้ ฉันหยวนหมิง ขอวิงวอนต่อทุกท่าน ได้โปรดร่วมม