คุนหลุนกรุ๊ปตั้งอยู่ในถนนการค้าที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในจิงตูขณะนี้ บนถนนการค้าหญิงวัยกลางคนสวยกำลังเดินเล่นอยู่เธอคือไป๋หลี่เหยียนหงหลังจากระงับความปรารถนาในร่างกายของเธอแล้ว ไป๋หลี่เหยียนหงรู้สึกว่าเธอไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ จึงออกมาเดินเล่นเธอเดินเล่นไปมาสองสามวันก่อนจะมาถึงที่นี่มองดูเสื้อผ้าผู้หญิงหลากสไตล์บนถนนการค้าที่พลุกพล่านไป๋หลี่เหยียนหงก็รู้สึกผ่อนคลายเช่นกันไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบเสื้อผ้าสวยๆ และเธอก็เช่นกันช่วงนี้เธอยังซื้อของเยอะมากแม้ว่าไป๋หลี่เหยียนหงจะไม่มีเงินต้าเซี่ยไม่ว่าเธอจะหยิบอะไรออกมาขาย ก็มีมูลค่ามหาศาลแม้ว่าจะเดินฝ่าฝูงชนในย่านที่คึกคัก ทว่ากลับไม่มีใครมองเห็นใบหน้าของไป๋หลี่เยียนหงได้ชัดเจน และยิ่งแปลกกว่านั้น ไม่มีใครรับรู้ถึงตัวตนของเธอเลยนี่เป็นมาตรการป้องกัน ที่เธอทำเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจที่ไม่จำเป็นไม่อย่างนั้นเมื่อชายคนใดเห็นเธอ พวกเขาจะตกตะลึงจนตาค้าง แล้วเธอจะไปช้อปปิ้งได้อย่างไร"หืม???"ทันใดนั้นไป๋หลี่เหยียนหงก็ได้กลิ่นอายจาง ๆ ซึ่งทำให้หัวใจของเธอสั่นสะท้านเป็นไปได้ยังไง?ที่นี่มีกลิ่นอายแบบนี้ได้ยังไง
"มู่หรงฉิงเกอ? ชื่อที่ยอดเยี่ยมมาก! ชื่อของฉันคือไป๋หลี่เหยียนหง คุณสามารถเรียกฉันว่าพี่หงได้แล้ว สำหรับตำแหน่งในอนาคตของเรา เราจะพูดถึงในภายหลัง"ไป๋หลี่เหยียนหงยื่นมือของเธอออกมาโดยสมัครใจหลังจากพูดมู่หรงฉิงเกอก็ยื่นมือของเธอออกมาเช่นกัน และทั้งสองฝ่ายก็จับมือกันสั้นๆ"พะ...พี่หง! คุณมาที่นี่ได้ยังไง คุณต้องการอะไรที่นี่?" มู่หรงฉิงเกอถาม"เข้ามาที่นี่มันง่ายจะตาย?! ส่วนที่มาหาคุณน่ะ ก็แน่นอนสิ จะเป็นอะไรไปได้นอกจากมาหาคุณ" ไป๋หลี่เหยียนหงตอบพร้อมรอยยิ้ม"มาหาฉัน? มาหาฉันทำไม? ฉันดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณนะ!""เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน! ตอนนี้เรายังไม่รู้จักกันเหรอ แล้วเราจะมีเวลามากมายที่จะใช้เวลาร่วมกันในอนาคต""พี่หง! ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร"“ขอพูดแบบนี้แล้วกัน คุณกับฉันเป็นประเภทเดียวกัน คุณต้องมาด้วยกันกับฉัน! ไม่อย่างนั้นถ้าหากคุณอยู่ที่นี่ ชะตากรรมของคุณคงจะย่ำแย่”มู่หรงฉิงเกอส่ายหัวแสดงออกอย่างชัดเจนว่ายังไม่เข้าใจไป๋หลี่เหยียนหงต้องบอกข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับร่างเสน่ห์ให้เธอทราบสำนักงานถูกกั้นด้วยกำแพงของไป๋หลี่เหยียนหงแล้ว และจะไม่มีใครเข้ามารบ
คำพูดของไป๋หลี่เหยียนหงทำให้มู่หรงฉิงเกอกลับมาสู่ความเป็นจริงสามคนเหรอ?สามคนอะไรกัน?ตอนนี้เธอยังไม่เข้าใจเลยว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวในสำนักงานและพูดสิ่งที่อธิบายไม่ได้มากมาย แล้วยังบอกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ต่างดาวอีก"พะ...พี่หง คุณช่วยอธิบายสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจนได้ไหม?""พูดอย่างง่ายๆ ฉันมาจากอารยธรรมระดับสูงมาก รับผิดชอบในการรักษาเสถียรภาพระหว่างอารยธรรมในระดับต่างๆ ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามขนาดใหญ่ และนำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในขณะที่ผ่านที่นี่ ฉันพบว่ามีใครบางคนในกาแล็กซีทางช้างเผือกได้ก้าวข้าวไปยังอาณาจักรนิรันดรได้ เลยออกติดตามเขามา และมาถึงโลก จากนั้นฉันก็ได้พบกับคุณที่มีร่างกายแบบเดียวกับฉัน และในไม่ช้านี้ ฉันจะจากที่นี่ไป ฉันหวังว่าคุณจะจากไปพร้อมกับฉันได้"มีคนก้าวข้าวไปยังอาณาจักรนิรันดรงั้นเหรอ?มู่หรงฉิงเกอนึกถึงเสียงที่ได้ยินเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่อ้างว่าสามารถทะลวงผ่านอาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นเจ้าแห่งกาแล็กซี จึงถามว่า: "ใช่หลินตงคนจากโลกของเรา ที่เป็นผู้ทะลวงผ่านอาณาจักรนิรันดรหรือเปล่า? อาณาจักรนิรันดรคืออะไร?""ถูกต้อง คนแร
เธอเป็นผู้ริเริ่มพันธสัญญาสิบปีเพื่อหลีกเลี่ยงการล่วงเกินตระกูลจ้าวและตระกูลจูเก่อต่อมา ข้อตกลงดังกล่าวได้พัฒนาเป็นเวทีสำหรับการแข่งขันเพื่อตำแหน่งอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ในต้าเซี่ยไม่คาดคิดว่าในท้ายที่สุดหลินตงจะได้รับประโยชน์ในฐานะผู้ริเริ่มพันธสัญญาสิบปี มู่หรงฉิงเกอไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากมันเลยเธอเฝ้าดูอย่างทำอะไรไม่ได้ขณะที่หลินตงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าหากหลินตงแต่งงานกับเธอตามพันธสัญญาสิบปีหากอยู่เคียงข้างหลินตง สถานะปัจจุบันของเธอไม่ใช่แค่ผู้จัดการทั่วไปของคุนหลุนกรุ๊ปเท่านั้น"พี่หง! คุณหมายความว่าตราบใดที่คุณไปถึงอาณาจักรนิรันดร คุณก็สามารถมีชีวิตอมตะได้งั้นหรือ? นั่นหมายความว่าหลินตงไม่ถูกจำกัดโดยอายุขัยอีกต่อไป? เขาจะไม่มีวันตายใช่ไหม?" มู่หรงฉิงเกอถามด้วยความตกใจ"หลินตงไม่ถูกจำกัดโดยอายุขัยอีกต่อไป แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ตาย หากฉันต้องการฆ่าเขา ฉันสามารถตบเขาให้ตายได้ทุกเมื่อ" ไป๋หลี่เหยียนหงตอบอย่างไม่ใส่ใจ"พี่หง! คุณอยู่ในอาณาจักรนิรันดรด้วยหรือเปล่า?""แน่นอน! อาณาจักรนิรันดร์แบ่งออกเป็นสามระดับ โดยที่หลินตงอยู่ในระดับแรกและฉันอยู่ในระดับที่สาม ค
ในขณะที่มู่หรงฉิงเกอกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจ"ก๊อกๆ!!"เสียงเคาะประตูดังขึ้นดึงสติมู่หรงฉิงเกอกลับมา"เชิญ!!!"ประตูห้องทำงานถูกผลักเปิดออกชายวัยสามสิบเดินเข้ามาคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เวินหรูอวี้ศิษย์หลักของคุนหลุน"ศิษย์น้อง! เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น? ฉันเคาะประตูตั้งนานโดยไม่มีการตอบรับใดๆ ถ้าคุณไม่ส่งเสียง ฉันคงจะบุกเข้ามาแล้ว" เวินหรูอวี้ถามด้วยความสับสนหลังจากเข้ามา"โอ้! ไม่มีอะไร! ฉันแค่กำลังคิดอะไรบางอย่างและเสียสมาธิเล็กน้อย" มู่หรงฉิงเกอตอบ"ยังกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาของบริษัทอยู่เหรอ ศิษย์น้อง! คุณทำได้ดีมากพอแล้ว ตอนนี้คุนหลุนกรุ๊ปของเรากำลังเจริญรุ่งเรืองขณะที่อยู่ในมือของคุณ และท่ามกลางนิกายลับและตระกูลต่างๆ มีเพียงตระกูลหวงฝู่เท่านั้นที่แข็งแกร่งกว่าเรา ส่วนที่เหลือตามไม่ทันเราแล้ว""ศิษย์พี่ใหญ่ก็ยอฉันเกินไป! คุนหลุนฝึกฉันมาหลายปี และนี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ แต่ฉันยังไม่ทำได้ดีพอ! ฉันยังต้องทำงานหนักและเรียนรู้ต่อไปอีก! ศิษย์พี่ใหญ่มาพบฉันมีเรื่องอะไร?""ศิษย์น้อง! อีกไม่กี่วัน แวดวงระดับสูงในจิงตูจะจัดงานเลี้ยง ฉันอยากให้คุณไปกับฉันด้วย คุณมีเวลาไหม?" เวินหรูอวี้
การที่ต้องการให้มู่หรงฉิงเกอไปร่วมงานเลี้ยงกับเขาในครั้งนี้ ก็ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อหวังจะได้หน้าเท่านั้นแต่เขาสัญญากับคนพวกนั้น ว่าจะได้พบกับมู่หรงฉิงเกอการสร้างสายสัมพันธ์และการรักษาพันธมิตรที่ทรงอำนาจ จะทำให้เขาได้เปรียบในการแข่งขันกับตงฟางเยว่ เพื่อชิงตำแหน่งผู้สืบทอดของคุนหลุนในอนาคต นอกจากนี้ยังช่วยสนองความเย่อหยิ่งของเขาเองทุกวันนี้มู่หรงฉิงเกอเป็นผู้หญิงที่โด่งดังและเป็นสาวงามระดับแนวหน้าในจิงตู รวมทั้งต้าเซี่ยอีกด้วยและผู้หญิงที่สวยงามคนนี้ไม่เคยมีผู้ชายใดมาก่อน ซึ่งทำให้ผู้คนมากมายยิ่งต้องการเธอมากขึ้นคุนหลุนยืนอยู่ด้านหลังมู่หรงฉิงเกอโดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครกล้าทำความรู้จักเธอเลย"ขอโทษด้วยศิษย์พี่ใหญ่! ฉันไปไม่ได้จริงๆ บริษัทนี้ถูกส่งมอบให้กับฉันโดยเจ้าสำนัก ดังนั้นฉันต้องพยายามอย่างดีที่สุดและไม่ทำให้คุนหลุนและเจ้าสำนักเสียหน้า คุณควรหาคนอื่น!" มู่หรงฉิงเกอยังคงไม่สะทกสะท้านขณะนี้เธอไม่มีความสนใจที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงเลยในหัวมีแต่ร่างเสน่ห์ อาณาจักรนิรันดร และความเป็นอมตะหากสิ่งที่ไป๋หลี่เหยียนหงพูดเป็นความจริง เธอก็ต้องเต็มใจที่จะติดตามไป๋หลี่เหยียนหงเพื่ออ
หลังจากออกจากมุมมืด หลินตงก็ไปยังสถานที่ต่างๆ มากมายและพบปะผู้คนมากมายที่เขาคุ้นเคย ถือได้ว่าเป็นการกล่าวคำอำลากับผู้คนเหล่านี้!ครั้งนี้ หากออกไปจากโลกพร้อมไป๋หลี่เหยียนหง ออกเดินทางข้ามพ้นกาแล็กซี ก็คงไม่รู้เลยว่าจะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่คาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อยสิบปีหรืออาจถึงยี่สิบปีสำหรับบางคน นี่อาจเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของพวกเขาเมื่อเหลือเวลาอีกสามวันก่อนถึงกำหนดเส้นตายครึ่งเดือนที่ไป๋หลี่เหยียนหงกำหนดไว้ หลินตงก็ก้าวเข้าสู่หมอตูเมื่อเข้าสู่หมอตูครั้งนี้ หลินตงวางแผนกับคนรู้จักสองคน คนหนึ่งคือเย่หง ซึ่งขายโรงแรมให้ตัวเองและชักชวนให้เขาเข้าร่วมเอสซีซีและอีกคนคือจูเก่อชางโฉง หนึ่งในสามนายใหญ่ของเอสซีซีหลินตงไม่ใช่คนที่ลืมรากเหง้าของตัวเองสำหรับเขาในตอนนี้ ทั้งสองคนนี้ไม่มีค่าพอให้ใส่ใจ เป็นแค่ตัวหมากเล็กๆ ที่ไร้ความหมายแต่หลินตงก็ยังเลือกที่จะพบพวกเขาก่อนจะจากไปเมื่อหลินตงเพิ่งได้ระบบมาและยังอ่อนแอมาก เย่หงและจูเก่อชางโฉงก็อาจช่วยเขาอยู่บ้างตามสถานที่ที่ตกลงกันไว้ หลินตงมาถึงอาคารอันเป็นสัญลักษณ์ของหมอตู ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในเมืองเช่นกัน นั่นคือ หอคอยมนต
ลั่วหงอวี๋รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเดิมที ในสายตาของเธอ จูเก่อชางโฉงถือว่าโดดเด่นในทุกด้าน แต่เมื่อเทียบกับหลินตงแล้ว แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ แล้ว ไม่ใช่แค่ลั่วหงอวี๋เท่านั้นที่มีความคิดนี้ผู้หญิงโสดทุกคนที่เคยได้ใกล้ชิดกับหลินตง ก็คิดแบบเดียวกันไม่ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ เหลิ่งชิงชิว ซ่างกวนหมิงเยว่ หรือคนอย่างเหยาเสวี่ยหลังจากพวกเธอได้ใกล้ชิดกับหลินตงผู้ชายรอบๆ ตัว ไม่มีความน่าสนใจเลย และหลินตงไม่พบข้อบกพร่องใดๆ ในตัวเลยเรียกได้ว่า แค่ได้เจอหลินตงครั้งเดียว ก็ไม่อาจชายตามองใครได้“ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้ เราเป็นเพื่อนกัน เข้าไปกันเถอะ ฉันแค่อยากจะถามไถ่พวกคุณทุกคน ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้” หลินตงพูดด้วยรอยยิ้มแม้ว่าตอนนี้เขาจะมีสถานะสูงส่ง แต่ก็ไม่เคยถือตัวกับเพื่อนๆ เลยสักนิดนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งเช่นกันว่า ทำไมหลินตงถึงเป็นที่ต้องการและเป็นที่ชื่นชมของผู้คนมากมายคนสี่คนเข้าไปในห้องที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก และสามารถมองเห็นทัศนียภาพความเจริญรุ่งเรืองของหมอตูส่วนใหญ่ได้"นายท่านหลิน เชิญนั่งลงก่อน!!!"หลินตงไม่ลังเลและนั่งลงก่อนเขารู้ว่า
หลินตงใช้ศาสตราเทพมายาโจมตีเพียงครั้งเดียว จนทำให้มังกรเก้าหัวได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซ้ำยังทำให้พวกเขาเสียหน้าหนักมากในอสูรกาแล็กซี“หลินตง! แกดูถูกกันเกินไปแล้ว!!! ที่นี่คืออสูรกาแล็กซี ไม่ใช่กาแล็กซี่ทางช้างเผือก แกอยากจะจุดชนวนสงครามหรือไง?” หยวนหมิงจ้องเขม็งไปยังหลินตงที่ยืนอยู่ไกล พูดพร้อมกัดฟันด้วยความโกรธหลินตงเหวี่ยงดาบกำราบมารในมือเป็นวง และเก็บเข้าฝักไป เขาหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นตอบกลับด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า "หยวนหมิง! แกเลิกขู่ได้แล้ว! คิดว่าตัวเองเป็นแทนอสูรกาแล็กซีทั้งหมดเหรอ! แล้วที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ฉันก็แค่ป้องกันตัวเท่านั้นเอง ส่วนผลที่ตามมา ไม่ใช่ความผิดของฉัน แต่เป็นพวกแกต่างหาก ที่แกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง"“แก…”หยวนหมิงถึงจุกจนพูดไม่ออก เมื่อโดนหลินตงตอกกลับจากนั้นหันไปยังความว่างเปล่า ตะโกนดังเสียงหนักแน่นว่า "ทุกท่าน! หลินตง ไอ้คนนอกผู้นี้ ได้กระทำการอุกอาจในอสูรกาแล็กซีของฉัน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้มังกรเก้าหัวของฉันตายเจ็บนับไม่ถ้วน เพื่อชำระแค้นให้แก่พี่น้องของฉัน และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของอสูรกาแล็กซีแห่งนี้ ฉันหยวนหมิง ขอวิงวอนต่อทุกท่าน ได้โปรดร่วมม
น่าเหลือเชื่อจริงๆแม้แต่สองเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งในอสูรกาแล็กซี ที่ได้ครอบครองศาสตราเทพมายา ก็ยังตกตะลึงในขณะนี้ศาสตราเทพมายาในมือของพวกเขา ยังไม่ถึงกับทรงพลังขนาดที่จะก้าวข้ามสองระดับ และช่วยเหลือให้ผู้ใช้เอาชนะได้มากสุดก็แค่ข้ามระดับหนึ่งเท่านั้นศาสตราเทพมายาในมือหลินตง เห็นชัดเจนว่าเหนือกว่าของพวกเขามากผู้ชมจำนวนมากต่างเผยท่าทางแสดงออกถึงความโลภหยวนเซิงมองลำแสงจากดาบสีแดงที่ทำลายการโจมตีเต็มกำลังของเขา และพุ่งมาหาเขาอีกเขาก็รู้สึกงงงวยเหมือนกันครั้งก่อนที่ถูกหลินตงฟันหัวขาด เดิมทีคิดว่าเป็นเพราะเขาตอบกลับอย่างเร่งรีบ จึงไม่มีเวลารวบรวมพลังครั้งนี้เขาจะเป็นฝ่ายลงมือก่อน จึงเรียกรวมพลังมังกรเก้าหัวพร้อมกัน เพื่อตอบโต้ด้วยการโจมตีอย่างรุนแรง และแก้แค้นการฟันครั้งก่อนไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมนี่ทำให้เขารู้สึกยอมรับไม่ได้ชั่วขณะลำแสงจากดาบสีแดงที่หลินตงฟาดออกมา หลังจากทำลายลูกบอลพลังงานขนาดยักษ์ของหยวนเซิงแล้ว ก็ได้ใช้พลังเกือบหมด จึงทำให้ความเร็วไม่เหมือนตอนเริ่มต้นแต่ก็ยังสามารถไปถึงหยวนเซิงในชั่วพริบตาในขณะที่ลำแสงจากดาบสีแดงเตรียมที่จะฟันกายาทอ
หยวนเซิงกับหยวนหมิงต่างก็เห็นศาสตราเทพมายาในมือของหลินตงเหมือนกันความปรารถนาที่ต้องการครอบครองอย่างรุนแรงวูบผ่านในสายตาของพวกเขาก่อนจะหายไปพวกเขาก็อยากได้เช่นกันแต่ทั้งสองคนรู้ดีจากสถานการณ์ตอนนี้มังกรเก้าหัวไม่มีโอกาสเลยแต่การที่หลินตงใช้ศาสตราเทพมายานั้น กลับเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขาในสายตาของทั้งสองคนต่างก็เผยออกถึงความดีใจยอดเยี่ยมไปเลย ถือว่าสวรรค์เข้าข้างจริงๆตอนนี้หลินตงเอาศาสตราเทพมายาออกมา คือการรนหาที่ตายด้วยตัวเองหยวนหมิงกำลังคิดในใจ ว่าจะพูดอย่างไรเพื่อให้ทุกคนยอมร่วมมือกันจัดการกับหลินตงตอนนี้โอกาสมาถึงแล้วหลินตงถือศาสตราเทพมายาอยู่ในมือ ลองถามดูว่าในอสูรกาแล็กซี มีใครไม่อยากครอบครองบ้าง?ไม่ว่าจะเป็นใครในอาณาจักรนิรันดรที่ได้ครอบครองมัน ก็สามารถท้าทายผู้ที่เหนือกว่าได้ไม่มีใครที่สามารถปฏิเสธการล่อลวงแบบนี้ได้ตอนนี้ถ้าเขาเรียกออกไปรับประกันว่าจะมีหลายคนที่ออกมาจัดการกับหลินตงแค่จัดการหลินตงได้ศาสตราเทพมายาในมือของเขา คือเจ้าเหนือทุกสรรพสิ่งแบบนั้น ทุกคนก็มีโอกาสที่จะได้ครอบครองหลินตงยังไม่รู้ว่า ดาบกำราบมารในมือของเขากำลังดึงดูดสายตาจา
เจ้าหลินตงโชคดีมากจนเกินไปแล้วแม้แต่เฉินจิงจื่อหานในตอนนี้เอง ก็ยังรู้สึกอิจฉาเดิมทีเขากังวลว่า หลินตงคงไม่ใช่คู่มือของหยวนเซิงที่อยู่ในระดับเซียนเดินดินตอนปลายดูเหมือนว่าเขาคิดมากเกินไปมีศาสตราเทพมายาอยู่ในมือหลินตงสามารถท้าทายตัวต้นระดับที่เหนือกว่าของตัวเองได้จริง ๆไม่แปลกใจที่เขาจะมั่นใจขนาดนั้นเมื่อครู่นี้เจ้าเด็กคนนี้ซ่อนความลับเอาไว้ไม่น้อยเลยสมกับที่เป็นชายที่แม้แต่วิชาดวงตาจักรวาล ยังไม่สามารถมองทะลุได้ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องพาหลินตงเข้าร่วมสำนักดาวสวรรค์ให้ได้การพาคนที่ดวงชะตาพิเศษมาก เช่นหลินตงมาเข้าร่วมกับสำนักดาวสวรรค์ ก็นับว่าเป็นการทำคุณงามความดีอย่างใหญ่หลวงให้กับสำนักดาวสวรรค์ถึงตอนนั้นพ่อของเขาจะต้องให้รางวัลเขาอีกครั้งแน่นอนเฉินจิงจื่อหานมองไปที่หลินตงด้วยสายตา ที่เรียกว่าตื้นเต้นโชคดีที่ตอนนี้หลินตงกำลังยุ่งกับการรับมือท่าไม้ตายของหยวนเซิงอยู่ ไม่อย่างนั้น ถ้าเขาเห็นสายตาของเฉินจิงจื่อหานแล้ว คงจะเข้าใจผิดไปแล้วในคฤหาสน์หรูหราบนหลังของเต่ายักษ์ห้องหนึ่งที่แทบจะกลายเป็นทะเลสีแดงไป๋หลี่เหยียนหงเองก็เฝ้าสังเกตการต่อสู้ที่เกิดขึ้นภายนอกเมื
"ปัง!!!"เสียงปังดังขึ้นหมัดเทพแห่งความว่างเปล่าของหลินตง อัดเข้าไปกระแทกเข้าเต็มกลางอกของหยวนเซิงอย่างจังๆแต่ในจังหวะที่หยวนเซิงถูกหมัดซัดเข้าเต็มๆ ก็หมุนตัวอย่างรวดเร็ว แล้วฟาดหางด้านหลังใส่หลินตงอย่างเต็มกำลัง"พลั๊ก!!!"ทั้งสองต่างก็รับการโจมตีเต็มกำลังจากฝ่ายตรงข้าม แล้วกระเด็นถอยร่นไปด้านหลังคนละทิศทุกที่ที่พลังกวาดผ่าน ทำให้ทะเลปั่นป่วน ภูผาสะเทือน ดวงดาวแตกสลายหายไปในพริบตามังกรเก้าหัวมีชื่อเสียงด้านพลังป้องกัน ร่างกายแข็งแกร่งราวเหล็กกล้าส่วนร่างกายของหลินตง หลังจากผ่านการหลอมขัดโดยระบบอย่างเข้มข้น ก็ไม่ด้อยกว่าแม้แต่น้อยถ้าวัดกันด้วยร่างกาย ทั้งสองก็เรียกได้ว่าสูสีไม่มีใครยอมใครแต่ถึงอย่างไรหลินตงก็ยังอยู่แค่ระดับเซียนเดินดินตอนต้น ขณะที่หยวนเซิงนั้นอยู่ตอนปลายแล้ว ห่างกันถึงสองขั้นย่อยนอกจากนี้ หยวนเซิงมีชีวิตอยู่มาเกือบหมื่นปี มีประสบการณ์การต่อสู้เหนือกว่าหลินตงอย่างมากเพราะฉะนั้น ตั้งแต่เริ่มแรก หลินตงก็เป็นฝ่ายตั้งรับ ถูกหยวนเซิงเป็นฝ่ายรุกใส่อย่างต่อเนื่องแต่เป้าหมายของหลินตงในตอนนี้ คือการสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้เพื่อไม่ให้เมื่อเข้าสู่อาณาจักรดว
ในขณะนั้น เฉินจิงจื่อหานก็พุ่งเข้ามาและต่อยหมัดหนักเข้าที่ศีรษะของหยวนเซิงที่กำลังรวบรวมพลัง"ปัง!!!"ลูกบอลพลังงานเบี่ยงเบนไปจากตำแหน่งและยิงเข้าไปในความว่างเปล่าขณะที่เฉินจิงจื่อหานกำลังเตรียมช่วยหลินตงยกการปิดล้อม หยวนหมิงก็มาถึงด้วยเช่นกันเข้าไปพัวพันกับเฉินจิงจื่อหานในทันทีหลินตงพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากการพันธนาการของหยวนเซิงที่จริงแล้ว แม้จะไม่มีเฉินจิงจื่อหานช่วยเหลือ หลินตงยังคงมีทางที่จะหลบหนีพลังจิตวิญญาณของเขายังไม่ได้ใช้!ร่างสีทองขนาดใหญ่สี่ร่างต่อสู้กันในความว่างเปล่าทุกคนใช้วิธีการดั้งเดิมที่สุด การต่อสู้ระยะประชิดหยวนเซิงกับหยวนหมิงจะรวบรวมลูกบอลพลังงานทันทีเ พื่อโจมตีหลินตงกับเฉินจิงจื่อหานเมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสอย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกโจมตีทุกครั้งในการต่อสู้ระยะประชิด การใช้การโจมตีระยะไกลแบบนั้นไม่มีประสิทธิภาพอย่างไรก็ตาม ลูกบอลพลังงานลูกหนึ่งกำลังโจมตีตำแหน่งของเต่ายักษ์มันสามารถทำให้หวงฝู่ซีเยว่และคนอื่นๆ ที่กำลังดูการต่อสู้ด้วยความกังวลตกใจได้พวกเธอทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่ลูกบอลแสงขนาดใหญ่เข้ามาใกล้ทันทีที่พวกเขาคิดว่า
หลินตงและเฉินจิงจื่อหานกำลังลูบไม้ลูบมือ พร้อมที่จะลงมือ!หยวนหมิงขมวดคิ้ว“เราจะปล่อยให้คนจากกาแล็กซี่ทางช้างเผือกทำอะไรก็ได้ที่ต้องการในอสูรกาแล็กซีของเราจริงๆ เหรอ?” หยวนหมิงตะโกนเสียงดังถามฝูงชน“หยวนหมิง! เนื่องจากหลินตงมาหาแก งั้นก็สู้กับเขาสิ! เขาพาคนมาแค่สองคน ไม่ได้รุมแกด้วยจำนวนเลยสักนิด นอกจากนี้ หลินตงเพิ่งเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร แกยังคาดหวังอะไรจากพวกเราอีก? แกกำลังจะบอกว่ามังกรเก้าหัวของแกไม่สามารถรับมือกับความท้าทายเช่นนี้ได้เลยเหรอ?” เสียงทุ้มทรงพลังตอบเมื่อได้ยินเสียงนี้หยวนหมิงปิดปากเห็นได้ชัดว่าตัวตนของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกระแวดระวังมากขณะนั้นเอง!!!"บึ้ม...บึ้ม...."เสียงดังสองครั้งปรากฏขึ้นติดต่อกันหลินตงและเฉินจิงจื่อหานได้แสดงกายาทองคำนิรันดร์ของพวกเขาสองร่างสีทองขนาดใหญ่ยืนอยู่ในความว่างเปล่า ราวกับยักษ์ใหญ่ที่สูงตระหง่านหากมองอย่างละเอียด ก็จะเห็นร่างยักษ์สีทองที่หลินตงแสดงนั้น มีขนาดเล็กกว่าของเฉินจิงจื่อหานเล็กน้อยขนาดของกายาทองคำอมตะนั้นไม่เท่ากัน มันจะเปลี่ยนไปตามความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นยิ่งความแข็งแกร่งแข็งแกร่งขึ้น กายาทองคำอมตะก็
ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของมังกรเก้าหัวเองทำไมพวกเขาต้องลุยน้ำโคลนนี้ด้วย?หยวนหมิงยังคงพูดอยู่ตามลำพังเขาคิดว่าสิ่งนี้จะกระตุ้นให้ทุกคนต่อสู้กับหลินตงร่วมกันหากไม่มีสิ่งที่ไท่ซานพูดเมื่อกี้นี้ อาจมีใครบางคนออกมาพูดจริงๆในขณะนี้ หลินตงหมดความอดทนจนถึงตอนนี้ เขาพูดเพียงสองประโยคเท่านั้นแต่หยวนหมิงกลับพูดไม่หยุดไป๋หลี่เหยียนหงบอกเขาโดยเฉพาะว่าให้รีบจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยถ้าเรื่องนี้ยืดเยื้อต่อไปอีก ใครจะรู้ว่าหยวนหมิงตั้งใจจะทำการแสดงของเขาไปอีกนานแค่ไหน"หยวนหมิง! แกจะพูดพล่ามอีกนานแค่ไหน แกย่อมรู้ชัดเจนเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการมาเยือนของฉันในวันนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แกรุกรานกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของฉัน ทำไมแกต้องอธิบายให้ฉันฟังด้วย" หลินตงพูดขึ้นหลินตงขัดจังหวะหยวนหลินในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเขารอสักพักไม่มีใครเต็มใจที่จะก้าวออกไปข้างหน้าเขาหวังว่าข้าจะฉีกไท่ซานออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาสถานการณ์นี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น"หลินตง! ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดถึงอะไร และฉันก็ไม่มีอะไรจะอธิบายแก คราวที่แล้ว ตอนที่แกเข้าสู่
หลินตงมองหยวนหมิงซึ่งอยู่ในอาการโกรธจนพูดไม่ออกเกิดอะไรขึ้นที่นี่?เขาพูดไปแค่สองประโยคมังกรเก้าหัวก็จะเริ่มต่อสู้กับคนอื่นแล้วแต่เขากลับกลายเป็นตัวประกอบแทนเมื่อกี้ หลินตงจำได้ว่าโจมตีหยวนหมิงผู้นี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้นำวานรยักษ์ครั้งก่อนที่เขาเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร เขาก็ปรากฏตัวขึ้น และหยวนหมิงซึ่งกำลังโกรธเช่นกันก็พูดไม่ออกไม่คาดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะมีความแค้นฝังใจอย่างลึกซึ้งระหว่างวานรยักษ์กับมังกรเก้าหัว“เป็นอะไรไป หยวนหมิง ดูจากท่าทางของแกแล้ว คิดจะประลองฝีมือกับฉันก่อนหรือเปล่า? งั้นก็รีบมาสิ! เมื่อไหร่ที่ฉัน ไท่ซานเคยกลัวแกบ้าง น้องหลินตง! ให้ฉันทดสอบเจ้านี่ก่อนเถอะ เมื่อถึงเวลานั้น แกก็สามารถโจมตีได้เมื่อเห็นโอกาส”เสียงของไท่ซานดังออกมาจากความว่างเปล่าหยวนหมิงถูกไท่ซานยั่วยุและกำลังจะระเบิดกำลังจะเปิดใช้งานกายาทองคำอมตะของเขาและสั่งสอนบทเรียนให้แก่ไท่ซานแต่หลังจากได้ยินความเห็นสุดท้ายของไท่ซาน ความโกรธแค้นของเขาส่วนใหญ่ก็มลายหายไปเรื่องที่เผชิญหน้ากับสามอาณาจักรนิรันดรที่หลินตงนำมายังไม่ได้รับการจัดการ การพัวพันกับ